กลุ่มชนคนดูดวง

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย คนดูดวง, 17 มีนาคม 2011.

  1. Goi

    Goi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +117
    รบกวนด้วยครับ PM ไปแล้ว ขอบคุณมากครับ
     
  2. natt99999

    natt99999 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +2
    ส่ง PM ไปให้แล้วนะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  3. จิณณะ

    จิณณะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +10
    ส่ง PM ไปแล้วนะคะ
     
  4. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    อาจจะตอบช้าบ้างนะครับ เพราะช่วงนี้กำลังมองหาสถานที่เปิดโรงเรียนสอนโหราศาสตร์ ควบคู่กับชมรมที่เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมไปด้วย ถ้ามีโอกาส มีวาสนา ก็จะได้เปิดโอกาสให้เพื่อนๆในเวปพลังจิต มาสวดมนต์ ปฏิบัติธรรม และใช้พุทธธรรม แก้วิถีชีวิตหรือทำให้ชีวิตมีความสุข มีความสำเร็จขึ้นบ้างนะครับ วางเป้าหมายและโครงการไว้บ้างแล้ว ไว้สำเร็จผลอย่างไรแล้วจะมาบอกนะครับ
     
  5. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    ดวงเนื้อคู่เสีย

    คนที่มีดวงเนื้อคู่เสียมักเกิดผลดังนี้นะครับ
    ผู้นั้นมักอาภัพเรื่องคู่ครอง ได้คู่จุกจิกจู้จี้ ขี้บ่น หึงหวง มีปัญหาปากเสียง ทะเลาะเบาะแว้ง ท้าตีท้าต่อย คู่กัด บางคนถูกทารุณกรรม ถูกทำร้ายถูกกดขี่ ชีวิตสมรสไม่มีความสุข ความรักมีอุปสรรคขัดขวาง ไม่ราบรื่น ญาติผู้ใหญ่ พี่น้องกีดกันหรือมีปัญหาไม่เห็นด้วย ได้คู่ไม่สมใจ รักไม่ได้ได้ไม่รัก อกหักและผิดหวังเป็นประจำ มีแต่เรื่องไม่สงบ เกิดความโกลาหลร้อนใจ เลิกราหย่าร้าง เกิดความวุ่นวาย มีปัญหาเพราะอารมณ์ร้อน แอบรักแอบชอบ อยู่ตามลำพังอาจถูกรวบรัดได้ ระวังต้องเป็นสองรองเขา หวังอะไรจากคู่ไม่ได้
    อย่างอ่อน คือแต่งงานช้า เป็นโสด ได้กันก่อนแต่งหรืออยู่กันแบบแอบๆซ่อนๆ ไม่มีพิธีกรรม ไม่เปิดเผย อยู่แบบไปๆมาๆ ได้คนอายุมาก มีตำหนิผ่านการมีคู่มาแล้ว เป็นหม้าย ได้คู่มือสองได้คู่ที่ผ่านการครองเรือนมาแล้ว

    ตกมรณะ คู่ครองเป็นคนต่างถิ่น ต่างแดน ต่างชาติ ต่างศาสนา ต่างภาษา การจากกันโดยจากเป็นหรือจากตาย (บางคนดวงกินคู่ครอง ) หรือ ผู้นั้นมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองจึงทำให้มีคู่ช้า ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีเลย มักมีใจในทางธรรมะถือพรหมจรรย์ บวชรักษาศีลดี

    ตกพยายะ ได้คู่เป็นคนขี้โรค มักเจ็บป่วยหรือผิดปกติ ระวังเป็นคนที่สอง ติดโรคจากเพศตรงข้าม

    ตกอริ มีปัญหาในการครองเรือน เกิดความโกลาหลร้อนใจ วุ่นวาย การต่อสู้ช่วงชิง
    ใครที่มีวิบากกรรมมากก็เป็นมากหน่อยนะครับ ใครทำบุญทำกุศลบ่อยๆ ความหมายหรือผลก็น้อยหน่อย ตามแต่ละคนแต่ละอย่างนะครับ
    เฟซบุคผมนะครับ https://www.facebook.com/profile.php?id=100005858469282&sk=notes_drafts
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2014
  6. sariga

    sariga Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2007
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +70
    ]
    PM ไปแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  7. oil_bobby

    oil_bobby สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    รบกวนด้วยค่ะ PM ไปแล้ว ขอบคุณมากค่ะ
     
  8. blue pooh

    blue pooh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +271
    เรียนคุณเลขบุคคล

    เป็นคนดวงเรื่องคู่เสีย ที่ท่านอ.กล่าวมาสงสัยจะมีครบหมด จนตอนนี้ก็ยังโสด

    รบกวนอ. ค่ะเรื่องงานกับความรัก ไปทำงานไกลบ้าน
    บ.ต่างชาติ(ญี่ปุ่น) พอไปไหวไหม ปีที่ผ่านใจไม่อยู่กับตัวล่องลอยมาก เลยได้ย้ายมาอยู่ที่นี่

    ความรัก ห่างจากคนที่ชอบเพราะย้ายที่ทำงาน พอจะเป็นไปได้ไหม หรืออยู่บนคานต่อไปจะได้ไม่ปวดหัว
    ๑๖/๐๓/๒๕๒๔ เวลาไม่เกิน ๗.๓๐ น.
     
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,779
    ค่าพลัง:
    +16,090
    เรียน คุณเสขบุคคล
    วันนี้มี pm.คำถามให้ช่วยอนุเคราะห์ครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าเป็นอย่างสูง
     
  10. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    ยามที่ดวงตกหรือดวงไม่ดี

    ภพเสีย หรือ จรตกภพเสีย (ทุสถานภพ)
    จะเกิดความไม่สงบ วุ่นวาย สับสน มีหลายเรื่องหลายอย่างให้ปวดหัว โกลาหลร้อนใจ เกิดความไม่แน่นอน ไม่กล้าตัดสินใจ ลังเลสงสัย ชีวิตเหมือนไม่มีจุดยืน มีปัญหาในครอบครัว ความรัก การเงิน การค้า การงานไม่เป็นผล มักผิดหวัง ระวังมีปากเสียง คดีความ ขึ้นโรงขึ้นศาล หนี้สิน เกิดเรื่องชู้สาว ชีวิตเหมือนเกิดมุมหักมีแต่เรื่องขัดข้อง อุปสรรคมากมายต่างๆนาๆ ทุกข์กายทุกข์ใจ ร้อนอกร้อนใจ ขุ่นข้องหมองใจ อึดอัด คิดนอกลู่นอกทาง มีเรื่องทำให้เสียอารมณ์หรือมีเรื่องทำให้ต้องสะเทือนใจจนทำให้อยากจะร้องไห้ ระวังจะถูกทรยศหักหลัง เกิดศัตรู ถูกใส่ร้ายใส่ความ ถูกรอบทำร้าย ซุบซิบนินทา ถูกคนดูถูกดูหมิ่น ระวังจะเจ็บไข้ได้ป่วย เกิดอุบัติเหตุ เลือดตกยางออก เกิดความผิดพลาดเสียหาย สิ่งที่หวังที่รอคอยจะผิดหวัง ต้องล้มเหลว พลิกล๊อคไม่เป็นไปตามความคาดหมาย เนิ่นช้ายาวนานหรือสูญเปล่าได้ ระวังความขัดแย้งไม่ลงรอยกัน จะเกิดเรื่องร้อนใจเหมือนไฟเผา ตกอยู่ในสภาวะกดดัน จะมีเหตุไม่ดีเกิดขึ้น เสียของรัก ข้าวของหาย คนที่รักอาจพรัดพรากจากจรกันไป การย้ายถิ่นฐานที่อยู่อาศัย เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบสับสน ระวังจะถูกหลอกและเสียหายชื่อเสียง เกิดความลุ่มหลงมัวเมาได้ง่าย
    บุคคลมีพื้นดวงตกทุสถานภพ (พวกมีเวรมีกรรมมาแต่ชาติปางก่อน) ต้องตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาทตลอดชีวิต หมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อยู่ในขอบเขตไม่ไปเที่ยวเตร่ ปล่อยชีวิตสัตว์ ช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก ต้องบำเพ็ญบุญกุศลให้มากๆ หรือ บ่อยๆ เพราะผลร้ายที่จะเกิดกับชีวิตของเจ้าชะตา ซึ่งทำให้เกิดโทษทุกข์ อกุศลวิบากกรรมจะได้ลดหย่อนทุเลาเบาบางลงได้บ้าง
    ** ตกมรณะ ไปบวชพระ บวชเณร แก้เคล็ดได้ หรือเป็นเจ้าภาพบวชพระบวชเณร ไปจำศีลปฏิบัติธรรมที่วัดบ่อยๆ ทำบุญโรงศพ ไปโรงพยาบาลบริจาคเงินหรือสิ่งของให้ผู้ป่วยอนาถา
     
  11. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    การตั้งจิตปรารถนาในสิ่งต่างๆที่เราทำกุศล เป็นการตั้งเจตนาของตนอยู่ในทางของโลภะ กุศลเป็นปัจจัยแก่อกุศล ดังนั้นสิ่งทั้งหลายจึงสำเร็จผลบ้าง ไม่สำเร็จผลบ้าง เพราะมันมีกำลังอ่อนหรือเป็นทางที่เรียกว่า ต้นตรงแต่ปลายคด เพราะใจมันเจือไปด้วยความอยาก ความต้องการเพื่อผลอันนำมาซึ่งความสุขต่างๆ แม้การทำฌานเพื่อจะได้พ้นจากกามสมบัติ ไปเกิดเป็นพรหมอยู่ในรูปพรหม อรูปพรหมภูมิก็ตาม ยังหาความพ้นทุกข์ไปได้ไม่

    หากรู้ว่ากุศลมีอานิสงส์อย่างไร แล้วทำกุศลนั้นด้วยความศรัทธา ด้วยเจตนาที่กล้าคม กุศลนั้นขึ้นชื่อว่าประกอบด้วยปัญญา จะเป็นเหตุให้วิบากที่จะเกิดขึ้นกับผู้นั้นในอนาคตถึงความมั่นคงและมีกำลัง อีกทั้งจะเป็นทางให้เกิดในภพต่อๆๆไปเป็นคนที่มีปัญญา สามารถกระทำมรรค ผล นิพพาน ญาณ ฌานสมาบัติ ให้เกิดขึ้นได้



    ดังนั้นการให้ทานก็ดี การรักษาศีลก็ดี การทำสมาธิก็ดี ก็ขอให้เป็นปัจจัยแก่กุศลอย่างประโยชน์สูงสุด จะขอยกเรื่องการให้ทานสองอย่างมาให้ท่านสมาชิกได้อ่านดู ว่าท่านควรทำกุศลแบบไหนกันดีนะครับ


    ๑ .วัฏฏนิสสิตทาน คือ การทำบุญด้วยปรารถนาโภคสมบัติ คือปรารถนาความร่ำรวยเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี และปรารถนาภวสมบัติ คือต้องการให้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา เป็นพรหม

    ๒. วิวัฏฏนิสสิตทาน คือ การทำบุญที่ไม่มีความปรารถนาในโภคสมบัติและภวสมบัติ ปรารถนาแต่สัมมาสัมโพธิญาณ ปัจเจกโพธิญาณ อัครสาวกโพธิญาณ มหาสาวกโพธิญาณ และปกติสาวกโพธิญาณ อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น




    วัฏฏนิสสิตทาน ไม่เรียกว่า ทานบารมี เป็นกุศลสามัญ เมื่อเวลาส่งผลก็ส่งผลให้มีความสุขเพียงแค่มนุษย์ เทวดาเท่านั้น มิอาจจะช่วยให้ถึงมรรค ผล โดยเร็วได้


    ส่วน วิวัฏฏนิสสิตทาน เรียกว่า ทานบารมี เมื่อเวลาส่งผลให้ได้เสวยความสุขในมนุษย์ และเทวดา และสามารถให้ถึง มรรค ผล นิพพาน ได้โดยเร็ว


    ขอให้ทุกการทำกุศลของทุกท่านเป็นไปแบบ วิวัฏฏนิสสิตทานนะครับ เพราะได้ทั้งผลคือความสุขและได้ทั้งหนทางที่จะพ้นทุกข์ในวัฏฏะสงสารนี้ด้วยนะครับ
     
