ขอเชิญสร้างผ้าห่มแก้วคริสตัล โดยจะถวายในงานทอดกฐินวัดป่าศิริสมบูรณ์57

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย เทพออระฤทธิ์, 17 พฤษภาคม 2014.

  1. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    ขอเชิญร่วมสร้างผ้าห่มแก้วคริสตัล
    โดยจะทำพิธีห่มในงานทอดกฐิน วัดป่าศิริสมบูรณ์ ประจำปี 2557


    กำหนดถวายกฐินวันที่ 2 พฤศจิกายน 2557

    ขณะนี้ยังขาดปัจจัยอยู่มาก เชิญร่วมบุญได้ที่
    พระใบฎีกาวิศวาธาร โอทะเกตุ
    ธนาคารทหารไทย สาขานางรอง
    เลขที่บัญชี 330-2-35344-0
    หรือ
    นายชินนาอาชว์ พูลสวัสดิ์
    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยวิภาวดีรังสิต (จักพงภูวนาถ)
    เลขที่บัญชี 163-219086-1


    กรุณาโอนปัจจัยแล้วแจ้งมาทางกระทู้
    ----------------------

    ผลงานการสร้างผ้าห่มคริสตัลที่ผ่านมา
    ผ้าห่มแก้วคริสตัลกฐิน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี 2551 ที่ได้ร่วมถวายในนามเว็ปพลังจิต

    [​IMG]


    ผ้าคริสตัลห่มสมเด็จองค์ปฐม วัดเขาแร่ จังหวัดสุโขทัย 2552


    [​IMG]


    ผ้าห่มพระพุทธรูปผ้ากฐินสีเงินประดับคริสตัล วัดป่าศิริสมบูรณ์ จ. บุรีรัมย์ 2552


    [​IMG]



    เครื่องบวงสรวงในกฐิน 2554 ในงานกฐิน วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ในเว็ปพลังจิต

    [​IMG]



    และในปีนี้เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ร่วมสร้างผ้าห่มแก้วคริสตัล ด้วยมือของเราอีกครั้ง โดยเปิดโอกาส ให้ ท่านสามารถนำคริสตัลไปร้อยเองและอธิฐานจิต โดยทางเราจะ สอนผ่านทางคลิป และส่งคริสตัลทางไปรณีย์ สามารถติดต่อเรา เฟสบุ๊ค สามาถเป็นเพื่อนกันได้ที่ https://www.facebook.com/teporrarit หรือร่วมทำบุญ กันได้ที่

    [​IMG]

    ขนาดผ้าห่มแก้วคริสตัล กว้างครึ่งเมตร ยาว 3 เมตร

    ร่วมบุญได้ 1เส้น มี 100เม็ด (5 เส้น 100 บาท) ทำกี่เส้นก็ได้

    ยอดที่เหลือจากการทำผ้าห่มคริสตัลจะนำไปร่วมกับกองกฐิน วัดป่าศิริสมบูรณ์ ในวันที่ 2 พ.ย. 57
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2014
  2. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    หลวงพ่อเล่าเรื่อง...ที่มาเครื่องมหาลดาปสาธน์ของนางวิสาขา(นางวิสาขาแต่งงาน)

    ตอนนี้จะพูดกันถึงเรื่อง นางวิสาขา ต่อไป สำหรับตอนนี้เป็นตอนที่เรียกว่า พุทธบูชา มหาเตชวัณโต การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชมีอำนาจ ทำให้มีเครื่องประดับประดาเครื่องแต่งกายสวยงามเป็นกรณีพิเศษ คือ นางวิสาขามีเครื่องประดับกาย ราคา 16 โกฏิ
    ในสมัยที่นางวิสาขามีอายุได้ 16 ปี ปรากฎว่า ท่านธนัญชัยเศรษฐี ได้รับหน้าที่เป็นพ่อตา คือมีคนมาขอนาง
    ในตอนที่ นางวิสาขาจะแต่งงาน ปรากฏว่า บ้านของนางวิสาขาเป็นเมือง ๆ หนึ่ง ที่เรียกว่า เมืองสาเกต มีคนมาก ท่านบิดา คือ ท่าน ธนัญชัยเศรษฐี จึงได้จัดเครื่องแต่งตัวให้แก่บุตรสาว มีราคาประมาณ 16 โกฏิ (เห็นจะเป็น 16 พันล้าน)
    เครื่องประดับประดานั้น ท่านบอกว่า หาด้ายสักเส้นหนึ่งก็ไม่มี ส่วนใดที่จะเป็นด้าย เขาใช้เงินทำเป็นเส้นด้าย พื้นเป็นทองคำร้อยเปอร์เซ็นต์ ประดับไปด้วยแก้วมณี (ซึ่งมีค่ามากกว่าเพชร) ถึง 20 ทะนาน และแก้วประพาฬ แก้วอินทนิล(แก้วอะไรต่ออะไรถึง 7 แก้ว จำไม่ได้ จำได้ก็ขี้เกียจพรรณนา) เป็นเสื้อคลุม คือเป็นเสื้อคลุมลงมาถึงข้อเท้ายาวถึงข้อมือ แล้วก็คลุมศีรษะ ข้างบนศีรษะเป็นนกยูงรำแพน ประดับประดาไปด้วยเพชรนิลจินดาหลากหลาย ราคาถึง 16 โกฏิ นี่เป็นเครื่องทรงที่แต่งเป็นกรณีพิเศษ
    เครื่องทรงนี้มีน้ำหนักมาก เพราะนางวิสาขาเป็นพระโสดาบัน เมื่อนางเป็นพระโสดาบันแล้ว ท่านบอกว่า กำลังของนางกับช้าง 7 เชือก (เอาแรงของช้าง 7 เชือก มารวมกัน เท่ากับแรงของนางวิสาขา) แล้วก็มีหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นทาสของนางวิสาขา(เป็นเพื่อน ลูกของชาวบ้าน เป็นพระโสดาบันเหมือนกัน)มีกำลังเท่านางวิสาขา
    เสื้อตัวนี้ของนางวิสาขามีชื่อว่า มหาลดาปสาธน์ มีนางวิสาขา กับหญิงเพื่อนคนเดียวเท่านั้น ที่จะยกขึ้น คนอื่นยกไม่ขึ้น เครื่องประดับประดานี้สวยมากเหลือเกิน ท่านพุทธบริษัท บรรดาท่านหญิงทั้งหลายฟังแล้วอยากได้ บ้างไหม เครื่องประดับแบบนี้ ความจริงพวกเราจะมีสร้อยสักเส้นหนึ่งมีเพชรสักเม็ดหนึ่ง หรือมีเพชรสักพวงหนึ่ง แบบนี้มันก็แสนยาก หามาด้วยความลำบาก เครื่องประดับของนางวิสาขา เฉพาะแก้วมณีเท่านั้นตั้ง 20 ทะนาน แล้วก็มีแก้วประพาฬ มีเพชรนิลจินดามีอะไรอีกมากมายนัก แล้วเสื้อทั้งตัวเป็นทองคำล้วน ที่เป็นด้ายใช้เงินแทน(แหม ถ้าได้มาเวลานี้ เสร็จ ขายเรียบ รวยมหาศาล เฉพาะเสื้อตัวเดียว)
    เมื่อเวลาจะแต่งงาน ก็ปรากฎว่า ท่านธนัญชัยเศรษฐี ได้อัญเชิญ พระเจ้าปเสนทิโกศล ให้พระองค์เสด็จมาเป็นประธาน พระเจ้าปเสนทีโกศล ก็ถามว่า ทหารกองเกียรติยศของเรามาก จะให้ไปส่วนตัว หรือจะให้ ไปเต็มกองเกียรติยศ ถ้ากองเกียรติยศเต็ม ก็เป็น จตุรงคเสนา คือ กองทัพ 4 เหล่า ท่านธนัญชัยเศรษฐี พ่อของนาววิสาขา ก็บอกว่า ขอให้พระองค์มาเต็มกองเกียรติยศ ข้าพรพุทธเจ้ารับได้หมด
    เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลมาแล้ว ก็ปรากฎว่า เครื่องประดับของนาง
    เมื่อนางวิสาขาแต่งงานแล้ว นอกจากจะมีเครื่องมหาลดาปสาธน์แล้ว ปรากฏว่า ของที่เข้านำให้นางวิสาขาไปใช้ชั่วคราว พ่อให้ไปใช้ที่บ้านพ่อผัว แม่ผัว ก็อยู่กับผัวชั่วคราว เข้าให้เท่าไร ทราบไหม เข้าให้แบบนี้ เข้าให้ เงิน 500 เล่มเกวียน (นี่ชั่วคราวนะ ถ้าไม่พอมาเอาไปใหม่ได้) ทองคำ 500 เล่มเกวียน ภาชนะเครื่องใช้สอยที่เป็นทองคำ 500 เล่มเกวียน ภาชนะที่เป็นเงิน 500 เล่มเกวียน ภาชนะที่เป็นทองแดง 500 เล่มเกวียน อย่างนี้ เป็นต้น
    เป็นอันว่า อย่างละ 500 เล่มเกวียน (โอ้โฮ มันเท่าไรกันแน่) ถ้าเราเป็นอย่างนั้น จะเป็นอย่างไร ผลที่นางวิสาขาได้อย่างล่ะ 500 เล่มเกวียน (ถ้าไม่พอมาเอาใหม่) คือผลจากการถวายสังฆทาน บรรดาท่านพุทธบริษัท
    หากว่าบรรดาท่านผู้ฟัง ประสงค์จะมีทรัพย์มากอย่างนั้นบ้าง ก็ดูตัวอย่างที่กล่าวมาแล้วในตอนก่อนว่า นางวิสาขาร่ำรวย ได้เป็น ลูกมหาเศรษฐีใหญ่ ก็เพราะว่าถวายทานแต่องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา พร้อมไปด้วยพระสงฆ์ ที่เรียกกันว่า ถวายทาน เวลานี้เราก็ถวายได้ แม้องค์สมเด็จพระพิชิตมารนิพพานแล้วก็ตาม เวลาเราถวายสังฆทานก็มีพระพุทธรูปเป็นประมุข จิตใจนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นประธาน พร้อมไปด้วยพระสงฆ์ผู้รับทาน เป็นกำลัง อย่างนี้ก็จัดว่า เป็นสังฆทานแบบนั้นเหมือนกัน
    ถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีกนิด ก็พากันสร้างวิหารทาน โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ตามแต่ที่เราจะมีทุน สร้างคนเดียวไม่ไหว ก็ร่วมกันสร้างปลาย ๆ คนก็มีประโยชน์ จะเป็นวิหารทานใหญ่ ที่บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายมาทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ความจริง กฐิน หรือผ้าป่า ก็อยู่เฉพาะผ้าเท่านั้น ส่วนจตุปัจจัย ที่บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน นำไปถวายพระกล่าวว่า เป็นปัจจัยเพื่อวิหารทาน ถ้าพระท่านใช้อย่างนั้น
    ฉะนั้น การถวายกฐินผ้าป่า เป็นสังฆทานพร้อมไปด้วยวิหารทาน จึงมีอานิสงส์ใหญ่ ดีไม่ดี เราจะรวยกว่านางวิสาขาเสียอีก พูดกันด้วยความจริงใจ
    มาคุยกันถึงว่า ทำอย่างไรหนอ เราจึงจะมีเครื่องประดับสวยสด งดงาม อย่างนางวิสาขาได้บ้าง ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทลองฟังพระธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงโปรด พระองค์ตรัสไว้อย่างนี้(นี่เราพูดถึงเรื่องของนางวิสาขาเป็นตอน ๆ พูดทั้งหมดไม่ไหว เรื่องของนางยาวมาก)
    องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวว่า การที่นางวิสาขามหาอุบาสิกา เป็นพระโสดาบันก็ดี หรือว่าได้เครื่องมหาลดาปสาธน์ก็ดี ทั้งนี้เพราะว่า นางมีความเคารพในองค์สมเด็จพระชินสีห์สัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ เป็นต้นมา อาศัยที่นางวิสาขามีพุทธบูชาเป็นปกติ คือ บูชาพระพุทธเจ้าเป็นปัจจัย จะทำอะไรก็ตาม นึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ที่เราหัด ฝึกกันภาวนาว่า พุทโธ อย่างนี้เป็นต้น หรือว่า อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ หรือ สัมมาอรหัง อะไรก็ได้ ในห้องพระพุทธคุณ การนึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์แล้ว และก็ปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระประทีปแก้วด้วย ไม่ใช่ภาวนาว่า พุทโธ อย่างเดียว จะสร้างความร่ำรวยให้เกิดขึ้น
    ความจริง ภาวนาว่า พุทโธ ก็รวยเหมือนกัน เพราะตายแล้วเป็นเทวดา มีทิพยสมบัติมาก กลับมาก็เป็นมหาเศรษฐีแต่ยังไม่ใหญ่เท่า นางวิสาขา นาง
    เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันถึงว่า การได้เครื่องมหาลดาปสาธน์ เครื่องประดับพิเศษ ในสมัยเมื่อองค์สมเด็จพระบรมโลกนาถ ยังดำรงพระชนม์อยู่ สาวกขององค์สมเด็จพระบรมครูซึ่งเป็นสาวิกา คือผู้หญิง มีเครื่องมหาลดาปสาธน์อยู่สองท่านด้วยกัน คือ นางวิสาขามหาอุบาสิกาท่านหนึ่ง กับ พระนางมัลลิกาเทวี เอกอัครมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศลท่านหนึ่งมีสองท่านด้วยกัน เพราะว่าหญิงทั้งสองนี้ ทำบุญมาสม่ำเสมอกัน การให้ทานก็สม่ำเสมอกัน ไม่แพ้กัน แต่การให้ทานไม่ได้แข่งขัน ต่างคนต่างมีศรัทธาเหมือนกัน
    เอาละ ตอนนี้ สำหรับท่านหญิงที่ได้เครื่องมหาลดาปสาธน์ มีค่าถึง 16 โกฏิ ได้มาจากไหน เราก็ต้องหาเหตุหาผลกัน เพราะว่า ในพระพุทธศาสนา มีเหตุมีผล องค์สมเด็จพระทศพลทรงเทศน์ไว้อย่างนี้ ท่านกล่าวว่า ถ้าสตรีผู้ใด ได้เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา ถ้าหากว่าท่านผู้นั้นยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานเพียงใด เกิดเป็นมนุษย์ในชาติต่อไป จะมี เครื่องมหาลดาปสาธน์ เช่นเดียวกับนางวิสาขามหาอุบาสิกา
    ถ้าหากว่าเป็น ผู้ชาย ได้เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนาเมื่อเวลาที่พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว มีความเลื่อมใสขออุปสมบทบรรพชาในพระพุทธศาสนา เมื่อองค์สมเด็จพระบรมศาสดา ตรัสว่า เอหิ ภิกขุ ซึ่งแปลว่า เจ้าจงเป็นภิกษุมาเถิด เพียงเท่านี้ ก็จะมีผ้าไตรจีวรสำเร็จไปด้วยฤทธิ์ ลอยมาจากอากาศ สวมลงไปในร่างของท่านผู้นั้น(โดยไม่ต้องหาซื้อผ้า เพราะในสมัยนั้นหาซื้อผ้ายากแสนยากเพราะไม่มีพ่อค้าขายผ้าไตรมากมาย เหมือนสมัยนี้)
    นี่แหล่ะบรรดาท่านพุทธบริษัท การที่นางวิสาขามหาอุบาสิกา มีเครื่องมหาลดาปสาธน์ เป็นเครื่องประดับพิเศษ อีกองค์ หนึ่งก็คือ ท่านมัลลิกาเทวี เอกอัครมเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล มีเครื่องมหาลดาปสาธน์ เป็นเครื่องประดับ ก็เพราะอาศัยได้เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา
    เวลานี้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยทั่วหน้า ก็เคยทำกันมาเป็นปกติ เช่น การทอดกฐินก็ดี การทอดผ้าผ่าก็ดี การถวายสังฆทานก็ดี ท่านทั้งหลายก็มักจะถวายผ้าไตรจีวร ไว้แก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาทั้งนี้ต้องจัดเป็นการถวายสังฆทาน การถวายสังฆทานนี้ มีอานิสงส์มากตามที่กล่าวมาแล้ว
    ฉะนั้น หากว่าท่านทั้งหลายมีความเคารพในองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ที่เรียกว่า พุทธบูชา คือบูชาความดีของพระพุทธเจ้า ด้วยการปฏิบัติตาม ถ้าโอกาสจะพึงมีแก่บรรดาท่านพุทธบริษัทแล้ว ก็ซื้อผ้าไตรจีวรถวายเป็นสังฆทาน ไว้ในพระพุทธศาสนา ความจริง พรุพุทธเจ้าไม่ได้ทรงจำกัดว่า ต้องถวายเป็นสังฆทาน ท่านบอกว่า เคยถวายผ้าไตรจีวรไว้ในพระพุทธศาสนา (คำว่าสังฆทาน เฉพาะผ้าไตรจีวรนี้ อาตมาพูดเอง)
    ทั้งนี้ก็เพราะว่า การถวายสังฆทานมีอานิสงส์มาก มากกว่าการถวายเป็นปาฏิปุคคลิกทาน ถ้าเรามีผ้าผืนเดียว พระสงฆ์ท่าน ก็ให้แก่พระที่มีความจำเป็นต้องใช้ คือ ท่านจัดการกันเอง ตัวอย่าง
    ในสมัย เมื่อองค์สมเด็จพรจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ พระนางวิสาขาเป็นภรรยา เวลานั้น นางวิสาขามีอายุได้ 16 ปี แต่งงานเมื่ออายุ 16 ปี คลอดบุตรอายุ 16 ปีวิสาขา ทำยังไม่เสร็จ ต้องรออยู่ถึง 3 เดือน เลี้ยงกองทัพ 4 เหล่า 3 เดือน ก็ลองคิดดู เรียกว่า คนจำนวนนับแสนที่พระเจ้าปเสนทิโกศลนำมาเขาก็ตั้งค่ายให้อยู่ ตั้งพลับพลาเป็นที่ประทับ แล้วคนของบ้านนางวิสาขาก็มากมาย เป็นหมื่น ปรากฎว่าพ่อของนาววิสาขารับหมด แล้วก็ไม่หนักใจเรื่องการเลี้ยง เงินทองไม่ยุบเย็บจีวรถวายพระพุทธเจ้าผืนหนึ่ง เป็นผ้าเนื้อละเอียดมาก กรอด้ายเอง แล้วก็ทอผ้าเอง เย็บเป็นจีวรเอง ประสงค์ถวายเฉพาะองค์พระพุทธเจ้า เวลาไปถวายจริง ๆ พระพุทธเจ้าทรงเรียกประชมพระสงฆ์ทั้งหมด พระสงฆ์ทั้งหมดก็นั่งเรียงแถวตามลำดับอาวุโส (ไม่ใช่ตามสำดับยศ พระพุทธเจ้าไม่ทรงนิยมยศ ถือว่ายศ เป็นโลกธรรม) ตามลำดับอาวุโสของพระ
    เมื่อพระนางกีสาโคตมีถวายให้พระองค์ พระองค์ ก็ทรงรับ แล้วพระองค์ก็ส่งให้พระสารีบุตร พระสารีบุตรก็ส่งให้พระโมคคับลาน์ พระโมคคัลลาน์ก็ส่งต่อ ๆ ไป จนกระทั้งถึงองค์สุดท้าย ได้แก่ พระอชิตภิกขุ เป็นองค์สุดท้าย ไม่รู้จะให้ใคร ก็รับไว้
    พระนางกีสาโคตมีก็เสียใจว่า ปั่นด้ายเอง ทอผ้าเอง เย็บเอง ปรารถนาจะถวายกับพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้ากลับรับแล้วส่งให้พระอื่น ร้องไห้เสียใจ องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงมีพระพุทธฎีกาตรัสกับพระน้านางว่า การถวายแต่พระองค์ มีอานิสงส์มากก็จริงแล แต่ว่าเป็น ปาฏิปุคคลิกทาน ผ้ามันมีอยู่ฝืนเดียว จะให้เป็นสังฆทานโดยเฉพาะ แบ่งคนละผืนหรือคนละครึ่งผืน มันก็ทำไม่ได้ ฉะนั้น องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงให้ผ้านั้นเป็นสังฆทานเสีย คือ ส่งให้พระสารีบุตร พระสารีบุตรส่งให้พระโมคคัลลาน์ พระโมคคัลลาน์ส่งต่อ ๆ กันไป ถึงองค์สุดท้าย คือ อชิตภิกขุ อย่างนี้ได้ชื่อว่า พระทุกองค์ได้รับหมด แต่ไม่กำหนดนำมาไว้เพราะตัวมีผ้าใช้พอ และสำหรับองค์สุดท้าย ไม่ได้เป็นพระอรหันต์ ท่านมีผ้าน้อยเกินไป ชาวบ้านไม่ค่อยนิยมนัก จึงมีโอกาสรับผ้าไว้ได้ อย่างนี้องค์สมเด็จพระจอมไตรบอกว่า เป็นสังฆทาน
    แล้วองค์สมเด็จพระพิชิตมารจึงได้กล่าวถึงทาน ตามที่กล่าวมาแล้วว่าการถวายแด่พระพุทธเจ้าเอง 100 ครั้ง ก็มีผลไม่เท่ากับ ถวายสังฆทาน 1 ครั้ง
    นี่แหล่ะ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย การนำพระธรรมเทศนาใน พุทธบูชา มหาเตชวัณโต การบูชาพระพุทธเจ้า ย่อมมีเดช มีอำนาจมาก แม้วาเราจะปรารถนาเครื่องประดับมาก ๆ อย่างนางวิสาขา ก็ปรารถนาได้
    เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เรื่องของ นางวิสาขาบูชาพระพุทธเจ้า แล้วได้เครื่องมหาลดาปสาธน์ ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน หากว่าท่านมีความประสงค์สิ่งใด ก็ขอให้ได้สิ่งนั้นจงทุกประการ สวัสดี

    ที่มาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง หนังสือกฏของกรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2014
  3. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    หลวงพ่อพระราชพรหมยานอธิบายเรื่องอานิสงส์ของกฐิน

    ผู้ถาม : "หลวงพ่อคะ การทอดผ้าป่า กับ การทอดกฐินอย่างไหนได้อานิสงส์มากน้อยกว่ากันคะ..?"
    หลวงพ่อ : "ความจริง ผ้าป่า กับ กฐินเป็นสังฆทานด้วยกันทั้งคู่นะ แต่ถ้าว่าอานิสงส์โดยเฉพาะกฐินได้มากกว่า เพราะว่ากฐินมีเวลาจำกัด จะทอดตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 แต่อานิสงส์ได้ทั้งสองฝ่าย คือ ผู้ทอดก็ได้ พระผู้รับก็ได้ พระผู้รับมีอำนาจคุ้มครองพระวินัยได้หลายสิกขาบท ทำให้สบายขึ้น

    ต้นเหตุแห่งการทอดกฐินนี้ ก็มี นางวิสาขา เป็นคนแรก ในสมัยนั้นพระพุทธเจ้าท่าทรงบัญญัติการจำพรรษา เพื่อป้องกันพระไปเดินเหยียบต้นพืชต้นข้าวที่ชาวบ้านเขาปลูกไว้ใน ฤดูฝนไม่ให้เสียหาย

    ครั้นเมื่อออกพรรษาแล้ว ภิกษุชาวปาฐา 30 รูปเดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ในเวลานั้นพระสงฆ์ทั้งหลายมีผ้าจำกัดเพียง 3 ผืนเท่านั้น เมื่อมาถึงในขณะที่นางวิสาขา เฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่พอดี เห็นพระมีผ้าสบงจีวรเปียกโชกด้วยน้ำฝนและน้ำค้าง จึงได้กราบทูลขอพรแด่พระพุทธเจ้าว่า " หลังจากออกพรรษาแล้ว ขอบรรดาประชาชนทั้งหลายมีโอกาสถวายผ้าไตรจีวร แก่คณะสงฆ์ด้วยเถิด" พระพุทธเจ้าก็ทรงอนุมัติ ส่วนผ้าป่าก็เป็นสังฆทาน แต่อานิสงส์จะน้อยไปนิดหนึ่ง แต่ทั้งสองอย่างก็เป็นสังฆทานเหมือนกัน แต่เป็นสังฆทานเฉพาะกิจ กับสังฆทานไม่เฉพาะกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ้าป่าผู้ให้ก็ได้อานิสงส์ ผุ้รับก็มีอานิสง์แต่เพียงแค่ใช้ เป็นอันว่าทั้งสองอย่างนี้ถือว่าอานิสงส์การทอดกฐินมากกว่าผ้าป่า แต่ว่าการทอดกฐินปีหนึ่งครั้งเดียว ผ้าป่าทอดได้หลายครั้ง อานิสงส์ผ้าป่าย่อมได้มากกว่านะ"



    ผู้ถาม : "แล้วองค์กฐินที่แท้จริงเป็นอย่างไรคะ..?"


    หลวงพ่อ : "องค์กฐินจริง ๆ คือ ผ้าไตร นอกนั้นเป็นบริวาร เวลากรานกฐินจริง ๆ เรากรานกันแต่ผ้า การถวายก็ไม่ยาก เรามีผ้าจีวรผืนหนึ่งหรือว่าสบงผืนหนึ่ง หรือว่าสังฆาฏิผืนหนึ่งอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เขาเรียกว่า จุลกฐิน หรือจะถวายไตรจีวรครบทั้งวัด เขาเรียกว่า มหากฐิน

    ฉะนั้น จะถวายมากก็ได้ ถวายน้อยก็ได้ อานิสงส์เหมือนกัน โดยเฉพาะที่วัดท่าซุง จัดเป็นกฐินสามัคคี เป็นเจ้าภาพร่วมกันทุกคน ได้อานิสงส์เท่ากันหมด

    สำหรับการทอดกฐินครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านเคยเทศน์คือพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระปทุมุตตระท่านเคยเทศน์วาระหนึ่ง สมัยที่พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็น มหาทุคคตะ

    คำว่ามหาทุคคตะนี้จนมาก เป็นทาสของท่านคหบดี ได้ไปฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าว่า อานิสงส์กฐินนี้มีมาก ท่านจึงกลับไปชวนนาย แต่นายก็มอบหมายทรัพย์สมบัติให้ท่านเป็นผู้จัดการทุกอย่าง ท่านมหาทุคคตะอยากมีส่วนร่วมในทานนี้ด้วย แต่ไม่มีอะไรมีแต่เสื้อผ้าเก่า ๆ ขอตนที่มีติดตัวอยู่เพียงชุดเดียว จึงนำไปแลกที่ร้านในตลาด มีด้าย 1 กลุ่ม เข็ม 1 เล่ม เอามาร่วมในการทอดกฐินกับเจ้านาย เพื่อปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล พระองค์ทรงตรัสว่า คนถวายผ้ากฐิน หรือ ร่วมในการถวายกฐินทานครั้งหนึ่ง
    จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ จะปรารถนาเป็นพระอรหันต์ก็ได้ แต่ถ้าหากว่ายังไม่ถึงพระนิพพาน เพียงใดอานิสงส์จะให้ผลแก่ท่านผู้นั้น เมื่อตายจากความเป็นคนไปเกิดเป็นเทวดาแล้วก็จะลงมาเป็น พระเจ้าจักรพรรดิ ปกครองโลก 500 ชาติ เมื่อบุญน้อยลงมาจะเป็น พระมหากษัตริย์ 500 ชาติ เป็น มหาเศรษฐี 500 ชาติ เป็น อนุเศรษฐี 500 ชาติ เป็น คหบดี 500 ชาติ แต่คนที่ทอดผ้ากฐิน หรือว่าร่วม ในการทอดผ้ากฐินครั้งหนึ่งก็ดี บุญบารมีส่วนนี้ยังไม่ทันหมดก็ปรากฏว่า ท่านเจ้าของทานไปนิพพานก่อน"


    ที่มา http://www.putthapoom.com/answer/answer2.html



    อานิสงส์กฐินทาน


















    ความจริงการทอดกฐินไม่ใช่ประเพณีนิยม เป็นพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่าผ้ากฐินทานจะรับได้ก็ต่อเมื่อถึง วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๑๒ หลังจากนั้นจะทอดขนาดไหนก็ตามจะไม่เป็นกฐินฉะนั้นกฐินมีเวลากาลจำกัด ทีนี้ว่าถึงอานิสงส์กฐิน อานิสงส์กฐินนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยาท่านเคยเทศน์ และก็เทศน์ตามบาลี ท่านพูดถึงอานิสงส์ให้ทราบ ฉะนั้นการถวายวันนี้ทั้งหมด เมื่อวานก็ดี วันนี้ก็ดีจะเป็นเงินก็ตาม จะเป็นของก็ตาม ถือว่าทุกอย่างเป็น อานิสงส์กฐิน ต่อไปนี้ก็โปรดทราบ จะนำพระสูตรตามที่ท่านกล่าวไว้ในบาลีให้ทราบ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ในสมัยที่พระองค์เกิด เป็นมหาทุคคตะ ในสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระปทุมมุตระ เวลานั้นพระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นคนจนอย่างยิ่ง เป็นทาสของคหบดี เวลานั้นถอยหลังจากนี้ไป ๙๑ กัป ก็ปรากฏว่ามีพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระปทุมมุตระ วันหนึ่งมหาทุคคตะไปดูงานทอดกฐินเขา เมื่อเขาทอดกฐินเสร็จ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า บุคคลใดเคยทอดกฐินแล้วในชีวิตหนึ่ง ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพกฐินก็ดี และเป็นบริวารกฐินก็ดี (แต่ว่ากฐินวันนี้ไม่มีบริวาร มีแต่เจ้าภาพ เพราะเป็นกฐินสามัคคี) จะทำบุญน้อยจะทำบุญมาก มีอานิสงส์เสมอกัน แต่ทว่าปริมาณอาจจะแตกต่างกัน และอานิสงส์กฐินนี่ เวลานั้นพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า"โภ ปุริสะ ดูกรท่านผู้เจริญ บุคคลใดเคยทอดกฐินไว้ในพระพุทธศาสนา แม้ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าตายจากความเป็นคน ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ท่านผู้นั้นจะไปเกิดเป็นเทวดา หรือนางฟ้า๕๐๐ ชาติ" นั่นหมายความว่า ถ้าหมดอายุเทวดา หรือนางฟ้าจุติแล้วก็เกิดทันที ๕๐๐ ครั้ง เมื่อบุญหย่อนลงมานิดหน่อย เกิดเป็นเทวดาเกิดเป็นนางฟ้าไม่ได้ ลงมาเป็นมนุษย์ จะเกิดเป็นพระเจ้า จักรพรรดิปกครองโลก ๕๐๐ ชาติ เมื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ๕๐๐ ชาติแล้ว บุญก็หย่อนลงมา ก็จะเป็นพระมหากษัตริย์ ๕๐๐ ชาติ หลังจากนั้น จะเป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ

    คำว่ามหาเศรษฐีนี่ มีเงินตั้งแต่ ๘๐ โกฏิขึ้นไป เขาเรียกว่า มหาเศรษฐี แต่ว่าตั้งแต่ ๔๐ โกฏิ ขึ้นไป เขาเรียก อนุเศรษฐี

    เมื่อเป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติแล้ว ก็เป็นอนุเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ หลังจากเป็นอนุเศรษฐี ๕๐๐ ชาติแล้ว ก็เป็นคหบดี ๕๐๐ ชาติ
    ก็รวมความว่า การทอดกฐินครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านบอกว่านอกจากจะเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีแล้วบุคคลที่ทอดกฐินครั้งหนึ่งในชีวิต จะปรารถนาพระโพธิญานก็ย่อมได้ นั่นหมายความว่า จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ จะปรารถนา เป็นอัครสาวกก็ได้ จะปรารถนาเป็นมหาสาวกก็ได้ จะปรารถนานิพพาน เป็นพระอรหันต์ปกติก็ได้ ฉะนั้นการทอดกฐินแต่ละคราว ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทโปรดทราบถึงอานิสงส์คนที่เคยทอดกฐินแล้วแต่ละครั้ง รวมความว่าถ้ายังไม่ถึงพระนิพพาน
    เพียงใด คำว่า ยากจนเข็ญใจจะไม่มีแก่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกชาติ
    สำหรับวันนี้ การทอดกฐินมันมี ๓ อย่าง ความจริงอานิสงส์กฐินก็ย่อมเป็นอานิสงส์กฐิน แต่ในปัจจุบันจัดกฐินเป็น๓ อย่างคือ ๑. จุลกฐิน ๒. ปกติกฐิน ๓. มหากฐิน กฐิน ๓ อย่างย่อมเป็นเทวดานางฟ้าเหมือนกัน แต่ทว่าจะมีทรัพย์สมบัติมากกว่ากัน คำว่า จุลกฐิน เวลานี้แปลงไปคงจำของพระพุทธเจ้าไม่ได้ คำว่า จุลกฐิน ก็หมายความว่า เขาถวายผ้าโดยเฉพาะชิ้นเดียว คือ ผ้ากฐินจะเป็นผ้าสังฆาฏิตัวหนึ่งก็ได้ จะเป็นผ้าจีวรตัวหนึ่งก็ได้ สบงตัวหนึ่งก็ได้ ถ้าเราไม่มีทั้งไตร ถวายผ้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งก็เป็นกฐิน ทีนี้ถ้า ปกติกฐิน ก็มีผ้าไตรครบไตร ถวายผ้าไตรเดียวหรืออย่างน้อย ก็มีผ้าไตร ๓ ไตร คือองค์ครอง ๑ ไตร คู่สวด ๒ ไตร ทีนี้ถ้ามีผ้าไตรครบทุกองค์ อย่างที่วัดทำเป็นมหากฐิน อย่างนี้ถ้าบังเอิญจะไปเกิดในชาติใดก็ตาม จะเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สมบัติมากที่สุดเป็นพิเศษ อย่างตระกูล นางวิสาขามหาอุบาสิกา มีทรัพย์มากเป็นพิเศษ อย่างมหาเศรษฐีเขาบอกว่า ต้องมีเงิน ๘๐ โกฏิ หรือว่า ๑๖๐ โกฏิ แต่ว่าตระกูลของนางวิสาขาจะนับเป็นโกฏิไม่ได้ ต้องนับเป็นโกฏิของ]เล่มเกวียน ไม่ใช่นับเป็นโกฏิของเหรียญ ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าตระกูลนี้ร่ำรวยมาก ตระกูลนางวิสาขาจริงๆ เริ่มต้นมาจากคนที่ยากจนเข็ญใจ ต้นตระกูลนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านเมณฑกเศรษฐี นี้ ท่านเมณฑกเศรษฐีเป็นปู่ของนางวิสาขา ในชาติก่อนโน้นท่านเป็นคนยากจนเข็ญใจมาก เรียกว่าเป็นคนแก่ ๒ คน ไม่มีลูก ลูกหญิงไม่มี ลูกชายไม่มี แล้วก็หาเช้ากินค่ำ หรือว่าหาค่ำกินเช้าไม่ได้เกิดพร้อมท่าน ไม่รู้ ใช่ไหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2014
  4. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    รายชื่อของผู้ร่วมร้อยผ้าห่มแก้วคริสตัล ถวายในงานกฐิน วัดป่าศิริสมบูรณ์

    1.คุณกาญจนาภา ยุทธิวัฒน์
    2.คุณพัชรี ศรีบัวทอง
    3.สิริลักษณ์ โชคสุวรรณกิจ
    4.คุณนวรัตน์ จิรกิจไพฑูรย์
    5.คุณภาว์สิรี เห็นสุข



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤษภาคม 2014
  5. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    ดิฉันและครอบครัวร่วมบุญนี้ด้วย เป็นเงิน 515 บาท โอนแล้ว เงินจะเข้าวันจันทร์ หลังบ่าย 3 โมงค่ะ
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่มีส่วนร่วมในบุญนี้ด้วยค่ะ
    สาธุ
     
  6. Lek2010

    Lek2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    8,925
    ค่าพลัง:
    +42,467
    Lek 2010 และเพื่อนๆร่วมทำบุญสร้าง ผ้าห่มแก้วคริสตัล โดยจะทำพิธีห่มในงานทอดกฐิน วัดป่าศิริสมบูรณ์ ประจำปี 2557


    จำนวน 44 บาท

    บัญชีผู้รับเงิน
    เลขที่บัญชี 1632190861 - นาย ชินนาอาชว์ พูลสวัสดิ์
    จำนวนเงิน
    จำนวนเงินที่ต้องการโอน 44.00 บาท

    วันที่ทำรายการ 24/05/2557 - 22:08:33

     
  7. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    [​IMG]


    2014.05.26 MON โดย คุณ ป. ศิษย์มีครู ป.


    [​IMG]


    2014.05.25 โดย คุณ Khunkik Nippan
     
  8. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    เตรียมคริสตัลพร้อมจัดส่ง เตรียมทำผ้าห่มคริสตัล


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2014
  9. เพชร2545

    เพชร2545 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +4,248
    คุณพ่อลิบฮึง แซ่อึ๊ง และครอบครัว ร่วมบุญ 1000 บาทค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Aki_p

    Aki_p ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +8,828
    ร่วมทำบุญสร้าง ผ้าห่มแก้วคริสตัล โดยจะทำพิธีห่มในงานทอดกฐิน วัดป่าศิริสมบูรณ์ ประจำปี 2557 จำนวน 25 บาท

    เวลาที่สั่งทำรายการ : 31/05/2014 16:09
    วันที่ทำการโอนเงิน : 31/5/2014
    หมายเลขอ้างอิง : 26274567472014531
    บัญชีที่โอน : KTB
    บัญชีผู้รับโอน : SCB: CHINNAARCH P A/C No. : 1632XXXXX1
    จำนวนเงินที่โอน : THB 25.00
    ค่าธรรมเนียม : THB 25.00
     
  11. Onarmol

    Onarmol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +964
    ร่วมบุญสร้างผ้าห่มแก้วคริสตัล 59 บาท ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ ณ วันที่ 1 มิ.ย. 2557 @ 14.47 น.
    ขอน้อมอนุโมทนาบุญกับคณะผู้จัดสร้าง ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้ร่วมบุญทุกๆท่าน ค่ะ
     
  12. tharathan

    tharathan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +7,128
    ร่วมบุญสร้าง ผ้าห่มแก้วคริสตัล โดยจะทำพิธีห่มในงานทอดกฐิน
    วัดป่าศิริสมบูรณ์ ประจำปี 2557
    จำนวน ๓๐ บาท ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยค่ะ
    ........................................................................
    วันที่ 01 มิ.ย. 2557
    เวลา 17:15:24 Bangkok, Thailand (GMT +7:00)
    บัญชีผู้รับโอน SCB 1632190861
     
  13. pichai5514

    pichai5514 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +865
    ผมและครอบครัวร่วมบุญ 100 บาทโอนวันที่7/06/57เวลา14;06 น.อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
     
  14. komean

    komean เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +1,594
    จำนวนเงิน
    จำนวนเงินที่ต้องการโอน 10.00 บาท
    ค่าธรรมเนียม 0.00 บาท
    วันที่ทำรายการ 08/06/2557 - 07:59:33
     
  15. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2014
  16. namsompun

    namsompun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +1,365
    โอน13/6/14 20บาท ร่วมบุญสร้างผ้าห่มแก้วคริสตัล ขออนุโมทนาบุญค่ะ
     
  17. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    [​IMG]
     
  18. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ร่วมสร้าง ผ้าห่มแก้วคริสตัล จำนวนเงิน 1,000.00 บาท

    อนุโมทนาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. diya

    diya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,950
    ค่าพลัง:
    +13,031
    ร่วมบุญสร้างผ้าห่มแก้วคริสตัลถวายในงานทอดกฐินวัดป่าศิริสมบูรณ์
    โอนเงินเข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์ เลขที่ ๑๖๓๒๑๙๐๘๖๑ วันนี้ เวลา ๑๔:๕๓ น. จำนวน ๑๑๙ บาท

    ขอน้อมจิตอนุโมทนาบุญของทุกท่านทั้งหมดทั้งมวล สาธุ
     
  20. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,047
    [​IMG]

    จากคุณ ป. ศิษย์มีครู ป.


    พระพุทธรูป ที่จะผ้าห่มคริสตัล ไปที่จะนำไปเปลี่ยนแทน ผ้าผืนเก่าไปตามกาลเวลา ที่วัดป่าศิริสมบูรณ์ในกฐินวัดป่าศิริสมบูรณ์ วันที่ 2พ.ย.57

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...