วัดแจ้ง..เมืองอุทัยเก่า กับพระเจ้าตาก..

สวัสดีค่ะ...
เจ้าภาพที่บริจาคสร้างพญานาคราชตนที่ ๗ มณีสังวาลย์สีแดง
ได้ประดับมณีนาคา ในวันวิสาขบูชา (๑๓ พ.ค.๕๗)
ขอนำภาพบรรยากาศการประดับมณีนาคา
ให้กับพญานาคราชตนที่ ๗ มาให้ชมกันค่ะ

 

วันอังคารที่ ๘ ก.ค.๕๗ ได้เข้าไปวัดแจ้ง เพื่อปรึกษาหารือกัน
เรื่อง งานบุญกฐินและการจัดงานสมโภช ศาลพระเจ้าตาก
ณ วัดแจ้ง เมืองอุทัยเก่า..ค่ะ ก็เลยนำภาพศาลพระเจ้าตาก
มาให้ชมกัน ซึ่งตอนนี้ก็จะเหลือแต่การวาดภาพลายไทย
ในบริเวณด้านใน ของศาลค่ะ

 

ศาลสวยงามมากครับ คงเป็นที่น่าอภิรมย์ของผู้คนที่มาเยือนนะครับ

 

ใจ อ่อนล้า อ่อนไหว ให้สับสน
ใจ มืดมน มืดมัว สลัวยิ่ง
ใจ อ่อนไป ให้ระทม ขื่นขมจริง
ใจ ไม่นิ่ง ทำให้ ได้โศกตรม

ใจ คงล้า คงโรย คงโหยไห้
ใจ คงไร้ จุดยืน จึงขื่นขม
ใจ จมทุกข์ หมองเศร้า เฝ้าระทม
ใจ ขื่นขม ขมขื่น ฝืนคร่ำครวญ

ใจ เจ้ากรรม เป็นเช่นไร ในวันนี้
ใจ จึงมี โศกเศร้า เฝ้ากำสรวล
ใจ วิปโยค โศกเศร้า เหงารบกวน
ใจ ปั่นป่วน ป่วนปั่น นั้นอ่อนแรง

คิดถึง พ่อ พ่ออยู่ คู่กับเจ้า
คิดถึง เหงา ถึงคราว ดาวสิ้นแสง
คิดถึง แล้ว ก็ให้ ใจอ่อนแรง
คิดถึง แสง พลังใจ ใยไม่มี

เสียดาย เจ้า เหตุใด ใจไหวอ่อน
เสียดาย สอน เท่าไร ไม่ให้หนี
เสียดาย แล้วผ่านไป ใครราวี
เสียดาย ที่ ใจอ่อน น่าอ่อนใจ

เสียดาย ความทรนง และองอาจ
เสียดาย ขาด ศักดิ์ศรี นี้ไปได้
เสียดาย ใจนักรบ ที่รบใจ
เสียดาย ไร้ พลังใจ ไม่รั้งรอ

ใจ แข็ง เป็นอย่างไร ใครรู้บ้าง
ใจ กระด้าง เป็นอย่างไร รู้ไหมหนอ
ใจ อ่อน เป็นอย่างไร นะใจคอ
ใจ แท้ท้อ เป็นอย่างไร ใครรู้จริง

ใจ ชอกช้ำ ช้ำชอก เกินบอกได้
ใจ สูญหาย หายสูญ ทุกทุกสิ่ง
ใจ อ่อน อ่อนใจ ไม่ไหวติง
ใจ ไม่นิ่ง นิ่งไม่แน่ แย่แล้วใจ

ขอ ฝากกลอน นี้หนา วันฟ้าหม่น
ขอ เมฆฝน หยาดมา พาฟ้าใส
ขอ ความขมขื่น ขื่นขม ระทมใจ
ขอ จากไป พร้อมฝน หมองหม่นทรวง...เสือดาว

 

....สวัสดียามเช้าค่ะ...
วันนี้มีบทกลอน " พลังใจ " มาฝากค่ะ

วัน เวลา หมุนเวียนเปลี่ยนแปรผัน
คืนและวันหมุนเวียนเปลี่ยนเสมอ
ทุกข์ สุข สนุก เศร้า เราพบเจอ
เปลี่ยนเสมอ ไม่จีรัง ไม่ยั่งยืน

แต่ว่าใจ ใจเรา เท่านั้นหนอ
จะเหนื่อยท้อ เศร้าระทม ตรมสุดฝืน
เหตุไฉน ไยเศร้า เฝ้ากล้ำกลืน
ปล่อยวันคืน ล่วงไป ไกลสุดตา

ทุกข์หรือสุข อยู่ที่ใจ ไม่ใช่หรือ
ปัจจุบันคือ ดูกายใจ ใช่ค้นหา
แม้สุขบ้าง ทุกข์บ้าง บางเวลา
ย่อมคุ้มค่า รู้กายใจ ในตัวเอง

ยามถูกใคร ทำร้าย กายใจหนอ
เหนื่อยและท้อ ถูกเหยียบย่ำ ซ้ำข่มเหง
โลกธรรม นำเป็น เช่นนั้นเอง
อลเวง เงียบสงบ พบสัจธรรม

ขอแต่เพียง เพื่อนผอง และน้องพี่
ดวงฤดี รักษาไว้ ไม่ถลำ
ผ่องพิสุทธิ์ สดใส ไม่ระกำ
ล้วนกระทำ ที่ใจเรา เท่านั้นเอง

คนอื่นทำ เป็นกรรมหนา ไม่ว่าหรอก
แต่ขอบอก อย่าเศร้า เฝ้าข่มเหง
ทำร้ายใจ ทำลายใจ ในตนเอง
ไม่กริ่งเกรง เฝ้าซ้ำ เหยียบย่ำใจ

มอบพลัง กำลังใจ ให้มวลมิตร
ฝากข้อคิด สะกิดใจ ให้สดใส
รักษาใจ ดูแลใจ ถนอมใจ
สุขสดใส ใจสดชื่น รื่นเริงจริง

 

วันนี้ดูฟ้าครึ้มๆ ก็ขออนุญาต บ่นๆๆ อีกเล็กน้อยนะคะ

พระยาไชยบูรณ์ (ทองอยู่ สุวรรณบาตร) หนึ่งผู้ไม่ยอมแพ้ กล้าแกร่งแท้บ่ระย่อ
ก่อวีรกรรมองอาจ ประกาศก้องแก่ไพรี " กูภักดีต่อแผ่นดิน องค์นรินทร์พระผ่านเผ้า
พระพุทธเจ้าหลวงจอมผไท กูไม่คิดขายชาติ แม้มึงปรารถนา เมืองแพร่
เชิญมึงแล่เนื้อหนัง หรือฝังกูก็ยอม กูบ่ค้อมยกบ้าน กูบ่ขานยกเมือง
ให้มึงเฟื่องโอหัง จงฟังคำกูไว้ โจรจัญไรสิ้นคิด ชีวิตกูยอมพลี
แผ่นดินนี้กูเฝ้า มึงจะเอาอย่าปอง กูปกครองอยู่ไซร้ จงอย่าคิดอยากได้
หนึ่งแม้ตารางวา แลนา "

พระยาไชยบูรณ์ ได้ต่อสู้กับพวกโจรเงี้ยวที่บุกเข้าปล้นเมืองแพร่ในเช้าตรู่
ของวันที่ 25 เดือน กรกฎาคม พ.ศ.2445 และถูกฆ่าตาย
ในวันที่ 27 กรกฏาคม 2445 นับเป็นวีรบุรุษที่เป็นตัวอย่างสมควรได้รับ
การยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
ซื่อสัตย์สุจริต เสียสละอย่างใหญ่หลวง ยอมสละชีวิตของตน
เพื่อ บ้านเมือง มีความรักชาติกล้าหาญสมกับเป็นผู้นำโดยแท้

.....26 ก.ค. 57 เป็นช่วงที่ข้าพเจ้ามีสภาวะเศร้าๆๆ เสียใจๆๆ
พอดีเลยหนอ..คงเป็นด้วยว่า นามสกุลคล้ายกัน หรือไม่ก็
เกิดมาเพื่อทำงานเป็นข้าพระราชา นั่นเอง ....เสือดาว *

 

สวรรค์เป็นที่อยู่ของเหล่าผู้ที่เคยสะสมเสบียงบุญมาก่อนครั้นในอดีตครับ เมื่อมาได้จุติบนสรวงสวรรค์ย่อมไม่คิดถึงหรือถวิลหาภพภูมิอื่นๆครับ เพราะสมาชิกทุกท่านที่ได้มีโอกาสมาจุติที่ภพภูมิแห่งนี้ แทบที่จะไม่รู้ว่าทุกข์นั้นเป็นอย่างไรกันครับ เพราะเมื่อแรกจุติหรือมาอยู่ที่แห่งนี้ก็จะได้พรทันทีสิบการประการครับ พรที่ได้รับนั้นเพียงพอสำหรับสมาชิกทุกท่านที่มีโอกาสได้มาเสวยสุข ณ ที่แห่งสรวงสวรรค์นี้ครับ

 

ขอบคุณ..คุณคุรุวาโรที่เล่าเรื่องให้อ่านกัน รออ่านต่อค่ะ

 

วันที่ ๓๐ ก.ค. ๕๗ มีโอกาสได้เดินทางขึ้นไปเชียงราย
แล้วก็ผ่าน จ. แพร่ จึงได้แวะสักการะพระยาไชยบูรณ์ค่ะ

 

วันนี้ (๒ ส.ค. ๕๗) ได้เข้าไปดูช่างต่อสายล่อฟ้า ที่ศาลพระเจ้าตาก
ณ วัดแจ้ง เลยนำภาพพญานาคราชทั้ง ๘ ตน ที่อยู่รอบระเบียง
ศาลพระเจ้าตาก มาให้ชมกันค่ะ

 

เข้าไปวัดแจ้ง (๒ ส.ค. ๕๗) ก็มีน้องคนหนึ่ง เป็นชาวอุทัยเก่า
ได้นำดอกบัวสีชมพู มาให้ค่ะ

 

ตามสัญญาครับว่า เมื่อสร้างศาลพระเจ้าตากเสร็จ ข้าพเจ้าจะรับอาสาสื่อกับพระเจ้าตากให้ครับ

 

ฟังเป็นนิทานนะครับ เพราะว่า การทำใจให้สงบนั้น ข้าพเจ้าบอกไม่ได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในฌานสมาธินั้นเป็นจริงที่แท้จริงแค่ไหนนะครับ เพราะมีประชาชนจำนวนมากเคารพศรัทธาพระเจ้าตากอยู่เป็นจำนวนมากครับ

 

เมื่อข้าพเจ้าทำใจให้สงบด้วยคำภาวนา ปรากฏว่า ข้าพเจ้าอธิษฐานขอว่า อยากสื่อสารกับอดีตพระมหากษัตริย์นามว่า พระเจ้าตากสินมหาราช ข้าพเจ้าพบว่า มีแต่ความว่างเปล่าครับ ข้าพเจ้าไม่สามารถสื่อสารกับพระเจ้าตากสินมหาราชนั้นได้ครับ ข้าพเจ้าสงสัยเป็นอันมากว่า พระเจ้าตากสินมหาราช ปัจจุบันท่านอยู่ที่ภพภูมิใด ข้าพเจ้าเลยเปลี่ยนวิธีในการสื่อสารนั้นใหม่ครับ โดยอธิษฐานขอถามท่านเทพหยั่งรู้และท่านเทพอารักษ์แทน ข้าพเจ้าอธิษฐานอยู่เนืองๆ จนปรากฏเทพธิดาหยั่งรู้ ท่านเทพธิดาหยั่งรู้บอกแก่ข้าพเจ้าว่า พระเจ้าตากสินมหาราชนั้น ปัจจุบันท่านไปเป็นเทพ เทวาที่สวรรค์ชั้นห้าครับ มีนามว่า วิสุทธิชัยรัตนะ ข้าพเจ้าเลยเข้าใจว่า ทำไมข้าพเจ้าถึงไม่สื่อสารโดยตรงกับพระองค์นั้นได้ครับ ข้าพเจ้าเลยใช้วิธีเอาสื่อวัตถุมงคลนั้นมาแทนครับ คือเอาเหรียญพระเจ้าตากสินนั้นมากุมไว้ที่มือเลยอธิษฐานด้วยเสบียงบุญบารมีของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเคยทำแบบนี้เมื่อครั้นที่ข้าพเจ้าสื่อสารกับท่านท้าวเวสสุวรรณและครั้งนั้นข้าพเจ้าก็สามารถทำได้ครับ แต่ท่านเทพเทวาสวรรค์ชั้นห้านั้น นี้เป็นครั้งแรกที่ทำแบบนั้นครับ

 

ข้าพเจ้าภาวนา พุทโธ ไปเรื่อยๆ จนใจสงบ ข้าพเจ้าอธิษฐานว่า อยากสื่อกับเทพวิสุทชัยรัตนะ ปรากฏว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้าพเจ้าพยายามอยู่นานพอสมควรครับ ข้าพเจ้าเลยเปลี่ยนวิธีใหม่ คราวนี้ถามท่านเทพอารักษ์ว่า ข้าพเจ้าจะสื่อกับพระเจ้าตากจะทำอย่างไรถึงจะสื่อกันได้ ท่านเทพอารักษ์บอกว่า ให้ข้าพเจ้าใช้อภิญญาตาหูทิพย์แล้วเปลี่ยนคำภาวนาเป็นคำว่า เทวานังปิยะตังสุตตะวา ครับ ข้าพเจ้าก็ทำตามครับเมื่อใจสงบข้าพเจ้าพบว่า

 

มีเสียงของชายผู้หนึ่งผ่านวัตถุมงคลนั้นมา เสียงนั้นดูทรงพลังและมีอำนาจครับ พระเจ้าตากบอกว่า ศาลนั้นท่านรองเกล็ดดาวสร้างขึ้นมาเพื่อบูชาเรา เราเรียกศาลนั้นว่า ศาลพันเงิน หมายถึงศาลที่จะดำรงความบริสุทธิ์ ยุติธรรม

 

ศาลพันเงินนั้นมีผู้คนที่เคยร่วมสมัยกรุงธนบุรีกับเรามาร่วมสร้าง ผ่านท่านรองเกล็ดดาว ศาลนี้นั้นผู้ที่มาขอพรจากเราต้องแต่งชุดข้าราชการเต็มยศเท่านั้น เราถึงจะรับพิจารณาและถ้าจะให้ดีต้องบอกกล่าวท่านรองด้วย ส่วนประชาชนทั่วไปต้องแต่งชุดไทยเท่านั้น ส่วนเมื่อสำเร็จกิจได้ดั่งใจหมายมาขอขอบคุณเราฝากบอกท่านรองด้วยว่า ให้บวงสรวงแบบสักการะเหล่าเทพ เทวาเท่านั้น มีบางคนทำไม่ถูก เอาธูปไปปักในสิ่งของสักการะเราเหมือนสักการะพวกภูตผีปีศาจต้องเคารพเราเหมือนเทพเทวาเท่านั้น แล้วพระเจ้าตากก็บอกให้ข้าพเจ้าเพ่งดูศาลพันเงินปรากฏว่ามีงูอยู่เต็มไปหมด พระเจ้าตากก็กล่าวว่า ท่านรองเกล็ดดาวนำพวกมนีนาคามาประดับพญานาคพวกเหล่านาคา นาคีเลยมาอยู่ด้วย สุดท้ายท่านพระเจ้าตากก็บอกว่าศาลพันเงินแห่งนี้จะเป็นที่เคารพสักการะของบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อเราต่อไป แล้วเสียงนั้นก็เงียบไปครับ ข้าพเจ้าก็ออกจากฌานพบว่าเช้ามืดพอดีครับ สรุปข้าพเจ้าก็เข้าสมาธิทั้งคืนเลยครับ

 

จริงหรือหลอกหรือคิดไปเอง สุดท้ายกะว่างเปล่า

 

ชั้น 5 ยังน้อยไปไม่คู่ควรกับพระบารมี
พระโพธิสัตว์ เมตตายิ่งใหญ่ จะขออะไรไม่เกินกรรมท่านเมตตาทั้งนั้น..
ปากว่า อ่านเป็นนิทาน นิทานหลอกเด็ก ก็เข้าข่าย มุสา

 

สวัสดีค่ะ (f)

เรื่องพระเจ้าตาก ไม่ขอแสดงความคิดเห็นนะคะ
เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ที่รับรู้รับทราบกันมา
อาจจะแตกต่างกันบ้าง คล้ายกันบ้าง
ก็อ่านพอได้รื่นรมณ์ ได้รับรู้รับทราบกันค่ะ
ขออย่างเดียว...แตกต่าง แต่ไม่แตกแยก อิอิ...
เพราะเชื่อว่า ทุกคนรักและเคารพศรัทธาพระเจ้าตากเหมือนกัน
จึงได้เข้ามาในกระทู้นี้ค่ะ...เสือดาว*