ทำอย่างไรจะได้เกิดยุคพระศรีอาริย์

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 8 กรกฎาคม 2005.

  1. ขอมจำแลง

    ขอมจำแลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +1,273
    *** ศีลห้า กรรมบท10 ผู้ที่รักษาศีลแปดก็ระวังคำพูดด้วยนะครับ เพราะเป็นด่านแรกของการรักษาศีลครับ
    วจีสุจริต ได้แก่ การไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด เพ้อเจ้อเหลวไหล ไม่พูดนิทราผู้อื่น ยังมีหรือไม่ หากมีก็พึงระวังเป็นด่านแรกก่อนรักษาศีลแปด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2008
  2. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    ยุคพระศาสนาของพระศรีอาริย์

    ผมคนหนึ่งขอสำเร็จมรรคผลพระนิพพาน ขอเกิดทันในยุคของพระศรีอาริย์ พยายามทำศีลไม่ให้พร่อง นึกเสมอว่าจะไม่โกรธ สร้างสมาธิทุกครั้งเมื่อมีเวลาทำตามที่ท่านแนะนำ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ


    [​IMG]



    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า...



    "........พอถึงปากทางขึ้นก็พบพระศรีอาริย์ ท่านมานั่งคอยที่ปากทางอยู่ก่อนแล้ว
    เมื่อเห็นท่านเข้าก็กราบท่านด้วย ท่านเป็นผู้ที่มีคุณหนักกับชาวโลก ด้วยการบำเพ็ญ
    บารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า และจบหลักสูตรแล้วด้วย เพื่อรอการฝึกและบรรจุเท่านั้น
    เมื่อเห็นท่าน เข้าไปหาท่าน ท่านยิ้ม ท่านพูดคำแรกว่า เธอจงสังเกตให้ดี วันนี้ฉัน
    แต่งตัวนุ่งผ้าพื้นสีเขียวอ่อน แต่สีค่อนข้างเข้ม มีแก้วมณีประดับเต็มผ้า สวมเสื้อมี
    พื้นสีขาว มีแก้วมณีประดับเต็มตัว สวมชฎางามระยับ ประดับด้วยแก้วมณี สวยกว่า
    พระเอกลิเกมาก

    เมื่อท่านให้ดูเครื่องแต่งตัวแล้ว ท่านก็เหยียดแขนออกมานอกเสื้อ เห็นเนื้อใสเหมือนแก้ว
    ที่ล้างสะอาดแล้ว เนื้อเหมือนพรหม แปลกใจมาก แล้วท่านก็ให้หลวงพ่อปานเหยียดแขน
    ออกมา เนื้อเหมือนกันไม่แตกต่างกันเลย ท่านบอกว่า พวกพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว
    มีเนื้อใสเหมือนกัน

    วันนี้ดูพระศรีอาริย์ท่านแปลกกว่าวันอื่น ทำไมจึงกลายเป็นวันอวดสวยอวดงามไปก็ไม่ทราบ
    เมื่ออวดเครื่องแต่งตัว อวดเนื้อพอควรแล้วก็เริ่มงานพูด ท่านเริ่มเรื่องดังนี้

    เมื่อเธอกลับลงไป จงเอาข่าวที่ฉันบอกให้ดูเครื่องประดับและเนื้อไปบอกบริษัทของเธอด้วย
    (คำว่า "บริษัท" ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าสำนักงานค้าขาย เป็นศัพท์พระศาสนาแปลว่าพวกหรือคณะ)
    บอกเขาถึงอาการที่ฉันบอก บริษัทของเธอส่วนใหญ่เขาต้องการเกิดทันศาสนาฉันเป็นส่วนใหญ่
    คนที่มุ่งเอานิพพานนี้ไม่เกิน 10 คน แปลกนะ ท่านอยู่บนสวรรค์ท่านทราบ แต่ฉันอยู่ใกล้ยัง
    ไม่ทราบดีเท่าท่าน เธอจงบอกเขาว่า ถ้าต้องการเกิดทันศาสนาฉัน และสำเร็จอรหันต์ใน
    ศาสนาฉัน ให้เขาทำตัวดังนี้

    1. ตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ในระยะต้นมันจะมีพลั้งพลาด เมื่อเผลอหรือจำเป็นต้องทำ
    ทำไปแล้วก็พยายามกำหนดใจว่าจะไม่ทำอีก คิดบ่อยๆ คุมใจบ่อยๆ ไม่ช้าก็คุมได้เป็นปกติ มีศีล
    5 ครบถ้วน

    2. จงเป็นคนมีเมตตาเป็นปกติ

    3. เจริญกายคตานุสสติกรรมฐานเป็นปกติ

    4. เมื่อทำบุญหรือบูชาพระครั้งใด เมื่อเสร็จแล้วให้ตั้งใจอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจบุญบารมีนี้
    ขอให้ข้าฯ ได้เกิดทันพระศรีอาริย์ขณะทรงประกาศพระศาสนา และเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา
    ครั้งเดียว ขอให้ได้สำเร็จพระอรหันต์ทันที


    ท่านว่าทำอย่างนี้เป็นปกติ เกิดทันแน่ อย่าตั้งใจให้เกิดทันอย่างเดียวจะไม่มีผล ควรอธิษฐานหวัง
    มรรคผลพระนิพพานด้วยจะมีคุณกว่า เมื่อพูดจบท่านบอกว่า พวกที่กำลังฝึกหัดกับท่านที่วัด
    ส่วนใหญ่เขาหวังเิกิดทันศาสนาฉัน เธอลงไปช่วยบอกตามที่ฉันบอกนี้ด้วย และเขียนส่งข่าวบอก
    บรรดาบริษัทของเธอด้วย เลยเขียนบอกมา

    เมื่อเจรจากันสิ้นเรื่องนี้ ท่านก็พูดต่อไปว่า บริษัทของท่านส่วนใหญ่มารวมกันที่ดาวดึงส์ ความจริง
    มารวมกันที่ดาวดึงส์นี้ดีมาก เพราะอยู่ในที่ตั้งพระจุฬามณี เห็นพระอริยะเสมอ ไม่ประมาท
    มีโอกาสได้บำเพ็ญกุศลต่อ และมีโอกาสได้พบฉันเสมอ ถ้าเขาชอบศาสนาฉันก็จะได้แนะนำเขา
    เทวดาชั้นดาวดึงส์เป็นเทวดาธุรกิจ คือส่วนใหญ่ชอบบำเพ็ญบารมีต่อ..."




    คัดจาก หนังสือพ่อรักลูก 3 ; จดหมายจากหลวงพ่อ หน้า 50 - 52[/quote]
     
  3. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    ศาสนาพระศรีอาริย์

    ขอบคุณครับที่บอกให้รู้
    [​IMG]




    [​IMG]



    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า...



    "........พอถึงปากทางขึ้นก็พบพระศรีอาริย์ ท่านมานั่งคอยที่ปากทางอยู่ก่อนแล้ว
    เมื่อเห็นท่านเข้าก็กราบท่านด้วย ท่านเป็นผู้ที่มีคุณหนักกับชาวโลก ด้วยการบำเพ็ญ
    บารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า และจบหลักสูตรแล้วด้วย เพื่อรอการฝึกและบรรจุเท่านั้น
    เมื่อเห็นท่าน เข้าไปหาท่าน ท่านยิ้ม ท่านพูดคำแรกว่า เธอจงสังเกตให้ดี วันนี้ฉัน
    แต่งตัวนุ่งผ้าพื้นสีเขียวอ่อน แต่สีค่อนข้างเข้ม มีแก้วมณีประดับเต็มผ้า สวมเสื้อมี
    พื้นสีขาว มีแก้วมณีประดับเต็มตัว สวมชฎางามระยับ ประดับด้วยแก้วมณี สวยกว่า
    พระเอกลิเกมาก

    เมื่อท่านให้ดูเครื่องแต่งตัวแล้ว ท่านก็เหยียดแขนออกมานอกเสื้อ เห็นเนื้อใสเหมือนแก้ว
    ที่ล้างสะอาดแล้ว เนื้อเหมือนพรหม แปลกใจมาก แล้วท่านก็ให้หลวงพ่อปานเหยียดแขน
    ออกมา เนื้อเหมือนกันไม่แตกต่างกันเลย ท่านบอกว่า พวกพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว
    มีเนื้อใสเหมือนกัน

    วันนี้ดูพระศรีอาริย์ท่านแปลกกว่าวันอื่น ทำไมจึงกลายเป็นวันอวดสวยอวดงามไปก็ไม่ทราบ
    เมื่ออวดเครื่องแต่งตัว อวดเนื้อพอควรแล้วก็เริ่มงานพูด ท่านเริ่มเรื่องดังนี้

    เมื่อเธอกลับลงไป จงเอาข่าวที่ฉันบอกให้ดูเครื่องประดับและเนื้อไปบอกบริษัทของเธอด้วย
    (คำว่า "บริษัท" ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าสำนักงานค้าขาย เป็นศัพท์พระศาสนาแปลว่าพวกหรือคณะ)
    บอกเขาถึงอาการที่ฉันบอก บริษัทของเธอส่วนใหญ่เขาต้องการเกิดทันศาสนาฉันเป็นส่วนใหญ่
    คนที่มุ่งเอานิพพานนี้ไม่เกิน 10 คน แปลกนะ ท่านอยู่บนสวรรค์ท่านทราบ แต่ฉันอยู่ใกล้ยัง
    ไม่ทราบดีเท่าท่าน เธอจงบอกเขาว่า ถ้าต้องการเกิดทันศาสนาฉัน และสำเร็จอรหันต์ใน
    ศาสนาฉัน ให้เขาทำตัวดังนี้

    1. ตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ในระยะต้นมันจะมีพลั้งพลาด เมื่อเผลอหรือจำเป็นต้องทำ
    ทำไปแล้วก็พยายามกำหนดใจว่าจะไม่ทำอีก คิดบ่อยๆ คุมใจบ่อยๆ ไม่ช้าก็คุมได้เป็นปกติ มีศีล
    5 ครบถ้วน

    2. จงเป็นคนมีเมตตาเป็นปกติ

    3. เจริญกายคตานุสสติกรรมฐานเป็นปกติ

    4. เมื่อทำบุญหรือบูชาพระครั้งใด เมื่อเสร็จแล้วให้ตั้งใจอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจบุญบารมีนี้
    ขอให้ข้าฯ ได้เกิดทันพระศรีอาริย์ขณะทรงประกาศพระศาสนา และเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา
    ครั้งเดียว ขอให้ได้สำเร็จพระอรหันต์ทันที


    ท่านว่าทำอย่างนี้เป็นปกติ เกิดทันแน่ อย่าตั้งใจให้เกิดทันอย่างเดียวจะไม่มีผล ควรอธิษฐานหวัง
    มรรคผลพระนิพพานด้วยจะมีคุณกว่า เมื่อพูดจบท่านบอกว่า พวกที่กำลังฝึกหัดกับท่านที่วัด
    ส่วนใหญ่เขาหวังเิกิดทันศาสนาฉัน เธอลงไปช่วยบอกตามที่ฉันบอกนี้ด้วย และเขียนส่งข่าวบอก
    บรรดาบริษัทของเธอด้วย เลยเขียนบอกมา

    เมื่อเจรจากันสิ้นเรื่องนี้ ท่านก็พูดต่อไปว่า บริษัทของท่านส่วนใหญ่มารวมกันที่ดาวดึงส์ ความจริง
    มารวมกันที่ดาวดึงส์นี้ดีมาก เพราะอยู่ในที่ตั้งพระจุฬามณี เห็นพระอริยะเสมอ ไม่ประมาท
    มีโอกาสได้บำเพ็ญกุศลต่อ และมีโอกาสได้พบฉันเสมอ ถ้าเขาชอบศาสนาฉันก็จะได้แนะนำเขา
    เทวดาชั้นดาวดึงส์เป็นเทวดาธุรกิจ คือส่วนใหญ่ชอบบำเพ็ญบารมีต่อ..."




    คัดจาก หนังสือพ่อรักลูก 3 ; จดหมายจากหลวงพ่อ หน้า 50 - 52[/quote]
     
  4. ANUWART

    ANUWART เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,669
    ค่าพลัง:
    +14,320
    กำลังรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ นึกไว้เสมอว่าไม่โกรธ สมาธิทุกวัน ทำบุญบ่อยๆ ก่อนนั่งสมาธิ มอบกายถวายชีวิตแด่ องค์สมเด็จ ฯ ขอพระนิพพาน และขอให้เกิดทันในยุคของพระศรีอาริย์ ขอให้กระผมเกิดดวงตาเห็นธรรม ขอบคุณครับสำหรับสิ่งที่ดีแบบนี้
     
  5. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    "ในยุคพระสมณโคดม ยังหลงผิดกันได้ขนาดนี้ กว่าจะถึงยุคพระศรีอาริย์ จะยิ่งหลงผิดกันไปถึงขนาดไหน" โอวาทธรรม โดย หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

    การมัวแต่คาดหวังในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น นับว่าขาดปัญญาโดยแท้ เพราะไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะไปเกิดที่ไหน ตราบใดที่ยังข้ามโลกียะไม่ได้ ดังคำกล่าวของครูบาอาจารย์สายพระป่าท่านหนึ่งว่า

    "จงอย่ามัวเมาอยู่กับอดีต จงอย่าเพ้อฝันอยู่กับอนาคต แต่จงทำปัจจุบันให้ดีที่สุด"

    ให้ทำในสิ่งที่เป็นไปได้ในปัจจุบัน อย่ามัวแต่สร้างวิมานในอากาศอีกเลย การคาดหวังว่าจะไปเกิดอีก นับว่าผิดวิสัยชาวพุทธโดยแท้...
     
  6. ตระกูลศักดิ์

    ตระกูลศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +1,371
    1. ตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ในระยะต้นมันจะมีพลั้งพลาด เมื่อเผลอหรือจำเป็นต้องทำ
    ทำไปแล้วก็พยายามกำหนดใจว่าจะไม่ทำอีก คิดบ่อยๆ คุมใจบ่อยๆ ไม่ช้าก็คุมได้เป็นปกติ มีศีล

    5 ครบถ้วน

    2. จงเป็นคนมีเมตตาเป็นปกติ

    3. เจริญกายคตานุสสติกรรมฐานเป็นปกติ

    4. เมื่อทำบุญหรือบูชาพระครั้งใด เมื่อเสร็จแล้วให้ตั้งใจอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจบุญบารมีนี้
    ขอให้ข้าฯ ได้เกิดทันพระศรีอาริย์ขณะทรงประกาศพระศาสนา และเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา
    ครั้งเดียว ขอให้ได้สำเร็จพระอรหันต์ทันที

    สาธุ....สาธุ...สาธุ...
    ผมขอเชิญชวนทุกท่านที่ได้อ่าน ณ ที่นี้ ร่วมกันยึดแนวปฏิบัติของพระศรีอาริย์พระองคฺผู้ประเสริฐดีแล้วผู้ฝึกดีแล้วผู้ปฏิบัติดีแล้วเหนือกว่าเทวดา พรหม และมนุษย์ ทั้งหลาย ขอยึดเป็นที่พึ่งตลอดชีวิตจนกว่าจะหมดลมหายใจ ข้าพเจ้าขอปวารณาสัจจะบารมีกับตัวเองพร้อบทุกท่านที่จะตั้งจิตตั้งใจปฏิบัติตามแนวทางของพระองค์จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ด้วยการกล่าวคำสัจจะบารมีนี้ขอหั้ยข้าพเจ้าเกิดพร้อมกับพระศรีอาริย์ ได้เป็นพุทธอุปฐากดั่งสัจจะบารมีข้าพเจ้าที่สั่งสมมาในชาตินี้และหลายร้อยๆแสนชาติที่ผ่านมาขอให้ได้ฟังธรรมจากพระองค์เอง แม้ฟังครั้งเดียวก็ขอให้สำเร็จถึงพระนิพพานเร็วพลัน มีปัญญาสว่างใสวเปรียบดุจพระสารีบุตรเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยพหูสุตรมาก ด้วยเถิด สาธุ....สาธุ...สาธุ...กับทุกท่านที่ร่วมปฏิบัติในครั้งด้วยครับ

     
  7. ตระกูลศักดิ์

    ตระกูลศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ขออนุโมทนาบุญกุศลในครั้งนี้และเห็นด้วยกับท่านอย่างยิ่งครับ

    ผมเห็นด้วยครับเราชาวพุทธ ต้องเร่งทำปฏิบัติบุญกุศลบารมี ตอนนี่วันนี้เดี่ยวนี้นาทีนี้วินาทีนี้เลย อย่ามัวเสียเวลา ทำทานก็ตอนนี้ รักษาศีลก็ตอนนี้ ปฏิบัติภาวนาก็ตอนนี้ นั้นแหละชาวพุทธ ถือว่าตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาททุกขณะจิต ดังพุทธองค์ทีได้ตรัสในปัจฉิมโอวาท ก่อนเสด็จดับขันธ์พระปรินิพพาน ดังนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ของตนเองและผู้อื่นตั้งมั่นอยู่ ด้วยความไม่ประมาทเถิด
    ขออนุโมทนาบุญกุศลร่วมกับทุกท่านด้วยครับ
     
  8. บัญชาคนสุพรรณ

    บัญชาคนสุพรรณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +77
    อนุโมทนา ถ้าไม่บรรลุชาตินี้ขอให้เข้ายุคพระศรีอารยเมตไตรยและได้ฟังธรรมบรรลุเทอญ
     
  9. porapatr

    porapatr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    599
    ค่าพลัง:
    +1,282


    <TABLE class=MsoNormalTable style="BORDER-RIGHT: blue 1pt outset; BORDER-TOP: blue 1pt outset; BORDER-LEFT: blue 1pt outset; WIDTH: 95.96%; BORDER-BOTTOM: blue 1pt outset; mso-cellspacing: 1.5pt; mso-border-alt: outset blue .75pt; mso-padding-alt: 1.5pt 1.5pt 1.5pt 1.5pt; mso-border-insideh: .75pt outset blue; mso-border-insidev: .75pt outset blue" cellPadding=0 width="95%" border=1><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0"><TD style="BORDER-RIGHT: blue 1pt inset; PADDING-RIGHT: 1.5pt; BORDER-TOP: blue 1pt inset; PADDING-LEFT: 1.5pt; PADDING-BOTTOM: 1.5pt; BORDER-LEFT: blue 1pt inset; WIDTH: 99.24%; PADDING-TOP: 1.5pt; BORDER-BOTTOM: blue 1pt inset; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: inset blue .75pt" width="99%">กรรมบถ 10

    </TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-RIGHT: blue 1pt inset; PADDING-RIGHT: 1.5pt; BORDER-TOP: blue 1pt inset; PADDING-LEFT: 1.5pt; PADDING-BOTTOM: 1.5pt; BORDER-LEFT: blue 1pt inset; WIDTH: 99.24%; PADDING-TOP: 1.5pt; BORDER-BOTTOM: blue 1pt inset; BACKGROUND-COLOR: transparent; mso-border-alt: inset blue .75pt" width="99%">
    ทางกายมี 3 คือ


    1. ไม่ฆ่าสัตว์
    2. ไม่ลักทรัพย์
    3. ไม่ประพฤติผิดในกาม
    ทางวาจา มี 4 คือ
    1. ไม่พูดปด
    2. ไม่พูดคำหยาบ
    3. ไม่พูดส่อเสียดยุยงให้เขาแตกร้าวกันไม่นินทา
    4. ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
    ทางใจ มี 3 คือ
    1. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่นโดยไม่ชอบธรรม
    2. ไม่จองล้างจองผลาญใคร คือ ไม่พยาบาทความโกรธยังมี
    3. มีความเห็นถูกคือ สัมมาทิฏฐิมีความเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่คัดค้าน
    นี่กรรมบถ 10 แบ่งไปตาม กาย วาจา ใจก็เอาสติเข้าไปควบคุมว่า ศีล 5 ก็ดีกรรมบถ 10 ก็ดี มีกี่สิกขาบทมีอะไรบ้าง คุมไว้ไม่ยอมลืม ใหม่ ๆ ก็ลืมบ้างเป็นของธรรมดา<O:p




    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  10. parnparn

    parnparn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +199
    เคยได้ยินว่า ผู้ใดใคร่อยากพบปะพระศรีอาริย์เจ้า ผู้นั้นพึงงดเว้นอนันตริยกรรม 5 ประการ อุตสาหะหมั่นก่อสร้างกองการกุศล มีให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา และสดับ รับฟังพระธรรมเทศนามหาเวสสันดรชาดก อันประกอบด้วยคาถาพันหนึ่ง กระทำสักการบูชาด้วยข้าวตอก ดอกไม้ต่างๆ และดอกไม้ธูปเทียนอย่างละพัน ตั้งใจฟังให้จบเพียงวันเดียว ครบบริบูรณ์ทั้ง 13 กัณฑ์ ดังนี้แล้วจะได้พบพระศรีอาริย์พุทธเจ้าในอนาคต โดยแท้
     
  11. เสรีชน

    เสรีชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +727
    ขออนุโมทนาบุญสาธุ..
    วันนี้ไม่กล้าอธิษฐานเพราะยังดีไม่พอ ถ้าวันใดที่ศีล+สติ+สมาธิมีครบสมบูรณ์แล้วข้าพเจ้าจะขออธิษฐานให้เกิดทันยุคพระศรีอาริย์ แต่วันนี้ขอใช้ร่างกายสังขารอันนี้ปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้เสื่อมถอยในยุคพระสมณะโคดม สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงมีคุณูปการต่อสัตว์โลกในชาตินี้...
    ขออนุโมทนาทุกท่านเรามาช่วยกัปกป้องพระพุทธศาสนากันเถิด
     
  12. เสรีชน

    เสรีชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2008
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +727
    [​IMG]

    หลวงปู่บุญญาฤทธิ์และที่มีในงานสวดลักขีบวชชีหมื่นคน
    [​IMG]
    หลวงปู่อีกหลายรูปที่มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา(ในงานสวดลักขีบวชชีหมื่นคน)
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    หลวงปู่บุญญาฤทธิ์ท่านผู้มีบารมีธรรมและเมตตาธรรมสูง
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    ภาพหลวงปู่บางท่านที่ข้าพเจ้าไม่ได้เอ่ยนามนั้นเป็นเพราะข้าพเจ้าไม่รู้จักท่าน ญาติธรรมสหายธรรมท่านใดทราบก็โปรดชี้นำด้วย เป็นพระคุณอย่างสูง ..ทั้งนี้ข้าพเจ้านำภาพมาให้ญาติธรรมทั้งหลายได้มาร่วมอนุโมทนา..ส่วนบุญที่เกิดแต่การกระทำความดีครั้งใดขอเป็นกุศลแด่ดวงวิญญาณของพ่อทั้งสิ้น
     
  13. manny_tong

    manny_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +543
    1. ตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ในระยะต้นมันจะมีพลั้งพลาด เมื่อเผลอหรือจำเป็นต้องทำ
    ทำไปแล้วก็พยายามกำหนดใจว่าจะไม่ทำอีก คิดบ่อยๆ คุมใจบ่อยๆ ไม่ช้าก็คุมได้เป็นปกติ มีศีล

    5 ครบถ้วน

    2. จงเป็นคนมีเมตตาเป็นปกติ

    3. เจริญกายคตานุสสติกรรมฐานเป็นปกติ

    4. เมื่อทำบุญหรือบูชาพระครั้งใด เมื่อเสร็จแล้วให้ตั้งใจอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจบุญบารมีนี้
    ขอให้ข้าฯ ได้เกิดทันพระศรีอาริย์ขณะทรงประกาศพระศาสนา และเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา
    ครั้งเดียว ขอให้ได้สำเร็จพระอรหันต์ทันที
    สาธุ
     
  14. manny_tong

    manny_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +543
    1. ตั้งใจรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ ในระยะต้นมันจะมีพลั้งพลาด เมื่อเผลอหรือจำเป็นต้องทำ
    ทำไปแล้วก็พยายามกำหนดใจว่าจะไม่ทำอีก คิดบ่อยๆ คุมใจบ่อยๆ ไม่ช้าก็คุมได้เป็นปกติ มีศีล
    5 ครบถ้วน

    2. จงเป็นคนมีเมตตาเป็นปกติ

    3. เจริญกายคตานุสสติกรรมฐานเป็นปกติ

    4. เมื่อทำบุญหรือบูชาพระครั้งใด เมื่อเสร็จแล้วให้ตั้งใจอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจบุญบารมีนี้
    ขอให้ข้าฯ ได้เกิดทันพระศรีอาริย์ขณะทรงประกาศพระศาสนา และเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา
    ครั้งเดียว ขอให้ได้สำเร็จพระอรหันต์ทันที
    สาธุ
     
