ใหนใครสามารถ...บอกคนไม่ให้ฆ่าตัวตายกับไม่อาฆาตรจองเวรได้บ้าง

กดเบาๆ ครับ http://www.palungjit.org/smati/apinya6/apinya8.htm

ส่วนจะบริกรรมอะไรยังไง ก็แล้วแต่เลยครับ

 

เมื่อถูกกลั่นแกล้งให้ภาวนา "สัมปจิตฉามิ" <hr style="color:#998049; background-color:#998049" size="1"> ถาม : (คุยเรื่องความไม่พยาบาท)
ตอบ : มีคาถาอยู่บทหนึ่ง มีผลรุนแรงมาก คือ "สัมปจิตฉามิ"

เมื่อมีคนมากลั่นแกล้งเรา เราไม่ต้องไปตอบโต้ ไม่ต้องไปทำอะไรเขา ให้เราจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ โดยมีพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "เรวัตตะ" เป็นที่สุด ขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์ให้เราพ้นจากเรื่องเดือดร้อนนี้ด้วย

แบบนี้คนทำจะซวยเอง ถ้าเขาทำดีกับเรา เขาก็รับดีไปหลายเท่า ถ้าเขาทำไม่ดีกับเราก็เละไปเอง เราไม่ได้ทำอะไรเขาหรอก กฎแห่งกรรมสนองเขาเอง

ถาม : ................................
ตอบ : เป็นงานของ สมเด็จพระพุทธเรวัตตะท่านโดยตรง สมัยของท่านเขาแกล้งกันซึ่ง ๆ หน้า ท่านเทศน์อยู่ก็แกล้งให้คนฟังดิ้นพราด ๆ อยู่กลางศาลา ต้องการจะให้คนเสื่อมศรัทธาท่านให้ได้ เพราะว่าเมื่อท่านตั้งศาสนาพุทธขึ้นมาศาสนาอื่น ๆ เขาเสียลาภผลไปเยอะ ก็พยายามจะแกล้งท่านทุกวิถีทาง

เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าพระองค์นี้ถนัดที่สุดกับการรับมือพวกช่างแกล้ง ท่านเคยให้พรไว้เลยว่า ถึงเวลาถ้าเดือดร้อนขึ้นมาแล้วให้บอกท่าน จุดธูป แล้วภาวนาคาถาบทนี้เดี๋ยวคนแกล้งก็เจ๊งไปเอง

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕

http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3015

 

ไม่อยากบริกรรมพุทโธ เพราะเพี้ยนเป็นพุทโธ่บ่อยๆค่ะ พอเพี้ยนปุ๊บจะเกร็งทันที เลยยิ่งไปกันใหญ่

 

ดังที่คุณนวลปรางว่า ... ผมก็ไม่เข้าใจไปด้วยเลยว่าใครโดนอะไร แรก ๆ นึกว่าคุณเป็นเองเพราะมาอ่านดูทีหลังก็ว่าในทำนองว่าใครโดนของ อะไรประมาณนี้ ... หากเป็นทำนองนี้ผมก็มีของศักดิ์สิทธิ์แนะนำ แต่จะเชื่อถือมั้ยเท่านั้น หากเชื่อถือศรัทธา ย่อมให้ผลทันตาแน่นอนครับเพราะเป็นพระธรรมของพระพุทธองค์ที่น้อยคนจะเข้าใจได้ หากสนใจอย่างที่ว่าทักมาอีกทีนะครับ ไม่สนใจก็ไม่ว่ากัน ... และสรุปให้เข้าใจชัด ๆ สักหน่อยได้มั้ยครับว่า "เกิดอะไรหรอครับ" เผื่อยังมีผู้ยังไม่เข้าใจอีกในเรื่องที่คุณโพสครับ

 

ไอ้ซี่ม่องเซ็กนะอยากบอกจริงๆว่า
ยาเขาดีจริงๆ
มันวางยาให้เป็นแบบนั้น
หากได้หลุดไปกินอาหารชนิดเดียวกัน
แม่เจ้าโว้ยยยย
5555+
โดนบ้างมั๊ยจะได้รู้
5555+

 

เพียงแค่คิดว่ามันยังไม่จบก็นับว่ามีบุญล้นเหลือแล้ว ต่างกับคนที่คิดว่าจบแบบนี้ก็จบแบบนั้นก็จบในใจเขาคงสร้างกุศลมาไม่พอ ถ้าเห็นต่อหน้าก็คงทำใจลำบากมากจะช่วยเขา และคนอีกนับไม่ถ้วนก็ทำเช่นกัน ได้แต่ทำความเข้าใจไปกับเขาว่า เขาเลือกแล้ว นั่นคือทางที่ดีของเขา

 

อย่ารู้เลยคะ
ถนอมหัวใจไว้นานๆดีกว่า
จะได้ไม่พังทลายเหมือนข้าพเจ้า
ถ้ารู้ขึ้นมานี่
ตายอยู่แล้วจะยิ่งกว่าอยากตายอีก
แบบออเดออด่่วน
แบบ
ขอตายเดี๋ยวนี้ ขอตายเดี๋ยวนี้
แบบข้าพเจ้า
5555+

 

ขอขอบคุณ
ผู้ที่มีเมตตา
คะ
หนูไม่รู้จะอธิบายยังใง
มันเศร้าาาาาาา
แต่รู้สึกดีคะ

 

อยู่กับคำบริกรรมก้อดีนะคะ ถ้าจิตรวมเป็นอุปจารสมาธิ เค้าก้อทำอะไรไม่ได้แล้วไม่ใช่หรอคะ เมื่อคืนดิฉันก้อบริกรรม สัม ปะ จิต ฉา มิ ชอบคำบริกรรมนี้ค่ะ

 

ช่วงนี้เอาที่ปัจจุบันเป็นหลัก
โฟกัสคืองาน
งานคือเงิน...เงินคืออนาคต
ขำๆคับ

 

แผ่เมตตาให้เขาเยอะ ๆ นะคับ
แต่ก่อนแผ่เมตตาให้คนอื่น แผ่ให้ตัวเองก่อน

หากจิตเราสงบแล้ว ปัจจัยภายนอกจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ
แต่ถ้าข้างในเราไม่สงบแล้ว ข้างนอกจะเป็นยังไง เราก็เร่าร้อนอยู่ดี

การแผ่เมตตา ด้วยความตั้งใจ ให้ตัวเราเอง จะทำให้จิตเราสงบลง
จากความโกรธ ความไม่พอใจ ความอาฆาต ความพยาบาททั้งหลาย
เพียงแค่เรา อธิฐานในใจว่า ขอความโกรธอย่ามีในตัวเรา
ขอความพยาบาทอย่ามีในตัวเรา ขอความอาฆาต อย่ามีในตัวเรา
อยู่ในที่ ๆ สงบ ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ปล่อยวางจากความวุ่นวายทั้งหลาย
ทำบ่อย ๆ เด่วก็ดีขึ้นเอง

หลังจากนั้นเมื่อตัวเอง มีอารมณ์เป็นกลางแล้ว ถึงจะเริ่มแผ่เมตตาให้คนอื่น

ต้องทำให้ตัวเองเป็นผู้ไม่มีความโกรธให้ได้ก่อน ถึงจะส่งกระแสเย็นให้คนอื่นได้
เราเย็นแล้ว เด่วเขาก็เย็นเอง
เราเย็นแล้ว เขาไม่เย็น ก็ปล่อยเขาไป เด่วเขาก็ร้อนของเขาเอง
ขอแค่เราอย่าไปร้อนตามเขา เท่านั้น

 

ขอหยิบยกคำสอนของหลวงพ่อมาให้อ่านพิจารณากัน ตามนี้
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของ เรานั้น ทรงแสดงเหตุผลชัดเจน มาสร้างความดีจะไปสวรรค์ ต้องมาที่โลกมนุษย์ที่อิจฉากัน เราต้องอดทนต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องสู้ปัญหา อย่าหนีปัญหา การสู้ปัญหา ไม่หนีปัญหาได้มาจากการกำหนดจิต ต้องสู้อย่าหนี

คำตอบ:ต้องแก้ซิ ต้องแก้ปัญหาให้มันหมดไป เหตุเกิดที่ไหนต้องแก้ที่นั่น” นี่ชัดเจนแล้ว

ส่วนมากคนที่จะฆ่าตัวตาย ถ้ามีคนห้าม หรือคนคอยให้กำลังใจ รับรองว่าเขาไม่ฆ่าตัวเองตายแน่นอน ส่วนมากจะอยู่คนเดียวจิตตกเกือบ100% และขาดสติอย่างแรงทำให้เกิดความคิดแบบผิดๆชั่ววูบ แต่หากมีกัลยาณมิตรมาบอก หรือ ตัวเขาเองได้อ่านธรรมะที่ดีๆสักบท เขาจะไม่มีทางทำมหันตบาปกับตัวเองแน่ๆ เพราะรู้ว่าอะไรที่ทำให้เกิดทุกข์และจะระงับเหตุแห่งทุกข์ได้ยังไง

การไม่จองเวรและอาฆาตก้ใช้หลักเดียวกัน คือ ตามพุทธที่เหนประจำคือระงับการจองเวร ด้วยการไม่จองเวร หรือขออโหสิซะ แต่สำหรับคนที่ใหม่ๆในการปฏิบัติ ต้องใช้การปลงให้ตก เพื่อปล่อยวางความโกรธให้ได้ ปลงได้
วางได้ ก้ตัดกระแสอาฆาตออกไปได้ เราอาจจะบอกให้คนโกรธเลิกอาฆาตไม่ได้ทั้งหมด แต่สามารถบอกตัวเองได้ เมื่อผีความโกรธมันเข้าสิงใจเราแต่เมื่อสอนตัวเองได้แล้วนั่นแหละ ถึงจะบอกและสอนคนอื่นไม่ให้อาฆาตได้สนิทใจ

 

อยากตายไปเลย
จากการโดนกระทำอย่างคนไม่ใช่คน
คือให้ตายไปจะได้จบ

หากย้อนความรูสึกที่คิดน้ำตาจะไหลตลอดมันคือการทรมานคนทั้งเป็นคะ
แต่ก็หากไม่ตายจากการโดนกระทำ

ก็จะภาวนาต่อไปคะ
โมทนา

 

เราแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่ได้
แต่เราพิจารณาเห็นโทษของการคิดถึงอะไรที่เป็นภัยต่อใจของเราในปัจจุบันได้
ขอให้ท่านหาสิ่งที่มารบกวนจิตใจของท่านให้เจอ
พอเจอแล้ว ก็ขอให้พิจารณาเห็นโทษของการที่คิดถึงมัน
ข้าพเจ้า ขอให้ท่านพ้นไปจากภัยทั้งหลาย
ขอให้สิ่งไม่ดีทั้งหลาย พ้นออกไปจากท่านให้หมด

 

การที่คุณมาขอธรรรมะ จากผู้รู้
หมายถึงคุณอยากหลุดพ้นจากความทุข
แต่หลายๆท่านไม่อาจช่วยคุณได้ เพราะความ
ทุขของคุณมากมายเหลือเกิน เหตุผลธรรมะใดๆ
ไม่อาจช่วยคุณได้
ผมมีข้อแนะนำอีกวิธี ให้คุณรองดู เผื่อจะช่วยคุณได้
ผมอยากให้คุณรองใช้ยาดู
ขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้ว่าคุณเป็นโรคประสาท แต่อยาก
ให้คุณรองดู อย่างน้อย ก็ช่วยทำให้คุณไม่คิดมาก มันอาจ
ทำให้คุณสบายขึ้นก็ได้ ไม่ต้องทนทุขแบบทุกวันนี้
ยาที่คุณจะไปหาได้ก็ตามสถาบันจิตเวชท์ สถานที่ใกล้เคียง
ที่คุณอยู่ อย่าไปหาตามร้านขาย หรือ คลีนิค มันจะแพงและ
ไม่มียาให้คุณ
รองดูนะครับ ไปหาดูสักครั้ง เผื่อจะช่วยคุณได้

 

รัก โลภ โกรธ หลง ดีใจ เสียใจ ล้วนเกิดจากการปรุงแต่งของจิตทั้งสิ้น โดยการปรุงแต่งนี้เกิดจาก ตาได้เห็น หูได้เห็น จมูกได้กลิ่น ปากได้รส เนื้อตัวได้สัมผัส เมื่ออย่างใดอย่างนึงเกิดขึ้น จิตก็จะทำการปรุงแต่งขึ้นทันที
การฝึกจิต สมาธิ วิปัสสนา สามารถช่วยได้ระดับนึง แต่หากคุณยังไม่สำเร็จถึงขั้นอริยะบุคคลแล้ว เมื่อใดที่จิตหลุดจากสมาธิ เมื่อใดที่คุณตามจิตตัวเองไม่ทัน เมื่อนั้นการปรุงแต่งก็ยังเกิดขึ้นอยู่ มากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
อย่าว่าแต่คุณเลย พระที่อยู่ที่วัดเดิมๆ นานๆ จนเกิดความเคยชิน เกิดความสบายก็ยังยากที่จะเจริญในธรรม พระพุทธเจ้าถึงได้ว่า การธุดงค์เป็นเครื่องตัดกิเลศได้อย่างฉับพลัน และเห็นผลเร็วที่สุด
คุณก็เช่นกัน การที่คุณอยู่ในสถานที่และสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำอวยต่อคุณ กล่าวคือ ตายังได้เห็น(คนที่ไม่ชอบ ทั้งคุณและเขา) หูยังได้ยินสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ให้คุณฝึกจิตและปฏิธรรมยังไง คุณก็คงไม่ก้าวหน้าซักเท่าไร คุณควรเอาอย่างพระธุดงค์ คือ หาที่ๆเป็นประโยชน์ เอื้ออำนวยต่อการฝึกจิตและสมาธิสำหรับคุณ เมื่อจิตสงบเกิดสมาธิความปรุงแต่งย่อมไม่มี ความทุกข์ย่อมไม่เกิด ณ ขณะนั้น นานวันเข้าความโกรธ เกลียดก็จะเบาบางลง สุดท้ายคุณก็จะสามารถอโหสิกรรมให้คนพวกนั้นได้....
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป...

 

เจ้าของกระทู สถานการตอนนี้ คือทุขแสนสาหัส ไม่สามารถควบคุมจิตตนได้แล้วต้องอาศัยยาเข้าช่วยสักระยะให้จิตสงบก่อนจึงค่อยใช้ธรรมะเข้าปรับจิตใจส่วนลึก