"สมเด็จพระสังฆราช"ประทานรูปแบบ พระกริ่งญาณสังวร-พระนางพญาเชียงแสน

"สมเด็จพระสังฆราช"ประทานรูปแบบ พระกริ่งญาณสังวร-พระนางพญาเชียงแสน

สดหน้าพระ

อนุชา ทรงศิริ




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เมื่อวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2551 สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชจัดพิธีแถลงข่าว โครงการสร้างพระพุทธรูปประจำเมืองเชียงแสน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในวโรกาสปีมหามงคลที่พระองค์ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ครบ 19 ปี ในวันที่ 21 เมษายน 2551 และทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่ 9 โดยจัดพิธีแถลงข่าวขึ้น ณ พระตำหนักคอยท่าปราโมช วัดบวรนิเวศวิหาร

สำหรับพระพุทธรูปที่จะสร้างในครั้งนี้ได้รับประทานรูปแบบแผ่นทองลงอักขระ และผงอันเป็นมงคล จากสมเด็จพระสังฆราช เพื่อนำไปผสมหล่อพระพุทธรูปดังกล่าว รวมทั้ง "พระกริ่งญาณสังวร และพระพิมพ์นางพญาเชียงแสน"ซึ่งคณะกรรมการโครงการ ได้เข้าเฝ้ารับประทาน จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2551 ที่ผ่านมา ณ พระตำหนักคอยท่าปราโมช วัดบวรนิเวศวิหาร

ส่วนรูปแบบพระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง ขนาดหน้าตักกว้าง 99 เซนติเมตร ความสูง 119 เซนติเมตร (ไม่รวมฐาน) หล่อด้วยโลหะบรอนซ์ (มูลค่าประมาณ 890,000 บาท) และพระเกศหล่อด้วย ทองคำ น้ำหนัก 1,819 กรัม หรือน้ำหนัก 119 บาท (มูลค่าประมาณ 1,789,000 บาท) และส่วนพระเกศมีลายอุณาโลม ที่มีลักษณะคล้ายเลข 9 ไทย อยู่จำนวน 9 อันด้วยกัน บนพระเกตุมาลามีเม็ดพระศกนับจากกึ่งกลางไปด้านซ้ายและด้านขวาอย่างละ 9 เม็ด และบัวที่มีจำนวน 19 ดอก น้ำหนักของพระประมาณ 199 กิโล กรัม มูลค่ารวมประมาณ 2,679,000 บาท (สองล้านหกแสนเจ็ดหมื่นเก้าพันบาทถ้วน)

วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2551 เวลา 16.19 น. จะมีพิธีเททองพระเกศทองคำและเททองหลอมโลหะพระพุทธรูปประจำเมืองเชียงแสน ณ สนามวัดบวรนิเวศวิหาร โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งในวันพิธีเททองพระองค์ประทานพระพิมพ์นางพญาเชียงแสน จำนวน 10,000 องค์ (หนึ่งหมื่นองค์) ให้แก่ประชาชนที่มาร่วมพิธีเททองในวันนั้น

สำหรับพระพิมพ์นางพญาเชียงแสนนี้ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช จัดสร้างจำนวน 99,919 องค์ ซึ่งได้รับประทานรูปแบบ มวลสารอันเป็นมงคล เส้นพระเกศา และพระจีวร รวมทั้งมีมวลจากพระบรมธาตุเจดีย์ พระมหาธาตุเจดีย์ และพระธาตุเจดีย์ จำนวน 19 พระธาตุ จากจังหวัดเชียงราย โดยจากพระธาตุอำเภอเชียงแสน 9 พระธาตุ และอำเภออื่นอีก 10 พระธาตุ อาทิ มวลสารจากพระธาตุวัดพระเจ้าล้านทอง พระธาตุวัดป่าสัก พระธาตุวัดพระธาตุผาเงา พระธาตุวัดพระแก้ว พระธาตุจอมทอง พระธาตุจอมกิติ พระธาตุดอยตุง พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทรามหาสันติคีรี ฯลฯ จากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อนำมาผสมในพระพิมพ์นางพญาเชียงแสน ซึ่งสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช จะนำพระพิมพ์นางพญาเชียงแสนทูลฯถวายแด่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้พระองค์ทรงอธิษฐานจิต เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะประทานแก่ประชาชนที่ร่วมบริจาคสร้างพระพุทธรูปประจำเมืองเชียงแสนในครั้งนี้ และผู้ที่มีจิตศรัทธาสามารถนำทองคำมาร่วมในพิธีหล่อพระเกศทองคำ เพื่อร่วมพระกุศลในวันนั้นได้
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


วันพุธที่ 9 เมษายน 2551 เวลา 09.19 น. จะมีพิธีพุทธาภิเษก พระพุทธรูปประจำเมืองเชียงแสน และพระกริ่งญาณสังวร ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร โดย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธี หลังจากเสร็จพิธีพุทธาภิเษกแล้วจะมีพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปประจำเมืองเชียงแสน ไปยังวัดพระเจ้าล้านทอง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยเครื่องบินกองทัพอากาศจัดถวายร่วมพระกุศล

สำหรับวัดพระเจ้าล้านทอง เป็นพระอารามหลวง และในปีนี้ (พ.ศ. 2551) วัดจะมีอายุครบ 519 ปี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2032 (จุลศักราช 851) ในสมัยพระเจ้าทองวัว หรือทองงัว ผู้ซึ่งเป็นราชบุตรของพระเจ้าติโลกราช ตามตำนานโยนก

ในวันพิธีพุทธาภิเษก สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระพิมพ์นางพญาเชียงแสน จำนวน 10,000 องค์ ให้กับผู้ที่มาร่วมพิธีในวันนั้น และพระพิมพ์นางพญาเชียงแสนอีกจำนวนหนึ่ง

สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช จะแจกในวันพิธีสมโภชพระพุทธรูป ณ วัดพระเจ้าล้านทอง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งจะจัดงานสมโภช 9 วัน 9 คืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13-21 เมษายน 2551 และในวันที่ 21 เมษายน 2551 ซึ่งตรงวันสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ครบ 19 ปี ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร จะแจกพระพิมพ์นางพญาเชียงแสน จำนวน 10,000 องค์
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


โครงการสร้างพระพุทธรูปประจำเมืองเชียงแสน เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ดำเนินงานโดย สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร โดยมี พระพรหมมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เป็น ประธานกรรมการที่ปรึกษาฝ่ายสงฆ์

พระเทพสารเวที ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เป็น ประธานกรรมการดำเนินงาน พระราชรัตนมงคล ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เป็น กรรมการและเลขานุการดำเนินงาน พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ เป็น ประธานกรรม การฝ่ายประชาสัมพันธ์ พระปัญญาวราภรณ์ สังฆปา โมกข์ แห่งอินโดนีเซีย ไต้ซือซินเต้า วัดหลิวจิวซานแห่งไต้หวัน

พลเอกวินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม นายเจริญ-คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี นายวสันต์ โพธิพิมพานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท กลุ่มทองหล่อ จำกัด นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ฯลฯ เป็น กรรมการอุปถัมภ์ พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็น ประธานกรรมการที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาส พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายปรีชา กมลบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ฯลฯ เป็น กรรมการที่ปรึกษาฝ่ายฆราวาส

การนี้ ขอเชิญประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งองค์กรต่างๆ ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค สร้างพระพุทธรูปประจำเมืองเชียงแสน เฉลิมพระ เกียรติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในวโรกาสปีมหามงคลที่พระองค์ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช ครบ 19 ปี ในวันที่ 21 เมษายน 2551 สามารถร่วมบริจาคได้ที่ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร หรือบริจาคผ่านทางธนาคาร โดยการโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางลำพู ชื่อบัญชี "สร้างพระพุทธรูปประจำเมืองเชียงแสน" บัญชีเลขที่ 116-4-33827-7 บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ เริ่มตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 9 เมษายน 2551

และสามารถร่วมบริจาคบูชา พระกริ่งญาณสังวร ซึ่งสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช โดย พระเทพสารเวที ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช และเป็นประธานกรรมการดำเนินงานโครงการ ได้ขอประทานอนุญาตจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จัดสร้างวัตถุมงคลที่ระลึกในวโรกาสนี้ และทรงประทานอนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลที่ระลึก พร้อมทั้งประทานรูปแบบพระกริ่ง ประทานเส้นพระเกศา พระจีวร แผ่นทองลงอักขระ และประทานผงอันเป็นมงคล เพื่อนำไปผสมหล่อพระกริ่ง เพื่อความเป็นสิริมงคล

"พระกริ่งญาณสังวร" นี้นับว่ามีความพิเศษ และสำคัญ รวมทั้งมีความเป็นสิริมงคลในหลายๆ อย่างด้วยกัน และเป็นรุ่นแรกที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระนามของพระองค์เป็นชื่อของพระกริ่ง ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช จะจัดสร้างพระกริ่งญาณสังวรจำนวนจำกัด แบบเดียว ขนาดเดียว 2 เนื้อด้วยกัน

1.เนื้อทองคำ น้ำหนักประมาณ 45.6 กรัม หรือ 3 บาท สร้างตามจำนวนสั่งจอง ราคาบริจาคบูชาองค์ละ 99,919 บาท และ 2.เนื้อนวโลหะ สร้าง จำนวน 9,919 องค์ บริจาคบูชาองค์ละ 3,919 บาท พระกริ่งทุกองค์ตอกโค้ด และมีหมายเลขกำกับ

สามารถสั่งจองบูชาพระกริ่งญาณสังวร ได้ที่ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 9 เมษายน 2551 และสั่งจองบูชาได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 19 เมษายน 2551 และรับพระกริ่งญาณสังวร ได้ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2551 เป็นต้นไป ณ สถานที่สั่งจอง และสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร โทร.0-2281-2831-3, 08-3236-6638

[FONT=Tahoma,]หน้า 30[/FONT]


http://matichon.co.th/khaosod/view_...ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB5TkE9PQ==

 

ขออนุโมทณาบุญ...ครับ (ลูกนาคา)

 

ส่วนรูปแบบพระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนสิงห์หนึ่ง ขนาดหน้าตักกว้าง 99 เซนติเมตร ความสูง 119 เซนติเมตร (ไม่รวมฐาน) หล่อด้วยโลหะบรอนซ์ (มูลค่าประมาณ 890,000 บาท) และพระเกศหล่อด้วย ทองคำ น้ำหนัก 1,819 กรัม หรือน้ำหนัก 119 บาท (มูลค่าประมาณ 1,789,000 บาท)

หลังจากเสร็จพิธีพุทธาภิเษกแล้วจะมีพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปประจำเมืองเชียงแสน ไปยังวัดพระเจ้าล้านทอง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยเครื่องบินกองทัพอากาศจัดถวายร่วมพระกุศล