คนทำบุญมาดี ถึงได้เป็นนายกรัฐมนตรี จริงหรือ?

ในศาสนาพุทธ ระบบพุทธบูชา กฏแห่งกรรม กรรมดีและกรรมชั่ว
วัฒนธรรมของเรามีความเชื่อกันว่า คนที่เกิดมารูปร่างหน้าตาดี ผิวพรรณผุดผ่อง
ได้เป็นใหญ่เป็นโตนั้น เขาและเธอล้วนสร้างสมบุญบารมีมาแต่อดีตชาติและปัจจุบันชาติทั้งสิ้น จึงได้เสวยผลบุญดั่งที่เห็น
คนโบราณถึงกับมีคติพจน์ว่า"แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนานั้นแข่งยาก"
ดังนั้น เมื่อผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง กระทำชั่ว ประชาชนก็จะยกมือโมทนาสาธุว่า เดี๋ยวกรรมเวรก็เล่นงานเขาเอง
เหตุนี้สังคมไทยของเรา การมีส่วนร่วมทางการเมืองจึงไม่ค่อยปรากฏให้เห็น เพราะทุกคนเชื่อกฏแห่งกรรม

 

ดูเหมือนปัญหาอยู่ที่การเชื่อกฏแห่งกรรม

แต่แท้จริงแล้ว ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ กฏแห่งกรรม ปัญหานี้อยู่ที่ความ เชื่อ

ถ้าเราสามารถสอนธรรมของพระพุทธองค์ให้เข้าใจได้เพิ่มขึ้น การเชื่อ
กฏแห่งกรรมนั้น จะถูกทางได้ การยึดมั่นกฏแห่งกรรมนั้นถ้ายึดไปทาง
เดียวนั้นยังมีผลเป็นมิจฉาทิฏฐิได้อยู่ เช่น

เชื่อว่าคนเราเกิดจากกรรมเก่า ที่ปรุงไว้ดีหรือไม่ดี ทำให้ชีวิตใหม่ท้อแท้
นั่งรอผลบุญประการหนึ่ง

เชื่อว่าคนเราไปเกิดชาติหน้า เนื่องจากปรุงกรรมดีไม่ดีในชาตินี้ ทำให้ชีวิต
ใหม่ สรรหาแต่การปรุงกรรมที่เป็นปัจจัยที่ชอบ เช่น อยากรวย ก็ทำบุญสร้าง
วัดสร้างวา อรหันต์ทัวร์(ได้ยินข่าวพระดีที่ไหนก็จัดทัวร์ไปกราบไหว้) อยาก
มีผิวพรรณดี ก็ถวายดอกไม้เป็นนิจ อยากเป็นหัวหน้าก็เป็นประธานในการจัด
กฐิน ถ้าประกอบด้วยกิเลส จะเอาแต่กระทำ โดยไม่ดูเหตุสมผล เช่น ไปยัก
ยอก หลอกล่อทรัพย์พ่อแม่ เพื่อเอาไปทำบุญ ใครแย่งเป็นประธานกฐิน หรือ
สร้างวัด สร้างพระ ก็สาปแช่ง ยื้อยุด อาฆาต ข้ามหัว เป็นต้น

ดังนั้น ต้องชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยของกฏแห่งกรรมนั้น ก็ไม่เที่ยง ขึ้นอยู่กับเหตุ
ปัจจัยอื่นๆ ด้วย ก็ด้วยแต่อดีตที่มีมากหลายอสงไขย และกรรมในปัจจุบัน และ
อีกทั้งสภาพแวดล้อม ถิ่นอาศัยในปัจจุบันก็ล้วนมีผล เช่น สร้างวัดมากมายแต่
ติดในกามคุณ ก็อาจเกิดได้แค่สุนัขในวัดที่อ้วนพี ที่ไม่ต้องร่อนเร่หากินเท่านั้น

* * * * * *

ส่วนในเรื่องของตำแหน่งใหญ่โตนั้น ต้องมองไปว่าไม่ใช่การเสวยบุญอย่าง
เดียว แต่เป็นการผ่านบุญ คือ กินบุญเก่าเท่านั้น ถ้าได้รับแล้ว แต่ไม่รู้จัก
ปรุงเหตุปัจจัยให้ดี ทุกอย่างก็ผ่านพ้น หลังจากนั้นก็คือผลของกรรมอื่นที่จะ
กระทำ ถึงแม้จะมีมุมมองที่ไม่ต่างกัน แต่กำลังอยากชี้ว่า เขานั้นน่าสงสาร
อยู่ประมาณหนึ่ง เพราะเขากำลังเป็นคนที่เก็บบารมีอยู่ และต้องเจอข้อสอบ
ที่ยุ่งยากกว่าเราหลายพันเท่า เป็นเช่นนี้ แทนที่เราจะนั่งดูเฉยๆ อาจพลิกเป็น
การเอาใจช่วย เอาใจส่งกองบุญ วิถีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาเรื่องการปกครอง
(ส่วนใหญ่เกิดในร้านกาแฟ) ผู้นำที่ชาญฉลาดจึงต้องเปิดใจ ถ้าเปิดใจไม่ได้
ก็ต้องเปิดตาลงมาดู เปิดตาไม่ได้ก็ต้องเปิดหู แต่ผู้นำคนไหนเปิดอยาตนะทั้ง 6
เพื่อรับรู้ได้กว้างเท่าไหร่ ก็จะได้กองบุญที่ดีที่สุดต่อการปกครองใจคนได้ดีเท่านั้น

- - - - - -

น่าแปลก ที่เรื่องการเปิดอยานตนะทั้ง 6 นั้น จะทำได้ดีจริงๆ เต็มที่จริงก็อยู่ที่
รู้จักการทำสติ ให้ไว ให้คล่อง ให้รู้ปัจจุบัน โดยการตามรู้กาย ใจ เวทนา
ที่มีในตน เมื่อตามรู้ตามดูได้ดีเท่าไหร่ ปัญญาที่ควรแก่การงานนั้นจะนำมาใช้
ได้ถูกต้อง เช่น เมื่อได้ยินคำบอกเล่าวิธีแก้ปัญหา ก็ตามดูความโกรธ ความไม่
ชอบใจ ชอบใจ ระลึกรู้ว่ามีหรือไม่มี ถ้ามีก็ให้รู้ว่ามีแล้วปล่อยผ่านฟังเขาต่อ
ก็จะสามารถฟังได้จนจบ ก็จะสามารถวิจัยวิธีการแก้ปัญหาให้ครอบคลุมได้ทุกกลุ่ม
และ เมื่อคนเล่าเขาเล่าได้จบ เขาก็สบายใจว่าเราฟัง เป็นผลพลอยได้ เป็นต้น

นอกจากนั้น

เรา ผู้อยู่ใต้การปกครอง ก็ต้องทำวิธีเดียวกัน คือ ตามรู้กาย ใจ เวทนา
ที่มีในตน เมื่อตามรู้ตามดูได้ดีเท่าไหร่ ปัญญาที่ควรแก่การงานนั้นจะนำมาใช้
ได้ถูกต้อง เป็นผู้อยู่ใต้การปกครองที่ดี และอีกทั้งยังสามารถรับฟัง และ
วิจัยธรรมที่เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น

* * * * *

 

ท่าน ว.วชิระเมธี(ผิดขออภัย)บอก กฏแห่งกรรมมันมีกระบวนการ
อดีต มาปัจจุบัน และแก้ไขที่ปัจจุบัน ไม่ใช่รอไม่แก้ไข นั่นคือพุทธแท้
แต่ว่า กรรมของแต่ละคนก็จริง
แต่ถ้าคนนั้นเกิดเป็นผู้ใหญ่ และสร้างกรรมคือนโยบายแล้ว
การส่งกองบุญของเราจะไปหนุนให้เขาสร้างกรรมเพิ่มหรือไม่ อย่างไร
ถ้าผู้ถูกปกครองมีกองบุญที่เป็นกุศลจิต
แต่ผู้ปกครองมีนโยบายที่เป็นอกุศลจิต
ส่วนใหญ่อกุศลจิตที่ได้อำนาจรัฐ มักจะเป็นผู้ชนะคือสร้างกรรมได้ต่อไป
กุศลจิตของประชาชนก็ต้องทนรับกรรมต่อไปเหมือนกัน
เราจะใช้ศาสนาแก้ไขให้เป็นรูปธรรมได้อย่างไร
วานผู้ทรงคุณวุฒิช่วยหาแนวทางแก้ไขให้กระจ่างกันต่อไป

 

การที่คนใหญ่คนโตทำผิด แล้วคนส่วนใหญ่กลับยกย่องสรรเสริญคล้อยตาม อาจเป็นเพราะเคยทำกรรมร่วมกันมาก็ได้น่ะครับ แต่ถ้าใครไม่มีกรรมร่วมในอดีต หรือได้สร้างกรรมใหม่ในปัจจุบันที่ดีก็อาจจะทำให้หลุดรอดจากการร่วมกระทำสิ่งที่ไม่ดีนั้นไปได้น่ะครับ

