ตอบคำถามคุณ ภิษณัชย์ ครับ
เรื่องการขายบ้านก็มีโอกาสขายได้ ถ้าช่วงนี้ยังขายไม่ได้ ช่วงเดือนกรกฏาคมมีโอกาสขายได้นะครับ ช่วงปีนี้พื้นฐานดวงเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นมาแล้ว ให้สวดมนต์เจริญเมตตาเข้าไว้นะครับ แล้วจะดีมากๆ ดื่มน้ำให้มากนิดนึงนะครับจะได้เป็นผลดีต่อร่างกาย แต่ต้องระวังระบบขับถ่ายสักนิดนะครับ
โชคลาภพอจะมีนะครับ และถือว่าดีใช้ได้ทีเดียว(แต่ไม่ได้ให้คุณไปเล่นหวยนะครับ) จะได้จากผู้ใหญ่เกื้อกูล สงเคราะห์ ปฏิบัติกับพ่อแม่ผู้ใหญ่คนที่เลี้ยงดูเรามาให้ดีๆแล้วชีวิตคุณจะประสบโชคดีครับ
กลุ่มชนคนดูดวง
ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย คนดูดวง, 17 มีนาคม 2011.
หน้า 4 ของ 58
-
ตอบคุณ icecreamvanila ครับ
คำถามยอดฮิตติดอันดับฮอทเลยนะครับ ( งาน เงิน รัก )
การงาน เป็นงานที่มักต้องแก้ปัญหาให้ชาวบ้านเขาบ่อยๆ ทำดีไม่ค่อยมีคนเห็นดีนัก แต่ทำเถอะ คิดว่าปิดทองหลังพระนะคุณ ปัญหาแก้ได้แต่ต้องรอบคอบนะครับ มีอะไรอย่าตัดสินใจเร็ว ยั้งคิดยั้งทำนิดนึงนะจ๊ะ และงานจะผ่านฉลุยครับ
การเงิน อยู่ในสถานะพอประมาณ ถ้าหากไม่ใจอ่อนให้ใครยืมมากๆก็เหลือนะครับ แต่ถ้าเป็นคนขี้สงสาร ใจอ่อนละก็หมดแน่ๆครับ
ความรัก ดาวในดวงไม่สู้ดีนักแต่สถานะในเรือนภพดี ก็หมายความว่าอาจได้คู่อายุมากๆถึงดี แก่หน่อยก็ไม่เป็นไรหลอก รักเรามากๆก็โอเคนะครับ แต่ถ้าคบคนอายุน้อยไม่ดีครับ
ดาวเกี่ยวกับบุญกุศลดีดวงหนึ่ง ให้คุณ(ผลดี)หากปฏิบัติธรรมอันสมควรแกธรรมนะครับ ยังไงๆคุณอายุยังน้อย ทำบุญไว้บ้างตามโอกาสตามวารนะครับ ไม่ต้องรออายุเยอะหรือดวงตกแล้วมานั่งทำบุญเพื่อแก้กรรม ให้ทำบุญไปเรื่อยๆ หัดไว้นะสิ่งไหนดีก็ทำหรือที่ผ่านมาทำดี ทำบุญมาแล้วก็สาธุ ด้วยนะครับ
ขอให้บุญคุ้มครองนะครับ -
คู่ครองตกทุสถานภพ(ดวงคู่ครองไม่ดี)
เอาวิชามาเปิดเผยให้ดูกันบ้างนิดๆหน่อยๆนะครับคนที่มีดวงเนื้อคู่เสียมักเกิดผลดังนี้นะครับ
ผู้นั้นมักอาภัพเรื่องคู่ครอง ได้คู่จุกจิกจู้จี้ ขี้บ่น หึงหวง มีปัญหาปากเสียง ทะเลาะเบาะแว้ง ท้าตีท้าต่อย คู่กัด บางคนถูกทารุณกรรม ถูกทำร้ายถูกกดขี่ ชีวิตสมรสไม่มีความสุข ความรักมีอุปสรรคขัดขวาง ไม่ราบรื่น ญาติผู้ใหญ่ พี่น้องกีดกันหรือมีปัญหาไม่เห็นด้วย ได้คู่ไม่สมใจ รักไม่ได้ได้ไม่รัก อกหักและผิดหวังเป็นประจำ มีแต่เรื่องไม่สงบ เกิดความโกลาหลร้อนใจ เลิกราหย่าร้าง เกิดความวุ่นวาย มีปัญหาเพราะอารมณ์ร้อน แอบรักแอบชอบ อยู่ตามลำพังอาจถูกรวบรัดได้ ระวังต้องเป็นสองรองเขา หวังอะไรจากคู่ไม่ได้<O:p</O:p
อย่างอ่อน คือแต่งงานช้า เป็นโสด ได้กันก่อนแต่งหรืออยู่กันแบบแอบๆซ่อนๆ ไม่มีพิธีกรรม ไม่เปิดเผย อยู่แบบไปๆมาๆ ได้คนอายุมาก มีตำหนิผ่านการมีคู่มาแล้ว เป็นหม้าย ได้คู่มือสองได้คู่ที่ผ่านการครองเรือนมาแล้ว ตกมรณะ คู่ครองเป็นคนต่างถิ่น ต่างแดน ต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างภาษา การจากกันโดยจากเป็นหรือจากตาย (บางคนดวงกินคู่ครอง ) หรือ ผู้นั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองจึงทำให้มีคู่ช้า ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีเลย มักมีใจในทางธรรมะถือพรหมจรรย์ บวชรักษาศีลดี ตกพยายะ ได้คู่เป็นคนขี้โรค มักเจ็บป่วยหรือผิดปกติ ระวังเป็นคนที่สอง ติดโรคจากเพศตรงข้าม ตกอริ มีปัญหาในการครองเรือน เกิดความโกลาหลร้อนใจ วุ่นวาย การต่อสู้ช่วงชิง
ใครที่มีวิบากกรรมมากก็เป็นมากหน่อยนะครับ ใครทำบุญทำกุศลบ่อยๆ ความหมายหรือผลก็น้อยหน่อย ตามแต่ละคนแต่ละอย่างนะครับ<O:p</O:p -
การเงิน / ทรัพย์สิน ตกทุสถานภพ
การเงิน / ทรัพย์สิน ตกทุสถานภพ<O:p</O:p
