มีใครถือศีล 5 ได้แล้วบ้าง

ช่วยรายงานตัวหน่อย ช่วยบอกเหตุผล ระยะเวลาตั้งแต่มีจิตเริ่มถือ จนสำเร็จสมบูรณ์ ไม่ด่างพร้อย อานิสงฆ์ที่อยากจะได้รับ อานิสงฆ์ที่ได้รับแล้ว ส่งผลชัดเจนแล้ว

 

อานิสงค์ ตัวนี้ครับ ผมกำลังถืออยู่ เป็นกำลังใจกันนะครับ อานิสงค์คือไม่เปลืองอิอิ

 

พระวจนะ" ภิกษุทั้งหลาย ในบรรดาองค์เจ็ดแห่งอริยสัมมาสมาธินั้น สัมมาทิฐฐิเป็นธรรมนำหน้า นำหน้าอย่างไร คือเขารู้ มิจฉากัมมันตะ ว่าเป็นมิจฉากัมมันตะ รู้สัมมากัมมันตะ ว่าเป็นสัมมากัมมันตะ ความรู้ของเขานั้นเแป็นสัมมาทิฐฐิ ภิกษุทั้งหลาย มิจฉากัมมันตะเป็นอย่างไรเล่า ปาณาติบาต อทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร ภิกษุทั้งหลาย นี้คือมิจฉากัมมันตะ ..............ภิกษุทั้งหลาย สัมมากัมมันตะ เป็นอย่างไรเล่า ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า แม้สัมมากัมมันตะมีอยู่2ชนิด คือ สัมมากัมมันตะ ที่ยังเป็นไปด้วยอาสวะเป็นส่วนแห่งบุญ มีผลเนื่องอยู่กับของหนักก็มีอยู่ สัมมากัมมันตะ อันเป็นอริยะ ไม่เป็นไปด้วยอาสวะ นำขึ้นสู่ระดับเหนือโลก เป็นองค์ประกอบแห่งหนทางเพื่อนิพพานก็มีอยู่.................ภิกษุทั้งหลาย สัมมากัมมันตะ ที่ยังเป็นไปด้วยอาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญ มีผลเนื่องอยู่กับของหนัก นั้นเป็นอย่างไรเล่า นั้นคือ เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากปาณาติบาต เจตนางดเว้นจากอทินนาทาน เจตนางดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร ภิกษุทั้งหลาย นี้คือ สัมมากัมมันตะ ที่ยังเป็นไปด้วยอาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญ มีผลเนื่องอยู่กับของหนัก..................ภิกษุทั้งหลาย สัมมากัมมันตะ อันเป็นอริยะ ไม่เป็นไปด้วยอาสวะ นำขึ้นสู่ระดับเหนือโลก เป็นองค์ประกอบแห่งหนทางเพื่อนิพพาน นั้นเป็นอย่างไรเล่า ภิกษุทั้งหลาย ธรรมคือ การงด การเว้น การเว้นขาด และเจตนาเป็นเครื่องเว้น จากกายทุจริตทั้งสาม ของผู้มีอริยะจิต ของผู้มีอนาสวะจิต ของผู้มีอริยมัคสมังคี ผู้เจริญซึ่งอริยมรรค ใดแล ภิกษุทั้งหลาย นี้คือ สัมมากัมมันตะ อันเป็นอริยะ ไม่เป็นไปด้วยอาสวะ นำขึ้นสู่ระดับเหนือโลก เป็นองค์ประกอบแห่งหนทางเพื่อ นิพพาน .............เขานั้นเพียรพยามเพื่อละเสียซึ่งมิจฉากัมมันตะ เพื่อทำสัมมากัมมันตะให้ถึงพร้อม ความเพียรพยามของเขานั้นเป้นสัมมาวายามะ เขามีสติละเสียซึ่งมิจฉากัมมันตะมีสติทำสัมมากัมมันตะให้ถึงพร้อม แล้วแลอยู่ สติของเขานั้นเป็นสัมมาสติ..........ด้วยอาการอย่างนี้เป็นอันว่า ธรรม 3อย่างนั้น ย่อมติดตามแวดล้อมซึ่งสัมมากัมมันตะ สามอย่างนั้นได้แก่ สัมมาทิฐฐิ สัมมาวายามะ สัมมาสติ...........(อริยสัจจากพระโอษฐื ท่านพุทธทาส)

 

เยี่ยมมากๆ เลยคับ อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ถือคับ แล้วข้อไหนปฏิบัติยากสุดสำหรับคุณ babae คับ

 

ขอรายงานตัวด้วยค่ะ ไม่แน่ใจว่าเริ่มถือจริงจังตั้งแต่ปีไหน แต่ตอนถือยังไม่บริสุทธิ์สมบูรณ์นักค่ะ ตราบจนวันนี้ก้อมีด่างพร้อยบ้าง เพราะได้ฆ่ามดที่เค้าขึ้นมากัดแขนเราด้วยอำนาจโทสะอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าบาปมากมั้ย ต้องการอานิสงค์ในการปฏิบัติสมถะกรรมฐานและวิปัสสนาต่อไป จนถึงพระนิพพาน ส่วนอานิสงค์ที่ได้รับแล้วและส่งผลชัดเจนคือ มีสภาพจิตใจเป็นปกติดีกว่าแต่ก่อนมาก มีสุขภาพจิตดีขึ้น มีความเยือกเย็นสุขุมในใจมากขึ้น เพราะตอนวัยรุ่นเฮ้วมากค่ะ ผิดข้อสุรา..ตลอด

ตอนนี้เริ่มถือกุศลฯ10มาระยะนึงแล้ว ข้อที่ยากสุดคือ พยาบาท เพราะเรายังฝังใจกับเรื่องเก่าๆกับคนในอดีตรวมปัจจุบันที่ทำไม่ดีกับเรา ต้องพยายามให้อภัยและปล่อยวางมากๆจะได้พัฒนาจิตใจตัวเองให้สูงขึ้น...

 

พระวจนะ" ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เมื่อใดแล อริยสาวก มารู้ชัดซึ่ง อกุศล และ อกุสลมูลด้วย มารู้ชัดซึ่งกุศลและกุศลมูลด้วย แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ อริยสาวกนั้น ชื่อว่าเป็นผู้มีสัมมาทิฐฐิ ทิฎฐิของเขาดำเนินไปตรง เขาประกอบแล้วด้วยความเลื่อมใส ไม่หวั่นใหวในธรรม มาสู่พระสัทธรรมนี้...................ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย สิ่งที่เรียกว่า อกุศลนั้น เป็นอย่างไรเล่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย การทำสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วงเป็นอกุศล การถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้เป็นอกุศล การประพฤติผิดในกามเป้นอกุสล การกล่าวเท็จเป็นอกุศล วาจาส่อเสียดเป็นอกุศล วาจาหยาบเป็นอกุศล การกล่าวคำเพ้อเจ้อเป็นอกุศล อภิชฌาเป็นอกุศล พยาบาทเป็นอกุศล มิจฉาทิฎฐิเป็นอกุศล ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เหล่านี้ท่านกล่าวว่าเป็นอกุศล...................ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย สิ่งที่เรียกว่า อกุศลมูลนั้น เป็นอย่างไรเล่า โลภะเป็นอกุศลมูล โทสะเป็นอกุศลมูล โมหะเป็นอกุศลมูล ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เหล่านี้ท่านกล่าวว่า เป้นอกุศลมูล ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย สิ่งที่เรียกว่า กุศลนั้น เป็นอย่างไรเล่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เจตนาเว้นจากปาณาติบาต เป็นกุศล เจตนาเว้นจากอทินนาทานเป็นกุศล เจตนาเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารเป็นกุศล เจตนาเว้นจากมุสาวาทเป็นกุศล เจตนาเว้นจากปิสุณาวาทเป็นกุศล เจตนาเว้นจากผรุสสาวาทเป็นกุศล เจตนาเว้นจากสัมผัปลาปเป็นกุศล อนภิชฌาเป็นกุศล อัพยาบาทเป็นกุศล สัมมาทิฎฐิเป็นกุศล ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เหล่านี้ท่านกล่าวว่าเป็นกุศล..........................ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย สิ่งที่เรียกว่ากุศลมูลนั้น เป็นอย่างไรเล่า อโลภะเป็นกุศลมูล อโทสะเป็นกุศลมูล อโมหะเป็นกุศลมูล ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เหล่านี้ท่านกล่าวว่าเป็นกุศลมูล.............ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ในกาลใดแล อริยสาวกมารู้ชัดซึ่งอกุศลอย่างนี้รู้ชัดซึ่งอกุศลมูลอย่างนี้ รู้ชัดซึ่งกุศลอย่างนี้ รู้ชัดซึ่งกุศลมูลอย่างนี้ อริยสาวกนั้น ละราคานุสัย บรรเทาปฎิฆานุสัย ถอนอนุสัยแห่งทิฎฐิและมานะว่า เรามีเราเป็น ได้โดยประการทั้งปวง ละอวิชชาแล้ว ทำวิชชาให้เกิดขึ้น เะอกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ ในทิฎฐิธรรมนี้นั่นเทียว ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย แม้ด้วยเหตุมีประมารเท่านี้แล อริยสาวกนั้นชื่อว่าเป็นผู้มี สัมมาทิฎฐิ ทิฎฐิของเขาดำเนินไปตรง เขาประกอบแล้วด้วยความเลื่อมใสไม่หวั่นใหวในะรรม มาสู่พระสัทธรรมนี้---(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส)

 

ขออนุโมทนา คุณนวลปราง เรื่องน้องมดผมก็มีปัญหาเช่นกัน
มันชอบมาอยู่ตรงชักโครง เวลาตื่นเช้ามา มาอีกละ แล้วเวลาเราราดน้ำ มันต้องจมน้ำกันใช่ไหม
แต่จะให้ผมมานั่งหยิบมดทีละตัว ทุกวันมันก็ไม่ใช่เรื่อง
ก็เลยคิดว่า คงหมดเวรหมดกรรมสินะ เราก็ไม่ได้มีจิตจะฆ่าด้วย
ก็จะช่วยเท่าที่ช่วยได้ บางทีก็เอาอุปกรณ์ย่อนให้มันไต่ขึ้นมาบ้าง บางทีก็ปล่อยมันไหลลงไปนั้นแหละ อย่างมดคัวเล็กมากๆ นี้เราก็ทำอะไรไม่ได้ละ ดูมันจมอย่างเดียว

ส่วนโดนมดกัด ผมจะพยายามไม่ฆ่ามัน จะหยิบออก อันนี้ทำได้ ถ้าเราคิดไว้ก่อน
เช่น รู้ว่าแถวนี้มดเยอะ ถ้าโดนกัดเราจะไม่ฆ่ามัน ตั้งจิตไว้ก่อน พอโดนกัดเราจะมีสติรู้ทัน
แต่ถ้ามันกัดตอนทีเผลอ ปบบนี้ค่อนข้างยาก เพราะปฏิกิริยา เรามันตอบไว มือมันไปก่อนแล้ว
เพราะฉะนั้น จะต้องรู้สถานที่ว่าแถวไหนมดเยอะ เราจะได้ตั้งจิตไว้ก่อน
ส่วนสุรา ผมเลิกได้นานแล้ว เมื่อก่อนชอบกินเหมือนเป็นน้ำหวาน น้ำเปล่า โดยเฉพาะเบียร
แต่พอเลิกแล้ว อานิสงฆ์แรกสุดที่เห็นชัดเจน คือมีเงินเหลือ!

 

ศีล เขา แปลว่า ปกติ คนปกติจะไม่มีใครต้องการเบียดเบียนใคร ประหารใคร และไม่ต้องการให้ใครมาเบียดเบียนตนหรือประหารตน คนปกติจะไม่ลักขโมยในทรัพย์สมบัติของใคร และไม่ต้องการให้ใครมาลักขโมยของตน คนปกติจะไม่กระทำผิดต่อลูกเมียใคร และไม่ต้องการให้ใครมากระทำผิดต่อลูกเมียตน คนปกติจะไม่กล่าววาจาโกหกใคร และไมาต้องการให้ใครมากล่าววาจาโกหกตน คนปกติย่อมต้องการเป็นคนปกติไม่ต้องการทำให้ตนเองผิดปกติด้วยน้ำเมาดอก ฉันเป็นคนปกติมานานจนไม่จำแล้วว่าเป็นมาแต่เมื่อใด ในวันเพ็ญของทุกเดือนก็เพิ่มความปกติไปอีกสามข้อจ๊ะ ความปกติทำให้ใจเราเป็นสุข ทำให้เป็นที่รักของคนอื่นๆ ทำปกติในพรหมวิหารสี่ด้วยนะ ความปกติจะทำให้มีโภคทรัพย์สมบูรณ์ หากทำใจเราให้ปกติเสียแล้วไม่มีข้อใดยากหรือลำบากเลย 1 ให้มีใจรักในพระนิพพาน 2 เคารพในพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ 3. มีความรู้สึกอยู่เสมอว่าเมื่อเกิดมาแล้วในที่สุดเราก็ต้องตายดังนั้นจึงควรทำให้เรามีใจเป็นปกติที่ดีอยู่เสมอ ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้ไม่มีใครต้องการความผิดปกตินะ

 

ศีลจะบริบูรณ์ต้องขยาดกลัวภพชาติ เห็นทุกข์ เห็นภัยในวัฎฎะสังสารกันจริงๆ ปัญญาก็ต้องเห็นความไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนควบคุมไม่ได้ส่วนนึงแล้ว เห็นได้ตามนี้ไม่รู้จะทำชั่วไปทำไมแล้ว

การประชุมมรรคสมังคี ไม่ใช่มาแต่สมาธิ ปัญญาเห็นไตรลักษณ์ ต้องมีศีลด้วยครับ
จึงอธิบายว่าการไม่ก้าวหน้าก็เพราะมีการพร่องในส่วนใดส่วนหนึ่งดังนี้

ผลก็ความถือมั่นในตัวก็ลดลง จนกิเลสไม่เกาะกินใจ ไม่มีชั่ว ไม่มีเบียดเบียน สว่างจ้า

คุณนวลปรางอาจจะลองพิจารณาเวลาที่พยาบาทเกิดแล้วเราไม่ได้ทำชั่วลงไปแล้วสักพักพยาบาทนั้นกลับหายลงไป พึงพิจารณาว่าดีจริงหรือไม่ที่เราได้ระงับอกุศลกรรมนั้นไว้ได้ ไม่ก่อภพตัดกรรมลง แทนที่จะก่อภพทำชั่วสืบภพต่อไป ทั้งที่พยาบาทเองก็ไร้สาระราวลมพัดผ่านไม่เที่ยงแท้เลย

 

ไม่ต้องไปถือไปแบกไว้หรอกครับ
คิดดีทำดีไม่คิดเบียนเบียนใครก็พอแล้ว
ไปแบกศีลไว้ ไปยึดไปมั่นแล้วพาตนเครียด ต้องระวังนู่นระวังนี่ คิดเล็กคิดน้อยห่วงศีลขาด จากบุญหายจะกลายเป็นบาปแทน (บาปที่กลุ้มกลัวศีลแหก)
ปฏิบัติภาวนาไป ทำใจให้เมตตา สงสารเพื่อนร่วมโลก
เมตตาเป็นธรรมชาติ ศีลมันเกิดเองตามธรรมชาติ ไม่อึดอัด
จะศีล 5. ศีล 8. หรือ 227. แม้แต่เป็นพันๆข้อตามแต่ใครจะสรรค์สมมติขึ้น
ก็ไม่ขาด ไม่แหกทั้งนั้น

การรักษาศีลที่สมบูรณ์คือ รักษาแบบไม่ได้ถือมั่น

 

รักษาแบบไม่ถือมั่นเป็นยังไงคับ ช่วยอธิบายโดยละเอียดเถิด

 

ผู้ที่มีศีล 5 บริสุทธิ์ โดยไม่ด่างพร้อยเลย คือ ผู้บรรลุโสดาบันแล้ว ส่วนปุถุชน ก็ยังมีด่างพร้อยบ้างเป็นธรรมดา

 

พยายามอยู่ครับ

พอเริ่มถือ ก็มีอนิสงฆ์ทันที


สีเลนะ สุคะติงยันต
ศีลเป็นเหตุให้เกิดความสุข เพราะเราให้ความไม่มีภัย
ไม่มีเวร แก่ผู้อื่นและตนเอง


สีเลนะ โภคะสัมปะทา
ผู้มีศีลอันงดงามแล้ว กิตติศัพท์ย่อมขจรขจายไปไกล
ย่อมเป็นที่น่าเชื่อถือ และน่าคบหาแก่คนทั้งหลาย อันเป็นเหตุ
ให้เกิดโภคทรัพย์


สีเลนะ นิพพุติงยัน ติ ศีลอันเป็นทรัพย์ภายใน
เป็นหนทางสู่ อริยทรัพย์อันเป็นไปเพื่อพระนิพพาน


ตัสมา สีลัง วิโสธะเย...
นี่คือความวิเศษของศีล ที่รักษาไว้ดีแล้ว

 

ขออนุโมทนาด้วยนะคับ สำหรับคุณหมูดิน ว่าข้อไหนยากสุด หรือว่าทำได้ทุกข้อแล้ว?
แล้วถ้าทำได้ ตอนที่ยังทำไม่ได้ ข้อไหนยากสุดคับ?

 

ข้อกาเมครับ ผมโดนอยู่เรื่อย

อสุภะ มนราณานุสติ บางทีก็เอาไม่อยู่เลยครับ

เมตตาก็แล้ว

สู้อยู่ครับ

 

เป็นเหมือนกันเลย 5555
แสดงว่ามีสาวๆ เยอะ

แล้วทำยังไง ถึงคุมไว้ ตอนเกิดคิดถึงอะไรคับ?

 

..................คบสัปบุรุษ ยังให้ การฟังสัทธรรมบริบูรณ์ การฟังสัทธรรมบริบูรร์ยังให้ ศรัทธาบริบูรณ์ ศรัทธาบริบูรร์ยังให้ โยนิโสมนสิการบริบูรณ์ โยนิโสมนสิการบริบูรณ์ยังให้ สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ยังให้ อินทรีย์สังวรบริบูรร์ อินทรีย์สังวรบริบูรณ์ยังให้ สุจริตสามบริบูรณ์ สุจริตสามบริบูรณ์ยังให้ สติปัฎฐานสี่บริบูรณ์ สติปัฎฐานสี่บริบูรณ์ยังให้โพชฌงค์เจ็ดบริบูรณื โพชฌงค์เจ็ดบริบูรณ์ยังให้ วิชชา และ วิมุติบริบูรณ์

 

...........นางวิสาขา ถาม ธัมทินนาเุถรีภิกษุณี-----ข้าแต่แม่เจ้า อริยอัฎฐังคิกมรคค เป็นอย่างไรเล่า -------อาวุโสวิสาขะ อริยะอัฎฐังคิกมรรคนั้นได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ สัมมาทิฎฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ---ข้าแต่แม่เจ้า อริยะอัฎฐังคิกมรรค เป็นสังขตะธรรมหรืออสังขตะธรรม --------อาวุโสวิสาขะ อริยอัฎฐังคิกมรรค เป็นสังขตะธรรม ............ข้าแต่แม่เจ้า ขันธิ์ทั้งสาม (ศิล สมาธิ ปัญญา) สงเคราะห์ด้วยอริยะอัฎฐังคิกมรรคหรือ หรือว่า อริยอัฎฐังคิกมรรค สงเคราะห์ด้วยขันธิ์ทั้งสาม................."อาวุโสวิสาขะ ขันธิ์ทั้งสาม ไม่ได้สงเคราะห์ในอริยอัฎฐังคิกมรรค แต่อริยอัฎฐังคิกมรรคต่างหากสงเคราะห์ลงในขันธิ์ทั้งสาม คือ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สามอย่างนี้สงเคราะห์ลงใน ศิลขันธิ์ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สงเคราะห์ในสมาะิขันธิ์ สัมมาทิฎฐิ สัมมาสังกัปปะ สองอย่างนี้สงเคราะห์ลงใน ปัญญาขันธิ์ --มู.ม.12/549,555/508,513...

 

เราว่าเรารักษาได้ครบนะ ตื่นเช้าขึ้นมาก็พิจารณาละ ศีลที่พระพุทธเจ้าท่านให้ไว้มีอะไรบ้าง
1ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และไม่เบียดเบียนด้วย อันนี้เราทำได้แน่ เพราะฆ่าสัตว์ไม่เป็น มีความสงสารเป็นที่ตั้ง ยุงไม่ตบคะ มดก็ไม่ฆ่า เป่าๆไป
2 ไม่ลักทรัพย์ ไม่หยิบของๆคนอื่นมาเป็นของเรา เพราะทราบดีของๆใคร เค้าก็หวงและหามาด้วยความเหนื่อยยาก
3 รักษาพรหมจันทร์ได้คะ ไม่คิดแย่งคนรักของคนอื่น เพราะทุกข์ทั้งนั้น และก็รู้ว่าทั้งเธอและฉันเน่าหมด ไม่มีอะไรน่ายินดี
4 ไม่พูดปดมดเท็จจร้าๆๆ ไม่รู้จะโกหกเรื่องไร
5 ไม่ดืมของมึนเมา อันนี้ยิ่งสบายใหญ่ เพราะดื่มไม่เป็น เลยคิดว่า เราเป็นผู้มีศีลครบนะ ก่อนนอนก็ทบทวนอีกครั้ง วันนี้เราผิดศีลข้อไหนเป่า แบบนี้เลยสบายๆ ไม่ได้เครียดไร เพราะมันเป็นปกติละ

 

ศีลห้าไม่ได้ถือ ไม่ได้รักษา..แต่ศีลทั้งห้าข้อก็ครบค่ะ