  15. pao31

    pao31 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +25
    ขอตั้งจิตอฐิษฐานว่จากทำบุญหรือบูชาพระทุกครั้ง ขอบุญบารมีนนั้น
    ขอให้ข้าฯและครอบครัวได้เกิดทันพระศรีอาริย์ขณะทรงประกาศพระศาสนา และเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนา

    ครั้งเดียว ขอให้ได้สำเร็จพระอรหันต์ทันที
     
  16. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    พระพุทธเจ้าออกบวชเพื่อแสวงหาการ "ดับทุกข์"
    เมื่อทรงค้นพบแล้ว จึงได้สอนการ "ดับทุกข์" ให้แก่เรา
    พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนวิธีการไปเกิดในยุคพระศรีอาริย์แต่อย่างใด
     
  17. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    แต่ในพระคัมภีร์อนาคตวงศ์ท่านกล่าวกับพระสารีบุตรหากผู้ใดมีวาสนาปัญญาและผลบุญน้อยไม่ได้เป็นพระอรหันต์ในศาสนาเราก็ตั้งใจไปสำเร็จในศาสนาพระพุทธเจ้าที่ชื่อว่าเมตตรัยได้
    พระพุทธเจ้าท่านทรงแนะหากอินทรีย์ไม่แก่กล้าก็ให้อธิษฐานบารมีไปสำเร็จในศาสนาพระศรีอาริยเมตตรัย หนังสือท่าท่านดร.ระวีภาวิไลเขียนก็มีพระองค์ตรัสถึงศาสนาพระศรีอาริยเป็นทางเลือต่างหากเล่าคุณธรรมทาสอย่าเอาความคิดของคุณไปลบหลู่พุทธดำรัสเลย
     
  18. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    กัณฑ์ที่ ๑

    ( เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิสาขาย สตฺตวีสติโกฏิธนปริจฺจาเคน การิเต
    ปุพฺพาราเม วสฺสาวาสํ วสนฺโต อชิตตฺเถรํ อารพฺภ ทส โพธิสตฺตาติ อิมํ ธมฺมเทสนํ กเถสีติฯ )

    ( บัดนี้ จะได้วิสัชนาในเรื่อง พระอนาคตวงศ์ โดยพุทธภาษิตปริยาย มีเนื้อความตามพระบาลีว่า เอกํ สมยํ )

    ***บาลีและข้อความในวงเล็บทุกแห่งได้เพิ่มขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๔ เพื่อให้เทศน์ได้สะดวก***


    [FONT=AngsanaUPC, MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]พระศรีอาริยเมตไตร (พระอชิตเถระ) [/FONT]​

    ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระสรรเพ็ชญ์พุทธเจ้าเสด็จยับยั้งอาศัยใกล้กรุงสาวัตถีมหานคร วสนฺโต เมื่อสมเด็จพระชินวรผู้ทรงญาณสำราญพระอิริยาบถ เข้าพรรษาอยู่ในบุพพาราม อันพระวิสาขา สร้างถวายสิ้นทรัพย์ ๒๗ โกฏิฯ ​

    ครั้งนั้น พระองค์ทรงปรารภซึ่งพระอชิตเถระ ผู้หน่อบรมพุทธางกูรอริยเมตไตรยเจ้าให้เป็นเหตุ พระโลกเชษฐ์จึงตรัสพระธรรมเทศนา สำแดงซึ่งพระโพธิสัตว์ทั้ง ๑๐ องค์ อันจะมาตรัสเป็น องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลฯ ครั้งนั้น พระธรรมเสนาบดีสารีบุตรเถรเจ้า จึงกราบทูลอาราธนา พระองค์ก็นำมาซึ่งอดีตนิทาน แห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้ง ๑๐ พระองค์ ที่จะลงมาตรัสในอนาคตกาลเบื้องหน้าต่อไป ​

    เป็นใจความว่า เมื่อศาสนาพระตถาคตครบ ๕๐๐๐ ปีแล้ว ฝูงสัตว์ก็มีอายุถอยลง คงอยู่ ๑๐ ปีเป็นอายุขัย ครั้งนั้นแล จะบังเกิดมหาภัยเป็นอันมาก มีสัตถันตะระกัปป์ มนุษย์ทั้งหลายจะวุ่นวายเป็นโกลาหล เกิดรบพุ่งฆ่าฟันซึ่งกันและกัน จะจับไม้และใบหญ้าก็กลับกลายเป็นหอก ดาบ แหลน หลาว อาวุธน้อยใหญ่ ไล่ทิ่มแทงกัน ถึงซึ่งความฉิบหายเป็นอันมาก ฝูงมนุษย์ทั้งหลายที่มีปัญญา ก็หนีไปซุกซ่อนตัวอยู่ในซอกห้วย หุบเขา เมื่อพ้น ๗ วันล่วงไปแล้ว มนุษย์ทั้งหลายที่เร้นซ่อนอยู่นั้น เห็นสงบสงัดเสียงคนก็ออกมาจากที่ซ่อนเร้น ครั้นเห็นซึ่งกันและกัน ก็มีความสงสารรักใคร่เป็นอันมาก เข้าสวมสอดกอดรัดร้องไห้กันไปมา บังเกิดมีความเมตตากรุณากันมากขึ้นไป ครั้นตั้งอยู่ในเมตตาพรหมวิหาร แล้วก็อุตสาหะรักษาศีล ๕ จำเริญกรรมฐานภาวนาว่า อยํ อตฺตภาโว อันว่าร่างกายของอาตมานี้ อนิจฺจํ หาจริงมิได้ ทุกฺขํ เป็นกองแห่งทุกข์ฝ่ายเดียว อนตฺตา หาสัญญา สำคัญมั่นหมายมิได้ ด้วยกายอาตมาไม่มีแก่นสารฯ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2008
  19. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    <TABLE width=760 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    [FONT=AngsanaUPC, MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]พระอนาคตวงศ์[/FONT]
    </TD><TD vAlign=top width="30%">

    พระอนาคตวงศ์ กัณฑ์ที่ ๔
    - พระติสสะ (ช้างนาฬาคีรี)

    พระอนาคตวงศ์ กัณฑ์ที่ ๕
    - พระสุมงคล(ช้างปาลิไลยกะ)


    พระอนาคตวงศ์
    - บทสรุป
    - อานิสงส์กถา
    - อธิษฐานวาจา
    - กลอนท้ายเล่ม

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width=760 align=center border=0><TBODY><TR><TD>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="95%" align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>

    [FONT=AngsanaUPC, MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]บทสรุป [/FONT]
    องค์สมเด็จพระมหามุนีธิคุณเจ้าแห่งเราทั้งหลายตรัสพระสัทธรรมเทศนาแก่พระสารีบุตรว่า นานไปเบื้องหน้าพระโพธิสัตว์ทั้ง ๑๐ พระองค์นั้น จะได้ตรัสรู้แด่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณเป็นลำดับกันฯ คือ
    - องค์พระศรีอาริยเมตไตรยเจ้าเป็นปฐมที่ ๑
    - ถัดนั้นจึง พระรามโพธิสัตว์จะได้ตรัสที่ ๒
    - ถัดนั้นจึง พระเจ้าปเสนธิโกศลจะได้ตรัสเป็นพระธรรมราชาที่ ๓
    - ถัดนั้น พระยามาราธิราช จะได้ตรัสเป็นพระธรรมสามีที่ ๔
    - ถัดนั้น อสุรินทราหู จะได้ตรัสเป็นพระนารทะที่ ๕
    - ถัดนั้น โสณพราหมณ์ จะได้ตรัสเป็นพระรังสีมุนีที่ ๖
    - ถัดนั้น สุภพราหมณ์ จะได้ตรัสเป็นพระเทวเทพที่ ๗
    - ถัดนั้น โตไทยพราหมณ์ จะได้ตรัสเป็นพระนรสีหะที่ ๘
    - ถัดนั้น ช้างธนบาลหัตถีนาฬาคีรี จะได้ตรัสเป็นพระติสสะที่ ๙
    - ถัดนั้น ช้างปาลิไลยหัตถี จะได้ตรัสเป็นพระสุมงคลที่ ๑๐


    พระองค์ได้ตรัสเป็นลำดับกันโดยนิยมดังนี้
    อันว่าไม้พระศรีมหาโพธิอปราชิตบัลลังค์ที่นั่งทรงพิจารณาพระปฏิจจสมุปบาทธรรม แล้วตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูเจ้านั้น
    - พระศรีอาริยเมตไตรยเจ้า คือไม้กากะทิงเป็นที่ตรัส ๑
    - พระรามเจ้า คือ ไม้แก่นจันทร์แดงเป็นที่ตรัส ๒
    - พระธรรมราชาเจ้า คือ ไม้กากะทิงเป็นที่ตรัส ๓
    - พระธรรมสามีเจ้า คือ ไม้รังใหญ่เป็นที่ตรัส ๔
    - พระนารทะเจ้า คือ ไม้แก่นจันทร์แดงเป็นที่ตรัส ๕
    - พระรังสีมุนีเจ้า คือ ไม้ดีปลีใหญ่เป็นที่ตรัส ๖ (บางคัมภีร์ว่าเป็นไม้เลียบ)
    - พระเทวเทพเจ้า คือ ไม้จำปาเป็นที่ตรัส ๗
    - พระนรสีหะเจ้า คือ ไม้แคฝอยเป็นที่ตรัส ๘
    - พระติสสะเจ้า คือ ไม้ไทรเป็นที่ตรัส ๙
    - พระสุมงคลเจ้า คือ ไม้กากะทิงเป็นที่ตรัส ๑๐
    อันว่าไม้พระมหาโพธิ ๑๐ ต้นนี้ เป็นที่ได้ตรัสรู้พระสัพพัญญู แห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้ง ๑๐ พระองค์ อันจะบังเกิดในอนาคตกาลเบื้องหน้าฯ

