ฝันเห็นพระพุทธเจ้าครับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ณัฏฐนิต, 2 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    ปกติผมสวดมนต์ก่อนนอนทำมาทุกวันอยู่แล้วครับ ได้ 2 ปีแล้วแล้วก้มีนั่งสมาธิอีก 30 นาที เข้าถึงฌาน 1 แล้วก้เข้านอน

    +++ แสดงว่า ได้นิสัยในการภาวนามาบ้างแล้ว

    แล้วก้ไม่รุ้ว่าฝันไปตอนไหนแต่น่าจะเป็นตอนใกล้เช้า ในฝันผมยืนอยุ่ในป่าหมู่บ้านแห่งหนึ่งมีคนเดินผ่านไปมาแล้วผมก้เห็นพระรูปหนึ่งเดินผ่านมา พระรูปนั้นรูปงามมากไม่ว่าจะเป็นทุกส่วนประกอบในใบหน้าลงตัวทั้งหมด รูปร่างสูงโปร่ง ผิวผ่องสีเหลืองละออ มีรัศมีพุ่งออกมาจากตัว ผมยืนตะลึงอยุ่นาน รุ้ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันแน่นอน แต่ไม่คิดว่าจะฝันเห้นท่านมาก่อน เพราะตั้งแต่ปฏิบัติธรรมไม่เคยฝันเห็นพระพุทธเจ้าเลยส่วนมากจะเห็นหลวงปู่ดู่ทุกครั้งที่ท่านมาสอนสมาธิ หรือเวลาที่ผมมีปันหาที่แก้ไม่ได้ หรือเวลาป่วยหนักท่านจะมาทุกครั้ง แต่ครั้งครั้งนี้เห็นพระพุทธเจ้า ผมเดินตามท่านไป ท่านเดินไปเรื่อยๆแล้วหยุดนั่งที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง

    +++ ลักษณะนี้ เป็นพระพุทธองค์ท่านมาเอง แบบไม่ได้คาดฝันมาก่อน และพระองค์ท่านก็ทำให้รู้ว่า เป็นพระองค์เอง (ผู้ที่เคยมีประสพการณ์มาก่อน จะเข้าใจได้ดี)

    ผมเข้าไปกราบท่านระหว่างที่กราบก้คิดจะเอ่ยวาจาปราถนาพุทธภูมิและคิดจะตัดหัวตัวเองถวายระหว่างที่กำลังจะทำก้คิดได้ว่าถ้าเราตายแล้วพ่อกับแม่จะอยุ่กับใครใครจะเลี้ยงดูท่านผมก้เลยไม่ได้ทำและเสียใจที่ได้เจอพระพุทธองค์แต่กลับไม่ได้ถวายชีวิตไห้

    +++ ความคิดจะตัดหัวตัวเองถวาย (หรือถวายชีวิต) นั้น จะไม่มีปรากฏในนิมิตปกติ ยกเว้นแต่เฉพาะผู้ที่อยู่ในชั้นปลายของบารมีแล้ว (ปรมัตถ์บารมี)

    เหมือนท่านจะรุ้ว่าผมคิดอะไรท่าลุกขึ้นแล้วก้ตรัสกับผมว่า ณัฏฐนิตเธอจงตามตถาคตมา แล้วท่านก้ลุกเดินไปอีกที่หนึ่งที่แห่งนี้เป็นลานกว้างมีชาวบ้านมากมายนั่งพนมมืออยุ่รอบตัวผมและพระพุทธองค์ ระหว่างนั้นก้มีพายุทั้งลมและฝนพัดรุนแรงกิ่งไม้และต้นไม้ถูกลมหอบปลิวอยุ่ในอากาศ ผมตกใจมากคิดว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรก้ช่างขอปกป้องพระพุทธองค์ด้วยชีวิตและเข้ามาขวางพระองค์ไว้ใช้ผ้ากำพลสีแดงผืนใหญ่ (ไม่ทราบว่ามาจากไหน) กางขึ้นเพื่อป้องกันลมและฝน น่าแปลกที่หลังจากนี้น พายุก้สงบทันทีทั้งพระพุทธองค์และชาวบ้านไม่เป็นอะไรเลยเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ผมก้มลงนั่งประนมมือมือกำลังจะเปล่งวาจาปราถนาพุทธภูมิ พระพุทธองค์ก้ตรัสว่า ในอนาคตตกาลล่วงไปอีก....กัปบุรุษนี้จะสำเร็จซึ่งพระโพธิญาณ.................................. แล้วก้มีเสียง สาธุดังขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหวจากชาวบ้านและเทวดาต่างๆ(ไม่ทราบว่ามาจากไหน อยู่ดีๆก้โผล่มาเอง) หลังจากตื่น ผมจำรายละเอียดของฝันได้ทุกอย่าง

    +++ นิมิตแบบนี้ ผู้ที่ได้นิมิต จะรู้ตัวของตัวเองเป็นอย่างดี ความมั่นใจในแนวทางแห่งตนย่อมไม่เบื่ยงเบนเป็นอื่น และรู้จุดหมายปลายทางแห่งตนอย่างชัดแจ้ง

    ยกเว้นตรงที่พุทธพยากรณ์ ได้ยินแค่นั้นจริงๆ ความจริงท่านตรัสต่อแต่ผมไม่ได้ยินตรงวรรคสำคัญพอดีได้ยินแค่วรรคแรกกับวรรคสุดท้าย เหมือนเทปสะดุดยังไงไม่รุ้ -,.-
    นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา19ปีที่ได้เห็นพระพุทธองค์ในรูปกายมนุษย์ปกติเห็นแต่พระพุทธรุป

    +++ สร้างบารมีโดยดูที่ 1. เนื้อนาบุญ 2. ความกว้างขวางของวงจรบารมี เป็นหลัก ๆ
    +++ ขอให้สำเร็จ ดั่งความปรารถนา ทุกประการเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ตุลาคม 2014
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,103
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    [​IMG]






    ขอให้มีกำลังใจอย่างล้นเหลือ เต็มเปี่ยม และ เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ


    ไปให้ถึงเป้าหมาย

    ด้วยบุญกุศล บุญบารมี สัมมาทิฐิล้วนๆแต่เพียงฝ่ายเดียว

    สมบูรณ์ด้วยมนุษย์สมบัติ สวรรคสมบัติ นิพพานสมบ้ติ

    ปัจจัยทั้งหมดหากจะได้จะมี ขอให้เป็นไปเพื่ออำนวยความสะดวกในการบำเพ็ญบารมีฝ่ายบุญกุศลสัมมาทิฐิล้วนๆ

    อนุโมทนา สาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มีนาคม 2014
  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,103
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,003
    ค่าพลัง:
    +69,974
    ตามที่ผมเคยโพสไว้..

    กายฝัน เป็นเพียง1ใน18 กายหลักของทุกสรรพชีวิต

    หากทุกกาย ตั้งแต่มนุษย์ มนุษย์ละเอียด(กายฝัน) ทิพย์(เทวดา) พรหม อรูปพรหม
    และกายธรรมในระดับต้นๆที่ยังตัดสังโยชน์ได้บางส่วน ไปจนถึงกายธรรมสุดละเอียด
    ยังไม่สะอาดบริสุทธิ์ถึงที่สุด หากจิตขณะหลับของทุกกายไม่ได้ซ้อนตรงกันไว้ที่พระนิพพาน การสื่อมาจากสภาวะที่ละเอียดสุดย่อมคลาดเคลื่อนได้


    (ไม่เหมือนพระอริยเจ้าหรือพระอรหันต์ ท่านมีสังโยชน์เบาบางมากจนถึงไม่มี กาย-ใจของทุกกายไม่มีสิ่งมาบังให้ความจริงที่สื่อจากสภาวะละเอียดที่สุดคลาดเคลื่อน แม้ไม่ต้องตั้งเจตนาจะรู้
    และบางครั้งพวกท่านเหล่านั้นใช้คำว่า"ฝัน" เพราะ ท่านคงเกรงจะเป็นการอวดอุตริฯท่านจึงใช้คำนั้น
    ที่จริง ทุกกายไปจนถึงกายธรรมของท่าน ได้เข้าไปเห็นความจริงขณะที่กายเนื้อหลับพักผ่อน ไม่เหมือนคนที่มีกิเลสอยู่มาก ที่การฝันยังเจือด้วยกิเลสฯลฯที่ทำให้รู้เห็นคลาดเคลื่อนได้
    )


    ...อย่างน้อย ให้มีกำลังใจว่า จิตส่วนลึกของเราศรัทธามั่นในปฏิปทาใด จึงปรากฏนิมิตแบบนี้ก็ดีแล้วครับ


    ...ผมเคยโพสเรื่องนี้ไว้ แต่ลบไป ด้วยเกรงท่านเจ้าของกระทู้จะเข้าใจผิดว่า เป็นการตัดกำลังใจของท่าน แต่ผมกลับมาพิจารณาหลายรอบว่า ควรบอกเผื่อไว้ในทางที่ไม่ควรประมาท แม้แต่สมัยพระพุทธองค์ไปโปรดท่านพกาพรหมหรือใครก็ตาม มารยังกล้าสิงพรหมหรือคนอื่นๆ เข้ามาห้ามพระพุทธองค์โปรดสัตว์( มีบันทึกจริงในพระไตรปิฎก ตัวอย่างเช่นhttp://palungjit.org/threads/@@@-พระสัมมาสัมพุทธเจ้า-ทรงแก้ทิฐิ-พกาพรหม-@@@.526789/ ให้อ่านตรงท่อนที่คัดมาจากพระไตรปิฏกนะครับ )


    ...การมีครูบาอาจารย์ที่คอยควบคุมวาระจิตทั้งที่ยังมีกายมนุษย์ยิ่งดี จะทำให้ท่านไม่เสียเวลามากไป และ ไม่มีอะไรมาล่อลวงท่านให้เสียเวลา....

