กระผมมีเรื่องขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ ผู้แจ้งครับ

กระผมได้ปฏิบัติและเดินตามรอยธรรมมาซักระยะนึงแล้วครับ ด้วยความบังเอิญบางประการที่ทำให้ผมเปลี่ยนจากคนที่เต็มไปด้วยกิเลสและความสงสัยมากมาย จนถึงวันนี้ผมเชื่อแล้วว่า หลายๆอย่างไม่มีความบังเอิญ แต่ความรู้สึกของจิตผมนั้น ผมรู้สึกว่าตนเองบำเพ็ญบารมีเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์(ตรงนี้ผมรู้สึกได้ถึงห็นสัญญาเดิมบ้างแล้วครับ) แต่ที่ผมเกิดข้อสงสัยบางประการครับ
1.มีคนที่ผมนับถือได้พูดและบอกเกี่ยวกับการแบ่งภาค ว่าผมคือหนึ่งในการแบ่งภาคมาบำเพ็ญบารมีต่อครับ จริงๆผมน่าจะทราบคำตอบแล้วว่า เป็นองค์ไหน(จากที่ได้ประสบด้วยตนเอง) เพียงแต่ไม่มั่นใจ เพราะพระองค์ใหญ่เกินกว่าผมจะเทียบพระบารมี
2.ผมอยากสอบถามเกี่ยวกับการลาพุทธภูมิขององค์ใหญ่ที่ได้แบ่งภาคมา ถ้าหากว่าพระองค์ลาพุทธภูมิแล้ว ภาคอื่นๆที่แบ่งมาจะมีผลอย่างไรบ้างครับ
3.อยากรบกวนท่านที่ได้ทิพยจักขุญาณหรืออภิญญาด้านใดก็ได้ ตรวจสอบคำตอบจากคำถามผมด้วยครับ
ถ้าความรู้สึกผมผิดพลาดตั้งแต่แรก ผมจะได้ไม่หลงในจิตไปมากกว่านี้ครับ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ

 

ผมไม่ตอบแบบ ผู้รู้ ผู้แจ้ง นะครับ เพราะไม่ใช่ผู้นั้น ขออนุญาต ตอบแบบผู้ศึกษาอยู่ก็แล้วกันครับ


การแแบ่งภาค เอาตามจริง มันเป็นเรื่องของพวก พยายามบิดเบือนคำสอนในพระพุทธศาสนา ให้เข้ากับลัทธิของตน

ถ้าสามารถ แบ่งมาเกิดได้ ก็คงบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้ากันหมดแล้วครับ เพราะทำได้แบบนั้นก็ไวมาก

ไม่ต้องมาตะบันเกิด เป็น หลายอสงไขย "เพื่อทำ" ให้เต็ม

ในความจริง เรื่อง เกิด ถ้ามาต้องมาหมด เพราะขันธ์ ๕ เป็นภาระอันหนักยิ่ง

แต่ขมวดไว้นิดนะครับว่า ถ้าหากไม่มีกาย มีแต่อทิสสมานกายจะแสดงกี่ล้าน ก็ได้

แต่เรื่อง ที่เป็นไปได้คือ "กระแสจิต" หรือ "กระแสบารมี" เรียกให้ง่าย ๆ เห็นภาพหน่อย คือ "ผู้ใหญ่คุมช่วยอยู่"

ที่เห็นเป็น "ผู้ใหญ่" เพราะ ท่านคุม กำลังท่านมากกว่าเรา ก็กลายเป็น ท่านซ้อนคลุมมา เลยเห็นแบบนั้น

แล้วเวลาอาราธนาบารมี ก่อนเจริญพระกรรมฐาน เราเรียกท่านใดมาบ้างล่ะ ผมเข้าใจว่า "เหมา" องค์ไหนว่างท่านก็มาช่วยได้ทั้งนั้น

ถ้าหาก ผู้ใหญ่ท่านนั้นลาพุทธภูมิ กระแสก็เปลี่ยนเป็นแบบอื่น ถ้าท่านเข้าอริยผลไปเลย ก็เป็นพระอริยเจ้าไป กระแสก็ไม่เหมือนเดิม

เอาเป็นว่า คุณมีผู้ใหญ่คุมช่วยอยู่ พุทธภูมิ ส่วนใหญ่มีผู้ใหญ่คุมทั้งหมด เพราะต้องเรียนวิชาครู ก็ต้องเจอข้อสอบแบบครู

บางครั้งก็เจอสอบแบบประกบ ตัวต่อตัว

การทำบารมี ทำแทนกันไม่ได้ แต่ช่วยสนับสนุนกันได้ ผู้ใหญ่ท่านคุมให้กำลังใจไม่เขว นั่นนับเป็น บุญ แล้วครับ

ในเมื่อท่านช่วยเราก็ช่วยตัวเองต่อไป ทุกคนน่ะมีหมดแหล่ะครับ เพียงแต่ว่า กำลังของแต่ละท่านไม่เสมอกัน


คำตอบของผมอาจจะผิด หรือ ถูก ก็ช่าง ตอบไปตามกำลังใจทราม ๆ ของผมครับ

เจริญในธรรมครับ

 

ลองศึกษากาลมสูตรดูค่ะ..บางทีสิ่งที่เรารับรู้มามันเสมือนจริงมาก..มากจนไม่รู้ว่าจะเชื่อทางไหนดี..อย่าเพิ่งเชื่อง่ายๆ

 

ขอบพระคุณทุกๆความเห้นน่ะครับ

 

คุณควรปฎิบัติเพื่อละไม่ฟุ้ง และคุณต้องเชื่อในธรรมของพระพุทธองค์ ถ้าคุณเดินตรงไม่แวะไหนจะเข้าใจเองไม่ต้องถามผู้ใด เปรียบดังกินเกลือรสเค็ม คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเกลือนี้เค็มขนาดไหน ถ้าไม่ได้ชิมด้วยลิ้นเราเอง ผู้ใหญ่อะไรที่คุณว่าเขาบอกคุณอย่างนั้นอย่างนี้ ยังบอกผิดว่าแบ่งภาค แสดงให้เห็นถึงภูมิธรรมของเขาว่าไม่เข้าในศาสนาของชาวพุทธ ต้องกราบขอ อภัยที่พูดตรง

 

คือถ้าสองท่านถือพระโพธิญาณทั้งคู่
แล้วตกลงกับเป็นที่เรียบร้อย การแลก รูปนาม กันเป็นเรื่องปรกติ

จนเกิดธรรมเนียมการแอบอ้าวเป็นพระโพธิสัตว์กันจนเแ็นธรรมเนียม
แต่จริงๆแล้วแลกกันไม่ได้จริงหรอก แลกกันแบบหยอกๆ หนะอาจมี

ประมาณทฤษฏีสมคบคิด แต่ปลายมือแบ้ว ไม่เวิร์คหรอก
หยอกกับไปมาสุดท้าย เลยเถิด

 

เช่น ถ้ามีคนทราบว่าตอนนี้ผมถือพระโพธิญาณกำลังถือขึ้น
เค้าอาจจะ ปลอมเป็นผมได้เลย ผมก็จะเอาเรื่องดีๆ ใส่ตัวเรื่องชั่วๆไส่คนอื่นดิ
ตัวผมของผมนิ

 

ก่อนอื่นต้องแยกระหว่างความเชื่อของแต่ละศาสนาออกก่อนนะคับ ว่าแต่ละศาสนาเชื่ออย่างไร เช่น

ศาสนาคริสต์
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาอิสลาม
ศาสนาฮินดู
ศาสนาพุทธ

ซึ่งแต่ละศาสนามีความเชื่อที่แตกต่างกันไป ส่วนศาสนาพุทธนั้นก็มีหลายนิกาย แต่โดยเฉพาะ ศาสนาพุทธนิกาย เถรวาทแล้ว ไม่มีความเชื่อเรื่องการแบ่งภาคนะคับ