    อันว่านรชาติหญิงชายทั้งหลายจำพวกใด ได้ถวายนมัสการกราบไหว้ซึ่งสมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งสิบพระองค์กับทั้งไม้พระศรีมหาโพธิ ๑๐ ต้น ดังพรรณนามานี้ อันว่านรชาติหญิงชายจำพวกนั้นจะมีผลานิสงส์คือ มิได้ไปบังเกิดในนรกสิ้นกาลช้านานถึงแสนกัปป์ ด้วยกุศลเจตนาของอาตมาที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทั้งสิบพระองค์นั้นฯ สมเด็จพระสรรเพ็ชญ์พุทธเจ้าของเราทรงบัณฑูรพระธรรมเทศนาว่า แท้จริงกัปป์ที่เรียกสุญญกัปนั้น คือเปล่าเสียจากท่านผู้ทรงพระคุณ กัปป์ที่มิได้สูญจากท่านผู้ทรงพระคุณนั้นมี ๕ ประการ คือ
    - สารกัปป์ ๑
    - มัณฑกัปป์ ๑
    - วรกัปป์ ๑
    - สารมัณฑกัปป์ ๑
    - ภัทรกัปป์ ๑

    อันว่าแผ่นดินทั้ง ๕ ประการนี้ มีสมเด็จพระพุทธเจ้าบังเกิดใน สารกัปนั้น ๑ พระองค์, ในมัณฑกัปป์ ๒ พระองค์, ในวรกัปป์ ๓ พระองค์, ในสารมัณฑกัปป์ ๔ พระองค์, ในภัทรกัปป์ ๕ พระองค์ เหมือนกับแผ่นดินเราทุกวันนี้ ชื่อว่าภัทรกัปบังเกิดพระพุทธเจ้าถึง ๕ พระองค์ฯ คือ
    - พระกุกกุสนธเจ้าพระองค์ ๑
    - พระโกนาคมนเจ้าพระองค์ ๑
    - พระกัสสปเจ้าพระองค์ ๑
    - พระพุทธเจ้าของเราอันทรงพระนามว่า พระศรีศากยมุนีโคดมพระองค์ ๑
    - ไปในอนาคตเบื้องหน้า พระศรีอาริยเมตไตรยเจ้า ซึ่งจะได้มาตรัสนั้น พระองค์ ๑
    เป็นพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ด้วยกัน บังเกิดในภัทรกัปอันนี้ฯ

    เมื่อองค์สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยเจ้า ตรัสแล้วล่วงลับดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพาน สิ้นพระศาสนาของพระองค์เจ้าแล้วล่วงไปจนถึงไฟประลัยโลก สิ้นแผ่นดินแผ่นฟ้าตลอดกาลช้านาน จึงบังเกิดแผ่นดินขึ้นมาใหม่เรียกว่า สุญญกัปป์ เปล่าเสียจากท่านผู้ทรงพระคุณวิเศษนั้นนานถึง อสงไขยแผ่นดิน โลกทั้งหลายมืดสิ้นไม่มีท่านผู้วิเศษเลย ต่อสิ้นกาลช้านานแห่งสุญญกัปป์นั้น นับได้อสงไขยแผ่นดินล่วงไปแล้ว เกิดกัปใหม่ตั้งแผ่นดินขึ้นใหม่เรียกว่ามัณฑกัปป์ จะมีสมเด็จพระพุทธเจ้า พระปัจเจกโพธิเจ้า และสมเด็จบรมจักร ในกาลครั้งนั้นจึงมีพระรามเจ้าเป็นอาทิจะได้ตรัสรู้ก่อน พระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายที่สมควรจะได้ตรัสนั้น ก็ได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าสืบๆกันไปตามนัยดังแสดงแล้วแต่หนหลัง ด้วยวาสนาภูมิบารมีของพระบรมโพธิสัตว์สร้างมานั้นต่างๆกัน
    - ที่เป็นอุคฆติตัญญูโพธิสัตว์ สร้างพระบารมี ๔ อสงไขยแสนกัปป์ เรียกชื่อว่า ปัญญาธิกะ ยิ่งด้วยปัญญาฯ
    - ที่เป็นวิปจิตัญญูโพธิสัตว์ สร้างพระบารมี ๘ อสงไขยแสนกัปป์ เรียกชื่อว่า สัทธาธิกะ ยิ่งด้วยศรัทธาฯ
    - ที่เป็นเนยยโพธิสัตว์ สร้างพระบารมี ๑๖ อสงไขยแสนกัปป์ เรียกชื่อว่า วิริยาธิกะ ยิ่งด้วยความเพียรฯ
    ตามประเพณีพุทธภูมิโพธิสัตว์ทั้ง ๓ จำพวก อันมีในคัมภีร์พระอนาคตวงศ์ ตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราตรัสพระสัทธรรมเทศนา แก่พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร ก็สิ้นเนื่อความยุติลงแต่เพียงเท่านี้ฯ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. แดนไทย

    แดนไทย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +1
    อนุโมทนา ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดทันพระศรีอาริย์ขณะทรงประกาศพระศาสนาและเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนาครั้งเดียวขอให้ข้าพเจ้าสำเร็จพรพะอรหันต์ทันที
     

แชร์หน้านี้

Loading...