    ขอให้ท่านเจ้าของกระทู้สำเร็จ เพื่อประโยชน์สูงสุดแด่ตนและสรรพชีวิตตามมโนปณิธาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 มีนาคม 2014
  4. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    ดีแล้วครับ. ที่ไม่ได้ลงมือตัดหัวถวาย
    ฆ่าตัวตายถวายพุทธองค์ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย
    ถึงจะเป็นความฝัน. แต่คิดว่าจะฆ่าตัวตายได้นั้นก็น่ากลัว
    ถือว่าครอบครัวช่วยไว้นะเนี่ย
    ถ้าในความเป็นจริงเกิดไปตัดหัวถวายพุทธอง์จริงๆ
    พุทธองค์จะยินดีกับการฆ่าตัวตายของเราได้อย่างไร
    มีแต่จะเวทนาที่เกิดมาพบพระธรรมแต่ไม่ทำนิพพานให้แจ้ง
    คนอยากอยู่ถูกตัดรอน คนได้อยู่กลับตัดรอนตนเอง
    ปรารถนาพุทธภูมิ ก็ต้องเก็บเกี่ยวภูมิรู้
    อยู่กับพระพทธเจ้าก็เร่งเก็บประสบการณ์
    มิใช่เอาชีวิตมาทิ้งไปเปล่าๆ
    จู่มีคนมาฆ่าตัวตายเพราะคุณ เพราะคิดว่าตายแล้วอยากเป็นอย่างคุณ
    ซึ่งมันไม่ใช่วิธีที่ถูก มันไม่ได้เป็นแน่ คุณจะรู้สึกอย่างไร มันไม่น่ายินดีเลย

    และพุทธองค์จะไปไหนจะเจอภัยอะไรก็ปล่อยท่านเถิด
    จะไปปกป้องท่านทำไม บารมีมากมายภัยไม่กล้ำกรายเป็นธรรมดา
    และต่อให้ต้องตาย พุทธองค์ก็ไม่แคร์
    ที่เราอยากปกป้องเพราะหวังอะไร. หวังบุญรึเปล่า? หรือเพราะมีเมตตา? เมตตาจริงหรือ?
    เมตตาก็ต้องปกป้องทุกคนทุกสถานะไม่เลือกเว้นแม้ดิรัจฉาน


    วันนี้เอาพอประมาณแล้วกัน
    ฝันดี ฝันถึงพุทธะ. แต่อย่าได้คิดจะทำการขาดสติเพื่อพุทธะเลยจะดียิ่งกว่า
     
  5. จิ้งจอกขาว

    จิ้งจอกขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +420
    พระพุทธองค์ปรินิพพานไปแล้ว จะมาพยากรณ์ อนาคตวงศ์ ในความฝันได้อย่างไร...
     
  6. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น
    10 ตาเห็นไม่เท่ามือคลำ
    10มือคลำก็ผิดได้
    จักรวาลกว้างมาก เห็นเพียงแค่โลกก้ไม่ใช่รุ้ทั้งหมด

    ในโลก แห่งความเท็จ
    มิใช่ความจริงอะไรก็เกิดขึ้นได้

    สิ่งที่เป็นไปไ้ด้ มักเป็นไปไมไ่ด้
    สิ่งที่เป็นไปไมไ่ด้ มักเป็นไปได้

    คำว่าอนันนั้นไม่สุดสุด
    พุทธดำรัสเป็นเพียงใบไม้เพียงกำเดียวในป่าใหญ่
    ฟังหูไว้หูดีที่สุด

    ไม่ทราบว่า ตอบถูกคำถามใหมนะครับ
     
  7. ณัฏฐนิต

    ณัฏฐนิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +253
    เรื่องแบบนี้มันเป็นปัจจัตตัง พบเห็นได้เฉพาะตนแค่ไม่เกิดกับตัวเองใช่ว่าจะไม่เกิดกับคนอื่น ต่างคนต่างความคิดแต่ก้ขอบคุณสำหรับคำตอบทุกคำตอบนะครับสำหรับผมมผมก้ไม่ได้ยึดติดอะไรมากแค่อยากเล่าให้ฟังเฉยๆนะครับ ผมคิดแค่ว่า ผมนิมิตรเห็นพระพุทธองค์จะตัวจริงหรือแค่ความคิดตัวเองผมก้ดีใจแล้วล่ะครับ
     
  8. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ขอร่วมอนุโมทนา สาธุในบุญกุศลของท่านด้วยค่ะ
    ขอให้สิ่งอันเป็นมงคลนี้จงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าเช่นเดียวกับท่านบ้างเทอญ
     