  12. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,612
    ขอร่วมอนุโมทนา สาธุด้วยค่ะ ขอให้น้องสำเร็จและสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาค่ะ
     
  13. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    ตอนนี้ ความชัดเจนค่อนข้างสูง ในการที่จะเปิดตัวครับ แล้วก็จะมีการตั้งชมรม เพื่อปฏิบัติธรรม เรียนอภิธรรมด้วย และทำกิจที่เกี่ยวกับภาคปริยัิต ปฏิบัติ เพื่อให้ทุกท่านได้มาใช้สถานที่ในการแสวงหาหนทางให้ชีวิตเกิดความสุขกันเพิ่มขึ้น ตามหลักธรรมที่มีในพระพุทธศาสนาครับ
     
  14. mickeycg

    mickeycg สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2012
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +16
    รบกวนด้วยค่ะ เกิดวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม 2509 เวลา 07.40 น. กรุงเทพฯ
     
  15. ตัอม

    ตัอม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +90
    รบกวนด้วยค่ะส่งpmไปแล้วค่ะ
     
  16. onkoi

    onkoi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +72
    ส่ง pm ไปแล้วค่ะ
     
  17. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,612
    ท่านเสขบุคคลมาบอกบุญกับสมาชิกทุกท่านแล้ว มาร่วมกันสร้่างบุญให้เยอะ ๆ นะคะ เกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว แต่โอกาสในการสะสมบุญมีตลอดทั้งชีวิต ขอบคุณท่านเสขบุคคลในการเป็นสะพานบุญเชื่อมให้ทุกท่านได้ก้าวเดินเพื่อไปพบกับแสงสว่างแห่งธรรม
     
  18. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    อานิสงส์...การสวดพระปริตร



