กนก เล่าเรื่อง “นางจิญจมาณวิกา” ใส่ร้ายพระพุทธเจ้าจนธรณีสูบ

กนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวรุ่นใหญ่โพสต์ตำนานสมัยพุทธกาลสอนใจชาวเน็ต โดยอ้างถึง “นางจิญจมาณวิกา” หญิงสาวผู้ไม่เคารพในคำสอนของพระพุทธเจ้า ใส่ร้ายด้วยการตั้งครรภ์จนนำไปสู่โทษมหันต์ “ธรณีสูบ” โดยมีการคอมเมนต์ตีความโพสต์ดังกล่าวไปต่างๆนาๆ



ข้อความแฝงคำสอนจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ Kanok Ratwongsakul Fan Page ซึ่งเป็นเพจที่ กนก รัตน์วงศ์สกุล จะโพสต์เกี่ยวกับหลักธรรมคำสอน เผยเรื่องราวในตำนานพุทธกาล ระบุว่า “หากถามว่าในสมัยพุทธกาล ผู้ใดที่ทำชั่วขั้นร้ายแรงสุด จนถูก “ธรณีสูบ” ไปในทันที หลายท่านคงตอบว่า “พระเทวทัต” ผู้ที่ตามล้างตามผลาญพระพุทธองค์มาแล้วหลายชาติ ซึ่งนอกจาก พระเทวทัตแล้ว ยังมีอีก 5 คน ซึ่งทุกคนล้วนแต่ก่อกรรมทำเข็ญมุ่งร้ายต่อพระพุทธเจ้าและสาวกของพระองค์ทั้งสิ้น ใน 5 คนนี้ มีเพียงหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิง ชื่อว่า “นางจิญจมาณวิกา” (มิใช่อีช่อ พรรณิกา)



นางหลงผิดไปรับอาสาจากพวกปริพพาชก ผู้เชื่อถือศรัทธาในนิกายหนึ่ง ซึ่งเกิดความอิจฉาริษยาที่เห็นคนไปเคารพเชื่อถือในคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงว่าจ้างให้นางจิญจมาณวิกา แกล้งทำเป็นหญิงมีครรภ์ ใส่ร้ายว่าตั้งท้องกับพระพุทธองค์ โดยเอาไม้กลึงนูนไปผูกรัดไว้ที่หน้าท้องใต้ร่มผ้า ให้ดูเหมือนนางกำลังมีครรภ์ แล้วไปเต้นร้องต่อหน้าพระพุทธเจ้า ขณะที่กำลังเทศนาแก่สาวกว่า.. “ท่านสมณะโคดม จะมัวมาเทศน์อยู่ไย ทำให้ฉันมีครรภ์เช่นนี้แล้วไม่ยอมดูแล อย่ามัวเทศน์โปรดสัตว์อยู่เลย จงไปตัดฟืนเตรียมไว้ดีกว่า เมื่อเวลาคลอดลูกจะได้ไม่ลำบาก”

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสดับ จึงหยุดเทศนา กล่าวกับนางจิญจมาณวิกา ด้วยท่าทีสงบว่า ..“ดูก่อนน้องหญิง เรื่องที่เธอกล่าวนั้น คนอื่นเขามิได้รู้เรื่องด้วยหรอก จะมีเธอกับฉันเพียงสองคนเท่านั้นที่รู้” เหล่าพุทธบริษัททั้งหลายได้ฟังดังนั้นต่างก็สงสัย ด้วยพระพุทธองค์ก็มิได้ทรงปฏิเสธ ร้อนถึงพระอินทร์ต้องแปลงร่างเป็นหนู เล็ดลอดไปกัดเชือกที่หน้าท้องของนางจิญจมาณวิกา จนเชือกขาด.. ไม้ที่ทำให้ท้องนูนเหมือนคนท้องจึงหลุดลง ท่ามกลางสายตาของพุทธบริษัท นางตกใจ รีบวิ่งหนีไปแต่พอลับตา ธรณีก็สูบเอาลงขุมนรกอเวจีไปทันที ! นางจิญจมาณวิกาผู้นี้ เมื่อชาติก่อนเกิดเป็นนางอมิตตา ภริยาชูชก หรือพระเทวทัตที่จองเวรพระพุทธองค์มาหลายชาตินั่นเอง วันจันทร์ที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๒ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๗ ปีกุน Cr. รูปจาก Line”

เพิ่มเราเป็นเพื่อน ข่าว ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ทุกวัน @springnews



ขอขอบคุณที่มา
https://www.springnews.co.th/social/509182