ผู้นั้นเป็นคนเก็บรักษาทรัพย์ไม่อยู่ ใช้จ่ายในทางที่ไม่เป็นประโยชน์ ฟุ่มเฟือย มักถูกฉ้อโกง ได้ทรัพย์มาด้วยความยากลำบาก ต้องลงทุนลงแรง ความขัดสน มีทรัพย์สินเก็บรักษาเองมิได้ต้องให้ผู้อื่นเก็บรักษาแทน ห้ามค้ำประกันหรือเป็นนายหน้าให้ใครเด็ดขาด หมุนเงิน บริหารเงินแบบจับแพะชนแกะ หาเงินให้คนอื่นใช้ มีเงินติดตัวไม่ได้มีเหตุอันจำเป็นให้ต้องหมดไปอยู่เสมอ เป็นคนหาเงินเก่งใช้เก่ง ให้เงินใครยืมมีโอกาสได้คืนยากหรือไม่ได้คืน ทรัพย์นั้นมักสูญหาย แตกหัก ถูกโจรกรรม ได้ของมีตำหนิ ถ้าเป็นผู้ที่ทำบุญมาดีถึงแม้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้มาแล้วหมดไปอย่างไรก็ตามย่อมหาทดแทนใหม่ได้ไม่ลำบากนัก ส่วนผู้ที่ไม่ได้ทำบุญมาดี ในชาตินี้เป็นผู้ที่มีความเป็นอยู่มักขัดสน หาเช้ากินค่ำ มักมีเรื่องเสียเงินเสียทอง ลำบากในการหาทรัพย์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ยากจนข้นแค้น ตกทุกข์ได้ยากต่างๆนาๆ เกิดเรื่องที่ทำให้เสียเงิน ใช้เงินมาก เก็บเงินไม่อยู่ ทำให้อาลัยในชีวิตจึงปล่อยตนไปตามยถากรรมจะมีอยู่มีกินหรือไม่ ก็ไม่ค่อยสนใจ ไม่คิดมาก มีก็ชั่งไม่มีก็ชั่ง ควรทำบุญให้ทานเสมอๆ ด้วยเงิน แรงงาน อาหาร ตามแต่กำลัง โดยไม่ทำให้ตนเดือดร้อน หรือการอนุโมทนาส่วนบุญ จะทำให้เกิดกุศล กุศลบารมีจะทำให้ไม่ต้องตกอับและยากจนต่อไปในอนาคต (กรรมที่ทำให้การเงินฝืดเคือง เป็นหนี้สิน ถูกฉ้อโกง มีเรื่องขัดข้องเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง อาจเป็นเพราะเคยโกงเงินภาษี เคยลักขโมย เคยฉ้อโกงเขามาก่อน เป็นหนี้สงฆ์ ถือเอาทรัพย์สินของแผ่นดินหรือของในที่ทำงานมาเป็นของตน ทำให้พ่อแม่หรือผู้มีบุญคุณต้องเป็นทุกข์กายทุกข์ใจ)** คนที่การเงินดีไม่ชนเสีย จะเป็นผู้ที่มีความสามารถและรู้จักวิธีในการหาทรัพย์ให้เจริญงอกเงย มีช่องทางทำมาหากิน ชีวิตความเป็นอยู่สุขสบาย **<O:p</O:p -
ยามที่ดวงตกหรือดวงไม่ดี
ภพเสีย หรือ จรตกภพเสีย (ทุสถานภพ)<O:p</O:p
จะเกิดความไม่สงบ วุ่นวาย สับสน มีหลายเรื่องหลายอย่างให้ปวดหัว โกลาหลร้อนใจ เกิดความไม่แน่นอน ไม่กล้าตัดสินใจ ลังเลสงสัย ชีวิตเหมือนไม่มีจุดยืน มีปัญหาในครอบครัว ความรัก การเงิน การค้า การงานไม่เป็นผล มักผิดหวัง ระวังมีปากเสียง คดีความ ขึ้นโรงขึ้นศาล หนี้สิน เกิดเรื่องชู้สาว ชีวิตเหมือนเกิดมุมหักมีแต่เรื่องขัดข้อง อุปสรรคมากมายต่างๆนาๆ ทุกข์กายทุกข์ใจ ร้อนอกร้อนใจ ขุ่นข้องหมองใจ อึดอัด คิดนอกลู่นอกทาง มีเรื่องทำให้เสียอารมณ์หรือมีเรื่องทำให้ต้องสะเทือนใจจนทำให้อยากจะร้องไห้ ระวังจะถูกทรยศหักหลัง เกิดศัตรู ถูกใส่ร้ายใส่ความ ถูกรอบทำร้าย ซุบซิบนินทา ถูกคนดูถูกดูหมิ่น ระวังจะเจ็บไข้ได้ป่วย เกิดอุบัติเหตุ เลือดตกยางออก เกิดความผิดพลาดเสียหาย สิ่งที่หวังที่รอคอยจะผิดหวัง ต้องล้มเหลว พลิกล๊อคไม่เป็นไปตามความคาดหมาย เนิ่นช้ายาวนานหรือสูญเปล่าได้ ระวังความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน จะเกิดเรื่องร้อนใจเหมือนไฟเผา ตกอยู่ในสภาวะกดดัน จะมีเหตุไม่ดีเกิดขึ้น เสียของรัก ข้าวของหาย คนที่รักอาจพรัดพรากจากจรกันไป การย้ายถิ่นฐานที่อยู่อาศัย เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบสับสน ระวังจะถูกหลอกและเสียหายชื่อเสียง เกิดความลุ่มหลงมัวเมาได้ง่าย<O:p</O:p
บุคคลมีพื้นดวงตกทุสถานภพ (พวกมีเวรมีกรรมมาแต่ชาติปางก่อน) ต้องตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทตลอดชีวิต หมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อยู่ในขอบเขตไม่ไปเที่ยวเตร่ ปล่อยชีวิตสัตว์ ช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ต้องบำเพ็ญบุญกุศลให้มากๆ หรือ บ่อยๆ เพราะผลร้ายที่จะเกิดกับชีวิตของเจ้าชะตา ซึ่งทำให้เกิดโทษทุกข์ อกุศลวิบากกรรมจะได้ลดหย่อนทุเลาเบาบางลงได้บ้าง<O:p</O:p
** ตกมรณะ ไปบวชพระ บวชเณร แก้เคล็ดได้ หรือเป็นเจ้าภาพบวชพระบวชเณร ไปจำศีลปฏิบัติธรรมที่วัดบ่อยๆ ทำบุญโรงศพ <O:p</O:p
ไปโรงพยาบาลบริจาคเงินหรือสิ่งของให้ผู้ป่วยอนาถา<O:p</O:p -
-
โอ้โหหห ความรู้ทางโหราศาสตร์อีกเพียบเลย ขออนุโมทนาสาธุนะคะ ชอบจัง :cool:
-
ปูรกกุมภกเรจกะ
ปูรกกุมภกเรจกะ<O:p</O:p