  9. GoldenFire

    GoldenFire เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2013
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +124
    สาธุครับ เป็นความฝันที่ประเสริฐโดยแท้ แม้ในฝันคุณยังมีกำลังใจทำได้อย่างนั้นผมขอนับถือครับ เพราะปกติคนเราเวลาฝันมันจะไม่มีสติครอง เราจะทำไปโดยจริตที่เราคุ้นเคยตามบารมีตน เรื่องนี้อย่าไปใส่ใจว่ามันจริงหรือไม่จริงอย่างไรเลย ผมคิดว่าประเด็นสำคัญคือ คุณผ่านการทดสอบ ขอให้คุณรักษากำลังใจให้ดีไว้คุณอาจจะสมควรแล้วที่จะได้เป็นพระนิยตโพธิสัตว์ก็เป็นได้ ขอให้ทำในสิ่งที่ควรทำต่อไป

    อีกอย่างในฝันตอนที่คุณกำลังจะตัดหัวถวายชีวิตแล้วไม่ทำเพราะคิดถึงพ่อแม่ นั่นผมก็ขออนุโมทนาในความกตัญญูและปัญญาในขณะนั้นของคุณ ผมเห็นด้วยและคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วและเป็นประโยชน์กว่า

    ที่สำคัญกรณีที่คุณเล่ามาเป็นประโยชน์ต่อผมมากและผมเชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วยเช่นกันโดยเฉพาะผู้ปรารถนาพุทธภูมิ สิ่งที่คุณเล่ามาทำให้ผมมองตัวเองมากขึ้นว่าขณะนี้ผมกำลังทำอะไรอยู่และผมควรทำอะไรต่อไป เวลาเรามีไม่มากแท้ๆ ขอบคุณครับที่มาเล่าให้ฟัง ธรรมะมีอยู่ทุกที่เราควรพึงทำโยนิโสมนสิการให้มาก :)
     
  10. vcc2aaa

    vcc2aaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2008
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +1,770
    สาธุครับ ถึงแม้จะเป็นเพียงความฝัน ฝันถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระสุปฎิปันโนก็นับเป็นมงคลอย่างยิ่งอยู่แล้ว นิมิตรถึงพระพุทธองค์ ถึงจะเป็นแค่นิมิตรก็เป็นมงคลอย่างสูงสุดแล้วครับ
     
  11. ทรัพย์ทรวง

    ทรัพย์ทรวง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +88
    อนุโมทนาสาธุกับท่าน อ่านแล้วรู้สึกปิติ ทั้งผู้เล่าและผู้อ่าน
     
  12. chenroom

    chenroom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +124
    ขนลุกเลย ปิติมาก สาธุๆๆ แด่ โพธิญาณ ที่ท่านประสงค์ ขอให้ท่านสำเร็จกิจของทาานสาธุ
     
  13. ศรีอารย์

    ศรีอารย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +71
    สาธุครับ ต่อไปในวันข้างหน้าจะเป็นผู้ปกป้องพระพุทธศาสนาจากมาร
     
  14. gatkung

    gatkung Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +51
    ผมเคยฝันเห็นในหลวงร.9 ครับ สองครั้งแล้ว
     
  15. ปทุมมุต

    ปทุมมุต ผมเป๋นใตร?

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +286
    อนุโมทนากับธรรมทานของทุกท่าน ตามความเข้าใจ
    และประสบการอันน้อยนิด ฝันช่วงตี3ถึงตี5มักจะแม่น
    ในขณะฝันหากช่วงใหนสติบริบูรณ์เราจะรู้ว่าเรากำลังฝัน
    หากประสงค์จะตื่นก็ตื่นได้เลย เหตุแห่งความฝันมีกี่ประการ
    พระพุทธองค์ตรัสใว้แล้ว(จำมิได้ อิอิ) ขออนุโมทนากับท่านที่ฝันเห็น
    พระพุทธเจ้า จะจริง หรือสัตว์อื่นจำแลงมา หรือมโนสำนึกท่าน
    สร้างขึันเองก็ตาม เป็นมงคลครับ สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ตุลาคม 2014
  16. arnonpattana

    arnonpattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +216
    ความฝันมี 4 แบบ

    1. บุพพนิมิต ความฝันประเภทนี้เป็นการบอกให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย เป็นเหมือนลางสังหรณ์ หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “เด จาวู” ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น กรรมเก่า เจ้ากรรมนายเวร ภูติผี หรือบรรพบุรุษมาเข้าฝัน เป็นต้น

    2. จิตอาวรณ์ ความฝันประเภทนี้เป็น “ฝันเฟื่อง” ที่เกิดจากการได้ประสบกับสิ่งที่ตนเองชื่นชอบในยามตื่น พอยามนอนหลับก็เลยเก็บไปฝันต่ออีก เช่น ได้ดูละครที่น้องแพนเค้กแสดง ก็เกิดความหลงใหลประทับใจ พอถึงยามหลับก็เลยฝันว่าได้เดินจูงแขนน้องแพนเค้กไปตามที่ต่างๆ รวมทั้งได้กอดและหอมแก้มน้องแพนเค้กอีกต่างหาก (คิคิคิ)

