อย่าพึ่งอ้างครูอาจารย์ท่านอื่นเลย เรื่องวินัยมันละเอียดข้อปลีกย่อยเยอะ อย่างการที่ภิกษุจุดไฟ ท่านก็มีข้อยกเว้นเช่นป่วยไข้ มีสัตว์ร้าย...
ผมสงสัยว่าเหตุใดท่านจึงนุ่งผ้าขาว ผมเชื่อว่าพระอรหันต์ถือเรื่อง วินัยเหนือชีวิต. และจีวรคือธงชัยพระอรหันต์ ต่อให้นุ่งจีวรขาด...
ผมขอไม่เชื่อครับ พระพากุละ สร้างบารมีเพื่อมาเป็นเอคทัคคะ ด้านอาพาทน้อย ท่านยังมีอายุเพียง 180 ปี ถ้าอายุเป็นพันปี นั่นคือเรื่องแต่ง หลายปีหลังๆ...
ใกล้แล้วครับมีกำหนด 25 มค. 61 พักที่สวนสันติธรรมครับ แต่อาจจะบวชไม่นานครับ
มันยากที่จะหักใจจริงๆสำหรับคู่แท้ ยิ่งคู่แท้แบบพระโพธิสัตว์ กับ นางแก้ว ที่อยู่เป็นคู่มานับอสงไขยฯ ดังนั้นชาติไหนพระโพธิสัตว์ ตั้งใจมาบวช...
เห็นด้วยครับ ที่พระโพธิสัตว์ไม่ควรจะบอกใครๆว่าตนเองเป็นพระโพธิสัตว์ มันเป็นการสุ่มเสียงมาก มีแต่โทษแก่ตัวพระโพธิสัตว์เอง...
การปราถนาพุทภูมิ ผมมองไม่เห็นข้อดีสำหรับตนเอง เพราะต้องเวียนเกิดเวียนตายนานหลายอสงไขย ถ้าพลาดก็ไปอบาย และมองว่าสิ่งที่ต้องการ อย่าง ทศพลญาน...
จขกท. เจตนาหมายถึงเมื่อ ได้โสดาแล้วอธิษฐานกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ และเป็นบุตรของพระพุทธเจ้าในชาตินั้นๆ ถ้าเข้าใจไม่ผิดขอตอบว่าเป็นไปไม่ได้...
ในความเห็นผม ปกติจะแบ่งเพียง ได้รับพยากรณ์ กับยังไม่ได้รับพยากรณ์ กลุ่มที่บารมีเข้มแข็งจริงๆคือบำเพ็ญบารมีในช่วง แสนกัปป์สุดท้าย...
พระอริยเจ้า สูงกว่าพระโพธิสัตว์ในทุกกรณี ถึงพระโพธิสัตว์จะมีบุญบารมีมากกว่า แต่ถ้าว่าด้วยคุณธรรม พระโสดาบันสูงกว่า พระโสดาตัดสังโยชน์ได้แล้ว...
ผมของพูดถึงพระอรหันต์ที่ท่านลาพุทธภูมิสำเร็จนะครับ คนที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ต้องเรียนวิปัสนา เพื่อเอาไว้สอนบริวารเมื่อตรัสรู้...
โอยอะไรกัน โพธิลักษ์ จะต้องลงนรกอเวจี 1 กัปป์ย่อย ขึ้นมาใกล้เทวทัต เพราะทำสังฆเภท และจะต้องพาคนไปอบายมากมาย
เรื่องศิลาจารึกอะไรนั้น ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่ามีศิลาอยู่จริง เรื่องธัมมิราช ก็พัฒนาอยู่ตลอดให้สอดคล้องกับยุคสมัย มีการเปลี่ยนถ่อยคำ...
เรื่องศิลาจารึกที่มีทำนายถึงพระธัมมิราชโพธิสัตว์ ผมอ่านเจอตั้งแต่วัยรุ่น13-14ปี จนตอนนี้ผมจะ 40 แล้วผมยังไม่เคยเห็นศิลาที่จารึกคำทำนายนั้นเลย...
นิสัยของมนุษย์ มันยากจะเปลี่ยนเป็นแสนปี หรือเกิดเป็นพันๆชาตินิสัยก็ใกล้เคียงแบบเดิม วิธีที่จะเปลี่ยนนิสัยได้เร็วสุดคือเจริญวิปัสนา...
บารมีมีทั้ง 10 นั่นแหละครับที่จะทำให้สันดานบริสุทธ์ขึ้นเรื่อยๆ มันฝั่งลึกเข้าไปจนถึงจิตวิญาน. หากสะสมไปเรื่อย...
ผมเรื่องนี้ง่ายต่อการทะเลาะถกเถียง แต่พอถามมาผมก็ต้องขอตอบ ส่วนใครไม่เห็นด้วยก็ใจเย็นๆด้วยกันนะครับ...
วิถีตรวจสอบว่าเป็นนางแก้วหรือเปล่าผมนึกไม่ออก ก็คงต้องให้ผู้มีอภิญญามาบอก แต่ต้องทำใจว่าโอกาสผิดมี ส่วนที่ว่าแก้วที่สร้างบารมีคู่กันมา...
ลึกซึ้งมากครับ
เหตุจากคุณทองเงินตั้งกระทู้ว่า จะเช็คอย่างไรว่าตนเองไดรับพยากรณ์ ผมเลยตอบกลับไป จากนั้นเนื้อหาก็ได้ขยายไปเรื่อยๆ จนเป็นการประกาศตนว่าเป็นนิตยไป...
เรื่องการประกาศตนว่าปราถนาพุทธภูมิต่อหน้าสาธารณะ มันคงขึ้นกับนิสัยแต่ละบุคคล อย่าง รัชกาลที่ 4 ตัวท่านนะรู้ตัวว่าน่าจะใช่แน่...
ยังไม่ไดแต่งงานครับ คือผมเห็นการมีคู่ก่อแต่ทุกข์ และคู่คงไม่ได้ลงมาเกิด
ขออนุโมทนาครับ สำหรับผู้ปราถนาพุทธภูมิต้องสำรวจใจตนเองว่าปราถนาเพราะอะไร ผู้จะทำเสร็จจะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ต้องปราถนาเพราะมหากรุณา...
ในเรื่องประสพการณ์ภาวนานั้นต้องขอออกตัวเลยว่ายังไมีความชำนาญพอจะสั่งสอน แนะนำอาจารย์ผม หลวงพ่อปราโมทย์ แห่งสวนสันติธรรม...
อย่าคาดหวังผมมากเลยครับ กิเลศยังเยอะเหมือนคนปกติ เรื่องจะเล่าก็คิดมาหลายวันว่าจะเล่าดีไหม เพราะมันจะพิสูจน์หรือแสดงให้คนเชื่อมันยาก...
หากเจริญวิปัสนาถูกต้อง โพธิปักขิยธรรมสมบูรณ์ จิตจะตัดเข้าสู่กระบวนการบรรลุธรรม กระบวนการนี้ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แต่จิตดำเนินด้วยตัวของจิตเอง...
อนุโลมญาน ที่ว่าคือกระบวนขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะจิตจะตัดกิเลส ไม่ใช่จิตไปเห็นพระนิพพาน...
พูดไปใครจะเชื่อ ประกาศไปก็เปลืองตัว หลายท่านจึงอยู่แบบสงบๆดีกว่า ถ้าจะบอกก็จะบอกเฉพาะพวกเดียวกัน หรือคนที่สัมพันธ์กัน หรือที่สนิทจริงๆเท่านั้น...
เรื่องฤทธิ์ของพวกนิตย ไม่ได้มีทุกชาติ ถ้าชาติไหนไม่ได้บวชหรือเจริญณานจนชำนาญก็ไม่มี ถ้าหากจะมีก็อาจมีไม่ครบ...
บารมีต้องสะสมครับ ส่วนที่ว่ามี 3 ช่วง ผมมั่นใจว่าไม่มีจริง ขั้นตอนมีเพียง สร้างคุณสมบัติทั้ง 8 ให้พร้อม พบพระพุทธเจ้า ทำอธิการ แล้วก็รับพยากรณ์...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา