ญานเปรียบได้ยังตัวอย่สงที่พอเห็นเคียงกันได้สำหรับบุคคลธรรมดาทัาวไปอย่างเราๆ กล่าวคือ ยกตัวอย่างเรานอนฝัน เราไม่รู้ตัวว่าเราฝัน...
อนุโมทนาสาธุครับ
5555ใช่เลย กล่าวอย่างวิทยาศาสตร์หน่อยคือ จิตวิทยาชนิดนึงครับ แต่เป็นไปในทางทำลาย ถ้าคนไหนไม่เข้าใจคล้อยตามอารมณ์เค้าทำชั่วแล้วได้ตามความอยากตน...
...... .... กรุณาใช้ สมาธิในตายน่ะ ถ้าเราสามารถฝึกใช้สมาธิบ่อยๆ การใช้สมาธิในตาย จะสะดวกกว่า คือจะฝึกได้ง่าย.......
ตอนนี้สำเร็จไปอีกหนึ่งเคส คือคนนั้น มีอาการป่วยทางกาย ซึ่งรักษาหายยากจนเป็นเหตุให้เสียอะไรต่ออะไรหลายอย่าง จนมีอาการป่วยทางใจ...
......
ขออนุโมทนา สาธุ
จิตไม่มี
ยังไงขออนุโมทนากับผู้ตั้งกระทู้นี้ก่อนนะครับคุณไสยย์ อำนาจสมาธิชนิดหนึ่งบวกกับคาถาคำบริกรรมที่ใช้ กำลังสมาธิชนิดนี้ช่วงหลังได้เปลี่ยนมาใช้...
อย่าเมาเท่านั้นเอง คนมีของส่วนใหญ่ต้องถือศีล มีสติ คือ จิตมันไปจับตรงนู้นตรงนี้มาเห็นเป็นรูป คือมันไว ความรู้สึกมันไว จึงควรตั้งสติ...
บางท่านอาการลมจุกที่ท้องเจ็บอยู่แต่ไม่รู้ตัวเองก็มีคืออาการของลม ถ้าพิจารณาให้ดี ยังเจ็บ แต่ไม่รู้สึกได้น้ะ อาการแบบนี้ ก็ทำสมาธิแบบไม่กดดัน สบายๆ...
.......จิตตอนนี้เป็นทุกข์อยู่รึเปล่า เปรียบเราอยู่กับทุกข์มีอารมณ์ทุกข์ เรารู้มันรึเปล่า ความทุกข์นั่นน้ะ มันทำให้เราเป็นเช่นไร ความรู้สึกนั้นๆ...
.....ถึงตอนนี้ ควรวางจิตให้ถูก คือ จิตมันรู้อะไร นึก อะไร ให้รู้ ว่า จิตมันไปรวมอารมณ์น้อมเอา เข้าไปในความรู้ ความเห็นนั้นๆหรือเปล่า เช่น...
สังคมสำหรับเราสมัยนี้ มีพลังลึกลับเกิดขึ้นมามาก จะแยกได้หลายอย่าง เช่นพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ พลังแห่งจิตสำนึก พลังแห่งการอดทน...
ธรรมะอยู่ที่ไหนๆก็เป็นธรรมะ คือ ภาวนาพิจารณา บ่อยๆ อะไรๆ เข้ามาทางตาหูจมูกลิ้นกาย ใจ รู้ พิจารณาอย่างนั้น เท่ากับใจมีธรรมะ ไม่ห่างภาวนา...
กล่าวโดยรวมสำหรับผู้เริ่มปฎิบัติกันง่ายๆก่อน มรรค ก็อาจแปลหมายได้ว่าก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ศีลคือระวังรักษา กายใจ สมาธิ ตั้งใจมั่น ปัญญา รอบรู้อยู่...
เรื่องของการถอดจิตเนี่ย คือต้องเข้าใจผู้รู้ซะก่อน คือยังไม่ทิ้งผู้รู้ คือใช้ประโยชน์จากความรู้ความเห็นในทางที่ มีสติชอบ อย่างนั้น...
มันไม่มีอะไร แค่ทำเหตุ คือว่า เราจะเดินมรรค แต่เราไม่ได้แต่งผลมัน ตั้งสติไว้ชอบเท่านั้นล่ะ มันไม่มีอะไรหรอก การปฎิบัติส่วนตัวของผมเองมีแค่นั้น
สมาธิในการปฎิบัติ ข้ามจิตไปอีก คือส่วนบุคคลท่านอื่นอาจแตกต่างไปบ้างน้ะ ข้ามจิตไปอีกคือเหนือความนึกคิดของท่านเองอยู่เสมอ อย่างนั้น...
เปรียบอารมณ์เหมือนน้ำ ดื่มน้ำขุ่นๆ มันก็รู้สึกไม่ค่อยนะครับ...
ความรู้ที่จิต
ถ้ายังเลื่อนลอยไม่คงที่ นักปฎิบัติให้ดูความไม่เที่ยงเลยครับ คือ เปรียบเหมือนกับว่าเหมือนๆเราไม่มีสติอยู่ทุกขณะ...
องค์ของสมาธิ มี วิตก วิจารณ์ ปีติ สุข เอกคตา คือ ผู้รู้ ก็คือ รู้ว่า องค์ ของสมาธิขั้นนั้นๆ เป็นอย่างไร คือเมื่อกำหนดสมาธินำคำบริกรรมภาวนามาใช้...
ลองๆสักอาทิตย์นึงนะครับ บริกรรมภาวนา ทำสมาธิบ้าง ให้มีกำลังขั้นอุปจารสมาธิ จะเข้าใจขึ้นครับ ว่าทำไมฝัน แบบนั้น
อย่างผู้ถามสำหรับท่านต้องใช้ภาษาบาลีที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าจึงเข้าใจง่าย เช่นนั้น จึงเข้าใจ อย่างนั้นรึเปล่าครับ อย่างนี้ ตอบได้แต่เพียงง่ายๆ...
ติดตามอยู่ครับเวบนี้ แต่ทีแรกๆโดนแฮก เลยปล่อยไป คือเห็นเค้าเป็นคนโรคจิตทั่วๆไป คิดว่าใครที่เล่นเน็ตจะต้องเจอมาบ้างไม่มากก็น้อย...
ทีแรก ก็เห็น ติดตามอยู่แต่ทุกทีจะโดน แฮก คือ เล่นๆ แต่พอรู้ว่าโดนแฮก ก็เลยไม่สนใจปล่อยๆคนเล่นมันเป็นโรคจิตตามเรื่องคล้ายคนโรคจิตทั่วไป...
การฝึก มโนมยิทธิ เป็นการสร้างสมาธิ แต่คำบริกรรมคาถานั้นๆ สามารถทำให้ไปรู้ไปเห็นอะไรๆในสมาธิได้ ที่กล่าวมาตามแบบ หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ถูกต้องแล้ว...
...อภิญญาสมาธิ คือ รูป นาม เกิดจาก อาการของสมาธิ ถ้าให้เข้าใจ คือ รู้รูป รู้นาม เท่านั้นเองแหละ แต่ คนเรานี่อาจจะรู้อะไรๆ แปลกๆก็ได้ สรุป...
หาความสงบครับ ทำสมาธิมีความรู้ แล้วพบความสงบ เราก็เริ่มต้นในทางสงบ
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา