กรรมเวรกถา.......หลวงพ่อแพร วัดพิกุลทอง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Kob, 15 ตุลาคม 2005.

  1. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,159
    ค่าพลัง:
    +19,883
    กรรมเวรกถา


    ณ บัดนี้อาตมภาพจะได้แสดงพระธรรมเทศนาในเรื่องกรรมและเวร (กรรมเวรกถา) เป็นเครื่องประดับสติปัญญาของพุทธบริษัททั้งหลาย เพื่อเป็นแนวทางประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา


    กรรมและเวรนั้นต่างกัน กรรมนั้นอย่างหนึ่ง เวรนั้นอย่างหนึ่ง ซึ่งเรามักจะใช้วาจาว่า เป็นกรรมเป็นเวรบ้าง เป็นเวรเป็นกรรมบ้าง แต่คำว่ากรรมนี้ เป็นคำกลางๆ มีความหมายได้ทั้ง กรรมดีและกรรมชั่ว แต่เรานิยมใช้ในกรรมฝ่ายชั่ว เรียกว่า กรรม แต่ถ้าจะกล่าวโดยหลักแล้ว กรรมนั้นถ้าเป็นกรรมดีเรียกว่า กุศลกรรมบ้าง เรียกว่าบุญบ้าง เรียกว่า สุจริตธรรมบ้าง มีคำต่อเติมแตกต่างกัน แต่ความหมายโดยทั่วไปเป็นชื่อของฝ่ายชั่ว


    กรรมดีก็ตาม กรรมชั่วก็ตาม ที่บุคคลกระทำแล้วผลแห่งกรรมย่อมติดตามบุคคลนั้นไป กรรมดีติดตามให้เราในชาติต่อๆ ไป ไม่ใช่ว่ากระทำในปัจจุบันจะได้ผลในปัจจุบันทั้งหมด กรรมนั้นบางอย่างให้ผลโดยตรง กรรมบางอย่างให้ผลโดยอ้อม กรรมบางอย่างให้ผลชาตินี้ กรรมบางอย่างให้ผลชาติหน้า แต่ว่าจะหนีกรรมนั้นไม่พ้น จะต้องได้รับผลของกรรมนั้นแน่นอนจะช้าหรือเร็วเท่านั้น กรรมจะเป็นบุญก็ตาม จะเป็นบาปก็ตาม เป็นนามธรรมไม่มีตัวไม่มีตน วิญญาณที่สิงสถิตย์อยู่ในร่างกายของเรา ก็เป็นนามธรรมไม่มีตัวตน


    เพราะฉะนั้น บุญและบาป วิญญาณนี้จึงไปด้วยกันได้ในชาติไหนๆ เมื่อเราตายไปแล้วก็ทิ้งสมบัติอันเป็นของมนุษย์ จะเป็นแก้วแหวนเงินทองใดๆ ก็ตาม เป็นของมนุษย์เอาไปไม่ได้ โดยที่สุดแม้ร่างกายของเราที่เราได้มาเมื่อเป็นมนุษย์ก็เอาไปไม่ได้ เพราะเป็นวัตถุที่มีตัวมีตน วิญญาณก็มีแต่ชื่อ ไม่มีตัวไม่มีตน แต่บุญและบาป เรียกว่ากรรมดี กรรมชั่ว เป็นนามธรรม มีแต่ชื่อไม่มีตัวไม่มีตน มีแต่ความรู้สึกพิเศษสิงอยู่ในร่างกายของเรา เมื่อร่างกายเราแตกดับแล้วก็ออกจากร่างกายไป ถือปฏิสนธิในภพน้อยภพใหญ่ต่อไป บุญบาปกรรมนี้ไปด้วยกันในภพต่างๆ เพราะฉะนั้นบุคคลจึงเลือกทำแต่กรรมดี จะได้ติดตามตนไปในชาติหน้า มีความสุขความเจริญ กรรมชั่วจะให้ผลเป็นทุกข์เดือดร้อน


    กรรมและเวรนั้นแตกต่างกันคือ กรรมนั้นเมื่อเราทำแล้ว จะให้ผลตามสมควรแก่เหตุ เวรนั้นเป็นการผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรกัน เราทำเขา เขาทำเรา ได้แก่การผูกใจเจ็บเข้าไว้ ไม่ลดละ ความผูกใจเจ็บนี่เรียกว่าเวร กรรมและเวรไม่เหมือนกัน จะได้แสดงถึงเรื่องกรรม จะได้แสดงกรรมฝ่ายไม่ดีอีก กรรมฝ่ายไม่ดีที่เราทำแล้วในวันนี้ จะให้ผลแก่เราให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อนในชาติต่อไป (กรุณาอ่านต่อคะ)


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2005
  2. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,159
    ค่าพลัง:
    +19,883
    ดังในเรื่องพระธรรมบทภาค ๑ เรื่องพระจักขุบาล เล่าย่อว่า พระจักขุบาลนั้นในชาติก่อนเป็นหมอรักษาตา ไปพบหญิงคนหนึ่งเป็นคนตาบอด ก็ถามว่าเธอเป็นโรคอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าตาไม่เห็น พระจักขุบาลถามว่าเราจะรักษาให้เอาไหม หญิงนั้นก็บอกว่ายอมให้รักษา หมอถามว่า จะให้รางวัลอะไร หญิงนั้นก็ตอบว่า ตัวข้าพเจ้าพร้อมด้วยบุตรและธิดาจะมอบให้เป็นทาสของท่าน หมอนั้นก็ประกอบยาใส่ตาให้ตาของหญิงนั้นก็สว่างแลเห็นเป็นปกติ หญิงนั้นก็เกิดความคิดขึ้นว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2005
  3. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,159
    ค่าพลัง:
    +19,883

    อีกข้อหนึ่งเรียกว่า
     
  4. Kob

    Kob เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    6,159
    ค่าพลัง:
    +19,883
    ขอมอบสิ่งดีๆให้แก่เพื่อนๆนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆคะ.......

    [music]http://palungjit.org/attachments/a.30461/[/music]​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2005

แชร์หน้านี้

Loading...