    พระปริตร คือเครื่องคุ้มครองปกป้องไม่ให้เกิดอุปสรรคอันตราย ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงประทานให้แก่พระภิกษุสงฆ์สาวกทั้งหลาย เพื่อคุ้มครองป้องกันอันตรายจากภายนอก เช่น อัคคีภัย แผ่นดินไหว สึนามิ และป้องกันอันตรายภายใน คือ โรคภัยไข้เจ็บ เป็นต้น
    การนับถือพระปริตรเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์มีมาแต่ก่อนพุทธกาล และมีกล่าวไว้เป็นหลักฐานตั้งแต่สมัยเกิดทุพภิกขภัยและโรคระบาดขึ้นในลังกา ซึ่งภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ร่วมกันสวดรัตนสูตรช่วยให้ฝนใหญ่เทลงมา แล้วทุพภิกขภัยและโรคระบาดก็หายไป จึงอาจเป็นได้ว่า พระเถระในชมพูทวีป และพระเถระชาวลังกาเลือกคัดพระสูตร พระคาถา และพระพุทธวจนะต่างๆ มารวมเพื่อใช้บริกรรมหรือภาวนา สำหรับคุ้มครองป้องกันรักษาตัว
    พระสูตรในพระปริตรประกอบด้วย
    ๑. มงคลสูตร ทำให้เกิดความเป็นสิริมงคล ปราศจากอันตราย
    ๒. รัตนสูตร ทำให้มีความสุขสวัสดีและพ้นจากอุปสรรคอันตราย
    ๓. กรณียเมตตสูตร หรือเมตตปริตร ทำให้เทวดา ภูตผีปีศาจเมตตา ไม่ทำร้ายเรา
    ๔. ขันธปริตร ป้องกันภัยจากอสรพิษ งู แมงป่องตะขาบ ตุ๊กแกและสัตว์ร้าย
    ๕. โมรปริตร ป้องกันภัยจากผู้คิดร้ายได้ จึงอยู่รอดปลอดภัย
    ๖. ธชัคคสูตร ป้องกันให้พ้นจากภัยอันตราย
    ๗. อาฏานาฏิยะสูตร ป้องกันภัยจากอมนุษย์ ยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งหลายจะไม่ทำอันตรายและจะให้การอารักขา คุ้มครองให้ปลอดภัย ทำให้มีสุขภาพดี ไม่มีโรค ไม่มีอันตราย มีความสุข และมีอายุยืน
    ๘. วัฏฏกปริตร ทำให้ปลอดภัยจากอัคคีภัย
    ๙. โพชฌังคปริตร ทำให้มีสุขภาพดี อายุยืนและพ้นจากอุปสรรคทั้งปวง
    ๑๐. อังคุลิมาลปริตร ทำให้คลอดบุตรง่าย และป้องกันอุปสรรคอันตรายต่างๆ
    ๑๑. อภยปริตร ทำให้พ้นจากภัยพิบัติอันตรายต่างๆ เคราะห์ร้าย แก้นิมิตฝันไม่ดี
    ๑๒. ชยปริตร ทำให้ประสบความสำเร็จ มีชัยชนะ และมีความสุขสวัสดี
    พระปริตรกล่าวถึง คุณของพระรัตนตรัย และกล่าวถึงการเจริญเมตตาภาวนา ดังนั้น การสวดพระปริตรเป็นประจำจะทำให้เกิดอานุภาพกับผู้ที่ปฏิบัติโดยตรง
    แต่เดิมการสวดพระปริตรเป็นการบริกรรมภาวนาเฉพาะตัว เพื่อคุ้มครองป้องกันตัวเอง ให้ได้รับผลานิสงส์ ประสบความสวัสดี ปราศจากทุกข์ ได้รับชัยชนะ เหนือสัตว์ร้าย อมนุษย์ร้าย ทั้งหลาย แคล้วคลาดจากอุปสรรค อันตราย มีสุขภาพดีและมีอายุยืน แต่เมื่อการสวดพระปริตรขยายวงกว้างออกไปเพื่อคุ้มครองผู้อื่น จึงเกิดพิธีกรรมสวดพระปริตรเป็นหมู่คณะ หรือเจริญพุทธมนต์ขึ้น
