ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 4 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    คับป๋า มิงค์ พอเข้าใจครับ
    แต่ซาลาเปา เอากระดาบที่ก้นออก
    แล้วใส่เครื่องปรุงที่ตนเองชอบจะอร่อยมากครับ...
    ท่านที่ผมกล่าวถึง กำลังจิตเนี่ย
    สามารถที่จะหักกระดูกเราได้เลย
    และก็สามารถต่อคืนได้ทันที สามารถพิสูจน์เองได้.
    เอากระดูกที่นิ้วก็พอนะครับ อย่าเอาที่แขนเพราะเสียวแทน ๕๕๕.
    เวลารักษาผม ต้องคุยกันเบาๆกับรุ่นน้องสายพลังงาน
    อีกคนแล้วก็รักษาไป เด่วคนอื่นๆจะงงๆและไม่เข้าใจ ๕๕๕
    เพราะกรณีผมต้องใช้กสิณไฟและพลังงานในการปรับธาตุเฉพาะ..
    แต่โดยรวมแล้วส่วนตัวก็เฉยๆไม่ได้คิดอะไรมาก
    ได้แค่ไหนก็แค่นั้น เป็นไปตามสภาพ
    ฮาๆ ขำๆไปก่อนก็พอครับ...
     
  2. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ตอนไปอบรมนวดแผนไทย กับ ครูจาก รพ. หลักพักเบรคจากเรียน อ.จะจัดกระดูกให้ลูกศิษย์ที่สนใจฟรี ไปนั่งดู เห็นแล้ว เจ็บแทน เสียงกระดูกที่ถูกจัด ดังป๊อกๆ คนถูกเล่าว่า รู้เลยว่ามีลมออกจากข้อกระดูกต่างๆ พอจัดเสร็จ สบายตัวเลยทีเดียว เห็นอ.ว่า ถ้าอ.ที่จัดเก่งๆ บางคนขาหัก เป็นอำพาต ต้องหามเข้ามา แต่จัดเสร็จเดินออกไปเลยทีเดียว ถามเราว่าสนใจอยากเรียนไหม ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า ไม่ค่ะ กลัวทำคนไข้เป็นหนักกว่าเดิม ขนาดฝึกนวด .คู่วัยยาย บ่นว่า มือไม่มีแรงเลยรึไง กดให้มันแรงๆหน่อย กดไม่ถึงเส้นจะหายปวดได้ไง ToT.
    แต่ก็สอบผ่านมาได้ 555 เรียนจบก็เก็บลงกรุเหมือนเดิม แป๋ว!
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ทางนี้เค้าจะมี ครูบาร์อาจารย์ทางภพภูมิอยู่
    ไม่ว่าจะเรียนที่ไหน รักสูตรแพทย์แผนไทยอะไรก็ตามนะ...
    ระดับสูงสุดที่ทางนี้นับถือจะเป็นปางพระพุทธที่กายสีเขียว
    เป็นสีของกายของท่านที่สร้างบารมีมาทางด้านการรักษา
    นอกจากความสามารถในการป้องกันตัว
    หรือภูมิต้านทานต่อส่วนภพภูมิที่ดี..
    และก็จะเป็นอีกท่าน ที่เรารู้จักกันดี ที่คนชอบเรียก ปู่....มีชื่อเสียง
    ที่สืบเนืองกับผู้เป็นเลิศทั้ง ๓ ภพองค์ปัจจุบัน..
    ก็ต้องมีพิธีกรรมก่อนทำการรักษาเช่นกัน
    ทำพิธีสวดมนต์และขอขมากรรมก่อนเกือบชั่วโมง เพราะถ้า
    ไม่ทำก่อน จะส่งผลกับคนที่รักษาได้ แม้ว่าจะสร้างบารมีมามาก
    แค่ไหนก็ตาม..อย่างอาจารย์ท่านนี้ตอนที่ไปคุยนอกรอบ
    ก็มีการสาธิตอะไรกันหลายอย่างทั้งตัวเองแสดงให้ท่านดูและ
    ท่านทำให้ดู...
    แล้วท่าน
    ใช้กสิณไฟกับกำลังจิตปรับธาตุให้
    (พอเข้าใจนะ ส่วนตัวต้องพิสูจน์ก่อนด้วยตัวเอง
    ประเภทจะมาพูดแต่ปากว่าทำโน่นทำนี้ได้
    ส่วนตัวพอจะตรวจสอบ
    หรือพอวัดกำลังจิตได้อยู่.
    เผลอๆพูดมากและปากดี เกิดชักหมั่นไส้ขึ้นมา
    จะขอลองวัดกำลังจิตกันเลยหละนี่นิสัยส่วนตัวนะ(นิสัยไม่ค่อยดี ๕๕๕)..
    และวันนั้นก็ไปกลับพวก
    รุ่นน้องที่มาทางสายพลังงานเช่นกัน
    ซึ่งต่างคนก็ต่างๆตรวจสอบตอนท่านใช้กำลังจิต
    เหมือนกัน ๕๕๕๕๕๕ เอาไปเอามาน้องที่มาสายพลังงาน
    กลับไปพาทั้งครอบครัวมารักษาเหมือนกันนึกแล้วก็ฮาดี....)

    ก็จะดูกำลังจิตท่านและดูความสามารถท่านนั่นหละประเด็นหลัก หลังจากคุยกันท่าน
    ก็โทรมาบอกว่ายกแขนไม่ขึ้นเกือบชั่วโมง ต้องนั่งสมาธิถึงจะหายประมาณนี้..
    เพราะฉนั้นก่อนรักษา ทุกคนจะต้องมาอยู่ในพิธีก่อน
    คือ คนที่จะมาทางด้านนี้ถ้าพอมีกำลังจิตเป็นทุนก็จะดี
    เพราะมันจะใช้เวลารักษาไม่นาน จับแค่ ไม่กี่นาที
    แม้ว่าตามตำราจะมี แต่มันก็จะใช้เวลานาน อย่างทั่วไป
    จัดกระดูกสันหลังก็ไม่ต่ำกว่า๑๕ นาที ของอาจารย์
    ใช้เวลาไม่ถึงนาทีก็เสร็จ แม้ว่าจะรู้เส้นสายภายในหมด
    แต่การรู้จากตำรามันก็ไม่เหมือน
    การรู้เห็นได้จากผลของสมาธิเพราะว่า
    มันจะละเอียดถึงขั้นเข้าไปแสกนกรรมของ
    บุคคลนั้นๆได้ด้วย บางทีบางกรณีก็ต้อง
    ไปทำตามที่ท่านบอกก่อน อย่างคนที่เคยฆ่าคนมา
    บางคนอยู่กับภรรยามานานมาก นิสัยดีเรียบร้อย
    มีลูกด้วยกันหลายคน ภรรยายังไม่เคยรู้เลยว่าสามี
    ตนเองเคยฆ่าคนตายมาแล้วไม่รู้ตั้งกี่ศพ ๕๕๕
    อย่างนี้ต้องถามก่อนว่าจะบวชซักปีได้ไหมนะ
    บางคนก็ทำแท้งมาก็มีประเภทเดินเข้ามา
    เด็กนั่งอยู่บนไหล่ ยิ้มแฮ่ๆให้เห็นก็มี.. ฯลฯ อะไรประมาณนี้..
    และการเห็นอวัยวะภายในนี้ถ้ามีฐานทางด้านสมาธิมา
    มันจะเห็นด้วยตาใน คล้ายๆเห็นได้ด้วยตาทิยพ์ มันจึงเห็น
    ได้ชัดเจน.ไม่มีเนื้อหนังมาบัง เหมือนรู้ได้จากตำรา...
    พวกนี้มันเลยส่งเสริมความคล่องตัวในการรักษา
    และบารมีที่สร้างมามันก็มารองรับผลกระทบต่างๆที่จะเกิดตาม
    มาได้ด้วยถ้าทำตามพิธีนะ..สุดท้ายมันก็เลยส่งผล
    ต่อผลในการรักษาตรงนี้ด้วย.ประเภทเดินขาบิดๆก่อนรักษา
    หรือเดินกระเผกๆมา จับไม่กี่ที เดินคล่องป๋อเลย และแบบที่
    ขยับตัวไม่ได้ ต้องแบบให้คนแบกมาวาง นี่ก็ขยับตัวได้ ยกขาได้
    นี่คือแบบที่เห็นด้วยตาตัวเองและจากการพูดคุยก่อนรักษานะ..
    ที่บ้านอาจารย์จะมีไม้เท้า และรถเข็นทิ้งไว้ จำนวนหนึ่ง
    จากคนที่มารักษานั่นหละ คือ มาแล้วไม่ต้องใช้อีกเลยนั่นหละ
    คล้ายๆเป็นเคล็ด แต่ถ้าหวงไม้เท้า ห่วงรถ ก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม..

    ปล.ประมาณนี้ และแม่ชีกับพระท่านรักษาฟรี แต่ต้องตามคิวนะ
     
  4. THE SEVEN

    THE SEVEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +870
    คุณนพ แวะมากระทู้นี้ก็เลยหน้าไปซะแล้ว
    ฝากแวะ #176-178 หน่อยจ้า
    หน้า9 ถอยห่างอีกนิดอีกนิดนั่นแหละ
     
  5. Apollo14

    Apollo14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +199
    รอพี่นพมาต่อครับ:cool:
     
  6. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ถึงว่า มีคุณยายว่า จะนวดให้ใคร ต้องกำหนดอารธนาคุณพระพุทธธรรมสงฆ์ให้มาคุ้มกาย ไม่งั้นของอาจเข้าตัว คุณยายเคยเล่าว่า ไปนวดให้คนที่เคยฆ่าตะขาบ พอคุณยายจับปุ๊ป ก้อนๆในช่วงขามันขยับหนี แบบดิ้นหนี ยายเลยต้องนวดแบบไล่ให้ออกจากตัว ยายว่า ถ้าเราไม่มีของคุ้มกาย ตะขาบมันอาจติดมาที่เราแทน ต้องทำบุญกุศลมากๆด้วย ตอนนั้นก็ไม่เอะใจอะไร สงสัยยายจะมีดีพอควร ยายว่าเครสนั้น ก่อนมาหายายนี่ไปทั้งหาหมอที่รพ.กินยาหลายปีไม่หาย เลยถามยายว่า ยายก็นวดเก่ง มาลงเรียนมาทำ ยายว่า มาเอาประกาศเฉยๆ เดี๋ยวนี้ต้องได้ใบรับรองจากทางการ 555

