นานาสาระและธรรมะโชติโก

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย โฮลี่แมน, 24 กรกฎาคม 2014.

  1. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    พระอาจารย์ ..** วันที่ 12 ส.ค. นี้ จัก ถวาย รูปหล่อ ทองคำ 99.99 % น้ำหนัก รวม 2.5 กิโลกรัม บวกทองคำรูปพรรณ แล้ว รวมน้ำหนัก 3.5 กิโลกรัมเด้อ

    ลูกช้าง ...**เงินทองเป็นของมีค่า คนมีปัญญาจึงจะกล้าเอามาทำบุญ

    เป็นบุญประดับใจ ท่านนำไปหล่อพระ มีคนมาได้กราบไหว้ก็เป็นบุญของเราด้วย ปลื้มปีติติดใจ ประดับใจ

    ถ้าเราไม่รู้จักแบ่งปันไปทำบุญบ้างก็ได้แค่ประดับกาย ตายแล้วเอาไปไม่ได้

    ผู้มีปัญญาจึงสละทรัพย์ภายนอกออกให้เป็นทรัพย์ภายใน ได้ใจงดงาม ตลอดกาล

    .บุญ คือ ความดี ความสบายใจ ทำแล้ว ให้แล้ว ใจสบาย นั่นแหละได้บุญ ได้ปัญญา เพราะความสบายใจ ร่างกายก็มีทุกข์เป็นธรรมดา ทุกข์จนตายทุกคน แต่ใจนี้หาบุญมาใส่ออกจากทุกข์ได้ ทุกคนเหมือนกัน

    แม่บอกว่า บุญใครบุญท่าน ใครทำใครได้ อย่าเอาแค่อนุโมทนา อย่างเดียวมันยังไม่พอ เหมือนเราได้แค่สูดกลิ่นอาหาร พอให้ได้ชื่นใจ แต่มันไม่อิ่มเหมือนคนได้ทาน หอม หวาน อิ่มกายใจ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2014
  2. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    อย่าปล่อยให้ความชรา อายุสังขาร ความแก่ ความเจ็บ คอยลากจูงเราไปสู่ความตายฝ่ายเดียว พึงแสวงหาหลักธรรมที่พึ่งอันมั่นคงให้กับจิตใจตนเองบ้าง เพราะจิตใจนี้ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย แต่จะถูกฝ่ายบาปคือกิเลสพัดพาไปสู่อบาย ทางแห่งความเสื่อมเสียได้ง่ายกว่าจะถูกบุญนำพาไปสู่ความเจริญงอกงามตามธรรมคำสอนพระพุทธเจ้า

    เพราะอำนาจความหลงตามกิเลส ความโลภ ความโกรธ รักชัง อิจฉาริษยา ทำร้ายทำลายกันนี่เอง เพราะขาดเมตตาธรรม นำใจให้ร่มเย็นโดยแท้ เมื่อเรามีทาน ศีล ภาวนา หรือ ศีล สมาธิ ปัญญา ประพฤติปฏิบัติชอบตามหลักธรรมคำสอนพระพุทธองค์ได้ดังนี้แล้ว จึงจักพ้นทุกข์ภัยร้ายทั้งปวง พ้นบ่วงแห่งมาร ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ลูกช้าง ... เงินทองมีเท่าไร หาเท่าไรก็ไม่พอหรอก ยิ่งถ้าเราไม่มีธรรมะคอยปกป้อง บังคับใจตัวเองด้วยแล้ว หาได้เท่าไร กิเลสเอาไปกินหมด (ท่านว่าอย่างนั้น)

    เพราะฉะนั้น ท่านจึงให้เรารู้จักเสียสละแบ่งปัน ให้ทาน เป็นเบื้องต้น ให้ใจตนเองมีความเข้มแข็ง อดทนเมตตา สงเคราะห์เกื้อกูลกัน แม้แต่สัตว์เล็กสัตว์น้อยใหญ่ ก็ไม่เบียดเบียนกัน

    อำนาจเมตตานี้จะยังจิตตนให้มีความสงบร่มเย็น ใครเห็นก็อยากเข้าใกล้ พูดคุยสนทนาด้วยก็เป็นการต่อยอดกำลังใจให้กันและกัน ไม่เอาเปรียบ ไม่เบียดเบียนอิจฉาริษยากัน นี่เพราะเห็นคุณแห่งทานนี่เอง

    พระพุทธองค์ก่อนที่จะสำเร็จเป็นพระศาสดาเอกของโลก ก่อนนั้นท่านได้เกิดเป็นพระเวสสันดร ผู้ให้ทานมาก จึงทำให้พระองค์เป็นผู้มีบุญมาก มีทรัพย์มาก มีบริวารมาก มีมิตรมาก มีครบทุกอย่างเลยในสมัยนั้น

    แต่สิ่งที่พระองค์ปรารถนาสูงสุด คือ การตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จึงได้ออกบรรพชาเป็นดาบส บำเพ็ญพรต ถือศีลภาวนา เมื่อร่างกายแตกดับหมดอายุไขไปตามกาลเวลา จึงได้ไปจุติ เกิดเป็นเทพบุตร อยู่ในวิมานสวรรค์ชั้นดุสิต

    จวบจนถึงกาลปัจจุบันเมื่อสองพันหกร้อยกว่าปี เทพบุตร ชื่อ สันตุสิต ได้เสด็จลงมาจุติในชมพูทวีป (ประเทศอินเดีย) เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าแผ่นดิน มีทรัพย์สินมากมาย ครบสมบูรณ์ทางโลก

    สมบัติทางโลกเป็นของเสื่อมง่ายสลายเร็ว พระองค์จึงเสด็จออกผนวชแสวงหาโมกขธรรม บำเพ็ญตน จนตรัสรู้ธรรมความจริงแห่งอริยสัจ สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ปลดเปลื้องทุกข์ทั้งปวงได้แล้วในพระทัย เสวยวิมุตติสุข วิมุตติธรรม ดำเนินตามครรลองแห่งองค์พระพุทธเจ้า ประกาศพระศาสนาแนะนำสั่งสอนธรรม สู่พุทธบริษัท ให้ได้เข้าถึงธรรม สำเร็จมรรคผล ตามพระองค์สู่พระนิพพาน .. อันเป็นบรมสุข ไม่ต้องมาเกิด แก่ เจ็บ ตาย อีก ทำลาย ชาติ ชรา มรณะ โดยสิ้นเชิง..

    พระอาจารย์ ... 55555....นักเทศน์ ออนไลน์

    ลูกช้าง ... ครูบาฯ เยอะ แต่ไม่ค่อยเทศน์ ลูกศิษย์ก็เลย จำมาจากครูบา อิ อิ สาธุ

    พระอาจารย์ ... พูด แล้วคน สบายใจ ซึ่งหายากในสมัยปัจจุบัน....พูดดีๆ ก็ พูดไปเถอะ

    ลูกช้าง ... เรื่องของกรรมเป็นของใครของท่าน ฉะนั้นเราทุกข์กับใครก็ต้องแก้ไขใจตนเองกับเขาให้ได้

    เรียกว่า .......