    ผู้สวดพระปริตรต้องเพียบพร้อมด้วยองค์ ๓ คือ
    ๑.มีเมตตามุ่งประโยชน์แก่ผู้ฟัง
    ๒.สวดถูกอักขระ ไม่มีบทพยัญชนะที่ผิดพลาด
    ๓.รู้ความหมายของบทสวด
    แม้ผู้ฟังพระปริตรก็ต้องมีองค์ ๓ เช่นกัน คือ
    ๑.ไม่เคยทำอนันตริยกรรม ๕ คือ ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ประทุษร้ายนางภิกษุณี และทำสังฆเภท
    ๒.ไม่มีมิจฉาทิฐิที่เห็นผิดว่า กรรมและผลกรรมไม่มี
    ๓.เชื่อมั่นในพลานุภาพพระปริตรว่า มีจริง สามารถคุ้มครองผู้ฟังได้จริง
    อย่างไรก็ดี พระปริตรจะไม่คุ้มครองรักษา เพราะเหตุ ๓ ประการคือ
    ๑. กรรมเข้าขัดขวาง ๒. กิเลสเข้าขัดขวาง ๓. เพราะไม่เชื่อในอานุภาพ
    การสวดพระปริตรนั้น มีอำนาจอานุภาพคุ้มครอง ป้องกันอันตรายภัยพิบัติต่าง ๆ เกิดความสุขสวัสดีมีชัย และยังถือว่าเป็นมงคล ไม่มีคำสาปแช่งให้ร้าย เป็นการให้พร แสดงความปรารถนาดี ด้วยหลักธรรมสำคัญสองข้อ คือ สัจจกิริยา และ เมตตา
    ผู้สวดพระปริตรมีเมตตาจิตเป็นเบื้องต้น แล้วสวดด้วยคิดจะช่วยขจัดปัดเป่าให้เขาพ้นทุกข์
    ตามความมุ่งหมายของพระปริตร และ ขณะสวดมีจิตใจมั่นคง ไม่ฟุ้งซ่าน พระปริตรจะบำบัด ขจัดปัดเป่า ป้องกัน คุ้มครอง มีเดช มีอานุภาพ การเปล่งเสียงพระปริตรด้วยจิตที่เลื่อมใส ศรัทธาอย่างแท้จริง พร้อมกับจินตนาการเชื่อว่าเป็นยาวิเศษที่มีสรรพคุณชะงัด ไม่น้อยไปกว่าสมุนไพรทั้งหลาย การตั้งใจสวดย่อมแสดงถึงความเมตตารักใคร่ที่มีต่อกัน เพื่อป้องกันและปัดเป่าภยันตรายออกไป เป็นการน้อมนำอานุภาพพระพุทธคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สัจจะ และ พระธรรม ความเมตตากรุณา ให้แผ่ออกไปกว้างขวางโดยไม่มีขอบเขต
    การสวดมนต์ทำให้ผู้สวดแต่ละคนมีจิตเป็นสมาธิ เกิดบุญกุศล และเกิดพลานุภาพแผ่ปกป้องคุ้มครอง เมื่อมารวมกันสวดพระปริตรพร้อมกันเป็นจำนวนมาก จึงย่อมหมายถึง พลานุภาพอันกว้างใหญ่ ย่อมมีพลังไม่มีประมาณ อีกทั้งการอธิษฐานจิตอุทิศอานิสงส์อันเกิดจากบุญที่เกิดขึ้น ย่อมมีผลใหญ่มีพลัง เปรียบดั่งเมื่อคนไทยพร้อมใจกันนำเทียนที่จุดอยู่ที่บ้านของตน หรือมาจุดพร้อมกันร่วมกันที่ท้องสนามหลวง ย่อมทำให้ท้องสนามหลวงสว่างไสวไปทั่วปริมณฑล
     
