กฏแห่งการดึงดูด/โลกเสมือนจริงที่มนุษย์จะต้องเปลี่ยนมัน

กฏแห่งการดึงดูด/โลกเสมือนจริงที่มนุษย์จะต้องเปลี่ยนมัน
by กุญแจไขปริศนา

ชีวิตของมนุษย์ทุกคนมีอุปสรรค แต่ถึงอย่างงั้นก็ตามมนุษย์ทั้งหลายสามารถ
ที่จะพลิกสถานการณ์ของตัวเองให้ดีขึ้นได้อยู่เสมอ ไม่ว่าคนเราจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม

คนที่เป็นขอทานข้างถนน มีพลังอำนาจที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวย

คนที่ร่างกายที่อ่อนแอ โดนรังแกและถูกกลั่นแกล้งอยู่เสมอ มีพลังอำนาจที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียอันดับต้นๆของโลก

ผู้ชายคนที่ไม่สมหวังในความรัก อกหักและเจ็บปวดกับเรื่องรักอยู่เสมอ มีพลังอำนาจที่จะสามารถทำให้คนที่ตัวเองรักผู้ไม่เคยหันมามองเลย ให้หวลกลับมาคิดถึงเขาคนนั้นจนแทบทนไม่ได้

การอ่านและถกเถียงกับคนอื่นยังไม่เพียงพอ แต่การจะพลิกสถานการณ์ในชีวิตของเราได้นั้นจะต้องเต็มเปี่่ยมไปด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและความเมตตาอย่างเต็มเปี่ยม จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้

ถ้าหากเป็นคนดีมีความรักต่อเพื่อนมนุษย์อย่างเต็มเปี่ยมแต่ถ้าขาดจิตใจที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมนุษย์ก็ยังไม่สามารถพลิกสถานการณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

ถ้าหากจิตใจเข้มแข็งแต่ยังไม่เป็นคนดีเท่าที่ควร มนุษย์ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่ตัวเองอยากเปลี่ยนได้เต็มที่เช่นกัน

มนุษย์ทั้งหลายจะสามารถฝ่าฝันอุปสรรคในชีวิต ได้สมหวังในสิ่งที่ต้องการ จวบจนกระทั่งถึงชาติสุดท้ายที่บรรลุธรรมได้ด้วยการเป็นคนมีเมตาอย่างถ่องแท้และุจิตใจเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวอย่างถ่องแท้

 

ตอนนี้ชีวิตเราก็ใช้กฎนี้อยู่

 

ผมเห็นหลายกระทู้ในห้องนี้มากๆ ที่พูดถึงการเป็นคนดีเข้าไว้ มีความรักที่บริสุทธิ์ใจให้มากขึ้นๆ ผมก็เลยอยากจะบอกกับหลายๆคนน่ะครับ ว่าการใจแข็ง การมีจิืตใจที่เข้มแข็งนั้นก็สำคัญไม่แพ้การรัก การมีเมตตานั่นหรอกครับ ยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ

มีคนที่มีจิตใจที่มีความรักโดยไม่มีข้อแม้ให้คนมากมายหลายๆท่านที่เข้าถึงสัจธรรมระดับสูง หลายคนเลือกที่จะเป็นครูอาจารย์ทางจิตวิญญาณคอยประกาศสัจธรรมระดับสูง บางคนเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ทว่าครูอาจารย์ที่บรรลุธรรมขั้นสูงหลายๆท่านกลับถูกฆ่าตาย และนักบุญระดับโลกบางท่านกลับตรอมใจตาย นั่นเป็นเพราะว่าหลายๆท่านที่มีจิตใจเต็มไปด้วยความรักอย่างบริสุทธิ์ใจอย่างเต็มเปี่ยมไม่มีอันสิ้นสุดนั้นยังมีจิตใจไม่เข้มแข็งพอนั่นเอง

หากนักบุญผู้ที่คนทั้งโลกรู้ดีว่ามีเมตตามากมายท่านนั้นจิตใจเข้มแข็งพอ ท่านจะไม่ฆ่าตัวตายด้วยเหตุผลที่ไม่ได้รับความรักจากคนอื่นเท่าที่ควร

หากคุรุทางจิตวิญญาณหลายๆท่านที่ผมกล่าวถึงว่าถูกตามฆ่าใจแข็งพอ กฏแห่งการดึงดูดของท่านจะรุนแรงและสัมฤทธิ์ผลมากกว่้านี้ และมันจะดึงดูดสถานการณ์ที่ไม่มีใครสามารถสามารถทำอันตรายท่านได้อยู่เสมอ