    เหนือความพอดี คือความอิจฉา
    เหนือความอิจฉา คือความริษยา
    เหนือความริษยา คือความอาฆาต
    เหนือความอาฆาต คือความโกรธ
    เหนือความโกรธ คือความรัก
    เหนือความรัก คือความเมตตา
    เหนือความเมตตา คือการอภัย
    เหนือการอภัย คือการปล่อยวาง
    เหนือการปล่อยวาง คือการอโหสิกรรม

    ...ถูก บ่ หนอ ...สาธุ

    พระอาจารย์ ... ไม่มีเหลือ ไม่มีเหนือ แม้เม็ดหิน เม็ดทราย

    พอใจ ยินดี ชอบ.....ไม่พอใจ ไม่ยินดี ไม่ชอบ, ล้วนเป็นเหยื่อ ในโลกทั้ง 3

    ลูกช้าง ... ผู้ยังเป็นเสขบุคคลย่อมยังเป็นผู้ติดบ่วงหน่วงกรรม ยังไม่พ้นทางของกิเลส .. ปฏิบัติ ต่อไปอีกเรื่อยๆ ตามศีล สมาธิ ปัญญา จนกว่าจะพบธรรมพ้นบ่วงแห่งมาร สู่อริยภูมิแห่งอเสขบุคคล .. ผู้พ้นแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 22.jpg
      22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      383.3 KB
      เปิดดู:
      27
  4. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    พระอาจารย์ อนาลโย : พระนิพพานเป็นธรรมอันสูงสุด หมู่สัตว์อื่นใดอันยังท่องเที่ยวไปในภพน้อยใหญ่นั้นอยู่ ก็ยังมิพ้นทุกข์ ก็ท่านยังมีน้ำตาอยู่แล้วท่านจะเช็ดน้ำตาให้ใครได้หนอ ขอให้ทุกท่านจงพ้นภัยในวัฏฏะทุกข์นี้เถิด สาธุ ** 02/09/54

    พระอาจารย์ อนาลโย : เราๆ ทุกๆ คนที่คิดว่าตนเป็นคนดีขอให้ดีด้วยใจ มีไมตรีแผ่ไปสู่สรรพชีวิตทุกรูปทุกนามอย่างเต็มรอบแห่งใจ มิใช่ดีเพราะรักเพราะหลงเพราะหวงเพราะห่วง หากดีอย่างนี้ยังได้ชื่อว่าดีปลอม พระพุทธองค์ทรงตรัสสั่งสอนแก่เวไนยให้ได้สดับกันทั่วไปว่า อย่าได้พึงโกรธ หากมีใครต่อว่าพระองค์ เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงสั่งสอนนั้นมิใช่ให้ยึดมั่นถือมั่นในเราในเขา แต่พระองค์ทรงสอนให้เราละอัตตาตัวตนเสียให้ได้ หากผู้ใดยังมีรักในลักษณะที่ยังยึด มีเรามีเขา มีกลุ่มมีก้อน พวกแกพวกฉันอยู่อย่างนี้ คนผู้นั้นก็ยังไม่พ้นอบายภูมิได้เลย

    มีบางท่านเคยเศร้าเคยเหงาเคยทุกข์ใจ พอได้เข้าไปฟังธรรม พระท่านถามทักใจจึงกลับฟื้นตัวขึ้นมาได้ ต่อมากลับกลายเป็นความผูกพัน และต่อมากลายเป็นความหึงหวงไปเสีย ใครทำอะไรอาจารย์ฉันไม่ได้ ต้องข้ามศพฉันไปก่อน เดือดร้อนใจกายแทนอาจารย์ เจ็บแค้นแทนอาจารย์ตน พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะแก้แค้นแทนอาจารย์ตน

    ขอให้ทุกๆ คนรู้เอาไว้ว่า ความรู้สึกเช่นนี้ การกระทำเช่นนี้ มันคือ ความชั่วดีๆ นี่เอง การก่อเวร ไม่มีในหมู่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ผู้ใดสารเวรต่อ ผู้นั้นย่อมมีภพชาติที่ยาวนานต่อไปไม่รู้จบ จบที่เรา แล้วเวรจะระงับ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

    ลูกช้าง : คำชมจากครูบาเหมือน ยาหวาน
    บางคนชอบทานเป็นนิสัย
    บางคนทานมากไปก็ ดื้อยา

    บางทีท่านก็ให้ ยาขม บ้างเป็นบางครา
    คนไหนรับได้ก็หายโรค หายโศก หายเศร้า
    บางคนรับไม่ได้ ก็หายเหมือนกัน หายไปไม่กลับมาอีกเลย

    สาธุ สาธุ
    นมัสการครับ

    พระอาจารย์ อนาลโย : สาธุ นั่นเป็นธรรมดาแห่งสรรพสิ่งแท้แล้ว
    ธรรมบทเดียวกัน

    อาจจะยังผู้ฟังคนหนึ่งให้เป็นอรหันต์
    ยังผู้ฟังคนหนึี่งให้เป็นอนาคามี
    ยังผู้ฟังคนหนึ่งให้เป็นสกิทาคามี
    ยังผู้ฟังคนหนึ่งให้เป็นโสดาบัน
    ยังผู้ฟังคนหนึ่ีงให้มีศรัทธา
    หรือยังผู้ฟังคนหนึ่งให้เอือมระอาสิ้นแรงศรัทธาก็ได้
    นั่นเพราะวิถีจิตของเขาเหล่านั้นแตกต่างกัน ** 02/09/54

    ลูกช้าง : อุบาย กับ อบาย

    จะว่าใกล้ก็ใกล้
    จะว่าไกลก็ไกล

    บางคนใช้ อุบาย เพื่อให้ตน ไปอบาย
    บางคนใช้ อุบาย เพื่อให้ตน พ้นอบาย

    ขอพระคุณเจ้าช่วย อธิบาย ด้วยเทอญ .. นมัสการ

    พระอาจารย์ อนาลโย : อุบาย เราจะใช้ทำอะไร เพื่ออะไร ที่สุดแห่งการกระทำนั้น จะเกิดผลอย่างไร นี่คือสิ่งที่ควรกำหนดรู้ให้ชัด

    : อันว่าวิถีแห่งใจนี้สำคัญนักแล ก็หากว่าเรายังมีกิเลสครอบงำใจอยู่ โดยมากอุบายมักจะเป็นไปในทางหลอกลวงต้มตุ๋นกันเสียมาก แต่ถ้าหากใจเรามุ่งไปในทางที่ดีเสียแล้ว อุบายก็มักจะใช้ไปในทางที่สมเหตุสมผลและเพื่อเอื้อเฟื้อเกื้อกูลต่อคุณงามความดี อันจะเกิดมีมาอีกวาระ

    กาลครั้งหนึ่ง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้ไปอยู่พักจำพรรษากับชนเผ่ามูเซอ ในระหว่างที่ท่านเดินจงกรมอยู่นั้น ชาวบ้านได้มาแอบดูท่าน มีความสงสัยเป็นอย่างมากว่า หลวงปู่ท่านทำอะไร เดินหาอะไร

    ชาวบ้านจึงได้เรียนถามท่านว่า
    ตุ๊เจ้าเดินหาอะไร
    หลวงปู่มั่นจึงได้ ตอบว่า
    เราเดินหาพุทโธ
    ชาวบ้านจึงถามต่อว่าพุทโธนี้เป็นอย่างไร แล้วพวกเขาจะช่วยได้อย่างไร หลวงปู่มั่นจึงตอบไปอธิบายถึงลักษณะของพุทโธ แล้วแนะให้ชาวบ้านเหล่านั้นเดินหาพุทโธ ช่วยท่าน ชาวบ้านต่างก็เดินหาพุทโธกัน ตามวิธีที่หลวงปู่ท่านแนะนำ เจตนาของหลวงปู่มั่นที่แท้จริงก็คือ หวังจะให้พวกชาวบ้านเหล่านั้นได้หัดเดินจงกรม ฝึกภาวนากัน นี่ก็เป็นอุบายอย่างหนึ่ง อันมีฐานมาจากเจตนาอันดีงาม เพื่อความถึงพร้อมด้วยความดีงาม

    : มีมารดาคนหนึ่งมีบุตรที่อายุยังน้อย ต้องคอยดูแลเลี้ยงดู มีอยู่วันหนึ่ง เจ้าตัวเล็กผู้เป็นบุตร ได้เที่ยววิ่งเล่นซุกซนอยู่ภายในเขตบริเวณบ้าน ใน ขณะนั้น ผู้เป็นมารดาก็มีภาระที่จะต้องทำ มีซักผ้าบ้าง กวาดบ้านบ้าง ด้วยเพราะห่วงผู้บุตร จะวิ่งเล่นออกไปนอกบ้าน ซึ่งหน้าบ้านนั้นเป็นถนนใหญ่มีรถวิ่งแล่นไปมา ผู้มารดาจึงได้บอกกับบุตรว่าอย่าวิ่งออกไปข้างนอกนะเดี๋ยวรถชนเอา ในการบอกดังนั้นผู้เป็นแม่ก็ยังไม่แน่ใจว่าบุตรแห่งตนจะเชื่อฟังตนหรือไม่ จึงได้สัมทับลงไปอีกว่า รถชนตายเลือดไหลอาบ ตายแล้วต้องไปตกนรกหมกไหม้ ถูกไฟเผาเอาจนสุก เพื่อให้ลูกนั้นกลัวจะได้ไม่ิ่ออกนอกบ้านไป นี่ก็เป็นอุบายหนึ่ง

    : ครั้งเมื่อองค์สมเด็จพระศาสดาเสด็จโปรดเหล่าเวไนยนิกรทั้งหลาย พระองค์จะแผ่ข่ายพระญาณสอดส่องดูเสียก่อนว่าควรจะโปรดผู้ใด จะโปรดอย่างไร และเมื่อเสด็จไปถึงสถานที่อันบุคคลผู้นั้นอาศัยอยู่ พระองค์ก็ทรงปฏิบัติตามแผนที่ได้ใคร่ครวญไว้ดีแล้ว บางคนต้องใช้วิธีมากมายหลายกระบวนท่า จึงสามารถทำให้เขาคลายพยศลดมานะละทิฐิได้ ยอมเงี่ยหูสดับฟังธรรมะ แม้นี้ก็ถือว่าเป็นอุบาย อันพระศาสดาได้ใช้เพื่ออนุเคราะห์แก่เวไนยนิกรให้เข้าถึงกระแสธรรมได้อย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ดีแล้ว

    : การใช้อุบายตามที่ได้แสดงมานั้น เป็นอุบายที่เกิดแต่ดวงจิตที่กอบด้วยความการุณ เพื่อยังบุคคลเหล่านั้นให้พ้นจากเวรภัยน้อยใหญ่ นี่ถือได้ว่าเป็นกุศโลบายอันพ้นเขตแห่งอบายโดยแท้

    : อุบาย เพื่อให้ตนไปอบายนั้น คือ หลอกล่อผู้อื่นให้วิบัติ เพื่อตอบสนองความต้องการของตน อันเป็นการก่อเวรสร้างบาป เบียดเบียนทำร้าย ประทุษร้ายย่ำยี อุบายเหล่านี้ คือ อุบายแห่งคนพาล

    : อุบาย อันเกื้อกูลแก่การเจริญงอกงามแห่งกุศลจิต เช่นการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก เพื่อล่อจิตให้ดิ่งสงบ ระงับจากความฟุ้งซ่าน อุบาย ดับความอยากอันจะนำพาไปสู่การกระทำอันชั่ว มีการเบียดเบียนผู้อื่นสัตว์อื่น ให้ระงับดับหาย เป็นอุบายอันเกื้อกูลแก่ความดีงาม เกื้อกูลแก่ความพ้นทุกข์ เกื้อกูลแก่ปิยมิตร เหล่านี้ได้ชื่อว่าเป็น อุบายแห่งความพ้นจากอบายโดยแท้ แม้การว่าจ้างบุตรแห่งตนเพื่อให้ไปวัดไปฟังธรรม นี่ก็ถือว่าเป็นอุบายอันเกื้อกูลแก่ความพ้นทุกข์ ** 03/09/54

    : สมาธินี้ดี ทำให้ไม่หลงตาย ไม่หลงอยู่ **30/08/54

    มีผู้ถาม : รู้ว่าไตรลักษณ์ที่พุทธองค์ท่านทรงเมตตาบอกกล่าวให้เห็นว่าเป็นอย่างไร ก็ให้ดับตรงนั้น.. แต่ก็ยังละ และวาง ไม่สนิท จะทำอย่างไรกับอารมณ์นี้ให้เป็นอุเบกขาได้เจ้าคะ...

    พระอาจารย์ อนาลโย : กำหนดดูที่ตน กำหนดดูที่ความรู้สึกของตนๆ ว่าแบกเพราะอะไร เราจะเห็นได้เลยว่า เราแบกมันไว้เพราะห่วงตัวเอง เห็นแก่ตัวเองทั้งนั้นหละ กำหนดเข้ามาสู่ตัวเอง เดี๋ยวก็ตาย แบกไว้ได้อะไร ศักดิ์ศรีกินไม่ได้แถมยังทำร้ายเรานำเราให้ตกนรกอีก กลัวเสียหน้าหละสิถึงได้โกรธให้เขา กลัวเสียสิ่งที่ตนรักหละสิ ถึงได้เป็นทุกข์ กลัวเขาหาว่าตัวเองโง่หละสิ ถึงได้แบกไว้ไม่รู้จักวาง

    กำหลาบมันอย่างนี้รู้ที่จิตมันอย่างนี้ แล้วมันจะคลายตัวออกมาเอง แล้วค่อยเข้าสู่อนิจจัง สงบดับวางเข้าสู่อุเบกขาธรรม

    ถาม : กราบขอบพระคุณพระคุณเจ้า.. ก็คงอยู่ที่บุญที่เคยสร้างจะช่วยให้สมปรารถนาได้เร็วแค่ไหนด้วยหละค่ะ กับหลายสิ่งก็ละวางได้ไม่อาลัย แต่กับบางสิ่งยังจดจ่อตัดไม่ขาดเหมือนบัวยังเหลือใยบางๆ เพราะสัญญาเดิมที่ยึดไว้กระมังคะ..

