ร่วมทำบุญบูชา ชุดลองพิมพ์ปัดเสนียดพระธนบดีเปิดคลังพ่อเศรษฐี(ยอดขุนคลังกายสิทธิ์) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. SIR2010

    SIR2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,953
    ค่าพลัง:
    +5,631
    อุเบกขา ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ก็ยังทำงานเต็มที่
    ต่อมาก็ได้รับโอกาส ก็ยังคงทำงานเต็มที่
     
  2. Akkra1978

    Akkra1978 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    247
    ค่าพลัง:
    +1,478
    พรหมวิหาร 4 ที่ผมใช้ในการทำงานนะครับ
    เมตตา ผมมีความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับความสุข ทั้งลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน ผมจึงพยายามกระทำเพื่อให้เกิดความสุขนั้น
    กรุณา เมื่อเพื่อนร่วมงานบางคนมีปัญหา ความทุกข์ หรือทำงานผิดพลาด ผมจะให้ความช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา หรือตักเตือน
    มุทิตา เมื่อเพื่อนร่วมงานได้เลื่อนตำแหน่ง ผมจะพลอยยินดีไปกับเขา โดยไม่มีการอิจฉาริษยา
    อุเบกขา บางครั้งเมื่อเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องทำงานพลาด โดยที่ผมได้พยายามช่วยเหลือหรือตักเตือนอย่างที่สุดแล้ว แต่ยังคงมีความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นอีก ผมก็จะวางใจเป็นกลาง เพราะถือว่าได้ทำเต็มที่แล้ว และปล่อยให้เขาเป็นผู้รับผลของการกระทำนั้นเอง (แต่ผมก็ยังมีเมตตากับกรุณาอยู่นะครับ)
     
  3. จารุวณณร

    จารุวณณร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +1,207
    เมตตา กรุณา
    ช่วงมาฆบูชาปีนี้ ไปปฏิบัติธรรม 5 วัน แต่ในระหว่างนั้นมีเหตุที่จะต้องออกไปโอนเงินเพื่อทำบุญหล่อพระและบุญทุกอย่าง เมื่อโอนเสร็จแล้ว กำลังขับรถกลับวัด มีผู้หญิงคนหนึ่งมาโบกรถ เพื่อขอค่ารถกลับบ้าน เพราะมาตามหาพี่สาว แต่พี่สาวบอกไม่ให้มา เลยไม่เจอกัน ก็เลยให้ไป
    ช่วงอยู่ที่วัดก็ได้ช่วยเหลือดูแลผู้มาปฏิบัติธรรมเพราะเขาไม่สบายและมาคนเดียว และกำลังมีเรื่องทุกข์ใจอย่างหนักหลายเรื่อง วันที่เขากลับสภาพจิตใจก็ดีขึ้น พอเรากลับมาบ้านเขาก็โทรมาขอยืมเงิน เพื่อไปตามเรื่องบางอย่างที่ต่างจังหวัด
    เรื่องงาน ปกติเวลาติดต่อลูกค้า หากเขาไม่เข้าใจหรือไม่ทราบข้อกำหนดที่เขาต้องทำ ก็จะสอนและอธิบายให้ ซึ่งโดยปกติแล้ว จะไม่ค่อยมีใครมาเสียเวลาสอนในสิ่งที่เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องรู้

    มุทิตา เมื่อเราเห็นใครทำความดีไม่ว่าจะเรื่องเล็กน้อย ก็จะอนุโมทนากับเขาด้วย

    อุเบกขา
    เมื่อเห็นข่าวไม่ดี เช่นการทำร้ายหรือเรื่องที่ทำให้ผู้ประสบเหตุมีความทุกข์ ก็จะคิดว่านี่คือกฏแห่งกรรมที่แต่ละคนต้องชดใช้ จะไม่พยายามโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากเราไม่รู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม้กระทั่งเรื่องที่เกิดภายในครอบครัว เราก็จะให้ข้อคิดเห็นไป แต่หากเขาไม่เชื่อ ไม่คิดตามสื่งที่เราบอก เราก็ได้แต่คิดว่า มันเป็นกรรมของแต่ละคน
    หากมีเรื่องกระทบกระทั่งกับคนในบ้าน ก็จะมาคิดว่าเราทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า ย้อนกลับมาดูตัวเองด้วย หากไม่ใช่ที่เรา ก็จะพยายามคิดว่า ช่างมันเถอะ
    หากเรามีเรื่องไม่สบายใจ และแก้ไขอะไรไม่ได้มาก หรือเกิดเจ็บป่วย ไม่สบายกาย ก็จะคิดว่านี่เป็นธรรมดาของโลก ของกายสังขารนี้ ไม่มิใครหนีพ้น
    พยายามคิดและทำไปในแนวทางนี้เสมอ ถึงจะทำไม่ได้ทุกครั้งก็ตาม

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ
     
  4. sutketb

    sutketb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    480
    ค่าพลัง:
    +1,592
    ส่วนใหญ่ชีวิตก็จะไปทำงานแล้วก็กลับบ้าน
    ที่บ้านก็จะมีคนงานเขมรที่อยู่เป็นแคมป์คนงาน (เนื่องจากเจ้าของหมู่บ้านเค้าทำอาชีพรับเหมา) เรื่องเมตตา กรุณา ผมจะเจอประจำเลยเรื่องคนงานรอเบิกตังส์ตอนเลิกงานเพื่อเอาไปซื้อกับข้าวและอาหารรับประทาน วันนั้นหลายชีวิตรอเบิกตังส์จากเฮีย แต่เฮียติดธุระต่างจังหวัดและแต่ละคนก็พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง..ผมเลยอดไม่ได้โทรศัพท์บอกเฮีย แกเลยขอร้องให้ผมสำรองจ่ายไปก่อนเนื่องจากแกมีธุระต่างอำเภอกว่าจะกลับคงดึก..พอบอกคนงานเขมรว่าจะสำรองจ่ายไปก่อนแค่นั้น ทุกคนดีใจใหญ่เลยครับ
    ส่วนเรื่องอุเบกขา..ก็เป็นที่ทำงานที่เจอแต่คนขัดแข้งขัดขา ได้แต่ปล่อยวางนึกในใจ
    ว่าเป็นปัญหาของท่าน ไม่เกี่ยวกับผม
     
  5. พลานุภาพ

    พลานุภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +244
    - เมตตา - กรุณา - มุทิตา - อุเบกขา
    พรหมวิหาร4 นี้ ได้ปฎิบัติอยู่ทุกวัน เพราะการดำเนินชีวิตเราต้องใช้ทุกข้อประกอบกัน แล้วแต่เหตุการณ์ในแต่ละวันที่เราจะได้ใชัข้อใหนมากน้อยกว่ากัน จึงจะทำให้ชีวิตและสังคมมีสุข เช่นการทำงานที่ทำอยู่ที่มีปัญหากับคนหรืองานเราก็วางเฉยกับปัญหาอย่าไปมีปัญหากับงานแล้วหาทางแก้ไขให้ลุล่วง

     
  6. Osue

    Osue เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +199
    ผมก็เป็นคนที่รักดีเหมือนกับทุกท่าน เคยทำกรรมดีกรรมชั่วมา ไม่ด้อยไปกว่ากัน จึงขอน้อมนำพระนิพนธ์ของสมเด็จพระญาณสังวร มาเผยแผ่ เพื่อนำมาใช้เป็นหลักในการปฏิบัติครับ


    พรหมวิหารธรรม (อุเบกขาธรรม)

    O ทำความดีด้วยใจว่างจากกิเลส

    ทำความดีอย่างสบายๆ อย่างมีอุเบกขา คือ ทำใจเป็นกลางวางเฉย ไม่หวังผลอะไรทั้งสิ้น การตั้งความหวังในผลของการทำดีเป็นธรรมดาของสามัญชนทั่วไป ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ก็จะถูกต้องกว่าหากจะไม่ตั้งความหวังเลย

    เมื่อรู้ว่าเป็นความดีก็ทำเต็มความสามารถของสติปัญญา ไม่เดือดร้อนให้เกินความสามารถ ไม่มุ่งหวังให้ฟุ้งซ่าน ไม่ผิดหวังให้เศร้าเสียใจ การทำใจเช่นนี้ไม่ง่าย แต่ก็เป็นสิ่งทำได้ ถ้าทำไม่ได้พระพุทธเจ้าก็จะไม่ทรงสั่งสอนไว้

    O ทำดีด้วยความโลภและหลง จักไม่อาจให้ผลสูงสุด

    การทำดีหรือทำบุญกุศลที่จะส่งผลสูงสุด ต้องเป็นการทำด้วยใจว่างจากกิเลส คือ ความโลภ โกรธ หลง ความผูกพันในผลที่จะได้รับเป็นทั้งความโลภและความหลง ความผูกพันในผลที่จะได้รับเป็นทั้งความโลภและความหลง จึงไม่อาจให้ผลสูงสุดได้

    แม้จะให้ผลตามความจริงที่ว่า ทำดีจักได้ดี แต่เมื่อเป็นความดีที่ระคนด้วยโลภและหลง ก็ย่อมจะได้ผลไม่เท่าที่ควร มีความโลภหลงมาบั่นทอนผลนั้นเสีย

    O ทำดีแล้วต้องได้ดีแน่นอนเสมอไป

    ทำดีไม่ได้ดี ไม่มีอยู่ในความจริง มีอยู่แต่ในความเข้าใจผิดของคนทั้งหลายเท่านั้น ทำดีแล้วต้องได้ดีแน่นอนเสมอไป

    ที่มีเหตุการณ์ต่างๆ นานาปรากฏขึ้น เหมือนทำดีไม่ได้ดีนั้น เป็นเพียงการปรากฏของความสลับซับซ้อนแห่งการให้ผลของกรรมเท่านั้น เพราะกรรมนั้นไม่ได้ให้ผลทันตาทันใจเสมอไป

    แต่ถ้าเป็นเรื่องภายในใจแล้ว กรรมให้ผลทันทีที่ทำแน่นอน เพียงแต่ว่า บางทีผู้ทำไม่สังเกตด้วยความประณีตเพียงพอจึงไม่รู้ไม่เห็น ขอให้สังเกตใจตนให้ดี แล้วจะเห็นว่าทันทีที่ทำกรรมดี ผลจะปรากฏขึ้นในใจเป็นผลดีทันทีทีเดียว


    O ทำกรรมดีแล้วจิตใจจักไม่ร้อนเร่า

    ทำกรรมดีแล้วใจจักไม่ร้อน เพราะไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะได้รับผลไม่ดีต่างๆ

    ความไม่ต้องหวาดวิตกหรือกังวลไปต่างๆ นั้น นั่นแหละเป็นความเย็น เป็นความสงบของใจ เรียกได้ว่าเป็นผลดีที่เกิดจากกรรมดี ซึ่งจะเกิดขึ้นทันตาทันใจทุกครั้งไป เป็นการทำดีที่ได้ดีอย่างบริสุทธิ์แท้จริง

    ส่วนผลปรากฏภายนอกเป็นลาภยศสรรเสริญต่างๆ นั้น มีช้า มีเร็ว มีทันตาทันใจ และไม่ทันตาทันใจ จนเป็นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดกันมากมาย ว่าทำดีไม่ได้ดีบ้าง ทำชั่วได้ดีบ้าง

    O ควรทำดีโดยทำใจให้เป็นกลาง ไม่มุ่งหวังสิ่งใด

    ทำดีได้ดีแน่นอนอยู่แล้ว บรรดาผู้ทำความดีทั้งหลายซาบซึ้งในสัจจะ คือ ความจริงนี้ ดังนี้ก็ไม่น่าจะลำบากนักที่จะเชื่อด้วยว่า ควรทำดีโดยทำใจเป็นกลางวางเฉลยไม่มุ่งหวังอะไรๆ ทั้งนั้น

    การที่ยกมือไหว้พระด้วยใจที่เคารพศรัทธาในพระรัตนตรัยสูงสุดเพียงเท่านี้ ได้ผลดีแก่จิตใจยิ่งกว่าจะยกมือไหว้พร้อมกับอธิษฐานปรารถนาสิ่งนั้นสิ่งนี้ไปด้วยมากมายหลายสิ่งหลายอย่าง

