เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. Pong55

    Pong55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +8,416
    พี่เสาวภา ครับผม ตอนนี้ยังแจกเหรียญเจริญสุข
    ของหลวงปู่เล็ก วัดทำนบท่านอยู่ไหมครับผม
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    กราบเรียนเชิญ พี่น้องบ้านเหรียญบิน ฯ เป็นคนมี จิตเป็นกุศลนำหน้าอามิส ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ

    เรื่องการแจก เรื่องเงิน เรื่องซื้อขาย ต้องไปคุยที่กระทู้ประมูลในห้อง ตลาดพระเครื่องเรื่องการกุศล เพราะจริงๆผิดกติกาของเว็บ

    เรื่อง แจกฟรี อาจจะมีเผลอมาเขียนกันบ้าง ท่านกรรมการ เขาบางทีผ่านๆ ไปให้

    แต่ถ้า ซื้อขาย ในห้องนี้คือห้องประสบการณ์ เอาไว้เล่าเรื่องพระที่เคารพเลื่อมใส ขอเว้นการซื้อ ขาย โชว์ พระที่จะซื้อ จะขาย เพื่อไม่เป็นประเด็นน่ะครับ เน้น ปฏิปทาของพระท่านผู้เฒ่าเหนือโลกเป็นหลัก

    แต่ถ้าพระเครื่อง เครื่องรางอันไหน สงสัย ผมพอตอบได้ก็หลังไมค์ดีกว่าครับ ถ้าตอบได้ ตอบตามตรงแน่ๆครับ

    ส่วนเหรียญหลวงปู่เล็ก จะตอบหลังไมค์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2015
  3. putsudsoi

    putsudsoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +8,395
    กราบ กราบ กราบ พระเดชพระคุณหลวงปู่บุญศรีและหลวงปู่ทรง

    สวัสดีพี่น้องบ้านเหรียญบินทุกท่านครับ แวะมาตอกบัตรครับผม ไม่ได้เข้ามาเว็บพลังจิตซะนานเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2015
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    มีดวิชัยยุทธต่อ

    20130718_101621.jpg 20130718_101631.jpg 20130718_101638.jpg

    20130718_101644.jpg 20130718_103157.jpg 20130725_150009.jpg

    20130725_145448.jpg 1370685111405.jpg เหล็กช่อฟ้า ตำหนักแดง.jpg

    ตะปูวัดทอง.JPG

    รูปการไหว้ครู และ บวงสรวง พระพุทธสิหิงค์สายเหนือ ครูบาอาจารย์ เทพ เทวดา ครูเตา และ เทพ เทวดาประจำวัสดุ ขออนุญาตสร้าง

    วัสดุสำคัญ คือ เหล็กช่อฟ้าตำหนักแดง ตะปูกุฏิหลวงพ่อทับ วัดทอง ตะปู รางรถไฟ หลวงปู่บุญศรี เหล็ก สปริง เหล็ก SK5
     
  5. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    มีดวิชัยยุทธ

    20130725_150009.jpg 1369145493696.jpg 1369145477035.jpg

    1369145482781.jpg 1369145488235.jpg 1370685096894.jpg

    รูป เตาตีมีด มีด ตีด้วย วิธีเหล็กลาย ผมบรรยายไว้ไหนสักที่ เดี๋ยวขอครูแสงแขดึงมาน่ะครับ ตีทับกันเป็นร้อบชั้น และ ประกบเหล็ก SK5 ตีจน ติดเหนียวดี โดย SK 5 จะเป็นเหล็กแข็ง

    1370685111405.jpg 1370685115745.jpg 1373551187144.jpg

    ที่ด้ามจะเป็นไม้ หลายอย่าง เช่นตะเคียนทอง ( ตอต้นหลักเมือง ) ไม้พยุง ไม้ โมคัลลาน์ หลายอย่าง เจาะรู บรรจุผง หลวงปุ่บุญศรี ตะไบตะปู วัดทอง
     
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    ไม้มงคล

    1370685138379.jpg 1373166857878.jpg 1373166861328.jpg

    1373166865888.jpg 1373508880029.jpg 1374812198923.jpg
    มีหลายอย่างที่เอามาทำมีดวิชัยยุทธ คัดมาทั้งสิ้น เช่นไม้ตะเคียนทอง ตะเคียนแดง ไม้พยุง ทั้งฝักและด้าม ฝีมือทำแบบปราณีต ทำทีล่ะเล่ม

    1374812215965.jpg 1374812218609.jpg 1374814467377.jpg

    ที่ด้าม เจาะรูปใส่ผงอิทเจและ ผงตะไบเหล็ก แล้วปิดด้วยฝาทองเหลืองนอก

    IMG_0394.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2015
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    20130621_153033.jpg 20130704_140648.jpg 20130704_140632.jpg

    1374369160076.jpg 1374812127413.jpg 1369624049093.jpg

    ในคราวเดียวกัน ผมทำมีด ครูครีอีก ๑๐ กว่าเล่ม เพราะเหล็กดีมีมงคล พอตีแม่ลายที สามารถทำได้หลายเล่ม ช่างไม่ขายเหล็ก เพราะฉนั้นผมจึงเอาแม่ลายมาตีมีดจนหมด

    1369624049093.jpg 1369624054300.jpg 1374812185830.jpg

    มีดครูครี นี้ไม่แจกใครน่ะครับ ผมทำแจกกรรมการบริษัท หลังจากปลุกเสกโดยหลวงพี่วัดเงินมา หนึ่งปี พอแบ่งส่วนที่ผมครอบครองนำไปถวายหลวงปู่เล็กขอท่านเมตตาเสกซ้ำให้ด้วยครับ

    1374812172096.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2015
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    มีดช่างซุ่ยเหล็กลายแห่งบ้านปากบึง

    หากจะพูดกันถึงเรื่องมีดแล้วนั้น บรรดานักสะสมมีดคงได้เคยพบเห็นมีดที่มีลวดลายสวยงามอ่อนช้อยอยู่บนเนื้อเหล็ก บ้างก็ว่าดูขลังดังมีดหมอ บ้างก็ว่าดูเท่อินเทรนไม่ซ้ำแบบใคร หลายคนเข้าใจว่ามีดที่มีลักษณะโดดเด่นสวยงามเช่นนี้ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศและมีราคาค่อนข้างแพงเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วช่างฝีมือไทยจำนวนไม่น้อยที่มีภูมิปัญญาและความสามารถในการสร้างสรรค์ชิ้นงานเหล็กลายได้สวยงามไม่แพ้ต่างชาติเลยทีเดียว ในประเทศไทยนั้นก็มีการทำเหล็กลายกันอยู่บ้าง แต่ก็เหลือจำนวนผู้ทำไม่มากนักในปัจจุบัน เนื่องจากการตีเหล็กนั้นนอกจากต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ผู้ตีเหล็กยังต้องมีความแข็งแรง อดทนเป็นอย่างมาก จึงทำให้ผู้ที่สนใจหลายคนท้อแท้และเลิกความคิดที่จะเป็นนักตีมีดหันมาเป็นผู้สะสมงานศิลปะจากเหล็กลายแทน