    พระอาจารย์ อนาลโย : ละได้หรือ? คงจะไม่จริงกระมัง ละตัวเดียวได้ย่อมละได้ทุกสิ่ง โยมไม่ยอมละตัวตนของตน โยมไปละสิ่งภายนอก มันจะละได้ขาดหรือ ละอย่างที่โยมว่ามามันแค่ เปลี่ยนใจไปหวงอย่างอื่นสิ่งอื่นแทนต่างหากละ ** 26/08/54

    พระอาจารย์ อนาลโย : มีหลายๆ คนไม่ชอบคำซื่อที่คอยพร่ำสอน แต่มักพร่ำเพรื่ออาวรณ์น้ำคำหวานที่หว่านล้อมโกหก 04/09/54

    : คนโง่ย่อมปล่อยจิตของตนให้จมดิ่งลงสู่ก้นแม่น้ำแห่งอาวรณ์ เฝ้าค่ำครวญโหยหาความเป็นธรรมจากกระจกเงา เขาผู้นั้นมิได้ต่างอันใดจากคนบ้า เพราะเขาเป็นผู้ขาดแล้วซึ่งสติ 04/08/54

    : ลูกรักของพ่อ ทุกๆครั้งที่พวกเจ้านั้นสร้างสรรคความดีงาม เจ้าทั้งหลายจงเหลียวมองดูใจตนเฝ้าบอกใจตนเสมอว่า เจ้ามิได้ทำเพราะหวังสิ่งใดๆ ที่ทำไปเพียงเพราะสร้างหัวใจตนให้เป็นคนมีคุณธรรม ตามแบบอย่างแห่งพระศาสดาบรมครูของชาวเราเหล่าพุทธบริษัททั้งหลายเท่านั้น ผลที่จะเกิดจากการทำดีของพวกเจ้า สิ่งที่ควรหวังมีเพียงสิ่งเดียวคือ ความสิ้นไปแห่งความชั่วช้าของใจเจ้าเอง 04/08/54

    : สูทั้งหลายจงดูโลกอันตระการดุจราชสถ อันคนเขลาข้องอยู่ ผู้มีปัญญาหาข้องอยู่ไม่
    ธรรมแท้เมื่อกระทบกับดวงจิตของผู้ใคร่ทำ ธรรมอันมีอริยวิถีปรากฏเป็นมรรคแล้ว ย่อมยังจิตนั้นให้เบิกบาน ดั่งแสงพระอาทิตย์สาดส่องกระทบกับดอกอุบลในยามเช้า อุบลนั้นย่อมแย้มบาน กลีบดอกแห่งอุบลนั้นย่อมยังใจแห่งหมู่สัตว์อื่นให้แช่มชื่นเบิกบานตาม 04/08/54

    : ฟ้าครามยามหน้าหนาว อากาศพอดีกัน บนพื้นโลกนี้หนาว แต่เพราะได้แสงจากดวงตะวันสาดส่องลงมา จึงช่วยยังความอบอุ่นให้ก่อเกิดขึ้นมาได้บ้าง อีกทั้งเรื่องอื่นๆ อันพอจะสังเกตได้ มันมีทั้งสุขทั้งทุกข์ปะปนกันไป พอได้สะกิดใจให้หมู่มนุษย์นี้ได้มีสติไม่หลงกันมากจนเกินไป นี่หละหนอคือความพอดีแห่งโลกมนุษย์นี้ ซึ่งแตกต่างจากโลกอื่นๆ อันหาความพอดีนั้นได้ยาก

    บนสวรรคนั้นก็แสนสุขมากเหลือจนทำให้หลงลืมวันคืนถูกอำนาจของความเพลินกลืนกินใจไปยากนักจะรู้บำเพ็ญ

    อันในอบายนั้นเล่าหนอก็มีแต่ทุข์และความขมขื่น แสนปวดแสนทรมานแทบจะไม่มีเวลาได้หยุดพักให้หายร้าวรานกายใจ

    อันหมู่เราชาวมนุษย์นี้นับว่ามีบุญวาสนาใหญ่หลวงแล้ว อย่าได้ปล่อยวันคืนให้ลวงไปโดยไร้คุณค่า จงหมั่นใช้กาลเวลาทุกๆ ส่วนให้ก่อเกิดประโยชน์ใหญ่แก่ชีวิตตน จงรู้จักใช้ทุกข์ให้เป็นดั่งกระดาษทรายคอยขัดคอยถูใจให้เกลี้ยงเกลาขาวสะอาด จนกว่าจะผ่านพ้นแดนแห่งทุกข์นี้สิ้น เข้าสู่ประตูแห่งพระนิพพาน **04/09/54

    : พรใดหนอจะดีเท่าปัญญาเรารู้ปกครองตน
    พรใดหรือจะทนเท่าตนรู้จักกาลควรไม่ควร
    แต่พรเรานี้มาแต่จิตขอให้ท่านจะประสบสุขดั่งที่หวัง
    มีปัญญาเป็นพลังใช้ฟันฝ่าอุปสรรคนานา
    ขอให้มีความสุขกับการทำงานเน้อ สาธุ 05/09/54
     
  5. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    พระอาจารย์ ... สมาธิที่ต้องเข้าๆ ออกๆ ไม่ใช่สัมมาสมาธิ

    สัมมาสมาธิ เป็นสมาธิที่เกิดโดยธรรมชาติ ปราศจากความตั้งใจ

    แต่เป็นภาวะของจิตที่ตั้งมั่น มั่นคงด้วยสติ สติสัมปชัญญะ เป็นสมาธิโดยธรรมชาติ

    เหตุผลง่ายๆ ของการระลึกฐานที่ตั้งของจิต ก็เพื่อ สมมติให้จิตมีที่อยู่ มีที่ตั้งแน่นอน และเป็นเครื่องหมายของการกำหนดสติของเราเท่านั้นเอง

    เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว จิตที่ตั้งมั่นอยุ่ในฐานที่ตั้งมั่นของจิต จิตจะมีสติกำหนดจิตอยู่ในฐานที่ตั้งดังกล่าว

    หากผู้รับฟังสัมผัสทางหู หูก็จะรับหน้าที่รับเสียงไป แต่จิตอยู่ในฐานไม่ออกมารับ
    หากตาเห็นรูป ตาก็มีหน้าที่รับภาพไป แต่จิตไม่ส่งออกมารับ

    ลูกช้าง ... สาธุ ดีแท้ ตอนนี้ก็เลยไม่รู้ว่า เข้าสมาธิ หรือ ออกสมาธิ มันซือๆ นั่งหลับตาภาวนาก็เหมือนไม่ได้นั่ง ไม่ได้นั่งก็เหมือนนั่ง มันคึ คือ กัน หนอ

    พระอาจารย์ ...55555

    ผู้ปฏิบัติถึงขั้นนี้แล้ว จะค้นพบว่า จิตมันเหมือนมีชีวิต อีกชีวิตหนึ่งที่ไม่ข้องกับร่างกาย

    ร่ายกายทำไรๆทำไป แต่ใจก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่สนใจ

    เมื่อถึงตอนนี้ เราจะแยกออกได้แล้วว่า จิตนั้นมีหน้าที่รับรู้

    ส่วนของสังขารเค้าก็มีหน้าที่ปรุงแต่ง ส่วนของสัญญาก็มีหน้าที่จำได้หมายรู้ทุกอย่างทำงานปกติ

    แต่ไม่เกี่ยวข้องกับจิต ต่างแยกหน้าที่กันทำ อยู่ด้วยกันแต่ไม่กระทบกัน

    คนทรามปัญญา มีความเห็นผิด ติเตียนคำสอน
    ของเหล่าพระอริยะผู้อรหันต์ ผู้มีชีวิตอยู่โดยธรรม
    เขาย่อมเกิดมาเพื่อฆ่าตัวเขาเอง
    เหมือนชุยไผ่ฆ่าต้นไผ่ฉะนั้น

    Whoso on account of false views
    Scorns the teaching of the Noble Ones,
    The Worhty and Righteous Ones.
    He, the foolish man, destroys himself
    Like the bamboo, seeding, finds its end.

    ลูกช้าง ... สาธุ ครับ
    ต้องหมั่นเจริญสติ พิจารณาบ่อยๆ เพื่อให้เป็นอัตโนมัติ หรือเปล่าครับ

    พระอาจารย์ ... ไม่ใช่แล้ว

    แค่รู้เฉยๆ

    อยู่ท่ามกลางอกนั่นแล

    จิตรวม จะมีลักษณะ ตึงๆ ที่หน้าอก

    บุญกุศล ปีติ จะมีลักษณะ เย็นๆ ที่หน้าอก

    โล่งว่าง ลงมาถึงท้องได้

    ลูกช้าง ... ปีตินี่เกิดบ่อยๆ ได้ตลอดยืน เดิน นั่ง นอน

    พระอาจารย์ ... ใช่เลย

    นึกถึงพระ นึกถึงบุญ จะเกิดทันที

    ลูกช้าง ... ประมาณนั้นเลยครับ

    พระอาจารย์ ...5555555

    ลูกช้าง ... 55 อายนะนี่ 55

    พระอาจารย์ ...เข้าฌานแบบลืมตา 555555

    ลูกช้าง ... เค้าว่า มาแบบนั้นแหละ ครับ ไม่ค่อยเข้าใจระบบ เท่าไหร่

    พระอาจารย์ ...ของจริงเว้ย

    พระไตรปิฎกแท้ อยู่ที่ใจ เป็นธรรมชาติ ของทุกคน

    ลูกช้าง ... แต่ก่อนมันไม่เป็น พอปฏิบัติไปมันก็เป็นได้ เหมือนกัน สาธุ

    พระอาจารย์ ... นั่นเพราะเรา ทำบุญกับพระอรหันต์มา

    และไม่เคยลบหลู่ บุญคุณครูบาอาจารย์

    จิตมันไม่ขุ่นมัว เศร้าหมอง

    ธรรมก็ไหลเข้าสู่ใจ เป็นลำดับเรื่อยๆ มา

    ลูกช้าง ... กราบนมัสการ สาธุครับ
     
  6. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    กราบนมัสการพระคุณเจ้าด้วยความเคารพยิ่ง

    ฝันว่า .. ได้เดินเที่ยวไปในป่าแห่งหนึ่ง ได้มองเห็นพระภิกษุรูปหนึ่งเดินไปด้านหน้า ห่มผ้าจีวรสีทองสวยงาม จึงได้เรียกท่านว่า

    หลวงพ่อครับ หยุดให้ผมได้กราบหน่อยครับ
    ท่านหยุดยืนมองมาตามเสียงของข้าพเจ้า แล้วหยุดยืนอยู่ด้วยอาการสำรวม

    ข้าพเจ้าจึงได้เข้าไปคุกเข่า แล้วกราบนมัสการท่าน 3 ครั้ง
    ท่านยื่นมือทั้งสองข้างเข้ามาหา ข้าพเจ้าจึงได้จับมือท่านทั้งสองข้าง

    จึงพูดกับท่านว่า มือหลวงพ่อเย็นจังครับ หลวงพ่อชื่ออะไรหรือครับ?

    ท่านยิ้มด้วยความเมตตา แล้วตอบว่า เราชื่อพรหม

    หลวงพ่อชื่อพรหม ที่สร้างหลวงพ่อโต ที่บางขุนพรหมหรือเปล่าครับ?

    อือ ใช่แล้ว เราเองแหละ

    หลวงพ่อนิพพานแล้วไม่ใช่เหรอครับ?

    ยังหรอก เรายังไม่นิพพาน รออีก 2006 ปี โน้นแหละ

    จากนั้นท่านก็เดินทางต่อไป....

    หลังจากตื่นจากฝันแล้ว ได้มานึกทบทวนความฝัน จึงได้รู้ว่า ภิกษุที่ข้าพเจ้าได้สนทนาด้วยในฝัน ก็คือ สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี นั่นเอง เพราะรูปหน้าตาท่านเหมือนที่เราเคยเห็นในรูปไม่มีผิดเพี้ยนเลย เพียงแต่ในฝันนั้นองค์ท่านจะตัวสูงใหญ่ เดินธุดงค์ไปตามป่าเพียงผู้เดียว

    เป็นเพียงแค่ความฝันจะถูกผิดอย่างไร ก็อยู่ที่วิจารณญาณของผู้อ่านนะครับ ถ้าตามที่ฝันท่านบอก 2006 ปี ยุคนั้นคงเป็นยุคปลายศาสนาขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันแล้ว ยุคนั้นการจะหาพระอรหันต์คงยากแท้ จึงไม่แน่ใจว่าท่านจะนิพพาน ในโลกทิพย์หรือในโลกมนุษย์ ก็สุดจะคาดเดาได้ .. การได้ฝันถึงพระคุณเจ้าก็นับว่าเป็นลาภอันประเสริฐแล้ว หากข้าพเจ้า กล่าวผิดประการใดต้องขออภัยหลวงพ่อพรหม ด้วยความเคารพนะครับท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ลูกช้าง ..หนุ่มใหญ่วัยกลางคน เจอกันที่วัด เข้าวัดมาปฏิบัติธรรมช่วยงานวัดบ่อยๆ เกิดความสงสัย ถามขึ้นว่า

    " อยู่ข้างนอกปฏิบัติธรรมบ้างหรือเปล่า? "

    (ฟังเสียงคำถามเหมือนกำมีดไว้ด้วย อิ อิ) เพราะเค้าไม่ค่อยเห็น มานั่งสมาธิ ฟังเทศน์ ฟังธรรม เท่าไร ..

    จึงถามกลับไปว่า " ปฏิบัติอย่างไรหละ? "

    เค้าเงียบ แล้วเดินออกไป บอกว่า "จะไปเดินจงกรม "

    ใจจริงแล้วก็อยากจะพูดเหมือนกันว่า " สำหรับเราเดินที่ไหนก็เป็นจงกรม " แต่ไม่กล้าพูดหรอก ..กลัวเขาตีปากเอา.."

    5555....สาธุ


    พระอาจารย์ ... วิตกวิจารณ์ เรื่องชาวบ้าน เป็น ฌานที่ 1 ไม่ได้ปีติ สุข เอกคตา ไฟนรกเผาใจ แล้วจะไปไหน.....55555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2014
  8. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ลูกช้าง ... นิวรณ์ นี่ เกิดๆ ดับๆ หรือว่าดับแล้วดับเลย ครับ

    พระอาจารย์ ... สังขารหยาบก็ตาม ละเอียดก็ตาม ล้วนเกิดแล้ว ดับทั้งนั้น แต่ ถ้าเป็นสมาธิจิตนี่ กาย กับ จิต จะแยกเป็นอิสสระแก่กัน กายก็จริงอันหนึ่ง จิตก็จริงอันหนึ่ง กาย วาจา คิดนึก ล้วนเป็น ผล มาจากใจ ใจนั่นแล เป็นตัวต้นเหตุ

    คิดนึก ....เป็นอาการ ของจิต ไม่ใช่ตัวจิตเดิมแท้

    ผู้ตามดูจิต มักพลาดไป

    ใจนั่นแหละ....เป็นที่ตั้งของตัวจิต จริงๆ

    คิดนึก ล้วนเป็นผล เป็นอาการ ที่กระเพื่อม จากกระแสของ จิต

    เมื่อตามดูคิดนึก...จึงหลงพลาด ไปดูอาการ คือ คิดอดีต คิดอนาคต

    หลงออกไปดูข้างนอก

    เบื้องต้น ท่านจึงว่าให้ดู กาย

    ลูกช้าง ... เปลี่ยนแนว รู้ เฉยๆ ที่ใจ ตามอาจารย์บอก ใช่ได้เลยครับ ไม่เครียดด้วย
    ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องกำหนด รู้ เฉยๆ ...แต่ก่อนมันแปล รู้ เฉยๆ ไม่ออก นะ
    55555

    พระอาจารย์ ...โลกนี้ ไม่ได้มีผิดถูกมาก่อน

    ครั้นมนุษย์ สมมุติ บัญญัติ กฏเกณฑ์ แล้ว ก็ยึด ว่าผิด ว่าถูก
    แท้จริง....ธรรม คือ ธรรมชาติ

    ลูกช้าง ... ครับ เข้าใจธรรมชาติได้ก็พอสบายใจเลย

    พระอาจารย์ ... พอ....ใจ

    ลูกช้าง ... ครับ พอใจหลาย เปลี่ยนแนวได้ สบายใจ อิอิ พอ ใจ ๆ

    พระอาจารย์ ...ที่หลวงปู่มั่น ให้พุทโธ ก็เพื่อแย่ง ชิง ความคิด กลับคืนจากกิเลส มาให้ ธรรม

    เมื่อ กลับมาเข้าบ้านได้แล้ว พุทโธ ธัมโม สังโฆ ก็ เป็นหนึ่งเดียว คือ ธรรมชาติ ของ ใจ

    ลักษณะ ของบุญ ก็คือ เย็นใจ

    คือเย็นที่หัวใจ

    ลองสังเกตุ ดูเอานะ

    ใครเจอเย็นใจแล้ว จะเป็นผู้ไม่ถอยหลังอีก มี่แต่พุ่งขึ้นไปโดยถ่ายเดียว

    ลูกช้าง ... ครับ จะพยายามหมั่นดูเรื่อยๆ

    5555555

    พระอาจารย์ ... ไม่เกิน.....รู้เฉย หลวงปู่สังวาลย์

    รู้สึก อยู่ที่ใจ 55555555

    ลูกช้าง ... สุดยอดที่สุด คำสอนหลวงปู่ ผู้รู้ตามมีน้อย ส่วนมากอ่านได้เฉยๆ อิ อิ

    พระอาจารย์ ... หลงแรงดึงดูด ของ โลก

    ลูกช้าง ... ไปดูข้างนอกมากไปหน่อย ก้อเลยโดนปั่นไถลไปแต่ข้างนอก...ก็เลยเครียดไปใหญ่

    พระอาจารย์ ... 555555

    ตามรอยโค.....ที่แท้โค ก็อยู่ในคอกนี่เอง

    ลูกช้าง ...กราบลา พระอาจารย์ไปจำวัดหละ กลัวลืมวัด ..สาธุ 555

    พระอาจารย์ ...555555

    พอ....ใจ

    ลูกช้าง ... สาธุ บ๊ายยย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ปัจจัยเงินทองที่ได้รับบริจาคมา 7-8 คน พร้อมบริจาคทำบุญร่วมสร้างพุทธมหาเจดีย์ พระธรรมวิสุทธิมงคล บูชาคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า พ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ..

    ทานัง เม ปริสุทธัง นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ สาธุ

    พูดแบบตรงๆ ทรัพย์ที่เราบริจาคมา ไม่ได้เท่าเศษเสี้ยวของทรัพย์ที่เรามีอยู่หรอก
    แต่มันยิ่งใหญ่มากมายที่ใจเราได้สละออกมาเป็นสมบัติภายใน เรียกว่าเป็นทรัพย์ ที่ไม่ขาดไม่สูญหาย ไม่มีใครทำลายได้ เป็นอริยทรัพย์ ไม่หายไปจากใจเรา

    ทรัพย์ที่เก็บไว้ภายนอก เพียงแค่กินใช้หมดสิ้นไป หาความปีติเบิกบานใจได้ไม่นาน พอเรานำมาเก็บไว้เป็นทรัพย์ภายใน คือบุญ ชื่นใจตลอดกาล

    ขออานิสงส์บุญที่ท่านได้ทำดีแล้ว ระลึกชอบแล้ว จงอุทิศบุญนี้ ให้กับบิดา มารดา ปู่ย่าตายาย ลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย อีกทั้งเจ้ากรรมนายเวร พระอินทร์ พระพรหม ยมบาล รุกขเทวดา เปรต อสุรกาย สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย สัตว์ใดที่มีทุกข์ขอให้พ้นทุกข์ สัตว์ใดที่มีสุข ขอให้มีสุขยิ่งๆ ขึ้นไป

    แผ่เมตตา เป็นอัปปมัญญาเมตตา โดยไม่มีประมาณไปทั่วจักรวาล ขอให้ได้ มรรรค 4 ผล 4 พระนิพพาน 1 ด้วยกัน ทุกท่าน ทุกคน เทอญ สาธุ


    เราเสียสละให้ทานนี้...

    ถ้าคิดเป็นธุรกิจ เหมือนขาดทุน ถ้าคิดเป็นบุญ มีแต่กำไร...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • unnamed (7).jpg
      unnamed (7).jpg
      ขนาดไฟล์:
      492.4 KB
      เปิดดู:
      31
  10. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ห่างหายไปสองอาทิตย์กว่า เพราะได้ไปกราบพระอาจารย์ที่วัด จึงงดสนทนาทางเน็ต..

    ลูกช้าง ... เมื่อคืน ไปพักที่วัดสวนป่าเขาพระครูครับ ลุกขึ้นนั่งสมาธิเที่ยงคืน ปีติที่ใจ สั่น สะเทือนไปทั้งร่าง 3 ครั้ง เสร็จแล้วนอนลง ได้กลิ่นยาจากพระอาจารย์ด้วย ก่อนหลับ ปีติขึ้นอีก หลับไปฝันว่าได้เจอ ท่านอาจารย์สัมพันธ์ ด้วยครับ

    ตื่นเช้า พี่ชายบอกว่า ตอนตีสามถึงตีห้าฝนตกหนักมาก
    แต่ลูกช้างหลับสนิทครับ

    พระอาจารย์ ... 55555....เทวดาสาธุการ

    กายเป็นคน.....ใจเป็นพระ

    กายพักงาน,,,,,จิตก็พักงาน

    ตื่นปุบ สติก็ติดแนบ อยู่กับจิต ทันที,,,,เมื่อชำนาญมากขึ้น จะรู้เองว่าเป็นอัตโนมัติยังไง
     
  11. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    ไปกราบระลึกถึง พระคุณหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก ด้วยกาย วาจา ใจ

    แสงแฟลชดุจดังมือพนมเป็นดอกบัวขาว น้อมบูชาสรีระสังขารหลวงปู่ ผู้ถ่ายทอดวิชา รู้ เฉย มรรค 4 ผล 4 พระนิพพาน 1

    .. "อวิชชามันโหดร้าย
    มันฉลาดในการสร้างบาปอกุศลมาก
    ถ้าหากว่าไม่มีสติปัญญา
    เป็นเพื่อนของจิตใจแล้ว
    เราก็ต้องไหลไปตามอารมณ์ของมัน"

    คติธรรมคำสอน : หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2014
  12. โฮลี่แมน

    โฮลี่แมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +332
    กราบนมัสการหลวงพ่อนำ ปัญญาวโร วัดป่าโนนโศกเสือ จ.สุรินทร์ สาขาที่ 66 วัดหนองป่าพง ศิษย์หลวงปู่ชา สุภัทโท

    หลวงพ่อมอบเกศาให้ ท่านบอกกับญาติโยมทั้งหลายว่า ...

    "ธรรมดาเมื่อวานเป็นวันโกน แต่ต้องมาโกนวันนี้ เพราะมีเหตุ...."

    จึงนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้รับเกศาหลวงพ่อมาไว้บูชา ... หลวงพ่อเป็นพระกรรมฐานที่ สุดยอดมากๆ อีกรูปหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ ... สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P8240185.JPG
      P8240185.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.3 MB
      เปิดดู:
      32
  13. HoLy Man

    HoLy Man Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +47
    ธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่มาเป็นธรรมธาตุกระจายครอบแดนโลกธาตุอยู่เวลานี้ นั่นเรียกว่าธรรมเกิดในหัวใจท่าน ท่านปฏิบัติธรรม-ธรรมก็เกิด พวกเราปฏิบัติตามกิเลสดิ้นตามกิเลส มีแต่กิเลสเกิดคืนยังรุ่งวันยังค่ำ มีแต่กิเลสเกิดพวกเรานี่
    พระพุทธเจ้า พระสาวกอรหันต์ทั้งหลายมีแต่ธรรมเกิด นั่นฟังซิ ธรรมเกิดเลิศโลกเป็นบรมสุข กิเลสเกิดมหันตทุกข์จมไปเลย ฟังซิทั้งสองด้านเลย นั่นละแข่งกันอยู่ ระหว่างกิเลสแข่งธรรมมีแต่ความจม เป็นอย่างนั้นละ ธรรมไม่แข่งใคร ฆ่ากิเลสตายแล้วพอ แสนสบาย นั่นท่านเรียกว่าธรรมเกิด

    โอวาทธรรมหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
     
  14. HoLy Man

    HoLy Man Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +47
    คนนี้หลับจัง เข้าลึกจัง ทำงัยได้หละนะ อุตส่าห์นั่งก็ให้หลับได้ สัปก็ไม่ตื่น ยังไม่ตื่น ยังไม่เบิกบาน เสียงปลุกก็ไม่ยอมตื่น

    ธรรมะปลุกอยู่ก็ไม่ตื่น แต่ก็ยังดี นี่แหละวันหนึ่งวันใด ก็จะตื่นขึ้นมาได้ หมั่นทำไว้เฮอะ หมั่นภาวนาไว้ พระพุทโธ พระพุทโธ พุทโธ หนักขึ้นๆ ก็จะตื่นขึ้นมาได้หรอก...

    โอวาทธรรมหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก
     
  15. HoLy Man

    HoLy Man Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +47
    โยมๆ ทุกๆ คน ฝึกฝนเอาให้มันได้สักขั้นก็ยังดี
    สำเร็จสักขั้นก็ยังดี แล้วไปสำเร็จกันบนโน้นอีกก็ได้
    โสดาฯ นี้ถ้าจะมาเกิดในเมืองมนุษย์ เขาจะต้องดูพ่อดูแม่เขาเลย
    ควรจะไปเกิดในตระกูลใหญ่ เขาลงมาคราวนี้เพื่อจะโปรดสัตว์ทั้งหลาย
    ให้เข้าถึงความดับทุกข์ด้วย เป็นตัวมรรคญาณลงมา ทำลายอาสวะกิเลส
    ทั้งที่ตนเองและผู้อื่นด้วย อย่างนี้นะ โยม

    โอวาทธรรมหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. HoLy Man

    HoLy Man Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +47
    นั่งสมาธิ งูแลบลิ้น ไก่ตีปีกนี้ ก็มีอานิสงส์มาก
    ในขณะรู้เห็นในขณะนี้ ที่กล่าวนี่พึงยังให้สำเร็จได้
    แค่รู้เห็นนะ ไก่ตีปีก งูแลบลิ้น พึงว่าเข้าไปรู้เห็น หวังจะให้สำเร็จได้
    เพราะอำนาจคุณศีล คุณทาน คุณภาวนา มีอานุภาพมาก ...

    โอวาทธรรมหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก
     
  17. HoLy Man

    HoLy Man Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +47
    นิวรณ์ไม่ดับ ธรรมะก็ไม่เกิด มัวพูดนั่นพูดนี่ ไม่เอาใจใส่ธรรมะ ของพระพุทธเจ้า เมื่อไหร่จะเจออีกหละ รีบทำนะ เปรตไม่มี นรกไม่มี สัตว์เดรัจฉานไม่มี เราก็ไปสวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติแล้ว มีเท่านี่หละนะ ขอให้ได้มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 นะ....

