กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    เสียงมาจากภูมิที่คอยดูแลปกป้อง บริเวนนั้นหละครับ กำลังสูงกว่าเจ้าที่
    เพราะมีคอนเนกกับข้างบนด้วย
    แต่มาทำหน้าที่ตรงนี้เฉยๆครับ

    ถ้าเมื่อก่อนส่วนตัวเจอระดับนี้
    ท่านจะชอบเข้ามาหาระยะประชิด
    แต่ส่วนตัวยังรู้สึกกลัวๆ จากบารมี
    ทางด้านฤิทธิ์ ที่แผ่มาทางจิตท่านเหล่านี้อยู่

    อารมย์คล้ายๆ เจอคนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
    ทักทายเราเหมือนเป็นกันเอง
    แต่ว่า เค้าพกปืนแบบพกนอก
    พร้อมใช้งาน ๒ กระบอก
    ไว้ที่เอวนั่นหละครับ ๕๕
     
  2. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,188
    ค่าพลัง:
    +10,065
    กฐินตกค้างสามัคคี 35 วัด สองประเทศ
    (ไทย - เชียงตุง เมียนมาร์) ปีที่ 4/2562

    #รายชื่อวัดจำนวน 26 วัดในไทย
    #ถวายวันที่ 10 พฤศจิกายน 2562

    วัดที่ 1 วัดหนองบัวคำ อ. ลี้ จ. ลำพูน
    วัดที่ 2 สำนักสงฆ์ถ้ำพญางู อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
    วัดที่ 3 สำนักสงฆ์รังบี้ อ. อมก๋อย จ.เชียงใหม่
    วัดที่ 4 วัดห้วยหญ้าไซ อ.ลี้ จ.ลำพูน
    วัดที่ 5 วัดแม่หว่างลุ่ม อ.ลี้ จ.ลำพูน
    วัดที่ 6 พระพุทธบาทนกแควะ อ.ลี้ จ.ลำพูน
    วัดที่ 7 วัดแม่หว่างต้นฝาง อ.ลี้ จ.ลำพูน
    วัดที่ 8 วัดบ้านตาล อ.ฮอด จ.เชียงใหม่
    วัดที่ 9 วัดสาวิกาป่ากล้วย อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
    วัดที่ 10 วัดแม่ตะละกลาง อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่
    วัดที่ 11 วัดพระเจ้าหูยาน อ.ป่าชาง จ.ลำพูน
    วัดที่ 12 วัดป่าปลู อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน
    วัดที่ 13 วัดแม่ลอบท่าไม้แดง อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน
    วัดที่ 14 วัดพุทธบาทสามยอด อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน
    วัดที่ 15 วัดเสาหิน อ.เมือง จ.ลำพูน
    วัดที่ 16 วัดกู่ขาว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน
    วัดที่ 17 วัดบ้านแม่สงใต้ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง
    วัดที่ 18 วัดบ้านไร่ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่
    วัดที่ 19 วัดบ้านทุ่งคอกช้าง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่
    วัดที่ 20 พุทธอุทยานดอยกิ่งแล อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่
    วัดที่ 21 วัดป่าจี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน
    วัดที่ 22 วัดนายางเหนือ อ.สบปราบ จ.ลำปาง
    วัดที่ 23 วัดบ้านบวก อ.ลี้ จ.ลำพูน
    วัดที่ 24 วัดป่าดอยน้อย อ.ลี้ จ.ลำพูน
    วัดที่ 25 วัดห้วยโป่ง อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน
    วัดที่ 26 สำนักสงฆ์ปากาโรอภิชัย อ.ทุ่งหัวช้าง จ.ลำพูน
    77362594_2367147263551084_105031148891013120_n.jpg
     
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672

    หายสงสัยเลยครับอาจารย์นพ

    ...ถ้าเดินมาประชิดใกล้ๆ
    ผมคงช๊อตล้มลงแน่นอน
    ...ท่านคงเมตตาสงสาร 55

    (เอาภาพเก่ามาฝาก)
    ผู้ชมช่วยระบายสีทางจิตเอง
    ...ให้เป็นภาพกลางคืนไฟสลัวๆก็แล้วกัน
    ภายใต้แสงจันทร์เงาแม๊กไม้ไหวไปมา
    จากโบสถ์วิหารข้างบนต้องเดินลงบันได2ช่วง

    555....บอกคำเดียวว่า "น่ากลัว"
    แต่ค่ำคืนนั่นทำไมใจกล้าจัง
    ...ยังงงตัวเองอยู่

    ครั้งหนึ่งพระอาจารย์สุ่มเคยปรารถให้ฟังประมาณว่า...
    ศาลาบูรพาจารย์ไม่ค่อยมีผู้คนเดินไปไหว้
    ว่าจะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูใหม่
    ผมเลยตอบว่า "น่าจะดีครับ...อาจไกลและดูเงียบ"

    456.jpg
    เสียงทุบดัง"ปั้ง"บนกระเบื้องหลังคานี่ครับ
    ...เป็นช่วงจังหวะที่เดินผ่านพอดีด้วยสิ

    454.jpg 455.jpg
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672
    รบกวนถามอาจารย์นพ(ตามข้างล่าง)
    ผมยกบางตอนมาจากกระทู้หน้าแรก...เช้านี้
    ...ที่หลวงตามหาบัว ท่านเทศสอนมา

    ด้วยผมไม่แน่ใจคำว่า"ภาวนา"
    คือคำอธิษฐานขอพรหลังสวดมนต์
    ไม่ได้หมายถึงภาวนาบทสวดมนต์...ใช่หรือไม่
    ถ้าใช่...จะได้เพิ่มอธิษฐานภาวนาให้เข้มข้นยิ่งขึ้น


    เพราะสังเกตจากบางประโยคที่หลวงตาเทศสอน...
    "...การภาวนาให้สมบูรณ์อันนี้ถูกต้อง..."
    "...แต่การภาวนาแห้งผากใช้ไม่ได้เลย..."



    (หลวงตามหาบัว)
    "การภาวนานี่สำคัญมากทีเดียว" อยู่ไหนก็ตามอะไรอดอยากขาดแคลนแต่การภาวนาให้สมบูรณ์อันนี้ถูกต้อง "อะไรก็เหลือเฟือ ๆ แต่การภาวนาแห้งผากใช้ไม่ได้เลย" การภาวนาสำคัญมากทีเดียว

    นี่เคยฝึกหัดมาเต็มกำลังความสามารถถึงเรื่องการภาวนาก็ดีทุกอย่าง จึงได้มาพูดให้หมู่เพื่อนฟัง ไม่อ่อนแอนะ "ทำอะไรเอาจริงเอาจังมาก การภาวนาก็เอาจริงเอาจังทุกอย่าง" จนกระทั่งมาถึงจุดสุดท้ายนี้พอ พอหมดเลย .. "
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ภาวนาในที่นี้ของ ลต.ท่าน
    คือกิริยา การระลึกรู้ลมหายใจครับ
    หรือการทำสมาธินั่นหละครับ

    ส่วนภาวนาแห้งฝาก คือ
    การขาดช่วง ขาดตอน
    ทำบ้างไม่ทำบ้าง
    หรือไม่ต่อเนื่องสม่ำเสมอนั่นเองครับ


    พอดีทางโลภ มีศิลปิน เอามาใช้
    ในลักษณะการขอ เลยอาจทำให้สับสนบ้างครับ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ลป. สี ครับ ใช้งบก่อสร้าง ๓,๐๐๐ ล้าน
    DE693AF8-F9D5-4DDE-A484-E2D9C8A635AF.jpeg AD3D522F-0382-41D9-B1C8-9307880DC4F9.jpeg 266D46AF-33B0-499F-B479-1162C6DCD918.jpeg
     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672


    ขอบคุณครับท่านอจ.นพ
    ...หายสับสนแล้วครับ
    ทำให้มั่นใจในการปฎิบัติ

    (55...เล่าให้ฟัง...อีกแร้วว์)
    จากเดิม...หลังจาก นโมตัสสะ
    ตามด้วยพระคาถา ลป. ลพ.รวม 9บท
    จากนั่นส่งบุญให้สรรพสิ่งต่างๆ
    ลำดับสุดท้ายอธิษฐานภาวนาขอพรสิ่งที่ตนปรารถนา

    แต่หลังจากกระแสความศรัทธาลป.ดู่เข้ามาในชีวิต
    จึงเพิ่มบทสวดพระมหาจักรพรรดิ
    พระคาถาไตรสรณคมน์
    พระคาถาลป.ดู่
    ส่วนการส่งบุญก็เพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นตามไป
    ...ปิดท้ายภาวนาขอพรใหัตัวเองยังคงรูปเดิมไว้
    คือเน้นการส่งบุญให้สรรพสิ่งเป็นสำคัญ

    2-3เดือนที่เปลี่ยนเพิ่มบทสวดเข้ามา
    รู้สึกว่าอารมณ์เยือกเย็นสุขุมขึ้น
    ความโกรธลดน้อยลง
    เหมือนมีคำว่า"ช่างมันเถิดๆ"อยู่ในใจ
     
  8. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672
    ขอบคุณครับ อาจารย์นพ
    ที่นำภาพมาลง
    ทำให้คิดถึงความหลัง
    ได้ช่วยเตือนสติตัวเองว่า...
    "10ปีผ่านไปเร็วไว ไวจัง"
    เหมือนซดบะหมี่หมดชามเดี๋ยวเดียว
    ชีวิตแสนไว..ไวจริงและแสนสั้น
    ...จึงไม่ควรประมาทในชีวิต

    ได้ไปเมื่อปี 2552 ทริปอีสาน-ลาวใต้
    ไปกราบนมัสการพระธาตุพนมครั้งที่ 2
    ขากลับตัดเลาะไปทางร้อยเอ็ด
    น่าจะห่างจากร้อยเอ็ด 70-80 กม.

    ...ว่าจะไปทริปจว.โซนนี้อีกครั้ง
    แต่มีหลายๆอย่างไม่เป็นใจ
    จึงผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า
    โดยเฉพาะความต้องการไป...
    ...กราบนมัสการองค์พระธาตุพนม


    สุดท้าย...ขอบอกต่อเลยว่า
    "พระมหาเจดีย์ชัยมงคล"ตามภาพ
    ...สวยใหญ่อลังการมากๆ
    ใครที่ไม่เคยไป...ลองแวะไป
    ...จะไม่ผิดหวังแน่นอน
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672
    วันที่ 9 พ.ค. 2561

    พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ตั้งอยู่บริเวณวัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วราราม ตำบลผาน้ำย้อย อำเภอหนองพอกจังหวัดร้อยเอ็ด มีลักษณะ เป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ที่วิจิตรพิสดาร ใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลางและภาคอีสานเป็นการผสม กันระหว่างพระปฐมเจดีย์ และพระธาตุพนม ใช้งบประมาณก่อสร้างถึงปัจจุบันกว่า 3,000 ล้านบาท ดำเนินการสร้างโดย "พระอาจารย์ศรี มหาวิโร” ซึ่งเป็นศิษย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระมหาเจดีย์ชัยมงคล ออกแบบโดยกรมศิลปากรเป็นสีขาวตกแต่งลวดลาย ตระการตาด้วยสีทอง เหลือง อร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ ภายในองค์พระมหาเจดีย์เหมือนอยู่บนวิมานแดนสวรรค์ แต่ละชั้นได้ตกแต่งลวดลสยที่วิจิตรของศิลปะยุคใหม่และยุคเก่าผสมผสานเป็นศิลปะร่วมสมัยที่หสดูได้ยาก ชั้น 3 มีองค์จำลองของเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศ ตรงกลางห้องโถงเป็นจุดรับพลังจากองค์พระธาตุและพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ที่ชั้น 6 มหัศจรรย์อย่างยิ่ง

    เจดีย์แบ่งเป็น 6 ชั้น

    ชั้นที่ 1 เป็นห้องโถงกว้างใหญ่ โอ่อ่า ผนังจารึกนามทานาธิบดีต่าง ๆ ใช้เป็นห้องประชุม บำเพ็ญบุญ
    ชั้นที่ 2 เป็นห้องโถงโอ่อ่าเช่นกัน ผนังติดตั้งรูปพระพุทธประวัติ ลวดลาย ไทยวิจิตรพิสดาร
    ชั้นที่ 3 เป็นที่ประดิษฐานรูปพระณาจารย์ ปราชญ์ อีสานในอดีต เป็นรูปเหมือนสลักหินอ่อน และหุ่นรูปเหมือนพระสุปฏิปันโน 101 องค์
    ชั้นที่ 4 จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัดวาอาราม สถานปฏิบัติสมถะวิปัสสนา กรรมฐานที่หลวงปู่ศรีเคยบำเพ็ญธรรมมา
    ชั้นที่ 5 บันไดเวียน 119 ชั้น เป็นห้องโถงรูประฆัง 8 เหลี่ยมบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

    ขอบขอบคุณข้อมูลแหล่งที่มา...
    สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด




    image108_4.jpg
    (รูปภาพจากthailandtourismdirectory)



     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    57905E47-9654-4411-8012-233D20564BE3.jpeg 5E09E2CF-C688-4E91-9A33-344CF7849874.jpeg 417A9EF7-71C9-4AF7-8B23-3A213A6AB16E.jpeg
     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672
    วัดป่าตึง หลวงปู่หล้าตาทิพย์ อัศจรรย์สังขารไม่เน่าเปื่อย