    เหล็กลายหรือดามัสกัส (DAMASCUS) ที่ขึ้นชื่อแหล่งหนึ่งในเมืองไทยก็คือ ‘‘เหล็กลายครูซุ่นซุ่ย’’ ผู้สั่งสมประสบการณ์การตีเหล็กจากจีนแผ่นดินใหญ่ และอพยพเข้ามาอยู่ในเมืองไทยตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เริ่มแรกเดิมทีเป็นการตีเหล็กเพื่อทำเครื่องมือทางการเกษตร แต่ด้วยวัสดุหลักซึ่งเป็นเหล็กกล้าหายากและมีราคาแพง จึงได้นำเหล็กอ่อนหลายชนิดมาตีผสมกันจนได้เป็นเหล็กที่มีปริมาตรเพิ่มขึ้นแล้วนำมาห่อหุ้มเหล็กกล้าอีกชั้นหนึ่งแล้วจึงนำไปขึ้นรูปเป็นเครื่องมือการเกษตรตามต้องการ ต่อมาได้มีชาวต่างชาติกลุ่มหนึ่งเข้ามาศึกษาวิธีการตีเหล็กแล้วแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน จึงได้มีการแนะนำวิธีการทำให้เหล็กเกิดลายสวยงาม จากนั้นครูซุ่นซุ่ยและลูกๆจึงได้มีการพัฒนาศึกษาด้านโลหะศาสตร์เพิ่มเติมจนได้เหล็กที่มีคุณสมบัติที่ดีและมีรูปลักษณ์ที่สวยงามดังเช่นปัจจุบัน

    มีดเหล็กลาย หรือ Clad Damascus ของครูซุ่นซุ่ยนั้นเรียกได้ว่าเป็นวิธีแบบโบราณ เป็นงานแฮนด์เมคทุกขั้นตอน เหล็กที่ได้เกิดจากการนำเหล็ก 2 ชนิดที่มีคุณสมบัติต่างกันมาวางทับซ้อนกันเป็นชั้น ๆจำนวน 40 ชั้น ทำการตีเหล็กจนประสานเป็นเนื้อเดียวกัน ตีทบกันเป็นทวีคูณ จาก 40 ชั้น เป็น 80 ชั้น เป็น 160 ชั้น จนถึง 320 ชั้น ในขั้นตอนนี้เองที่ต้องใช้ความพยายามและประสบการณ์อย่างสูงเพื่อจะให้ได้เหล็กที่มีลวดลายที่ละเอียด คมชัด เนื้อเหล็กประสานเป็นเนื้อเดียวกันไม่แตกแยกออกจากกัน ลายเหล็กที่ได้จากการตีด้วยแรงคนทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำกันเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ซึ่งมิใช่ว่าทุกคนที่อยากได้จะหาซื้อได้เลยทันทีที่มีกำลังทรัพย์เท่านั้น ท่านต้องสั่งและรอคอยพอสมควรเนื่องจากเป็นการผลิตกันเล่มต่อเล่ม แต่ไม่ว่าจะต้องรอนานซักแค่ไหนด้วยความงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้เองที่ทำให้เหล่าคนรักและนักสะสมมีดอยากมีไว้ในครอบครอง

    เป็นที่โชคดีว่าในวันที่เข้าไปสัมภาษณ์ครูซุ่นซุ่ยถึงการทำมีดเหล็กลาย เป็นวันที่มีการทำพิธีเปิดเตาบริสุทธิ์ซึ่งไม่ได้หาดูกันง่ายๆ นานๆ ทีถึงจะมีพิธีเปิดเตาใหม่และมีการทำมีดครูซึ่งเชื่อกันว่ามีด 3เล่มแรกที่ตีจากเตาบริสุทธิ์จะเป็นมีดครูที่มีความขลังมาก คุณอัตถสิทธิ์ทายาทครูซุ่นซุ่ยกล่าวให้ฟังว่าตามพิธีกรรมความเชื่อของคนที่มีอาชีพตีเหล็กหรือช่างตีมีดแล้วในการที่จะทำการรื้อถอนเตาตีมีดเก่านั้น เราจะกระทำโดยปกติโดยทั่วไปไม่ได้เพราะว่า มีความเชื่อว่ามีเทพเจ้าเตาไฟอยู่ประจำเตาอยู่ หากจะรื้อถอนเตาจะต้องมีการกำหนดฤกษ์ วัน เวลา ที่ดีโดยซินแส และก่อนรื้อถอนเตาตีมีดเก่า จะต้องมีการเตรียมอาหารคาวหวาน เครื่องไหว้ เทพเจ้าเตาไฟ เสมือนว่าเป็นการเชิญเจ้าเตาออกจากเตาไปประทับที่บนสวรรค์ก่อน ในขณะรื้อเตาและรอสร้างเตาใหม่

    เมื่อรื้อเตาเก่าออกแล้วพิธีกรรมในการสร้างเตาตีมีดใหม่ก็มีความสำคัญเป็นอันมาก ก่อนที่เริ่มสร้างจะต้องมีการกำหนด วัน เวลา ที่เป็นฤกษ์ที่ดี โดยซินแส สำหรับไหว้เจ้าเตาอีกครั้งเสมือนว่าอันเชิญเทพเจ้าเตาไฟ ลงมาประทับและคอยดูแลการสร้าง ซึ่งในตอนนี้มีพิธีกรรมตามความเชื่อ คือ จะต้องกำหนดทิศทางของปากเตา และมีการฝังวางวัตถุอันเป็นมงคล เช่น แผ่นยันต์ เหรียญ และไม้มงคล 9 ชนิด ตอกฝังวางตามทิศ ตามตำรา พร้อมข้าวตอกดอกไม้ วางบริเวณฐานเตาไฟ ซึ่งเชื่อว่าจะป้องกันอาถรรพ์ที่เกิดจากเหล็กอาถรรพ์ต่างๆ ที่จะนำมาตีมีดหมอเสร็จแล้วจึงเริ่มก่ออิฐก้อนแรกและสร้างเตาตีมีดจนเสร็จ

    เตาตีมีด.jpg ช่างบวงสรวงเตา.jpg

    พิธีไหว้ครูมีด ครูเตา ระหว่างทำเตาใหม่ กับ เตาเก่า

    หลังจากที่สร้างเตาใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ใช่ว่าจะสามารถจุดเตาตีมีดได้เลยในทันที จะต้องมีพิธีกรรมการเปิดเตาตีมีดใหม่ จะต้องมีการกำหนดฤกษ์ วัน เวลา ที่เป็นมงคลเช่นกัน จะต้องตั้งมณฑลพิธีกลางแจ้ง และมีเครื่องบวงสรวงดอกไม้บายศรี เครื่องอาหารคาวหวานอัญเชิญเทพเทวดา ในการเปิดเตาตีมีด และการสร้างมีดหมอตามตำราโบราณ พร้อมทั้งจัดเครื่องไหว้ครูหมอเหล็ก ครูเพชรฉลูกัณฑ์ พระพิฆเนศวร เมื่อถึงกำหนดฤกษ์ดีที่กำหนดไว้ ก็มีพิธีกรรมจุดไฟเตาสำหรับเริ่มตีมีดหมอ

    บวงสรวงครูมีดที่วัดเงิน๑.jpg

    บวงสรวงไหว้ครู มีดครู ครูสรรพวิชา ที่ วัดเงิน ตลิ่งชัน โดยพระมหามานิตย์ วัดเงินบางพรหม

    “กว่าจะมาเป็นเหล็กลาย จากภูมิปัญญา สู่งานสะสมคนรักมีด”
    มีดเหล็กลายแห่งบ้านปากบึง อีกหนึ่งงานศิลปะชั้นครูที่เหล่านักสะสมต่างอยากมีไว้ในครอบครอง ในการทำมีดเหล็กลายนั้นจะต่างจากการทำมีดทั่ว ๆ ไป กล่าวคือมีดทั่ว ๆ ไปนั้นเป็นการทำมีดจากเหล็กที่เลือกในขั้นตอนเดียว ส่วนการทำมีดเหล็กลายนั้นจะต้องแบ่งงานเหล็กออกเป็น 2 ขั้นตอนหลัก คือ ขั้นตอนการทำเหล็กลาย และขั้นตอนการนำเหล็กลายไปห่อหุ้มเหล็กกล้าถึงจะเข้าสู่กระบวนการทำมีดตามปกติ

    เหล็กช่อฟ้า ตำหนักแดง.jpg

    เหล็กยอดตำหนักแดง ยุค รัชกาลที่ ๑ ของขรัวเงิน ( เป็นพระญาติกับรัชกาลที่ ๑ ที่ดูแลเรื่องการคลัง ) วัดเงิน ตลิ่งชัน ในคราวบูรณะ เก็บรักษาไว้โดยช่างกรมศิลปฯ

    ตะปูวัดทอง.JPG

    ตะปูจากกุฏิหลวงพ่อทับ วัดทอง บางกอกน้อย ตรงบริเวณห้องพระจุดที่ท่านนั่งกรรมฐาน
    เก็บไว้ในคราวบูรณะ โดยช่างกรมศิลปฯ

    **ขั้นตอนการทำเหล็กลาย
    เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมากจะได้เหล็กที่มีลายชัดเจนหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้

    1.เริ่มจากการนำเหล็ก 2 ชนิด ได้แก่เหล็ก SK5 ซึ่งเป็นเหล็กกล้ากึ่งสปริง เช่นพวกเหล็กใบเลื่อยสายพานและเหล็กคาร์บอนชุบซิงค์ ที่มีความหนาเท่ากัน มาตัดให้ได้ขนาดประมาณ 5 x 30 เซนติเมตร จำนวนอย่างละ 20 แผ่นจากนั้นนำเหล็กทั้งสองชนิดมาเรียงสลับกันแบบหนึ่งต่อหนึ่ง แล้วเชื่อมหัวท้ายเพื่อให้เหล็กทั้ง 40 ชิ้นติดกัน ในกรณีนี้ เหล็กยอดตำหนักแดง และ ตะปู หลวงพ่อ ทับ วัดทองถูกนำมาตีเป็นเหล็กลาย

    2.ใช้คีมคีบเหล็กที่เชื่อมหัวท้ายไว้แล้วเข้าเตาเผาที่ใช้ถ่านไม้รวก (Tribal primitive knives)เป็นเชื้อเพลิงในการเผา ทำการเผาเหล็กให้ร้อนจนเหล็กแดงเป็นสีหมากสุก ซึ่งตรงนี้ต้องใช้ประสบการณ์อย่างสูงในการดูสีเหล็กว่าหลอมละลายได้ที่หรือยัง จากนั้นนำเหล็กออกมาใส่น้ำประสานเพื่อช่วยในการประสานเนื้อเหล็กเมื่อใส่น้ำประสานแล้วนำเหล็กเข้าเผาและตีขึ้นรูปด้วยค้อน (Hand Forged ) ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากหากไม่สามารถตีเหล็กให้เชื่อมประสานติดกันได้แล้วจะเสียใช้การไม่ได้

    3.เหล็กที่ถูกตีด้วยค้อนจะยืดยาวออก ผู้ตีต้องตีตะล่อมให้ไปในทิศทางที่ต้องการในลักษณะยาวออกไม่แบะไปด้านข้างมากจนเกินไป เมื่อได้ความยาวที่ต้องการแล้วนำมาตัดแล้วพับเข้าหากัน นำเหล็กไปชุบน้ำประสานเพื่อให้เป็นตัวช่วยประสานเนื้อเหล็กนำเข้าเตาเผาอีกครั้งแล้วตีพับไปพับมาจนได้จำนวนชั้นที่ต้องการ เสร็จแล้วนำไปชุบด้วยน้ำธรรมดาเพื่อให้เหล็กเย็นตัวลง ก็จะได้เหล็กลายเพื่อใช้สำหรับหุ้มเหล็กกล้าในขั้นตอนต่อไป

    **ขั้นตอนการนำเหล็กลายไปห่อหุ้มเหล็กกล้า

    เหล็กลายห่อเหล็ก คาร์บอนด์.jpg

    1.ในขั้นตอนนี้จะนำเหล็กที่ได้ตัดออกแบ่งเป็นส่วนตามขนาดมีดที่ออกแบบไว้ จากนั้นนำเหล็ก S45C ซึ่งเป็นเหล็กกล้าใส่เป็นแกนกลาง ในภาพเป็นการทำมีดคมด้านเดียว จึงตัดเหล็กลายเป็นแผ่นใหญ่แล้วจับโค้งให้เป็นรูปตัวยู (U) ใส่ไส้เหล็กกล้าตรงกลางเมื่อตีเหล็กไส้เหล็กกล้าจะไหลออกมาเพื่อทำเป็นคมมีดต่อไป หากจะทำมีดสองคมก็จะตัดเหล็กลายออกเป็นสองแผ่นวางประกบไส้เหล็กกล้าตรงกลาง เมื่อตีเหล็กไส้เหล็กกล้าก็จะไหลออกมาทั้งสองด้าน
    เหล็กที่ตีมาก่อนแต่ง.jpg

    2.เมื่อใส่ไส้เหล็กกล้าแล้วนำเหล็กไปชุบน้ำประสานเพื่อเป็นตัวช่วยประสานเนื้อเหล็กนำเข้าเตาเผาตีเชื่อมประสาน ปั้นขึ้นทรงมีดตามแบบ เสร็จแล้วนำไปชุบด้วยน้ำธรรมดาเพื่อให้เหล็กเย็นตัวลง
    3.ทำการเจียร ตะไบ ตกแต่งใบมีดให้ได้มีดตามแบบและขัดผิวด้วยกระดาษทราย
    **ขั้นตอนการเข้าด้าม
    1.ออกแบบด้ามมีดตามต้องการ และจัดเตรียมวัสดุที่ใช้ ในการทำด้ามมีด เช่น กระบังมือใช้ MOKUME หรือเหล็กลาย ส่วนวัสดุที่ใช้ประกอบทำด้ามมีด เช่น ทองเหลืองแผ่นบาง/สแตนเลสแผ่นบาง ไม้ชนิดต่างๆหรือปุ่มไม้สวยๆ แผ่นพลาสติกหลากสี และเขากวาง
    2.นำวัสดุที่เตรียมไว้แล้วมาประกอบกับด้ามมีดโดยใช้กาว Epoxy ยึดติดวัสดุที่ใช้ทำด้ามมีด ทำการเจาะและตอกยึดหมุดทองเหลืองที่ปลายด้ามเข้ากับกลั่นมีดเพื่อความแข็งแรง
    3.แต่งด้ามมีดแบบหยาบโดยใช้เครื่องเจียร และตะไบ ให้ได้ขนาดและทรงด้ามตามที่ออกแบบไว้
    4.ขัดแต่งด้ามมีดแบบละเอียดโดยใช้ตะไบละเอียดและกระดาษทราย ขัดผิวที่ด้ามมีดให้เรียบละเอียดสวยงาม
    5.เมื่อทำการตกแต่งด้ามมีดเสร็จแล้วนำมีดแช่ในน้ำกรดแบตเตอรี่ความเข้มข้น 33% เพื่อทำให้เกิดลายของเนื้อเหล็กโดยเราใช้เทปพันด้ามมีดเพื่อป้องกันไม่ให้กรดกัดส่วนของด้ามมีด
    6.เสร็จแล้วเราจะได้ด้ามมีดและมีดเหล็กลายตามที่เราออกแบบ

    ผงตะปู ตะกรุด ผงอิธเจ.jpg

    ผงอิธเจหลวงปู่พระครูบุญศรี ตะกรุดเสกบนแพโบสถ์น้ำ ผงตะไบ เหล็กตะปูหลวงพ่อทับวัดทอง เป็นวัสดุสำคัญในการประจุด้ามมีดหมอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2015
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    ไม้มงคลที่เอามาทำด้ามมีด มีหลายชนิด เช่นไม้ตะเคียน ไม้ปุ่มประดู่ ไม้พยุง เขาควาย งาช้าง ฯลฯ

    ไม้มงคล๕.jpg ไม้มงคล๔.jpg ไม้มงคล๓.jpg

    ไม้มงคล๒.jpg ไม้มงคล๑.jpg ด้ามไม้มงคล.jpg

    เรียกได้ว่าการทำมีดเหล็กลายแห่งบ้านปากบึงของครูซุ่นซุ่ยนั้นไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แต่ละขั้นแต่ละตอนมีความพิถีพิถัน เพื่อให้ได้งานคุณภาพ คนรักมีดคงต้องมีไว้สักอัน

    ร่องเลือด หรือ โช.jpg

    ทุกเล่มจะมีร่องเลือด ร่องเลือดนี้มีชือว่า โช ส่วนเว้าจะเป็นสัญญลักษณ์ของ โยนี พระอุมา และ เดือย
    จะหมายถึง ศิวลึงค์ของพระศิวะ คู่ มหาเทพ เป็นคู่สามี ภรรยา คู่หยินหยาง คู่กลางวัน กลางคืน คู่พระอาทิตย์ และ พระจันทร์ เป็นเครื่องรางชนิดหนึ่ง มีดนี้ปลุกเสกมาตลอด ๑ ปี

    ข้อเขียนของ พี เสาวภา ในเว็บพลังจิต

    มีด ครูครี ครับเป็นของชนเผ่ากูรข่า มีดขนาดนี้ผมชอบ ค้นคว้าและแกะแบบมาจากตัวจริง
    มาดัดแปลงเนื้อเหล็ก เพราะเนื้อเหล็กของมีดครูครี เป็น เหล็กแหนบ ที่จริงมีดครูครีของแท้ จะเป็นเหล็ก คาร์บอนด์ ต่ำ ชุบแข็ง เมื่อใช้ต่อสู้ เขาจะมีมีดเล็กๆ อีกสองเล่ม พกมาด้วย

    เล่มเล็กเล่มแรกจะเอาไว้ลับและ ขูดใบมีดให้ลื่นและคม แสดงให้เห็นว่า มีดครูครีของแท้ เป็นเหล็กธรรมดาเนื้อไม่แข็ง แต่อานุภาพร้ายกาจ มีดนี้น่ากลัวมากครับ เล่มเล็กอีกเล่มจะเอาไว้ใช้งาน เฉือน ตัด (ทำกับข้าว แล่เนื้อสัตว์ ) โดยมีดหลักเล่มใหญ่ จะเป็นมีดที่เอาไว้ต่อสู้อย่างเดียว

    ชนกูรข่าเป็นชาตินักสู้ชาติเดียวในอินเดียตอนเหนือ ที่รบไม่แพ้อังกฤษ จนอังกฤษถอดใจ ขอเซ็นต์สัญญาสงบศึกและ จ้าง ทหารกูรข่ามาประจำการ งานยากๆ หินๆ แบบตายแน่ๆ ทหารอังกฤษจะให้ กูรข่าลุยหน้า และได้ผลแทบทุกครั้ง เช่นในสงครามโลก ทั้งสองครั้ง ที่ฟอล์คแลนด์ แต่ตอนออกข่าวจะเป็นทหารอังกฤษคนขาวให้สัมภาษณ์ จากผลงานอันเยี่ยมยอด ทหารกูรข่าอยู่ประจำการในกองทัพอังกฤษ มาร่วมๆ ๑๕๐ กว่าปี สืบเชื้อสายมาไม่หมด และเป็นทหารอาชีพ ประจำการอีกหลายที่ เช่นกองทัพอินเดีย เป็นหน่วยคุ้มกันสุลต่านบูรไน ที่ท่านสุลต่านไว้ใจมากกว่าทหารตัวเองซ่ะอีก เพราะพวกนี้ มีสัจจะ รักนาย ตายแทนได้ทันทีตามหน้าที่ ฯลฯ
    อย่างหนึ่งที่ เป็นตัวสำคัญ คือ มีด ครูครี ที่อยู่ประจำกายทหารกูรข่าทุกคน เหมือนดาบคัดตาน่า ที่อยู่ในมือ ซามูไร เบา คม สังหารได้ว่องไว

    มีดครูครี หรือ มีด ครูคูรี มีดของชาวกูรข่า ประเทศเนปาล ผู้รบชนะอังกฤษ สัญลักษณ์ของชัยชนะ

    prIiLoK.jpg nepalbritishbattle.jpg images.jpg

    รูปภาพ คัดลอกมาจากเรื่อง : The Pashmina War
    The Anglo-Nepal War 1814-1816 was more about trade than territory

    รูปจากอดีต สมัยนักรบชาวกูรข่ารบกับ ทหารเสื้อแดงของอังกฤษน่ะครับ อาวุธหลักส่วนใหญ่คื มีด ครูครี มีดาบและธนูเป็นส่วนน้อย มีดเป็นส่วนประกอบ ที่สำคัญคือความกล้าหาญ ไม่กลัวตาย และ ความชำนาญในการใช้มีด เป็นอาวุธขว้างที่ได้ผล สามรถหยุดหรือ ฆ่าคู่ต่อสู้ในการขว้างเดียว เจ้าของมีดจะตะโกนด้วยเสียงอันดัง กระโจน ใส่ เอามีดคืนและ ขว้างหรือ ฟันคนต่อไป ทหารกูรข่าคนเดียวสามารถ ฆ่าทหารแขกอินเดีย หรือ อังกฤษได้ทีล่ะ 3 - 4 จะถูกยิงจนตายหรือไม่สามารถทำการรบต่อไปได้ มีดนอกจากจะเป็นอาวุธ ยังเป็นเครื่องราง ถึงพระศิวะ และ แม่พระอุมา ในการรบ

    ผมทำสองแบบ แบบแรก เทวดาดลใจ ให้หลวงพี่วัดเงินเอามีด ครูครี ของหมออาคมแขกมาให้ยืม มีดนี้ใช้ฆ่ามาแล้ว และทำพิธีกรรมด้านไสยศาสตร์มาหลายครั้ง แรงมาก ผมเก็บไว้แต่ในรถ ไม่เอาขึ้นบ้าน เดี๋ยวมาเจอหลวงตาของผม ...แหะๆ ผมเอามาเป็นแบบ ตัวต้นแบบคืนหลวงพี่ไปแล้ว มีดนี้ใบมีดจะยาว ๑๐ นิ้ว

    แบบที่สอง ผมไปลอกมาจาก มีดครูครี ที่ทหาร กูรข่าใช้ประจำการ ที่ ตะวันออกกลาง ในอิรัค ใช้ลุยมาแล้ว ขนาดว่า เจ้าชายเฮนรี่ก็พกติดตัวหนึ่งเล่ม มีดนี้ตามรูปที่โชว์ มีขนาดใบยาว ๑๑ นิ้ว ที่นี่ ทหารกูรข่าก็แสดงวีรกรรม ได้เหรียญกล้าหาญอีกตามเคย เหรียญกล้าหาญชั้นยอดบางเหรียญ อังกฤษมีทหารมาหลายร้อยปี เก่งๆ กล้าๆหลายท่าน แต่มีคนได้ไม่กี่คน แต่พอมีทหารกูรข่า ทหารกูรข่าเอาไปติดหน้าอกซ่ะหลายเหรียญ เพราะกล้า บ้าบิ่น สังหารข้าศึกแบบไม่ปราณี ตาไม่กระพริบ รบเก่งแบบเกิดมาเพื่องานนี้
    น้ำหนักมีดจะพอดีกับมีดตัวจริง ประมาณ ๘ ขีดกว่าๆ ผมจะให้ช่างเหลาให้ปลายบางอีกนิด และทำ ร่องโค้งข้างใน ( ทำยากมาก ) เป็นร่องเลือด และ เจตนาให้บางลง เพื่อใช้งานในป่า ตัดไม้ได้ เพราะมีดครูครี ไม่ได้ออกแบบไว้ตัดไม้ สันจะหนา เมื่อฟันไม้ จะเข้าไม่ลึกและ เนื้อไม้จะดูดใบมีด ดึงออกลำบาก

    ที่มีดสันหนา เพราะออกแบบไว้ เฉาะหัวกระโหลกคน หรือ ฟันก้านคอ ทีเดียวขาด หรือ เมื่อขว้างเข้าใส่หน้าอก จะเกิดบาดแผลฉกรรจ์ หน้าอกยุบ และตายในมีดเดียว มีดนี้เจตนาให้เป็นมีดไม่ใช่ดาบ เพราะจะให้เป็นอาวุธระยะไกลได้ หรือประชิดตัวได้ ชาวกูรข่าจะฝึกจนขว้างได้แม่นยำ ทั้งผู้หญิงและ เด็ก ในตอนรบ เมื่อขว้างด้วยอีกมือไปยังเป้าหมาย อีกมือก็ถือดาบโดดเข้าใส่ เอามีดคืน และ ฟัน หรือ ขว้างคนต่อไป ในการต่อสู้ กับอังกฤษ กว่าทหารอังกฤษจะยิงทหารกูรข่าตาย ที่หัวหรือ จุดตาย ทหารกูรข่าอาจจะฆ่าทหารอังกฤษไปก่อนหน้า ๓ ถึง ๔ คนสบายๆ เพราะพวกนี้ แข็งแรง และ เร็วมาก มีดก็ออกแบบมาอย่างเหมาะเจาะ แบบอัจฉริยะ ( ฝรั่งเอามามีดค้นคว้าทีหลังยังทึ่งในภูมิปัญญา การฆ่าคนของชาวกูรข่า ว่าเหี้ยมเกรียม เด็ดขาด มีดนี้อยู่ในมือ ถึงตายได้ง่ายๆ แม้จะเป็นฝรั่งตัวโตๆ โดนมีดนี้ฟันหัวทีเดียวเสร็จ เก็บศพได้ ชาวกูรข่าจะแบกของมากกว่าน้ำหนักตัวจนชินทุกคนตั้งแต่เด็ก เดินบนดอยได้เป็นวันๆไม่ต้องพัก ฝึกโยคะตามหลักฮินดู แขน ขา ร่างกายและใจแข็งแกร่งกว่าคนพื้นราบมาก

    อังกฤษเลยใช้ทหารชาติอื่นรับจ้างแทน เช่น ซิกซ์ หรือ อินเดีย ออกหน้าแทน แต่พวกนี้เมื่อเจอทหารกูรข่าชาร์จวิ่งเข้าใส่ ทหารกูรข่าจะโห่ร้องด้วยเสียงอันดัง ให้อีกข้างเสียขวัญ หลบตัวมาตามก้อนหิน วิ่งอย่างรวดเร็วเหมือนเราวิ่งบนสนามฟุตบอล เมื่อถึงตัวก็ฟัน หรือ ขว้างมีดใส่มาก่อนหน้า ชื่อเสียงเป็นที่เกรงขาม ทหารรับจ้างฝ่ายอังกฤษ หลังๆเมื่อมาเจอทหารกูรข่า จะถอดใจวิ่งหนี ทำให้รูปรบแตกไม่เป็นขบวน ขาดขวัญ จะแพ้ ทหารกูรข่าที่เหี้ยมเกรียม เป็นรูปแบบรุกมากกว่า ถึงจะจำนวนน้อยกว่าแต่เลือกฆ่าเอาได้ถนัดๆ ศพกองบนภูเขาทีเป็นร้อยๆศพ ยังไม่รวมที่บาดเจ็บ ทหารกูรข่า จะสู้แบบไม่มีเกียร์ถอย ยกเว้นรุมยิงด้วยปืนจนตาย

    เล่าแล้วติดลม การรบนี้ กูรข่ารบด้วยใจเป็นกำลังสอง เพราะถูกบุกรุกดินแดน ถือว่ารบเพื่อชาติ เพื่อบ้านและ ลูกเมีย ในมือมีอาวุธของพระศิวะ หรือ พระแม่อุมา ร่องเลือดของมีด เรียกว่า โช จะหมายถึง ลึงค์พระศิวะ และ โยนีพระอุมา เป็นเครื่องรางชนิดหนึ่ง มาเป็นคู่แบบหยินและ หยาง แบบที่ผมศึกษาและเลียนแบบมาพก ปลัดและ เบี้ยแก้คู่กัน ( พวกนี้เป็นฮินดูน่ะครับถึงหน้าจะเป็นจีนๆ ) เมื่อรบด้วยใจ คนน้อยกว่า จะมีกองทหารกูรข่าที่เป็นหญิงและ เด็กมาสมทบ รบเคียงบ่าไหล่กับผู้ชาย เพราะกำลังพลชายมีไม่พอ และ ทหารร่วมรบเด็กกับหญิงนี้ ฆ่าทหารอังกฤษ ย่อยยับไปหลายครั้ง

    จะสรุปว่า ทำไม จึงมาเซ็นต์สัญญากัน ทั้งที่ในอดีต ปราบเขามาเรียบ ทุกภาค ทั่วโลก แม้อเมริกาเอง กว่าจะประกาศอิสรภาพได้ ก็โดนพวกทหารอังกฤษ เสื้อแดง ตามฆ่าแทบล้างเผ่าพันธ์ไป เพราะทหารเสื้อแดงมีวินัย อดทน รบเก่ง อาวุธเยี่ยมยอด ชนะ เมืองขึ้นไปทั่วโลก จนมีคำกล่าวว่า พระอาทิตย์ ไม่ตกดินในพระราชอาณาจักร อังกฤษ

    ๑)เพราะกูรข่าอยู่ที่สูง อังกฤษใช้แผนขงเบ้งล้อมเมือง กักให้เสบียง ขาดแคลน กูรข่าก็อ่อนกำลังลงอย่างช่วยไม่ได้ เพราะการกินฝืดเคือง อาหารหลักมาจากที่ราบ บนเขามีแต่ก้อนหิน แม้จะล่าสัตว์ป่าได้ ก็คงไม่พอเลี้ยงกองทัพ เขาอีกด้านก็หนาวและ สูงชัน จะไปเอาเสบียงจากจีนก็ไกลมาก ทำให้อังกฤษเริ่มกู้สถานะการณ์ ตั้งหลักได้ หลังจากแพ้มาหลายครั้ง

    ๒) ข่าวทหารกูรข่า สู้ทหารอังกฤษได้ เริ่มเป็นตัวอย่าง ในคนอินเดียเผ่าอื่น ในอินเดียมี ภาษาพูด สองร้อยกว่าภาษา มีชนอีกหลายร้อยเผ่า เมื่อเผ่าอื่น พวกนี้เห็นกูรข่ายันกองทัพเสื้อแดงอันเกรียงไกรได้ ชักจะเริ่มแข็งข้อ เห็นว่าอังกฤษจริงๆนอกจากมีอาวุธดีกว่า แล้วก็ไม่เท่าไหร่ ทำไมชาวเขาเผ่าเดียวฆ่าทหารอังกฤษตายเป็นเบือ

    อังกฤษเมื่อเห็นกูรข่าอ่อนกำลังลงเพราะไม่มีจะกิน แต่การจะบุกยึด จับตัวเป็นๆ ไม่มีทางเป็นไปได้ กูรข่าจะสู้จนตัวตายไม่ว่า หญิงหรือ เด็ก ทหารอังกฤษก็คงจะตายอีกเป็นเบือเหมือนกัน เลยถือโอกาสนี้รีบเซ็นต์สัญญา สงบศึก ไม่ให้เป็นตัวอย่าง เผ่าอื่นรีบฮึดแข็งข้อ ไม่งั้นทหารอังกฤษจะเจอศึกหลายด้าน เพราะอังกฤษปกครองคนด้วยเดช อำนาจ ถือตัว และ มองหาผลประโยชน์ ไม่มีทางที่คนพื้นเมืองจะเทใจให้ คนพื้นเมืองจะรอแต่โอกาสเป็นไทย และ แก้แค้นด้วยความแค้นเท่านั้น

    การรบของทหารอังกฤษนี้ถนัดการรบแบบรูปขบวน มีทั้งปืนใหญ่ ปืนเล็ก ตอนหาเรื่องยึดพม่า รบกับ ทัพหลวงของ พระเจ้า ธีบอ ( สำเนียงฝรั่ง ) หรือ สีป่อ ซึ่งมี แสนกว่าคน แบบจตุพลพรรค ต่างกันสี่สี ช้างม้าดังกองทัพในเทพนิยาย อังกฤษมีทหารแค่หลักพัน ขึ้นมากับแพ ที่ลากโยงเรือขึ้นมากรุงมัณฑะเลย์ ตามแม่น้ำ อิรวดี แต่อาวุธทันสมัยครบมือ

    รบกัน แค่ ครึ่งวัน อังกฤษยิงปืนใหญ่ ไม่กี่ตูม ตามด้วยเล็กยาวแบบยิงประสาน เป็นการยิงระยะไกลจากบนแพ ในการบแบบมีรูปแบบ เลือกยิงตามสบายเหมือนพรานยิงกระต่าย ทัพหลวงที่มี ดาบ ธนู ปืนคาบศิลา ปืนใหญ่แบบเก่า ไม่มีทางต่อกรแบบตรงๆได้ ทัพหลวงของพม่าก็แตก อังกฤษเลย ได็โอกาสยึดเมืองเขา เอาพระเจ้าสีป่อ และ พระชายา พระนางศุภยาลัต ไปขังให้ตายที่อินเดีย ตัดตอนส่วนหัว และ มองหาเจ้านายพม่าจะเอามาชักใยไม่ได้เพราะตายไปเยอะ หาคนถูกใจไม่ได้จึง หาเรื่องล้มราชวงค์พม่าที่มีมาหลายร้อยปีไปเลย และ หาคนสามัญชน มาชักใยแทน ให้แตกกัน อังกฤษจะได้ค้าไม้ เอาทรัพยากร และของมีค่า กลับไปยังอังกฤษได้
    อังกฤษปกครองทำแบบเดียวกับมาเลย์ ตั้ง ภูมิบุตร เป็นกฎหมายขึ้นมาในมาเลเซีย ลดอำนาจคนจีนในยุคนั้น ดันจนมุสลิมแข็งขึ้น ทำให้แตกแยกและปกครองมาจนถึงปัจจุบัน

    คนไทยเราโชคดี อย่างสูงสุด ที่มี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ เทพยดาจากสรวงสวรรค์ ทรงมาอุบัติ จุติในจักรีวงศ์ ด้วยพระปัญญาบารมี จึงไม่ต้องเป็นเมืองขึ้น อังกฤษ หรือ ฝรั่งเศส ไม่อย่างนั้นดูไม่จืด ชื่อคุณและผมคงไม่ใช่แบบนี้ ผมอาจจะชื่อ นาย ริชชาร์ด ศรีงาม หรือ ปิแอร์ ศรีงามแบบเดียวกับพวก สิงคโปร์ และ ฮ่องกง...แหะๆ นึกแล้วยังหนาว คิดถึงพระมหากรุณาธิคุณของท่านอยู่ไม่มีทางลืมเลือนไปจากหัวใจข้ารองพระบาทจักรีวงศ์ ดวงน้อยๆนี้ไปได้

    เผลอเล่าไปยาว แต่การรบชนะของอังกฤษ ทำให้อังกฤษติดใจ จนประมาท เหิมเกริม พอมาเจอกระดูก ไดโนเสาร์ อย่างกูรข่า ที่จริงน่ะจะแบบเดียว อเมริกา เจอกระดูกไดโนเสาร์ของพวกญวณเหนือเลยล่ะครับ อังกฤษรบไปก็ตายเพิ่มอีก เลยออกตัวให้นิ่มๆว่าเซ็นต์สัญญากันสงบศึกและจ้างพวกกูรข่ามารบแทน เพราะรวยกว่ามีเงินมากกว่า รบไม่ชนะ จ้างซ่ะเลย มันฉลาดจริงๆครับ ต้องยอมมัน...แหะๆ

    เล่าไปแล้วจะติดลมอีก เอาว่า ผมลอกแบบมีดครูครีมา เพราะมีประวัติศาสตร์เหลือร้าย เป็นแค่มีด ไม่ใช่ดาบ แต่เป็นสัญลักษณ์ ของนักสู้ตัวเล็กแบบ ชาวกูรข่า บางคนสูงแค่ ๑๕๐ เซนติเมตร ตัวเล็กว่าผู้หญิงไทยอีก แต่รบในสงครามโลกครั้งที่สองที่พม่า คนเดียวฆ่าญี่ปุ่นที่บุกตีค่ายไป ตายไปสามสิบกว่าคน รบกันทั้งคืน รุ่งเช้ามา กำลังมาสมทบ ตัวเองไม่ตาย แต่เหลือมือซ้ายแค่ข้างเดียว ...ใจท่านเหลือร้ายจริงๆ

    ใบมีดผมออกแบบ ให้ใกล้เคียงจะพยายามทำน้ำหนักให้เบาลงถึงสัก ๗ ขีดกว่าๆ ใบจะบางลงหาตรงปลาย มีร่องเลือด ให้ใช้เข้าป่าตัดไม้ได้ และแก่แล้วไม่ได้มีมารบกับใคร เอาเบา ทน คม ไว้ก่อน

    ในฝักจะประจุของดี ที่หลวงปู่พระครูบุญศรี ทำให้ไว้สำหรับมีดหมอ จะเป็นมีดประจำตระกูลได้อย่างสบายใจ
    เล่าแบบติดลม และผมไม่ทำขายครับ...เพราะเหนื่อย กว่าจะได้แต่ล่ะเล่ม

    บันทึกไว้กันลืม ๒๓ ตค ๒๕๕๗

    พระครูทับ (พระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี) วัดทอง
    ประวัติ
    เกิด วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2390 ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีมะแม ณ ตำบลเกาะชายเลน บางขุนนนท์
    บรรพชา พ.ศ.2408 อายุ 18 ปี
    อุปสมบท อายุ 21 ปี ปีมะโรง พ.ศ.2411 ณ พัทธสีมาวัดตลิ่งชัน
    มรณภาพ วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม 2455 ตรงกับแรม 9 ค่ำ เดือน 1 ปีชวด เวลา 4 ทุ่มเศษ ๆ
    รวมสิริอายุ 66 ปี 44 พรรษา

    เมื่อครั้งอดีตกาลย้อนหลังไปกว่า 150 ปี พระครูเทพสิทธิเทพาธิบดี หรือหลวงปู่ทับอดีตเจ้าอาวาสลำดับที่ ๙ ของวัดสุวรรณาราม หรือวัดทอง บางกอกน้อย กรุงเทพฯได้ถือกำเนิดขึ้น ๑๕ค่ำ เดือน๗ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๓๙o ณ บ้านคลองชักพระอ.บางกอกน้อยจ.ฝั่งธนบุรีในปัจจุบันเป็นบุตรคนโตของนายทิมและนางน้อย ปัทมานนท์ เมื่ออายุได้๑๗ปีบิดาได้นำไปฝากเป็นศิษย์ของพระปลัดแก้วซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดสุวรรณารามในช่วงก่อนที่พระศีลสารพิพัฒน์ ( ศรี )จะย้ายจากวัดสุทัศเทพวรารามมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสุวรรณาราม เพื่อเป็นศิษย์ร่ำเรียนหนังสือไทย และขอมอีกหนึ่งปีต่อมาเมื่ออายุได้ ๑๘ ปีได้บรรพชาเป็นสามณรอยู่ศึกษาเล่าเรียนในสำนักพระปลัดแก้ว แล้วยังได้ศึกษาเพิ่มเติมกับพระอาจารย์พรหมน้อย และพระครูประสิทธิ์สุตคุณ ที่วัดอัมรินทร์อีกด้วย
    ในปีพุทธศักราช ๒๔๑๑ เมื่อมีอายุครบ ๒o ปี ได้อุปสมบทที่วัดช่างเหล็ก คลองบางกอกน้อย ธนบุรี มีพระอธิการม่วง วัดตลิ่งชันเป็นพรีอุปัชฌาย์ พระปลัดแก้ววัดทองและพระอาจารย์พึ่งวัดรวกเป็นพระคู่สวด ได้รับฉายาว่า อินฺทโชติ เมื่ออุปสมบทแล้วได้กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดทอง หากแต่ได้ร่ำเรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิชาพุทธาคม ไสยศาสตร์จากพระอุปัชฌาย์มิได้ขาดจนกระทั่งสำเร็จ
    หลวงปู่ทับโดยนิสัยส่วนตัวชอบใฝ่ศึกษาหาความรู้อยู่เสมออาจารย์รูปใดที่มีชื่อเสียงได้ยินมาถึงตัวท่านไม่ว่าจะไกลลำบากเพียงใดท่านก็ดั้นด้นไปฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อขอถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆจากพระเกจิอาจารย์เหล่านั้นโดยมิย่อท้อ ก่อนสิ้นอายุขัยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ได้เสด็จมาเยี่ยมหลวงปู่ทับ เพื่อถวายแพทย์หลวงให้รักษา แต่อาการอาพาธของหลวงปู่ทับหนักเกินกว่าแพทย์จะรักษาไว้ได้ 2 - 3 วันต่อมาหลวงปู่ทับก็มรณะภาพลงด้วยอาการอันสงบเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม เวลา o๔.oo น.โดยประมาณ สิริรวมอายุได้ ๖๖ ปี พรษาที่ ๔๕ จากวันนั้นถึงปัจจุบัน ๑oo ปีแล้ว แต่ชื่อเสียงความขลังความเป็นอมตะของท่านในวงการพระปิดตายังเป้นที่กล่าวขานไม่มีวันสิ้นสุด

    ท่านเจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

    เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน เป็นพระภัสดา (สามี) ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์ (พระพี่นางในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) มีนามเดิมว่า เงิน เป็นบุตรชายคนโตของเศรษฐีชาวจีนฮกเกี้ยนกับน้องสาวของท่านผู้หญิงน้อย ภรรยาของเจ้าพระยาชำนาญบริรักษ์ (อู่) บิดาของท่านสืบเชื้อสายมาจากขุนนางในกรุงปักกิ่ง มีพี่น้อง 2 คน คือ เจ้าขรัวเงิน และ เจ้าขรัวทอง
    เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน มีพระราชโอรส-พระราชธิดากับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าแก้ว กรมพระศรีสุดารักษ์
    พระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าตัน กรมหลวงเทพหริรักษ์ พระนามเดิม ตัน พระโอรสองค์ที่ 1 เป็นต้นราชสกุลเทพหัสดิน
    พระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฉิม กรมขุนอนัคฆนารี พระนามเดิม ฉิม (เจ้าฟ้าหญิงฉิม) พระธิดาองค์ที่ 2
    สมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี พระนามเดิม บุญรอด พระธิดาองค์ที่ 3 เป็นพระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
    พระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุ้ย กรมหลวงพิทักษ์มนตรี พระนามเดิม จุ้ย พระโอรสองค์ที่ 4 เป็นต้นราชสกุลมนตรีกุล
    พระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเกศ กรมขุนอิศรานุรักษ์ พระนามเดิม เกศ พระโอรสองค์ที่ 5 เป็นต้นราชสกุลอิศรางกูร
    เจ้าขรัวเงินและเจ้าขรัวทองได้สร้างวัดคนละวัดคือ
    วัดเงินและวัดทองขึ้นตามนามของบุคคลทั้งสอง ณ สองฝั่งคลองบางพรม
    วัดเงินต่อมาคือวัดรัชฎาธิษฐาน วัดทองต่อมาคือวัดกาญจนสิงหาสน์
    วัดทั้งสองได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี
    เจ้าขรัวเงิน แซ่ตัน ถึงแก่พิราลัยในสมัยกรุงธนบุรี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2015
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    อั้นไว้นานร่ายยาว อ่านให้จุใจครับ เขียนจากใจ มีดวิชัยยุทธ มีดรุ่นแรกของ หลวงปู่เล็กวัดทำนบ
     
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    มีดหมอวิชัยยุทธ ยังมีต่อน่ะครับ รุ่นแรก และ ยังน่าจะเป็นมีดหมอ รุ่นเดียวของหลวงปู่เล็ก ยกเว้นของที่นำมาฝากเข้าพิธี ไม่ได้เจตนาสร้างมา เพื่องานนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2015
  12. ก้องครับ

    ก้องครับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    2,447
    ค่าพลัง:
    +10,647
    ไม้เทพธิดาอินทภาณี ไม่ว่าจะเป็นตะโพนหรือมีดหมอ นี้สุดๆเลยครับ

    เป็นของประจำตระกูลของสำหรับคนที่เคยมีวาสนาต่อท่านกันมาแต่ชาติปางก่อน

    :cool::cool::cool:
     
  13. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    สาธุ กราบท่านเทพธิดาอินทภานีค่ะ
     
  14. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
    โมทนาบุญกับกิจอันเป็นกุศลที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งมวลครับ สาธุ

    ไปกราบหลวงปู่เล็กมาแล้วครับ เสียดายไม่เจอพี่ใหญ่บ้านเหรียญบินไม่งั้นได้บรรทุกกล้วยกลับไปด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่ค่ะ


    [​IMG]

    สาธุกับคุณชัยและครอบครัวนะคะ หลานๆโตไวดีจังค่ะ
     
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    ตามนั้น มีดและตะโพน เลือกคน
     
  17. แสงแข

    แสงแข เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,935
    ค่าพลัง:
    +44,410
    ท่านแม่อินทภาณี ได้ไปเข้าฝันเจ้าของไม้ ว่าให้เขาเอาไปทำกุศล..........

    เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งจากบันทึกการสร้างมีดวิชัยยุทธ.... คุณพี เสาวภา ได้บันทึกไว้ที่หน้า ๒๗๒๓ ขออนุญาตยกมาค่ะ


    quote=พี เสาวภา;8493215

    ไม้มงคลที่เอามาทำ ด้ามมีด เน้นด้ามมีด และ ฝักมีดครับ

    <a href="http://s1290.photobucket.com/user/nemoh75/media/20130714_081909_zps09406274.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1290.photobucket.com/albums/b525/nemoh75/20130714_081909_zps09406274.jpg" border="0" alt=" photo 20130714_081909_zps09406274.jpg"/></a>


    ท่อนนี้เปิดเผยเลยครับ ยังมีพยานยืนยัน ท่อนนี้ยุคหนึ่งมีค่ามากมหาศาล ท่อนนี้ เป็นท่อนหนึ่งเป็นไม้ตะเคียนทอง ทีตัดพลีเอามาทำศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราชน่ะครับ เชื่อกันว่ามี เจ้าแม่ นางตะเคียนอยู่ ท่านมีชื่อว่า ท่านแม่ อินทภาณี


    ท่อนนี้เป็นท่อนเล็กๆท่อนเดียว ได้มาจากคนที่ไปตัดมาและ ให้มาทำกุศล แกะเป็นรูปวัตถุ ท่านแม่อินทภาณีได้ไปเข้าฝันเจ้าของไม้ว่าให้เขาเอาไปทำกุศล เจ้าของไม้เลยให้มา ท่อนนี้ผมเอาไปทำด้ามมีด มีจำนวนจำกัด เล่มหนึ่งเอาไปคืนเจ้าของไม้ เป็น สินน้ำใจ หลังออกพรรษานี้ ท่อนนี้จะเป็นท่อนปลายๆ มีส่วนที่รานและ ผุอยู่ ส่วนที่ผุ ได้ตัดทิ้งคัดแต่ส่วนที่ดีๆ ซึ่งมีลายสวยงามมากสุดบรรยาย ใครเห็นใครชอบ เนื้อแห้งสนิท


    เรื่องนี้ใครไม่เชื่อ ให้ข้ามไปน่ะครับ ตั้งแต่ได้มา ผมกราบท่านทุกวันคืน เรียกท่านว่า แม่อิน ผมใช้เล่มหนึ่งพกติดกระเป๋าเอกสารไปด้วยกันครับ


    ด้ามที่เป็นไม้ตะเคียนทอง ไม่มีจำหน่าย ไม่มีประมูล ไม่มีแจกน่ะครับ มีเจ้าของทุกด้ามครับ


    [/quote]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2015
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    มีดวิชัยยุทธ( ต่อ )

    1374812202706.jpg 21140.jpg 21138.jpg

    RIMG0055.JPG

    มีดวิชัยยุทธแบบมีดพับมีน่ะครับ แบบลองทำ แต่ช่างนี้ยังไม่เก่งมีดพับไปติดต่อ ช่าง อุทัยทำให้ จะขยายงาน รุ่นนี้คือแค่ลองพิมพ์ยังไม่รับงานเยอะ ผมเลยดันไม่ได้ เอามีดหมอเป็นมีดหลัก เอาแค่ นี้เอง ใช้เหล็กลายและ เหล็กตะปู มาตี

    เลยทำได้แค่สามเล่ม หมดเหล็กช่างยังไม่ทำเพิ่ม
     
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    มีดวิชัยยุทธ

    ยังมีอีกหลายเวอร์ชั่นน่ะครับ ผมเป็นคนชอบมีด...แหะๆ

    แบบ ไม่ใช่เหล็กลาย ใบมีดตีโดนช่างนวย ช่างที่ตีมีดทรง ๑ มีดนี้ผมไปซื้อแต่ใบมาเพราะเขาตีสวยเอามาให้ช่างซุยตีเลียนแบบ เลยให้เขาทำด้าม ฝักให้เสร็จ

    RIMG0061.JPG RIMG0060.JPG RIMG0062.JPG

    ลายแบบแข้งสิงห์ ใบไม้ไหว ครับ ด้ามเป็นไม้ปุ่มประดู่ ลายสวยหายาก ฝักเป็นไม้ตะเคียนแดง ๑๐๐ ปี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2015
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,989
    ค่าพลัง:
    +146,259
    ยังมีต่อน่ะครับ เรื่องมีดไม่จบง่ายๆ...แหะๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...