    หรือการจะบริจาคเงินสร้างวัดวาอาราม ด้วยใจที่มุ่งให้เป็นการบูชาคุณพระรัตนตรัยเพียงเท่านี้ ก็ได้ผลดีแก่จิตใจ ยิ่งกว่าจะปรารถนาวิมานชั้นฟ้า หรือบ้านช่องโอ่อ่าทันตาเห็นในชาตินี้

    หรือการจะสละเวลากำลังกาย กำลังทรัพย์เพื่อช่วยเหลืองานพระศาสนา โดยมุ่งเพื่อผลสำเร็จของงานนั้นจริงๆ เพียงเท่านี้ ก็ได้ผลดีแก่จิตใจยิ่งกว่าปรารถนาจะได้หน้าได้ตาว่าเป็นคนสำคัญ เป็นกำลังใจให้เกิดความสำเร็จ

    หรือการคิดพูดทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยใจที่มุ่งเทิดทูนรักษาอย่างเดียวเช่นนี้ ให้ผลดีแก่จิตใจยิ่งกว่าหวังได้ลาภยศหน้าตาตอบแทน

    O ทำความดีอย่างบริสุทธิ์ สะอาดจริงเถิด

    ทุกวัน เรามีโอกาสทำดีด้วยกันทุกคน ดังนั้นจึงขอให้พยายามตั้งสติให้ดี ใช้ปัญญาให้ควร อย่าโลภ อย่าหลง อย่าทำความดีอย่างมีโลภมีหลง ให้ทำความดีอย่างบริสุทธิ์สะอาดจริงเถิด

    มีวิธีตรวจใจตนเองว่า ทำความดีด้วยใจปราศจากเครื่องเศร้าหมอง คือ กิเลส โลภ โกรธ หลง หรือไม่ ก็คือให้ดูว่าเมื่อทำความดีนั้น ร้อนใจที่จะแย่งใครเขาทำหรือเปล่า กีดกัดใครเขาหรือไม่ ฟุ้งซ่านวุ่นวายกะเก็งผลเลิศในการทำหรือเปล่า ต้องการจะทำทั้งๆ ที่ไม่สามารถจะทำได้ แล้วก็น้อยเนื้อต่ำใจหรือโกรธแค้นอาฆาตพยาบาทอุปสรรคหรือเปล่า

    ถ้าเป็นคำตอบปฏิเสธทั้งหมดก็นับว่าดี เป็นการทำดีอย่างมีกิเลสห่างไกลจิตใจพอสมควรแล้ว สบายใจ เย็นใจในการทำความดีใดๆ ก็นับว่ามีกิเลสห่างไกลใจในขณะนั้นอย่างน่ายินดียิ่ง จะเป็นเหตุให้ผลอันเกิดจากรรมดีนั้นบริสุทธิ์ สะอาด และสูงส่งจริง

    O ทำให้ไม่มีตัวเราของเราได้...วิเศษสุด

    ไม่มีตัวเราของเราแล้วไม่มีความทุกข์ เพราะไม่ถูกกระทบ ไม่มีอะไรให้ถูกกระทบ
    เหมือนคนไม่มีมือ ก็ไม่เจ็บมือ คนไม่มีขา ก็ไม่เจ็บขา ดังนั้น การทำให้ไม่มีตัวเราของเราได้จึงวิเศษสุด แต่ก็ยากยิ่งนักสำหรับบุถุชนคนสามัญทั้งหลาย ฉะนั้นขอให้มีเพียงเราเล็กๆ มีเราน้อยๆ ก็ยังดี ดีกว่าจะมีเราใหญ่โตมโหฬาร มีของเราเต็มบ้านเต็มเมือง

    เมื่อบุถุชนไม่สามารถทำตัวเราให้หายไปได้ ยังหวงแหนห่วงใยตัวเราอยู่ ของเราจึงยังต้องมีอยู่ด้วย ของเราจะหมดไปก็ต่อเมื่อตัวเราหมดไปเสียก่อน นี้เป็นธรรมดา

    ถ้ายังมีตัวเราของเราอยู่ ยังต้องกระทบกระทั่งอยู่ ยังหวงแหนรักษาตัวเราของเราไว้ ก็ควรอย่างยิ่งที่จะหวงแหนรักษาให้ถูกต้อง จะได้ไม่ต้องรับโทษทุกข์ของการมีตัวเราของเรามากเกินไปอย่างเดียว แต่มีโอกาสที่จะได้รับคุณรับประโยชน์บ้างจากการมีตัวเราของเรา นั่นก็คือต้องระวังรักษาปฏิบัติต่อตัวเราของเราให้ดี ให้เป็นตัวเราของเราที่ดี

    O ตัวเราที่ดี ต้องมีใจที่อบรมด้วยธรรมอันงาม

    ตัวเราที่ดีนั้น ไม่ใช่เป็นตัวเราที่มีหน้าตาสวยงามอย่างเดียว ไม่ใช่เป็นตัวเราที่ได้รับการตกแต่งด้วยเครื่องสำอางหรือเสื้อผ้าแพรพรรณอันวิจิตรเท่านั้น

    ตัวเราที่ดีต้องเป็นตัวเราที่ประพฤติปฏิบัติถูกต้องตามทำนองคลองธรรม มีจิตใจที่อบรมด้วยธรรมอันงาม ปรารถนาจะมีตัวเราก็ต้องปฏิบัติต่อตัวเราเช่นนี้จึงจะถูกต้อง จึงจะพอบรรเท่าโทษของการยึดมั่นในตัวเราลงได้บ้าง

    O อุเบกขาธรรม

    “อุเบกขา” เป็นธรรมในธรรมสำคัญหมวดหนึ่ง คือ “พรหมวิหารธรรม”

    มนุษย์ก็ได้ชื่อว่าเป็นพรหม แม้มีธรรมหมวดนี้สมบูรณ์ คือมีพร้อมทั้งเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา

    อุเบกขา หมายถึง การวางใจเป็นกลาง วางเฉย ไม่ยินดียินร้าย จึงไม่หวั่นไหวด้วยความยินดีหรือความยินร้าย หวั่นไหวเพราะความยินดีแม้มากย่อมเป็นเหตุให้ฟุ้ง หวั่นไหวเพราะความยินร้ายแม้มากย่อมเป็นเหตุให้เครียด อุเบกขาจึงเป็นธรรมโอสถเครื่องรักษาโรคทางจิตทั้งสอง คือ โรคฟุ้งและโรคเครียด

    ท่านผู้มีปัญญาเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของธรรมโอสถนี้ จึงสนใจอบรมอุเบกขา เพื่อรักษาใจให้ปราศจากโรค ให้เป็นใจที่สมบูรณ์สุขอย่างแท้จริง

    O โรคทางจิตก็เหมือนโรคทางกาย

    โรคทางจิตก็เหมือนโรคทางกาย ยารักษาโรคทางจิตก็เหมือนยารักษาโรคทางกาย

    ไม่ว่าจะใช้ยาวิเศษขนานใดก็ตาม ก็ต้องใช้ยานั้นให้ได้ขนาดเพียงพอกับอาการของโรค โรคทางกายบางโรคไม่ต้องใช้ยามากและไม่ต้องใช้นาน บางโรคต้องใช้มากและต้องใช้นาน จะใจร้อนใจเร็วให้โรคหายทันใจทุกโรคไม่ได้

    แต่โรคทางใจของคนทั่วไป ปกติต้องใช้ยามากและต้องใช้นานจึงจะใจร้อนใจเร็วให้เห็นผลเป็นความหายขาดจากโรคหัวใจอย่างทันตาทันใจไม่ได้ ต้องใช้ธรรมโอสถให้เพียงพอกับอาการของโรค เช่น โรคเครียดและโรคฟุ้งที่กล่าวแล้วว่า รักษาได้ด้วยธรรมโอสถ คือ อุเบกขา ก็ต้องใช้ธรรมโอสถให้เพียงพอ คือ ใช้ให้มากพอและใช้ให้นานพอ จึงจะหายขาดได้จริง

    O ยอดของพรหมวิหารธรรม

    อุเบกขา เป็นยอดของพรหมวิหารธรรม เมตตา กรุณา เป็นฐาน มุทิตาเป็นตัว

    การจะสร้างยอดโดยไม่สร้างฐานไม่สร้างตัวนั้นก็ก็ทำกันได้ แต่ยอดจะวางอยู่ต่ำเตี้ย ไม่มั่นคง ไม่สูงสง่า ถ้าสร้างฐานสร้างตัวเป็นลำดับขึ้นไปเรียบร้อยแล้วจึงสร้างยอด ยอดก็จะมั่นคง สูงเด่นเป็นสง่า

    O ฐานของพรหมวิหารธรรม

    การอบรมอุเบกขาให้มั่นคง งามพร้อม จึงควรต้องอบรมพรหมวิหารธรรมให้สมบูรณ์

    เริ่มแต่ฐาน คือ เมตตากรุณาเป็นเบื้องต้น มุทิตาเป็นลำดับไป แล้วจึงถึงอุเบกขา เช่นนี้ไม่หมายความว่าจะต้องใช้เวลานานนักหนากว่าจะเริ่มจากฐานขึ้นไปถึงยอด เรื่องของจิตหรือเรื่องของใจเป็นเรื่องพิเศษสุด อำนาจของใจ ความเร็วของใจ ก็เป็นความพิเศษสุดเช่นเดียวกัน

    พรหมวิหารธรรม คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ก็เป็นเรื่องของใจ จึงมีความพิเศษสุด ผู้มีบุญมีปัญญา มีใจเข้มแข็งมั่นคงด้วยสัจจะ สามารถอบรมพรหมวิหารธรรมตั้งแต่ฐานถึงยอดได้ในเวลารวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องเนิ่นช้า

    สำคัญที่พึงต้องมีศรัทธาตั้งมั่น ว่าพรหมวิหารธรรมนี้มีคุณประโยชน์แก่ชีวิตอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นแล้วสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จักไม่ทรงแสดงไว้ว่าเป็นธรรมเครื่องอยู่ของพรหม จึงพึงน้อมใจรับปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ในเรื่องการอบรมพรหมวิหารธรรมนี้

    O ความหมายที่แท้จริงของพรหมวิหารธรรม

    เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา มีความหมายที่แท้จริงอย่างไร ศึกษาให้เข้าใจถูกต้องเสียก่อน อย่าให้รู้ผิด เพื่อการปฏิบัติจะได้ไม่ผิด ผลที่ตามมาจะได้ไม่ผิด

    เมื่อศึกษาเข้าใจพรหมวิหารธรรมถูกต้องพอสมควรแล้ว ให้ปฏิบัติให้เกิดมีขึ้นในตนให้ถูกต้อง และจะไม่ต้องใช้เวลานานเลย สำหรับการปฏิบัติอบรมธรรมหมวดนี้หรือหมวดใดก็ตาม

    แม้เชื่อว่าพระพุทธองค์ทรงสอนให้ปฏิบัติพุ่งใจให้ตรงดิ่งลงไปในเมตตา ในกรุณา ในมุทิตา ทุกเวลา ทุกโอกาสที่มีมา ไม่มีข้อแม้ข้อแย้งยกขึ้นเพื่อให้ใจคัดค้านไม่ยอมมีเมตตา ไม่ยอมมีกรุณา ไม่ยอมมีมุทิตา ไม่ว่าต่อผู้ใดทั้งสิ้น

    ไม่ว่าจะเป็นมิตร หรือเป็นศัตรู หรือเลือกคนดีคนชั่ว ทรงสอนให้มีพรหมวิหารเป็นที่อยู่ของใจตลอดเวลา นั่นก็คือไม่ว่าจะพบคนดีหรือคนชั่ว พบมิตร หรือพบศัตรู พบที่ไหน เวลาใด ใจของเราต้องอยู่ในพรหมวิหารธรรมตลอดเวลาสม่ำเสมอ

    O มีความเชื่ออย่างมั่นคง จะได้ผลรวดเร็ว

    การเชื่อพระพุทธเจ้าให้แน่วแน่มั่นคง ยอมเป็นยอมตายได้ เพื่อปฏิบัติตามที่ทรงสอนไว้ เป็นวิธีพิเศษที่จะช่วยให้การใช้ธรรมโอสถรักษาโรคทางใจได้ผลรวดเร็วทันที