  19. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    การอธิษฐานที่ให้ได้ผลไว

    การอธิษฐานที่ให้ได้ผลไว

    การอธิษฐานจิตเพื่อที่จะให้ได้ผลอย่างรวดเร็ว ผู้นั้นต้องอธิษฐานจิตในสมาธิ กล่าวคือในขณะที่จิตของเรานิ่ง รวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งที่เราตั้งใจไว้หากถึงพร้อมด้วยองค์สามคือ กาย วาจา ใจ เป็นหนึ่ง สิ่งที่หวังไว้หากไม่เกินวิสัยของกรรม ย่อมเห็นผลได้ในไม่ช้า ที่เป็นเช่นนั้นก็เปรียบเหมือนแสงอาทิตย์ในท้องฟ้า ความร้อนของแสงอาทิตย์หรือความสว่างของแสงอาทิตย์นั้นร้อนแรงมากอยู่แล้ว หากคุณเอาเลนส์ไปทำให้เกิดการรวมแสง ความร้อนและแสงสว่างจะเกิดกำลังทวีคูณขึ้นอย่างมหาศาล จนสามารถเผาผลาญหรือเกิดเป็นเปลวเพลิงลุกไหม้ได้ ฉันใด จิตที่ฝึกดีแล้วย่อมเกิดพลังงานได้เช่นกัน(พลังจิต) คนที่ฝึกจิตจนเข้มเเข็ง สามารถสะกดจิตคนอื่นได้ ทำของที่เเข็งให้อ่อนได้ ฯลฯ หากคุณสามารถโฟกัสความคิด หรือทำสมาธิจิตจนนิ่งมีอารมณ์เป็นหนึ่งได้ สิ่งที่อธิษฐานนั้นไม่ควรมากมายหลายอย่าง ให้เลือกเอาสิ่งที่คิดว่าเป็นไปได้ และจำเป็นที่สุดในขณะนี้ของคุณ เพียงอย่างเดียว กำหนดจิตอธิษฐานลงไปให้แน่วแน่มั่นคง ในขณะที่จิตคุณเป็นสมาธิ หรือในขณะที่เกิดปีติ มีอาการเอิบอิ่มใจ ขนลุก ขนพอง เป็นต้น สิ่งที่ต้องการบรรลุผลจะบรรลุผลโดยเร็ววัน
    ตัวอย่างที่เคยเล่าไว้ ในขวดน้ำใบหนึ่ง มีน้ำสะอาดที่ปนกับน้ำมัน น้ำสะอาดเปรียบกับความชุ่มชื่นใจ ความเอิบอิ่มใจ เป็นบุญ เป็นความสุข มีน้ำมันใส่ไว้ครึ่งขวด น้ำมันเปรียบเสมือนบาปก็ดี ความลำบากคับแค้นต่าง สิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจก็ดี สรุปง่ายๆก็คือเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการ หากคุณอยากจะดื่มน้ำที่มีผลชุ่มเย็น คุณยกขวดขึ้นเท สิ่งที่ได้กลับเป็นน้ำมันมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ แทนที่จะได้น้ำดื่มกับได้เป็นน้ำมัน เวลาเอาน้ำสะอาดกรอกลงไปๆ น้ำมันมันกับไหลออกมาก่อน เปรียบคนที่ทำบุญทำกุศลอยู่เรื่อยๆทำไมมันมีแต่ทุกข์ มีแต่ลำบาก ยิ่งทำบุญยิ่งทุข์หนัก ไม่เห็นว่าบุญที่ตนทำไปแล้วจะได้ผลอะไร ทำดีไม่ได้ดี ทำขั่วได้ดีมีถมไป จนทำให้คนท้อแท้และเกิดความเบื่อหน่ายที่จะทำดี ดังนั้นหากเรารู้จักฝึกจิตให้ดีแล้ว สมาธิเปรียบเสมือนหลอดที่จิ้มลงไปในขวดน้ำ ตุณสามารถดื่มน้ำที่ชื่นใจได้ ทั้งๆที่น้ำมันมันยังลอยอยู่บนผิวน้ำได้ฉันใด การทำสมาธิจนจิตรวมกันเป็นหนึ่ง มีจิตนิ่งไม่หวั่นไหว สิ่งที่คุณอธิษฐานย่อมสำเร็จได้โดยเร็วไว
    ตามจริงแล้วหลักการทำสมาธิคือเพื่อให้เกิดปัญญา เพื่อให้เกิดความหลุดพ้น เพื่อให้จิตได้ผ่อนคลายจากสิ่งที่เป็นเครื่องข้องมีกิเลสต่างๆเป็นต้น ให้จิตมีที่ยึดเหนี่ยว อาหารของใจคือความปีติ ปราโมทย์ อิ่มเอิบใจ ชื่นใจ อารมณ์แห่งสมาธิชั้นสูงขึ้นๆ จะเกิด ปีติ สุข จนเป็นเอกคตารมณ์ สิ่งเหล่านี้เป็นอาหารของใจ ดังนั้นคนถึงแม้เหนื่อยกายสักเท่าใดก็ตามแต่ได้อาหารใจเข้าไป ทำให้คนๆนั้นหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง แสดงให้เห็นว่าใจมีผลมาก ดังนั้นคนที่ทำสมาธิจนจิตเกิดฌาณก็ดี สมาบัติก็ดี ถึงแม้ได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม แต่ก็เหมือนได้นอนมาเต็มอิ่ม
    สมาธิมีผลมาก คนที่ทำบุญให้ทาน รักษาศีล มีอานิสงส์ทำให้บุญนำไปเกิดเป็นเทวดา บุญกิริยวัตถุ ๙ ประการทำให้เกิดเป็นเทวดา มีแต่ภาวนามัยประการเดียวเท่านั้นที่ทำให้ไปเกิดเป็นพรหม อานิสงส์การทำสมาธิมีมากมาย อย่างน้อยก็ทำให้ร่างกายแข็งแรง หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้ คนที่ทำสมาธิได้ จิตจะเกิดพลังงาน จิตที่ละเอียดจะสัมผัสกับสิ่งที่ละเอียดด้วยกันได้ หากท่านใดลองปฏิบัติสมาธิจนเกิดความสงบ เกิดปีติ เกิดความสุขเอิบอิ่มใจ แล้วอธิษฐานในสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ เอาสิ่งที่สำคัญๆที่สุดก่อน หากเป็นผลอย่างไรมาเล่าให้ฟังด้วยนะครับ
     
  20. ่jackyooh

    ่jackyooh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2014
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +781
    วรุต โกไศยกานนท์
    รบกวนดูให้หน่อยครับ

    ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...