จิตไม่นิ่งชอบนึกแวปว่าครูบาอาจารย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Pom moup, 26 ธันวาคม 2007.

  1. dulachat

    dulachat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +63
    อาการของผมเหมือนของคุณเลยครับ คือเมื่อจิตรู้เท่าทันมันก็จะดับไปเองโดยอัตโนมัติ แม้ว่ามันจะเริ่มแวปคิดขึ้นแต่คิดยังไม่ทันจบ สติก็จับมันทันก่อน มันก็จะดับไปเอง แต่ผมเพิ่งจะรู้ว่าต้องขอขมาด้วย

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ
     
  2. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    <CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>ลองมาดูวิธีการควบคุมความคิดที่มีอยู่ในพระสูตร(ฉบับย่อ)บ้างนะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย

    <CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>๒๐ . วิตักกสัณฐานสูตร </CENTER><CENTER>สูตรว่าด้วยที่ตั้งของความตรึกหรือความคิด </CENTER>
    พระผู้มีพระภาคประทับ ณ เชตวนาราม ตรัสสอนว่า ภิกษุผู้ทำสมาธิ ( ประกอบอธิจิต ) พึงใส่ใจเครื่องหมาย ๕ ประการอยู่เสมอ คือ:-

    ๑. เมื่อใส่ใจถึงเครื่องหมาย(คำว่า เครื่องหมายหรือนิมิตก็คืออารมณ์ที่จะให้จิตกำหนดนั้นเอง)<SUP> </SUP>. ใด เกิดความคิดฝ่ายชั่ว(มีข้อน่าสังเกตุในที่นี้ คือแสดงความคิดฝ่ายชั่วว่าประกอบด้วยฉันทะ โทสะ โมหะ ตามธรรมดากิเลสฝ่ายชั่วเคยเรียงราคะ โทสะ โมหะ หรือโลภะ โทสะ โมหะ แต่ในที่นี้ใช้ ฉันทะ ความพอใจมาแทนราคะ หรือโลภะ). ขึ้น ให้เปลี่ยนเครื่องหมายนั้น ไปสู่เครื่องหมายอื่นอันประกอบด้วยกุศล ซึ่งจะเป็นเหตุให้ความคิดฝ่ายชั่วดับไป ทำจิตให้เป็นสมาธิได้. เปรียบเหมือนเหมือนนายช่าง เอาลิ่มเนื้อละเอียดมาตอกเอาลิ่มเนื้อหยาบออกไปฉะนั้น.

    ๒. เมื่อใส่ใจถึงเครื่องหมายอื่น อันประกอบด้วยกุศล ความคิดฝ่ายชั่วยังเกิดขึ้น ก็พึงจารณาโทษของความคิดฝ่ายชั่ว ก็จะละความคิดฝ่ายชั่ว ทำจิตให้เป็นมาธิได้. เปรียบเหมือนชายหนุ่มหญิงสาวที่รักสวยรักงาม รังเกียจซากศพสัตว์ต่าง ๆ ที่มาคล้องอยู่ที่คอฉะนั้น.

    ๓. เมื่อพิจารณาโทษของความคิดฝ่ายชั่วเหล่านั้น ความคิดฝ่ายชั่วยังเกิดขึ้น ก็พึงไม่ระลึกไม่ใส่ใจความคิดฝ่ายชั่วเหล่านั้น ก็จะละความคิดฝ่ายชั่ว ทำจิตให้เป็นสมาธิได้. เปรียบเหมือนคนตาดี ไม่ต้องการเห็นรูป ก็หลับตาเสีย หรือมองไปทางอื่น.

    ๔. เมื่อไม่ระลึก ไม่ใส่ใจความคิดฝ่ายชั่วเหล่านั้น ความคิดฝ่ายชั่วยังเกิดขึ้น ก็พึงใส่ใจถึงที่ตั้งแห่งเหตุของความคิด ( วิตักกสังขารสัณฐานะ คือให้ดูอะไรเป็นเหตุให้ความคิดฝ่ายชั่วเกิดขึ้น ) ก็จะละความคิดฝ่ายชั่ว ทำจิตให้เป็นสมาธิได้ . เปรียบเหมือนคนเดินเร็ว เดินช้าลง หยุด ยืน นั่ง นอน สละอิริยาบถหยาบ ๆ ลง สำเร็จอิริยาบถละเอียดขึ้น.

    ๕. เมื่อใส่ใจถึงที่ตั้งแห่งเหตุของความคิดฝ่ายชั่วเหล่านั้น ความคิดฝ่ายชั่วยังเกิดขึ้น ก็พึงเอาฟันกดฟัน เอาลิ้นกดเพดาน ข่มขี่บีบคั้นจิต. เปรียบเหมือนคนมีกำลังกว่า จับคอคนมีกำลังน้อยกว่า ข่มขี่บีบคั้นฉะนั้น.


    <CENTER>สรุป </CENTER>เมื่อทำได้อย่างนั้น ภิกษุนี้ชื่อว่าชำนาญในทางที่เกี่ยวกับความคิด ( วิตก ความตรึก ) ประสงค์จะคิดเรื่องอะไร ก็คิดได้ ไม่ประสงค์จะคิดอะไร ก็ไม่คิดได้ นับว่าตัดตัญหาได้ คลายเครื่องรัดได้ ทำความทุกข์ให้ถึงที่สุดได้ ด้วยการตรัสรู้เรื่องจิตใจโดยชอบ.
    ที่มา:
    http://www.larnbuddhism.com/tripitaka/prasuttanta/4.2.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 ธันวาคม 2007
  3. แอบยิ้ม

    แอบยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +455
    "อย่าลืมนะ ไม่ต้องตั้งท่าอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องจ้อง ไม่ต้องจับ ไม่ต้องชก ไม่ต้องฉกให้ไว"
    ขออภัยเถอะครับ คุณเล่าปัง....
    แล้วจะให้พวกเราทำอีท่าไหนกันล่ะครับ ?
    อีกอย่างปกติพวกเราก็ไม่ได้ "ชก" ไม่ได้ "ฉก" กันอยู่แล้วนี่ครับ ?
    หรือเป็นเพียงคำขำขัน...เฉลยด้วยครับ
     
  4. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    มารเอ๋ย เจ้านี่ร้ายนัก
    บัดนี้เล่ห์เหลี่ยมของเจ้าถูกเปิดเผยขึ้นมาอีกแล้ว
    ต่อไปจะมามุขไหนอีกล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    ขออนุโมทนากับท่านนักปฏิบัติที่รู้ทันพญามาร
    สาธุ
     
  5. นาๆจิตตัง

    นาๆจิตตัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +412
    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป........ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
    ถ้ามันไม่ดับ......เราก็ดับความคิดของเราเสีย........
    บางทีก็หักเห...เบี่ยงเบนความคิดไปทางอื่นเสีย เช่นอ่านหนังสือธรรมะ ฟังธรรม ฯลฯ
    ถ้ามันยังไม่อ่อนกำลังลง ก็ต่างคน ต่างอยู่ (เหมือนมีสองร่างในคน คนเดียวหรือ TWO in ONE) ฟังหรืออยู่
    แต่ด้านดี เดี๋ยวมันก็อ่อนกำลังลง นานๆเข้าก็เกิดห่างออกไปๆหรือจนหายไปในที่สุด
    คิดเสียว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่มีกิเลสหรือยังไม่หมดกิเลส ซึ่งก็ต้องมีของมันอยู่..........
    มันมาบังคับเขี่ยวเข็ญเราอยู่ เมื่อมีมันก็แสดงว่าเราต้องฝึกฝนให้มาก.......
    ถ้ามันหายไป ก็แสดงว่าเราก็แข็งแกร่งหรือเก่งขึ้น....
    หรือคิดเสียว่าชิวิตในวัฏฏสงสาร ทั้งสามภพ ภพในอบายทรมานกว่านี้เยอะ.....
    ความทุกข์ทรมานที่ได้รับยังน้อยกว่าตั้งมากมาย แต่ถ้าเราหยุดไม่สู้กับอุปสรรค ปัญหา
    อบายอาจเป็นที่ไปของเรา.....คงไม่น่ารื่นรมณ์หรือสนุกเป็นแน่แท้ในอบายภูมิเบื้องล่าง.........
    กำลังใจ...บารมีเราต้องสร้างอีกมากมาย.... นิ่ง เฉย อะไรจะเกิดก็ช่าง(ความคิดเป็นอาหารของจิต)
    ฉันจะสู้......ให้ถึงที่สุด หยุดกับนิ่งเข้าไว้....... สนใจจดจ่อกับกรรมฐานของเรา(ทั้งลืมตาหรือหลับตา)
    นิพพานเป็นเป้าหมายที่จะไปของเรา สักวันหนึ่งหรือในขณะนี้เราต้องไปอยู่ที่นิพพาน
    ..............................................................
    ก็อยากจะบอกว่า วิธีที่ดีที่สุด คือ....อย่าไปคิดหรือนึกถึงมัน..........(ให้ฝึกคิดหรือนึกแต่สิ่งที่ดีๆมีธรรมะ)

    ปล.อย่าลืมขอขมาพระรัตนตรัยทุกๆวันหรือทุกครั้งที่สวดมนต์หรือนั่ง ทำกรรมฐาน
     
  6. สตางค์แดง

    สตางค์แดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2006
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +406
    นึกว่ามีแต่คนอย่างผมเป็นคนเดียวซะอีก ที่แท้ก็มีคนเป็นเหมือนเราเหมือนกัน
    นึกอยากถามผู้รู้นานแล้วแต่ไม่รู้จะถามใคร ขอบคุณนะครับที่ช่วยให้ความกระจ่าง(มีเพื่อนแล้วโว้ย)
     
  7. magic_storm

    magic_storm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +3,053
    เป็นกันจนเป็นสาธารณะเลยล่ะคับ ตอนแรกๆก็ทำใจไม่ได้เลย ว่าตัวเองไม่ดี ทำไมถึงคิดอย่างนั้น ทั้งๆที่เคารพพุทธ ธรรม สงฆ์ สุดๆ จนต้องไปขอคำชี้แนะจากพระวัดสามแยก ท่านก็บอกว่า เป็นเพราะสัญญาณของเจ้ากรรมนายเวรด้วย ให้ขอขมาเขาเยอะๆ อุทิศบุญให้เยอะๆ เขาก็จะได้ไม่ส่งสัญญาณมา

    ตอนนั้นไม่รู้เพราะสาเหตุเกิดจากอะไร จิตใจก็ได้แต่สับสนวุ่นวาย กลัวบาปที่จะเกิดขึ้น กลัวนรกสุดๆ แต่ก็ได้คำตอบ ตามนี้เลยคับ


    คำถาม

    คำตอบ


    ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเกิดขึ้นแล้ว มีมาแว๊บๆบ้าง แต่ก็รู้แล้วว่าเกิดจากอะไร ซึ่งไม่ใช่เกิดจากความคิดของเราโดยแท้แน่นอน รู้ตามให้ทัน นั่นแหละ ดีที่สุด

    รู้ผิดให้รู้แก้นะคับ
     
  8. samson3

    samson3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2005
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +135
    กรณีแบบนี้ผมเป็นมาเกือบปีและ ไม่รู้เรื่องเลย นี้เราเลวมากเลยนะเนี่ยไปปรามาสทั้ง ครูบาอาจาน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วย มิน่าไปไม่ถึงไหนสักที เหอๆ
     
  9. sutthida

    sutthida เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +3,388
    เป็นเหมือนกัน แต่ถ้าเรารู้เท่าทันมัน มันจะหายไปโดยอัตโนมัติค่ะ ไม่ต้องไปฝืน หรือบังคับมัน แค่รู้ทันมันหายเองค่ะ ตอนนี้สำหรับเอเอ โดนบททดสอบอีกบทแล้วค่ะ ตอนกลางวันเราจะพยายามรักษาศีล 5 ให้ได้ พยายามที่จะให้คลุมถึงกรรมบท 10 ด้วย ตอนแรกก็รู้สึกเหนื่อย เหมือนมันจะต้องบังคับตัวเอง แต่พอทำมาได้ซักพัก รู้สึกเหมือนมันเป็นโดยอัตโนมัติ ตอนกลางวันเราตั้งใจรักษาศีล แต่ตอนกลางคืนนี่ดิ ทำไมศีลขาดแทบทุกคืน ฝันร้ายทุกคืน จนนอนไม่หลับ เริ่มเครียด เริ่มหมดกำลังใจ ยกตัวอย่างนะคะ ถ้าตอนกลางวัน ของๆใคร ถึงแม้ว่าเราอยากได้แค่ไหน เราไม่ขโมยอยู่แล้ว แต่ในความฝันมันขโมยดะเลย แล้วอย่างกลางวันมีคนมาด่า มาว่า เอเอข่มได้ เอเอก็ข่ม เพราะปกติเป็นคนไม่ค่อยโกรธใครอยู่แล้ว แต่ในความฝันมันเล่นจิกหัวตบเขาเลย เล่นเอาดาบไปไล่ฟันเขาเลย ด่าเขาบ้าง แช่งเขาบ้าง พอตื่นขึ้นมาตกใจมาก รู้สึกทุกข์ใจ ตอนแรกคิดว่ามันเป็นจิตใต้สำนึกของเราหรือเปล่า ทำไมเราตั้งใจปฏิบัติแต่กลับเป็นแบบนี้ เสียใจมากโทรไปปรึกษากับพี่ที่รู้จักกันท่านนึง เขาบอกว่ามารเขามาลองกำลังใจเรา เขาจะมาตอนที่เราเผลอ เขาจะมาตัดกำลังใจเรา เขาบอกว่าอย่ามานึกเสียใจเลย ให้เอามาเป็นกำลังใจดีกว่า มาเราเริ่มมาถูกทางแล้ว พอได้ยินแบบนี้แล้วก็เริ่มมีกำลังใจแล้วค่ะ สู้ สู้

    ไม่ขอเกิดอีก ไม่ขอเกิดอีก
    ขอตามหลวงพ่อไปพระนิพพาน
     
  10. เปลือกไม้

    เปลือกไม้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    15,448
    ค่าพลัง:
    +39,087
    "แต่ตอนกลางคืนนี่ดิ ทำไมศีลขาดแทบทุกคืน ฝันร้ายทุกคืน จนนอนไม่หลับ เริ่มเครียด เริ่มหมดกำลังใจ" กิเลสมันสู้เราตอนกลางวันไม่ได้ก็เลยมาเล่นตอนกลางคืน ยังไงก็เอาชนะมันให้ได้นะครับ อย่าลืมว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือบททดสอบกำลังใจเราทั้งนั้น ขออนุโมทนา
     
  11. เทพบุตร

    เทพบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +114
    เคยเป็นครับ ตอนนี้หายแล้วครับ เข้าใจว่าน่ามาจากการนั่งสมาธิ แล้วทำให้จิตใจ ละเอียดมากขึ้น การแก้ปัญาหาเบื้องต้น ให้ท่านแยกจิตออกเป็นกองไป ทั้งฝ่ายดี และฝ่ายไม่ดี คือทั้ง2กองก็มิใช่ตัวเรา เมื่อสบถ คำหยาบออกมา ให้บอกตัวเองว่า นั่นมิใช่ตัวเรา ถ้าเป็นเราจะไม่ทำอย่างนั้นแน่(วิธีนี้ไม่หายขาดนะครับ จากประสบการณ์ที่ผมเคยใช้) ถ้าให้หายขาดจริงๆ แนะนำให้ไปฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ที่วัดมหาธาตุ สนามหลวง คณะ5 ครับ
     
  12. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    เฮ่ย(จำพี่ได้ปะ)

    อันนั้นเรียกเจ้ากรรมมาเล่นนะ...
     
  13. เรียนรู้ธรรม

    เรียนรู้ธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2007
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +250
    (good)

    ผมก็เป็นเหมือนกันครับ แต่พยายามไม่ไปยึดติด ตั้งใจปฏิบัติแทนครับ
    เมื่อก่อนคิดว่าเรานี่เลวจริงๆ คิดไปในทางที่ไม่ดี คิดแต่ในเรื่องกามมั่ง กิเลสมั่ง
    คิดว่าชาตินี้เราคงเลวเกินที่จะปฏิบัติครับ แต่พยายามที่จะข่มมัน
    พอรู้ว่ามันเป็นของมันอย่างนี้เอง และก็มีผู้ที่เป็นเหมือนกันเลยรู้สึกมีกำลังใจครับ ขอให้ทุกท่านเร่งปฏิบัติครับ ขอให้เจริญในธรรม....สาธุ
     
  14. Deejang

    Deejang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +311
    เป็นเหมือนกันตอนนั้นเห็นพระไม่ได้เลยด่าตลอด แต่ตอนนี้น้อยลงนะแต่ก็ยังไม่หาย
     
  15. pom25

    pom25 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2007
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +409
    พระท่านบอกว่า"อารมณ์เหล่าใดบรรดามีในโลกสติเป็นเครื่องกั้นอารมณ์เหล่านั้น"
    ผมเคยอ่านประวัติของหลวงตามหาบัว ตอนที่ท่านจิตตก จิตเสื่อม สรุปได้ว่า ให้บริกรรมภาวนา คำภาวนาที่เราใช้อยู่ แบบถี่ๆ ให้จิตมันนึกถึงแต่คำภาวนา โดยไม่ให้ส่งออกไปคิดเรื่องอื่นเลย บ่อยๆเข้าก็ดีขึ้น

    คุณลองเสิชคำว่า"จิตเสื่อม"ดู ประวัติของหลวงตามหาบัวดู ผมอ่านแล้ว รู้สึกว่าดี
     
  16. [11.59]

    [11.59] Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +54
    อนุโมทนาคำปรึกษาที่ให้นะครับ แค่ได้ทราบว่าอย่างน้อยก็มีคนจิตตกเหมือนเราทุกข์ก็หายไปครึ่งแล้วครับผม ขอบคุณมากครับ เหลือแต่ต้องแก้ตามคำแนะนำให้ล่วงครับสู้ๆครับ
    มีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำให้แผ่บุญกุศลครับ ตกที่ไหนก็แผ่มันตรงนั้นครับ สาธุ
     
  17. WLL_1514

    WLL_1514 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +40
    ผมก็เคยเป็นครับ ระยะแรก ๆฉุดกระชากกันน่าดูเลยครับ เจ็บปวดมากเหมือนโดนมีดกรีดดวงใจแล้วเอาไปแช่เกลือ เดิน ๆอยู่,กินอยู่ ก็เป็น
    ไม่รู้อะไรกันนักหนารำคาญมากไม่มีเหตุผลเลย,จึงตัดสินใจลงไปควานหาข้างใน ปรากฏว่าไม่มีจุดกำเนิดเลย มันเมือนเชื้อไวรัสติดกันไปเรื่อย ๆ ปลิ้นปล้อนไปได้แบบน้ำ้ขุ่น ๆ เลยไม่รู้ว่าจะทำไง จึงตัดสินใจปล่อยให้มันทำไปแล้วดูมันไป แต่ก็มีลงไปเสวยอารมณ์ในบางครั้ง คงเป็นเพราะสติยังไม่แข็งแรง ตอนนี้เบาบางลงบ้างแล้วคงเป็นเพราะใช้วิธีดูจิตของ หลวงพ่อปราโมชย์ ปราโมชโช ตามไปเก็บเกี่ยวเคล็ดวิชชาได้เลยครับที่ www.wimutti.net
     
  18. ศราวุธ

    ศราวุธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +567
    ทำไมเป็นกันเยอะจังทั่วบ้านทั่วเมือง ผมก็เป็นเหมือนกัน ด่าในใจดะไปหมดตั้งแต่พระระดับสูงๆจนถึงครูบาอาจารย์ที่สอนหนังสือ ด่าแบบลามกหยาบคายแบบคุมไม่ได้ มันแว๊บลั่นจากความคิดออกไปเอง คิดว่าตัวเองเป็นโรคจิต เป็นมาตั้งแต่วัยรุ่นจนเดี๋ยวนี้เริ่มเข้าวัยกลางคน มันค่อยๆหายไปเอง
     
  19. ภากร2

    ภากร2 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +85
    เป็นเหมือนกันครับแปลกใจกับตัวเองอยู่นานว่าเราเป็นอะไรไปทำไมชอบนึกปรามาสพระรัตนตรัยจนได้อ่านหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรมของหลวงพ่อฤาษีจึงได้เข้าใจ
     
  20. เทพรัญจวน

    เทพรัญจวน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +248
    อนุโมทนาสาธุครับ

    ผมว่าจิตของเรามันไว เห็นอะไร ได้ยินอะไรก็คิด ยิ่งรู้มาก

    และมีความลังเลสงสัย ก็คิดมาก

    เราจะหยุดไม่ให้คิดได้อย่างไร หรือจิตเรายังไม่นิ่งสงบพอ

    ผมก็มีอาการแบบนี้ ยังคิดเลยว่ าเป็น "โรคจิตหรือเปล่า"(tm-love)
     

แชร์หน้านี้

Loading...