ดังนั้นก็ขอให้อย่าลืมที่จะทำให้ใจเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวเข้าไว้เถิด

จิตวิญญาณที่บริสุทธิ์คือจิตวิญญาณที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาและเข้มแข็ง หาใช่จิตวิญญาณที่มีแต่เพียงความรักบริสุทธิ์ใจเท่านั้น

 

หวัดดีปีใหม่ไทย..(กระทู้โดนใจ ต้องเม้นท์)

 

แต่มันหายากถึงค่อนข้างยากไงท่าน ! การที่คนๆนึงจะพึงมีทั้งเมตตาและความเข้ม

แข็งไปพร้อม ๆ กัน ไม่ต้ัองอื่นต้องไกล แม้แต่ ละเม็ง ละคร บ้านเราทุกวันนี้ ส่วน

ใหญ่คนเป็นนางเอกของเรื่องจะต้องเป็นคนน่าสงสารมีเมตตาแต่อ่อนแอสุดๆ และคนเป็น


นางร้ายก็ดูร้ายผิดผู้ผิดคนมนุษย์มนา สร้างให้ดูเป็นคนเข้มแข็ง แต่ไร้ซึ่งความมีเมตตา

หากแต่เป็น หนังหรือละคร ต่างชาติ เช่นเกาหลี ยังพอมีดีให้เก็บเกี่ยว พระรองบ้านเขา

แม้รักนางเอกคนเดียวกับพระเอก แต่ไม่มีที่จะใช้วิธีสกปรก หรือ เล่ห์เหลี่ยมใด ๆ เพื่อ

ได้ใจนางเอก หากแต่คนกลางนางเอก รักและชอบพระเอก บ้านเมืองเขาก็สร้างให้

พระรองเป็นสุภาพบุรุษ รู้ แพ้ รู้ชนะ รู้เสียสละ และอภัย (ที่บอกว่ามัน ต่าง # กับ

ของบ้านเราจริง ๆ )

เห็นด้วยกับการตั้งกระทู้ของท่าน ข้าพเจ้าเองชอบนักกับความคิดที่ว่าคนต้องมีเมตตา

พร้อมกับมีความเข้มแข็ง(มันสำคัญที่ว่าจะต้องไปด้วยกันเลยละ) จริงแท้แน่นอนที่สุด!

สำคัญที่สุด

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในใจมากๆคะ

 

คิดเหมือนกันเราต้องมีเมตตาให้มาก เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา
เราทำดีกะเค้า เค้าก็ทำดีกับเราตอบ catt1

 

น่าสนใจจังค่ะ

 

ทำไมผมมีแต่ดึงดูดเรื่องไม่คอ่อยดีอะ ทั้งๆที่ทำดีแทบตาย
ยุ่งกับหลายศาสนามากไปละมั้ง เลยมั่วตาม ต้องหลุดวงโคจรสักวัน

 

การที่ได้เห็นท่านเจ้าของกระทู้ตั้งเรื่้อง แบบนี้ขึ้นมาได้ ช่างน่า ดีใจและรุ้สึกปลื้มใจ

มากในฐานะมนุษย์บนโลกใบนี้คนนึงละ! การได้ฟัง ได้ share ความรู้สึก นึกคิด

กับท่านเจ้าของกระทู้ ทำให้ นอกจากดีใจในความรู้สึกนึกคิด Vision (วิสัยทัศน์) ของ

ท่านแล้วยังทำให้สบายใจบ้างว่า เออหนอ....ไอ้ความรู้สึก นึกคิดอะไรได้แบบนี้มันยังไม่

สิ้นไปคนดี ๆ ยังมีอยู่ในยุคที่ เป็นสังคม ตัวใคร ตัวมัน เอารัด เอาเปรียบ ไร้ศีล

ธรรมขาดความมีเมตตาและละอาย เกรงกลัวต่อบาปกรรม ที่สำคัญไม่มีภาวะของความ

รู้สึก สำนึกดีรักชาติ ศาสนา และองค์พระมหากษัตริย์เลย

ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้ ที่ช่วยเป็นหน่วยหนึ่งของการผดุงคุณธรรมความดีงามเอาไว้

นะคะ ขอพระธรรมจงคุ้มครองท่านคะ

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในใจมากๆคะ

 

ก็คือหลัหพหรมวิหาร 4 ไงครับ เมตร + ความเข้มแข็ง ก็คือ อุเบกขา วางเฉย เมื่อถึงที่สุดก็วางเฉยเพราะเราทำเต็มที่แล้ว

 

