ควรนั่งแบบวิปัสนาครับ คือการประคับประคองสติ ระลึกรู้ลมหายใจและสัมผัสทั่วกาย อยู่ตลอดเวลา นิมิตร...
คนถามนี่คงได้รับความคิดของศาสนาแบบเทวะนิยมมาพอสมควร ถึงได้ถามคำถามแบบนี้ ที่พูดเพราะในทางพุทธศาสนานั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมานั้น...
ก็ที่ที่เรากำลังอยู่กำลังเป็นนี่แหล่ะที่เป็นสุดขั้วอีกด้านที่ตรงข้ามกับพระนิพพาน สภาวะของจิตที่ดิ้นรนซัดส่ายไปตามแรงยุของกิเลศ ไม่สงบ ไม่ส่างไสว...
ง่ายจะตาย ก็ลองสอบจิตเขาดูสิ จะได้รู้แจ้งเสียที ว่า "เขา" นั้นเป็นวีรบุรุษหรือทรราช จะได้ไม่ต้องมานั่งบ่นกันอีกต่อไป ส่วนเรื่องน้ำมัน...
ไม่ต้องไปสนใจครับ วางเฉยอย่างเดียว เอาจิตไปจับที่ลมหายใจอย่างเดียว แม้ว่าโลกจะถล่มทลายลงไปตรงหน้าก็ไม่ต้องสนใจ จุดหมายยังอีกยาวไกล...
คนเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาคงสับสนระหว่างหลักศาสนา กับปรัชญาทางศาสนาอยู่พอสมควร...
ตอนนี้อีแมวอันเก่ามันใช้ไม่ได้แล้วนะขอรับ จึงขอแจ้งให้ทราบว่าตอนนี้ข้าน้อยได้เปลี่ยนมาใช้อีแมวอันใหม่แล้ว...
ไปดูในนี้สิมีเยอะเลย http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=3623
ควรเริ่มฝึกแบบสมถะภาวนาก่อนครับ นั่งสมาธิ จับลมหายใจ ภาวนา พุท-โธ ธรรมดาๆ นั่นแหล่ะ นั่งไปเรื่อยๆ แล้วจะมีความก้าวหน้า เมื่อเข้า-ออก...
ผมว่าเราควรระมัดระวังนิดนึงนะครับ ในการที่จะวิพากษ์วิจารณ์ถึงพระเจ้า สิ่งที่เป็นที่เคารพของศาสนาอื่น ในพระพุทธศาสนานั้น...
เห็นบอกว่าถ้าใครต้องการไปพบกับท่าน ต้องอยู่ปฎิบัติธรรมที่วัดก่อน 3 วัน 3 คืนจริงหรือไม่?
ฝึกจิต ก็เหมือนฝึกลิงป่า เพราะมันจะยุกๆยิกๆ ไปโน่นมานี่ไปยอมอยู่เฉย ต้องใจเย็นๆค่อยๆตะล่อมไปเรื่อยๆ อาจใช้เวลาหน่อย แต่ก็คุ้ม
ระดับฌาณ 4 ขึ้นไป ก็น่าจะได้แล้ว เพราะลมหายใจจะหยุดไป สัมผัสในร่างกายจะหายไปหมด เหลือเพียงจิตดวงเดียวโด่ๆเลย
คุณนิติภูมิแกสุดโต่งแบบนี้เสมอ
ความรักเป็นอาสวะกิเลสครับ หากมองแบบทางโลกก็คงจะคิดว่าความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่เมื่อมองลงไปให้ลึกจะเห็นว่า ความรักนั้นมาพร้อมกันกับความ...
แค่ให้รู้ว่ามันกำลังหมุนอยู่ก็พอครับ ไม่ต้องไปบังคับอะไรมัน แค่ทำตัวเป็นผู้เฝ้าดูอาการทั้งหลายก็พอ มันจะหมุน มันจะโคลง หรืออะไรก็ตามแต่ แค่ "รู้"...
เวลาที่คนอยากหาสถานที่ปฎิบัติธรรม ทำสมาธิวิปัสนากรรมฐาน มักจะประสพปัณหาคล้ายๆกันคือไม่ทราบว่าจะไปปฎิบัติที่ไหนดี...
ู^ ^ก็ปล่อยให้มันหมุนไป ยิ่งจิตเราไปสนใจอาการหมุน ก็แสดงว่าจิตเริ่มละจากการภาวนามาสนใจสิ่งอื่น นั่นยิ่งจะทำให้การทำสมาธิก้าวหน้ายากขึ้นไปอีก
หาเวลาซัก 7 วัน เก็บเสื่อผ้าใสกระเป๋าแล้วไปปฎิบัติธรรมที่วัดหรือสถานปฎิบัติธรรมโดยตรงเลย ง่ายที่สุด
การเจริญสติปฎฐานสี่ จริงแล้วมันมีหลายวิธี แต่วิธีที่ฮอตฮิตที่สุดก็คือการเดินจงกรมครับ แต่ถ้าอยากลองของใหม่...
เท่าที่อ่านจากคุณอำนาจมา รู้สึกว่าทางวัดธรรมกายเน้นไปที่ "ศรัทธา" มากกว่าอย่างอื่น (นิกายของมหายานก็เน้นไปในลักษณะนี้)...
ก่อนอื่นต้องปล่อยวางความรู้สึก อยากเห็น อยากสำเร็จ อยากได้โน่นอยากได้นี่ลงเสียก่อน...
อืมม....
คริสต์นี่ไม่เท่าไหร่ แต่อิสลามนี่สิ ....
อืมมมม... ดูแล้ว สกัดเจ้าตัวกามราคะได้ชงัดนักแล
ติดอยู่กับสิ่งสมมุติ ตอ่ให้มีพระเยซูฟื้นขึ้นมาใหม่อีกร้อยครั้งพันครั้งแต่หากคริสตศาสนิกยังไม่ปฎิบัติให้ถึงแก่นของศาสนาอย่างแท้จริง...
สายวิชรญาณนี่เขาภาวนากันทั้งวันทั้งคืนเลยนะครับ ภาวนากันแบบลืมโลกไปเลย ไม่แปลกหรอกที่จะได้ฌานกันอย่างรวดเร็ว เขาจะนั่งนับลุกประคำ เคาะไม้กันตลอด...
เป็นเพียงการดิ้นรนกระเสือกกระสนเอาตัวรอดของสัตว์ที่บาดเจ็บจนมุมเท่านั้นเอง สู้ไม่ได้ก็กอดคอเอาเป็นพวกเสียเลย
เลี่ยงไปฝึกโยคะดีกว่า ได้เหงื่อเหมือนกัน
แอบรู้จักคุณเด็กบ้านยางฯ ตั้งแต่เข้าไปอ่านบอร์ดลานธรรมตั้งนานแล้ว ขอให้อย่าเพิ่งละความเพียรนะครับ แต่ที่ควรจะละให้ได้คือความอยากโน่นอยากนี่...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา