เส้นทางหลังความตาย

อาศัยกายเนื้อในกาลก่อนและกาลต่อไป
ภายในบาร์โดแห่งการเกิด
สมบูรณ์พร้อมด้วยประสามสัมผัส
พเนจรไปโดยปราศจากสิ่งกีดขวาง ครอบครองอำนาจวิเศษอันเกิดจากวิบากกรรม
แลเห็นด้วยนัยน์ตาบริสุทธิ์ของทวยเทพ
ที่มีคุณลักษณ์อย่างเดียวกัน

ความตาย คำๆนี้สำหรับมนุษย์ส่วนใหญ่แล้วมันฟังดูเศร้าและน่าหดหู่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งมีชิวิต ซึ่งวันตายของเรานั่นจะมาเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้ๆคือ เราต้องตาย เพราะฉะนั้น เรามาทำความรู้จักกับความตายกันเถอะนะครับ (สำหรับบางคน ที่ยังไม่รู้จักมันดี) แล้วท่านจะรู้ว่าความตายไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด วันนี้ผมเปิดไปเจอเวปหนึ่งที่เค้่าเขียนเรื่องนี้ ผมว่ามันน่าสนใจ และคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆชาวพลังจิต ถ้าใครสนใจก็เชิญ อ่านได้ที่ ---> www.budpage.com/death.shtml

ปล. ผมไม่ขอก๊อบจากเวปเค้ามาโพสที่นี่นะครับ ผมขอยกเครดิตทั้งหมดให้คนเขียนเวปนั้นละกัน

ส่วนเพื่อนๆชาวพลังจิตที่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรก็เชิญโพสกันได้นะครับ แล้วผมจะมาออกความเห็นด้วย ^___^ KAZUMA.

 

รู้สึกว่าจะมีคนสนใจเรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ไม่มีใครออกความเห็นแฮะ ก็เลยไม่รู้เลยว่าเพื่อนๆชาวพลังจิดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอย่างไรบ้าง ผมว่าอีกไม่นานกระทู้นี้ก็คงตกไป แต่ก็ช่างมันเถอะ มีเกิดก็ต้องมีดับ เป็นเรื่องธรรมชาติ^_^
คำว่า ความตาย สำหรับผมเองก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ไกล้ตัวผมแค่ไหนในตอนนี้ ชีวิตนี้ผมเกิดมามีบุญที่ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ตั้งแต่อายุยังน้อย ผมได้เห็นความตายในหลากหลายรูปแบบ และผมก็เชื่อว่าเพื่อนๆในเวปนี้ก็คงเหมือนกัน สิ่งหนึ่งที่ผมระลึกไว้เสมอคือ ชาตินี้ขอให้ผมได้ตายอย่างสงบที่สุด เท่านี้ผมก็ถือว่าเป็นบุญกับดวงวิญญาณและร่างกายนี้มากพอแล้ว สุดท้ายนี้ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆบ้าง ไม่มากก็น้อย
ปล.ใครจะรู้ว่าขณะที่พวกคุณกำลังอ่านกระทู้นี้อยู่ ผมอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ชีวิตมนุษย์ไม่ได้ยืนยาวเสมอไปนะครับ เรามาทำปัจจุบันที่เรายังมีแรง มีกำลังและลมหายใจอยู่นี้ ให้มีประโยชน์ให้มากที่สุดจะดีกว่านะครับ
ด้วยความปารถณาดีจาก かずま　ずっとだいすき　です。

 

"คัมภีร์มรณศาสตร์แห่งธิเบต"
เคยอ่านแล้ว ก็....ตามความหมายมันยังไม่ลึกซึ้งเท่ากับ "หัดตายก่อนความตายจะมาถึง" ของท่านพุทธทาสเท่าไหร่ (สำหรับข้าพเจ้า) แค่ลองตั้งสติ สมมุติตามคำสั่งสอน
-วันนี้สุดที่รักตาย
-วันนี้แม่เราตายแล้ว
-วันนี้หมาน้อยเราตายแล้ว
-วันนี้ภรรยาและลูกๆตกเครื่องบินตายกันหมด
ฯลฯ

พลังงานแห่งความโศกเศร้าสะเทือนใจนั้น...มหาศาลจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้

การพลัดพรากจากสิ่งที่รักนั้นเป็นทุกข์
แต่...การอยู่อย่างเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวนั้น....ทุกข์กว่าหลายเท่า
เพราะเรายังต้อง "อยู่"

ข้าพเจ้า...ยังคงทรมาน...

 

ผมเห็นด้วยที่ว่าการมีชีวิตอยู่ บางครั้งมนุษย์ก็ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดโหดร้าย ถ้าเราใช้ชีวิตอย่างมีสติจะทำให้เรารู้เหตุและที่มาของความสุขและความทุกข์ทั้งหลายไม่ว่า จะเกิดอะไรกับเราในวันข้างหน้าก็ขอให้รู้ไว้มามันมาจากการกระทำของเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ขอให้เข้มแข็งและสู้กันต่อไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของเราจะหมดไป ผมขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนมนุษย์ทุกคนครับ ^___^"

 

มรณะสตินี้ก็ดีนะ เป็นการใช้ปัญญาข่มกิเลสต่างๆไว้

แต่ต้องดูให้ดีนะ ว่าตายไม่ได้แปลว่าจบ หากแต่เป็นการเริ่มใหม่

และการเริ่มใหม่ก็อาศัยสิ่งเก่าก่อนมาเป็นชนกกรรม

มันไม่ได้จบสิ้นลงไปนะ หากแต่เป็นการเริ่มใหม่

จะปรุงแต่งชนกกรรมให้มันดี ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ตายอีก จะไม่เกิดอีก

ชนกกรรมดีๆ ยิ่งดีก็ยิ่งอยู่ยาก ต้องสร้างกรรมเสริมซ้ายขวาเข้าประคอง

เช่นทำบุญทำทานเยอะ ชนกกรรมก็ส่งผลให้เป็นเศรษฐี

แต่ก็ต้องสร้างกรรมเสริม เรื่องของปัญญา

มีทรัพย์มากแต่ไม่มีปัญญาจัดการ มันก็เท่านั้น

ไม่สิ้นเลยนะ ทำอย่างไรก็ไม่สิ้น เวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้ เรื่อยไป

ทางออกมีนะ พระพุทธองค์ผู้เป็นศาสดาได้ชี้ไว้แล้ว

 

ถูกต้องนะคร๊าบ บ บ ^^ ความตายไม่ใช่จุดจบ "เรา" ก็ยังคงอยู่ แต่อยู่ในอีกรูปแบบหนึ่งเท่านั้น ซึ่งหลังจากตายไปแล้วเราจะควมคุมสิ่งต่างๆรอบกายได้ มากน้อยแค่ไหนนั้น เราเองก็ยังไม่รู้ สิ่งที่เราทุกคนรู้ดีก็คือ เราต้องสูญเสียทุกอย่างทางโลกไป โดยสิ้นเชิง ถ้ามนุษย์ยังตัดทางโลกไม่ได้ก็จะทำให้เป็นทุกข์ พระท่านจึงพร่ำสอนอยู่เสมอว่า ให้เราตัดกิเลสทั้งหลายให้ได้ เมื่อยามเราเกิดเราก็มีแต่ตัว เวลาตายเราก็เอาอะไรไปไม่ได้ซักอย่าง สรรพสิ่งต่างๆในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเราซักอย่าง มีเพียงบางอย่างเท่านั้น นั่นคือ กรรม หรือ การกระทำของเรานั่นเอง เมื่อเราทำดี สิ่งดีๆก็จะติดตามเราไปทุกหนทุกแห่ง แต่ถ้าเราทำชั่ว ความชั่วนั้นก็ไม่ละเว้นเราเช่นกัน สิ่งหนึ่งที่มนุษย์กลัวกันมากก็คือ ความเปลี่ยนแปลง นั่นคงเป็นเพราะเราไม่รู้ว่ามันจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี หรือร้ายนั่นเอง เพราะฉะนั้น การทำความดี จึงเป็นเสมือน เครื่องอำนวยความสะดวกในยามเดินทาง เหมือนแสงสว่าง ที่คอยนำทางให้เราสามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นใจนั่นเอง ^___________^x
かずま。

 

เวรกรรม !!

ความตายเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น

เหมือนกับว่าพวกคุณไม่กลัวมันเลย (ส่วนใหญ่ก็ไม่กลัวกันหรอกครับ)

แต่..กลัวรูปแบบการตายมากกว่า

ความตายมีรูปแบบของมัน ใครมีพลังจิต จริงๆ

รู้ล่วงหน้าได้จริง ก็ต้องรู้รูปแบบการตาย สิครับ

แต่เท่าที่ผมรู้ รู้สึกว่ายังไม่มีใครเป็น อมตะ(ไม่ตาย) เลย

แสดงว่า .... ไม่มีจริง