ลองคิดดูเล่นๆนะคับ ถ้าหากมีการแบ่งภาคได้จริงๆ ภาคหนึ่งอยู่ที่สวรรค์เสวยสุขอยู่ แต่อีกภาคหนึ่งมาเกิดในมนุษย์โลก ต้องทนทุกข์ต่างๆนาๆ กระทำทั้งความดีและความชั่ว ภาคที่เสวยสุขอยู่บนสวรรค์ก็ไม่ต้องทำอะไรรอรับอย่างเดียว การสร้างบารมีเพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้านั้นดูจะง่ายไปมั้ย เพราะสร้างบารมีโดยไม่ต้องได้รับคาวมทุกข์เลยแม้แต่นิดเดียว เสวยแต่ความสุขตลอดไปอยู่บนสวรรค์ รออย่างเดียวเดี๋ยวบารมีก็เต็มเอง ไม่ต้องลงมาสร้างด้วยตัวเอง
ไม่ต้องทุกข์อะไรเลย ให้ภาคที่แบ่งมานั้นรับทุกข์เองฝ่ายเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง
ก็น่าสงสารภาคที่ถูกแบ่งลงมา สร้างแทบตายทุกข์ก็ทุกข์ แต่บารมีทั้งหมดคนที่อยู่บนสวรรค์ได้รับได้เสวยสุขอย่างเดียว ส่วนตัวเองทั้งต้องทุกข์ทั้งต้องอันตรธานหายสาปสูญไป เราจะรับได้มั้ยถ้าเป็นแบบนั้น
มองอีกมุมนึงถ้าเราไม่อันตรธานสาปสูญไป แต่เรากลับต้องเข้าไปรวมกับคนๆนึง ซึ่งจะเป็นคนดีหรือมีบารมีมากๆก็ตามที่เรารู้สึกว่าเป็นอีกคน เราจะยอมมั้ย โดยบารมีทั้งหมดเข้าไปรวมเป็นของภาคที่อยู่ข้างบน และเราก็จะไปเป็นส่วนหนึ่งของคนที่อยู่ข้างบน แล้วถ้าเป็นส่วนหนึ่งนั้นคือส่วนไหน ถ้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความคิดจะเป็นอย่างไร หรือถ้าไปเป็นส่วนหนึ่งของจิตดวงนั้น แล้วจะทำอะไรได้ตามใจตัวเองมั้ย หรือโดนจิตดวงนั้นควบคุม

และที่สำคัญ จิตของสัตว์ใครเป็นผู้สร้าง หรือดวงจิต มีอยู่อย่างนั้นแต่เดิม โดยไม่มีผู้ใดสร้าง เป็นธรรมชาติที่มีมาอยู่อย่างนั้นเองแต่เดิม

แล้วถ้าหากว่า มีการแบ่งภาคได้จริง หรือแบ่งภาคแล้วสามารถทำให้อันตรธานหายไปได้จริง ก็แสดงว่า มีผู้ที่สามารถสร้างดวงจิตขึ้นเองได้ และสามารถทำลายดวงจิตได้เองด้วย เพราะการเกิดของสัตว์นั้น ต้องใช้ดวงจิตหรือต้องมีดวงจิตจึงจะเกิดได้

ซึ่งต่างจากการแบ่งภาคหรือการแยกร่างของผู้มีฤทธิ์ เพราะผู้มีฤทธิ์เป็นเพียงแต่แสดงให้เห็นเป็นภาพมายา ซึ่งภาพหรือรูปกายเหลานั้น ต้องการจะให้ทำอะไรก็ได้ตามแต่ผู้มีฤทธิ์จะสั่งให้ทำ แต่ร่างที่เห็นต่างๆนั้น ไม่มีร่างใดเลยที่มีดวงจิต นอกจากร่างจริงๆของผู้มีฤทธิ์นั้น

สิ่งที่ท่านเจ้าของกระทู้สงสัยนั้น คงจะเป็นการแบ่งภาค แบบการสร้างดวงจิต หรือการแบ่งดวงจิต แบบแบ่งมาจุติในท้องของมารดา ดูแล้วมันเป็นเรื่องเกินธรรมชาติ ถ้าพูดตามความเชื่อแบบ พุทธศาสนานิกายเถรวาท เพราะเชื่อกันว่า ดวงจิตมีมาแต่เดิมไม่มีผู้ใดสร้างขึ้น ที่ต้องเวียนเกิดเวียนตายเพราะเหตุแห่ง อวิชาและกิเลส เมื่อดับ อวิชาและกิเลสหมดสิ้น ดวงจิตก็ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก เพราะหมดเหตุแห่งการเวียนว่ายตายเกิดนั้น

การสร้างพระบารมีของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ยกตัวอย่างเช่น พระพุทธเจ้าของเราพระองค์ปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่มปรารถนาสร้างพระบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าพระชาติแรก ทรงนึกคิดปรารถนาในใจอยู่ตลอดถึง 7 อสงไขย์ และสร้างต่อด้วยการเปล่งวาจาอีกปรารถนาอีกตลอด 9 อสงไขย์ แล้วสร้างต่อด้วยปรมัตถบารมีอีก ตลอด 4 อสงไขย์ กับอีก แสนมหากัป รวมเป็นเวลา 20 อสงไขย์ แสนมหากัป

ตลอด 20 อสงไขย์ แสนมหากัป ตามพระไตรปิฎกของนิกายเถรวาท พระองค์ทรงสร้างพระบารมี ด้วยดวงจิตของพระองค์ เพียงดวงเดียว โดยไม่มีการแบ่งภาคใดๆ ทรงใช้จิตดวงเดียวของพระองค์ ท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดในภพทั้งสามเพื่อสร้างบารมี ทรงทนทุกข์ทนลำบาก อดทนต่อทุกสิ่งทุกอย่าง สละชีวิตเลือดเนื้อ ก็โดยอาศัยเพียงจิตดวงเดียวนี้ ทรงทำด้วยความจริงใจ ทำด้วยความเมตตากรุณาต่อปวงสัตว์ จึงเป็นปฏิปทาการสร้างบารมีที่น่ายกย่องที่สุดนะครับ

ลองดูสารคดีเรื่องนี้คับ กล่าวถึงความเชื่อทางศาสนา

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=MyOwMXUhS-g&list=PLE5B50C970249AA0C"]?????? 9 ????????????????????????? - YouTube[/ame]

 

อีกอย่างนะคับ ผมว่าไม่จำเป็นต้องแบ่งภาคเพื่อมาสร้างบารมีเลยคับ เพราะถ้า เวลา 1 วัน บนสวรรค์ชั้นดุสิต เท่ากับ 400 ปีของโลกมนุษย์ เพียงแค่จุติลงมาเกิดเพื่อสร้างบารมี แค่ 6 ชั่วโมงของชั้นดุสิต ก็เท่ากับ มาเกิดสร้างบารมีที่โลกมนุษย์ได้ 100 ปีแล้วคับ ซึ่งเทวดาสวรรค์ชั้นดุสิต อาจจะไม่สงสัยเลยด้วยซ้ำว่าลงมาสร้างบารมีที่โลกได้ชาติหนึ่งแล้ว ถ้ากลับไปเกิดในที่เดิมนะคับ เพราะหายไปแค่ 6 ชั่วโมง

การเทียบเวลาดูได้ตามนี้คับ

http://www.kuanim-suphan.com/dhammatan.php?topic_id=68

 

จะลาแล้วจะถามไปเพื่ออะไร เสียเวลาตอบเปล่าๆ

จิตมีดวงเดียว เที่ยวไปในสามโลก จะมาแบ่งพ่งแบ่งภาคอะไร ไร้สาระ เรื่องแค่นี้ยังไม่รู้ ยังกล้าเรียกตัวเองว่าพุทธภูมิอยู่อีกรึ ใครพูดใครบอกอะไรก็ผงกหัวรับฟัง งึกๆ ครับๆ โดยที่ยังไม่ได้ไปพิสูจน์ ไปรู้ ไปเห็นด้วยตัวเอง แบบนี้มันไม่ใช่จริตของพุทธภูมิแล้ว เป็นได้แค่สาวกภูมิแบบปลายแถวเท่านั้นล่ะ

 

สวดมนต์ นั่งสมาธิ อธิษฐานขอบารมีพระพุทธเจ้า ถามโลดดด เรื่องใหญ่แบบนี้ท่านตอบแน่เพราะไม่งั้นมันจะเข้าใจผิดแล้วจะมั่วไปกันใหญ่ แต่ไม่ต้องรอคำตอบนะครับทำใจสบายๆเด่วก้จะรุ้เอง อาจจะมีเหตการ์ไห้รุ้ ภาพนิมิตต หรือในฝันแต่ถ้าถามพระพุทธองค์รุ้แน่นอนครับ ผมทำบ่อย 5555555

 

ตอบเล่นๆไม่เอาสาระนะครับ
เพราะส่วนตัวก็เชื่อเหมือนบางท่านด้านบนคือ แบ่งภาคไม่ได้แต่เป็นทีมที่ร่วมสร้างบารมีมาด้วยกัน หรือคอยช่วยกันอยู่ อันนี้ได้

สมมุติว่า แบ่งภาคได้จริงตามคำถามของ จขกท.
ผมว่านะถ้าร่างต้นลาพุทธภูมิไปแล้ว ร่างแยกมันจะเหลือหรือครับ มันก็ต้องไปด้วยกันแหละ

 

เห็นด้วยเหมือนกับ Solardust นะครับ
คือถ้าสมมุติว่า สามารถแบ่งภาคได้จริง ถ้าร่างต้นลาพุทธภูมิร่างแยกก็ไม่เหลือครับ

โดยจะขออธิบายว่า หากแบ่งภาคได้จริง ร่างต้นนั้นจะต้องส่งกำลังค่อยช่วยร่างแยกนั้นๆ โดยตลอด ..
แต่ถ้าร่างต้นเลิกส่งกำลังแล้ว ร่างแยกก็จะไม่มีกำลังพอที่จะไปต่อหละครับ

(ทั้งนี้การแบ่งภาค น่าจะเพื่อมาสงเคราะห์สรรพสัตว์มากกว่ามาบำเพ็ญบารมีเพิ่มนะครับ)