วิญญาณของหญิงหนีกรรมทำแท้งได้ขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย เกตุวดี, 17 มิถุนายน 2014.

  1. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    เรื่องเล่าของ หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    เรื่อง มีอยู่ว่า มีหญิงคนหนึ่งผิวขาวร่างท้วมหน้าตาอิ่มเอิบ อายุ 42 ปี เธอตาย เจ้าหน้าที่ พาไปสำนักพญายม เรื่องเป็นนิมิตลอยมาให้เห็นไม่ใช่ทิพจักขุญาณ

    คือเมื่อเวลา 18.00 น. วันนี้ อนุภาวนาตามปกติ อารมณ์เคลิ้มเห็นภาพนี้ที่สำนักพญายม มีหญิงคนหนึ่ง เด็กเล็กคนหนึ่ง เด็กคนนี้เล็กมาก มีสภาพนอน พญายมท่านถามหญิงคนนั้นว่า
    "แม่หนูเธอทำแท้งหรือ"
    เธอรับว่า
    "ใช่เจ้าค่ะ"
    ท่านถามว่า
    "เมื่อทำแล้วหลังจากนั้นทำบุญอะไรบ้าง"
    เธอบอกว่า
    "ที่จำได้ดีเพราะทำเป็นประจำก็คือ บูชาพระ ว่า นะโม 3 จบ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง และสวดอิติปิโส ภะคะวา ฯ แล้วกรวดน้ำ อุทิศให้ลูกที่ทำแท้ง ขออย่าจองเวรจองกรรมเลย เมื่อถึงปีก็เป็นเจ้าภาพบวชพระทุกปี อุทิศส่วนกุศลให้ลูกที่ทำแท้ง"

    เธอพูดได้ชัดเจนชัดถ้อยชัดคำ ไม่เหมือนรายอื่นๆ ที่พูดไม่ค่อยเต็มเสียง และมีมากรายไม่พูดเลย

    พญายมท่านบอกว่า บุญเธอมีมาก และเด็กก็ไม่ได้จองเวรเธอ เธอไปรับผลความดีก่อนคือไปสวรรค์

    เมื่อเธอปลอดโทษแล้ว ผลบุญก็ตอบสนองเธอ คือมีรูปสวยทันที เครื่องแต่งกายสวยมากแพรวพราวเป็นระยับ ในนิมิตว่า มีโอกาสคุยกับเธอ ถึงความเป็นมาต่างๆ เธอเล่าให้ฟังว่า

    เมื่อเธออายุ 17 ปี พี่สาวแต่งงานได้สองปีคลอดบุตรกำลังอยู่ไฟ ที่เขยเธอเข้าห้องผิดไปเข้าห้องเธอเข้า เธอเห็นใจที่เขย ขณะที่พี่สาวกำลังอยู่ไฟพี่เขยคงเปลี่ยวใจ จึงอนุญาต ให้เข้าห้องผิดได้เป็นประจำ

    เวลาผ่านไป 6 เดือนเศษ ผลของการเปิดห้องให้พี่เขยเลยเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา ได้สองเดือน เมื่อเห็นท่าเรื่องจะบานปลาย จึงร่วมมือกับพี่เขย หายาขับเลือดอย่งแรงมีความร้อนสูง กินยานั้น เข้าไปสองครั้ง เด็กเลยไหลออกมา

    แต่เมื่อฟังผู้ใหญ่พูดกันว่า คนทำแท้งนั้นบาปมาก เพราะฆ่าเด็กในครรภ์ จึงตั้งใจบูชาพระและสวดมนต์ทุกวัน เมื่อสวดจบแล้วก็นั่งหลับตา นึกถึงลูกที่ตาย ขอให้มารับส่วนบุญ และไม่จองเวร อ้อนวอนขอให้พระพุทธเจ้าช่วย ทำอย่างนี้เป็นปกติทุกวัน เมื่อถึงฤดูกาลบวชพระ ก็เป็นเจ้าภาพบวชพระให้ปีละองค์ทุกปีอุทิศให้ลูก

    ต่อมาอายุ 42 ปี 3 เดือน เธอป่วยด้วยโรค ทางเดินอาหาร เธอนึกถึงพระพุทธรูปที่เคยบูชา นึกถึงการใส่บาตร นึกถึงการบวชพระ และภาพพระที่บวช เมื่อตอนตาย มีคน 4 คนไปรับ ตอนนั้นเห็นพระพุทธรูปที่เคยบูชาลอยมา องค์ใหญ่กว่าที่เคยบูชา พระพุทธรูป ท่านพูดว่า พาเข้าไปเถอะฉันไปด้วย แล้วท่านก็ลอยนำหน้าไป

