กรรมจากการลักทรัพย์

เราจะมีวิธีแก้กรรมที่เกิดจากการลักทรัพย์ได้อย่างไร เมื่อหลายสิบปีก่อนเคยสร้างกรรมนี้ไว้ด้วยความเป็นเด็กและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อระลึกได้ในปัจจุบันหลายอย่างที่รู้สึกว่าเกิดจากกรรมในครั้งก่อน ไม่ว่าจะถูกใส่ร้ายว่าลักขโมยทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำ หรืออยู่ ๆ ก็ถูกจับว่ายักยอกทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เห็น และทรัพย์ที่ทำมาหาได้ก็มีอันต้องมีอันเป็นไปทั้ง ๆ ที่หามาโดยสุจริต การเงินการทำมาหากินก็เก็บเงินเก็บทองไม่อยู่มีเงินเมื่อไรต้องมีอันต้องเสียไปอย่างไม่น่าจะเป็น ไม่รู้ว่าวิบากกรรมนี้จะสนองไปอีกนานเท่าไรและเราจะแก้กรรมนี้ได้อย่างไร วานผู้รู้ผู้มีปัญญาช่วยผู้มีกรรมมากที

 

เราจะมีวิธีแก้กรรมที่เกิดจากการลักทรัพย์ได้อย่างไร เมื่อหลายสิบปีก่อนเคยสร้างกรรมนี้ไว้ด้วยความเป็นเด็กและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อระลึกได้ในปัจจุบันหลายอย่างที่รู้สึกว่าเกิดจากกรรมในครั้งก่อน ไม่ว่าจะถูกใส่ร้ายว่าลักขโมยทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำ หรืออยู่ ๆ ก็ถูกจับว่ายักยอกทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เห็น และทรัพย์ที่ทำมาหาได้ก็มีอันต้องมีอันเป็นไปทั้ง ๆ ที่หามาโดยสุจริต การเงินการทำมาหากินก็เก็บเงินเก็บทองไม่อยู่มีเงินเมื่อไรต้องมีอันต้องเสียไปอย่างไม่น่าจะเป็น ไม่รู้ว่าวิบากกรรมนี้จะสนองไปอีกนานเท่าไรและเราจะแก้กรรมนี้ได้อย่างไร วานผู้รู้ผู้มีปัญญาช่วยผู้มีกรรมมากที

 

ก็ต้องถามก่อนนะครัช

ว่ารักทรัพย์ของใคร

เช่น รักทรัพย์ของสงฆ์ แล้วไป ลักมาแบบนี้ หนี้สงฆ์ ปรับโทษตอนตาย ห้ามสวรรค์ ลงอวจีอย่างเดียวก่อนเลย

ขโมยตอนเด็ก ถ้าจำกรรมได้ว่าก่ออะไรไว้ ก็ควรกลับไปชดเชยค่าเสียหายที่เราก่อไว้ โดยยึดมูลค่าในราคาปัจจุบัน
เช่น ขโมยของ 1 ชิ้น ราคา 10 บาทตอนเด็ก แต่ปันจุบันนั้น ของชิ้นนั้น ราคา 1แสนบาท จขกท ก็ต้องชดใช้ 1แสนบาท ในราคาปัจจุบัน หนี้กรรมถึงจะหาย.

ละอีกอย่างระ มันเป็นเรื่องของ กฏแห่งกรรม ชาตินี้เราอาจไม่ผิด แต่อดีตชาติก่อน เราไปสร้างกรรมไว้ เมื่อถึงเวลา กรรมให้ผล กรรมก็ส่งผลตามกฏแห่งกรรม นะครัช



ส่วนเรื่องที่ จขกท เล่า ก็ต้องว่าไปนะ ถ้าเราไม่ได้ขโมยจริง ก็แสดงว่า ขโมยต้องเป็นคนอื่น ดังนั้น ก็ต้องไปสืบสวน ว่าใครกันแน่ที่ขโมยตัวจริง เราก็แสดงหลักฐานไป

ว่าแต่คนที่กล่าวหา เค้ามีหลักฐานหรืออย่างไร ถึงได้รู้ว่า จขกท เป็นผู้ขโมย ถ้าเราไม่ได้ขโมย ก็ควรแสดงความบริสุทธิ ให้ได้นะครัช

..


แต่เรื่องเสียเงินเสียทองนี้ ไม่เจริญนี่ ต้องถามตัว จขกท นะ ว่าเคยด่า พ่อ แม่ หรือ เถียงพ่อ แม่ไหม เพราะ กรรมหนักมาก ทำให้ไม่เจริญ วิธีแก้ก็คือ ไปกราบเท้า พ่อ แม่ ขอขมาลาโทษ กับพ่อแม่ นะครัช

เคยมีส่วนร่วม หรือ รู้เห็นในการทำแท้งไหม
เคยบวช แล้วผิดศีล สังฆาทิเสส ไหม
เคยคิด อคติ กับบุคคลอื่นไหม ไม่สำรวมใจตัวเองแต่เพ่งโทษผู้อื่นไหม
เคยทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ไหม

บลาๆๆ เพราะมันเป็นกฏแห่งกรรม ทำกรรมอะไรไว้ ก็ย่อมได้รับผลกรรมนั้น
ถ้าทรัพย์นั้นที่เราหามาไม่ใช่ของเรา กฏแห่งกรรมก็ย่อมส่งผลให้ เจ้ากรรมนายเวร มาทวงคืนไป

ดังนั้น อะไรที่เสียไปแล้วก็ให้คิดใหม่เสียว่า ชดใช้กรรม กรรมส่งผลแล้ว ผลของกรรมก็ย่อมหมดไป ดังนั้น น่าจะดีใจว่า ได้ใช้หนี้เก่า กรรมเก่า นะครัช


ถ้าอยากป้องกันของหาย ป้องกันโดนผู้อื่นขโมยของๆตัวเองไป แนะนำว่า ปล่อยนกที่ถูกขัง จะช่วยป้องกันของหายได้นะครัช
สร้างกุศลกรรม บุญ ศีล ภาวนา ให้มากๆ ไว้ครับ

จะให้ดีก็ ภาวนาคาถาเงินล้าน จะช่วยแก้ปัญหาการเงินได้นะครัช
และทำตามนี้

1.ทำบุญ รักษาศีล ปฏิบัติสมาธิภาวนา
2.ภาวนาคาถาเงินล้าน วัดท่าซุง ตลอดทั้งวัน
3.บูชา พระหางหมาก พระคำข้าว ที่่วัดท่าซุง หรือที่บ้านสายลมเท่านั้น มาบูชาควบภาวนาคาถาเงินล้านของวัดท่าซุง
4.อุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทุกวัน เช้า เย็น
5.ที่วัดท่าซุง บูชา ลูกแก้วสารพัดนึกหลวงพ่อฤาษีลิงดํามาไว้ด้วย
ตามนี้ครับ
.
.

.

 

เราจะมีวิธีแก้กรรมที่เกิดจากการลักทรัพย์ได้อย่างไร เมื่อหลายสิบปีก่อนเคยสร้างกรรมนี้ไว้ด้วยความเป็นเด็กและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อระลึกได้ในปัจจุบันหลายอย่างที่รู้สึกว่าเกิดจากกรรมในครั้งก่อน ไม่ว่าจะถูกใส่ร้ายว่าลักขโมยทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำ หรืออยู่ ๆ ก็ถูกจับว่ายักยอกทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เห็น และทรัพย์ที่ทำมาหาได้ก็มีอันต้องมีอันเป็นไปทั้ง ๆ ที่หามาโดยสุจริต การเงินการทำมาหากินก็เก็บเงินเก็บทองไม่อยู่มีเงินเมื่อไรต้องมีอันต้องเสียไปอย่างไม่น่าจะเป็น ไม่รู้ว่าวิบากกรรมนี้จะสนองไปอีกนานเท่าไรและเราจะแก้กรรมนี้ได้อย่างไร วานผู้รู้ผู้มีปัญญาช่วยผู้มีกรรมมากที

 

ก็ต้องถามก่อนนะครัช

ว่ารักทรัพย์ของใคร

เช่น รักทรัพย์ของสงฆ์ แล้วไป ลักมาแบบนี้ หนี้สงฆ์ ปรับโทษตอนตาย ห้ามสวรรค์ ลงอวจีอย่างเดียวก่อนเลย

ขโมยตอนเด็ก ถ้าจำกรรมได้ว่าก่ออะไรไว้ ก็ควรกลับไปชดเชยค่าเสียหายที่เราก่อไว้ โดยยึดมูลค่าในราคาปัจจุบัน
เช่น ขโมยของ 1 ชิ้น ราคา 10 บาทตอนเด็ก แต่ปันจุบันนั้น ของชิ้นนั้น ราคา 1แสนบาท จขกท ก็ต้องชดใช้ 1แสนบาท ในราคาปัจจุบัน หนี้กรรมถึงจะหาย.

ละอีกอย่างระ มันเป็นเรื่องของ กฏแห่งกรรม ชาตินี้เราอาจไม่ผิด แต่อดีตชาติก่อน เราไปสร้างกรรมไว้ เมื่อถึงเวลา กรรมให้ผล กรรมก็ส่งผลตามกฏแห่งกรรม นะครัช



ส่วนเรื่องที่ จขกท เล่า ก็ต้องว่าไปนะ ถ้าเราไม่ได้ขโมยจริง ก็แสดงว่า ขโมยต้องเป็นคนอื่น ดังนั้น ก็ต้องไปสืบสวน ว่าใครกันแน่ที่ขโมยตัวจริง เราก็แสดงหลักฐานไป

ว่าแต่คนที่กล่าวหา เค้ามีหลักฐานหรืออย่างไร ถึงได้รู้ว่า จขกท เป็นผู้ขโมย ถ้าเราไม่ได้ขโมย ก็ควรแสดงความบริสุทธิ ให้ได้นะครัช

..


แต่เรื่องเสียเงินเสียทองนี้ ไม่เจริญนี่ ต้องถามตัว จขกท นะ ว่าเคยด่า พ่อ แม่ หรือ เถียงพ่อ แม่ไหม เพราะ กรรมหนักมาก ทำให้ไม่เจริญ วิธีแก้ก็คือ ไปกราบเท้า พ่อ แม่ ขอขมาลาโทษ กับพ่อแม่ นะครัช

เคยมีส่วนร่วม หรือ รู้เห็นในการทำแท้งไหม ถ้าเคยก็ถ่วงไม่ให้เจริญวิธีแก้ หาคลิปแม่ชีทศพรฟังดูนะ
เคยบวช แล้วผิดศีล สังฆาทิเสส ไหม ถ้าเคยก็ต้องไปบวชใหม่ อยู่ปาริวาสกรรมให้ครบกำหนดวันที่ปกปิดไว้
เคยคิด อคติ กับบุคคลอื่นไหม ไม่สำรวมใจตัวเองแต่เพ่งโทษผู้อื่นไหม
เคยทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ไหม
ก่อกรรมอกุศลกรรมอื่นๆเพิ่มขึ้นมาไหม

บลาๆๆ เพราะมันเป็นกฏแห่งกรรม ทำกรรมอะไรไว้ ก็ย่อมได้รับผลกรรมนั้น
ถ้าทรัพย์นั้นที่เราหามาไม่ใช่ของเรา กฏแห่งกรรมก็ย่อมส่งผลให้ เจ้ากรรมนายเวร มาทวงคืนไป

ดังนั้น อะไรที่เสียไปแล้วก็ให้คิดใหม่เสียว่า ชดใช้กรรม กรรมส่งผลแล้ว ผลของกรรมก็ย่อมหมดไป ดังนั้น น่าจะดีใจว่า ได้ใช้หนี้เก่า กรรมเก่า นะครัช


ถ้าอยากป้องกันของหาย ป้องกันโดนผู้อื่นขโมยของๆตัวเองไป แนะนำว่า ปล่อยนกที่ถูกขัง จะช่วยป้องกันของหายได้นะครัช
สร้างกุศลกรรม บุญ ศีล ภาวนา ให้มากๆ ไว้ครับ

จะให้ดีก็ ภาวนาคาถาเงินล้าน จะช่วยแก้ปัญหาการเงินได้นะครัช
และทำตามนี้

1.ทำบุญ รักษาศีล ปฏิบัติสมาธิภาวนา
2.ภาวนาคาถาเงินล้าน วัดท่าซุง ตลอดทั้งวัน
3.บูชา พระหางหมาก พระคำข้าว ที่่วัดท่าซุง หรือที่บ้านสายลมเท่านั้น มาบูชาควบภาวนาคาถาเงินล้านของวัดท่าซุง
4.อุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทุกวัน เช้า เย็น
5.ที่วัดท่าซุง บูชา ลูกแก้วสารพัดนึกหลวงพ่อฤาษีลิงดํามาไว้ด้วย
ตามนี้ครับ
.
.

.

 

ก็ต้องถามก่อนนะครัช

ว่ารักทรัพย์ของใคร

เช่น รักทรัพย์ของสงฆ์ แล้วไป ลักมาแบบนี้ หนี้สงฆ์ ปรับโทษตอนตาย ห้ามสวรรค์ ลงอวจีอย่างเดียวก่อนเลย

ขโมยตอนเด็ก ถ้าจำกรรมได้ว่าก่ออะไรไว้ ก็ควรกลับไปชดเชยค่าเสียหายที่เราก่อไว้ โดยยึดมูลค่าในราคาปัจจุบัน
เช่น ขโมยของ 1 ชิ้น ราคา 10 บาทตอนเด็ก แต่ปันจุบันนั้น ของชิ้นนั้น ราคา 1แสนบาท จขกท ก็ต้องชดใช้ 1แสนบาท ในราคาปัจจุบัน หนี้กรรมถึงจะหาย.

ละอีกอย่างระ มันเป็นเรื่องของ กฏแห่งกรรม ชาตินี้เราอาจไม่ผิด แต่อดีตชาติก่อน เราไปสร้างกรรมไว้ เมื่อถึงเวลา กรรมให้ผล กรรมก็ส่งผลตามกฏแห่งกรรม นะครัช



ส่วนเรื่องที่ จขกท เล่า ก็ต้องว่าไปนะ ถ้าเราไม่ได้ขโมยจริง ก็แสดงว่า ขโมยต้องเป็นคนอื่น ดังนั้น ก็ต้องไปสืบสวน ว่าใครกันแน่ที่ขโมยตัวจริง เราก็แสดงหลักฐานไป

ว่าแต่คนที่กล่าวหา เค้ามีหลักฐานหรืออย่างไร ถึงได้รู้ว่า จขกท เป็นผู้ขโมย ถ้าเราไม่ได้ขโมย ก็ควรแสดงความบริสุทธิ ให้ได้นะครัช

..


แต่เรื่องเสียเงินเสียทองนี้ ไม่เจริญนี่ ต้องถามตัว จขกท นะ ว่าเคยด่า พ่อ แม่ หรือ เถียงพ่อ แม่ไหม เพราะ กรรมหนักมาก ทำให้ไม่เจริญ วิธีแก้ก็คือ ไปกราบเท้า พ่อ แม่ ขอขมาลาโทษ กับพ่อแม่ นะครัช

เคยมีส่วนร่วม หรือ รู้เห็นในการทำแท้งไหม
เคยบวช แล้วผิดศีล สังฆาทิเสส ไหม
เคยคิด อคติ กับบุคคลอื่นไหม ไม่สำรวมใจตัวเองแต่เพ่งโทษผู้อื่นไหม
เคยทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ไหม

บลาๆๆ เพราะมันเป็นกฏแห่งกรรม ทำกรรมอะไรไว้ ก็ย่อมได้รับผลกรรมนั้น
ถ้าทรัพย์นั้นที่เราหามาไม่ใช่ของเรา กฏแห่งกรรมก็ย่อมส่งผลให้ เจ้ากรรมนายเวร มาทวงคืนไป

ดังนั้น อะไรที่เสียไปแล้วก็ให้คิดใหม่เสียว่า ชดใช้กรรม กรรมส่งผลแล้ว ผลของกรรมก็ย่อมหมดไป ดังนั้น น่าจะดีใจว่า ได้ใช้หนี้เก่า กรรมเก่า นะครัช


ถ้าอยากป้องกันของหาย ป้องกันโดนผู้อื่นขโมยของๆตัวเองไป แนะนำว่า ปล่อยนกที่ถูกขัง จะช่วยป้องกันของหายได้นะครัช
สร้างกุศลกรรม บุญ ศีล ภาวนา ให้มากๆ ไว้ครับ

จะให้ดีก็ ภาวนาคาถาเงินล้าน จะช่วยแก้ปัญหาการเงินได้นะครัช

และทำตามนี้

1.ทำบุญ รักษาศีล ปฏิบัติสมาธิภาวนา
2.ภาวนาคาถาเงินล้าน วัดท่าซุง ตลอดทั้งวัน
3.บูชา พระหางหมาก พระคำข้าว ที่่วัดท่าซุง หรือที่บ้านสายลมเท่านั้น มาบูชาควบภาวนาคาถาเงินล้านของวัดท่าซุง
4.อุทิศบุญกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรทุกวัน เช้า เย็น
5.ที่วัดท่าซุง บูชา ลูกแก้วสารพัดนึกหลวงพ่อฤาษีลิงดํามาไว้ด้วย
ตามนี้ครับ
.

 

ขอบคุณที่ชี้แนะหนทางครับ

 

ก่อนอื่น พึงทำความเห็นให้ถูกตรง(สัมมาทิฏฐิ)ก่อนว่า กรรมที่ทำสำเร็จล่วงไปแล้ว ไม่อาจแก้ไขอะไรได้อีก เหมือนข้าวสวยที่เขาหุงสุกแล้ว จะทำให้กลับคืนเป็นข้าวสารอย่างเดิมย่อมไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นได้...ทันที่กรรมสำเร็จลง ผลกรรมย่อมตั้งขึ้นทันที เพื่อส่งให้ผู้ทำกรรมได้เสวย "เมื่อได้เหตุปัจจัย"ประชุมพร้อม...

เมื่อมีสัมมาทิฏฐิได้เเล้ว ย่อมไม่คิดจะแสวงหาพิธีกรรมอะไรๆที่ใครๆว่าขลังนักหนาเพื่อ"แก้กรรม" อันเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลรองรับ ท่านจขกท พึงทราบว่า ความทุกข์เดือดร้อนนานัปการที่ใครๆต้องพบเจอนั้น ย่อมต้องเกิด จากเหตุคือบาปอันตนเคยทำไว้แล้วทั้งสิ้น หาได้เกิดเองแบบลอยๆหรือฟลุคบังเอิญไม่ ทั้งไม่มีเทพหรือใครมาทำ ร้ายทำอันตรายท่านได้หากตนไม่เคยทำบาปเบียดเบียนทำร้ายใีครๆมาก่อน.....การทราบเช่นนี้ เพื่อการทำความเห็นให้ถูกตรงเป็นบุญกุศลอย่างหนึ่งเพื่อเป็นหนทางในการเดินทางถูกเพื่อความพ้นทุกข์ในที่สุด...

ท่านพึงทราบต่อไปว่าื ความสำเร็จสมปรารถนา มีหรือได้สิ่งที่ตนประสงค์ย่อมมีมาด้วยการเจริญ กุศลทุกชนิด เรียกโดยรวมคือให้ทาน ประพฤติศีล และเจริญภาวนา..ทานเป็นทางมาของโภคะ ศีลย่อมรักษาตนไม่ให้เดือดร้อนเพราะถูกใครๆเบียดเบียน และภาวนาเป็นที่มาของความพ้นทุกข์ทั้งโดยชั่วคราวและถาวร..

ดังนั้น กรรมเก่าที่เคยพลาดพลั้งทำไปแล้ว ก็พึงยุติความเดือดร้อนใจเสีย เมื่อสำนึกผิดแล้ว ก็ให้ปวารณาหรือตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำเช่นนั้นอีก นี้เป็นการตั้งตนไว้โดยชอบเป็นมงคลอันสูงสุดข้อ๖ ในมงคล๓๘ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้...เป็นบุญกุศลใหม่ที่ท่านสามารถทำได้ในปัจจุบัน..เป็นการตั้งตนไว้ในส่วนแห่งการประพฤติศีลมีอานิสงค์มาก ..

อีกประการหนึ่ง ท่านจขกท ไม่พึงเข้าใจว่าบาปกรรมที่ท่านเคยทำมาเฉพาะในชาตินี้เท่านั้นกำลังส่งผล อยู่...ที่แท้ิ ในสังสารวัฏอันหาเบื้องต้นไม่พบนั้นเราทั้งหลายทำทั้งบุญบาปมาแทบทุกอย่างมากมายนับไม่ถ้วน..แม้บุญหรือบาปเก่าที่เคยทำไว้เมื่อล้านโกฏิชาติก็สามารถนำผลมาส่งให้ได้รับได้เช่นกัน..เพราะได้ปัจจัยประชุมพร้อมเหมาะสมนั่นเอง..

ดังนั้น แม้ท่านจะกำลังไ้ด้รับความทุกข์ยากเพียงไร ในบัดนี้ ก็ไม่ควรคิดว่าตนจะต้องทุกข์เช่นนี้ตลอดกาล เพราะทั้งบุญแลบาปเมื่อส่งผลแล้วย่อมลดหรือหมดกำลังไป ไม่มีสิ่งใดเที่ยงตั้งมั่นเช่นนั้นตลอดไป..การยังใจตนไว้ในความทุกข์โทมนัส เป็นบาปทางใจเพราะปล่อยจิตให้อยู่กับโทสะอันเป็นธรรมฝ่ายบาป เมื่อใจเป็นบาปแล้วย่อมขวางกั้นมิให้กุศลผลบุญที่ตนเคยทำไว้มาก่อน มาส่งผลให้ได้เสวยได้...

ทั้งยังเป็นช่องทางให้บาปอื่นๆมาส่งผลท่วมทับเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก...จึงควรรักษาจิตใจไว้ในคลองแห่งกุศลให้มาก ตั้งสติรักษาใจไว้ในความสงบ ไม่คิดเคืองโกรธโทษใครๆอันเป็นไปกับพยาบาทวิตก อันมีโทษมากแก่ตนเสียหายอย่างเดียว...แล้วคิดหาทางแก้ไขปัญหาไปด้วยความรอบคอบ ตรวจสอบว่าธุรกิจการงานที่ทำอยู่นั้นเป็นไปกับการล่วงศีลข้อใดบ้างหรือไม่ ทำนองหลอกลวงเอาเปรียบหรือโกงใครๆหรือเปล่า..เพราะทรัพย์ที่ได้มาด้วยอาการนี้ย่อมวิบัติไปเร็ว แล้วพยายามแก้ไขไปโดยที่ตนดำเนินอาชีพตามครรลองแห่งศีลธรรมเสมอ.. ในไม่ช้า แม้ความบริบูรณ์แลเจริญก้าวหน้าในโภคะย่อมปรากฏเพราะได้กุศลสนับสนุน..


เป็นกำลังใจให้นะครับ..

 

อดึต แน่นอน แก้ไม่ได้
อนาคต ไม่แน่นอน ยังมาไม่ถึง
ปัจจุบัน ทำทาน ชำระหนี้สงฆ์ ถวายสังฆทาน สร้างวิหารทาน รักษาศีล ฝึกใจยอมรับผลของการกระทำในอดีต น้อมใจใฝ่ธรรมของพระศาสดา เหตุดี ผลที่ตามมาย่อมดี ที่ไม่ดีเดี๋ยวก็ผ่าน แล้วพบผลดี ที่เพียรสร้างมาก่อนเป็นเหตุ