    การเชื่อพระพุทธเจ้า แล้วปฏิบัติตามที่ทรงสอนไว้ โดยไม่มีข้อคิดค้านอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ใช่ความงมงาย ไม่ใช่การแสดงความอ่อนแอไม่เป็นตัวของตัวเอง ตรงกันข้าม กลับเป็นความปรีชาฉลาดลึกซึ้งอย่างยากจะหาผู้ทัดเทียมได้

    O โทสะไม่ว่ามากหรือน้อย ดับด้วยอำนาจของเมตตา

    พระพุทธองค์ทรงสอนให้เมตตา ให้กรุณา ก็ให้เมตตา ให้กรุณา อย่างเต็มเปี่ยมทั้งหัวใจ โทสะไม่ว่ามากไม่ว่าน้อยจะดับลงได้ด้วยอำนาจของเมตตาทันที

    ยิ่งทุ่มเทใจเชื่อพระพุทธเจ้า ทำตามพระองค์เต็มสติกำลัง ใจก็จะตั้งอยู่ในความไม่มีโทสะ มีแต่ความสุขสงบเย็นสว่างไสวจนกระทั่งอาจรู้สึกเหมือนไม่มีเมตตา ไม่มีกรุณา ไม่มีมุทิตาในใจตน มีแต่อุเบกขาเท่านั้น

    แต่ความจริงอุเบกขานั้นพร้อมด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา เปรียบดังขึ้นรถด่วนที่วิ่งผ่านสถานีต่างๆ อย่างรวดเร็ว ไม่หยุดสถานีระหว่างทางเลย ไปหยุดต่อเมื่อถึงสถานีปลายทาง ถึงที่หมายได้สมประสงค์ตรงสถานีปลายทางนั้น

    เช่นนี้ไม่หมายความว่ารถไฟไม่ได้วิ่งผ่านสถานีต่างๆ ในระหว่างทาง รถผ่านแต่ละสถานีอย่างรวดเร็วจนยากจะสังเกตรู้ว่าเป็นสถานีใดบ้างเท่านั้น

    การอบรมเมตตา กรุณา มุทิตา ไปจนถึงอุเบกขาด้วยวิธีพิเศษ คือ เชื่อพระพุทธเจ้าให้แน่วแน่มั่นคง ยอมเป็นยอมตาย เพื่อปฏิบัติตามที่ทรงสอนไว้จะได้ผลรวดเร็วดังนี้

    O ผู้มีเมตตา กรุณา และมุทิตา
    จะต้องใช้อุเบกขาแทรกไว้ทุกเวลา

    ผู้ยังไม่บรรลุผลสูงสุดของพรหมวิหารธรรม ยังพยายามตั้งใจอบรมพรหมวิหารธรรมอยู่ ควรต้องรู้ว่า ผู้มีเมตตา กรุณา มุทิตานั้น ควรอย่างยิ่งที่จะต้องใช้อุเบกขาแทรกไว้ทุกเวลา เหมือนเป็นยาดำที่จำเป็นต้องแทรกอยู่ในยาดีแทบทุกขนานไม่เช่นนั้นแล้ว ยาดีที่ขาดยาดำก็จะไม่เป็นยาดีที่สมบูรณ์ และพรหมวิหารธรรมก็จะไม่สมบูรณ์เช่นเดียวกัน

    เมตตาขาดอุเบกขา...ก็ผิด
    กรุณาขาดอุเบกขา...ก็ผิด
    มุทิตาขาดอุเบกขา...ก็ผิด

    เมตตากรุณาที่ผิด ก็เช่นปรารถนาเขาเป็นสุข พยายามช่วยให้เขาพ้นทุกข์เต็มกำลังความสามารถ เมื่อทำไม่ได้ดังความปรารถนาก็เป็นทุกข์ เพราะไม่วางอุเบกขา เช่นนี้แหละผิด

    แต่ถ้าทำเต็มสติปัญญาความสามารถโดยควรแล้ว แม้ไม่เกิดผลดังปรารถนาก็วางอุเบกขาเสียได้ ไม่เร่าร้อนด้วยความปรารถนาต้องการจะให้สมมุ่งหมาย เช่นนี้ก็เป็นเมตตากรุณาที่ไม่ผิด

    มุทิตา ความพลอยยินดีด้วยเช่นกัน มุทิตาที่ผิดก็เช่นไปพลอยยินดีด้วยกับการได้การถึงที่ไม่สมควรทั้งหลาย การได้การถึงที่ผิดที่ไม่ชอบเช่นนั้น ผู้มีมุทิตาที่แท้จริงในพรหมวิหารจะวางใจเป็นกลาง วางเฉยอยู่ได้ด้วยอุเบกขา ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องแม้ด้วยมุทิตา

    O ใจที่เป็นอุเบกขา
    ไม่หวั่นไหวไปตามการแสดงออกภายนอก

    ผู้มีอุเบกขาในใจจริงนั้น การแสดงออกภายนอกเหมือนไม่มีอุเบกขาได้ เพราะผู้มีอุเบกขานั้นไม่หมายถึงว่า จะต้องไม่รับรู้ในคุณในโทษของสิ่งภายนอก ผู้มีอุเบกขาย่อมรู้ดีว่าปฏิบัติอย่างไรเป็นคุณ ปฏิบัติอย่างไรเป็นโทษ บางทีการวางเฉยทางกายวาจา เหมือนกับใจที่วางเฉยอยู่ด้วยความสงบ ก็อาจเป็นคุณ แต่บางทีก็อาจเป็นโทษ

    ฉะนั้นเมื่อการวางเฉยภายนอกจะเป็นโทษ ผู้มีพรหมวิหารธรรมข้ออุเบกขาพิจารณาเห็นแล้ว ก็ย่อมต้องแสดงออกตามความเหมาะความควร รักษาไว้อย่างหวงแหนที่สุดเพียงอย่างเดียว คือ ใจที่เป็นอุเบกขา ไม่หวั่นไหววูบวาบขึ้นลงไปตามการแสดงออกภายนอก

