เรื่องเด่น กฎแห่งกรรม ไม่เคยปราณีใคร!! "หลวงปู่คำคะนิง" เตือน พวกชอบแต่งตัวยั่วยวนอวดเรือนร่าง นรกรออยู่

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 28 กันยายน 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    หลวงปู่คำคะนิง-พลังจิต.jpg

    กฎแห่งกรรม ไม่เคยปราณีใคร!! "หลวงปู่คำคะนิง" เตือนไว้ พวกชอบแต่งตัวยั่วยวนอวดเรือนร่างทั้งหลาย นรกรออยู่...


    เรื่อง "กรรมของผู้ที่ชอบแต่งตัวยั่วยวนอวดเรือนร่าง"

    (ปกิณกธรรม หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี)

    หลวงปู่เดินเที่ยวชมเมืองนรกต่อไป เห็นสถานที่แห่งหนึ่งสว่างไสวรุ่งโรจน์ดุจแสงฟ้าแลบอยู่ แปลบปลาบยกพื้นเวทีกว้าง สะพานทอดยาวโค้งลงไปในสระน้ำอันกว้างใหญ่ สระน้ำนั้นลุกไหม้เป็นเปลวไฟแดงฉานโชติช่วง น่าสะพรึงกลัว ! ก็รู้ว่าเป็นขุมนรก บนสะพานนั้นมีหญิงสาวรูปร่างอรชรสวยงามจำนวนมาก พากันเดินจากเวทีมีม่านผืนใหญ่มหึมา หญิงสาวเหล่านั้นแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์สวยงาม และหลงใหลยึดถือว่าร่างกายตัวตนนั้นแสนงดงามเดินนวยนาดทอดขา ลงจากเวทีมาตามสะพาน

    จ่ายมบาลอธิบายว่า “มนุษย์หญิงเหล่านี้เป็นพวกนางงามนางแบบ กำลังเดินโชว์ร่างกายและเสื้อผ้า” หลวงปู่ยืนงุนงงประหลาดใจยิ่ง เพราะนางงาม นางแบบเสื้อผ้าอาภรณ์สวยงามฉูดฉาดสะดุดตาเหล่านั้น เดินเรียงรายตามกันออกไปยืนอยู่กลางสะพาน แล้วเปลื้องเสื้อผ้าออก เหลือแต่ร่างกายล่อนจ้อน อุจาดนัยน์ตา แต่ละนางเรือนร่างล้วนสวยงาม ด้วยส่วนสัดปานนางฟ้า จากนั้น ก็มีนกอินทรีย์ตัวใหญ่บินมาจากไหนก็ไม่รู้ ตานกอินทรีย์แดงฉาน พวยพุ่งออกมาเป็นเปลวไฟ มันบินเข้ามาตรงหน้าหญิงสาวแต่ละนางที่ยืนเปลือยกายอยู่ แล้วใช้จะงอยปากอันคมกริบนั้นจิกเข้าที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว และกระชากทีเดียว !

    หนังศีรษะและเส้นผมก็ลอกออกมา ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า กลายเป็นหนังทั้งแผ่น หญิงสาวนางนั้นส่งเสียงหวีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด สุดแสนทุกข์ทรมาน ปวดแสบปวดร้อนเหลือคณา !

    ชีวิตจิตวิญญาณไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า จะต้องมารับกรรมสาหัสเช่นนี้ ถ้าพูดได้ก็อยากเตือนรุ่นน้องๆ ว่า “อย่าได้มารับกรรมเหมือนข้าพเจ้าเลย”

    1365996-5.jpg



    เมื่อนกอินทรีย์จิกลอกเอาหนังออกไป ก็เหลือแต่ร่างที่แดงฉานไปด้วยเลือด น่าขยะแขยง ! ชวนขนพองสยองเกล้า จะมองหาความงามเมื่อตะกี้นี้ไม่พบเลย นกอินทรีย์ได้จิกกินเอาตาทั้งสองข้างก่อน แล้วจิกเอาเนื้อแดงๆออกมา เผยให้เห็นอวัยวะภายในคือ ตับไตไส้พุง ชวนให้อยากอาเจียน จากนั้นนกอินทรีย์จิกกินตับไตไส้พุงจนหมดสิ้น ! เหลือแต่ร่างโครงกระดูกยืนสั่นสะท้านอยู่

    ฝ่ายหญิงสาวคนอื่นๆ เห็นเช่นนั้นก็มีความหวาดกลัวตายอย่างสุดขีด ! พากันกระโดดหนีลงไปในสระนรกที่เป็นเปลวไฟลุกโชติช่วงแดงฉานนั้น ก็ถูกเปลวไฟนรกลุกเผาไหม้ ส่งเสียงร้องกรีดแหลมระเบ็งเซ็งแซ่ด้วยความเจ็บปวด แล้วก็มีเหล็กคล้ายหอกเผาไฟแดงๆ แทงทะลุร่างหญิงสาวเหล่านั้น ส่งขึ้นมาจากขุมไฟนรก ร่างที่ไหม้เหลือแต่กระดูกขาวโพลนก็กลับกลายร่างเป็นหญิงสาวสวยงามเหมือนเดิม มีเสื้อผ้าอาภรณ์สวมใส่สะดุดตาเหมือนเดิมทุกอย่าง

    ต่อจากนั้นก็ถูกนกอินทรีย์โผบินเข้าจิก กระชากเสื้อผ้าออกเหลือแต่กายเปลือยล่อนจ้อน แล้วจิกหนังลอกออกทั้งแผ่น จิกกินเนื้อกินตับไตไส้พุงเหมือนที่กระทำกับหญิงสาวคนแรก ส่วนหญิงสาวคนอื่นๆ มีความหวาดกลัว ส่งเสียงหวีดร้องวุ่นวายระเบ็งเซ็งแซ่นั้น จะวิ่งหนีไปทางไหนก็ไม่ได้ เพราะมีหอกเผาไฟแดงๆ พุ่งแทงขึ้นมาจากขุมนรก มีเพลิงจี้สกัดหน้าสกัดหลังไว้รอบข้างไปหมด

    _1_282.jpg



    หลวงปู่สลดสังเวชเป็นที่ยิ่ง ! ไม่ทราบว่าหญิงสาว เหล่านี้มีความผิดสถานใด? ถึงต้องมาถูกลงโทษอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตสยดสยองแสนเหี้ยมเกรียมถึงปานนี้ !

    จ่ายมบาลล่วงรู้วาระจิต จึงตอบว่า “หญิงสาวเหล่านี้สมัยเป็นมนุษย์ชอบประพฤติตนทางอนาจาร คือ อวดร่างกายของตน เปลือยร่างต่อสาธารณะ และหลงใหลลุ่มหลงในเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องตกแต่งประดับกายอย่างไม่ลืมหูลืมตา สามารถกระทำชั่วได้ในทุกสิ่งเพื่อแสวงหาเงินมาซื้อเสื้อผ้าอาภรณ์ประดับตัวเองอวดคนอื่น เป็นผู้หญิงประเภทฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ไม่รู้จักศาสนาคำสั่งสอนของศาสดาองค์ใด ไม่เชื่อในคุณความดีใดๆ ไม่ละอายแก่ใจ เชื่อแต่ว่าเกิดมาชาตินี้ชาติเดียว ต้องแสวงหาความสุขให้เต็มที่ กิน ถ่าย เสพกาม และนอนเท่านั้น อย่างอื่นไม่คิด ชาติหน้าไม่มี บาปบุญไม่มี นรกไม่มี พอใจแต่จะทำตามกิเลสของตน ฉะนั้น เมื่อหญิงสาวเหล่านี้ตายแล้ว จึงมาเสวยกรรมในนรกเช่นนี้"

    #หมายเหตุ : ในพุทธสถานที่สำคัญและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มักจะมีข้อความเตือนเกี่ยวกับการแต่งตัวให้สุภาพเรียบร้อย แต่มีบางท่านที่เป็นผู้มีจิตใจที่มืดบอด ได้ออกโจมตีคัดค้านว่า เรื่องการแต่งตัวนี้มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล ใครจะนุ่งสั้นนุ่งน้อยห่มน้อย มันหนักหัวใคร มันผิดตรงไหน ทำไมจึงมาจำกัดสิทธิเสรีภาพ โดยมักยกเอาคำว่า "ประชาธิปไตย" เป็นตัวประกัน แต่ท่านผู้มืดบอดเหล่านั้นจิตใจปราศจากหิริโอตับปะ ไม่เชื่อธรรม ไม่เชื่อเรื่องของกรรม จึงต้องได้รับผลแห่งวิบากกรรมอันเผ็ดร้อนทุกข์แสนหัสในภายหลัง เพราะเมื่อความตายมาถึงแล้ว กรรมซึ่งเป็นธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และเที่ยงตรงที่สุด จะเป็นผู้ตัดสินชี้ชะตา นี่จึงเป็นเหตุผลที่แจ้งชัดประการหนึ่ง ที่หลายๆท่านไม่ทราบเหตุที่มาว่า "การแต่งตัวโป้ยั่วยวนนุ่งน้อยห่มน้อย มันผิดที่ตรงไหน !!!"

    pm0l7(1).jpg

    20151015_faith_6(2).jpg

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาข้อมูล พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น




    เรียบเรียงโดย

    ศักดิ์ศรี บุญรังศรี : สำนักข่าวทีนิวส์

    ------------------
    http://www.tnews.co.th/contents/329713
     
  2. mrmos

    mrmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +1,095

แชร์หน้านี้

Loading...