ชีวิตของชัยพล

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย nunoiyja, 28 กรกฎาคม 2013.

  1. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    แบบนี้ ต้องติดตาม ตอนต่อไป ... สาธุ
     
  2. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ชัยได้เริ่มเรียนรู้วิธีคิดนอกกรอบจากการสังเกตอาการของเด็กน้อยคนนั้น และเป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มเห็นว่า

    ใจของเขามันตกตะกอนได้อย่างที่เจ้าประคุณเมตตาสั่งสอน เขาเริ่มท่องบ่นมนต์คาถาต่างๆ ตามหนังสือที่เขาขอให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยซื้อมาให้เขาเวลาเข้าตัวเมือง

    เขาไม่สนใจในความหมายในบทมนต์ภาวนา เขาท่องบ่นไปอย่างเช่นนกแก้วนกขุนทอง จนวันหนึ่งเขาสังเกตเห็นในใจเขาว่ามันสงบนิ่งเป็นสมาธิในเวลาที่ท่องบ่นมนต์เหล่านั้น

    เขาเริ่มพร้อมที่จะรับฟังคำสั่งสอนของเจ้าประคุณแล้วกำลังใจที่เคยเหือดแห้งไปไม่รู้หลั่งไหลมาจากไหนมากมาย มันมากมายพอที่จะทำให้เขามีกำลังในการเดินทางลงจากป่านั่งรถไฟ หลายชั่วโมงเพื่อเดินทางไปหาเจ้าประคุณ

    ชัยขอโอกาสเจ้าประคุณบวชเพื่อศึกษาและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ เจ้าประคุณได้เมตตาบวชให้ชัย ตามที่เขาขอร้อง

    พ่อและครอบครัวเดินทางมางานบวชให้ชัย พ่อยังคงบึ้งตึงกับชัยด้วยเรื่องครั้งเก่าก่อนและอดถามชัยไม่ได้ว่าที่บวชเป็นเพราะศรัทธาในศาสนาหรือต้องการจับผิดศาสนา

    แต่เจ้าประคุณชิงตอบคำถามนี้แทนชัยว่า ที่บวชนี้ไม่ใช่เพราะศรัทธาหรอก ศรัทธาจะเกิดขึ้นภายหลัง หลังจากที่ได้เรียนรู้ รู้เหตุรู้ผลความเป็นปัจจัย เมื่อรู้จนแจ่มแจ้งแล้ว ศรัทธาก็จะแนบแน่นสนิทในใจของเขาเอง

    ตั้งแต่วันที่ “ชัย” กลายเป็นพระชัยในปี พ.ศ.๒๕๓๒ นั้นพระชัยก็มุ่งประพฤติปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดในพระธรรมวินัย ไม่มีย่อหย่อน

    แต่ความนัยบางอย่างในใจ ยังคงทำให้พระชัยรู้สึกไม่สงบสงัดอย่างที่ควรจะเป็น ทุกครั้งที่ออกจากวิปัสสนากรรมฐาน พระชัยก็รู้ตัวอยู่ตลอดว่า อัตตวานุปาทาน ของตัวเองยังไม่สิ้นสุด

    และทุกครั้งที่รู้สึกเช่นนั้น ภาพของหลวงพ่อหินทรายและเทพทั้งสี่ก็จะปรากฏอยู่ในความนึกคิด
     
  3. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    พ.ศ. ๒๕๓๙ พระชัยเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดด้วยโยมพ่อแก่ชราลงตามลำดับ แต่ที่สบายใจอยู่บ้างก็ด้วยหลานๆ ดูแลโยมพ่อได้เป็นอย่างดี

    หลังจากที่พระขัยเยี่ยมโยมพ่อแล้ว ก็ได้เดินออกไปตามทางเดินหลังบ้านที่บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นถนนลาดยางไปสู่วัดที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ ๑๐ ปีที่ผ่านมาได้เปลี่ยนทุกชีวิตในหมู่บ้านแห่งนี้ไปโดยสิ้นเชิง

    พระชัยเดินไปยังวัดท้ายบ้านอันเป็นทีตั้งเดิมของศาลพระหินทราย ซึ่งบัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นวิหารขนาดใหญ่ประดับประดาด้วยกระจกสีระยิบระยับ ที่ดินซึ่งแต่เดิมย่าบริจาคไว้ ๔ ไร่

    ต่อมาชาวบ้านได้ร่วมบริจาคที่ดินรอบๆ จนวัดมีเนื้อที่ ๒๒ ไร่เศษ ภาพไร่อ้อยได้เปลี่ยนเป็นสวนป่าซึ่งผู้ศรัทธาหลวงพ่อทั้งหลายได้บรรจงก่อสร้างขึ้นราวเนรมิต

    พระชัยเดินขึ้นไปยังวิหารหลวงพ่อหินทราย ซึ่งบัดนี้ไม่เหลือเค้าเดิมของพระที่ถูกค้นพบบนจอมปลวกแม้แต่น้อย พระชัยเริ่มใจสั่นรัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลวงพ่อหินทรายและอารักษ์เทพทั้งสี่อีกครั้ง

    “หลวงพ่อครับ ผมมีคำถามอยากถามหลวงพ่อมากมายเลยครับ” พระชัยนั่งสงบนิ่งคิดในใจ

    จู่ๆ สายลมก็กระโชกเข้ามาอย่างแรง หน้าต่างวิหารที่ทำจากไม้แกะสลักขนาดใหญ่เลื่อยเข้ามาเล็กน้อย แต่ควันธูปที่ลอยเป็นสายขึ้นไปจรดฉัตรที่กั้นถวายหลวงพ่อนั้นแตกกระจายฟุ้งไป

    “หลวงพ่อกำลังแสดงปาฏิหาริย์อะไรอีกหรือเปล่า” พระชัยนั่งสงบนิ่งคิด

    “อะไรคือปาฏิหาริย์ครับหลวงพ่อ”
     
  4. tumdidi

    tumdidi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +419
    ติดตามอ่านอยู่อยากรู้ตอนจบจะเป็นเช่นไร
     
  5. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    “อะไรคือปาฏิหาริย์ครับหลวงพ่อ”

    เสียงในมโนสำนึกของพระชัยดังแข่งกับเสียงกระดิ่งระฆังใบเล็กที่แขวนรายรอบวิหาร

    “ผมถามตัวเองตลอดมาว่าที่บวชนี้เพราต้องการอะไร ผู้รู้ว่าตัวเองบวชเพื่อต้องการความสงบแต่ทุกครั้งที่มิจฉาสังกัปปะ ออกอาละวาดในทุกครั้งที่ฌานอ่อน พลังอันมากมายมหาศาลของมัน ทำให้วิปัสสนาของผมแตกกระเจิง”

    สายลมภายนอกเริ่มสงบ

    “หลวงพ่อครับ สำหรับผม เหตุที่บวชเรียนก็เพื่อมุ่งหาความบริสุทธิ์แห่งตน แต่ผมก็รู้ตัวเองมาตลอดว่า ผมยังไม่บริสุทธิ์กับหลวงพ่อ จริงอยู่ปัจจุบันนี้ผมสงบใจได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ผมก็ขุ่นใจทุกครั้งที่พยายามค้นหาคำตอบเรื่องปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อกับอารักษ์เทพทั้งสี่”

    เมฆลอยเคลื่อนออกจากดวงอาทิตย์ แสงแดดวิ่งมากระทบที่ใบโพธิ์ทองเหลืองซึ่งห้อยอยู่ที่ระฆังสิ่งประกายระยิบระยับ

    “หลวงพ่อว่าปาฏิหาริย์ไม่มีจริงหรือครับ”

    “หลวงพ่อจำวันที่เจ้าพวกโจรจะมาขโมยหลวงพ่อได้หรือเปล่า หลวงพ่อไม่ได้ทำอะไรอย่างที่เขาเล่าลือกันเลย

    แม้แต่อารักษ์เทพทั้งสี่ก็ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นพวกท่านก็รู้ ผมต่างหากที่เป็นคนทำ”


    เสียงฟ้าเริ่มสั่นครืนมากแต่ไกล

    “หลวงพ่อกำลังจะถามผมใช่ไหมครับว่าวันนั้นผมมาที่ศาลทำไม ผมยอมรับ ผมโกรธหลวงพ่อกับอารักษ์เทพครับ ผมจะมาทำลายหลวงพ่อครับ ผมยอมรับ”

    หยาดฝนเริ่มตกลงมาพร้อมกับลมสะบัดเป็นระยะ

    “หรือว่านั่นคือปาฏิหาริย์ที่หลวงพ่อกับอารักษ์เทพทำ” เม็ดฝนเริ่มใหญ่ขึ้น

    “หลวงพ่อดลใจให้ผมมาที่ศาลนี้หรือ หลวงพ่อดลใจผมเป็นห่วงคอกวัวจนต้องออกมาดูจนพบหลวงพ่อ.....แล้วหลวงพ่อดลใจให้ผมโกรธหลวงพ่อจนต้องการจะทำลาย.....ก็เลยเป็นเหตุให้ผมต้องพบกับอ้ายโจร ๒ คนนั่น....."

    "หลวงพ่อกำลังจะบอกผมว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของผมเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อและอารักษ์เทพทั้งสี่อย่างนั้นใช่ไหมครับ.....ผมว่าหลวงพ่ออย่ามาตู่เอาง่ายๆ อย่างนั้นดีกว่าครับ”


    ฟ้าผ่าลงมาที่ท้ายวิหาร ฝนเริ่มตกหนักมากขึ้น

    “หรือหลวงพ่อกำลังจะบอกผมว่า หลวงพ่อเป็นคนทำให้ฟ้าผ่าลงมาด้วย พูดเป็นเล่นไป ทุกอย่างคือปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อกับอารักษ์เทพทั้งสี่อย่างนั้นหรือ”



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2013
  6. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ตอนสุดท้ายแล้วนะครับ

    ตั้งแต่ผมเกิดแล้ว การเกิดของผมก็เป็นปาฏิหาริย์ การที่ย่าของผมตายก็เป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อด้วยหรือเปล่า แล้วความชราที่กำลังมาเยือนสังขารของผมอยู่นี่ก็เป็นปาฏิหาริย์อีก ทำไมปาฏิหาริย์มันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญอย่างนั้นเล่า”

    "ถ้าวันนั้นผมไม่ดับไฟหลวงพ่อ หลวงพ่อก็คงมอดไหม้ไปหมด วิหารหลังนี้ก็คงไม่มี โรงเรียนแห่งนั้นก็คงไม่เกิด สถานีอนามัยก็อาจจะยังไม่ได้สร้าง ถนนหนทางในหมู่บ้านก็คงไม่เป็นอย่างนี้ และที่แน่นอนที่สุดหลวงพ่อที่ปิดทองเปลวเหลืองอร่ามอย่างขณะนี้ก็คงไม่มีแน่”

    “หรือเพราะมันไม่มีตั้งแต่แรกแล้วหรือ”

    แล้วเสียงหนึ่งที่พระชัยคุ้นเคยดังขึ้นในโสตสัมผัส

    “ปาฏิหาริย์มันมีจริงและไม่มีจริงไปพร้อมๆ กัน เป็นปกติเป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติของปาฏิหาริย์”

    พระชัยลืมตาขึ้นมองหลวงพ่อกับอารักษ์เทพทั้งสี่อีกครั้ง

    คราวนี้พระชัยรู้สึกถึงความเมตตา ความรัก ความชุ่มชื่นฉ่ำเย็นที่แผ่ออกมาจากหลวงพ่อและอารักษ์เทพทั้งสี่เป็นความรู้สึกที่พระชัยไม่เคยได้รับมาก่อน

    พระชัยรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ว่า ไม่รู้สึกอันใด ไม่โกรธแค้น ไม่ถวิลหา และไม่สงสัย ใช่แล้ว “ไม่สงสัย” เป็นคำพูดที่เจ้าประคุณสั่งสอนศิษย์เสมอๆ

    “บางอย่างเราไม่เข้าใจ แต่ไม่สงสัย” เพราะเมื่อถึงเวลาอันควร ความสงสัยเหล่านั้นจะเลือนหายไปเอง โดยแทนที่ด้วยความเข้าใจ

    พระชัยกราบลาหลวงพ่อสามครั้งแล้วเดินจากไป พระชัยเล่าให้เราฟังว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นสิ่งที่ธรรมดา และเป็นปาฏิหาริย์ในเวลาเดียวกัน

    บรรณศาลา

    ๘ พฤศจิกายน ๕๕๓
     

แชร์หน้านี้

Loading...