    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8715.jpg

    วัดป่าตึงเป็นวัดที่หลวงปู่หล้าเคยเป็นเจ้าอาวาสอยู่ในสมัยก่อน จนกระทั้งท่านละสังขารในปี พ.ศ.2536 จนถึงตอนนี้ก็ล่วงเลยมากว่า 20 ปี ชื่อเสียงของหลวงปู่หล้า เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปก็เนื่องด้วยท่านเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในหลักศีลธรรมอันงดงามตลอดเวลา มีความเมตตาต่อทุกๆ คนที่เข้าหาท่าน หลวงปู่หล้าท่านได้รับสมญานามจากศรัทธาญาติโยมว่ามีญาณวิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ จนชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า “หลวงปู่หล้าตาทิพย์”

    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8731.jpg กุฎิไม้สักทองหลังใหญ่

    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8739-300x200.jpg %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8712-300x200.jpg
    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8735-225x300.jpg %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8736-225x300.jpg %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%873-225x300.jpg

    ความอัศจรรย์ของท่านหลังละสังขารก็คือ ร่างกายไม่เน่าเปื่อย เและมีลักษณะแข็งเหมือนหิน เป็นเรื่องที่อัศจรรย์มาก และยังสามารถยกร่างให้ลุกขึ้นในท่ายืนได้ และนานๆ ครั้งญาติโยมจะมีการเปลี่ยนชุดของหลวงปู่หล้า นอกจากนี้ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ยังอยู่ครบในโลงแก้วที่ตั้งในกุฏิไม้สักทองหลังใหญ่

    ด้านหน้าโลงแก้วที่เป็นที่ตั้งสังขารของหลวงปู่หล้า มีหุ่นขี้ผึ้งของท่านในท่ายืน ไว้ให้ผู้ที่มีความศรัทธาได้สักการบูชา ส่วนกุฎิไม้สักทองหลังนี้ เกิดจากความศรัทธาของญาติโยม จึงได้ช่วยกันสร้างให้ท่าน มีลวดลายของประตูหน้าต่างที่สวยงาม ทุกๆ อย่างดูเรียบร้อยปราณีต ด้านหน้ากุฎิเป็นบันไดใหญ่ และข้างๆก็มีลิฟท์ ที่สร้างสำหรับหลวงปู่หล้า แต่ไม่ทันได้ใช้ เนื่องเพราะหลวงปู่หล้ามรณภาพไปเสียก่อน

    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8738.jpg
    หุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่หล้าตาทิพย์

    เหตุที่ชาวบ้านเรียกท่านหลวงปู่หล้าตาทิพย์ นั้นก็เพราะว่า ในอดีตวันหนึ่งฝนตั้งเค้าจะตกหนัก หลวงปู่หล้าบอกให้พระเณรรีบออกจากกุฏิ เพราะกุฏิเก่าและทรุดโทรมมากและมีต้นลานขนาดใหญ่อยู่ข้างกุฏิ ปรากฏว่าวันนั้นฝนตกหนักกิ่งต้นลานก็หักโค่นลงมาทับกุฏิพัง พระเณรที่อยู่ในวัดทุกคนปลอดภัยและพากันสรรเสริญว่าท่านมีตาทิพย์ นอกจากนั้นยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เช้าวันหนึ่งเวลาประมาณตี 5 หลวงปู่หล้าให้พระเณรรีบทำความสะอาดวิหารเพราะจะมีแขกมาหาที่วัด ครั้นพอถึงเวลา 6 โมงเช้า พระศรีธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อยนำญาติโยมมาหา ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงพากันเรียกท่านว่า “หลวงปู่หล้าตาทิพย์”

    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8717.jpg ศาลาหลวงปู่หล้า

    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%871-300x225.jpg %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%874-300x225.jpg
    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%875-300x200.jpg %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8723-300x200.jpg

    ประวัติย่อวัดป่าตึง เชียงใหม่
    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8711-300x200.jpg ประวัติความเป็นมาของวัดป่าตึง ( ห้วยหม้อ ) บริเวณที่ตั้งวัดป่าตึง เดิมที่นั้นเป็นป่าไม้แน่นหนา ทางภาคเหนือเรียกว่าไม้ตึง ภาคกลางเรียกว่าไม้พลวง ไม้ตึงมีลำต้นสูงใหญ่ ใบใช้มุงหลังคาและห่อของได้ ป่าตึงนั้นเดิมที่เป็นเมืองเก่าประมาณอายุไม่ได้ เพราะมีซากปรักหักพังของเจดีย์วัดร้างอยู่ มีเตาเผาเครื่องถ้วยสังคโลก ตามที่เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาสำรวจมีประมาณ 320 เตา จากหมู่บ้านป่าตึงถึงป่าห้วยลาน ปัจจุบันเป็นอ่างเก็บน้ำห้วยลาน โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าขุดตรงไหนที่เป็นบริเวณเตาเผา เครื่องถ้วยสังคโลกก็จะพบถ้วย โถ ชาม แจกัน และพระเครื่อง ของใช้ต่าง ที่เป็นทองสัมฤทธิ์ และทองคำบ้าง ห่างจากวัดป่าตึงประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบวัดร้างอีกวัดหนึ่ง ชื่อว่าวัดสารกัลญาณมหันตาราม (วัดเชียงแสน) ซึ่งพระครูจันทสมานคุณ (หลวงปู่หล้า) อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตึงได้ขุดพบหลักศิลาจารึก พระพุทธรูป และเจดีย์ ปัจจุบันนี้อยู่ที่พิพิธภัณฑ์วัดป่าตึง บริเวณวัดป่าตึงอดีตเป็นที่วัดร้างเป็นป่าไม้ตึงได้มีนาย คำ ซึ้งอาศัยอยู่ใกล้กับบริเวณวัดร้างได้มาเพี้ยวถางทำไร่ขณะที่นังพักได้พบผะอบ ซึ่งข้างในได้บรรจุพระบรมสารีกธาตุจึงนำไปถวายครูบาปินตา ซึ่งเป็นพระอุปฌาย์ของหลวงปู่หล้า อดีดเจ้าอาวาสวัดป่าตึง ขณะนั้นจำพรรษาอยู่วัดบ้านหลวง (วัดแม่ผาแหน) ปัจจุบัน ดังนั้นท่านครูบาปินตาจึงเห็นสมควรที่จะสร้างวัดขึ้นเพราะสถานที่แห่งนี้ เดิมทีเป็นวัดมาก่อนพร้อมทังมีชาวบ้านอาศัยอยู่และหมู่บ้านคือ บ้านป่าตึง บ้านปง และบ้านเหล่า จึงเห็นสมควรที่จะสร้างวัดขึ้นมา วัดป่าตึงเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2425 ในพื้นที่ หมู่ 7 บ้านป่าตึง ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ 15 ไร่ 3 งาน 94 ตารางวา และได้รับแต่งตั้งจากกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 9 มกราคม 2427 มีสนาสนะและถาวรวัตถุเป็นหลักฐานมั่นคง มีพระภิกษุ – สามเณรอยู่จำพรรษาตลอดมา

    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8722-200x300.jpg %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8729-225x300.jpg %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8730-200x300.jpg

    ปัจจุบัน ของมีค่าหลายอย่าง อาทิ วัตถุโบราณ พระพุทธรูป เครื่องถ้วยชามสังคโลก เก็บอยู่ใน พิพิธภัณฑ์เครื่องถ้วยชาม ที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัด และบนกุฏิไม้สักที่งดงามหลังใหญ่ ในวัดป่าตึง เป็นที่ตั้งสรีสังขารของเกจิอาจารย์ชื่อดัง คือหลวงปู่หล้า ซึ่งไม่เน่าเปื่อย บรรจุไว้ในโลงแก้วที่ประดับประดาด้วยดอกไม้ ให้ผู้ที่มีศรัทธาได้บูชา ชื่อเสียงของหลวงปู่หล้า เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เนื่องด้วยท่านเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในหลักศีลธรรมอันงดงาม หลวงปู่หล้าท่านได้รับสมญานามจากศรัทธาญาติโยม เนื่องจากว่าท่านมีญาณวิเศษ ที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้ จนชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า “หลวงปู่หล้า ตาทิพย์” หลวงปู่หล้ามรณภาพเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2536 เจริญอายุถึง 97 ปี

    การเดินทางไปวัดป่าตึง
    จากเมืองเชียงใหม่ ให้มาตามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ลำปาง จนถึงแยกดอนจั่น ให้เลี้ยวออกไปตามทางหลวง 1317 เส้นทางเดียวกับไปนํ้าพุร้อนสันกำแพง เลี้ยวขวาที่เข้าถนนหมายเลข 1147 (ตรงแยกจะมีป้ายบอก) มาทางเดียวกับสนามกอล์ฟอัลไพน์ แต่ให้ตรงเข้าไปอีก ประมาณ 5 กิโลเมตร วัดป่าตึง จะอยู่ทางขวามือ

    ที่อยู่: หมู่ 8 ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ 57250
    โทรศัพท์: 053-984700, 053-880061, 081-0246001, 089-851 5791

    %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%8720-300x200.jpg %E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%879-300x200.jpg

    .

    ขอขอบคุณแหล่งที่มา...
    https://www.topchiangmai.com/trip
     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672
    417a9ef7-71c9-4af7-8b23-3a213a6ab16e-jpeg.jpg


    ไม่เคยไปวัดนี้ครับ
    รู้แต่ลป.หล้า เกจิอาจารย์ชื่อดัง

    ไม่ทราบว่าภาพที่อาจารย์นพลงไว้
    เป็นวัดเดียวกันกับที่ผมนำมาลงหรือไม่

    ...55 คงไม่เป็นไร ช่วงนี้หน้าเทศกาลท่องเที่ยว
    ...ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ชื่อท่านคล้ายกันครับ คุณ ๘
    ที่ส่วนตัวนำมาลง อยู่ที่ภูจ้อก้อ
    มุกดาหารครับ

    พระสงฆ์ยุคนั้น มักจะมีเรื่อง
    ญานวิถีในการล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีต
    ในอนาคตเป็นปกติครับ
    ซึ่งญานวิถีเหล่านี้
    มีฐานมาจาก
    ตาทิพย์ หูทิพย์ ครับ(ตากับหูมักจะมาคู่กัน)
    ความสามารถเหล่านี้เป็นบางส่วน
    ของศรัทธาต่างๆ นอกจากการปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบของท่านๆเหล่านั้นครับ

    และการขึ้นมาของญานวิถีมาจากการปฎิบัติ
    แล้วมาด้านปัญญา คือมาบรรลุธรรมภายหลัง ท่านเลยมีแบบเป็นธรรมชาติของท่านครับ สายเหนือ สายอีสาน
    ต่างตรงเน้นปฎิบัติได้ เกิดญานวิถี
    แล้วมาปัญญา กับเน้นปฎิบัติไปหนุนปัญญา
    แล้วมีญานวิถี สรุปมีเหมือนๆกันครับ
    สังเกตุง่ายๆว่าท่านใดมีวัตถุมงคล
    หรือมีบ้างแต่ไม่เน้นนั่นหละครับ เป็นตัวบอก

    พอดีไปงานรุ่นน้องที่ มุกดาหาร แว๊นไปเรื่อยๆ เลยได้แวะหลายที่หน่อยครับ
    จังหวะวัดดังๆ จะอยู่ขอบๆจังหวัดพอดี
    ทั้งร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร
    เอาว่า เลี้ยวซ้ายนิด เลี้ยวขวาหน่อย
    ไปข้างหน้าหน่อยหนึ่ง
    ก็คนละจังหวัดแล้วครับ ๕๕
    ช่วงนี้ ไม่ร้อนมาก อากาศดี ทำให้แว๊น
    สบายๆ วัดดังส่วนมาก ท่านมีชื่อ
    ละสังขารไปหมดแล้ว อย่าวบางวัดที่มีเจดีย์ขาวทอง เช่น วัดป่าสุนทราราม เลิงนกทา
    ท่านอาพาธ อยู่ โรงบาลสงฆ์ ขอนแก่น
    มีอีกวัดที่แวะจังหวะหาที่พัก มีกฐินพระราชทาน พอดีลืมสังเกตุชื่อวัด
    เอาว่าตอนนั่งพักอยู่
    มีบางท่านที่บอกว่าท่าน
    อยู่วัดนี้มา ๑๓๐ ปีแล้ว
    บอกว่าวัดนี้ชื่อวัด โพนคำทอง
    แต่พอออกไปเห็นป้ายบอกชื่อ
    โพนคำสูง ประมานนี้ครับ

    ส่วนที่ภูจอก้อ ต้องเดินขึ้นบรรไดไป๒๘๙ หรือ ๒๙๘ ไม่แน่ใจครับ ถึงจะถึงเจดีย์
    ส่วนตัวพักอยู่ ๔ รอบกว่าจะขึ้นไปถึง ๕๕๕
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    9A84523A-AEEA-4296-AE42-D8D4DDAEF86D.jpeg ที่ต้องระวังเวลาไปเที่ยววัด
    อย่างที่ร้อยเอ็ด ที่มี พระมหาเจดีย์
    ชัยมงคล ที่ ลป.ศรี (ทานดังเรื่อง ตาทิพย์ หูทิพย์ เหมือนกัน) ประมานว่า คุยกันอยู่บ้าน
    แต่ท่านได้ยินได้ เรื่องนี้ ช่างประจำวัดเล่าให้ฟัง คือส่วนตัวยืนเฉยๆ แต่ช่างมาคุยด้วย
    ไปภูจ้อก้อเหมือนกัน ยืนเฉยๆ โยมที่ขับรถ
    ให้เจ้าอาวาสก็มาคุยด้วย


    ที่ 101 พอดีมีหมู่ป่า อยู่แถวนั้น
    มักจะมาคุ้ยหาอาหาร หมูพวกนี้
    เค้าจะมีเห็บหมูตามธรรมชาติ
    คล้ายๆเห็บหมาครับ
    มีชื่อเรียกอยู่ แต่จำไม่ได้ครับ
    จะตัวเล็กกว่าเห็บหมามาก
    มักจะชอบอยู่ บริเวนห้องน้ำ
    ส่วนตัวจึงไม่กล้าเข้า ต้องบริหาร
    เรื่องนี้ดีๆด้วยครับ พูดถึงน้องหมา
    เอาซะหน่อย

    ปล. ภาพที่มาพฤติกรรมของคำว่า
    "หมาเมิน" ๕๕
     
  15. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,188
    ค่าพลัง:
    +10,065
    75369192_577478839658987_6063886273058177024_n.jpg

    222.JPG

    3.jpg

    03.jpg

    องค์สุดท้าย ปีหน้า ช่วงเดือนเมษายนครับท่าน9 ตังที่ท่านฝากไว้ร่วมสร้างเด๋วผมจัดให้ครับ
    สาธุทั้ง 4 พระองค์นะครับ
     
  16. สินไซ

    สินไซ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +47
    สวัสดีครับ
    พอเห็นภาพจากทริปคุณนพ ขออนุญาตทุกท่าน แนะนำหนังสือน่าอ่านครับ
    ชื่อหนังสือ " พุทธ ธรรม สงฆ์ " ของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    เป็นหนังสือตัวเขียนลายมือของหลวงปู่ ทั้งเล่มประมาณ 70 หน้า
    ท่านเขียนฝากใว้ให้ลูกหลานครับ

    ไม่ทราบคุณนพกลับรียัง ลองใช้ เส้นทาง 202 ดูครับ
    เผื่อได้แวะซ้ายขวาหาที่เหมาะๆอธิฐานลูกแก้วพญานาค แถบนั้น
    คงได้มีเรื่องมาเล่าสนุกๆในกระทู้แน่นอน

    วันนี้ผมกลับจากงานบุญกฐินบนเขา แถวๆซับใหญ่ชัยภูมิ
    เห็นแนวกังหันลมไฟฟ้านับร้อยตัว เหมือนภาพที่คุณนพโพสไว้
    ฉวัดเฉวียนกันไปมา 1- 2 วันนี้ถ้าผ่านมหาสารคามขอโอกาสได้เลี้ยงกาแฟ นะครับ
     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672


    (9)

    ".....ไม่ทราบว่าภาพที่อาจารย์นพลงไว้
    เป็นวัดเดียวกันกับที่ผมนำมาลงหรือไม่....."

    (อจ.นพ)
    ".....ชื่อท่านคล้ายกันครับ คุณ ๘
    ที่ส่วนตัวนำมาลง อยู่ที่ภูจ้อก้อ
    มุกดาหารครับ....."


    555...ผิดทั้ง 2 คู่เลย(๒)
    ผม๙ ครับ.....ไม่ใช่ ๘

    สงสัยอาจารย์นพไปทริปวัดมาหลายแห่ง
    ....มีหวยมาฝาก
    ๒๘๙ หรือ ๒๙๘....ผมไม่แน่ใจครับ

    บังเอิญตรงกับข้างล่างนี้...ด้วย

    (อจ.นพ)
    ".....ส่วนที่ภูจอก้อ ต้องเดินขึ้นบรรไดไป๒๘๙ หรือ ๒๙๘ ไม่แน่ใจครับ ถึงจะถึงเจดีย์....."

    เป็นเลข Lucky number ของผมซะด้วยสิ
    (ดูภาพ) เลขที่วงกลมไว้

    555....แอบซื้อกัน2คนนะ
    .....อย่าบอกใครเชียว



    105489.jpg


    (55...แค่ขำขันยามเช้าครับ)
     
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672


    ขอโมทนาบุญร่วมกันครับ

    ใกล้ๆ 25 มีนา แจ้งบอกหลังไมค์ด้วยนะครับ
    (กันลืม)
     
  19. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672
    ภูจ้อก้อหรือวัดบรรพตคีรี
    หมู่ 3 ต.หนองสูงใต้ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร 49160‎ หมู่ 3 ต.หนองสูงใต้ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร 49160

    0 คะแนน star-02.png star-02.png star-02.png star-02.png star-02.png ( 0 รีวิว )

    เปรียบเทียบข้อมูลกับฐานข้อมูลหน่วยงานรัฐ
    รายละเอียด
    วัดภูจ้อก้อ จังหวัดมุกดาหาร ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถิ่นอีสาน พุทธสถานบนเขาชื่อดัง สถานที่ปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะสายวิปัสสนากรรมฐานของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต พระเถราจารย์ที่ได้รับการนับถืออย่างมากจากชาวบ้านมุกดาหาร
    วัดภูจ้อก้อหรือวัดบรรพตคีรี ตั้งอยู่บนภูก้อจ้อ บริเวณบ้านหนองแวง ต.ลำบลหนองสูงใต้ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร
    เป็นวัดธรรมยุตนิกายที่สำคัญ ตั้งอยู่บนภูเขาขนาดย่อมที่มีความสงบสวยงาม วัดแห่งนี้เคยเป็นที่จำพรรษา
    ของหลวงปู่หล้า เขมปัตตโต พระป่าสายวิปัสสนากรรมฐาน ชาวบ้านทั่วไปเรียกสั้นๆว่า หลวงปู่หล้า
    พระถราจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถร ซึ่งมีความเคร่งครัดปฏิบัติภาวนา
    เขมปัตตเจดีย์ เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสูงกว่า 22 เมตร ที่ประดับด้วยกระเบื้องอย่างดีจากประเทศอิตาลี มีชั้นล่างเป็นโถงอเนกประสงค์เพื่อศาสนกิจต่างๆ และชั้นบนจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติ ผลงานและอัฐบริขารของหลวงปู่หล้า รวมทั้งประดิษฐานอัฐิและหุ่นขี้ผึ้งของท่านไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ ปัจจุบันวัดบรรพตคีรี หรือวัดภูก้อจ้อ ถือได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สำคัญของชาวมุกดาหารและชาวพุทธโดยทั่วไป ที่ใช้ในการประกอบศาสนกิจ และปฏิบัติธรรมถือศีลภาวนา ให้จิตใจผ่องแผ้วเกิดสมาธิ และปัญญาเพื่อการดับทุกข์ทั้งปวงตามแนวทางของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า

    ลักษณะเด่น
    -เจดีย์หลวงปู่หลัก -ภูจ้อก้อ

    ประวัติ
    วัดบรรพตคีรีมีความเป็นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 เริ่มแรกพระอาจารย์ขาวได้ธุดงค์มาปฏิบัติธรรมอยู่ที่ถ้ำภูก้อจ้อแห่งนี้ แล้วชักชวนให้ชาวบ้านแวงพากันสร้างพระพุทธรูปปูนขาวไว้หน้าถ้ำ จากนั้นก็มีพระกรรมฐานเวียนมาจำพรรษาหลายรูป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2500 ชาวบ้านแวงได้นิมนต์หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ซึ่งขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่ภูเก้า อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร พร้อมด้วยพระตาล ชาวบ้านแวงที่เป็นพระบวชใหม่ ให้มาพำนักที่ถ้ำภูก้อจ้อแห่งนี้ หลังจากนั้นชาวบ้านแวงได้ร่วมกันสร้างกุฏิขึ้นบนที่ราบหลังถ้ำ หลวงปู่หล้าได้พัฒนาวัดแห่งนี้ให้เป็นศาสนสถานที่เจริญสติกรรมฐานอันเป็นมรดกทางศาสนาที่สำคัญแห่งภาคอีสาน และท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดภูก้อจ้อนี้จนห้วงสุดท้ายแห่งชีวิต และลาสังขารไปเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2540 สิริรวมอายุได้ 84 ปี 11 เดือน
    หลังจากหลวงปู่หล้าได้ละสังขารแล้ว หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี พร้อมลูกศิษย์ได้หารือกันในงานฌาปนกิจและมีมติให้จัดสร้าง “เขมปัตตเจดีย์ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต” ขึ้นเป็นอนุสรณ์ โดยเสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ.2542

    20171207d41d8cd98f00b204e9800998ecf8427e113954.jpg

    201712073fef97d9669f9f712c09e8edac5c5e07113640.jpg

    20171207407f714e357c886e0988929c8723c7d3113502.jpg

    ขอขอบคุณแหล่งที่มา
    https://www.thailandtourismdirectory.go.th/th

    (ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยว)
     
  20. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,804
    ค่าพลัง:
    +4,672

    ยินดีครับคุณสินไช
    ไว้ว่างๆจะไปร้านหนังสือเปิดอ่านดู

    ...สนใจประโยคนี่ครับ
    ".....เผื่อได้แวะซ้ายขวาหาที่เหมาะๆอธิฐานลูกแก้วพญานาค แถบนั้น
    คงได้มีเรื่องมาเล่าสนุกๆในกระทู้แน่นอน....."


    555...อาจารย์นพงานเข้าแล้ว
    จะรอฟังเรื่องสนุกๆครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...