ปูรกกุมภกเรจกะเป็นการทำสมาธิแบบอาณาปานสติอย่างหนึ่ง ตามที่เสขบุคคลได้เรียนจากพระอาจารย์ท่านหนึ่งแถวชลบุรี ผู้ที่ฝึกปูรกกุมภกเรจกะจะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงขึ้น เนื่องจากการหายใจที่หายใจเข้าไปลึกๆ จนอากาศเข้าได้มากๆตลอดถึงการทรงลมไว้ไม่หายใจ และหายใจออก ทุกขั้นตอนของลมหายที่เป็นระบบระเบียบ เป็นการกระตุ้นให้เซลในร่างกายเกิดการตื่นตัว ทำให้เกิดขบวนการขับของพิษออกจากร่างกาย ทั้งทางผิวหนัง และตามทางทวารต่างๆ โดยมีสมาธิตั้งมั่นอยู่ลมหายใจ ท่านสอนดังนี้นะครับ<O:p</O:p
๑ ลำดับแรกต้องรู้ฐานที่ตั้งแห่งลมก่อน ฐานที่ตั้งมีอยู่ ๕ ฐาน คือ <O:p</O:p
<TABLE style="BORDER-BOTTOM: #efefef 1pt solid; BORDER-LEFT: #efefef 1pt solid; WIDTH: 100%; BACKGROUND: white; BORDER-TOP: #efefef 1pt solid; BORDER-RIGHT: #efefef 1pt solid; mso-cellspacing: 0cm; mso-border-alt: solid #EFEFEF .75pt; mso-yfti-tbllook: 1184; mso-padding-alt: 4.5pt 4.5pt 4.5pt 4.5pt" class=MsoNormalTable border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR style="mso-yfti-irow: 0; mso-yfti-firstrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: #efefef; BORDER-LEFT: #efefef; PADDING-BOTTOM: 4.5pt; PADDING-LEFT: 4.5pt; PADDING-RIGHT: 4.5pt; BACKGROUND: #efebef; BORDER-TOP: #efefef; BORDER-RIGHT: white 1pt solid; PADDING-TOP: 4.5pt; mso-border-right-alt: solid white .75pt" vAlign=top>ฐานที่ ๑ คือ ปฐวีธาตุ อยู่บริเวณใต้สะดือลงไปหรือที่เรียกว่าหัวน่าวให้ผู้ปฏิบัติหายใจลงไปลึกๆ ๆจนถึงจุดนี้การทรงลมหายใจที่ฐานนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของร่างกาย ทำให้ร่ายกายแข็งแรงการที่ร่างกายทรงลมหายใจอยู่นั้น คาร์บอนไดออกไซด์ที่มันถูกเก็บอยู่ในร่างกายมันจะหาทางออกมันก็จะไปกระตุ้นทำให้รูขุมขนต่างๆในร่างกายหรือสิ่งที่อยู่ตามชั้นผิวหนังในเลือดเกิดการดีท๊อกออกมา สิ่งที่ได้เป็นผลดีแก่ผิว ทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัวและมีผลทำให้สิ่งที่อธิษฐานเกิดผลไว
ฐานที่ ๒ คือ อาโปธาตุ คือธาตุน้ำอยู่บริเวณ สะดือ หรือ เหนือสะดือพระอาจารย์บอกว่าพระที่มีญาติโยมมาหาเยอะแล้วก็พังไปเยอะก็เพราะจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้เกิดเมตตาคนจะขึ้นมาก ฉะนั้นใครอยากจะมีเมตตามหานิยมให้ตั้งลมที่จุดนี้นะครับจะเกิดความเอิบอิ่ม ผ่องใสเป็นที่รักของคนที่ไพบเห็น
ฐานที่ ๓ คือ เตโชธาตุ อยู่ที่หน้าอก หรือ ลิ้นปี่จุดนี้เป็นจุดที่กระตุ้นให้ไฟธาตุในร่างกายทำงาน สังเกตคนที่โกรธจะหายใจเร็วหายใจแค่อก การทรงลมที่ฐานนี้มักใช้ในเรื่องที่ต้องการให้สิ่งนั้นเกิดผลเร็วเช่นจะให้หนี้สินหมดเร็วๆก็ทรงลมที่ฐานนี้
ฐานที่ ๔ วาโยธาตุ อยู่บริเวณลำคอตรงส่วนนี้มักใช้ในการเสกเป่าจะสังเกตได้ว่าตั้งแต่ฐานที่๓เป็นต้นขึ้นมาเรื่อยๆนี้ลมหาใจจะสั้นส่วนมากเน้นไปในทางที่จะให้ผลที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฐานที่ ๕อากาศธาตุ คือ อยู่ที่จมูก ตรงนี้เป็นการหายใจที่นิดเดียว
ส่วนใหญ่พระอาจารย์ท่านจะสอนให้เราหายใจให้ลึกๆ ให้ลงไปถึงปฐวีธาตุคนที่หายใจลึกการเต้นของหัวใจก็จะช้าลง ส่งผลให้อากาศเข้าไปในปอดมากเน้นที่ฐานนี้เป็นหลักสำคัญ การตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่พึงจะได้ก็จะเห็นผลไวอีกทั้งกระตุ้นธาตุขันธ์ของร่างกายให้เกิดการขับสิ่งที่ตกค้างออกมา
ในช่วงที่ฝึกวันแรกๆเวลาถ่ายออกมาสีของกากอาหารออกมาเป็นสีดำเลยก็มีนะครับ<O:p</O:p
๒ วิธีปฏิบัติ
วิธีกำหนดรู้ลมหายใจ ถ้าหากไม่รู้ว่าลมหายใจมันเดินอย่างไรหรือจะกำหนดรู้ตัวที่ลมหายใจนั้นท่านให้กินน้ำเย็นๆเย็นมากๆ ให้สังเกตความเย็นที่มันผ่านลำคอลงไปๆอย่างนั้นแหละครับ ให้กำหนดรู้ตามลมหายใจอย่างนั้น หรือให้นึกถึงการตักน้ำในบ่อลึกๆ เราเอากระป๋องผูกเชือก หย่อนกระป๋องลงไปที่ก้นบ่อแล้วตักน้ำ ค่อยๆดึงกระป๋องน้ำขึ้นมา การหายใจก็ทำแบบนั้นค่อยๆหายใจ ไม่ต้องเร่งรีบ