    เมื่อถึงพญายมท่านก็ยังลอยอยู่ตลอดเวลา การสอบสวน เมื่อพญายมสอบสวนเสร็จ ภาพพระพุทธรูปจึงหายไป เมื่อถามเธอว่าเธอจะไปอยู่สวรรค์ชั้นไหน เทวดาที่เรียกว่าเทวทูตที่จะนำเธอไปส่ง ท่านตอบแทนเธอว่า ไปอยู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ครับ แล้วท่านก็พาเธอไป


    จากหนังสือ แก้กรรม...ทำเองได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2014
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129


    อาสันนกรรม


    ป.ล.คุณปัง ฯ วิเคราะห์กระทู้หน่อย ไม่ใช่ยกข้อความพระอาจารย์ท่านอื่นมาให้อ่าน
     
  3. ยากูซ่าา

    ยากูซ่าา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +808
    บาปกรรมแก้ได้จริงหรือคะ
     
  4. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    ส่วนหนึ่งบางตอนที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานเคยเล่าไว้ค่ะ "สวรรค์ดาวดึงส์"

    สมเด็จองค์พระทศพลทรงตรัสเป็นพุทธภาษิตไว้ว่า จิตเต สังกิลิฏเฐ ทุคติปาฏิกังขา เมื่อเราจะตายถ้าจิตเศร้าหมอง ทำบุญไว้มากมายเท่าไรก็ตาม ไปรับผลของกรรมชั่วก่อน จิตเต ปริสุทเธ สุคติปาฏิกังขา เมื่อเวลาจะตายถ้าจิตใจผ่องใส จะทำบาปไว้เท่าไรก็ตาม เราไปรับผลของบุญก่อน ตัวท่านสุปติฏฐเทพบุตรทำบาปไว้มาก เมื่อเวลาจะตายจิตใจน้อมนึกถึงคุณพระรัตนตรัย อารมณ์เกิดผ่องใส คิดว่าพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ต้องช่วยเราได้ ภาวนาด้วยความเลื่อมใสและความมั่นใจอันนี้

    ท่านกล่าวว่าเป็นพุทธานุสสติ คือระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ธรรมานุสสตินึกถึงคุณพระธรรมเป็นอารมณ์ สังฆานุสสตินึกถึงคุณพระสงฆ์เป็นอารมณ์ ฉะนั้น เมื่อท่านตายไปแล้ว แทนที่จะไปเกิดในนรก ก็เกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เทวโลก


    แต่ในฐานะที่ตนเองเป็นคนประมาทมาก่อน เป็นเทวดาก็เป็นเทวดาประมาทไม่สร้างความดีต่อ สมัยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปแสดงธรรมโปรดพุทธมารดา ปรากฏว่า ท่านสุปติฏฐเทพบุตรจะหมดอายุจากความเป็นเทวดา เมื่อหมดแล้วต้องต้องหาใช้หนี้กรรมเก่ารู้ตัวว่าจะต้องตกอเวจีมหานรกสิ้น ๑ กัป เพราะบาปที่ทำปาณาติบาตเป็นอาจิณกรรม ออกจากนั้นแล้วก็ไปเสวยผลในนรกบริวารอีก ๔ ขุม แล้วก็มานั่งไล่เบี้ยในยมโลกียนรกอีก ๑๐ ขุม เพราะทำบาปครบถ้วน จากนั้นก็มาเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดียรัจฉานแล้วก็เป็นแร้ง ๕๐๐ ชาติ เป็นกา ๕๐๐ ชาติ เป็นสุนัขบ้า ๕๐๐ ชาติ พ้นจากนั้นแล้ว ก็มาเป็นคนหูหนวก ๕๐๐ ชาติ เพราะเขาบอกบุญรู้แล้วได้ยินแล้วแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ตาบอด ๕๐๐ ชาติเห็นแล้วแกล้งทำเป็นไม่เห็น มาเป็นคนบ้า ๕๐๐ ชาติเพราะการดื่มสุราเมรัยเป็นคนง่อยเปลี้ยเสียขาเดินไม่ได้ ๕๐๐ ชาติ เพราะเศษกรรมของปาณาติบาตทรมานสัตว์ ทำสัตว์ให้ตาย เมื่อแกรู้เข้าแบบนี้ก็ตกใจ วิ่งโร่เข้าไปหาพระอินทร์ขอให้พระอินทร์ช่วย พระอินทร์ก็บอกว่าช่วยไม่ได้

    ฉันก็เป็นเทวดาเหมือนกัน พระอินทร์พาไปหาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าพิจารณาว่า เทวดาองค์นี้ ถ้าเราเทศน์อภิธรรม ๗ คัมภีร์ไม่มีผล เพราะบารมีไม่ถึง เทศน์อะไรจึงจะดี องค์สมเด็จพระชินสีห์ ก็ทราบด้วยอำนาจพระพุทธญาณ ว่าเราเทศน์อุณหิสวิชัยสูตร เทวดาองค์นี้เมื่อฟังจบ ก็จะได้บรรลุพระโสดาปัตติผล

    บาปกรรมที่ตนทำไว้ไม่มีโอกาสจะให้ผล เป็นอันว่าสมเด็จพระทศพลจึงได้เทศน์อุณหิสวิชัยสูตร พอเทศน์จบท่านสุปติฏฐเทพบุตรก็เป็นพระโสดาบัน เป็นอันว่าอบายภูมิทั้ง ๔ คือ นรก เปรต อสุรกาย เดียรัจฉานฉานไม่มีโอกาสจะให้ผล

    นี่แหละบรรดาท่านพุทธศาสนิกชน คนที่เป็นบาปนะเขาทำกันแบบนี้ เรียกว่าเขาทำกันแบบนี้ เวลาจะตายหาความดีเข้าไว้ ฉะนั้นองค์สมเด็จพระจอมไตรจึงได้สอนพุทธบริษัทให้เจริญพระกรรมฐานเข้าไว้ ข้อใดข้อหนึ่งให้จิตชิน เมื่อมีอารมณ์ชินแล้ว เวลาจะตายจิตก็จับอารมณ์นั้นเข้าไว้ อารมณ์จะผ่องใส บาปกรรมทั้งหลายจะตามไม่ทัน นี่เป็นเทวดาตัวอย่างพูดให้ฟัง เชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็ตามใจ นี่ หนึ่งละนะ


    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หนังสือไตรภูมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มิถุนายน 2014
  5. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    ผู้ถาม : ทำกรรมอะไรถึงลง อเวจี คะ.?

    หลวงพ่อ : อเวจีนี่ทำกรรมหนักมากมันจึงจะลง ก็มีอนันตริยกรรม อาจิณกรรม ขโมยของสงฆ์ ของสงฆ์ นี่แตะนิดเดียว ลงอเวจีเลยนะ แม้แต่เศษเล็ก ๆ

    (เรื่อง อนันตริยกรรม เช่น ฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ยุให้สงฆ์แตกกัน เป็นต้น พระยายมมาบอกหลวงพ่อว่า "ทุกคนอย่าได้ทำเด็ดขาด ท่านช่วยไม่ได้เลย" ส่วน อาจิณกรรม เช่น แม่ครัวทุบหัวปลา แกงเป็นประจำ เป็นต้น สำหรับ ขโมยของสงฆ์ หลวงพ่อได้ยกตัวอย่างให้ฟังดังนี้)

    หลวงพ่อ : มีญาติพระเจ้าพิมพิสาร เป็นทายกในตอนต้นก็ดี ซื่อตรงต่อการบุญการกุศล แต่มาตอนกลาง ๆ มือถึงท้ายมือไม่ค่อยดี เริ่มหยิบแล้วทีแรกก็เป็น ทายก ต่อมาก็เลยเป็น ทายัก ของอะไรดี ๆ ก็ยังเอาไปเสียบ้าง เอาไว้ให้ลูกให้เมียเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตนเสียบ้าง ของที่เขาจะถวายสงฆ์ เขาตั้งใจจะทำอาหารถวายสงฆ์ เนื้อ ดี ๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง แกงดี ๆ ก็ยักเอาไว้บ้าง

    บางทีไม่ยกของสด ไอ้ของที่สำเร็จรุปที่เขาไม่ทันจะถวายพระ ก็ยักเอาไว้เสียบ้าง ญาติของพระเจ้าพิมพิสารเป็นทายักแบบนี้ ตายแล้วลงนรกสิ้นระยะเวลา ๑ กัป พ้นจากนั้นแล้ว ก็มาตก ยมโลกียนรก คือ ผ่านนรกบริวาร ๔ ขุม แล้วก็มาตกยมโลกีนรกตามลำดับมาเป็น เปรต ๑๑ จำพวก สุดท้ายก็เป็น เปรตพวกที่ ๑๒ สมัยพระพุทธเจ้าของเรานี้

    จำไว้ด้วยนะ ของสมบัตินิดหนึ่งน่ะ แม้จะเป็นก้อนดินก้อนหนึ่ง กระเบื้องหัก ๆ ก้อนหนึ่งก็ตาม ถ้าเราถือเอาเข้าบ้านด้วย อาการของขโมย เสร็จ..สะเด็ดไม่เหลือ ลูกหมากรากไม้ที่มีอยู่ในวัด เราจะไปขอเด็กขอพระไม่มีประโยชน์ ของสงฆ์สงฆ์ต้องประชุมกัน เมื่อประชุมกันแล้วตกลงกันว่ายังไง ต้องปฏิบัติตามนั้น ขายหรือให้ใครต้องปฏิบัติตามนั้นนะ

    แม้แต่ "ดอกไม้บูชาพระ" ก็เหมือนกัน ถ้าท่านผู้ปลูกยังมีชีวิตขอเฉพาะท่านได้ ถ้าท่านผู้ปลูกตายไปแล้วหรือสึกไปแล้ว อันนี้เป็นของสงฆ์ ต้องเป็นเรื่องของสงฆ์วินิจฉัย ไม่ใช่พระองค์ใดองค์หนึ่งเป็นผู้ให้ หรือไปขอเก็บเด็กวัดอันนี้ไม่ถูกต้อง ลงอเวจี

    และอีกเรื่องหนึ่ง กากะเปรต สมัยที่เกิดเป็น "กา" แย่งข้าวในขันที่เขานำไปจะถวายพระ ข้าวสุกนั้นเขานำไปยังไม่ถึงพระ ยังไม่ใช่ของสงฆ์ จะถือว่าเป็นของชาวบ้านก็ไม่ได้ เพราะเขาตั้งใจถวายสงฆ์แล้วกรรมเล็กน้อยเพียงเท่านี้ ตายไปแล้วไปลง อเวจี แล้วแถมมาเกิดเป็น เปรต

    ตัดตอนจาก หนังสือ "หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม" ฉบับพิเศษ เล่ม 1
    โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มิถุนายน 2014
  6. เกตุวดี

    เกตุวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    10,518
    ค่าพลัง:
    +18,696
    ทำบุญไว้มากแต่พอตายเกิดเป็นเปรต

    ทำบุญมากแต่ก่อนตายจิตเศร้าหมองจึงไปเป็นเปรต

    หนังสือกฎแห่งกรรม หลวงพ่อจรัญ (พระธรรมสิงหบูราจารย์)

    อาตมาเคยเล่าให้โยมฟัง คนแก่จนอายุ ๘๖ ปีแล้วทอดกฐินตั้งหลายโครม ทอดผ้าป่าไปหลายร้อยโครมแล้วมานั่งรักษาอุโบสถดังที่กล่าวมาแล้วถึง ๓๐ ปีเศษ ตั้งแต่เป็นรุ่นสาว แก่แล้วก็มานั่งอีก แต่ตายไปเป็นเปรตเสียได้ ตายไปเป็นเปรตเพราะเหตุใด ทำบุญเก่ไม่น่าตายไปเป็นเปรต แต่ก็ตายเป็นเปรตด้วยอำนาจโลภะ คุณยายเป็นเศรษฐีมีลูกหลายคนและให้สมบัติแก่ลูกไปหมดแล้วทุกคน แต่อาศัยอยู่กับลูกสาวคนเล็กซึ่งมีสามีเป็นเศรษฐีมีโรงน้ำแข็ง โรงสี เป็นต้น

    ต่อมาลูกเขยเล่นการพนันจนสมบัติหมด ต้องขายร้าน ขายโรง ขายไร่ ขายนาจนสิ้นเนื้อประดาตัว กลัวเขาจะยื่นฟ้องล้มละลาย ลูกสาวจึงขอความช่วยเหลือจากคุณแม่ คุณแม่ก็ไม่มีทุนแล้ว เพราะทอดกฐินมากถึงมีก็ไม่พอใช้หนี้ จึงขึ้นไปหาลูกชายคนโตที่เชียงใหม่ขอสมบัติที่มอบให้คืน เพื่อนำมาช่วยลูกสาวคนเล็ก ลูกชายและลูกสะใภ้ก็ยินดีคืนให้ กลับมาก็มอบให้ลูกสาว ลูกสาวก็มอบให้สามี แต่สามีกลับนำไปเล่นการพนันต่อเพราะหมอดูที่วัดหนึ่งบอกว่าเล่นแล้วจะรวยมหาศาล เดือนหน้ารวยแน่ ๆ เลยหมดไม่มีเหลือ คุณยายก็เสียใจจนเป็นโรคหัวใจวายตาย ตายแล้วไม่ไปสวรรค์กลับไปทุคติ เป็นเปรต

    อาตมาไปธุระแถวบางมะยม อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ใกล้บ้านกำนันไข่ เด็กสาวอายุ ๑๖ ปี ร้องหวีดหวาดขึ้นมาว่าผีเข้า เด็กคนนี้ไม่รู้ประวัติคุณยายและไม่รู้จักอาตมาด้วย อาตมาไปดู ถามไปถามมาก็รู้ว่าคุณยายนี่เองมาบอกว่าอดหมากเหลือเกินและมาบอกความลับที่ตายไปเพราะเสียใจลูกเล่นการพนันหมด เคยถวายหมากพระเวลาทอดกฐิน ทอดผ้าป่าทุกชนิด แต่คราวนี้ไม่ได้กินหมากไปเป็นเปรตเที่ยวขอเขากินตามบ้าน บุญที่ทำนั้นจะได้ต่อภายหลัง ต้องใช้หนี้กรรมหนัก คืออำนาจโลภะนี้ก่อน นี่อาตมายืนยันเพราะไปเจอเด็กที่ผียายคนนี้ไปเข้า ถามพ่อแม่เด็กว่ารู้จักตระกูลนี้ไหม ก็ไม่รู้จัก แต่ทำไมบอกได้หมดว่าลูกชายคนโตชื่ออะไร ลูกสาวคนเล็กชื่ออะไร เด็กมันจะรู้ได้อย่างไร ขอฝากญาติโยมไปคิดโดยทั่วหน้ากัน

    อย่าลืมนะบุญกรรมจากการกระทำของคุณยายรักษาอุโบสถนี่ดิ่งเลย ทั้งวันไม่คุยกับใคร มานั่งเฝ้าศาลาพระเทศน์ก็ติดกัณฑ์เทศน์ไม่พัก แต่ไม่รู้ว่าบุญคือความสุขจากการชำระใจ คุณยายสวดมนต์ก็เก่ง แต่ไม่ปฏิบัติธรรม แล้วบุญที่ทำจะได้หรือ ตอบว่า ได้แต่บาปมาก่อน เพราะอำนาจโลภะจึงไปเป็นเปรตก่อน พอหมดเวรกรรมจากเปรตจึงจะไปสวรรค์ต่อภายหลัง

    ตอนที่คุณยายป่วยด้วยความเสียใจ อดข้าว อดปลา มาเป็นเดือนเศษ อาตมาไปเยี่ยม ๒ ครั้ง ชวนมานั่งกรรมฐาน คุณยายบอกว่านั่งไม่ได้ ไม่สบายใจเสียแล้วแก่แล้ว เมื่อก่อนนี้ตอนที่อินทรีย์ยังดีก็ไม่สนใจกรรมฐานเลย สนใจแต่ว่าใครจะมาบอกบุญไม่เคยขัดเลย ต้องทำทุกวัด จึงหาความสุขไม่ได้ ตายไปเป็นเปรต เดี๋ยวนี้ยังไม่ไปผุดไปเกิด แต่ประการใด ยังทรมานอยู่ด้วยอำนาจของโลภะ เรื่องนี้อาตมาประสบมาด้วยตนเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มิถุนายน 2014
  7. e20ehq

    e20ehq เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    334
    ค่าพลัง:
    +770
    ตอบง่ายๆ นะ คุณไปกู้เงินเขามา 10 ล้าน เป็นหนี้ สิบล้านใช่ไหม แม้คุณจะหาเงินมาได้ 100 ล้าน คุณก็ยังเป็นหนี้ 10 ล้าน และคุณก็จะต้องชดใช้หนี้นั้นด้วยเลี่ยงไม่ได้ เพียงแต่ว่า มีเงิน 100 ล้าน ก็เลยเหลือเงินในกระเป๋า 90 ล้าน

    แต่ถ้าคุณไม่มีเงินเลยนี่สิ อันนี้ก็หายนะเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...