เมื่อศรัทธา เกินความพอดี ทำแล้วเราได้บุญ แล้ววัดต้องจัดการอย่างไร

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Totorokung, 11 เมษายน 2016.

  1. Totorokung

    Totorokung สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    สวัสดีครับผม ในฐานะชาวพุทธ คนหนึ่งที่ มั่นใจในการทำบุญกุศล เพื่อเป็นเสบียงในภพหน้า และความสบายใจในภพนี้ แต่ในบางครั้งภาพที่เห็น เริ่มทำให้ความศรัทธาที่คิดไตร่ตรองแล้ว เริ่มสั่นคลอน และตั้งใจหาทางออก และคำอธิบายน่ะครับ
    ---ภาพที่แนบมา เป็นต้นโพธิ์ใกล้ศาลเจ้าที่ ในวัด แห่งหนึ่งในตำบลผม เป็นภาพเหล่าพระพุทธรูปที่ ผู้คนมาถวายวัด เพื่อสะเดาะเคราะห์บาง ทำบุญสืบชะตาบ้าง อุทิศให้กับญาติที่ หมอดูทักมาอยู่ในภพภูมิที่ไม่ดีบ้าง____ซึ่งทุกคนทำ เพราะความศรัทธาในบุญ แต่หลังจากนั้น พระพุทธรูปที่มากเกินไป จนทางวัดเองไม่รู้จะไปเก็บที่ไหน ---
    _พอเห็นภาพนี้ ก็สลดใจ ขึ้นมา และคิดต่อว่า นี่เรากำลังปรามาส พระพุทธเจ้าหรือไม่ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นแค่ปูนธรรรมดา สังเกตุว่าส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปที่ทำมาจากปูน ไม่มีที่ทำจากโลหะ (ผมคิดว่า ราคาที่เหมาะสมสำหรับเช่า บูชา)
    คิดต่อไป หากไม่มีคซื้อและถวาย ร้านสังฆภัณฑ์ และ โรงหล่อ คงแย่
    _____แต่เมื่อศรัทธา เกินความพอดี เราควรทำอย่างไร____
    แลกเปลี่ยน แนวคิด องค์ความรู้ เพื่อเป็นอีกแรงหนึ่งบำรุงพุทธศาสนา น่ะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    นำไปซ่อมแซม แล้วให้บูชา หรือ เก็บไว้ในที่สมควร

    แล้วก็ติดป้าย จับปรับ 10000 ใครนำมาไว้อีก
     
  3. เยสตาม่อง

    เยสตาม่อง สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2016
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    บุญ สำเร็จไปแล้ว ไม่ว่ายังไง ตายไปก็เอาไปไม่ได้ เรานะสิ่ ต้องเป็นผงก่อนพระพุทธรูปพวกนี้ จะวางไว้ไหนก็เหมือนกันแหล่ะ อย่าไปยึดติดวัตถุ พระธรรมสิ่
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819


    ไม่ยึดติดก็ดีแล้ว แต่อย่าไปปรามาส คิดว่าเป็นแค่รูปปั่น เป็นแค่วัตถุ ระวังลงนรกไม่รู้ตัว ^^
     
  5. Totorokung

    Totorokung สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ผมคิดว่าคนที่เอาไปวางไว้ คือ พระภิกษุในวัด แหละครับ
     
  6. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฏแห่งกรรม

    คนอื่นทำไม่ดี เราก็อย่าไปเอามาทำให้ใจเราคิด อกุศลกรรม
     
  7. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    คิดแสวงนรก
     
  8. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940

    ....ท่านจขกท. มีความเป็นชาวพุทธที่หาได้ยากในปัจจุบัน ...ความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงใครอื่นนั้น เป็นเจตนาไม่อาจเป็นไปได้ เพราะไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของใครแม้แต่ตนเองเลย....ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะใจเป็นสังขารที่เกิดด้วยเหตุปัจจัยปรุงแต่งมากมาย ไม่ใช่อัตตาตัวตนที่ใครจะไปบังคับบัญชาให้เป็นไปตามความต้องการของใครได้....

    ท่านจขกท. มีศรัทาดีในพระพุทธศาสนา พึงรักษาศรัทธานั้นไว้ให้มั่นคงไม่หวั่นไหวเพียงเพราะสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องของพระพุทธศาสนาอันเป็นวิสัยของชนผู้ที่ไม่ได้สดับพระธรรมที่ถูกแท้ กำลังทำกันไป"เพราะไม่รู้"

    ศาสนาพุทธเท่านั้นสอนให้คนมีปัญญาพ้นความหลงงมงาย และไม่ใช่วิสัยที่ทั่วไป จะรับนับถือเอาได้โดยง่ายเพราะสวนกระแสกิเลสตัณหาของปุถุชน..

    จึงใคร่แนะนำให้ท่านจขกท. เพิ่มพูนศรัทธาแลสติปัญญาด้วยการศึกษาพระธรรมที่พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้ดีแล้วให้มาก..ท่านย่อมทราบเหตุผลของการกระทำทั้งที่ดีหรือแปลกๆได้ตามจริง ไม่ต้องไปถามใครๆ ...ทั้งสามารถเจริญกรุณาแก่ผู้ที่บันเทิงในการทับถมตนด้วยความไม่รู้ ที่จะมีผลให้หมดโอกาสจะหลุดรอดออกมาได้จากความไม่รู้...แม้ได้เกิดในแถบถิ่นที่มีพระพุทธศาสนา...ที่สอนให้คนมีปัญญารู้สรรพสิ่ง"ตามความจริงแท้"ในธรรมชาติ

    เมื่อท่านจขกท. ได้ความรู้ที่ถูกตรงจากพระธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว ย่อมสามารถชี้แจงแนะนำแก่ผู้ไม่รู้ได้ แม้นี้ย่อมเป็นมหากุศลยิ่งนัก เพราะเป็นการให้ธรรมะเป็นทาน เลิศกว่าทานทั้งปวง...

    เมื่อท่านเจริญกัลยาณธรรม ให้ธรรมะที่ถูกตรงได้ ย่อมสั่งสมสันดานที่จะยินดีพอใจในธรรมะที่ถูกแท้ ไม่หลงเข้าพงรกของธรรมะแปลกปลอมหรือคำสอนที่ไม่เป็นจริง...และไม่พอใจเพียงเพราะมีศรัทธาในอาจารย์โดยไม่คิดจะตรวจสอบความถูกต้องอะไรๆ เป็นต้น...ท่านย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้มี"ปุพเพกตปุญตา" คือบุญทำไว้ดีแล้วในกาลก่อน เพื่อที่จะได้พบพระพุทธศาสนาอีกในอนาคต ย่อมสามารถทำกิจเพื่อพ้นวัฏฏะได้ในที่สุด ...

    ส่วนผู้ที่กระทำย่ำยีต่อพระพุทธศาสนานั้น แม้จะได้พบพระธรรมของพระพุทธเจ้า ก็จะไม่ถือสาระอะไรได้..บาปกรรมนั้นย่อมปิดกั้นขวางปัญญาแกชนเหล่านั้น เพราะเคยขัดขวางปัญญาชาวบ้านมาจนชำนาญ...เหตุแลผลย่อมสอดคล้องกันดังนี้ จึงควรระวังสังวร ศึกษาพระธรรมให้ดี...

    ขอให้เจริญในธรรมและอนุโมทนาในทานทั้งหลายที่ท่านจขกท.เพียรทำอยู่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2016
  9. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ดิฉันขออนุญาติออกความเห็นตามตรงว่า ชาวพุทธบริษัทไม่ค่อยฉลาดในการทำทาน หมั่นเพียรแต่ถวายวัตถุทานแม้จะเป็นองค์พระพุทธรูปที่มีคุณค่าทางจิตใจ แต่ทำไมข่าวอาชญากรรมหรือคนยากไร้ยังมีอยู่ให้เห็นรายวัน

    ขอโยงประเด็น ชีวิตดิฉันตอนนี้ต่างจากแต่ก่อนมากเพราะมีความสุขกับการที่ มีนิสัยจาคสัมปทา คือการทำทานเราต้องพร้อมเสมอตลอดเวลา เพราะผู้ขออาจเป็นใครก้อได้ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นพระสงฆ์ และบางครั้งเราจะรู้ว่าเรายังหวงของ แต่เราต้องสละ เพราะมีคนมาชอบมาขอ (คนที่ตลาดชอบสร้อยข้อมือ คนที่ตลาดมาแย่งของแจกจากมือ) คือการทำทานต้องพร้อมสละออกทุกเมื่อ ไม่ใช่ว่าวัดกันตรงที่ต้องเข้าไปถวายพระพุทธรูปที่วัดเท่านั้น เมื่อบ่ายดิฉันซื้อทาโกะยากิมา35บ. จากห้างกำลังเดินกลับบ้าน ด้วยจาคสัมปทา ความถึงพร้อมด้วยการบริจาค ดิฉันเห็นคนเก็บของเก่าขายเป็นลุงแก่ๆ ดิฉันต้องสละให้ทันที เรื่องนี้เป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน ต้องหมั่นสร้างนิสัยนี้อยู่ตลอด วันนึงพบหลวงตาบิณฑบาตเดินสวนมา ซาลาเปาที่ซื้อจากเซเว่นจะนำไปฝากคุณพ่อ แต่ความคิดตัดสินใจไวว่าคุณพ่อมีกับข้าวเยอะแล้ว และพระท่านอาจนำอาหารไปให้คนยากไร้ในชุมชนแถววัดก้อเป็นได้ เลยนิมนต์และสละซาลาเปาลูกนั้น

    เมื่อก่อนดิฉันใส่บาตรเพราะถูกปลูกฝังมา แต่พอศึกษาธรรมะก้อเข้าใจการทำบุญกุศลได้ลึกซึ้งขึ้น

    เพียงแค่มีใครสักคนในโลกแผ่เมตตาอัปปมัญญา ดิฉันว่าจะมีประโยชน์กับทุกภพภูมิและมีอานิสงค์มากกว่าการถวายพระพุทธรูป

    ยกเว้นกรณีชำระหนี้สงฆ์ *** แต่ก้อสามารถหยอดตู้ได้นี่คะ

    ดิฉันไม่มีเจตนาจะบอกว่าพระพุทธรูปเป็นเพียงวัตถุนะคะ เพราะพระภิกษุเองควรมีการบริหารจัดการสิ่งที่โยมนำมาถวายด้วย ต้องฉลาดในการจัดการด้วย เพราะที่บ้านดิฉันเคยจัดงานบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ท่านก้อไปให้วางไว้ในโรงเรียนโดยไม่มีใครจัดการ คนที่นั่นก้อบอกว่าให้เราเอากลับมากิน แต่เราเป็นคนทำบุญนะคะ ไม่ใช่คนยากไร้ เรานำของมาส่ง แล้วทำไมยังจะแบ่งให้เราเอากลับมาอีก สิ่งของที่ทางหมู่บ้านทำบุญมีมากมายเกินความจำเป็นของทางวัด

    สังคมไทยน่าจะปลูกฝังการขัดเกลาจิตใจเป็นหลัก เลิกงมงายกับการเชื่อโชคลาง สะเดาะเคาระห์สักที ทำสังฆทานครั้งเดียวเจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิเลยทันทีหรอคะ และถ้าไม่เปลี่ยนตัวเอง อะไรก้อคงดีขึ้นมาไม่ได้หรอกค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2016
  10. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    /||\ /||\ /||\
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    พระพุทธรูปไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ที่ชาวบ้านถวายมาล้วนมีความสำคัญ ทางวัดควรเก็บรวบรวมเอาไว้ให้ดีเพื่อรอบรรจุในพระเจดีย์หรือในองค์พระใหญ่
     
  12. pukub

    pukub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2014
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +219
    ไม่เกี่ยวกับเรา ไม่ต้องไปยุ่งคับ
    ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นคับ
    ทำตัวเราเองให้ดีพอแล้วคับ
    ทำศีลของเราให้ครบ ทำบุญอะไรของเราไป

    ไม่ใช่แค่ที่นี้ที่เดียว ที่อื่นก็มี

    การที่เรามีศีล มีอะไร ทำตามคำสอนพระพุุทธเจ้า
    ก็เท่ากับเป็นการบำรุงศาสนาแล้วคับ
    เราทำกับเรื่องยาก ๆพวกนี้ไม่ได้ เราก็บำรุงศาสนาด้วยวิธีนี้ดีกว่า
    คือเป็นผู้ปฏิบัติ
    ทำง่าย และสบายใจ คับ

    คนเราตัวเล็กนิดเดียวเองคับ
    โลกใบใหญ่
    ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามเรื่องของมัน
    เราสนใจ ในส่วนที่เราสบายใจดีกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...