กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

แต่หบังเหตุการณ์นั้นแล้ว ก็รู้สึกว่ามีเส้นพลังงานจากขาทั้งสองข้างมาเชือม เส้นพลังงานที่หน้าท้อง ทะลุไป หน้ออก และสมอง

 

#ฝัน 16-12-2564
ผมฝันว่าหลวงปู่หงส์มาที่บ้านครับและผมก็กราบหลวงปู่ไป 3 ที
หลวงปู่หงส์ พรหมปัญโญ ท่านก็บอกยินดีที่ได้พบกันนะหน่อแห่งโพธิญาณ

 

หลวงปู่หงส์ 8
กราบพระ 3 ที
83 38
ตามที่ท่าน9 ว่าไว้ หวยอยูในฝัน

 

"หลวงปู่หงส์ 8
กราบพระ 3 ที
83 38
ตามที่ท่าน9 ว่าไว้ หวยอยู่ในฝัน"
(aegmanmu)


พระภิกษุ 8 หรือ 9 ก็ได้
มรณะอายุ 97 ปี
(เมื่อปีพ.ศ.ใดหนอ ?)

 

ดูเทปรายการของอาจารย์โอเล่
รายการ The Ghost Secret“
"ไขความลับโลกวิญญาณ"

ผมจะนึกถึงอาจารย์นพทุกที

ส่วนตัวเพิ่งรู้จักรายการนี้เมื่อ1เดือนที่ผ่านมา
ยอมรับว่าน่าทึ่ง น่าดู และน่าติดตาม
จนต้องทยอยย้อนดูEPเก่าๆ
กลายเป็นFC ทางจอแก้ว...ไม่รู้ตัว

(แนะนำครับสำหรับคนที่เชื่อในทางนี้)

 

(ชมคลิป)ย้อนคำทำนาย “อ.โอเล่ ญาณสัมผัส” บอก “ตุ้ย วงเพลย์กราวด์” จะอยู่ไม่ถึงอายุ 50 และจะเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ เผยชาติก่อนเป็นทหารกู้ชาติ
เผยแพร่: 23 มิ.ย. 2564 17:02 ปรับปรุง: 23 มิ.ย. 2564 17:02

กลายเป็นเรื่องที่น่าตกใจ และทำให้คนในวงการดนตรีช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “ตุ้ย วัชระ ชัยพันธุ์” มือกีตาร์วง PLAYGROUND หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ประสบอุบัติเหตุขับรถมอเตอร์ไซค์ชนท้ายรถกระป้อย่านถนนเพชรเกษม จนทำให้เจ้าตัวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แฟนเพลงต่างออกมาร่วมไว้อาลัย รวมไปถึงคนที่เคยร่วมงานกับเจ้าตัวต่างก็โพสต์ถึงการจากไปอย่างกะทันหันของมือกีตาร์หนุ่มคนนี้

ย้อนกลับไปหลายคนไปหาดูเทปที่เจ้าตัวเคยไปออกในรายการ “TheGhostSecret” ที่ออนแอร์ผ่านช่องยูทิวบ์ TheGhostSecret ไขความลับโลกวิญญาณ เมื่อช่วงประมาณเดือน ก.พ. ต้นปีที่ผ่านมา โดยมี “ท๊อฟฟี่ สามบาทห้าสิบ, ส้มเช้ง สามช่า” รวมไปถึง “อ.โอเล่ ญาณสัมผัส” เป็นผู้ดำเนินรายการ และในอีพีนี้ได้เดินทางไปที่ “สำนักสงฆ์เขาย่าโนะ” ในวันพระจันทร์สีเลือด ซึ่งเจ้าตัวพร้อมแฟนสาวก็ได้เดินทางไปร่วมในอีพีนี้เช่นกัน ระหว่างที่กำลังบันทึกรายการ “อ.โอเล่” ก็ได้เล่าให้ฟังว่าพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นสถานที่รบกัน และมีทหาร 4 คนจากทั้งหมด 5 คนที่ถูกฆ่าตายและลงอาคมไว้ไม่ให้ไปเกิด และอีกหนึ่งคนที่รอดไปก็อยู่ในบริเวณนี้ด้วย จากนั้นพิธีกรก็ได้เรียก “ตุ้ย เพลย์กราวน์” มาร่วมพูดคุยถึงสถานการณ์ที่ทีมงานกำลังเจออยู่ โดย “อ.โอเล่” ได้เล่าให้ฟังถึงอดีตชาติของหนุ่มตุ้ย พร้อมบอกว่าที่ได้มาที่นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่ทุกอย่างเป็นเพราะกรรมลิขิต ด้าน “ตุ้ย” เผยว่าตั้งแต่เล็กจนมาถึงทุกวันนี้เวลาไปดูดวง หมอดูมักจะบอกว่าไม่เห็นทั้งอดีตชาติและปัจจุบัน

“ตอนนี้ผมยังงง อยู่เลยว่าผมมาทำอะไรตรงนี้ และก่อนที่จะมาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อตอนเด็กๆ แม่เล่าให้ฟังว่าตอนเรานั่งเล่น นั่งคุยอยู่คนเดียว แม่ก็ถามว่าเราเล่นกับใคร เราก็ตอบไปว่าเล่นกับพี่ผมจุก เหมือนกุมาร แต่ผมก็จำอะไรไม่ได้เลย และอย่างเวลาเราจะไปดูดวง หมอดูก็จะไม่ดูให้ บอกว่าไม่เห็นดวงของเรา”

ด้าน “อ.โอเล่” ได้เล่าเสริมต่อว่า “การที่เขาไม่เห็นดวงคุณตุ้ย มันมีมนต์อยู่ตัวหนึ่ง คือเวลาคนที่เป็นอุปลิขิต(สายลับในสนามรบ) เวลาตายเขาต้องล้างทุกอย่างออกไปให้หมด ล้างข้อมูลออกไปให้หมด ของเก่าก็ดูไม่ได้ ของใหม่ก็ดูไม่เห็น และ 5 คนในนี้ (รวมคุณตุ้ย) ทั้งเก่ง มีวิชา อาคมด้วย และที่ตรงนี้มีคนกลุ่มนึงมาพิทักษ์อะไรไว้ และต้องมีอีกคนที่ต้องหนีจากที่ตรงนี้ไป ไปส่งข่าวให้คนมาช่วยที่นี่ และพอคนนั้นหนีออกไปแล้วพอกลับมา 4 คนที่เหลืออยู่ตรงนี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว และลักษณะบางอย่างของคุณตุ้ยมีอะไรที่แฝงอยู่ในตัว มีลักษณะทำอะไรไม่รู้ตัว ทั้งความฝันและความเป็นจริง แต่ชีวิตของเขาเหมือนโดนอะไรสาปเอาไว้ เวลาจะทำอะไรไป จะไปไม่ถึง พัง เจ๊ง จบ (ตุ้ยพยักหน้า) และมันเหมือนมีกรรมอยู่อย่างนึง ตอนที่เขาไปส่งข่าวที่เมืองหลวง เหมือนจะนำทัพหลวงมาตีศัตรูที่นี่ แล้วเหมือนจิตส่วนนึงของเขากะจะเทกโอเวอร์ชุมชุนนี้ทั้งหมดเลย และเขาจะดูแลด้วยตัวเขาเอง ซึ่งมันก็กลายเป็นกรรมอย่างนึง แต่เสียดายที่เขามาไม่ทัน เป็นตราบาปของเขา และทหาร 4 คนนี้สุดท้ายก็โดนปลายหอกที่สะกดด้วยอาคมแทง เพื่อจะสะกดวิญญาณเอาไว้ เป็นการแทงช้าๆ ทำให้ทรมานเพื่อให้อาคมสะกดเอาไว้ยิ่งขลัง

และชีวิตคุณตุ้ยไม่ใช่จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างเดียว อายุก็จะเป็นไปตามอายุขัย คือไม่ถึง 50 และที่ตรงนี้ก่อนจะปลดปล่อยพวกเขาทั้ง 4 คน ก็คือต้องมีการอโหสิกรรมก่อน เขาทั้ง 4 คนไม่โกรธนะ และขออะไรก็ได้ ซึ่งก็อยากให้คุณตุ้ยขอต่อชีวิตเถอะ ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญกว่า และมีเหตุเสี่ยงตายรอดมาหลายรอบ และเขาถึงวาระที่กรรมมาปรากฏ เขาไม่ได้ตายโดยธรรมชาติ เป็นการตายแบบผิดธรรมชาติ แนะนำให้อุทิศบุญกุศล ขอขมากรรม แต่คุณตุ้ยต้องไปหาอาวุธตามที่ผมวาดออกมาให้ได้ แต่ไม่ทราบว่าอยู่ตรงไหนลักษณะคล้ายหอก”

โดยพอจบรายการมือกีตาร์หนุ่มได้เปิดใจว่า “ทริปนี้มาแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนนั้นงงมาก กำลังมองท้องฟ้า ดูพระจันทร์สีเลือด และกำลังมองดูดาวที่เยอะมาก แต่ได้ยินแว๊บๆ ว่าชาติก่อนผมเคยเป็นทหารอยู่ที่นี่มาก่อน ถามว่าเชื่อมากแค่ไหน ก็คือเชื่อมากกว่าไม่เชื่อ เชื่อประมาณ 80% รู้สึกว่าโล่งใจมากขึ้น จะพยายามทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เพื่อนๆ ทหารที่เสียชีวิตไป”

ด้านแฟนสาวที่มาด้วยก็เผยว่า “คือเราได้ดูรายการ เราก็เลยบอกให้ตุ้ยติดต่อไป เผื่อจะได้เจออาจารย์โอเล่ เพราะเวลาไปดูดวง หมอดูเขาก็ดูไม่เห็นดวงสักที และเขาก็เหมือนคนเบลอๆ ทำอะไรไม่รู้ตัว เหมือนจะสำเร็จแล้ว แต่ก็ล่มตลอด ทำอะไรก็เจ๊ง ”

ส่วน “คุณปุ๊ก” บุคคลที่เชิญให้ทีมงานมาร่วมพิสูจน์ในสถานที่นี้ ก็ได้เอา “เหล็กไหลเงินยวง” มอบให้แก่ “คุณตุ้ย“ พร้อมเผยเรื่องน่าสะพรึงว่ามือกีตาร์คนดังกล่าวจะอยู่ได้แค่เพียง 90 วัน “ให้เอาเหล็กไหลเงินยวง เอาติดตัวไว้ตลอดเวลาและให้ไปขอขมาที่บ้านเกิด ที่เชียงรายกับพ่อขุน เพราะเขาจะมีอายุอยู่ได้เพียงแค่ 90 วันเท่านั้น และที่เห็นเพราะว่าเห็นผู้ชายแก่ๆ เดินตามเขาตลอดเวลา ตอนที่ขึ้นมาที่นี่ และก็มีผู้ชายอีก 4 คนเดินตามเขาตลอดเช่นกัน”


ขอบคุณที่มา....
https://news1live.com/detail/9640000060794

**********************************************************


ย้อนดูคลิปนี้ที่....
EP.29 ตอนอาถรรพ์พระจันทร์สีเลือด

 

หลวงปู่หงษ์ เกิดวันที่ 5 มี.ค. 2460 และได้มรณภาพ วันที่ 5 มี.ค.2557 ซึ่งวันเกิดและวันมรณภาพเป็นวันเดียวกันพอดี สิริรวมอายุได้ 97 ปีบริบูรณ์

 

ฝันเห็นลูกแก้วพญานาคสีเขียวมากมายเลย ไม่ใหญ่มากขนาดเท่าลูกชิ้น มียันต์เขียนกำกับทุกลูก จับแล้วอุ่นๆและมีลูกใหญ่สีน้ำเงิน1ลูกแต่ลักษณะเหมือนเหล็กไหล คือสภาพหนืดๆและองค์พญานาคขนาดบูชาหลายๆองค์

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า201 ลำดับที่ #4033

"บุรุษไร้เงา post: 10963701
ฝันเห็นพระแสดงว่าใจเริ่มเป็นพระ
ทางปฎิบัติเค้าว่าใจเริ่มดี
ถ้าฝันถึงคน บอกว่าช่วงนั้น
ใจยังไม่ปลอดภัย ให้ระวังไว้

คาถาเมตตาใหญ่
ตามตำราบอก ว่าแก้กรรม
เป็นที่รักของภพภูมิ
สวดแล้วจะหลับสบาย

สัปดาห์ก่อนเลยลองเปิดฟังดู
เพื่อพิสูจน์

เป็นที่รักจริงๆของภพภูมิ
เพราะมาหากันแบบนับไม่ถ้วน
ไม่ซ้ำหน้าเลย มีพวกที่สถิตในตุ๊กตาด้วยนะ
(พวกนี้ จิตออกจากตุ๊กตาไปไหนไม่ได้
เพราะตัวตุ๊กตา จะแยกออกเล็กน้อย
กลายเป็นตาข่ายมากั้น จากคาถา
ที่มีคนกำกับไว้)
นอกจากผีเบสิคทั่วไป ๕๕๕
มีแบบมาทีหลัง มาแสดงให้เห็นว่า
ยังไม่ได้รับด้วยนะ ๕๕
หลับสบายจริงๆ นะครับ
เพราะอุทิศส่วนกุศลจนเหนื่อยนี่เอง
นี่เหตุในการหลับสบาย ๕๕๕
พอขำๆ

ลองดูกันหน่อยไหม
มีใครอยากหลับสบาย
แบบนี้บ้าง ๕๕

ปล ต่อให้ไม่มีแดด แต่ลมก็ยังร้อน
บอกแล้วประเทศไทย มี ๒ ฤดู
คือ ร้อนมาก กับร้อนหาฉิบไม่เจอ
(อาจารยนพ)

 

"9@Phonlee, post: 11659866
(วันนี้ได้ฤกษ์มาเล่าต่อจากที่ค้างไว้ข้างบน)
จากบทความข้างบนของศ.เสฐียรพงษ์ วรรณปก
อ่านแล้วมหัศจรรย์ใจยิ่ง
นี่แสดงว่าสิ่งเร้นลับในโลกนี้มีมากมาย
บางคนเทใจเชื่อเต็มร้อย...เช่นตัวผม
บางคนไม่เชื่อเลยเพราะไม่เคยประสบด้วยตนเอง
บางคนเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง
แม้เชื่อแต่มักสรุปว่าเป็นความบังเอิญ
แต่ทางพุทธศาสนากล่าวว่า...
"ความบังเอิญไม่มีในโลก"

เช้าตรู่วันนี้ได้อ่านบทความข้างบน
ควรจะบอกว่าเป็นความบังเอิญ
หรือเพราะฟ้าดินได้กำหนดไว้แล้ว?

ด้วยเมื่อวาน 6 โมงเช้า
ผมได้เดินทางไปอ.หนองหญ้าปล้อง
ระหว่างทางได้แวะไปกราบไหว้องค์หยกขาว วัดพุตะเคียน
ยามเช้าอากาศเย็นสบายๆลมเงียบสงบ
ช่วงที่กำลังกราบไหว้อธิฐานภาวนาอยู่ในวิหาร
ปรากฏกระแสลมพัดผ่านมาทางหน้าต่างหลายระลอก
แรงพอควรที่ทำให้กิ่งไม้และใบไม้ใกล้ๆพริ้วไหวตามแรงลม
พอปักธูปลงกระถาง ลมเงียบสงบในทันที
จึงรู้สึกถึงความประหลาดใจว่า...
จู่ๆกระแสลมเกิดขึ้นฉับพลันได้อย่างใด?
...ยิ่งเพิ่มความประหลาดใจมากยิ่งขึ้น
เมื่อหยิบแบงค์แดงจะหยอดตู้ทำบุญ???
(ไว้เล่าต่อในวันหลัง)
และระหว่างเดินทางได้มีเรื่องบังเอิญหลายครั้ง

พอออกจากวิหาร เดินผ่านต้นโพธิ์
ใบโพธิ์สีเหลืองอร่ามตาร่วงลงมาบนรองเท้า
ระหว่างซอกนิ้วกับรองเท้า
จึงพยายามสลัดให้หลุดออกไปหลายครั้ง
**แต่ไม่หลุด**
สุดท้ายจึงตัดสินใจก้มลงไปหยิบเพื่อเก็บไว้บูชา
เพราะเมื่อสังเกตุรอบๆบริเวณต้นโพธิ์
ไม่มีใบไหนสีสันอร่ามตาเช่นใบนี้

(เดี๋ยวจะเล่าต่อในวันหลัง)
พร้อมรูปถ่าย(ถ้าอัพโหลดได้)



(ต่อ)ที่ค้างไว้ข้างบน
หลังจากลมกระโชกพัดผ่านหน้าต่างหลายครั้ง
จากยามเช้าตรู่ที่กระแสลมสงบนิ่ง
จากนั่นหยิบแบงค์เพื่อหยอดตู้ทำบุญ
เออ...ลองแย้มดูเลขสักหน่อย(เห็นลมพัดแปลกๆ)
ว่าเลขท้าย 3 ตัวเป็นเลขอะไร
อ้าว....9695...ตรงกับเบอร์รถพอดี
ตรงกับเลขสลาก 695ที่เจ๊ซื้อไว้ที่ปั้มปตท.(อันนี้ไม่แแปลกนะ)
ช่วงบ่ายระหว่างขับรถเลยวงเวียนแก่งกระจาน
เสียงโทรศัพท์เจ๊ดังขึ้น
พอคุยกันได้ไม่กี่คำ
ได้ยินแว่วๆว่า...
"เออ...เมื่อคืนฝันว่านั่งรถเฮียไปนครปฐม
...ทะเบียนรถเฮียเลขอะไร "
" 695...ทำไมเหรอ"
"จะเอาไปซื้อหวยซะหน่อย"
"นี่เธออย่าซื้อตามนะ...เดี๋ยวฉันไม่ถูก"
(เป็นเพื่อนสนิทกัน)

จากวันนั่น...ผ่านมา 2 งวด...กินเรียบ
แล้วงวดที่ 3 จะมาไหมหนอ ?

 

วัดพุตะเคียน อ.หนอหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี
วัดเล็กๆตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา-สายน้ำ
บรรยากาศแวดล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม
ห่างจากกรุงเทพประมาณ 120 กม.
ใครที่ไปเที่ยวเขื่อนกระจาน เพชรบุรี
ถ้าเบื่อรถติดแถวเพชรบุรี
หรือใครที่ไปเที่ยวชะอำ-หัวหิน-ประจวบ
จนเบื่อสถานที่เที่ยวแยกย่อยที่เคยไปซ้ำๆ
ก็ลองวิ่งเส้นทางใหม่นี้ดู
จากแยกวังมะนาวตรงไป10กม.พอถึงเขาย้อย
*สังเกตปั้มเชลล์-กลุ่มภูเขาริมทาง-ศาลเจ้าเขาย่อย*
ให้ชิดซ้ายๆๆๆลอดใต้สะพานปูนเล็กๆเตี้ยๆ
...เพื่อกลับรถ(ยูเทิร์นไปฝั่งตรงข้าม)
แล้วขับช้าๆๆๆชิดซ้ายไปอีก3-400 ม.ให้เลี้ยวซ้าย
(แยกที่มีป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆป้าย)
จะเข้าสู่ถนนลาดยางอย่างดี รถน้อย
เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักเส้นทางนี้



ผ่านสวนรุกขชาติเขาย่อย


จากนั่นเส้นทางไต่ขึ้นเขาไม่สูงชัน1-2 กม.
แล้วจะเป็นทางเรียบคตเคี้ยวนิดๆตลอด 20 กม.
จะถึงถนนบายพาสคู่ขนานถนนเพชรเกษม
เส้นทางนี้จะเชื่อมต่อไปถึงปราณบุรี-ชุมพร
(รถน้อย...ขับเพลิน...แต่อย่าประมาท)
ถ้าคนที่ขับรถล่องใต้เที่ยวไปเรื่อยๆ
แวะไหว้ลป.ทวดองค์ใหญ่ที่วัดห้วยมงคล
....เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต

ระหว่างทางวิวสวย น้องๆภาคเหนือ







(ต่อ)จากปากทางเพชรเกษมขับไปประมาณ15 กม.
ขวามือจะมีป้ายบอก"องค์หยกขาว"
ดูจากแผ่นพับเรียก "แม่ฆฏิการ"
*เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ร่ำรวย*

แต่บางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นเจ้าแม่กวมอิม
(แต่ผมว่าดูมีหลายส่วนคล้ายๆกันนะ)

หลวงพ่อบอก...ที่นี่เหมือนเป็นเมืองลับแล
(อ่านรายละเอียดหน้าต่อไป)








ยังมีองค์พระศรีอริยเมตไตรยได้กราบไหว้



องค์พระนาคปรกสีทองอร่ามตา


บ่อน้ำเล็กๆกับองค์พญานาค
ได้ถามหลวงพ่อว่า...
"ที่นี่มีพญานาคไหมเห็นบึงน้ำใสเขียวมรกต
.....ลพ.เคยนิมิตเห็นพญานาคไหม? "
ลพ.บอกเป็นนัยยะว่า.......
"ใครจะมาลองของ ก็มาลองดู"


ใบโพธิ์สีทองเหมือนเจตนาร่วงมาให้เก็บไว้บูชา





วัดเล็กๆอยู่ท่ามกลางขุนเขาและบึงน้ำใสๆ
ที่แนะนำให้แวะมาในทริปนี้
แม้เล็กๆ....แต่วิวสวยบาดตา














ก่อนปิดทริปนี้
ใคร่ฝากอุโบสถหลังแรกเล็กกะทัดรัด...งามตา
ให้ทุกท่านได้แวะมาเที่ยว เวียนมาทำบุญ
เพื่อช่วยกันก่อร่างสร้างโบสถ์นี้ให้สำเร็จลุล่วง
จักได้กุศลแรงยิ่งๆ

ทริป"สุขกาย สบายใจ อิ่มบุญ อิ่มกุศล"





จากวัดพุตะเคียนขับไปอีกประมาณ 5 กม.
จะถึงถนนบายพาสซึ่งเชื่อมต่อไปปราณบุรี
นั่นคือเขตอ.หนองหญ้าปล้อง
อำเภอเล็กจิ๋วที่มีขุนเขาสวยงามเช่น"เขากระทิง"


(และยังสถานที่น่าแวะเที่ยวอื่นๆ)
...หากวันไหนว่างจะมารีวิวให้ชม)


จากอ.หนองหญ้าปล้องไปอีกประมาณ 35กม.
...จะถึงเขื่อนแก่นกระจาน
ตลอดเส้นทางรถยนต์-รถลา
รถลาก-รถม้าแทบไม่มีให้เห็น
**หมายถึงถนนว่างมากๆครับ**

 

มีบัญชีร่วมสร้างโบสถ์ไหมท่าน 9

 

ฝันว่าพ่อมาหาครับ

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆนะคะ (っ>ω <)っ....

 

"บัญชี...ไม่มีครับ"
เจ้าอาวาสเคยบอก"คงต้องมาทำบุญที่วัด"

วัดนี้มีพระอยู่รูปเดียว คือท่านเจ้าอาวาส

ท่านเล่าให้ฟังว่า....
...ช่วงโควิตนี้อยู่คนเดียวสบายใจ
ส่วนโบสถ์ที่เห็นนั่น
สร้างเพราะอุบัติเหตุ
ผมเลยถามท่านว่า "อุบัติเหตุ" เพราะอะไร
ท่านบอกว่า...เมื่อหลายปีก่อนมีลูกศิษย์มาคุยว่า
มีที่ดินอยู่กรุงเทพ 1 แปลงจะขาย ร้อยกว่าล้าน
ถ้าขายได้จะบริจาค 10 ล้านเพื่อสร้างโบสถ์ให้ทางวัด
หลังจากนั่นไม่กี่เดือนก็ขายที่ดินนั่นได้
จึงถวายเงิน 10 ล้านตามสัญญาที่พูดไว้
ลำพังหลวงพ่อไม่อยากสร้างหรอก
เพราะที่นี้เหมือนเป็นเมืองลับแล
คือรถยนต์ผ่านไปมาเหมือนไม่รู้ว่าที่นี่คือวัด
ได้แต่วิ่งผ่านแล้ว...ผ่านเลย
น้อยคนนักที่จะแวะเข้ามาไหว้พระทำบุญ
คงยากที่จะรวบรวมปัจจัยมาสร้างโบสถ์วิหาร
ส่วนเงินที่รับมาแค่ถมดินและปรับปรุงสถานที่
สร้างโบสถ์ตามที่เห็นปัจจุบัน
สร้างองค์พระนาคปรก
และองค์พระศรีอริยเมตไตรย


ส่วนประวัติที่มาขององค์หยกขาว
พระนามที่ถูกต้องคือท้าวฆฎิการพรหม
(อ่านว่าท้าวฆะฎิการะพรหม)
สืบเนื่องจากมีชาวจีนไต้หวันผู้หนึ่ง
ศรัทธาในพระสังฆราชสมเด็จพระญาณสังวร
จึงได้ถวายเทวรูปแกะสลักด้วยหยกขาว
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2546
ช่วงที่พระชนม์มายุครบรอบ 90 พรรษา
แต่พระองค์ท่านทรงเมตตาประทานให้วัดพุตะเคียน
ครั้นเมื่อวันที่14 กุมภาพันธ์ 2547
องค์เทวรูปได้เดินทางมาจากประเทศพม่า
มาถึงวัดพุตะเคียน อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี

ณ วันที่ 29 กรกฏาคม 2550 เวลา 11.19 น.
ขณะที่อัญเชิญองค์หยกขาว
ประดิษฐาน ณ วิหารมณีพิมาน
ได้เกิดพระอาทิตย์ทรงกรดเต็มดวง
เป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ผู้มาร่วมงาน

 

(เพิ่มเติม)
รายละเอียด*ท้าวฆฏิการะพรหม*
(น่าสนใจและน่าศึกษาเรียนรู้)

ท้าวมหาพรหมท่านนี้ ก่อนที่จะมาเกิดเป็นพรหม ท่านเกิดในสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ มีชื่อว่า ฆฏิการะ มีอาชีพเป็นช่างปั้นหม้อ และฆฎิการะ เป็นโยมอุปัฏฐากของพระผู้มีพระภาคกัสสปะผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นอุปัฏฐากผู้เลิศ. ครั้งนั้น พระพุทธองค์บังเกิดในตระกูลพราหมณ์ มีชื่อว่า โชติปาละมาณพ แม้จะเกิดอยู่ต่างวรรณะกัน แต่ทั้งสองท่านก็เป็นสหายที่รักกันมาก ครั้งหนึ่ง ฆฏิการะช่างหม้อเรียกโชติปาลมาณพ ด้วยความปรารถนาดี พยายามเชิญชวน ที่จะให้โชติปาลมาณพ ได้มีโอกาสเข้าเฝ้า และฟังธรรมจากพระกัสสปะพุทธเจ้า

ฆฏิการะ ได้ฟังธรรมในสำนักของพระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ จนได้บรรลุเป็นพระอนาคามีบุคคล แต่ไม่ได้ออกบวชเพราะต้องเลี้ยงดูบิดามารดาที่ชราภาพ

ส่วนโชติปาละมาณพ ได้ออกเรือนบวชเป็นบรรพชิต ในสำนักของพระพุทธเจ้ากัสสปะ ได้ บำเพ็ญสมณธรรมจนบรรลุวิปัสสนาญาณในขั้น "อนุโลมญาณ" แล้วจึงหยุด (เพราะผู้จะเป็นพระพุทธเจ้า จะไม่เป็นพระอริยสงฆ์สาวกในสมัยของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง) และเป็นผู้ทรงพระไตรปิฎก

เมื่อทั้งสองท่านได้กระทำกาละ (คือ ตาย) แล้ว ฆฏิการมาณพ ก็ได้อุบัติขึ้นในชั้นสุทธาวาสพรหมชั้นสูงสุด คือ ชั้นที่16 อกนิฏฐสุทธาวาสภูมิ ซึ่งเป็นที่สถิตแห่งพระพรหมผู้ทรงคุณพิเศษไม่มีใครเป็นรอง สูงขึ้นไปต่อจากสุทัสสีสุทธาวาสภูมิ เป็นที่อยู่อันบริสุทธิ์แห่งพระพรหมอนาคามี อริยบุคคลทั้งหลาย ผู้มีวาสนาบารมี มีกิเลสธุลีเหลือติดอยู่น้อยนักหนาโดยท่านเหล่านี้เคยเป็นพระสาวกแห่งพระพุทธองค์ อุตสาหะจำเริญวิปัสสนากรรมฐานจนสามารถยัง ตติยมรรคให้บังเกิดในขันธสันดาน ได้สำเร็จเป็นพระอนาคามีอริยบุคคลและในขณะที่เจริญ วิปัสสนากรรมฐาน ปรากฏว่าเป็นผู้มีปัญญินทรีย์ คือมี ปัญญาแก่กล้ากว่าอินทรีย์อย่างอื่น ฉะนั้น ท่านพระพรหมอนาคามีบุคคลที่อุบัติเกิดในอกนิฏฐพรหมโลกนี้ จึงมีคุณสมบัติวิเศษยิ่งกว่า บรรดาพระพรหมทั้งสิ้นในพรหมโลกทั้งหลาย
พรหมโลกนี้ มีพระเจดีย์เจ้าองค์สำคัญ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าเป็นพรหมโลกที่เคารพนับถือพระบวรพุทธศาสนา องค์หนึ่งมีนามว่า ทุสสะเจดีย์ ซึ่งเป็นที่บรรจุผ้าขาวของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสด็จออกผนวช โดยพระพรหมทั้งหลายได้นำบริขารและไตรจีวรลงมาถวาย และพระองค์ได้ถอดผ้าขาวที่ทรงอยู่ยื่นให้ พระพรหมจึงรับเอาและนำมาบรรจุไว้ยังเจดีย์ที่นฤมิตขึ้นนี้ และเป็นที่สักการบูชาของพระพรหมทั้งหลายในปัจจุบัน อกนิฏฐสุทธาวาสพรหมภูมินี้ เป็นพรหมภูมิที่มีศีลคุณ สมาธิคุณ ปัญญาคุณ อย่างประเสริฐล้ำเลิศยิ่งกว่าพรหมโลกชั้นอื่นๆ ทั้งหมด

ท้าวฆฏิการพรหม ท่านคือมหาพรหม ผู้มีบารมีเต็มเปี่ยมแห่งพระพุทธศาสนาโดยแท้ พระองค์เปี่ยมด้วยบุญญาธิการ ที่มหาพรหมทั้งหมดทั้งมวลในพรหมโลก มิอาจเทียบเท่าพระองค์ได้ (ส่วนโชติปาละมาณพ ในชาติสุดท้ายก็คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันในภัทรกัปป์นี้)

ในคราวที่พระโพธิสัตว์สิทธัตถะเสด็จออกผนวช ฆฏิการพรหมผู้นี้ ได้นำเอาบาตรและจีวรของบรรพชิตมาถวายแด่พระโพธิสัตว์ และได้นำผ้าภูษาที่พระโพธิสัตว์ทรงเปลื้องออกนั้น ไปบรรจุในเจดีย์ ประดิษฐานในพรหมโลก มีชื่อว่า ทุสสะเจดีย์

ในการเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ หรืออุปสมบทของพระโพธิสัตว์ทั้ง 5 (องค์ปัจจุบัน คือองค์ที่ 4) หรือพระพุทธเจ้าทั้งหมดครบ 5 พระองค์แห่งภัทรกัปป์นี้ ท้าวฆฏิการพรหมจะเสด็จลงมาเพื่อถวายอัฐบริขารครบถ้วนทั้ง 5 พระองค์ อันมีพระกกุสันโธ พระโกนาคม พระกัสสปะ พระมหาสมณโคตม และพระศรีอาริยเมตไตรยเมื่อพระมหาโพธิสัตว์ทั้ง 5 นี้ จะอุปสมบทเพื่อที่จะเป็นพระพุทธเจ้า ท้าวฆฏิการมหาพรหมองค์นี้ ก็จะคอยถวายอัฐบริขารให้นั่นเอง

#ในทางพระพุทธศาสนา พรหม ยังหมายถึง
#พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมของพรหม หรือของท่านผู้เป็นใหญ่
พรหมวิหารเป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน
เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์

หลักธรรมนี้ได้แก่

1. #เมตตา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ความสุขเกิดขึ้นได้ทั้งกายและใจ เช่น ความสุขเกิดการมีทรัพย์ ความสุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการบริโภค ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้ และความสุขเกิดจากการทำงานที่ปราศจากโทษ เป็นต้น

2. #กรุณา : ความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ ความทุกข์ คือ สิ่งที่เข้ามาเบียดเบียนให้เกิดความไม่สบายกายไม่สบายใจ และเกิดขึ้นจากปัจจัยหลายประการด้วยกัน พระพุทธองค์ทรงสรุปไว้ว่าความทุกข์มี 2 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้

#ทุกข์โดยสภาวะ หรือเกิดจากเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของร่างกาย เช่น การเกิด การเจ็บไข้ ความแก่และ ความตายสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่เกิดมาในโลกจะต้องประสบกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมเรียกว่า กายิกทุกข์

#ทุกข์จร หรือทุกข์ทางใจ อันเป็นความทุกข์ที่เกิดจากสาเหตุที่อยู่นอกตัวเรา เช่น เมื่อปรารถนาแล้วไม่สมหวังก็เป็นทุกข์ การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ก็เป็นทุกข์ รวมเรียกว่า เจตสิกทุกข์

3. #มุทิตา : ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี คำว่า "ดี" ในที่นี้ หมายถึง การมีความสุขหรือมีความเจริญก้าวหน้า ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีจึงหมายถึง ความปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้น ไม่มีจิตใจริษยา ความริษยา คือ ความไม่สบายใจ ความโกรธ ความฟุ้งซ่านซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดีกว่าตน เราต้องหมั่นฝึกหัดตนให้เป็นคนที่มีมุทิตา เพราะจะสร้างไมตรีและผูกมิตรกับผู้อื่นได้ง่ายและลึกซึ้ง

4. #อุเบกขา : การรู้จักวางเฉย หมายถึง การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเห็นว่า ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม คือ ใครทำสิ่งใดไว้สิ่งนั้นย่อมตอบสนองคืนบุคคลผู้กระทำ เมื่อเราเห็นใครได้รับผลกรรมในทางที่เป็นโทษเราก็ไม่ควรดีใจหรือคิดซ้ำเติมเขาในเรื่องที่เกิดขึ้น เราควรมีความปรารถนาดี คือพยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ในลักษณะที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

*****************************************************

ขอขอบคุณแหล่งที่มา


สวัสดีปีใหม่ 2565
ขอให้มวลสมาชิกพลังจิต
มีแต่ความสุข ปราศจากความทุกข์

 

สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน

 

อ่านแล้่วน่าไปถวายพระบรมสารีริกธาตุเลยครบั

 

วันที่ 17 มกราคม เป็นวันคล้ายวันครบรอบ32ปี
วันมรณภาพลป.ดู่พรหมปัญโญ
จึงขอนำคติธรรมคำสอนของลป.ดู่
มาเป็นหยาดน้ำทิพย์ชโลมใจ


บุญนั้นหมั่นทำไว้ปฏิบัติไว้ คนไหนที่เขาว่าทำได้ดี
ได้เห็นอะไรก็ตามโมทนาไปเลย
ไม่มีเสียมีแต่ได้ อย่าไปขัดเขา

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือกรรม

ถึงแกมาวัด แต่ใจยังมีโลภ โกรธ หลง แกยังมาไม่ถึงวัด
แต่ถ้าแกอยู่ที่บ้านหรือที่ไหนๆ
แต่ไม่โกรธ ไม่โลภ ไม่หลง ข้าว่าแกมาถึงวัดแล้ว

"บุญ คือ ความสบายใจ
ก่อนทำก็สบายใจ ขณะทำก็สบายใจ
ทำแล้วก็สบายใจ คิดถึงทีไร สบายใจทุกที

ข้าไม่มีศิษย์เอก ไม่มีคนโปรด
ข้ารักศิษย์ทุกคนเหมือนกันหมด
ข้าอยู่กับทุกคนและช่วยเหลือเหมือนกัน
อยู่ที่ใครจะเข้าถึงข้าได้หรือไม่ หมั่นภาวนาเข้าไว้

พวกแกน่ะ เบื่อไม่จริง เดี๋ยวเบื่อ เดี๋ยวอยาก

ปฏิบัติธรรมตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
เป็นหนุ่ม เป็นสาวนี่แหละดี
เพราะเมื่อแก่เฒ่าไปแล้ว
จะนั่งก็โอย จะลุกก็โอย
หากจะรอไว้ให้แก่เสียก่อน แล้วจึงค่อยปฏิบัติ
ก็เหมือนคนที่คิดจะหัดว่ายน้ำเอาตอนที่แพใกล้จะแตก
มันจะไม่ทันการณ์

ในขณะที่เรานั่งสมาธิเจริญภาวนานั้น คำกล่าวว่า

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ให้นึกถึงว่าเรามีพระพุทธเจ้าเป็นพระอุปัฌาย์ของเรา

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ...
ให้นึกว่าเรามีพระธรรมเป็นพระกรรมวาจาจารย์

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ...
ให้นึกว่าเรามีพระอริยสงฆ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

แล้วอย่าสนใจขันธ์ 5 หรือร่างกายเรานี้
ให้สำรวมจิตให้ดี มีความยินดีในการบวช
ชายก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุ
หญิงก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุณี
อย่างนี้จะมีอานิสงส์สูงมาก
จัดเป็นเนกขัมบารมีขั้นอุกฤษฎ์ทีเดียว

ครูอาจารย์ดีๆ มีอยู่มากก็จริง
แต่สำคัญที่เราต้องปฏิบัติให้จริง
สอนตัวเองให้มาก นั่นแหละจึงจะดี

การปฏิบัติ ถ้าหยิบตำราโน้นนี้มาสงสัยถาม
มักจะโต้เถียงกันเปล่า
โดยมากชอบเอาจากอาจารย์โน่นนี่ว่าอย่างนั้นอย่างนี้มา

การจะปฏิบัติให้รู้ธรรมเห็นธรรม
ต้องทำจริง จะได้อยู่ที่ทำจริง เอาให้จริงให้รู้

ถ้าไปเรียนกับครูอาจารย์อื่นโดยยังไม่ทำให้จริงให้รู้
ก็เหมือนดูถูกดูหมิ่นครูบาอาจารย์

การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกับการปลูกต้นไม้
ศีลคือ ดิน สมาธิ คือ ลำต้น ปัญญาคือ ดอกผล
เราต้องการให้ต้นไม้เจริญงอกงาม
ก็ต้องหมั่นรดน้ำพรวนดิน

และต้องคอยระมัดระวังมิให้ตัวหนอนคือ
โลภ โกรธ หลง มากัดกิน

ถ้าเป็นโลกแล้วจะมีแต่ส่งออกไปข้างนอกตลอดเวลา
แต่ถ้าคิดสิ่งที่เป็นธรรมแล้วต้องวกกลับเข้ามาหาตัวเอง
เพราะธรรมแท้ๆ ย่อมเกิดในตัวของเรานี้ทั้งนั้น

“โลกเท่าแผ่นดิน ธรรมเท่าปลายเข็ม”

เรื่องโลกมีแต่เรื่องยุ่งของคนอื่นทั้งนั้นไม่มีที่สิ้นสุด
เราไปแก้ไขเขาไม่ได้
ส่วนเรื่องธรรมนั้นมีที่สุด มาจบที่ตัวเรา
ให้มาไล่ดูตัวเอง แก้ไขที่ตัวเราเอง
...ตนของตนเตือนตนด้วยตนเอง



*ขอน้อมกราบแทบเท้าลป.ดู่ พรหมปัญโญ*

 

สาธุครับท่าน9