    ธรรมโอวาท หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. HoLy Man

    HoLy Man Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +47
    ณ บริเวณวัดป่ากว้างใหญ่แห่งหนึ่ง มีพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา นานาชาติ มาสวดมนต์ไหว้พระ ภาวนากันเยอะแยะมากมายอยู่ในศาลาหลังใหญ่

    มีพระท่านบอกว่า " หลวงปู่มั่น ท่านพักอยู่ในกุฏิหลังใหญ่ โน่นน่ะ "

    จึงเดินไปยังกุฏิหลังใหญ่นั้น เห็นหลวงปู่ท่านกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โยก อยู่นอกชาน จึงได้แต่ยืนมองอยู่ข้างล่าง แล้วเดินผ่านไปข้างกุฏิ ไปยังก๊อกน้ำ เปิดน้ำล้างขาล้างเท้า ซึ่งเปรอะเปื้อนด้วยสิ่งสกปก พยายามล้างออกอย่าเบาๆ เพราะกลัวจะมีเสียงรบกวนหลวงปู่ ส่วนตานี้มองขึ้นไปบนกุฏิที่หลวงปู่นอนอยู่บนเก้าอี้ตลอดเวลา

    ณ บริเวณรอบกุฏินั้น มีครูบาอาจารย์หลายรูปที่คุ้นเคยรู้จักท่านด้วย เมื่อล้างขาล้างเท้าเสร็จแล้ว ได้มีสามเณรรูปหนึ่งเข้ามาล้างแก้ว เกิดเสียงดัง ทำให้หลวงปู่ท่าน เอ่ยออกมาหาสามเณรน้อยว่า

    "ต้องให้ระวัง ถ้ามันแตกหมดก็ไม่หลงเหลืออะไร"

    เมื่อได้ยินหลวงปู่พูดแล้ว ก็คิดว่า "หลวงปู่ท่านไม่ได้หลับนี่" จึงอยากจะขึ้นไปกราบหลวงปู่ ใจหนึ่งก็นึกกลัวกิตติศัพท์หลวงปู่มั่นว่า ท่านดุมาก ก็เลยช่างใจตนเองอยู่นาน แต่ก็นึกถึง คำสอนพระอาจารย์...

    ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยฝันว่าได้ไปพักอยู่ที่ศาลาหลังใหญ่ วัดหลวงปู่หล้า แล้วเดินผ่านห้องหลวงปู่หล้า เห็นหลวงปู่กำลังนั่งสมาธิอยู่ แต่ไม่กล้าเข้าไปกราบท่านในห้อง พระอาจารย์บอกว่า " ถ้าได้เข้าไปนั่งในห้องกับท่าน จะดีมาก "

    พอมานึกถึงคำที่พระอาจารย์สอนให้ ก็เลยตัดสินใจ เดินเข้าไปหาหลวงปู่มั่น เมื่อมาถึงใกล้องค์ท่าน หลวงปู่ลุกขึ้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่านมองหน้า...ยังไม่พูดอะไร

    ผ้าเราก็ไม่ได้ห่มเรียบร้อยอะไรเลย เรียกว่ารีบจะเข้ามาหาท่าน เพียงแค่จับพาดซ้ายพาดขวา นั่งทับส้น กราบหลวงปู่ 3 หนแล้ว เรานี้จ้องตาหลวงปู่ไม่ขาดสาย อยากรู้ว่าหลวงปู่มั่นจริงๆ หรือเปล่า เรียกว่าความกลัวหายหมด ไม่กลัวท่านเลย เรียกว่าดีใจมากกว่าที่ได้มากราบหลวงปู่ ท่านก็มีเมตตา หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ได้ดุอะไรเลย ท่านได้กล่าว ขึ้นว่า

    "นั่ง ให้ ดี "

    ตอนนั้นก็ได้แต่นึกสำรวจตัวเองว่า ตอนกราบท่านเรานั่งไม่เรียบร้อย ไม่ถูกลักษณะการกราบหรือเปล่า แทนที่จะนั่งชันเข่า กราบไหว้แบบเบญจางคประดิษฐ์ แต่นั่งแบบทับส้น ธรรมดา ... จริงๆ แล้วก็แค่คิดไปเอง ซึ่งความหมายจริงๆ อาจจะหมายถึงอย่างอื่นอีกมากมาย ก็ได้...

    ... เล่าฝันไว้อ่าน ...
     
  19. HoLy Man

    HoLy Man Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +47
    กรรมฐานคนแก่ ต้องแก่นอนหน่อย เข้าท่าหน่อย เพราะจะลุกเดินก็เซ จะยืนนานก็ล้ม อาศัยกรรมฐานนอน ก็ได้โยม หมั่นฝึกหัด ถึงจะหลับก็ไม่ว่า ตื่นเมื่อไรเอาเมื่อนั้น

    คนแก่ต้องรีบหน่อย รีบเดิน ถึงนอนก็ทำ หนักขึ้นๆ นอนหลับก็ฝัน ฝันว่าทำกรรมฐาน ใช้ได้ ถ้ายังนอนหลับฝันไปอย่าโน้นไปอย่างนี้ ไปโน่นไปนี่ ยังใช้ไม่ได้

    ต้องฝึกว่า เรานอนอยู่ว่าได้นั่งกรรมฐาน เจริญพระกรรมฐาน อย่างนี้แหละถึงจะเหมาะสม ถ้าฝันว่าได้ขับเกวียนขับล้อ แล้วก็ อู้ ไม่ไหวหร๊อก ไปโน่นไปนี่ ไปทุ่งไร่ทุ่งนา อย่างนี้ถือว่า กรรมฐานนี้ยังไม่งดงาม ยังไม่อยู่ในภวังค์

    ถ้ามีอย่างนี้แล้วต้องรีบทำ นั่นแหละ จึงเรียกว่า พวกทุกขสัจจ์ ถึงจะนอนหลับมันก็ไปแบบนั้นแหละ ฝ่ายมรรคสัจจ์ ก็ฝันว่าได้เจริญกรรมฐาน ฝันว่าได้เหาะบ้าง อะไรบ้าง นี่แหละเรียกว่า ปีติสมาธิ ทำให้เกิดมีขึ้นกับนักปฏิบัติ คนนั้นแหละย่อมจะเกิดมีปัญญาได้รวดเร็ว ทำให้เก่งๆ โยม มัจจุราชจะได้ไม่เห็นตัวเรา นะญาติโยม ...

    โอวาทธรรมหลวงปู่สังวาลย์ เขมโก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 5223.jpg
      5223.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.2 KB
      เปิดดู:
      20
  20. HoLy Man

    HoLy Man Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +47
    "พยายามทำกรรมฐานให้มากเถอะ
    แล้วของจริงมันจะปรากฏขึ้นใน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
    ของพวกเรา จะได้ญาณทัสสนะ ความรู้ ความเห็นอันเป็นปัจจัตตัง
    เกิดขึ้นเฉพาะตัวเองว่า เรามีเป็นโสดาบัน พระสกทาคามี
    พระอานาคามี พระอรหันต์โดยไม่ต้องไปถามคนอื่นเลย
    ขอให้มีความสุขใจที่ให้ได้มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ทุกคนๆคน"

    พระธรรมเทศนา เรื่อง มรรคสมังคี
    โดย หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก
     

แชร์หน้านี้

Loading...