เรื่องกรรมและวิบากของกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบน่ะครับ เรื่องกรรมก็มีทั้ง กรรมเก่า กรรมใหม่ กรรมปัจจุบัน กรรมแต่กำเนิด กรรมทำเป็นประจำ กรรมก่อนตาย กรรมหนัก กรรมเบา กรรมดี กรรมไม่ดี กรรมเป็นกลางๆ ฯลฯ

 

การได้เป็นคนใหญ่ คนโต ย่อมมี สิทธิ์หนทาง สร้างกรรมมากขึ้น เช่นกัน

การเป็นคนใหญ่คนโต ..ไม่ใช่หนทาง สู่ ..ทางสงบ

เห็นมาหลายคนแล้ว พอเป็นใหญ่ ..สูงสุดกับสู่ดิน

 

เริ่มที่ตัวคุณเอง
ขอความต่อไปนี้ได้รับการจารึกไว้บนหลุมศพของบิช็อปแองกลิกันผู้หนึ่งในห้องใต้หลังคาโบสถ์เวสต์มินิสเตอร์:
เมื่อข้ายังเยาว์วัยและเสรี จินตนาการของข้าไร้ขอบเขต
ข้าฝันจะเปลี่ยนแปลงโลก เมื่อข้าเติบโตขึ้นและมีปัญญา
มากขึ้น ข้าพบว่าโลกเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ข้าจึงลดวิสัยของตนเอง
และตัดสินใจเปลี่ยนแปลงประเทศของข้า แต่มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ครั้นเมื่อข้าเริ่มเข้าสู่ปัจฉิมวัย ด้วยความหวังสุดท้ายที่แทบไม่มีเหลือ
ข้าพยายามจะเปลี่ยนแปลงครอบครัวของข้า ซึ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวข้ามากที่สุด แต่อนิจจา ข้าไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงได้เลย
และขณะนี้ ขณะที่ข้านอนสงบอยู่ในโลงของข้าเอง ข้าพลันตระหนักว่า:
ข้าต้องเปลี่ยนแปลงตัวข้าเองเสียก่อน จากนั้นข้าจึงจะเปลี่ยนแปลงครอบครัวของข้าได้ ด้วยตัวอย่างที่ข้าทำจากแรงบันดาลใจและความกล้าหาญของพวกเขา ข้าจะสามารถทำให้ประเทศของข้าดีขึ้นได้ และใครจะรู้เล่าว่า...
ข้าอาจเปลี่ยนแปลงโลกได้เช่นกัน


เรียบเรียงจากหนังสือ พลังแห่งชีวิต

 

สมัยนี้ทำดีมีที่ไหน ทำชั่วดีถมไป ทำดีไม่ได้ดี ทำชั่วมีคนสนับสนุน
สมัยนี้ยุคของคนไม่ดีครองเมือง มีแต่ผู้คนยกย่องสรรเสริญคล้อยตาม คำว่าแกะดำในยุคนี้ คือคนดีนั้นเอง

 

คนที่เป็นนายกฯ แล้วคิดว่า มีบุญคงคิดผิดแล้ว ล่ะ

เพราะนายกฯ คนปัจจุบัน ถ้าโดนเช็คบิลคงติดคุกค่อนข้างแน่ เรื่องเขายายเที่ยง น่ะ

ถ้าอยู่เฉยๆ คงไม่มีใครเค้าไปแตะต้อง แต่วันนี้มีทุกข์ลาภมาหาตัวเองแล้ว

ดูๆ ไปก็แล้วกัน อีกไม่นานก็รู้แล้ว

 

คนเป็นใหญ่เป็นโต มียศฐาบรรดาศักดิ์ ก็มักจะเป็นคนที่ทำบารมีมาแล้วทั้งนั้น ไม่จำเป็นหรอกว่าจะต้องทำในชาติปัจจุบัน ชาติก่อนๆทำไว้มากมาย มาชาตินี้บารมีก็ย่อมจะติดตัวมา คือการได้เสวยผลบุญแห่งเก่าก่อน

ก็เหมือนกับพวกที่ถูกล๊อตเตอรี่แจ๊กพอตรางวัลที่หนึ่งนั่นแหล่ะ แค่รางวัลที่หนึ่งธรรมดาๆที่ไม่ใช่แจ๊กพอต ก็แทบจะไม่มีโอกาสได้ถูกอยู่แล้ว นี่ยังไม่รวมพวกรางวัลต่างๆ ซึ่งนี่ก็เกิดจากผลบุญของเขาเหล่านั้นทั้งสิ้น ส่วนใครสร้างมาน้อยก็ได้น้อยเป็นธรรมดา

ก็ลุ้นแค่เลขท้ายสามตัว เลขท้ายสองตัว ก็หืดขึ้นคอแล้วนิ ... ฮ่าๆๆ