บ้าน ที่ดิน รถ อำนาจ ความหล่อ เอาไปไม่ได้ซะอย่าง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย noum77, 27 ตุลาคม 2013.

  1. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    คนเราเกิดมาถ้ามีกินมีใช้เหลือเก็บนิดหน่อยๆได้ก็ไม่ต้องดิ้นรนอะไรให้มากกว่านี้เเล้ว เพราะท้ายที่สุดก็ตายไปก็เอาใส่โรงไปไม่ได้ สูญเปล่าทำเอาเเทบตายเเต่เอาไปไม่ได้ เเต่ถ้าบางคนเกิดมาขัดสนก็ต้องดิ้นรนกันไป ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน ท้ายที่สุดเอาไปไม่ได้เลย ถ้ามีอยู่เเล้วก็ไม่ต้องดิ้นรนพยายามหาหรอก ยื้มเค้ามาทั้งนั้นเเหละ เรารวยมาก ถ้าเกิดมีลูก ลูกมันก็เสียคน สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นบาปอีก พยายามสร้างสินทรัพย์ที่เอาติดตัวไปหลังตายได้น่าจะดีกว่าเป็นอะไรที่ดีที่สุด
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    สาธุ...

    จริงๆ แล้ว ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่าคิดมาก

    เร็วๆ นี้ เพิ่งสนทนากับญาติธรรม ในข้อนี้ โดยเขายกมาว่า อะไรๆ ก็ไม่เที่ยง เอาไปไม่ได้เลยสักอย่าง

    ผมจึงเสริมให้ว่า ให้ลองพิจารณาให้ละเอียดดูดีๆ

    นอกจาก ของในชาตินี้ ทั้งร่างกาย ทรัพย์สิน ญาติพี่น้อง ครอบครัว อันเป็นที่รัก ที่เอาติดตัวไปไม่ได้แล้ว ยังมีอะไรอีก ที่เอาไปไม่ได้?

    ผมวิสัจฉนาไปว่า สิ่งที่เอาไปไม่ได้ คือ ขันธ์ 5 ทุกอย่าง
    รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่ของเราแม้แต่อย่างเดียว เอาไปไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว

    ให้พิจารณาดูให้ดี ในชาติแรกสุดที่เราเกิดเป็นมนุษย์ พ่อแม่ญาติพี่น้องเราเป็นใคร เรารักพวกเขาขนาดไหน เราจำพวกเขาได้ไหม? ความทรงจำนั้น ยังเหลืออยู่หรือไม่?

    ในชาติแรกสุดที่เราเกิดเป็นมนุษย์ เราเป็นคนใจบุญอย่างไร หรือชั่วช้าอย่างไร เราเคยมีนิสัยอย่างไร ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เราจำได้หรือไม่ ยังเหลืออยู่หรือไม่?

    ความคิด ที่เราคิดว่าเป็นตัวเรา ไม่ต้องมองย้อนไปชาติก่อนๆ เลย เอาแค่ชาติปัจจุบันนี้
    ตอนเด็กเราคิดอย่างไร พอโตขึ้นมา นิสัยเราเปลี่ยนเสียแล้ว

    แล้วอะไรคือ "เรา"

    ทรัพย์สิน ไม่ใช่ของเรา ร่างกาย ไม่ใช่ของเรา
    ความคิด ไม่ใช่ของเรา ความทรงจำ ไม่ใช่ของเรา

    ตั้งแต่เริ่มที่เรามีอวิชชา มาเกิดในร่างของอาภัสสราพรหม มาเกิดในร่างของมนุษย์
    พวกเราทั้งหมดนี้ ก็เหมือนกับผู้ที่วักน้ำขึ้นมาด้วยสองมือ แล้วพยายามสุดชีวิต ที่จะเก็บน้ำในอุ้งมือ ไม่ให้มันหายไป แต่ด้วยธรรมชาติของมัน ไม่มีทางเป็นไปได้

    ทั้งความคิด และ ความทรงจำ ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ เป็นตัวตนของเรา เป็นสิ่งที่จะสูญสลายไปตามกาลเวลา ตลอดกาล
     
  3. kamineko

    kamineko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +564
    เราเห็นต่างนะ สำหรับนักปฏิบัติแบบปุถุชนคนทั่วไป ว่ามีย่อมดีกว่าไม่มี
    คิดง่ายๆ ถ้าสามารถหาทรัพย์มาได้โดยสุจริต ไม่มีความเดือดร้อนเรื่องเงินทอง ไม่มีหนี้สิน จิตใจก็สบาย เพราะไม่ต้องวิตกกังวลมาก ศีลก็รักษาง่าย โดยเฉพาะข้อ การลักทรัพย์

    ตัวอย่างคือ ที่ชอบอ้างเรื่องความจำเป็นต้องใช้ ซอฟแวร์เถื่อน โหลดหนัง เพลง เกมละเมิดลิขสิทธิ์ ก็เพราะราคามันแพง เพราะความจน จึงจำใจละเมิดศีล ที่จริงแล้วโดนกิเลสหลอกลวงเอา ให้เกิดความอยากไม่สิ้นสุด เท่าไรก็ไม่เคยพอ

    ถ้ามีเงินใช้สบายๆ คนมีจิตสำนึก คนอยากทำดี จะยอมผิดศีลมั้ย อย่างวินโดว์ ราคา 4-5 พัน หนัง เพลงสิบเรื่อง 3-4 พัน ถ้ามีเงินก็จ่ายได้ (แต่เคยได้ยินว่าคนที่เขาคิดรักษาศีลจริงๆ เขาบอกว่า เขาไม่ยอมตกนรก เพราะเงินค่าซอฟแวร์หรือของละเมิดมูลค่าแค่ไม่เท่าไรพวกนี้หรอก)

    อีกอย่างมีเงินมีทองก็ช่วยคนอื่นได้ ทำบุญกับพระปฏิบัติ สร้างวัด โรงพยาบาล โรงเรียน บริจาคช่วยคนตกทุกข์ได้ยากได้อีกมากมาย ดังนั้นถ้ายังไม่คิดละทางโลก หาไปเถอะ ทรัพย์น่ะ เพียงแต่ให้สุจริตเข้าไว้

    ยกเว้นถ้าเป็นนักปฏิบัติขั้นอุกฤษฏ์ ยอมตายดีกว่าผิดศีล นั่นคือสละแล้ว ไม่เอาอะไรทางโลกอีกแล้ว เอาแต่อริยทรัพย์ติดตัวไป แบบนี้ก็ขออนุโมทนาด้วย
     
  4. yutpichai

    yutpichai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +306
    คนเราเกิดมาถ้าคิดแบบท่านทั้งหลายที่อยู่ในศีลธรรมก็คงจะดีนะซี้ครับ แต่ก็อย่างว่าเกิดมาก็กำมา ตายแล้วก็ยังกำดอกไม้ธูปเทียนไปอีกว่าไหมคับ ^^

    สิ่งที่อยู่เหนือสิ่งศักด์สิทธ์ คือกรรมคับ สาธุธรรมด้วยครับ
     
  5. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    สิ่งที่เอาไปได้หลังจากตายแล้วมีอยู่ 3 อย่าง
    1. กรรม ทั้งบุญและบาปจะติดตามไปดังเงาตามตัว
    2. นิสัย สิ่งที่เราทำจนคุ้นไม่ว่าดีหรือชั่ว หรือไม่ดีไม่ชั่ว มันก็จะติดไปจิตของเรา และส่งเสริม ให้วนไปกระทำในสิ่งที่เราคุ้นอีก ถ้าทำบ่อยๆก็จะกลายเป็่นสันดานฝังติดแน่นหนาไปกับดวงจิตจนแยกไม่ออก ด้านดีก็คือบารมีนั่นเอง เช่นรักการให้ทาน เกิดกี่ชาติก็ชอบให้ ตรงข้ามถ้างกก็จะงกข้ามชาติจนกว่าจะเจอกัลยาณมิตรมาสอนให้ละเว้นความตระหนี่
    3. สายสัมพันธ์ เราทำดีกับใครก็จะมีสายสัมพันธ์เชื่อมให้ไปพบกันอีก ถ้ารักใคร่ชอบพอกันในชาตินี้ ชาติต่อไปก็จะคุ้นเคยกันง่ายและชอบพอกัน แต่ถ้าทำไม่ดีกับใครไว้ก็จะมีเวรผูกกันไว้ให้ต้องกลับมาชำระสะสางกัน ทุกคนก็คงเคยเจอ บางคนเราเจอปุ๊บจะคุ้นและชอบเลย บางคนเจอหน้าก็รู้สึกเขม่นกัน โดยเฉพาะการมีสายบุญเชื่อมกับครูบาอาจารย์ อย่างเช่นมีจิตเลื่อมใสในพระศรีอาริย์ก็จะได้พบกับศาสนาของท่าน แค่ได้ยินเรื่องราวก็เลื่อมใสเลยโดยที่ยังไม่ได้พบไม่ได้ัฟังคำสอน เป็นต้น นี่เองเ็ป็นเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงยกการไม่คบคนพาลกับคบบัณฑิตเป็นสองข้อแรกของมงคลชึวิต 40 ประการ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ตุลาคม 2013
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    พระพุทธองค์ ตรัสสอนไว้ดีแล้วครับ รูปนามล้วนอนัตตา

    ปัญหาคือ สัมมาอาชีโว สัมมาวายาโม

    การเลี้ยงกายโดยชอบ ประกอบอาชีพโดยชอบ ความพยายามโดยชอบ

    การที่เราต้องดำรงกายไว้ ให้ดีจึงเป็นส่วนสำคัญ เราจะกล่าวว่าเราไม่กิน ไม่ใช้ ก็ไม่ถูก
    แต่การกินและใช้นั้นอยู่ที่ความจำเป็น การมีทรัพย์สินเงินทอง สำหรับฆารวาส ก็เป็นส่วนที่ต้องพิจารณาให้เหมาะสมให้ดี การมีทรัพย์ ไม่ได้หมายความว่าเราจะยึดติดในทรัพย์ที่เรามี แต่เรามีเราใช้เพื่อประโยชน์เพื่อการสร้างความดีสร้างบารมี เพื่อการหลุดพ้นทุกข์ จึงไม่ใช่สิ่งที่ผิดหรือทำไม่ได้ อุปมาว่า

    เราแสวงหาความไม่มีเพราะอาศัยความมี นั่นเอง เพราะความมีที่พอมีพอดีพอกินพอใช้พอสมควรแก่การปฏิบัติและการสั่งสมบารมีชำระกิเลสนั่นเอง นี่คือสัมมาปัญญาที่ควรมีเพื่อความหลุดพ้น

    ส่วนบางท่านอาจจะคิดดีแบบนี้ว่า ก็ตนอยากสร้างความเจริญให้ลูกหลานและประเทศชาติ การสร้างโน่นนี้ไว้ ก็เพื่อประโยชน์ ของผู้อื่น บางคนคิดดีว่าเราจะช่วยสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล วัดอาราม หรืออะไรก็แล้วแต่เพื่อผู้อื่นจะได้เกิดความสุข หรือมีส่วนให้ผู้อื่นมีปัญญาหลุดพ้นทุกข์ได้

    ความไม่ยึดมั่นถือมั่นใดๆ ในรูปนาม จึงไม่ใช่เพราะอาศัยการมีหรือไม่มี แต่เพราะอาศัยปัญญาเข้าใจอย่างแท้จริงในความไม่มี และอยู่อย่างไม่ยึดติดคือมีก็เหมือนไม่มี นี่คือสิ่งที่ชาวพุทธต้องเข้าใจและมีปัญญาแยกแยะให้ดีนะครับ สาธุ
     
  7. อิ๊ด

    อิ๊ด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +551
    ขอโทษนะครับที่ไม่ได้ตอบแนวพุทธ แต่เพลงนี้น่าจะบอกอะไรได้หลายๆอย่าง เป็นเพลงเด็กๆ ลองฟังดู มีปริศนาธรรมซ่อนอยู่ว่า ทำไมเราต้องทำงาน? People work | LearnEnglish Kids | British Council
     
  8. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,135
    สัพเพ ธัมมานาลัง อะภินิเวสายะ ..ธรรมทั้งหลายทั้งปวงในโลกอันบุคคลไม่ควรยึดติดถือมั่น

    หลักธรรมคำสอนที่ท่านพุทธทาสภิกขุให้ความสำคัญมาก ท่านเคยพูดไว้ว่า "ถ้าอยากจะอยู่ในโลกนี้อย่างมีสุข อย่าประยุกต์สิ่งทั้งผองเป็นของฉัน"

    คำแปลพุทธวัจนะที่ว่า ธรรมทั้งหลายทั้งปวงอันบุคคลไม่ควรยึดติดถือมั่นนั้น หากจะแปลให้จำกันได้ง่ายๆ ก็ขอแปลอีกสำนวนว่า "สรรพสิ่งเป็นของใช้ โปรดอย่าเข้าใจว่าเป็นของฉัน"

    ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ท่านพุทธทาสป่วยหนักครั้งสุดท้าย ในนาทีวิกฤตก่อนที่ท่านจะวางวายทำลายขันธ์ ช่วงตี ๔ ท่านตื่นขึ้นมานั่งเขียนบันทึก แล้วบอก ท่านสิงห์ทอง (พระอาจารย์สิงห์ทอง เขมิโย) พระอุปัฏฐาก ซึ่งนอนอยู่ข้าง ๆว่า "สิงห์ทอง เราจะตายแล้ว" ท่านสิงห์ทองก็งัวเงียตื่นขึ้นมามองนาฬิกาบอกเวลาตี ๔ สักพักหนึ่ง ท่านก็บอกว่า "สิงห์ทองเราจะตายแล้ว เอากุญแจออกจากกระเป๋าเราที เราไม่อยากตายคากุญแจ" ท่านสิงห์ทองก็ล้วงเอากุญแจในกระเป๋าท่าน เอากุญแจออกมาวาง หลังจากนั้นท่านก็บอกว่า "สิงห์ทอง ลิ้นเราแข็งแล้ว" จากนั้นท่านก็ดับไป

    แก่นของเรื่องนี้อยู่ตรงคำพูดของท่านพุทธทาสที่ว่า "เอากุญแจออกจากกระเป๋า เราจะไม่ตายคากุญแจ"

    "กุญแจ" คือสัญลักษณ์ของการยึดติดถือมั่นของการเป็นเจ้าของ มนุษย์ทุกคนมีเหตุให้ยึดติดถือมั่น กุญแจนี่แหละเป็นสัญลักษณ์ของธรรมที่สำคัญคือสิ่งที่ยึดติดถือมั่น ไขเข้าไปในบ้านเจอแต่สิ่งของที่ยึดติดถือมั่นไว้ ใครหยิบใครย้ายเป็นต้องมีเรื่อง เพราะเราไปยึดติดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะปล่อยจงปลงกันได้ง่ายๆ

    คัดลอกจากหนังสือ ทุกข์ไม่ไปหรือเราไม่ปล่อย ท่าน ว.วชิรเมธี
     
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    ของใช้นะ ไม่ใช่ของฉัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...