การทดลอง การมองเห็นผี เห็นวิญญาณ ด้วยน้ำตาหมาดำ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Silver11Wing, 28 มีนาคม 2014.

  1. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    ผมจะทำการทดลอง การมองเห็นผี เห็นวิญญาณ ด้วยน้ำตาหมาดำครับ

    เพื่อเป็นการค้นคว้าว่าน้ำตาหมาดำใช้เห็นผีได้จริงหรือไม่

    และทำให้พิสูจน์ได้ด้วยว่าผีและวิญญาณมีจริง

    โดยตามตำราต้องเป็น หมาดำล้วนครับ ต้องไม่มีขนสีอื่นปนเลย


    จึงอยากจะมาขอเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านทุกคน

    หากใครเลี้ยงหมาดำล้วนอยู่

    และสนใจการทดลองนี้ แจ้งมาเลยครับ

    ผมจะไปทำการเอาน้ำตาหมาดำกับท่าน เพื่อมาทำการทดลองครับ


    โดยการเอาน้ำตาหมา เราไม่ได้ทำให้หมาร้องไห้นะครับ
    (จริงๆก็ไม่รู้ว่าหมาเค้าร้องไห้กันหรือเปล่า เพราะไม่เคยเห็นเลย)

    แต่เราจะทำให้เค้าแสบตานิดหน่อย เพื่อให้น้ำตาของเค้าไหลครับ

    ถ้าเจ้าของหมาดำท่านใดสนใจ ติดต่อมาได้เลยครับ
     
  2. แก้วทิพย์

    แก้วทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ระมัดระวัง ตาอักเสบนะคะ
     
  3. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,515
    มีวิธีอื่นเยอะเยะไปที่จะหาทางเจอผีนะ อย่าไปรบกวนหมาเถิด สงสารมัน อยู่ๆไปทำให้มันแสบตา เพื่อจะเอาน้ำตามัน ถ้ามันไหลได้ตลอดเหมือนดราม่าก็ว่าไปอย่าง ฉันมีก็ไม่ให้ อย่ารบกวนสัตว์ เป็นการทรมานเป่าก็ไม่รู้
     
  4. ยากูซ่าา

    ยากูซ่าา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +808
    ในฐานะคนรักหมา
    ขอค้านอีกหนึ่งเสียงค่ะ
     
  5. serm

    serm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +331
    ได้ผลทดลองอย่างไร มารายงานด้วยนะครับ
    วิจัยเชิงวิทยาศาตร์ ให้ได้ผลทดลอง จับต้องได้ ก็ต้องมีการ บันทึกข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจน สามารถ ทำซ้ำได้ ก็ OK เลยนะครับ
     
  6. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    ขอสนับสนุนการทดลองหนึ่งเสียง

    งานนี้หมาต้องยอมเสียสละครับ
    เพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติ

    เค้าเถียงกันมาแล้ว ว่าผีมีจริงหรือไม่
    ถ้าหมามันรู้ ว่าน้ำตามันยิ่งใหญ่แค่ไหน
    น้ำตานั้น คงเป็นน้ำตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจล่ะมั้ง นะ ๕๕๕


    โคนัน ยอดนักสืบ / โคแนน ยอดคนแดนเถื่อน
     
  7. สิบหก

    สิบหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    681
    ค่าพลัง:
    +603
    ขอ .... อนุญาติ ครับ หมาเนี่ย ต้องเป็น บ้าน หรือ มหาวัดครับ
    และ หมาฝรั่ง หรือ หมาไทย ครับ ถ้าเป็นหมาไทย เอาหลังอานหรือไม่อานดี ละครับท่าน...:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. serm

    serm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +331
    แค่พุดเดิ้ลก็น่าจะพอแล้วครับ
     
  9. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,578
    :boo::boo::boo:อย่าไปรังแกหมาเลย บาปเปล่าๆ และจะหาได้หรือขนดำหมดทั้งตัว หมาดำแก่มีหงอกสีขาวแซมคงหมดสิทธิ์ และน้ำตาหมาต้องใช้กี่ซีซีละ อิอิอิสงสารหมาเถอะ...:':)':)'(
     
  10. sirigul

    sirigul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    806
    ค่าพลัง:
    +2,515
    ถ้าหมามันพูดได้ มันคงพูดแล้วละ เมิงไม่รู้หรือ เวลาตรูหอนอะ แสดงว่าเห็นผีแล้ว พวกเมิงจะเอาไรอีก โอ้ยคันขอเกาก่อนๆๆ
     
  11. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    ข้างบ้าน ดำปลอดทั้งตัวเลย
    แต่เจ้าของคงโนเคค่ะ
    catt3

    แมวดำพอได้มั๊ยค่ะ เอาไปทดลองให้กระโดดข้ามโลงที่มีศพ เห็นว่าวิญญาณจะเฮี้ยนน่าดู
    :z16:z17
     
  12. Candle_Flame

    Candle_Flame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +240
    พูดตรงๆก็คือมันไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่เลยละครับ จะทำอะไรก็ทำไป แต่ทำไมต้องให้หมาดำเดือดร้อน และจะเดือดร้อนมากยิ่งขึ้นถ้าการทดลองได้ผล
    - คุณจะอยากเห็นผีไปทำไม
    - พิสูจน์ไปเพื่ออะไร ได้ประโยชน์อะไร
    - ฯลฯ

    ถ้าชอบลองของ เล่นของพวกนี้ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่า คุณไม่รู้ หรือไม่เชื่อว่าผีมีจริง จนถึงขนาดต้องมาพิสูจน์ด้วยวิธีการแบบนี้
    แต่จงเชื่อเถอะครับว่า เวรกรรม บาป บุญ คุณ โทษ น่ะ มีจริง เชิญพิสูจน์คำสอนของพระพุทธองค์ได้เลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2014
  13. Penty

    Penty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2014
    โพสต์:
    475
    ค่าพลัง:
    +1,580
    เอ่อ ลองเอาวิธีที่ไม่เบียดเบียนน้องหมาดีมั้ยคะ มีตั้งหลายวิธี
     
  14. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570
    การทดลองนี้มีประโยชน์มากครับ

    เป็นเหมือนการเปิดประตูวิทยาศาสตร์โลกวิญญาณ

    หากเราได้พบ ได้เห็น ผีหรือวิญญาณ และได้พูดคุยกัน

    จะทำให้เราทราบอะไรหลายๆอย่าง เกี่ยวกับการดำเนินไปของเราหลังความตายจะเป็นยังไง

    ได้ทราบว่า บาป บุญ ส่งผลยังไงบ้าง

    ทำให้คนที่ไม่เชื่อ มีหนทางที่จะพิสูจน์ เรื่องจิต เรื่องวิญญาณ เรื่องบาป บุญ ได้


    โดยส่วนตัวผมเชื่อเรื่องจิต เรื่องวิญญาณ เชื่อในพระพุทธศาสนา

    ได้ปฎิบัติธรรม ได้รู้แล้วว่าสุขสงบเป็นยังไง ได้รับรู้ถึงจิต รู้ถึงตัวเราที่เป็นจิต ได้รู้แล้วว่าตัวเราแท้จริงคือจิตไม่ใช่สมอง

    ได้สัมผัสเรื่องเหนือวิทยาศาสตร์ทางวัตถุบ้าง แต่ก็ไม่สามารถพิสูจน์ให้ผู้อื่นรู้ได้

    เรื่องราวที่เป็นวิทยาศาสตร์ทางจิต ทางวิญญาณ เป็นปัจจัตตัง ไม่สามารถแสดงให้ผู้อื่นรู้ได้ ต้องให้ผู้อื่นปฎิบัติและรับรู้ได้ด้วยตัวเอง

    หากมีวิธีที่จะทำให้ผู้อื่นรู้ได้โดยง่าย อาจจะเป็นวิถีทางนำไปสู่ความรู้ใหม่ๆ ที่มีวิธีที่พิสูจน์ได้ชัดเจน

    ผมว่ามันน่าสนใจดีนะครับ


    เรื่องการเบียดเบียนสัตว์บอกตามตรงว่าไม่อยากทำเหมือนกันครับ

    เป็นคนที่ยึดถือและกลัวเรื่องการเบียดเบียนผู้อื่นเป็นที่สุด

    แต่หากวิถีทางนำมาซึ่งประโยชน์ส่วนรวมอย่างมหาศาล

    ก็น่าจะเป็นวิถีที่น่าลองไม่ใช่หรือครับ

    น้องหมาเสียสละน้ำตาเล็กน้อย กับความรู้สึกแสบตานิดเดียวครับ ไม่ได้จะทำอะไรรุนแรงกัน

    ส่วนผมจะยอมทำบาปน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเปิดประตูสู่การพัฒนาไปอีกขั้นในโลกของเราครับ


    เรื่องราวในโลกเราเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ แบบที่ผมจะทำอยู่นี้ มันเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน

    และคาบเกี่ยวระหว่าง ความดี ความไม่ดี ความถูกต้อง ความไม่ถูกต้อง ซึ่งสุดท้ายแล้ว

    เรื่องการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ เรื่องวิทยาการต่างๆนั้น เป็นดาบสองคมอยู่แล้วครับ

    ถ้านำไปใช้ดีก็ได้ประโยชน์มากมาย ถ้านำไปใช้ไม่ดีกลัวเกิดโทษมากมาย เช่นกัน

    แต่สุดท้ายแล้วการพัฒนาต่างจะทำให้เราได้เรียนรู้และก้าวไปสู่สัจธรรมความเป็นจริงสูงสุดเพียงหนึ่งเดียว ที่จะทำให้เราทุกคนหลุดพ้นครับ


    ที่ผมบอกแบบนี้ คนที่ศึกษาพระพุทธศาสนาจริงๆ และปฎิบัติธรรมจริงๆ ส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วย เพราะ ต่างก็รู้ว่าเส้นทางที่พระพุทธองค์ทรงสอนนั้นเป็นหนทางที่เร็วที่สุด ดีที่สุด ในการไปสู่สัจธรรมและการหลุดพ้น

    แต่เส้นทางที่ผมกำลังลองอยู่นี้ ไม่ใช่สำหรับคนที่เดินตามพระพุทธองค์ครับ แต่เป็นเส้นทางของคนที่ไม่ได้เดินตามพระพุทธองค์

    คนเราถ้าไม่ได้เดินตรงไป ก็จะไปซ้ายบ้าง ขวาบ้าง คนพวกที่ไม่ได้เดินตรงนี้แหละครับที่เค้าน่าสงสาร ต้องเดินวนเวียน เวียนว่ายตายเกิด ไม่ได้หลุดพ้นสักที

    วิธีที่จะทำให้คนเหล่านี้หลุดพ้นก็คือ ให้เค้าเดินไปสุดทางที่เค้าเลือก แม้จะเป็นทางที่ไม่ถูก แต่เมื่อเค้าไปสุดแล้ว เค้าก็จะเรียนรู้ว่า ทางที่จะหลุดพ้นที่แท้จริงนั้นต้องไปทางไหน

    สุดท้ายเค้าก็จะได้เดินไปสู่จุดหมายเดียวกับ ผู้ที่เดินตรงครับ


    สรุปก็คือ เส้นทางนี้ที่ผมกำลังทำอยู่นี้ เป็นการเร่งให้คนที่เป็นมิจฉาทิฎฐิ เดินไปสุดทางโดยเร็ว และเรียนรู้ว่ามันผิดทางแล้ว จากนั้นเค้าเหล่านั้นก็จะค้นหาเส้นทางที่เป็นสัมมาทิฏฐิ ที่พระพุทธองค์ทรงสอน และเดินตามทางนั้น เพื่อไปสู่การหลุดพ้นในที่สุด

    แนวคิดนี้ ได้มาจากการสังเกตุคนในโลกตะวันออก ดินแดนที่คนส่วนใหญ่พัฒนาไปทางด้านวัตถุ สุดท้ายแล้วเค้าก็ไม่พบเส้นทางหลุดพ้นที่แท้จริง และหลายคนก็หันมาปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ค้นหาทางหลุดพ้น

    จะเห็นได้ว่าคนเราเมื่อเดินไปสุดทางที่ผิดแล้ว เมื่อรู้แล้วว่าผิด ก็ย่อมต้องมองหาทางใหม่ ค้นหาทางที่ถูก ถ้าเราสร้างเส้นทางที่ง่ายต่อการมองเห็น ทางที่ถูกให้กับพวกเค้า ก็จะทำให้พวกเค้าเดินเข้าเส้นทางที่ถูกโดยเร็ว

    อาจจะเขียนดูยิ่งใหญ่เกินไป หรืออาจจะลึกเกินกว่า ที่ใครหลายคนจะเข้าใจ

    หากผิดพลาดประการใด หรือกระทบความรู้สึกใครหลายคน ผมขออภัย และขออโหสิกรรมด้วยนะครับ
     
