กรุนาดูน

ชิ้นส่วนของพระกรุนาดูนครับแบบเต็มองค์ ไม่มีองค์พระปรากฎให้เห็นเลยอาจเป็นดินที่ขึ้นรูปเพื่อเตรียมไว้สำหรับกดพิมพ์พระลงในแม่พิมพ์แต่ไม่ได้กดพระลงในแม่พิมพ์จะด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบได้ เนื้อกลายเป็นหินไปแล้วครับ ส่วนผสมหลักๆของพระกรุนาดูนก็มี ศิลาแลง ดินเหนียว แกลบข้าว กรวด ทราย
เนื้อพระออกสีแดงหินทราย

 

สำหรับเอกลักษณ์ของกระกรุนาดูนคือคราบฝ้าขาวที่ขึ้นปกคลุมบนผิวพระ องค์นี้ก็มีครับซึ่งพอมองเห็นเป็นจุดๆ หลายจุดด้วยกัน เจ้าของเดิมคงจะล้างออกไปหมดแล้วแต่ยังพอมีคราบให้เห็นอยู่ครับ ใต้ฝ้าขาวก็คือคราบดินกรุ
จุดขาวๆคือคราบฝ้าขาวที่ยังเหลืออยู่ครับ

 

พระแผงกรุนาดูนเนื้อมะขามเปียก

 

สาระนิดๆครับ พระกรุนาดูนซึ่งก็ทราบอยู่แล้วว่าส่วนผสมหลักๆก็มีศิลาแลง ดินเหนียว แกลบข้าวเผา กรวด ทราย สำหรับศิลาแลงนั้นคงเป็นหินที่นำมาสร้างปราสาทหินพิมาย ปราสาทเขาพนมรุ้งประมาณนี้ มวลสารเหล่านี้มองเห็นได้ง่ายมากโดยเฉพาะส่วนที่ตัดมาด้วยแล้วยิ่งแยกแยะได้ง่ายส่วนนี้เป็นของตัดเก้าเนื้อมะขามเปียกมองเห็นศิลาแลงสีแดงเข้ม คราบดำๆนั้นก็คือแกลบเผ่า ส่วนเม็ดกรวดนั้นก็เห็นประปราย
คราบฝ้าขาวตัดเก้า

 

องค์นี้ชิ้นส่วนพิมพ์ธรรมจักรครับ(ผิดก็ขออภัยนะครับ) เนื้อมะขามเปียกเหมือนกันแต่สีอ่อนกว่า

 

ศิลาแลงดูโดดเด่นมากจริงๆส่วนคราบดำๆนั้นก็คือแกลบข้าวเผาครับ ที่เหลือก็เป็นดินเหนียวกับทราย และกรวด
นี่ก็คือคราบฝ้าขาวครับลักษณะไม่ต่างจากพิมพ์ตัดเก้าเนื้อฝ้าขาวจะเนียนละเอียดมากๆ

 

อีกองค์ครับเอาภาพเก่ามาลงองค์นี้เขาว่าเป็นพิมพ์ปรกโพธิ์ครับเนื้อชมพู ถูกล้างฝ้าขาวออกไปเยอะมากแต่มวลสารก็ดูชัดเจนดีครับมีบ้างที่บอกว่าองค์นี้ไม่ใช่แต่ผมก็มีข้อพิสูจน์ครับ

 

ตรงนี้มองเห็นเม็ดแกลบข้าวเผาเกือบเต็มเม็ดครับ บริเวณรอยตัดปรากฎจุดดำชัดเจนนั้นก็คือแกลบข้าวเผา

ด้านหลังเห็นทั้งศิลาแลงที่เป็นจุดแดงๆเล็กๆ แกลบข้าวเผา และเม็ดกรวดครับ

 

คราบฝ้าขาวที่ยังหลงเหลืออยู่ของพิมพ์ปรกโพธิ์ครับลักษณะไม่ต่างจากสององค์แรก
คราบไขที่เกิดจากรอยหัก และอย่างคือทรายเงินทรายทองที่มีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆเมื่อโดนความร้อนเข้ามากๆก็จะละลายมองเห็นเป็นจุดเล็กๆหรือบางทีไม่ละลายก็จะฝ่อๆหรือเป็นแบบเหี่ยวๆทำนองนี้ ไม่ยากเลยใช่ไหมครับสำหรับการพิจารณาพระกรุนาดูน