    O อุเบกขาที่แท้จริง สร้างความสงบอย่างยิ่งแก่ใจ

    ความสงบอย่างยิ่งของใจ ย่อมมีอยู่ได้เป็นปกติ ด้วยอำนาจของอุเบกขาที่แท้จริงในพรหมวิหาร ผู้มีใจยังไม่เป็นอุเบกขา บางทีก็สามารถแสดงอุเบกขาให้ปรากฏภายนอกได้

    หลายคนเคยพูดว่า “ฉันอุเบกขา” นั่นไม่หมายถึงว่า ผู้พูดมีใจเป็นอุเบกขาในพรหมวิหารธรรม แต่หมายเพียงการกระทำเท่านั้นที่ไม่ยุ่งเกี่ยวในเรื่องนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องๆ ไป ความสงบเป็นปกติของใจด้วยอำนาจของอุเบกขาหามีไม่

    O เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ล้วนสำคัญอย่างยิ่ง

    ถ้าจะอบรมพรหมวิหารธรรม ก็อย่าเห็นว่าเมตตากรุณาเท่านั้นสำคัญ มุทิตาและอุเบกขาก็สำคัญอย่างยิ่ง

    ไม่มีเมตตา กรุณา ก็จะมีใจโหดเหี้ยม ไม่มีมุทิตาก็จะมีความอิจฉาริษยา ไม่มีอุเบกขาก็จะไม่รู้จักวางเฉย ไม่รู้จักปล่อยวางยึดมั่นอยู่

    ความโหดเหี้ยม ความอิจฉาริษยา ความยึดมั่นไม่ปล่อยวางย่อมเป็นความไม่สวยไม่งามของจิตใจ ย่อมไม่เป็นที่พึงปรารถนาฉะนั้น เมื่อปรารถนาจะไม่ให้ได้ชื่อว่าเป็นคนโหดเหี้ยม ขี้อิจฉาริษยา หรือไม่ปล่อยวาง ก็ต้องอบรมพรหมวิหารธรรม เพื่อให้จิตพ้นจากสภาพที่ไม่งดงาม ไม่เป็นที่พึงปรารถนาดังกล่าว

    O ผู้ปรารถนาให้ตนเองมีจิตใจสูง มีจิตใจเย็น
    ต้องอบรมพรหมวิหารธรรมให้สมบูรณ์ บริบูรณ์

    ผู้ปรารถนาให้ตนเองมีจิตใจสูง มีจิตใจดี มีจิตใจเย็นสบาย ไม่มีโทสะ ไม่มีพยาบาท ไม่มีอิจฉาริษยา ควรต้องอบรมพรหมวิหารธรรมให้สมบูรณ์บริบูรณ์อย่าได้ว่างเว้น

    โอกาสที่จะแผ่เมตตามีอยู่ทุกเวลา มีสติระวังให้มีอุเบกขาไปพร้อมกันด้วย ก็จะเป็นพรหมวิหารธรรมที่ถูกต้อง สมบูรณ์ บริบูรณ์ ที่จะให้คุณแก่เจ้าตัวเต็มที่ก่อนให้แก่ผู้อื่น
     
  7. อุทยัพ

    อุทยัพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,564
    ค่าพลัง:
    +18,112
    ส่วนของผมเป็นเรื่องกรุณาและมุทิตาครับ

    ในส่วนของกรุณาหลายๆครั้งที่ผมทำบุญใหญ่ไม่ว่าจะเป็นสร้างพระหรือวิหารทานใดๆก็ตามผมมักจะอุทิศแผ่ส่วนกุศลให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย สัมภเวสีและวิญญานเร่ร่อนทั้งหลายและทุกๆท่านที่จะเป็นญาติผมก็ตามไม่ใช่ญาติก็ตามให้มาโมทนาในส่วนกุศลนี้และขอให้ท่านทั้งหลายพ้นจากความทุกข์ทั้งหลาย เรื่องของบุญกุศลกับโลกทิพย์เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ผมเคยมีประสบการณ์จากการปฎิบัติกรรมฐานมโนมยิทธิครับ เคยตั้งจิตอุทิศบุญกุศลทั้งหลายที่ได้เคยกระทำมาแล้วตั้งแต่อดีตชาติจนถึง ณ วินาทีนั้นให้แก่วิญญานท่านหนึ่ง เมื่ออุทิศส่วนกุศลเสร็จ กายทิพย์ของท่านมีความเปลี่ยนแปลงไปในทันที กายทิพย์ท่านสว่างไสวและหายวับไปในแทบจะทันที รู้สึกสุขใจที่ได้ช่วยให้ท่านได้พ้นทุกข์ครับ

    ส่วน มุทิตา คือ การรู้สีกยินดีเมื่อเพื่อนผมได้ดีโดยที่ไม่ได้รู้สึกยินร้ายใดๆครับ
     
  8. kwangpha

    kwangpha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +448
    ผมใช้หลักธรรม "พรหมวิหาร 4" ในการดำรงชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านการงานและครอบครัว โดยได้นำหลักทั้ง 4 ด้าน มาเป็นแนวทาง เพื่อให้เกิดความร่มเย็นและเป็นสุข มีเมตตาต่อสรรพสัตว์ มีน้ำใจต่อญาติ มิตร และโดยเฉพาะครอบครัว มีความกรุณา ไม่เบียดเบียนต่อผู้อื่นให้เกิดทุกข์ มีมุทิตา โมทนายินดีกับผู้ที่กระทำดี และ มีอุเบกขา ไม่ลำเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
     
  9. ShamanKinGG

    ShamanKinGG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    143
    ค่าพลัง:
    +381
    หลักพรหมวิหาร 4 ที่ผมใช้ในชีวิตประจำวัน
    ก่อนนอนก็จะแผ่เมตตา เวลาพบปะผู้คนก็จะยิ้มแย้มแจ่มใส พยายามพูดคุยด้วยความสุภาพนอบน้อม หากเจอคนที่มีอารมณ์ขุ่นมัวหรือโกรธเคืองจะพยายามตั้งสติไม่ให้โกรธตอบหรือเอาอารมณ์มาชนกัน เพื่อว่าจะได้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตรงจุดไม่บานปลายไปเป็นเรื่องอื่น หากเรามีอารมณ์โกรธเช่นกันยังระงับไม่ได้ก็จะพยายามเลี่ยงไม่คุยกันในตอนนั้น ถ้าปัญหาใดพยายามแก้ไขอย่างเต็มกำลังความสามารถแล้ว แต่ผลยังไม่ดีเท่าที่ต้องการ ก็จะปล่อยวางและทำใจยอมรับผลที่เกิดนั้น เพราะบางเรื่องไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราคนเดียว มีปัจจัยอื่นๆอีกมากที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เวลาเห็นใครได้ดีมีความสุขหรือเห็นใครทำความดีก็ยินดีไปกับเขา เห็นใครมีทุกข์เดือดร้อนมาปรึกษาขอความช่วยเหลือก็ช่วยเท่าที่เราจะช่วยได้ตามกำลังความสามารถในขณะนั้นครับ

    อนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ
     
  10. chaiwatana

    chaiwatana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +279
    เมตตา กรุณา ก็สามารถแทรกเข้าไปในเรื่องเล็กๆน้อยๆในชีวิตประจำวัน

    ถ้ารู้จักใช้ปัญญาพิจารณาให้ดี ไม่จำเป็นต้องทำเป็นอย่างทางการ

    ทำบุญตักบาตร หรือ เห็นคนทุกข์จึงเข้ายื่นช่วยเหลือ

    หรือ ในการทำงานที่ต้องถือเป็นคุณธรรมประจำตนเมื่อขึ้นเป็นผู้นำ

    อย่างเช่นตัวอย่างนี้

    ห้องน้ำบางแห่งติดกล่องสบู่เหลวไว้กดเฉพาะไว้ที่ปีก 2 ด้านของแถวอ่าง

    ล้างมือ ถ้าเรากดเอาสบู่เสร็จ แล้วเดินมาใช้อ่างที่ว่างที่อยู่ตรงกลาง

    แค่นี้ก็เอื้อเฟื้อให้คนอื่นก็สามารถเข้ามากดเอาสบู่ได้โดยง่าย

    แต่ที่เห็นทั่วไป กดเสร็จก็ใช้อ่างตรงนั้นเลย

    คนอื่นอยากได้สบู่ ก็ต้องลำบากใจ

    หลายๆ เรื่องเล็กๆน้อยๆ คิดก่อนและทำให้เหมาะสม ก็เป็นความเมตตา

    กรุณา ทำให้เป็นนิสัยโดยทั่วหน้า โลกนี้ก็จะมีความผาสุก ร่มเย็น
     
  11. สิงห์อัคนี

    สิงห์อัคนี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +52
    นำพรหมวิหาร 4 มาช่วยในการทำงาน
    ให้ความช่วยเหลือพนักงานทุกคนในบริษัท ตามกำลังความสามารถ เช่นแนะนำเรื่องการขอใช้บริการกับหน่วยงานเอกชน และรัฐ การบริหารเงิน ทำบุญตามกำลัง และขปัญหาข้อสงสงสัยที่เราพอมีความรู้ ความสามารถ
    ถ้ามีพนักงานนำสินค้ามาขายจะช่วยซื้อ แนะนำลูกค้าให้ และยินดีที่เขามีความขยันหมั่นเพียรในการหารายได้เสริม
    การสอนงานพนักงานในแผนก จะพยามตั้งใจแนะนำและสอนซ้ำๆ จนเขาสามารถปฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย ได้สมบูรณ์
     
  12. visa2505

    visa2505 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,095
    กรณีของผมไม่ทราบว่าเป็นพรหมวิหารหรือไม่
    ผมมีแม่อยู่ต่างจังหวัด ผมก็ส่งเงินไปให้ท่านใช้ทุกเดือนๆละหลายครั้งตลอดมาจนปัจจุบัน
    วันหนึ่งผมไปติดต่องานที่หน่วยราชการที่ต่างอำเภอประมาณ 60 กม.ขณะที่ผมติดต่ราชการอยู่นั้นก็มีผู้หญิงมาแจ้งหน่วยราชการว่ามีผู้หญิงที่อยู่ต่างจังหวัด(ตะวันออก)มาหาแฟน(ภาคเหนือ)และเกิดทะเลาะกันถูกแฟนตบตีและขับไล่หนีออกจากบ้าน ผู้หญิงคนดังกล่าวเก็บข้าวของเดินมาตามถนนและโบกรถคนเดินทางขอติดมาที่หน่วยราชการเพื่อขอความช่วยเหลือขอให้ส่งกลับภูมิลำเนาโดยมีเงินติดตัวอยู่สิบบาท แต่ส่วนราชการไม่รู้จะช่วยอย่างไรเพราะรถอยู่ที่จังหวัดห่าง 60 กม.พอดีผมติดต่อธุระเสร็จเลยสอบถามดู และพาขึ้นรถมาด้วยที่จังหวัดมาถึงเที่ยงพอดี ก็ให้เงินเขา 100 บาทไปกินข้าวก่อน เขาไป 30 นาทีมาบอกว่าร้านอาหารปิด ไม่ได้กินข้าวผมเลยต้องจัดหาอาหารให้กินจนอิ่มแล้วก็พาไไส่งหน่วยงานราชที่รับผิดชอบ เขาส่งน้องคนนี้กลับบ้านได้ในวันนั้น
    ในวันเดียวกันเวลาเย็น ขณะที่ผมและแม่บ้านแวะตลาดสดเพื่อจ่ายตลาดก่อนเข้าบ้าน พบคนขับรถสิบล้อพ่วงเดินไปตลาดกลับมาและบอกว่ากระเป๋ากระตังหายพร้อมเอกสารและใบขับขี่ ขับรถต่อไปอีกไม่ได้เพราะไม่มีใบขับขี เขาตัดสินใจเดินไปแจ้งความเอกสารหายที่สน.ห่างจากจุดประมาณ 3 กม.เพราะขับรถเข้าเมืองไม่ได้ ผมเลยให้เงิน 100 บาท เพื่อจ้างรถมอไซด์รับจ้างเข้าในเมือง
    ผมมีลูกน้องหลายคนมีคนหนึ่ง(หญิง)ค่อนข้างเรื่องมาก ทำงานมีเงื่อนไขตลอดเลือกทำงาน ทำนองเอาเปรียบคนอื่น ทำงานน้อย ผมสุดเอือมแกมากแต่ไม่เคยดุด่า งานบางอย่างผมต้องรับมาทำเอง มีครั้งหนึ่งผมอ่อนใจกับแกมาก ผมตั้งใจว่าจะเสนอย้ายแกออกไปอยู่ต่างจังหวัดเอาคนอื่นมาทำแทน แต่ยังไม่ได้กระทำอะไร แกกลับเปลี่ยนไปเป็นคนทำงาน แถมยังมาอาสาช่วยงานผมอีกจนปัจจุบัน
    ผมเลยอึ้งไปเลย
    ผมมีพี่น้องหลายคนอยู่ต่างจังหวัด ปกติจะไม่ค่อยติดต่ออะไรกับผม แต่เมื่อไรที่ติดต่อมาต้องโทรมาขอยืมเงินทุกครั้งไป เปลี่ยนหน้ากันมา ปากบอกว่ายืมแต่ไม่มีใครคืนเงินตามที่ยืมสักที แถมยังเดินหน้ายืมทั้งที่หนี้เก่ายังไม่คืน มีคนหนึ่งติดต่อขอซื้อที่ของผม (หลายแสน)และขอทำกินเลย ตั้งแต่ตกลงซื้อและทำกินแกไม่เคยนำเงินมาจ่ายค่าที่ผมเลย ผมไม่ทวงรอดูอยู่ ปรากฎว่าสามปีผ่านไป แกฝากคนมาบอกผมว่าแก่ไม่ซื้อแล้วที่ ขายให้คนอื่นเถอะ ค่าทำกินสามปีแก่เฉยเลย ผมก็ไม่ทวง เพราะเป็นพี่น้องกัน ก็ได้แต่อึ้งและเฉยๆไปจนปัจจุบัน.
    ไม่รู้เข้าพรหมวิหารหรือเปล่าครับ.
     
  13. runkey

    runkey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,138
    ค่าพลัง:
    +1,879
    นำหลักธรรมพรหมวิหาร 4 มาสอนใจตัวเองครับ เมตตากรุณากับคนหรือสัตว์ที่ต้องทนทุกข์เช่น กำลังจะต้องตาย เช่น ปลาในตลาดสดที่จะต้องโดนฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร ก็ได้ซื้อช่วยให้ปลาเหล่านั้นรอดตายจากการประหารตามโอกาสครับ หรือ ช่วยสัตว์ที่ต้องทนทุกข์จากการถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวให้หมดอิสระภาพ เช่น ปลา เต่า นก ที่ถูกกักขังครับ มุทิตาก็พลอยยินดีอนุโมทนาบุญกับคนอื่นๆ เมื่อมีการสร้างบุญกุศลในด้านต่างๆ และทำให้ใจให้ปล่อยวางในอารมณ์ที่อยากช่วยแต่เกินกำลังที่เราจะช่วยได้ เพราะทุกชีวิตมีบุญกรรมไม่เท่ากันครับ
     
  14. digital1

    digital1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2006
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +95
    เมตตา / ในการดำเนินชีวิต หากมีความสามารถในการที่ช่วยเหลือใครได้ ก็จะช่วยเหลือตลอด ทำทานกับผู้ที่ขัดสนเสมอ.... เพื่อจะได้ให้เขามีความสุขขึ้นมาบ้าง
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,301
    ค่าพลัง:
    +17,478
    เชื่อว่าเกมส์นี้ กระทู้วันนี้ มีหลายๆท่านอ่านและตามอนุโมทนา ที่สำคัญคืออ่านแล้วมันปิติปลาบปลื้มใจตนเองแน่นอน
     
  16. anusorn497061

    anusorn497061 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +1,023
    หลักธรรมพรหมวิหาร 4 ผมนำมาใช้ในชีวิตประจำทุกวันในการทำงานในการบริการลูกค้าและดูแลลูกน้องในที่ทำงาน ให้เค้ามีความสุขในการทำงาน และได้รับบริการที่ดี โดยที่ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ และสิ่งที่ผมทำตลอดทุกครั้งที่มีโอกาศ คือ บริจาคเลือดให้กับสภากาชาดไทยเพื่อช่วยเหลือเพื่อนรวมโลก
     
  17. weerachai_12@ho

    weerachai_12@ho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,022
    พรหมวิหาร 4

    เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
    ในทัศนความเห็นของผม เห็นว่าทุกคนคงจะต้องเคยผ่านกันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย
    เมตตา ปราถนาให้ผู้อื่นได้รับความสุข
    กรุณา ปราถนาให้ผู้อืนพ้นทุกข์
    มุทิตา ยินดีเมื่อเห็นผู้อืนได้ดี
    อุเบกขา วางใจเป็นกลาง เพราะทำกรรมใดย่อมได้รับผลของกรรมนั้น
    ผมใช้ในชีวิตประจำวันการทำงาน เพราะงานที่ทำอยู่เป็นงานของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ที่มีแต่ช่วยเหลือผู้คนให้ได้รับการเยียวยา หลุดพ้นจากความสงสัย จากการพันธนาการ (กองทุนยุติธรรม) ปัญหาต่างๆในชีวิตฯ ปัญหาข้อกฎหมายต่าง ๆ อาศัย พรหมวิหารท้ั้ง4 เพราะบางครั้งผู้คนที่มาขอความช่วยเหลือแต่มาเกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ในกรณีของค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา ฯ และในกรณีต่างๆอีกมาก แม้ปราถนาจะช่วยแต่ก็ไม่สามารถจะช่วยได้ก็ต้องวางอุเบกขา
    ก็ด้วยพรมวิหาร 4 นี่แหละครับ
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,301
    ค่าพลัง:
    +17,478
    หกโมงเย็นหมดเวลานะครับ ลุ้นๆพรุ่งนี้เราจะประกาศรายชื่อผู้โชคดี:cool:
     
  19. visa2505

    visa2505 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,095
    โอนแล้วครับพระสมเด็จองค์ปฐมปางวิสุทธิเทพฯ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,301
    ค่าพลัง:
    +17,478
    วันนี้ติดตาม เราจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีพร้อมทั้งลงรายละเอียดตะกรุดกันนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...