    3. เทพสังหรณ์ ความฝันประเภทนี้เกิดจากเทวดาหรือบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วยังมีความห่วงใยและผูกพันกับเราอยู่ ก็เลยเขามาเยี่ยมในฝันเพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ทราบล่วงหน้า ทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย เพื่อบอกให้ลูกหลานรู้ตัวและจะได้ระมัดระวังเอาไว้

    4. ธาตุกำเริบ ความฝันประเภทนี้เกิดจากสภาพร่างกายมีความแปรปรวน ร่างกายไม่ปกติ เช่น เป็นหวัด เลยฝันว่าจมน้ำ เยี่ยวรดที่นอน เลยฝันว่าน้ำท่วม นอนทับแขนตัวเองจนชา เลยฝันว่าถูกตัดแขนขาด เป็นต้น

    ในกรณีนี้น่าจะเกิดจากจิตอาวรณ์นะครับเพราะก่อนนอนก็สวดมนตร์ดังนั้นเป็นไปได้ที่จิตนั้นจะจดจ่อกับพระพุทธเจ้าแล้วบวกกับความตั้งใจในการบำเพ็ญพุทธภูมิ เลยเก็บเอาไปฝันว่าได้เจอพระพุทธเจ้านะครับเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ครับเหมือนกับเราอ่านนิยายเรื่องขุนแผนก่อนนอนเราอ่านนิยายเรื่องนี้เราอาจจะเก็บเอาไปฝันได้ว่าตัวเราเองนั้นกำลังรบกับขุนแผนหรือถูกขุนแผนฆ่าก็ได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ได้เกี่ยวกับท่านมาปรากฏหรอกเพียงแต่เกิดจากการตั้งมั่นในการบำเพ็ญพุทธภูมิ+ก่อนนอนสวดมนตร์และจิตไปจดจ่อกับพระพุทธเจ้าเลยเอาเก็บไปฝัน

    แต่ทั้งหมดนี้ถือว่าตั้งใจครับยังไงอนุโมทนาสาธุด้วยสู้ๆครับเป็นกำลังใจต่อไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 ตุลาคม 2014
  17. arnonpattana

    arnonpattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +216
    ขอตอบเรื่องฆ๋าตัวตายถวายชีวิตนะครับ

    การฆ๋าตัวตายในแง่ของสัมมาทิฐทิก็มีนะครับเช่นในอดีตพระพุทธเจ้าเคยกระโดหน้าผาเพื่อให้เสือกินเพื่อไม่ให้เสือมันกินลูกของตัวเอง และในอดีตของพระศรีอารยิมเตไตยก็เคยตัดศรีษะถวายพระพุทธเจ้านะครับ การคนฆ่าตัวตายเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาหรือฆ่าเพื่อสละชีวิตเพื่อจะช่วยผู้อื่นเอาไว้ถ้าทำแล้วไม่เดือดร้อนคนในครอบครัวก็สามารถทำได้นะครับ ถ้าผิดจริงทำตอนที่พระศรีอาริยเมตไตรท่านทำทำไมพระพุทธเจ้าท่านไม่ห้ามละครับ

    เรื่องที่สอง ปกป้องพระพุทธเจ้า การปกป้องพระพุทธเจ้าไม่ว่าจะในโ,กความเป็นจริงหรือความฝันนั้นเป็นสิ่งที่ดีครับเป็นการบ่งบอกว่าเราเคารพในพระพุทธเจ้าและพระพุทธศาสนา เหมือนกับเราอยู่ในประเทศไทยใครมาเหยียบย่ำประเทศไทยดูถูกประเทศไทยเราก็ต้องปกป้องใช่มั้ยละครับ
     
  18. อุดรธานี

    อุดรธานี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +69
    ข้าพขออารธนาบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยเมื่ออัญเชิญกระแสพระธรรมผ่านใจมาเพื่อจะตอบคำถามหรืออธิบายความอันใดแล้ว ขอให้ได้รับพรจากสมเด็จพระประทีปแก้วและพระคุณครูบาอาจารย์ โปรดประทานความมั่นใจ ความผ่องใสของปัญญา เพื่อพูดจาอธิบายเป่าปัดความสงสัยให้สิ้นไปจากใจผู้ฟังด้วยเถิด
    ข้าพเจ้าขออ้างพระสูตร พระไตรปิฎก ชาดกคำสอนครูบาอาจารย์
    "อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานไปวัดผู้อื่น"
    มีอยู่ช่วงหนึ่งก่อนบวชหลายปี จะเขียนแปะไว้หน้าสมุดหน้าบันทึกตัวเองว่า "อย่าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานไปวัดผู้อื่น" แผ่นนี้จะเปลี่ยนไปเรื่อย พอถึงเวลาถ้าเกิดความรู้สึกว่า อะไรที่เหมาะกับเราตอนนั้น ก็จะเขียนแปะเอาไว้หน้าสมุดบันทึก

    ทำไปก็แผ่เมตตาไปเรื่อย ท้ายสุดก็เห็นว่า แม้กระทั่งความคิดของเราก็ยังเบียดเบียนผู้อื่นได้เป็นปกติ ก็เปลี่ยนเป็น "ขอเราจงอย่าได้เป็นทุกข์โทษเวรภัยแก่ผู้อื่น แม้ด้วยกาย วาจา หรือใจเลย"


    น่าเสียดายว่า พอจะบวชก็ทิ้งไปหมด ไม่ได้เก็บเอาไว้ เพราะฉะนั้น..พัฒนาการช่วง ๑๑ ปี ที่ปฏิบัติตอนแรก ๆ มีอะไรที่ตอนนี้ลืมไปเยอะเลย อย่างที่จำได้ก็มีอยู่วันหนึ่ง ปวดท้องถ่ายเหมือนกับเป็นบิด คือ รู้สึกปวดจนไส้จะขาด แต่ก็ถ่ายไม่ได้สักที ก็ไปโอดโอย เจ็บหนอ...ปวดหนอ อยู่นานเนกาเล จนนึกขึ้นมาได้ว่า แล้วทำไมเราไม่ภาวนา ? ก็เลยกลับมาภาวนาต่อ ถ้าตายตอนนั้นนี่แย่เลย

    ฉะนั้น..การบันทึกช่วยให้เราเห็นพัฒนาการการปฏิบัติของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น เอามาทวนบ่อย ๆ แต่ทวนแล้วจะต้องดูออกว่ามีความก้าวหน้าหรือเปล่า ? ถ้าทวนแล้วดูไม่ออก ก็แค่ได้อ่านซ้ำเท่านั้นเอง


    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
    วันอาทิตย์ที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๓
    พุทโธอัปมาโน คุณพระพุทธเจ้าประมาณมิได้
    ธรรมโมอัปมาโน คุณพระธรรมประมาณมิได้
    สังโฆอัปมาโน คุณพระอริยะเจ้าพระอรหันต์ประมาณมิได้
    อัศธยาศัยและพุทธวิสัยพระพุทธ เราทั้งหลายยังหนาด้วยกิเลส อุปทาน อุปกิเลส ไม่สามารตอบคำถามหรือหรืออธิบายแทน องค์สมเด็จพระประทีปแก้วได้


    เรื่องราวของ "นายนก และนายเรือง" ผู้เผาตนเพื่อเป็นพุทธบูชา

    เมื่อกล่าวถึงวัดอรุณราชวรารามแล้ว ทุก ๆ คนล้วนแต่รู้จักเป็นอย่างดี เนื่องจากวัดแห่งนี้เป็นวัดที่สำคัญ และสวยงามมากแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ หลายคนคงนึกถึงวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีพระปรางค์สูงใหญ่สง่างาม หลายคนคงนึกถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เบียดเสียดกันข้ามเรือมาชมความงามของวัดแห่งนี้

    แต่ในบทความนี้มิได้มุ่งกล่าวถึงประวัติ หรือปูชนียสถานอันยิ่งใหญ่และสวยงามของวัดอรุณราชวรารามแต่อย่างใด เนื่องจากเรื่องราวที่จะกล่าวถึงนี้เป็นเรื่องราวที่ถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำของใครหลาย ๆ คน

    นั่นก็คือ เรื่องราวของ "นายนก และนายเรือง" ผู้เผาตนเพื่อเป็นพุทธบูชา

    หากใครได้เดินทางไปยังวัดอรุณราชวราราม หากลองเดินสำรวจทุกซอกทุกมุมของวัดแล้ว จะพบศาลาของนายนกและนายเรือง อยู่ด้านหน้าพระอุโบสถติดกับรูปปั้นยักษ์ ๒ ตน
    ประวัติของนายเรือง ผู้นี้ถูกกล่าวไว้ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒ ฉบับพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่าเมื่อวันศุกร์เดือน ๓ ขึ้น ๘ ค่ำ พ.ศ. ๒๓๓๓

    ก่อนที่นายเรืองจะเผาตัวตายประมาณ ๙ - ๑๐ วัน นายเรืองกับเพื่อนอีก ๒ คนคือ ขุนศรีกัณฐัศว์ แห่งกรมม้า และนายทองรัก ได้พากันไปอธิษฐานที่พระอุโบสถวัดครุฑ โดยมีดอกบัวตูมไปคนละดอก ต่างอธิษฐานว่าใครจะสำเร็จพระโพธิญาณแล้ว ขอให้ดอกบัวผู้นั้นจงเบ่งบาน

    รุ่งขึ้นปรากฏว่าดอกบัวของนายเรืองบานเพียงผู้เดียว ของอีก ๒ คนไม่ยอมบาน ทำให้นายเรือง เชื่อมั่นว่าตนนั้นจะเป็นผู้ได้สำเร็จพระโพธิญาณแน่ จึงได้ไปที่ศาลาการเปรียญวัดอรุณฯ สมาทานพระอุโบสถศีล ฟังเทศนาและเอาสำลีชุบน้ำมันวางพาดที่แขน และ จุดไฟเผาเป็นพุทธบูชาแทนดวงประทีปทุกวัน แม้จะร้อนอย่างไรนายเรืองก็ทนได้ เพราะในใจคิดแต่เรื่องพระโพธิญาณเท่านั้น

    ในวันเผาตัว เวลาทุ่มเศษ เมื่อนายเรืองได้ฟังเทศน์จบแล้ว ก็นุ่งผ้าชุบน้ำมันเดินออกมาที่หน้าศาลาการเปรียญ นั่งพนมมือในท่าที่เหมือนที่สลักเป็นหินไว้ เมื่อนั่งรักษาอารมณ์จนสงบดีแล้วจึงจุดไฟเผาตัวเอง ขณะที่ไฟลุกขึ้นท่วมตัวนั้น นายเรืองตะโกนประกาศร้องดัง ๆ ว่า " สำเร็จปรารถนาแล้ว....สำเร็จปรารถนาแล้ว...."

    ขณะนั้นมีคนยืนดูการเผาตัวครั้งนี้ประมาณ ๕๐๐ - ๖๐๐ คนเพราะมีการประกาศให้รู้ล่วงหน้า คนที่ยืนดูต่างก็ร้องดัง ๆ ว่า "สาธุ!" ขึ้นพร้อมกัน แล้วก็เปลื้องผ้าห่มโยนเข้ากองไฟ แม้แต่คนนับถือศาสนาอื่นยังก้มหัวคำนับแล้วโยนหมวกเข้ากองไฟด้วย

    พอไฟโทรมลง คนที่ศรัทธาได้ช่วยกันยกศพของนายเรืองใส่โลงตั้งไว้ที่ศาลาการเปรียญ สวดอภิธรรม ๓ คืน แล้วจึงนำไปเผาที่ทุ่งนาวัดหงส์รัตนาราม ติดกับพระราชวังเดิม กล่าวกันว่าเมื่อตอนที่จุดไฟเผาศพนายเรือง ได้มี ปลาในท้องนา กระโดดเข้ามาเผาตัวในกองไฟด้วย ๑๑ - ๑๒ ตัว

    อัฐินายเรืองนั้นปรากฏว่ามีสีต่าง ๆ ทั้งเขียว ขาว เหลือง ขาบ ดูประหลาด จึงชวนกันเก็บใส่โกศดีบุก ตั้งไว้บนศาลาการเปรียญวัดอรุณราชวราราม
    __________________
    ........................

    เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
    จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
    รูปนายนก เป็นหินสลักตั้งอยู่ในศาลาเล็กทางด้านซ้ายมือ ติดกับด้านกำแพงด้านนอกหน้าพระอุโบสถ

    ประวัติของนายนก ถูกกล่าวไว้ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ขำ บุนนาค) ว่า เมื่อวันพุธ เดือนเจ็ด แรมเจ็ดค่ำ (พ.ศ.๒๓๕๙)

    วันนั้นฝนตกหนัก ตั้งแต่เวลาพลบค่ำจนสิบเอ็ดทุ่มจึงหยุด ครั้งเวลาเช้าชายหญิงจึงมา เห็นนายนกเผาตัวเองตาย ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ที่หน้าพระอุโบสถเก่าแก่ แต่ไฟนั้นดับแล้ว

    ก่อนหน้านั้นนายนกได้เคยบอกแก่ญาติมิตรชาวบ้านที่ชอบกันว่า นายนกจะประพฤติสุจริต ทำบุญรักษาศีล ตั้งจิตปรารถนานิพพานธรรม!!! ตั้งแต่นั้นมานายนกก็ปฏิบัติมักน้อย ลาบ้านเรือนญาติมิตรเสีย ออกไปสมาทานศีลเจริญภาวนารักษาจิตอยู่ในศาลาการเปรียญเก่าวัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง) จะเป็นกังวลด้วยการบำรุงกายและกิจที่บริโภคนั้นหามิได้ เมื่อใครมีน้ำใจให้อาหารก็ได้บริโภคบ้าง บางทีก็ไม่ได้บริโภคอาหาร อดอาหารมื้อหนึ่งบ้าง บางวันก็ไม่ได้บริโภค ทรมานตนมาจนวันเผาตัวตาย เมื่อนายนกจะเผาตัวนั้นได้บอกกล่าวญาติมิตรผู้หนึ่งผู้ใดนั้นไม่มี คนทั้งปวงเมื่อเห็นศพนายนกก็พากันทำบุญสักการะบูชาศพนายนกเป็นอันมาก


    คุณ ๑๐ ประการของพระโพธิสัตว์

    ๑. ความไม่ติดอยู่ในของรักของชอบใจ
    ๒. ความไม่อาลัยเกี่ยวข้อง
    ๓. ความสละ
    ๔. ความปล่อย
    ๕. ความไม่หวนคิดกลับกลอก
    ๖. ความละเอียด
    ๗. ความเป็นใหญ่
    ๘. ความเป็นของรู้ตามได้ยาก
    ๙. ความเป็นของได้ยาก
    ๑๐. ความเป็นของไม่มีใครเสมอ ”
    “ ข้าแต่พระนาคเสน บุคคลเหล่าใด ทำผู้อื่นให้เป็นทุกข์ด้วยการให้ทาน ทานของบุคคลเหล่านั้นจะให้ผลเป็นสุข จะทำให้ไปเกิดในสวรรค์ไดมีอยู่หรือ? ”
    “ มีอยู่มหาบพิตร ”
    “ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ขอจงแสดงเหตุการณ์เปรียบเทียบ ”
    “ ขอถวายพระพร ถ้ามีสมณะหรือพราหมณ์ผู้มีศีลธรรมอันดี เป็นโรคมีร่างกายตายไปแถบหนึ่ง หรือเป็นโรคง่อยเปลี้ยหรือหรือเป็นโรคอย่างใดอย่างหนึ่งเดินไม่ได้ มีผู้อยากได้บุญคนใดคนหนึ่ง ยกสมณพราหมณ์นั้นขึ้นสู่ยานพาหนะ นำไปส่งให้ถึงที่ประสงค์ บุคคลผู้นั้นจะได้ผลเป็นสุข ได้ไปบังเกิดในสวรรค์หรือไม่ ? ”
    “ ได้ไปเกิดทีเดียว พระผู้เป็นเจ้า อย่าว่าแต่ยานทิพย์เลย ถึงผู้นั้นจะเกิดในที่ใด ก็จะได้ยานพาหนะสมควรแก่ที่นั้น ๆ เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ได้ยานช้าง ยานม้า ยานรถ ยานทางบก ยานทางน้ำ เมื่อเกิดในสวรรค์ก็จะได้ยานทิพย์ ความสุขจักต้องเกิดแก่เขาตามสมควรแก่ชาติกำเนิด ชาติสุดท้ายเขาก็จักได้ขึ้นยานฤทธิ์ ไปถึงเมืองพระนิพพานเป็นแน่ ”
    “ ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้นทานที่ให้ด้วยทำให้เกิดทุกข์แก่ผู้อื่นก็มีผลเป็นสุข ทำให้เกิดในสวรรค์ได้ พระเวสสันดรทำให้พระเจ้าลูกทั้งสองต้องเป็นทุกข์ ด้วยการผูกมัดด้วยเถาวัลย์ ก็จะได้สุขเหมือนอย่างนั้น
    แต่ขอมหาบพิตรจงทรงสดับเหตุให้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก เพื่อให้เห็นว่าการให้ทานด้วย การทำทุกข์ให้แก่ผู้อื่น ก็มีผลเป็นสุข ทำให้เกิดในสวรรค์ได้ คือ
    พระราชาที่เก็บพลีกรรม ( ส่วย ) โดยชอบธรรม มาทรงบริจาคทานตามอำนาจนั้นมีอยู่ พระราชานั้นจะได้ความสุข อันเกิดจากการทรงให้ทานนั้นบ้างหรือ ทานนั้นจักทำให้ไปเกิดในสวรรค์ได้หรือไม่ ? ”
    “ได้ พระผู้เป็นเจ้า พระราชานั้นจักต้องได้ รับผลแห่งทานนั้นหลายแสนเท่า จักได้เกิดเป็นพระราชายิ่งกว่าพระราชา จักได้เกิดเป็นเทวดายิ่งกว่าพระราชา จักได้เกิดเป็นเทวดายิ่งกว่าเทวดา เกิดเป็นพรหมยิ่งกว่าพรหม เกิดเป็นพราหมณ์ยิ่งกว่าพราหมณ์ เกิดเป็นพระอรหันต์ยิ่งกว่าพระอรหันต์เป็นแน่ ”
    “ ขอถวายพระพร ถ้าอย่างนั้นทานที่ให้ด้วยการทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ ก็ต้องมีผลเป็นสุขต้องให้เกิดในสวรรค์ได้ เพราะพระราชาทรงบีบคั้นประชาชนมาให้ทาน ยังได้เสวยยศและสุขอย่างนั้นได้ ”
     
  19. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    สาธุ กราบอนุโมทนามิค่ะ

    จะขอเดินตามรอยพระพุทธบาททุกชาติไป
    พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังคัจฉามื





    พุทโธ เม นาโถ
    ___________
    ลมหายใจสุดท้าย..ขอถวายเป็นพุทธบูชา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2015
  20. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    ฝันมักจะตรงกันข้ามนะครับ
    เค้าให้กลับฝันถ้าดีเป็นร้าย ร้ายเป็นดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...