  15. serm

    serm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +331
    ถ้าความจริงเรื่องวิญญาณ สามารถพิสูจน์ด้วย วิธีทางวิทยาศาสตร์ จะทำให้ปฏิวัติ ทุกวงการในโลก กันเลยทีเดียวครับ ได้แค่รางวัลโนเบลก็ยังน้อยไป แต่โดยส่วนตัวคิดว่า แค่น้ำตาหมาดำ คงไม่ได้ทำให้เจอได้ง่าย ๆ ผมว่าวิธีการหา มันต้องยากกว่าวิธีในการค้นพบ อนุภาคพระเจ้าของ CERN มากมายเป็นร้อยเป็นพันเท่าครับ ฟันธง เทคโนโลยีปัจจุบัน ยังมิอาจ สกัด อนุภาค วิญญาณได้หรอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  16. Silver11Wing

    Silver11Wing ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +570

    วิธีนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นครับ

    เป็นอิฐก้อนแรก ที่จะวางเป็นฐานของปิระมิดที่สูงเสียดฟ้า

    ซึ่งนั้นก็หมายถึง ยังต้องการอิฐอีกหลายก้อนครับ สำหรับวางเป็นฐาน

    ก่อนที่จะต่อยอดสูงขึ้นไป


    ผมมองว่า วิทยาศาสตร์ทางวัตถุในปัจจุบัน มีพื้นฐานมาจาก

    ความสามารถพื้นฐานในการรับรู้สิ่งภายนอกของมนุษย์ หรือประสาทสัมผัสทั้ง 5 นั้นเอง

    ซึ่งก็คือ การมองเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การรู้รส การสัมผัส

    แต่สิ่งที่ผมต้องการค้นหา อยู่นอกเหนือประสาทสัมผัสทั้ง 5 ตามปกติของมนุษย์ไป

    จึงบอกได้ว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย หรือเป็นไปได้ยากมากๆ ที่จะค้นพบด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ทางวัตถุเป็นฐานในการค้นหา


    ผมจึงมองไปที่ศาสตร์ลี้ลับอย่างอื่นที่จะต้องช่วยแก้โจทย์เงื่อนไขความเป็นปัจจัตตังด้วย

    เพื่อให้สามารถพิสูจน์ได้อย่างเป็นสาธารณะ คือใครๆก็พิสูจน์ได้ถ้าต้องการ

    จะทำให้ฐานความรู้ใหม่ของเรา มีวิธีการพิสูจน์รองรับชัดเจน

    ไม่ต้องสับสน ไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องอาศัยความเชื่อ ความศรัทธาใดๆ

    เพราะทุกคนสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเอง


    สิ่งนึงที่ผมจะขออนุญาติแนะนำคุณ serm ขอให้ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ คือ

    จากสิ่งที่ผมเรียนรู้มา การค้นคว้า การแก้ปัญหาใดๆ

    ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ ขนาดของมันไม่ได้เป็นปัจจัยที่จะส่งผลโดยตรงกับวิธีการแก้ปัญหาเลยครับ

    บางครั้งปัญหาที่ดูใหญ่ ดูยาก ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการง่ายๆครับ

    เพราะฉะนั้น แนวทางการแก้ปัญหาของผม ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญครับ

    สำคัญที่วิธีการแก้ควรจะง่ายที่สุด แต่ตรงเป้าหมายที่เราเล็งไว้ครับ


    ผมแก้โจทย์ทีละขั้นครับ ปัญหาแรกที่ผมมองอยู่ คือ

    เรามีความรู้เกี่ยวกับโลกทางจิตวิญญาณที่ชัดเจนน้อยมากครับ

    ดังนั้นสิ่งแรกที่ผมควรทำ คือ หาข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับโลกทางจิตวิญาณ

    ย้ำว่าต้องเป็นข้อมูลที่ชัดเจนอ้างอิงได้นะครับ

    ไม่ใช่ข้อมูลแบบที่เล่าต่อกันมา สัมผัสได้อยู่คนเดียว ถ่ายทอดใครไม่ได้

    ต้องเป็นข้อมูลที่ชัดเจน สัมผัสได้ครับ และใครๆก็สัมผัสได้

    หลังจากติดต่อสื่อสารกับโลกฝั่งโน้นได้ แน่นอนว่าจะมีข้อมูลอะไรอีกหลายอย่างที่เราไม่รู้

    อาจจะมีองค์ความรู้จากโลกฝั่งโน้น ที่ช่วยให้คนฝั่งนี้ได้สัมผัสกับโลกฝั่งนู้นอย่างง่ายดายเลยก็เป็นได้

    และถ้ามีจริงๆก็จะเป็นก้าวที่ใหญ่มากครับสำหรับวิทยาศาสตร์ทางจิตวิญญาณ


    ยังไงก็ขอขอบคุณ คุณ serm มากครับ ที่สนใจ สนับสนุน และเข้ามาคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์

    ขอบคุณมากครับ
     
  17. sron2006

    sron2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,202
    ไม่เชื่อต้องศึกษา ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้ ...............

    เริ่มแล้วสินะ
     
  18. raming2555

    raming2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,552
    ค่าพลัง:
    +18,993
    อาจจะใช้วิธีทำให้หมาหัวเราะ จนน้ำตาเล็ด เพื่อให้ได้น้ำตาหมาดำ มาก็ได้ครับ ไม่เป็นการทรมานจิตใจท่านทั้งหลายที่รักหมา...

    สิ่งประดิษฐ์สุดท้ายที่สร้างไม่เสร็จของ เอดิสัน คือ เครื่องสื่อสารกับโลกวิญญาณ แหม..ถ้าสร้างได้จริงๆล่ะก็นะ...

    เรื่องเปิดตาทิพย์นี้ ลูกน้องผมไปเปิดมาจากปู่เจ้าสมิงพราย ทั้งที่จริงๆไม่ได้ตั้งใจอยากเปิดตาที่สามเพื่อให้เห็นสิ่งใดๆ แต่เป็นการท้าทาย ลองของกันเสียมากกว่า ...
    แต่นั้นมาก็สามารถเห็นผี ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งที่กลางวันแสกๆ
    ผลข้างเคียงของมันคือ เธอคนนี้ไม่สามารถควบคุมการเห็นได้ว่าเวลาใดควรเห็นอะไร เวลาใดไม่ควรเห็น เป็นเหตุให้กลางคืนนอนไม่ค่อยหลับเพราะมีผีมาคอยจับ คอยกวนตลอด จนมีการทะเลาะกับผีบ้าง ด่าผีบ้าง สุดท้ายต้องยอมทำบุญให้ทุกๆวันพระ เพราะวันโกนพวกนี้จะมากันเต็มห้อง สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า
    แม้กระทั่งเข้าห้องน้ำ เจอกระจก ภาพในกระจกก็เป็นอีกคนหนึ่ง จนต้องเอากระจกทุกบานในห้องออกไป...

    ผมได้ลองถามผู้ที่คลุกคลีอยู่กับเรื่องพวกนี้ก็ได้ความว่า วิชานี้เป็นวิชาของปู่เจ้าสมิงพราย ที่สามารถเปิดตาทิพย์ให้ได้ แนวทางนี้ก็น่าจะง่ายเหมือนกันนะครับ ส่วนปู่เจ้าสมิงพรายอยู่ที่ไหน อันนี้คิดว่าถามลูกมหา๑ น่าจะดีกว่า........เมื่อได้ตาทิพย์มาแล้วก็ไปลุยบ่อนที่มาเก๊าก็ดี ไปซื้อหวยล็อตโต้ที่อเมริกา ก็น่าจะได้...

    ว่าแต่ก็ขอเตือนไว้ว่า สิ่งใดในโลกนี้ มีดีก็มีร้าย มีได้ก็มีเสีย จะตัดสินใจทำอะไรลงไปก็ขอให้รอบคอบ ใคร่ครวญให้ดี ว่าคุ้มค่ากันไหม...
    สุดท้ายนี้ก็ขอให้โชคดี ประสบความสำเร็จนะครับ..
     
  19. ยากูซ่าา

    ยากูซ่าา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +808
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
    เห็นด้วยสุดๆ
    น่ารักจัง ตรงที่บอกว่าให้หมาหัวเราะ ก็เป็นความคิดที่ดีนะคะ
    หัวเราะมากๆจนน้ำตาเล็ด ก็จะได้น้ำตาหมา
    ดีนะคะ น้องหมาคงจะมีความสุข
    ว่าแต่จะทำยังไงให้น้องหมาเค้าหัวเราะน๊า
     
  20. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ไสยเวทย์ฝ่ายมาร กฏข้อ๑ ช่วยเอาผีบริวารไปให้ช่วยเลี้ยงไว้ใช้งาน