    ปล.ถึงว่าก่อนเรียน อ.จะให้สวดมนต์ และสวดคำสรรเสริญท่านหมอชีวะโก.
    .หลังเรียนก็สวดเหมือนกัน
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ๕๕๕๕ เอ๊าไม่เห็นครับ มัวแต่โม้อยู่ เด่วจะกลับ
    ไปอ่านแล้วจะไล่ตอบให้ทีละประเด็นนะครับ...
    มีข้อคิดทิ้งไว้ให้อ่านครับ...
    หากเราเทียบการปฏิบัติกับการฝึกพิมพ์ดีดนะครับ..
    เริ่มแรกเราก็ต้องฝึกพื้นฐานก่อน
    วางนิ้วมือซ้าย ก้อย นาง ชี้ โป้ บนตัวอักษร ฟ ห ก และด
    และวางนิ้วมือขวา ชี้ กลาง นาง ก้อย บนตัวสระเอก า ส และ ว
    ตามลำดับ เพื่อเป็นพื้นฐาน เราก็จะฝึกพิมพ์ไปเรื่อยๆ
    แรกๆเราก็จะติดที่มองดูว่า แต่ละนิ้วมันจะมีทิศทางการเคลื่อนไหว
    ไปยังอักษรตัวใดได้ และต่อให้เรารู้ทุกการเคลื่อนไหวไปยังอักษร
    ต่างๆของแต่ละนิ้ว..และทำให้เราสามารถที่จะพิมพ์ได้ทุกตัวอักษร
    บนคีย์บอร์ด แต่การพิมพ์ด้วยการมอง เช่น พิมพ์คำว่า
    "พระรัตน์ตรัย'' เราก็จะพิมพ์ได้ แต่การพิมพ์ของเรามันก็ยัง
    อยู่ภายใต้ความคิดคำว่า ''พระรัตนตรัย'' และการตามดูด้วยตา
    ทุกตัวอักษรที่ประกอบเป็นคำว่า''พระรัตนตรัย'' ผลที่ได้แม้ว่า
    เหมือนกัน แต่มันก็จะตะกุกตะกัก ตรงที่เราจะคิดคำต่อๆไปที่เป็น
    คำย่อยที่จะรวมเป็นคำว่า''พระรัตนตรัย''นั่นเองครับ นี่หละครับ
    คือมันเลยไม่เป็นธรรมชาติ มันไม่ไหลลื่น เพราะมันยังตัวไปรู้
    ตรงที่ว่า จะพิมพ์ตัวไหนต่อ มีตัวไปคิดว่า พระรัตน์ตรัยพิมพ์อย่างไร..
    ตรงนี้เรียกว่า ''เรายังเป็นผู้ไปกระทำครับ''.

    ที่เคยกล่าวเคยเล่าให้ฟัง ก็คล้ายกัน หากเราจะพิมพ์คำว่า ''พระรัตนตรัย''
    ถ้าจิตเราไม่มีตัวไปรู้ความคิด ตัวไปวิตกต่อว่าจะต้องพิมพ์อะไรตัวอะไรต่อไป
    ถึงจะเป็นคำว่า ''พระรัตนตรัย''แล้ว
    นิ้วมือเรามันก็จะพิมพ์ไปได้ของมันเองอัตโนมัติ
    มันก็เลยไม่มีความคิดว่าจะต้องพิมพ์อย่างไร หรือมีตัว
    วิตกว่าจะต้องพิมพ์ตัวอะไรต่อ และก็ไม่ต้องไปจ้องไปดูคียบอร์ด
    ซึ่งจะเป็นการดึงการรับรู้จากภายนอกเข้ามารวมกับจิต
    และมันจะตัดการไปรู้ว่าคำว่า '' พระรัตนตรัย'' พิมพ์อย่างไร
    พูดง่ายๆว่าตัวจิตมันก็จะเป็นไปตาม
    เนื้อหาของมันเอง ทำงานของมันเอง
    แบบอัตโนมัติ หรือเราเรียกง่ายๆ
    กันว่า พิมพ์แบบสัมผัสนั้นหละครับ.....

    พวกคำอโหสิฯ คำอุทิศส่วนกุศล ที่สอนๆไป ก็เพื่อให้จิตมันคลาย จากการชอบไปรู้
    ชอบไปคิด ชอบไประลึก ชอบไปปรุงแต่งต่าง ของเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาแล้ว
    ไม่ว่าจะมาจากชาตินี้หรือชาติไหนๆ ย้ำว่าในระหว่างวัน
    ก็เพื่อฝึกให้จิตมัน ฝึกคลายความคิด คลายการระลึก คลายการปรุงแต่งต่างๆ
    เพื่อให้มันจะได้โล่งๆ โปร่งๆคลายๆของมันบ้าง..ให้จิตมันเข้าสู่การทำงาน
    แบบเนื้อหาเดิมแท้ของมันเองได้บ้าง ตรงนี้ ''มันถึงไม่ใช่เราเป็นตัวกระทำครับ''

    ที่แนะนำไปก็เพื่อเป็นแนวทางการทำงานของจิตในลักษณะที่ไปเทียบกับ
    เรื่องของการพิมพ์ดีดนั่นหละครับ อ่านดูก่อนเพื่อว่าจะเข้าใจครับ..
    พวกเรื่องตบะ ฌาน ฌาณ กำลังจิต สติ ปัญญา ฯลฯหลักการก็ประมาณนี้หละครับ.
    ปล.เข้าใจตรงนี้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายที่เคยถามไว้ก็ได้ครับ...
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ส่วนกรณีพิเศษ เด่วไว้ไล่อ่านดูจะมาตอบให้ฟังนะครับ..(^_^)
     
  9. THE SEVEN

    THE SEVEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +870
    แม้ว่าจะไม่ได้เรียนพิมพ์ดีด ใช้แต่ดรรชนีจิ้ม 555
    น่าจะเข้าใจเลาๆ จะลึกซึ้งคงต้องทำให้ได้เป็นปกติก่อน
    พอเข้าใจอาการสภาวะ และ คุณประโยชน์
    มีอะไรแนะนำเสริมได้ครับ
     
  10. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    คุณนพคะ ขอเบอร์ติดต่อท่านๆที่สามารถช่วยจัดกระดูกได้ไหมคะ เผื่อเอาไว้ในยามที่อาจต้องใช้ แบบว่า มันมีเค้าโครง ถึงตอนนี้อาการจะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่แน่ใจ จะว่าไปแล้ว ในสายเครือญาติ คุณลุง พี่ของแม่ก็เป็นอัมพาต ก่อนเสียชีวิต เหตุเพราะนอนตกเตียง ก่อนนอนตกเตียงท่านถูกหอยบาดเท้า .พอครบอาทิตย์รึสองอาทิตย์ท่านก็จากไป ส่วนลุงอีกคน .พี่ของแม่เช่นกัน จำไม่ได้ว่าท่านทำอะไรมา เป็นอัมพฤตที่ขาทั้งสอง เช่นกัน แอบคิดว่ามีกรรมบางอย่างทำให้เกิดพวกนี้ เลยต้องระวังตัวเองพอควร ถ้าไม่สะดวกจะ pm.บอกก็ได้นะคะ
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    หมอเสน่ห์ ฉายาหมอเทวดา
    มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก เส้นเอนทับกะดูก ตับ ปอด หัวใจ
    สายตาฝ้าฟาง สมอง ไมเกรน นิ้วล็อค ปวด เข่า ปวด
    ข้อ ขาลีบ เดินไม่ปกติ ริดสีดวง เนื้องอกในมดลูก
    รักษาด้วยกำลังจิตเป็นวิทยาศาสตร์ทางจิตสแกนก่อนรักษา
    มีค่าครู ๕๕๐ บาท ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือไม่หาย
    คืนค่าครู ส่วนมาก ๙๐ เปอร์เซนต์จะหาย.
    ที่อยู่ บ้านห้วยสีเสียด เข้าทางคุณหมิง
    อ.หนองหิน จ.เลย. ไปตามทางเจอป้ายทางเข้าถ้ำโพธิสัตว์เลี้ยวขวาตรงไป
    และเลยปากทางเข้าถ้ำโพธิสัตว์ไปประมาณ ๕ กม.
    อยู่ซ้ายมือ Tel.0800110245. ยกเว้นวันศุกร์ กับวันพระ
    ปล.เปิดเผยได้คุยกับ อาจารย์มาแล้ว
    วันที่ไปก็มีประเภทได้หามมาวางบนแคร่
    ก็ขยับตัวเดินได้ ที่ขาไม่ดีเนี่ยเดินได้เกือบปกติ
    ทั้งนี้แล้วแต่อาการ แล้วแต่ระยะเวลาที่เป็นด้วย
    และอื่นๆ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    จะไปถึงระดับจิตธาตุหรือระดับที่เป็นไปตามแต่ที่ตัวจิตจะคิดได้นั้น..
    ตัวจิตจะเข้าสู่สภาวะโล่งโปร่งแบบที่แนะนำ ได้เกือบทั้งวันแล้วครับ
    ในสภาวะลืมตาปกติครับแทบเรียกได้ว่า โกรธ โลภ หลง แทบจะไม่มีครับ..
    และก็ผ่านการฝึกสมาธิในระดับสูงผ่านการเข้าถึงเครื่องรู้พิเศษมาหลายอย่าง
    จนเป็นปกติในชีวิตประจำวันครับ....เชื่อหรือไม่ครับ จะมีคาถาเฉพาะแค่ไม่
    กี่คำเองครับ.ก่อนที่จะใช้งานได้แบบทิ้งคาถานะครับ..
    แต่ว่าไม่ได้ใช้ภาวนาในระหว่างวันนะครับ ใช้เฉพาะตอนที่
    จะใช้งานหรือจะใช้กำลังจิตครับ การภาวนาระหว่างวัน
    บางทีไม่มีคำภาวนาด้วยครับ คือไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ..
    แต่การทำความรู้สึกรับรู้ตัวแบบธรรมชาติได้ตลอดทั้งวันเป็นอัตโนมัติ
    เป็นประเด็นสำคัญยิ่งกว่าครับ..
    และไม่ใช่ว่า ค้างหรือแช่ใน ตบะ ฌาน ญาณด้วยนะครับ คือคลายอย่างที่เข้า
    ใจ..พอจะใช้งาน..คือ ท่องคาถานี้คาถาเดียวใช้ได้ครอบทุกสิ่ง ตามแต่
    กำลังจิตหรือเนื้อหาเดิมที่จิตจะทำได้ครับ..มีแค่ ๕ คำที่เป็นตัวย่อ
    ของผู้เป็นเลิศทั้ง ๕ ท่านนั่นหละครับ คือตัวคาถาใช้งานครับ..
    เพราะยังไม่พบว่ามีอะไรเกินนี้...ส่วนคาถารวมอภิญญานั้น..
    ในทางการใช้งานก็คือท่องแล้วจะทำให้เรา ใช้งานด้านนั้นๆ
    หรือเฉพาะด้านนั้นได้ดีที่สุดครับ คนละแบบกันนะครับ...
    ใช้ท่องตอนที่ทำสมาธิแบบพิธีการ พอถึงโหมดที่จิตมีความ
    เป็นทิพย์หรือใช้งานได้ ผลของคาถาถึงจะปรากฏครับ..
    ปล.ประมาณนี้ครับ
     
  13. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    แต่ที่เหนือกว่า..ซาลาเปา..ดันมีสีแดงแต้ม...บนหัวซาลาเปา ซะฉิบ

    สรุป..สีแดง เก่งกว่าทุกอย่างบนซาลาเปา

    มีคนถามว่า...ทำไม?ต้องแต้มสีแดงบ้าง..ไม่ได้แต้มบ้างบนซาลาเปา

    คำตอบคือ...จะได้รู้ว่ามีลูกไหน...ที่ยังไม่ได้แต้ม!!! อิอิ

    "แหม๊.นึกไม่ออก.มันควรน่าจะโมโห หรือ จะขำดี!!."


    อย่ามาชวนคุยสาระเชียว..ผมไม่รู้เรื่องด้วย
    ..ผมต้องกินยาจากโรงบาลบ้า ตามที่หมอสั่งให้โดยเคร่งครัด!!แค่นั้น %$21Q&8*?#@
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2015
  14. toplus99

    toplus99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,621
    ค่าพลัง:
    +13,004
    คาถารวมอภิญญา...เคยนำไปบริกรรมอยู่ครั้ง

    ผลคือ..เหมือนตัวเองหมุนติ้วๆเป็นลูกข่าง...จับทิศจับทางไม่ถูกจนแทบอ้วก..ก็น่าสนุกดี...แต่ไม่เคยลองซ้ำอีกซักทีหลังจากนั้น

    สรุปคิดแบบตัวเองเอาว่า..มันก็น่ามีผลทางโลกของจิตวิญญาน...แน่ๆ

    แต่เรื่องอื่นไม่รู้เหมือนกัน...ไม่เข้าใจ
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    สีแดงแรงที่ซู๊ดดดดดดดดด.......และที่ป๋า toplus99
    พูดมาก็ไม่ผิดนะครับ.ว่ามันมีผลเกี่ยวกับโลกวิญญานเด่ว
    ผมจะยกตัวอย่างการใช้งานให้อ่านเล่นๆนะครับ.
    ..

    ยกตัวอย่างการใช้งานคาถาอภิญญารวม เพื่อว่าจะง่ายขึ้น...
    เช่น ถ้าตอนนั้นเราอยู่ในโหมดท่องเที่ยวพิเศษ ถ้าเราภาวนาคาถาอื่นๆ
    เช่น ภาวนา พุทโธ ก็จะเห็นเป็นวงกลมเหมือนมองผ่านตาแมวและเห็น
    ได้ที่จำเป็นคล้ายๆไปแอบดูเค้า
    ถ้าภาวนา นะมะพะธะ จะเห็นเป็นจอ LCD และจะเห็นได้ตาม
    แต่ที่ตาจะมองไปคล้ายๆไปแอบไปดูที่คนอื่นๆตอนเจ้าของเค้าไม่อยู่
    ถ้าภาวนา พุทธธังเฆขนิมิตร ฯ ธรรมมังเฆขนิมิตรฯ อะไรเนี่ย
    มันก็จะพร้อมเตรียมท่องเที่ยวและท่องเที่ยวแบบระบบสุริยะ
    คล้ายๆนั่งเครื่องบินสเตลโหมดล่องหน..ถ้าไม่ใจรักจริงๆ
    ก็ไม่ต้องภาวนาก็ได้ ใช้เน้นสร้างทิยพจักขุก็พอครับ
    เพราะคาถาบทนี้จะบังตัว
    จิตเราทำให้สติเรามองไม่เห็นและเราจะไม่สามารถบังคับตัวจิตเราได้ด้วย..

    แต่ถ้าภาวนาตัวคาถาอภิญญารวม นอกจากจะเห็นเป็น
    จอ LCD แล้วภาพจะปรากฏให้เห็นก่อนที่เราจะหันไปมอง.
    ป่านว่าเราไปยืนและอยู่ในสถานที่นั้นๆด้วยตัวเราเองเลยครับ
    คล้ายกับว่าเราเป็นเจ้าของสถานที่.....

    หรือ ถ้ามาทางกสิณถ้าเราภาวนาคาถาอภิญยารวม
    มันก็จะรวมพลังงานกสิณทุกกองที่เราทำได้..
    แต่บอกตามตรงว่ารวมทุกกองแต่ไม่รู้จะใช้ทำอะไรเหมือนกันครับ ๕๕๕
    โดยเฉพาะกสิณสีทุกวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะรวมไปใช้เพื่ออะไรยังนึกไม่ออก .

    แต่ถ้า คาถาเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์
    จะรวมเป็นกลุ่มๆเช่น กสิณกลาง
    ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ หรือ
    รวมเฉพาะ กสิณสี แดง เขียว ขาว เหลืองอย่างนี้ครับ...

    หรือ ถ้าเราอยู่ใหมดยกกายทิพย์ คาถา พระพุทธฯ๕ พระองค์ จะยกกายเราไปได้
    แบบไหลลื่นปรึ้ดๆๆๆๆ และคาถาอภิญญารวม ในโหมดพิเศษ ไม่ว่าจะยกกาย
    หรือไปแต่จิต จะยังสามารถใช้ได้ทั้ง สัมปะจิตฉามิ เพียงแต่ว่า สัมปะจิตฉามิ
    มันจะเป็นการรวมอภิญญาตัวนั้นๆให้นำมาใช้ได้ดีที่สุดครับ เช่น ในโหมดพิเศษ
    เราออกไปได้ แล้วเราภาวนาสัมปะจิตฉามิ ถ้าเราใช้ กสิณน้ำได้ ก็จะใช้น้ำได้แบบ
    พิเศษสุดๆ ถ้าใช้ไฟได้ก็จะใช้ไฟได้แบบพิเศษสุดๆไฟระดับนี้พวกอสูรกายหรือ
    ภูติรับประกันได้ว่าหายเรียบเป็นเป่าสาก.. จึงเรียกได้ว่า รวมแต่รวมให้
    มันใช้ได้ดีที่สุดในแต่ละด้าน ไม่ใช่รวมทุกๆกรรมฐานมาใช้ทั้งหมดเหมือน
    คาถาอภิญญารวมครับ.....
    ส่วนถ้าจิตเรายังไม่คุ้นกับการท่องเที่ยว ธาตุยังไม่แข็งแรงพอ ถ้าลองไป
    ภาวนาจะเกิดผลกระทบกับร่างกาย เช่น เกิดคลื่นพลังงาน หมุนไปหมุนมา
    รอบตัว หรือเกิดส่วนหนึ่งส่วนใดที่ตัวเอง ทำให้เรางงเล่นๆ หรือบางคนก็ปวด
    ศรีษะ ตัวร้อน ตัวโยก ตัวพอง ตัวลอย หมุนติ้วๆ..เหมือนใครก็ไม่รู้ ๕๕๕
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกนี้ มันก็ไม่ได้ส่งเสริมเรื่องปัญญานะครับ แต่ใช้วัดกำลังสติ
    ทางธรรมกับกำลังสมาธิเราได้..ที่เล่ามาให้ฟังทั้งหมดสามารถลองพิสูจน์
    ได้ด้วยตัวเองครับ จะเข้าใจได้ดี...
    ปล.ทริคที่สำคัญก็คือ ถ้าเราอยู่ในโหมดพิเศษได้ แล้วเราภาวนา สัมปะติฉามิ
    จะทำให้เราทราบได้ว่า ความสามารถพิเศษอะไรของเราที่มันเด่นครับ..
    และข้อดีอีกอย่างก็คือ ถ้าเราใช้ความสามารถตัวนั้นได้ไม่ว่าจะด้านไหนนะครับ
    ในโหมดพิเศษ จากการภาวนาสัมปะติฉามิแล้ว ถ้าเราลืมตาออกมาในชีวิต
    ปกติประจำวัน ความสามารถตัวนั้นมันจะสามารถนำมาใช้ได้ในสภาวะลืมตา
    ปกติด้วยครับ...ก็ให้พิจารณาได้จากที่เล่าให้ฟัง เพราะประโยชน์มันก็มีอยู่ครับ

    ปล2.ทุกคำภาวนามีผล แต่ต้องอยู่ในโหมดที่จิตเป็นทิพย์ก่อน คำภาวนาถึงจะแสดงผล..
    บางคนจิตก็ทำงานได้ แม้ว่าจะภาวนาคาถาตัวอื่นๆ นั่นเพราะจิตคุ้นเคยมาในอดีต
    ก็ให้ใช้คำภาวนาตัวนั้นไปไม่ต้องเปลี่ยนนะครับ...แต่คำภาวนาพระพุทธฯ ๕ พระองค์
    ก็ยังถือว่าคลอบคลุมที่สุด สำหรับการใช้งานพิเศษต่างๆได้ ไม่ว่าจะใช้ทางด้านไหนๆครับ..
    เพราะด้วยที่ขึ้นต้น ตั้งต้น หนุน และส่ง ด้วยพระพุทธฯ ๕ พระองค์ จึงประกันได้ว่า
    การใช้งานก็จะเป็นไปในทางธรรมและส่งเสริมประโยชน์ต่อผู้อื่นๆแน่นอน นอกจาก
    ประโยชน์เรื่องอื่นๆที่แฝงในบทคาถาครับ.

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง....
     
  16. THE SEVEN

    THE SEVEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +870
    ขอบคุณครับคุณนบ ได้ความรู้ภาพรวมมาก
    คาถา5คำ ครอบจักรวาลจริง ทั้งทางด้านวิญญาณ สะเดาะกลอน ฯ
    เคยลองภาวนาสัมปจิตฉามิ ภาวนาแบบไวๆไม่ตามลมเข้าออก แล้วหลับไปเลย
    พอหลับก็ฝันว่ากำลังเหาะในบ้านหลังใหญ่ หัดเหาะหัดบินจนเหนื่อย พอตื่นยังรู้สึกว่ากำลังหัดบินและเหนื่อยจริงด้วย ท่าจะฝันเฟื่อง 555
    คุณนบ เคยลองภาวนา พุท ธะ สัง มิ ไหมครับ ผลเป็นอย่างไร
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    คาถาตัวสุดท้ายยังไม่เคยครับ.
    พึ่งได้ยินนี่หละครับ จะเล่าให้ฟังแต่เฉพาะที่เคย
    ผ่านมาก่อนครับ. และที่เล่าให้ฟังก่อนหน้า
    มันก็คล้ายฝันนั่นหละครับ ๕๕๕
    ยกเว้นว่าเราจะเคยวางอารมย์ไว้ก่อน
    สมัยพึ่งเริ่มนั่งง๋องๆ เริ่มนอนสมาหลับ
    เมื่อ ๔ ถึง ๕ ปีก่อน
    ช่วงนั้นติดโหมดท่องเที่ยวอยู่ครับ
    จะชอบไปวัดที่ดังๆ ส่วนมากหลวงพ่อ
    ที่เป็นรูปพระพุทธฯ
    แต่ละที่องค์ท่านจะใจดีมากครับ
    มีออกมารับก็มี มีที่เราได้ยืนเกาะรั้วดูเฉยๆก็มีครับ ๕๕
    คือไม่ใช่ว่าเก่งนะครับ
    คือกำลังสติทางธรรมมันยังอ่อนครับ มันคุมจิตไม่อยู่
    คือถ้าเราชำนาญเนี่ย เราลืมตาปกตินี่หละครับ
    แต่เราจะไปแต่จิต และจิตจะสร้างภาพให้ขึ้นมา
    ผ่านตัวจิตเราตรงฐานจิตที่กลางลิ้นปี่
    แล้วแสดงออกมาคล้ายภาพได้
    ผ่านตรงจุเหนือระหว่างคิ้ว
    ส่วนใครจะเห็นได้ชัดเจนเท่าไร

    ก็ขึ้นอยูกับเฉพาะบุคคล
    แต่ที่เห็นได้ชัด ส่วนมากจะสายตรง
    ทางสายวิชาพิเศษ ของห่มเหลือง
    มีชื่อที่เรารู้จักกันดี.
    ถ้าไม่ติดดูดวงให้คนกลุ่มนั้น
    จะไปได้ไกลกว่าที่เป็นมากครับ
    โดยเราอยู่ในสภาวะปกติทั่วๆไป
    คือไม่ต้องหลับตาและยกจิตไป
    โดยที่ทิ้งร่างกายไว้ครับ ช่วงนั้น
    พออารมย์ได้ บวกกับการวางอารมย์ไว้ก่อน
    อย่าให้ได้หลับตาไม่เกินนาทีเนี่ยไปโล๊ด
    จริงๆใช้เวลาน้อยกว่านี้แต่ไม่อยากพูด
    เด่วจะหาว่าขี้โม้ ๕๕๕
    ไม่ว่านั่งที่ไหนก็ไปได้ แต่ถ้าไม่ใช้วิชาพิเศษ
    จะไปไม่ได้สูงมากครับ ถ้าลืมอาราธาศีล ๕
    บางที่ไม่ให้เข้าก็มี. หลังๆมาโดนคุม
    พฤติกรรมครับ. ถูกดึงไปนั่ง ง๋องแง้ง ตามป่าดงดิบบ้าง
    ตามลานหินกว้างๆข้างบนบ้าง แล้วแต่ว่าท่านใดจะคุมช่วงนั้นๆ
    โดยมากก็ภาวนาพุทธโธ นี่หละครับ.
    ช่วงนี้แทบจะทำไม่เป็นแล้วครับ
    พอลองทำส่วนมากจะเข้าฌานสมาหลับ คร๊อกฟี้ๆๆๆ. ๕๕๕
    อืมๆๆบทคาถาเฉพาะจะมีประมาน ยี่สิบกว่าคำครับ
    บางบทเราก็ใช้แล้วไม่เกิดผลก็มีครับ เพราะเหมือน
    จะต้องว่าเราต้องเป็นศิษย์ท่านข้างบนทางด้านนั้นด้วยครับ
    แต่บทที่สัมพันธ์กับ พระพุทธฯทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการระลึก
    หรือการกล่าวถึงความดี โดยมากใครจะใช้ก็ได้ผลคล้ายกันหมดครับ
    แต่ก็เพียงต้องระวังบทที่ มีนัยยะซ้อนเกี่ยวกับ ธาตุต่างๆด้วยครับ
    ตรงนี้เราต้องเตรียมกำลังสมาธิสะสมไว้บ้าง

    คือหลายๆคนที่ใช้คำภาวนาได้นะครับ. มักจะติดหลงตัวเองแบบไม่รู้ตัวครับ
    มักจะคิดว่าตัวเองเก่งกว่าใคร. ทั้งๆที่ความสามารถใช้งานใน
    สภาวะลืมตาปกติยังไม่มี ยังไม่มีกำลังจิตใช้งานได้
    แต่ตอนนั่ง ตอนนอน คิดว่าตนไปเห็นโน้นนี่ได้
    เลยเข้าใจว่าตนแน่ บางคนคิดว่าตนเองบรรลุก็มีนะครับ.
    เพราะการทำได้ หรือไปได้ มันเหมือนไม่ยึดครับ
    แต่มันเป็นกิเลสธรรมอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้เรา
    ไม่สนใจสร้างสติ เดินปัญญา แต่จะสนใจแต่
    โหมดการไปรู้ ไปเห็น. เอาไปเอามาจนยึดการไปรู้ไปเห็น
    จนกลายเป็นตัวเองอย่างไม่รู้ตัว.
    ถ้าจะพัฒนา มาให้ถึงขั้นที่ใช้งานได้แบบลืมตาปกติ
    จิตมันจะไปเราต้องฝืนต้องบังคับไม่ให้มันไปครับ
    หรือถ้ามันจะไปไหน สติจะต้องตามไปด้วยตลอดเวลา
    มันถึงจะเป็นแบบตัวจิตแบ่งส่วนไปรู้ ไปเห็น โดยที่เรา
    ยังลืมตาปกติ ใช้ชีวิตปกติประจำวันได้ครับ.
    ปล.ส่วนคาถาอภิญญารวม นอกจากจะรวมพลังงาน
    กสิณแต่ละกลุ่มแล้ว มันจะเชื่อมพลังงานภายนอกแบบเส้นตรง
    อัตโนมัติด้วยครับ
    . ส่วนคำภาวนาบางคำ ก็ไม่
    สามารถบอกได้ครับ ย้ำว่าใช้คำไหนแล้วจิต
    ทำงานได้ให้ลองใช้ไปในทางด้านอื่นๆลองดูด้วยครับ
    และคำภาวนาคำไหนถ้าเราไม่เคยใช้ได้มาก่อน
    ในอดีต เราก็มักจะไม่สนใจ หรือไม่นึกถึงด้วยครับ
    ไม่ว่าเราจะรู้จากการอ่าน การแนะนำ การรับรู้
    จากฝัน จากนิมิตรอะไรก็ตาม
    ประมานนี้ครับ

     
  18. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    มีข้อกังขาหนึ่งเกี่ยวกับพลังงาน โดยทั่วไปเป็นคนที่ร่างกายจะร้อนอยู่แล้ว ไม่ค่อยจะรู้สึกสบายตัวเท่าไหร่ .เหมือนแบกความร้อนไว้ในร่างกาย แม้เปิดแอร์ แต่ความเย็นของแอร์มันจะไม่ซึมเข้าผิว เหมือนช่วยคลายร้อน แต่ความหนาแน่นของความร้อนในกายจะไม่จางหาย ไม่รู้สึกสดชื่นเลย อาบน้ำ ก็แค่คลายร้อน มันก็ยังไม่สดชื่นอยู่ดี ทาแป้งเย็น ดูเหมือนเย็นกาย แต่ก็ไม่ถึงใจอยู่ดี .แต่มีเหตุให้ความรู้สึกเปลี่ยน เมื่อเมฆตั่งเค้าดำมืด ลมพัดแรง มีเหตุให้ต้องเดินออกจากหลังคาบ้าน ไปตากฝน เพียงเม็ดฝนตกต้องร่าง มันกับเย็นซาบซ่าน ซึมเข้าแผ่นหลัง ส่งความเย็นถึงใจได้ ความร้อนระอุภายใน .ลดลง ความสดใส แม้แต่สมองที่หนักก็กลับเบาสบาย อยากจะยืนตากฝนนานๆ แต่ก็กลัวจะถูกว่า จำต้องเดินกลับเข้าบ้าน
    .ทำไมน้ำปะปา จึงให้ความรู้สึกแตกต่างจากน้ำฝน ?
    ทำไมลมจากแอร์ จึงให้ความรู้สึกแตกต่างจากลมฝน ? เหตุของพลังงานที่แตกต่างกันเกิดจากสิ่งใด ?
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ธาตุที่เกิดที่มีในธรรมชาติผ่านกระบวนการแบบเป็นไปตามธรรมชาติ
    กับธาตุไม่ได้เกิดจากธรรมชาติหรือแม้เกิดจากธรรมชาติ
    แต่ผ่านการปรุงแต่งไม่ธรรมชาติหรือมีวิธีการผ่านวิธีการต่างๆ
    นี่คือความแตกต่างของมัน ผลของธาตุก็ต่างตามที่สัมผัสได้นั่นหละ
    วิธีการที่เราฝึกต่างๆก็เพื่อเรียนรู้ที่จะเข้าใจ
    และอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างแยบยลนั้นหละ
     
  20. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    โอ

    เจอมนุษย์ ชอบตากฝนเหมือนกันแล้ว

    หน้าฝนทีไร ชวนเพื่อน ออกไป ตากฝน (แม่รู้ก็จะด่ากลัวลูกป่วย)

    เพื่อนอกหัก อยากตากฝน ก็ไปเป็นเพื่อน (เพื่อน เค้ารัก เรามาก เพราะคิดว่า พายุช่างดี ร่วมทุกข์ร่วมสุข อันที่จริง เนียนไปเล่นน้ำฝน )

    สงกรานต์ ปีแล้ว (ที่เชียงราย)ไปเที่ยวน้ำตก โชคดีมาก เจอลมฝน รุนแรง กิ่งไม้ปัดฟาดไปมา

    โชคดีกว่านั้น ลูกเห็บน้ำแข็ง ร่วงลงหัวโป๊กป๊าก

    แต่ก็ไม่ป่วยเลย สงสัยเพราะรับพลัง ดิน(โคลน) น้ำ(ฝน ลูกเห็บ)ลม(พายุ) ขาดแต่ฟ้าผ่าเท่านั้นในวันนั้น หาไม่แล้ว (หากรอดตายมาได้) คง เกือบเป็นอมต
     

แชร์หน้านี้

Loading...