ตรรกะ คนสมัยใหม่ ในความเห็นเรื่องบาปบุญ กลายเป็นเรื่องของคนโง่หรอครับ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Jera, 12 เมษายน 2016.

  1. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    ขอบคุณสำหรับคำชี้เเนะครับ

    เเละต้องขออภัยทุกท่านที่ต้องรบกวน เนื่องจากผมค่อนข้างที่เต็มไปด้วยความไม่รู้เเละสงสัย

    เเละวันข้างหน้าถ้ายังไม่ถึงกาลกริยาตาย คงได้มีปุจฉา กันเรื่อยๆครับ
     
  2. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    สังเกตเข้ามาเลย

    แม้นจะเป็น ธรรม

    ความพอใจในธรรม แม้นนี้ก็เป็น เวทนา (พอใจ) โดยมี ธรรม เป็น ผัสสะ

    เพราะ ความพอใจในธรรม แล้วไม่ได้กำหนดรู้ คุณ และ โทษ ทำให้เกิด อุปทาน

    พออุปทานในธรรมรำงับ ตรงนี้ ให้รีบยกดูเลย เราจะเรียก "อุปกิเลส"

    พอมี อุปกิเลส ความ ฝุ้งซ่าน สงสัย มันก็ อาศัย ย่ำยี จิตของเรา

    ดังนั้น เวลาฟังธรรม ปฏิบัติธรรม รู้ธรรม แจ้งธรรม ให้ ยก ความพอใจ ที่เกิดขึ้น นั้นด้วย
     
  3. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    พอความพอใจในธรรม ดับ


    จิตเรา ก็ สงบ รำงับ สังเกตเข้ามา


    เชื่อไหมว่า หากเรา อาศัย จังหวะนี้ ยกจิต ยกสิกขาบทได้

    คนในพันธทิพย์เหล่านั้น เขาจะได้กระแสธรรมไปหล่อเลี้ยงจิต
    ให้สนใจ ใส่ใจ ที่จะ มาเสวนาธรรม

    เขามา ก็เพราะ หิว

    แต่เพราะว่า เขายังกำหนดรู้ทุกข ไม่ถูก เขาเลยคลาดธรรม

    แต่ถ้าเรา กำหนดรู้ทุกขถูก เขาจะมี เชื้อ มีตัวอย่าง ในการ เอ๊ะ [ เป็นเรื่อง ธรรมฤทธิ์ ผู้หมุนคือ พระศาสดา มีเจ้าของกระทู้เป็นสื่อ ]

    เรียกว่า เขาจะกำหนดรู้ ความพอใจในการแย้ง ซึ่งมันก็ เกิดดับ เหมือนที่
    คุณเจ้าของวกระทู้ จะยก สิกขาได้ เหมือนกัน เป๊ะ ไม่มีรอยอื่น ต่าง
    กันที่สัญญา(กุศลบ้าง อกุศลบ้าง อัพยากตาบ้าง)



    " อย่าดูเบา การนิ่งเฉย ของพระอริยะ "






    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2016
  4. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    หมายถึง ปิติ หลังจากการ ใด้รู้ในข้อธรรมที่ไม่เคยได้รู้จากการ ปฏิบัติ

    หรือ ฟัง อ่าน พิจารณาจนข้อธรรมเเตก รึเปล่าครับ

    พอปิติในธรรมจางคลาย ก็จะมีความรุ่มร้อนขึ้นมาในกรณีของ ผมนนะครับ

    เเละใน คำว่า ยกที่นี่ ผมยังไมเข้าใจในบัญญัติ ศัพท์ครับ

    คือวางอุเบกขา หรือดู หรือ กำหนดรู้ หรือ พิจารณาต่อ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2016
  5. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,979
    ค่าพลัง:
    +3,259
    ปิติ ที่เรามักได้ยิน มักจะเป็นเรื่อง อาการโลดโผน


    ปิติ อันเกิดจาก การกำหนดรู้ทุกขสัจจ จะเป็น ปิติในโพชฌงค์
    จะมี รสเพียงแค่ให้เห็นว่า เป็นปัจจัยในการ สงบ และ พอสงบ
    ก็เป็นปัจจัยกลับให้เกิด ปิติ

    ดังนั้น

    พอความพอใจในการตั้งกระทู้นี้ คุณจบ

    มันจบ เพราะ ความพอใจมันหมด ปัจจัย ( เกิดขึ้นครั้งแรก ตอนตั้งกระทู้
    ตั้งอยู่ ขณะที่เสวนาย้อนแย้ง ดับไป ขณะที่กำลังกล่าว ลา )

    หากกำหนดรู้ ความพอใจในธรรม ที่เป็นเหตุให้ตั้งกระทุ้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

    ภพของนักเสวนาก็หมด จบลง

    การดับไปของ ภพ ก็อาศัยเห็น ความพอใจในธรรม นั้นดับ

    หากยกสิกขาได้ ความสงบรำงับ จะกลายเป็น ธรรมวิจัยยะ


    สติจะบริสุทธิ เมื่อ มีอุเบกขา และ มีการ แลอยู่ ( อุเบกขาก็เกิดดับ)

    สัมปชัญญะ การเห็นว่าตน ยกสิกขาได้หรือไม่ได้ จะอยู่ที่ เห็น สติ ก็ดับด้วย
    ไม่ใช่ อุเบกขาดับอย่างเดียว สติจะต้องดับไปตามอุเบกขาที่ดับลงด้วย

    ตามเห็นตามความเป็นจริงแบบนี้ จะค่อยๆ รู้เองว่า ศาสนา คืออะไร

    การปฏิบัตธรรมคืออะไร


    การเสวนาธรรมตามกาล เป็นมงคล เป็นอย่างไร

    การเสวนาธรรมตลอดกาล เป็น อัปมงคล เป็นอย่างไร
     
  6. อินทรี

    อินทรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +562
    คนเราถ้ามีปัญญา ไปอยู่ที่ไหนก้ใช้ปัญญาหาเหตุ หาผลได้ ว่ามัน เท็จ จริง ถูก ผิด ประการใด เป็นประโยชน์ไหม แต่ถ้าคิดไม่เป็นเลย ก้จะเหมือนแค่เด็กเกรียนคนนึง(คนสมัยใหม่บางคน)ในเว็บดังที่คิดว่ารู้แล้ว เก่งแล้วที่ถูกหยิบยกเป็นตัวอย่าง ทำให้ผู้รู้คนอื่นมาอ่านเจอแล้วหัวเราะเยาะเอาว่า ที่โพสท์แบบนี้คือมันคิดได้แค่นี้เองหรอ?
    นี่หรือชาวพุทธ หรือ นี่หรอเยาวชนของชาติ?!ช่างไม่เข้าใจหลักคำสอนในศาสนาตัวเองบ้างเลย สมเด็จพระญาณสังวรฯ ท่านเคยกล่าวว่าเกิดเป็นชาวพุทธ ไม่ทำหน้าที่ หรือไม่สนใจในหลักคำสอนและหลักปฏิบัติโดยเฉพาะเรื่อง
    คุณของพระพุทธเจ้า กฏแห่งกรรม บุญและบาป โลกนี้ โลกหน้า
    จัดว่า เป็น "โมฆะบุรุษ" โดยแท้
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ธรรมะในใจลุงกล้วยไข่นี่ถึงขั้นดีนะ แต่เขียนหนังสือ
    ไม่ค่อยเก่งจึงถ่ายทอดออกมาแล้วไม่ค่อยให้สาระกับ
    ใครๆ ได้เท่าที่ควรแต่ก็ชอบขีดเขียนไปเหมือนเสพติด
    การโพสต์โปรดให้ความเมตตา
     
  8. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    เอาน้ำสะอาด ใส่แก้วดื่ม กับเอาน้ำสกปรก ใส่แก้วแล้วดื่ม
    ผลลัพธ์ที่ได้จากการดื่มน้ำก็ขึ้นอยู่กับน้ำที่ใส่
    เอาน้ำดีใส่ ดื่มไป ก็มีประโยชน์
    เอาน้ำไม่ดีใส่ ดื่มไป ก็มีแต่โทษ
    น้ำดีน้ำเสีย ก็เปรียบเสมือนกรรมดีกรรมชั่ว
    ผลจากการดื่มน้ำ ก็คือผลที่เกิดจากกรรมดีกรรมชั่ว
    มันเป็นเรื่องของเหตุของผลที่มันเป็นเหตุเป็นผลที่ชัดเจน
    ใครจะบอกว่าการดื่มน้ำดีน้ำสะอาด จะได้ผลไม่ดี
    ดื่มน้ำสกปรกสิ ถึงจะได้ผลดี
    นั่นมันก็อยู่ที่ความสามารถในการพิจารณาของเขา
    ถ้าเขาพิจารณาได้ เขาก็รู้เอง ว่าทุกอย่างล้วนเกิดแต่เหตุ
    เหตุดี ผลก็ดี เหตุไม่ดี ผลก็ไม่ดี
    กระดกน้ำสกปรกเข้าปากไป 1 แก้ว
    ตราบใดที่อาการที่เกิดจากการดื่มน้ำสกปรกเข้าไปมันยังไม่ออก
    เขาก็ว่าไหนล่ะ ผลไม่ดีที่เกิดจากเหตุไม่ดีน่ะอยู่ไหน ไม่เห็นมันจะมีอะไรเลย
    เขาก็ว่าไปอย่างนั้น
    จนเมื่อผลมันออกนั่นแหละ เขาถึงจะรู้จะตระหนักจริง
    ว่าอ้อ...แท้ที่จริงแล้ว ผลมันเป็นไปตามเหตุจริงๆ
    เหตุดี ผลก็ดี เหตุไม่ดี ผลก็ไม่ดี
    มันเป็นอย่างนั้น อย่างที่ท่านผู้เจริญทั้งหลายเขาสอนไว้จริงๆ
     
  9. เทพคาถา

    เทพคาถา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +374
    การจะสอนใครเราต้องดูความพร้อมของผู้รับ
    สิ่งที่แรกที่เราจะต้องรู้คือเราเป็นเพียงแค่ผู้ชี้ทาง
    เขาจะเชื่อหรือไม่พยามเชื่อก็แล้วแต่ตัวเขาเองที่จะ
    ตัดสินใจ
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ท่านผุ้เจริญ ท่านกล่าวมากกว่า เหตุผล น้ำดี น้ำไม่ดี

    ท่านผู้เจริญท่านกล่าวถึงปัญญา น้ำดี ก้พิจารณาให้เหนว่า เปนน้ำไม่ดี

    น้ำไม่ดี ท่านพิจารณาให้เหนเปนน้ำดี ได้

    พิจารณากลับไป กลับมา จนเหนือ เหตุผล เหนือโลก

    ไม่ติดข้องอยู่ในบัญัญัติ น้ำดี น้ำไม่ดี

    ทำให้ พิจารณาทั้งน้ำดี และน้ำไม่ดี คือ ยิ่งกว่าน้ำดี

    คืออาสัยพิจารณาน้ำดี และน้ำไม่ดี อันผุ้เจริญไม่จริง
    จักอาสัยยกวาทะ ทำโวหารว่ารุ้จักทั่วถึง จนพบหนทาง
    ที่ผู้เปนบัณฑิต ไม่ข้องอยู่

    อาสัยพิจารณาน้ำทั้งสอง จน พ้นการติดข้อง

    จึงเรียกว่า รุ้น้ำดีอันยิ่ง ไม่หวลกลับไปติดน้ำดี น้ำไม่ดี อันเปนเรื่องของอุปาธิ การอุบัติของโลก
     
  11. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    การกล่าวธรรม พระพุทธองค์แนะให้ กล่าวแต่ทุกข์
    การละเหตแห่งทุกข์

    เมื่อเขาสดับ แม้นปฏิเสธด้วยปาก

    แต่จิต จะไม่สามารถทัดทาน ธรรมจักร ได้

    เขาจะสนใจ เงี่ยโสตสดับ แม้นปากจะปฏิเสธ

    ขันธ์5 เปนทุกข์
    วิญญานขันธ์ เปนทุกข์
    ดับผัสสะ นามรูป ปัจจัยการของ วิญญานได้ จึงสงบ รำงับ
    ไม่มีสัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    การนมสิการธรรม โยนิโสมนสิการ เปน อนัตตา

    จะบังคับให้ จิตอวิชชา ไม่ทำโวหารให้เคลื่อน
    คลาดจาก โยนิโสมนสิการไม่ได้ หากยังไม่รุ้จัก
    การอบรมจิต ที่ถุกต้อง

    ก้ต้องอาสัย น้ำที่เขาสรรเสริญว่าดี ดื่ม ดื่ม อีกแก้ว เมาธรรม
     
  13. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    ถ้าไม่ติดข้องอยู่ในบัญญัติแล้ว แล้วจะปิ๊นาว่าเป็นน้ำดี น้ำไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องของบัญญัติทำมะเขือหอยอะไร
     
  14. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    น้ำดี ก็ต้องพิจารณาแยกแยะตามบัญญัติให้ออกว่าเป็นน้ำดี
    น้ำไม่ดี ก็ต้องพิจารณาแยกแยะตามบัญญัติให้ออกว่าเป็นน้ำไม่ดี
    จะพิจารณาน้ำดี ว่าเป็นน้ำไม่ดี
    พิจารณาน้ำไม่ดี ว่าเป็นน้ำดี
    พิจารณาบัญญัติผิดเพี้ยนอย่างนี้ เราจะกล่าวได้ว่าเป็นปัญญาได้อย่างไร
     
  15. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    แล้วเหตุใด ท่านจึงยังข้องอยู่ พิจารณาอยู่ ในน้ำดี น้ำไม่ดี ที่ท่านว่านี้อยู่หรือ
     
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    งั้นก้ไปเอา น้ำกลั่น มากิน
     
  17. Shinozuke

    Shinozuke Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2015
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +60
    ซึ่งท่านพิจารณาอย่างดีแล้ว ว่ามันสะอาดพอ ที่จะเอามากินอย่างนั้นใช่ไหม??
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    เป่า จะบอกว่า หากมะนุด ไปเอาน้ำกลั่นมากิน

    ฝาหรั่งเขาว่า จะเปนโทษ แก่ร่างกาย
     
  19. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    มันเป็นเรื่องของการเวลาและกระแสความเป็นไปไม่ใช่ความจริงที่ใช้เป็นเป้าหมายของการมีชีวิตหรือการเกิดและตายลงโดยธรรมชาติ คนเราเกิดมาย่อมมีเวลาเท่าที่เรามีเท่านั้นจะรู้หรือไม่รู้อย่างไรก็ไม่ควรประมาท นั่นแหละจึงเรียกว่าเรียนรู้หรือได้เรียนรู้เพราะรสของความลุ่มหลงในสิ่งใดแล้วทำให้หลายสิ่งแปรเปลี่ยนไป และนั่นก็คือความจริงเช่นเดียวกัน
     
  20. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    592
    ค่าพลัง:
    +289
    การเกิดบัญญัติก็เป็นเรื่องเท่าที่ทราบมันธรรมดาสำหรับคนทั่วไปแต่ไม่ธรรมดาสำหรับผู้สัมผัสด้วยใจจริงๆแล้วทราบ หลายสิ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อแต่ไม่มีสักสิ่งเดียวที่เป็นไปไม่ได้ แม้กระทั่งการอาศัยความรู้ในเรื่องกฎเกณฑ์ของกรรมมาใช้เป็นเชิงธุระกิจเพื่อดำรงไว้เพียงควาใลุ่มหลงที่ตนมี ก็เท่านั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...