เวลาหายใจเข้าจะนับตัวเลขก็ได้( ในทีเเรกๆอาจหายใจได้ไม่ลึกเท่าใดก็ไม่เป็นไร ค่อยทำให้ลมหายใจลึกขึ้นๆ)เช่น เวลาที่เริ่มหายใจเข้านับ ๑......๒.......๓........๔........๕.......... แล้วทรงลมไว้ที่ฐานตามที่เรากำหนดไว้ ฐานที่ดีที่สุดคือฐานที่ ๑ คือ อาการของการทรงลมเหมือนที่เราซิสอัฟไอ้ช่วงอึ๊บก่อนที่จะยกตัวขึ้นอย่างนั้นแหละท่านว่าอย่างนี้หรือให้กำหนดสติไว้ที่สุดของการหายใจเข้า แล้วนับ๑....๒...๓....๔....๕...เมื่อทรงลมหายใจโดยการนับ๑-๕ แล้วจึงค่อยๆหายใจออกนับ๑-๕ เช่นเดียวกันอย่างนี้เรียกว่า ๑ คาบ คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป (หายใจเข้าเรียกว่าปูรกทรงลมเรียกว่ากุมภกหายใจออกเรียกว่าเรจกะ) ง่ายๆก็คือหายใจเข้าไปยาวเท่าใด ก็ทรงลมไว้เท่านั้นและหายใจออกมายาวเท่านั้น ทั้ง๓ช่วงใช้เวลาเท่ากันถือเป็นอันเป็นอันใช้ได้
จะเห็นว่าวงการแพทย์สมัยนี้ก็สอนให้คนป่วยหัดหายใจในแบบที่หลวงพ่อท่านสอนด้วยเหมือนกันนะครับ
<O:p</O:p<O:p</O:p</TD></TR><TR style="mso-yfti-irow: 1; mso-yfti-lastrow: yes"><TD style="BORDER-BOTTOM: white 1pt solid; BORDER-LEFT: white 1pt solid; PADDING-BOTTOM: 4.5pt; PADDING-LEFT: 4.5pt; PADDING-RIGHT: 4.5pt; BACKGROUND: #f7f3f7; BORDER-TOP: white 1pt solid; BORDER-RIGHT: white 1pt solid; PADDING-TOP: 4.5pt; mso-border-alt: solid white .75pt; mso-border-top-alt: solid white .25pt"><V:p</V:p<O:p</O:p</TD></TR></TBODY></TABLE>
-
ตอบคำถามคุณ puynoon ครับ
งานด้านการทำงานที่คุณถามมานั้นคิดว่าไม่เหมาะนะครับ มันเป็นงานที่ไม่ถูกดวงนะ ทำแล้วมีปัญหา เหนื่อย และถูกกดดัน งานที่ดีคุณควรหางานที่เกี่ยวกับต่างประเทศ นักประชาสัมพันธ์ บัญชี การตลาด การติดต่อ ถ้าจะไปประเทศที่คุณถามมาก็โอเคนะครับ ฝึกฝนวิชาภาษาต่างประเทศไว้จะได้ดีครับ
ความรักคุณอยู่ในตำแหน่งเสีย อ่าน#67ดูนะครับเป็นความหมายรวมๆ ใช่ว่าจะเป็นอย่างนั้นซะทั้งหมดหลอกครับ นั่นเป็นสถิตินะ
ดาวที่เกี่ยวกับการเดินทางไม่ดีนะครับในดวง จะไปไหนมาไหน สวดมนต์บ้างนะ ถ้าขับรถอย่าใจร้อนหรือขับรถเร็ว
ดวงคุณถ้ามีโอกาสที่จะยุ่งเกี่ยวกับคนมีองค์ มีเจ้า ร่างทรง ก็ควรเลี่ยงๆหน่อยนะครับ เพราะว่าถ้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว และกินอาหารหรือน้ำของเขาเข้าไปแล้วจะต้องไปหาเขาบ่อยๆนะครับ ให้หมั่นทำบุญไว้มากๆนะครับ
ระวังโรคภูมิแพ้ กระดูกเสนเอ็นนะครับ
สิ่งที่จะแนะนำคือหากมีเป้าหมายที่คิดอยากจะทำให้รีบลงมือทำ เพราะถ้าปล่อยให้เนิ่นนานคุณจะเลิก ไม่ทำแล้ว และอย่าแบกโลกแบกทุกข์ อะไรที่ทำให้ต้องคิดมากก็ทิ้งมันไปบ้างนะครับ -
ตอบคุณ upacnang ครับ
จากปีที่ผ่านมานับว่าเรื่องที่คุณเล่ามาตรงกับดวงนะครับ คิดว่าโอกาสจะผ่านได้แต่อย่างไรยังต้องเสียเปรียบอยู่นะครับ และคำตอบที่ออกมาน่าจะยังไม่สู้ดีนักนะครับ หากพ้นวันเกิดในไม่ช้านี้ ดาวที่ดีมาสนับสนุนมีอยู่แต่ก็คงทำงานได้ไม่ดีนักนะครับ สิ่งที่พึงทำนั้นบุญอาจส่งผลไม่เต็มที่หากไม่ได้กำลังสมาธิเข้าช่วย การทำสมาธิตัดความกังวลต่างๆลง แล้วอธิษฐานในสมาธิอาจส่งผลได้เร็วขึ้นนะครับ ชีวิตที่มักผกผลัน อย่างไรแล้วนะครับ ให้คุณทำบุญตามแต่ความเหมาะสม รักษาศีล นั่งสมาธิ ไว้มากๆหน่อยนะครับ มีโอกาสไปจำศีลที่วัดไหนได้ก็ไปนะครับ บุญเนกขัมมะมีอานิสงส์มากอยู่ ก็ขอให้คุณพี่สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดีนะครับ
บุคคลใดมีบุญอันทำไว้ดีแล้วไม่ว่าจะเป็นในอดีต ปัจจุบัน ย่อมทำความปลื้มใจให้บุคคลผู้นั้น บุคคลนั้นย่อมไม่ลำบาก เดือดร้อน ถึงแม้จะลำบากเดือดร้อนก็ไม่หนักหนาสาหัสอะไรนัก ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ ฟังธรรมะ เดี๋ยวนี้สื่อธรรมะมีมาก ไม่ว่าจะเป็นวิทยุชุมชน ฯลฯ หากเราไม่ฟังธรรมะแล้ว ยากที่เราจะปฏิบัติเองได้ถูกทาง คนหลงทางมีมาก ถ้าเราอาศัยการฟังแล้วย่อมเกิดปัญญา คนที่มีปัญหาติดขัดในชีวิตนะครับ พอได้ฟังธรรมะแล้วจะมีในช่วงหนึ่งขอคำเทศน์ที่จะเป็นจุดแก้ไขในตัวเรา ดังนั้นท่านใดที่ไม่ชอบฟังธรรมะก็ลองฝืนใจตัวเองทีละน้อยๆ ถึงจุดหนึ่งของการฟังแล้วเมื่อไร ตัวรู้จะปรากฏกับเราเอง มันถูกจริตเราเอง แล้วปัญญาจะเกิดตอนนั้นนั่นแหละครับ
คนที่ชีวิตมีปัญหามากๆนับว่ามีบุญกว่าคนอื่นนะครับเนื่องจากได้มองเห็นทุกขสัจจะ ถ้ามองว่ามันไม่ดีมันก็ทุกข์ อาศัยทุกข์ละทุกข์ อย่างไรแล้วถ้ามรสุมที่มันผ่านพ้นไป หลังคลื่นพายุมักมีแต่ความสวยงามปรากฏให้เห็นเป็นที่น่าชื่นใจ -
ตอบคุณ glad ครับ
หน้าที่การงานคุณดูเหมือนจะดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังคงมีปัญหาที่ต้องแบกรับภาระอีกมาก ทำอะไรให้ใช้วิชาอ้อมๆหน่อยนะครับ อย่าตรงมากเกินไป คนที่เขารับไม่ได้จะเป็นผู้ที่บั่นทอนขาเก้าอี้คุณ คุณเองต้องระวังโรคพันธุกรรมด้วยละครับ คุณดวงเสียมา ๓ ปีแล้ว คราวนี้ดวงคุณผ่านมรสุมแล้ว คิดว่าหากไม่มีอกุศลกรรมมาตัดรอนหรือเบียดเบียนคงมีความสุขขึ้นนะครับ
ในดวงคุณนะครับควรสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อความเป็นสิริมงคล แนะนำว่า วัดราชนัดดา ภูเขาทอง วัดจากแดง ไปนั่งสมาธิในวัดที่มีพระบรมสารีริกธาตุแล้วอธิษฐานขอพรจากท่าน เอาดอกไม้สวยๆ พวงมาลัยงามๆไปสักการะแล้วคุณจะได้เป็นสิริมงคล มีเรื่องเล่าดังนี้นะครับ
ในสมัยหนึ่งมีหญิงยากจนคนหนึ่ง มีศรัทธาอยากจะไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุ เก็บเอาดอกบวบขมสีเหลืองริมทาง(ไม่มีเงินซื้ออย่างอื่น) จิตมุ่งตรงต่อพระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ในขณะที่เดินไประหว่างนั้นถูกวัวแม่ลูกอ่อนขวิดตายเสียก่อนที่นางจะไปถึง ด้วยอำนาจแห่งกุศลเจตนา ทำให้นางไปเกิดบนสวรรค์มีวิมานเป็นทองคำ มีความสุขในทิพยสมบัติ มีต่ออีก....แต่คร่าวๆแค่นี้ก่อนนะครับ
ปล. ดาวความรักเสียนะครับ
ดูวัดจากแดงน่าไปมาก
~~พาไปทำบุญ วัดจากแดง สมุทรปราการ~ by Tree Server คนเดิม - HFLIGHT.net ตั๋วเครื่องบิน/จองโรงแรม/ท่องเที่ยว -
อานิสงส์การให้ทาน(ตัวอย่างท่านพระมหากัสสปเถระเจ้า)
ในสมัยของพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า อุบาสก(พระมหากัสสปะ)นั้นก็จุติจากเทวโลกไปเกิดในตระกูลพราหมณ์เก่าแก่ตระกูลหนึ่ง มีผ้าห่มอยู่เพียงผืนเดียวเท่านั้น คนทั้งหลายจึงเรียกพราหมณ์นั้นว่า เอกสาฏกพราหมณ์ เมื่อเหล่าพราหมณ์ประชุมกัน ด้วยกิจบางอย่าง พราหมณ์ก็ต้องให้นางพราหมณีอยู่บ้าน ตนเองไปประชุมกับเหล่าพราหมณ์ เมื่อถึงคราวพวกพราหมณีประชุมกัน ตัวพราหมณ์เองก็ต้องอยู่บ้าน นางพราหมณีจะห่มผ้านั้นไปประชุม ในสมัยพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามวิปัสสีนั้น พระพุทธองค์จะทรงแสดงพระธรรมเทศนาทุก ๆ ๗ ปี ในปีนั้น เอกสาฏกพราหมณ์นั้นทราบว่า พระศาสดาจะทรงแสดงธรรมในวันนี้จึงให้นางพราหมณีไปฟังตอนกลางวัน โดยห่มผ้าซึ่งมีอยู่เพียงผืนเดียวไปฟังธรรมในตอนกลางวัน ครั้นเมื่อฟังธรรมแล้ว ถึงเวลาค่ำพราหมณ์ได้ให้นางพราหมณีอยู่บ้าน ตนเองก็ห่มผ้านั้นไปฟังพระธรรมเทศนายังพระวิหาร เมื่อพราหมณ์นั่งฟังธรรมอยู่ท้ายเหล่าพุทธบริษัท ก็บังเกิดปิติ ขึ้นทั่วทั้งร่างในเวลาปฐมยามนั่นเอง พราหมณ์นั้นจึงดึงผ้าที่ตนห่มออกมาคิดว่า จะถวายผ้าที่ตนห่มนั้นแด่พระทศพล ในเวลาเดียวกันนั้นความหวงแหนในผ้าห่มซึ่งตนมีเพียงผืนเดียวก็บังเกิดขึ้นแก่พราหมณ์นั้น และคิดว่า พราหมณีกับเรามีผ้าห่มผืนเดียวเท่านั้น ผ้าห่ม ผืนอื่นใด ๆ เราก็ไม่มี และถ้าไม่มีผ้าห่มก็ออกไปข้างนอกไม่ได้ พราหมณ์นั้นจึงตกลงใจไม่ต้องการถวายโดยประการทั้งปวง ครั้นเมื่อปฐมยามผ่านไป พราหมณ์ก็เกิดปีติเหมือนอย่างที่เกิดเมื่อช่วงปฐมยามขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งในช่วงมัชฌิมยาม พราหมณ์คิดเหมือนอย่างนั้น แล้วไม่ได้ถวายเหมือนเช่นนั้นอีก ครั้นเมื่อมัชฌิมยามล่วงไป ปีติเหมือนอย่างนั้นนั่นแหละ ก็เกิดขึ้นแก่พราหมณ์อีกเป็นครั้งที่สามในช่วงปัจฉิมยาม พราหมณ์นั้นตัดสินใจว่า เป็นไรเป็นกัน ค่อยรู้กันทีหลัง คิดดังนั้นแล้วก็ดึงผ้าห่มมาวางแทบพระบาทพระบรมศาสดา ปรบมือขึ้น ๓ ครั้งแล้ว และร้องว่า ชิตํ เม, ชิตํ เม, ชิตํ เม (เราชนะแล้ว ๆ ๆ).
เวลานั้น พระเจ้าพันธุมราชประทับนั่งสดับธรรมอยู่ภายในม่านหลังธรรมาสน์ ได้ทรงสดับดังนั้น จึงส่งราชบุรุษให้ไปถามพราหมณ์นั้นว่า เขาพูดทำไม เมื่อราชบุรุษไปถาม พราหมณ์จึงกล่าวว่า คนอื่นนอกจากข้าพเจ้า เมื่อจะเอาชัยชนะต่อกองทัพข้าศึก จะต้องขึ้นพาหนะ เช่นช้างเป็นต้น ถือโล่หนัง และดาบเป็นอาวุธ เข้าต่อกรกับข้าศึกจึงจะได้ชัยชนะ แต่ชัยชนะเช่นนั้นไม่น่าอัศจรรย์ ส่วนตัวเราได้ทำลายจิตตระหนี่แล้ว ถวายผ้าที่ห่มอยู่แด่พระทศพล ชัยชนะของเรานั้นจึงน่าอัศจรรย์
ราชบุรุษจึงไปกราบทูลเรื่องราวนั้นแด่พระราชา พระราชารับสั่งว่า พวกเราไม่รู้สิ่งที่สมควรแก่พระทศพล แต่พราหมณ์นั้นรู้ จึงทรงรับสั่งให้ส่งผ้าสำรับหนึ่ง คือผ้านุ่งกับผ้าห่ม ไปพระราชทาน พราหมณ์เห็นผ้าคู่นั้นแล้วคิดว่า ถ้าเรามิได้กระทำอะไรพระราชาก็คงไม่พระราชทานอะไรให้แก่เรา เป็นเพราะเรากล่าวคุณทั้งหลายของพระบรมศาสดาหรอก ท่านจึงได้พระราชทาน ดังนั้นจะมีประโยชน์อะไรแก่เรากับรางวัลที่ได้รับโดยอาศัยพระคุณของพระบรมศาสดา คิดดังนั้นจึงได้ถวายผ้าสำรับนั้นแด่พระทศพลเสียเลย
พระราชา ตรัสถามว่า พราหมณ์ทำอย่างไร ทรงสดับว่า พราหมณ์ถวายผ้าสำรับนั้นนั้นแด่พระตถาคต จึงรับสั่งให้ส่งผ้าคู่ ๒ สำรับพระราชทานไปอีก พราหมณ์นั้นได้ถวายผ้าคู่ ๒ สำรับนั้นแด่พระศาสดา พระราชาก็ทรงส่งผ้าคู่ ๔ สำรับไปพระราชทานอีก พราหมณ์ก็นำผ้าที่ได้รับถวายพระศาสดาอีกเช่นเดิม ทำเช่นนี้จนกระทั่งพระราชาทรงส่งผ้าไปพระราชทาน ถึง ๓๒ สำรับ พราหมณ์จึงคิดว่า การทำดังนี้ เป็นเหมือนตั้งใจจะให้พระราชทานเพิ่มขึ้นแล้วจึงจะรับเอา จึงถือเอาผ้า ๒ สำรับ คือ เพื่อตนเองสำรับ ๑ เพื่อนางพราหมณีสำรับ ๑ แล้วถวายพระทศพล ๓๐ สำรับ แต่นั้นมาพราหมณ์ก็ได้เป็นผู้คุ้นเคยกับพระบรมศาสดา
ครั้นวันหนึ่งพระราชาทรงสดับธรรมในสำนักของพระบรมศาสดาในฤดูหนาว ได้พระราชทานผ้ากัมพลแดงสำหรับห่ม ส่วนพระองค์มีมูลค่าพันหนึ่งแก่พราหมณ์ แล้วรับสั่งว่า นับแต่นี้ไป ท่านจงห่มผ้ากัมพลแดงผืนนี้ฟังธรรมเถิด พราหมณ์นั้นคิดว่า ผ้ากัมพลแดงนี้จะมีประโยชน์อะไรกับกายอันโสโครก เปื่อยเน่าของเรานี้ จึงได้ถวายทำเป็นเพดานเหนือเตียงของพระตถาคตภายในพระคันธกุฎี
อยู่มาวันหนึ่ง พระราชาเสด็จไปพระวิหารแต่เช้าตรู่ ประทับนั่งในที่ใกล้พระบรมศาสดาในพระคันธกุฏี ในขณะนั้น พระพุทธรัศมีมีพรรณ ๖ ประการ ส่องไปกระทบที่ผ้ากัมพล สีแดงของผ้ากัมพลก็บรรเจิดจ้าขึ้น พระราชาทอดพระเนตรเห็นก็จำได้จึงกราบทูลพระศาสดาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผ้ากัมพลผืนนี้ของข้าพระองค์ ๆ ให้เอกสาฏกพราหมณ์ พระทศพลทรงตรัสว่ามหาบพิตร พระองค์พระราชทานเพื่อบูชาพราหมณ์ พราหมณ์ถวายเพื่อบูชาอาตมภาพ พระราชาทรงเลื่อมใสว่า พราหมณ์รู้สิ่งที่เหมาะที่ควร พระองค์เองกลับไม่รู้ จึงพระราชทานสิ่งที่เป็นของเกื้อกูลแก่มนุษย์ทุกอย่าง ๆ ละ ๘ ชนิด ๘ ครั้ง ให้เป็นของประทานชื่อว่า สัพพัฏฐกทาน แล้วทรงตั้งให้เป็นปุโรหิต พราหมณ์นั้นคิดว่า ชื่อว่าของ ๘ ชนิด ๘ ครั้ง ก็เป็น ๖๔ ชนิด จึงตั้งสลากภัต ๖๔ ที่ ถวายแด่พระสงฆ์ แล้วให้ทาน รักษาศีลตลอดชีวิต จุติจากชาตินั้นไปเกิดในสวรรค์
ในสมัยพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันท่านได้กลับมาเกิดเป็นบุตรเศรษฐีมหาศาล ด้วยบุญที่ท่านทำไว้ ทรัพย์และศรัทธาท่านบริสุทธิ์และได้ทำบุญไว้กับท่านผู้มีคุณธรรมสูง ย่อมส่งผลให้ท่านมีแต่ความสุข ดังนั้นหากท่านใดมีศรัทธาเกิด ให้ละความเสียดาย หวงแหนนั้น แล้วรีบทำบุญกุศล บุญที่เกิดจะได้มีอานิสงส์แก่กล้า อย่าให้กิเลสความเสียดายมาขวางกั้น หรือ ขัดบุญเรานะครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ -
ส่งข้อมูลทางPMแล้วนะครับ
-
วัดพิชยญาติก็มีพระบรมสารีริกธาตุด้วยนะ หลวงพ่อสมปรารถนาก็งดงามน่าสักการะกราบไหว้ และ เจริญภาวนา
วันอาทิตย์หากคุณแม่ชีท่านอยู่ คนก็จะเยอะหน่อยครับ -
ตอบคุณ chadaz ครับ
หากคุณไปพวกตำหนักทรงก็ดี ไปที่เกี่ยวกับคนมีองค์ก็ดี คุณมีสิทธิ์เป็นคนมีองค์ครับ ในดวงถ้าเป็นแบบคนอื่นที่เขาพยากรณ์กัน เขาจะบอกว่าคุณนะเป็นคนมีเทพผู้หญิงคุ้มครองหรือติดตามคุณอยู่นะ ชื่อนั้นชื่อนี้อะไรประมาณนี้ (เดาตามความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้) ถ้าหากเราเกี่ยวข้องกับเขามันจะอินไปกับบทบาทเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไป อ่านหัวข้อ #8 , #22 ดูนะครับ ผมเองเมื่อก่อนเคยไปงานสวดภานยักษ์เกือบไปเหมือนกัน ถ้าไม่กำหนดจิตไว้ คงเป็นอะไรก็ไม่รู้ ในขณะที่จิตถูกเสียงที่พระสวดๆแบบเน้น สูงๆต่ำๆ เสียงกลอง เสียงประทัด เสียงฆ้อง บรรยากาศให้มากๆเลยครับ คนเราที่เขาถูกสะกดจิตง่ายๆมันเป็นอย่างนี้เอง ถ้าเราบังคับใจเราได้มันก็ผ่าน
มีอีกอย่างนะครับ เขาบอกว่าคนที่มีองค์ ไม่รับองค์ไม่รับขันธ์ จะถูกเจ้าลงโทษ ให้เกิดความเจ็บป่วยปางตายบ้าง เป็นหนี้เป็นสินแทบล้มประดาตาย ชีวิตมีแต่อุปสรรค และความทุกข์ยากต่างๆนานา (อันนี้ใครเคยหรือมีความรู้มาเขียนเล่าให้ฟังบ้างนะครับ)และแล้วในที่สุดเรา (ร่าง)ก็จะต้องยอมให้เจ้านั้นอาศัยเราเป็นตัวแทนให้ท่านมาสื่อหรือมาปฏิบัติ แล้วสิ่งที่เป็นทุกข์ยากเดือดร้อนก็จะหายไป เกิดร่ำรวยอะไรก็มี ตรงนี้ผมยังตามหาเหตุและผลอยู่ หากเหตุยังไม่สมควรแก่ผลแล้วผมก็ยังไม่เชื่อ(ไม่ได้ปฏิเสธหรือลบหลู่นะครับ) เพราะว่าในสมัยหนึ่ง ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีท่านตกยากคือยากจนลง เพราะทรัพย์สูญเสียและเสียหายไป ท่านต้องใส่บาตรพระด้วยปลายข้าวสารหักและน้ำผักดอง เทวดาที่เฝ้าอยู่ที่เรือนของท่านได้ปรากฏตนและห้ามท่านไม่ให้ทานทำบุญ ท่านทำบุญจนหมดเนื้อหมดตัวแล้วอย่างนี้ใช้ไม่ได้ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีเมื่อได้ฟังอย่างนั้นแล้วจึงขับไล่เทวดาองค์นั้นไป ให้ไปอยู่ที่อื่น เทวดาก็ออกจากที่อยู่นั้นไป ไปที่ไหนๆเทวดาที่อยู่ในที่นั้นๆก็ไม่ให้เขาอยู่ด้วย จนกระทั่งเทวดาองค์นั้นไปกราบทูลท่านท้าวสักกะ(พระอินทร์)ว่าอยากกลับไปอยู่ที่เดิม ช่วยไปขอร้องเศรษฐีให้หน่อยเถอะให้ท่านมาอยู่ด้วย ท่านลำบากเหลือเกินไม่มีที่อยู่ที่อาศัย ท่านท้าวสักกะจึงบอกเทวดาองค์นั้นให้ไปขอโทษท่านเศรษฐีเองและให้เทวดาองค์นั้นไปติดตามลูกหนี้ของท่านเศรษฐีให้เอาเงินมาคืน และทรัพย์ที่ฝังไว้ซึ่งถูกน้ำพัดหายไปมาคืน และตั้งตนอยู่ในสัมมาทิฐิ ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีจึงกลับมาร่ำรวยอีกครั้ง หากเราทำบุญไว้ดีแล้ว และเป็นสัมมาทิฐิแล้ว เทวดาท่านจะมาคุ้มครองอย่างไรก็ตาม มีหรือไม่มีก็ตาม หากเราทำบุญหรือปฏิบัติไปๆ เราจะรู้ว่าเราควรทำอย่างไรต่อไป ต่างคนต่างบำเพ็ญบุญมาไม่เท่ากัน ความแตกต่างที่ได้สะสมมา แต่เราก็มีเป้าหมายคือความพ้นทุกข์ต่างกัน ขอเป็นกำลังใจในการทำความดีของคุณและของทุกๆคนนะครับ
ว่าด้วยการวิเคราะห์ตามหลักโหราศาสตร์ คือ ดวงคุณเป็นคนที่สามารถสัมผัสกับสิ่งที่เรียกว่า จิตศาสตร์ โหราศาสตร์ ไสยศาสตร์ สมาธิ สิ่งเร้นลับได้เป็นอย่างดี คือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุมครอง ดังนั้นหากมีการฝึกจิตฝึกสมาธิแล้วจะได้ผลดี ทำให้คุณมีพลังจิต สามารถรู้เหตุการณ์ต่างๆได้ดี
ส่วนเวลาทำสมาธิ ให้สมาทานศีล ๕ ก่อน และแผ่เมตตาให้ครูบาอาจารย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตลอดถึงสัพพสัตว์ทั้งหลายด้วยก่อนการนั่ง หากนั่งไปแล้วให้มีสติระลึกอยู่ที่อารมณ์กรรมฐานนั้นๆที่คุณปฏิบัติ(เช่นกำหนดลมหายใจก็ควรมีจิตกำหนดไว้ที่ลมหายใจ จะมีนิมิตหรือภาพใดเกิดขึ้นก็ไม่ต้องไปพยายามละหรือกำจัดไป ให้มีสติรู้เหมือนคนดูทีวี และพยายามตั้งสติไว้ ที่ลมหายใจเข้าออกนะครับ) หากมีอาการอย่างอื่นก็ให้อธิษฐานไปว่า ลูกรับรู้แล้วซึ่งญาณบารมีของท่านแล้ว "ลูกขอถวายพระพร ขอให้ลูกอยู่ในอาการปกติ และช่วยคุ้มครองลูกด้วย "แล้วคุณก็จะได้ไม่ต้องกังวลหรือมีอาการต่างๆนะครับ
ส่วนเรื่องที่เป็นประสบการณ์แปลกในขณะที่นั่งสมาธิหรือสวดมนต์นั้น ให้เราพยายามศึกษาวิธีการปฏิบัติก่อนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการหาหนังสือ เทป ซีดี ฟังวิทยุ เรื่องการทำสมาธิ หรือหลักการทำสมาธิ ศึกษาก่อน แล้วคุณจะปฏิบัติได้อย่างถูกทางและถูกต้องนะครับ
ส่วนด้านการเงินนั้นดาวในดวงมันเสียนะครับ อย่างไรหากรู้จักการวางแผนการใช้เงินแล้วก็คงจะแก้ไขได้ มีเงินแล้วก็แบ่งไปทำบุญเรื่อยๆก็แล้วกัน มันหมดเหมือนกันแต่ได้บุญครับ บุญที่ทำไว้จะทำให้สิ่งที่ติดขัดอยู่ราบรื่นขึ้นก็ได้นะ
ส่วนเรื่องการงานดีครับพื้นดวงว่าไม่มีปัญหาอะไร
แถมเรื่องคู่ให้นิดนึง เรื่องคู่ก็ดีครับ แต่ต้องระวังเรื่องอารมณ์อย่าเป็นคนใจร้อนแล้วทุกอย่างจะดีเองครับ -
ตอบคุณ สุกัญยา ครับ
ดูจากดาวในดวงเกี่ยวกับทหารตำรวจมันชนเสียนะครับ คิดว่าคงไม่ได้เป็นทหารตำรวจนะครับ ขืนได้เป็นลำบากแย่เลยครับ
ส่วนหน้าที่การงานคุณดีนะครับ แต่คนหมู่มากอาจทำให้ปวดหัว เพราะคุณอาจมีเพื่อนเยอะ แล้วถ้าคุณเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่นแล้วละก็ ใครๆก็จะมาให้คุณทำนั่นทำนี่ให้เสมอๆนะครับ
อนาคตคุณดาวการเงินหรือหลักทรัพย์ในดวงดี หากคุณสามารถบริหารจัดการได้ดีคุณก็จะเป็นคนที่มีความสุขสบายคนนึงนะครับ
เนื้อคู่นั้นดาวบอกว่าคุณมีคนมากรักมาชอบเยอะนะ แต่มันอยู่บนฐานเปลี่ยนแปลงนะครับ คุณเองก็ต้องระวังด้วยนะครับ เพศเดียวกันก็อาจทำมิดีมิร้ายคุณได้นะครับ -
ตอบคุณ tatuan ครับ
เรื่องงานของคุณพื้นฐานดาวในดวงนั้นดีนะครับ แต่ว่าในขณะ ๒-๓ ปีนี้มันไม่ดีนักเลย เนื่องจากดวงคุณไม่ดี มันก็เลยมีปัญหาเข้าไปด้วยก็เป็นได้นะครับ แต่อย่างไรแล้วมันมีช่องทางที่คุณจะได้โชคอยู่นะครับ ขอให้คุณพยายามทำบุญไปด้วย สิ่งที่ร้ายจะได้กลายเป็นดี ดวงยังมีพื้นฐานในปัจจุบันไม่ดีนักนะครับ
ระวังสุขภาพด้วย ระวังใครมาทำให้เห็นใจด้วยนะครับจะเสียเงิน
ถ้าคุณเครียดมากอาจมีการเปลี่ยนแปลงนะ แต่ถ้ายังไม่อยากเปลี่ยนงาน หาเวลาว่างๆไปวัดที่มีพระประธานองค์ใหญ่ เอาดอกไม้สวยๆไปสักการะท่านแล้วนั่งมองท่านให้เป็นนิมิตติดตา แล้วอธิษฐานในสิ่งที่เป็นเรื่องขัดข้องของคุณ อะไรที่หนักอกก็เหมือนกันนะครับ สิ่งที่ร้ายอาจกลายเป็นดีได้ -
ตอบคุณ namsaidee ครับ
อ่านคำถามแรกก็ว่าจะตอบว่างานไม่ดีนะช่วงนี้ แต่เจอข้อ๒แล้วเลยอ๋อ รอไปก่อนนะครับ แต่งานที่เหมาะสมนะครับ ดวงนี้ต้องทำกิจการส่วนตัวจะดีกว่า การค้าการขายอะไรก็ได้จะดีกว่า ดวงต้องระวังสุขภาพหน่อยนะครับโดยพื้นฐานก็ไม่ค่อยดีนะ อายุมากขึ้นเรื่อยๆต้องหมั่นดูแลตัวเองนิดนึงนะครับ ภูมิแพ้ และระบบอวัยวะต่างๆในช่องท้องนะ
ลองศึกษาอะไรก็ได้ที่จะเป็นธุรกิจส่วนตัวมันจะดีกว่าเป็นพนักงานรับเงินเดือนนะครับ -
ตอบคุณ bbaannkk25 ครับ
หากคุณจะทำธุรกิจส่วนตัวเองถือว่าดี แต่ยังไม่ถึงเวลานะครับ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อนนะครับ คุณต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาไว้มากๆนะครับ เพราะดาวที่เกี่ยวกับงานมันสัมพันธ์กับความหมายที่เสีย
ดวงคุณหลังวันเกิดจะได้พบคนถูกใจนะครับ ส่วนการที่จะครองรักกันได้นานมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับการที่ทั้งสองคนสร้างบุญกุศลอันเนื่องกันมามากน้อยเพียงใด นะครับ -
ตอบคุณ onely144 ครับ
จังหวะชีวิตยังไม่ค่อยดีนักเลยนะครับ ให้คุณทิ้งความวิตก ความทุกข์ต่างๆให้ออกจากสมองจากใจไปให้หมดนะครับ เวลามีความทุกข์ไปเที่ยวแถวๆชายน้ำ ชายทะเล ให้สบายใจก่อนนะครับ แล้วจะได้ทำให้เกิดความคิดในการที่จะแก้ปัญหาต่างๆได้ดี ช่วงนี้ดวงไม่ดีหมั่นไหว้พระทำบุญไว้มากๆนะ สิ่งที่หวังที่รอคอยยังไม่เป็นผล อารมณ์เสียง่าย เรื่องคู่ครองก็ควรศึกษาและดูแล เอาใจใส่กันให้ดีๆนะครับ อย่าสร้างกระแสพลักดันนะครับอะไรๆที่เขาชอบก็ควรทำ เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสทำบุญกุศลร่วมกันได้ก็ไปบ่อยๆนะครับ ทำบุญเกี่ยวกับโบสถ์ วิหาร เสนาสนะ กระเบื้องมุงหลังคา อะไรๆที่เป็นถาวรวัตถุนั่นแหละจึงจะดี ขอให้อดทนต่อภาวะต่างๆให้มากๆนะครับ ช่วงนี้มันร้อนยิ่งไปเขี่ยมันยิ่งลุกเป็นไฟครับ ขอให้ผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดีนะครับ
หน้า 4 ของ 58