    ขออนุญาตครับ

    ไสยเวทย์ฝ่ายมาร กฏข้อ๑ ช่วยเอาผีบริวารไปให้ช่วยเลี้ยงไว้ใช้งาน

    ถึงขั้น ช่วยเอาผีบริวารไปให้ช่วยเลี้ยงไว้ใช้งาน แล้วซินะ

    นี่ไงครับ ไสยเวทย์ฝ่ายมาร ใช้เปรต ใช้ผี มาช่วยทำงานให้

    ค่อยๆบีบ ค่อยๆตะล่อม สุดท้าย ก็จะกลายเป็นครึ่งคน ครึ่งผี เสียเอง

    พระพุทธองค์ ได้ทรงสอนให้เรา ทำบุญสร้างกุศล

    ให้ตนเอง แล้วค่อยเผื่อแผ่ ไปยังผู้อื่น เป้าหมายเพื่อให้โลกสงบสุข

    พระโพธิ์สัตว์ ได้ทรงสอน ให้เรา ทำบุญสร้างกุศลให้ตนเอง

    แล้วค่อยเผื่อแผ่ไปยังเพื่อนมนุษย์ และเหล่าเทวดาทั้งหลาย

    เพราะว่า เหล่าเทวดา มีจำนวนมากกว่ามนุษย์มาก

    ทำให้การสร้างบุญกุศล เผื่อแผ่ให้เหล่าเทวดา และ การสร้างกุศลร่วมกับเหล่าเทวดานั้น

    ให้กุศลผลบุญ ทวีคูณได้มากกว่า เพราะเหล่าเทวดา ช่วยมนุษย์ได้มากกว่าเหล่ามนุษย์ด้วยกัน

    ส่วนสายไสยเวทย์นั้น กลับทำตรงกันข้าม

    เพราะเป็นการทำบุญ(เลี้ยง)พวกเปรต พวกผี เพื่อบำรุงกำลังพวกนี้เอาไว้ใช้งาน

    ในท่านที่ยังอ่อน ใช้งานพวกเขาไม่เป็น

    พวกเขาก็จะถูกใช้งานโดยผู้อื่น หรือ แม้แค่ครูบาอาจารย์สายไสยเวทย์ของตน

    ท่านที่เดินทางสายนี้ มีแต่ความมืดมนต์ ถลำลึกมากขึ้นๆ สุดท้ายก็ถูกครอบงำให้กลายเป็นครึ่งคนครึ่งผี

    การจะเข้าบ่อน เข้าคาสิโน ไปกินเงินเขานั้น ยากมากๆ

    เพราะระดับด้านไสยเวทย์เขาสูงกว่าคุณ วิชาการคุณย่อมสู้เขาไม่ได้

    ต่อให้สามารถเล่นเอาเงินเขาได้ แล้วจะเอาเงินออกมาได้อย่างไร?

    เคยเห็นคนรวยเพราะบ่อนบ้างไหม?

    คนที่รวยเพราะบ่อนนั้นมีแน่ คือ

    ๑ กลุ่มเจ้าของบ่อน
    ๒ บริวารระดับสูงที่ทำงานในบ่อน
    ๓ กลุ่มไสยเวทย์ ที่ทำงานให้บ่อน
    ๔ นักเล่น ที่เป็นเจ้าของบ่อนอื่นๆ
    ๕ กลุ่มมหาเศรษฐี ที่ชอบเข้าบ่อนเพื่อความบันเทิง
    ทางบ่อนจะเลี้ยงเอาไว้ เพื่อเป็นลูกข่ายชักชวนให้ เศรษฐีอื่น เข้าบ่อน
    ๖ คนเล่นรายเล็กๆ ที่ทางบ่อนไม่สนใจ

    เมื่อเข้าบ่อนไปแล้ว ทางบ่อนจะคัดคน จะคัดกลุ่ม เพื่อหล่อเลี้ยงเอาไว้ใช้ประโยชน์

    มีบางคน ที่ทางบ่อน คัดเอาไว้เพื่อจะปั้นให้เล่นแล้วรวย
    เพื่อจะได้ชวยเชียร์แขก เพื่อจะได้ช่วยเรียกแขก

    เหมือนกับการซื้อขายทองล่วงหน้า ก็แบบเดียวกัน

    ถ้าเล่นแล้ว จนทุกคน บ่อนก็ร้างกันพอดี

    จึงต้องมี ของแจก ของแถมบ้าง เพื่อจะได้ล่อใจ

    จะเดินทางสายไหน จะไปอย่างไร ก็เลือกกันเอาเอง

    ตัวใครตัวมันครับ ผมก็ช่วยเตือนได้ตามมีตามเกิดเพียงเท่านี้

    ผมไม่เคยจะคิด ผมไม่เคยจะสนใจ ผมไม่เคยจะชักชวนให้ใครเดินเส้นทางสายไสยเวทย์นี้

    ลุงมหา

     

แชร์หน้านี้

Loading...