ขอบคุณท่าน Salieaf นะคะ เห็นด้วยว่า หากถึงที่สุดก็ต้องวางเฉย เป็น

ทางออกที่ดี

ด้วยความเคารพ: ขออนุญาติออกความเห็น ถูกละคะ เมตตา+ความเข้มแข็ง สามารถ

ละวางเฉยได้บางจังหวะเวลา สภาวะ และเหตุการณ์ในครานั้น ๆ หากแต่เรื่องบาง

อย่างก็มิอาจวางเฉย หรือนิ่งดูดายได้ ด้วยเหตุการณ์นั้น ๆ มันบีบให้ต้องใช้การกระทำ

ด้วยความจำเป็นและจิตสำนึกจะด้วยหน้าที่ ของความเป็นคน หรือหน้าที่ต่อแผ่นดินถิ่น

เกิดก็ตาม อาจต้องใช้ทั้ง เมตตา+เข้ม และใจที่มี เมตตา+เข้่มแข็ง จึ่ง!! จักอยู่ใน

โลก เวลานี้ยุคนี้ได้ ฉันใดก็ดี เปรียบได้กับพ่อแม่ ดุด่าว่ากล่าว หรือแม้แต่มาตราการ

เข้ม+แข็ง ต่อบุตร-ธิดา นั้นก็เป็นไปเพื่อ เจตนาหวังดีมีเมตตาแต่ต้องเข้มให้รู้ เมื่อถึง

คราว ก็ไม่อาจวางเฉยได้ จำต้องมีมาตระการบทลงโทษ ที่(แข็ง)เพื่ออภิบาลคนดี

และลงโทษผู้กระทำผิดด้วยความเข้มแ้ข็ง ยุคที่เราท่านอยู่นี้หากแต่ทหาร หาญของเรา

จักคิดว่าทุกอย่างมาถึงที่สุดแห่งการป้องกันบ้านเมืองแล้วไซ้ พากันวางเฉยกันหมด ก็ไม่

อาจคาดคิดได้เลยว่าจักยังคงความเป็นชาติต่อไปได้ หรือแม้แต่ในอดีตที่พระภิกษุไม่

ปรองดองสามัคคีกันทำให้พระพุทธองค์ท่านเสด็จหลีกหนีไปที่ป่าหากท่านจะเพิกเฉยเสีย

ทำประหนึ่งไม่รู้ โดยไม่มีบทลงโทษด้วย (พุทธวิสัย) ตามแบบฉบับของพระพุทธองค์)

จนมีช้างป่าปาไลลิยะกะ กับลิงมาถวายอารักขา จนในที่สุด พระภิกษุทั้งหลายก็ได้สำนึก

เพราะประชาชนแอนตี้ไม่มีคนใส่บาตรทำให้ตลอดพรรษานั้นมีความเป็นอยู่ด้วยความยาก

ลำบากมากทุกท่านจึงคิดได้ถึงคำสอนเตือนของพระพุทธองค์ยิ่งนัก จึงหันมาปรองดอง

สามัคคีกันและได้กราบทูลอัญเชิญให้องค์พระศาสดากลับคืนสู่เมืองโฆสิตารามดังเดิม

ขอสรุปว่า: โลกเสมือนจริงที่มนุษย์จะต้องเปลี่ยนมัน ซึ่งต้องมีทั้งเมตตาและความเข้มแข็ง

แล้วจักต้องมี (ศีล) เอาไว้ให้อยู่รวมกันอย่างสงบ เอาแค่ 5 ข้อ !!เป็นนิวรณ์ จะขาด

แม้ข้อหนึ่งข้อใดมิได้.... เมื่อนั้นความ(เข้ม) อย่างที่ว่าคงไม่ต้องมี.....

และที่ยังคงต้องมี เพราะผู้ที่ขาดศีลไร้เมตตาธรรม คุณธรรม ขาดจิตสำนึกของความ

เป็นคนมีกันแทบเกลื่นเมือง มาตตราการทั้งเข้ม! ทั้งแข็ง! มิอาจวางเฉยคงยังจำเป็น

ยิ่งในโลกยุคนี้เวลานี้ละคะ นี่ขนาดปีพ.ศ.2556 นะคะ หากเป็น 3000-4000-5000ปี

เห็นทีต้องเร่งปฏิบัติภาวนาและอย่าต้องปะเหมาะเคราะห์ร้ายลงมาเกิดยุคนั้นๆเลย(กลัวค่ะ

ยอมรับเลยตายไม่กลัวนะคะ กลัวพบเจอกับคนที่น่าจะต้องน่าสะพึงกลัวยิ่งจริงๆ)

เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในใจมากๆคะ