"กายในกาย" (ประสบการณ์ภพภูมิ กายทิพย์)

ช่วงนี้ปฏิบัติทุกวันเหมือนเดิมนะครับ แต่เพราะทานยาหมอสั่งเป็นยาเสพติดชนิด 3 ซะด้วย เลยเบลอๆ ร่างกายก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร เลยเริ่มเห็นค่าของกายเนื้อที่ใช้ปฏิบัติสติปฐานได้ดี ก็ถอดจิตเดินไปเดินมาในห้องที่นอนตามภาษา เดี๋ยวนี้เวลาอยู่ในกายทิพย์ผมมักจะเช็คร่างกายว่าพิกลพิการหรือเปล่า ล่าสุดเท่าที่ดีนิ้วเนิ้วก็ยาวดีอยู่คบ ตอนนี้ไม่ได้ทานยาแล้วรู้สึกถึงความรู้สึกตามร่างกายได้ดีขึ้น ถ้าขาไม่เจ็บมากแล้วว่าจะไม่กินยาแล้ว เพราะจะมีความรู้สึกตามร่างกายดีกว่า

สองสามวันก่อน ปฏิบัติอย่างหนัก แม้แต่ไม่ค่อยมีความรู้สึกทางกาย เบลอ กลายเป็นทำเยอะกว่าเดิม แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม ว่าตัวเองประมาทมาก แปลกอย่างนึงนะครับ ยิ่งผมปฏิบัติเยอะ ผมยิ่งเห็นว่าตัวเองประมาท เสียเวลาไร้สาระทำหลายๆ อย่าง

แวะไปอ่านกระทู้คุณ Duchess เรื่องบรรลุอรหัตผลชาตินี้เป็นไปได้ไหม ผมมองว่าถ้าผมไม่บรรลุชาตินี้ จะแย่มากๆ เพราะไม่อยากเกิดอีกจริงๆ ดังนั้นถ้าผมยิ่งไม่แน่ใจว่าจะบรรลุชาตินี้ได้ไหม ผมยิ่งต้องเพียรให้มากเพราะผมว่าการเกิดน่ากลัวอย่างมาก และผมไม่อยากจะคิดเลยว่าผมต้องไปต่ออีกชาติหรือมากกว่านั้น คิดแล้วก็สยอง

ดังนั้นถ้าผมยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถบรรลุได้ชาตินี้ ยิ่งหมายความว่าต้องขยันกว่าเดิม เพราะการเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง​

 

วันนี้ขอฝากธรรมะของพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ผู้มีคุณอันหาประมาณมิได้



--------------------------------------

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! สังสารวัฏฏ์นี้หาเบื้องต้นเบื้องปลายได้โดยยาก
สัตว์ที่พอใจในการเกิดย่อมเกิดบ่อยๆและการเกิดใดนั้น ตถาคตกล่าว
ว่าเป็นความทุกข์ เพราะสิ่งที่ติดตามความเกิดมาก็คือความแก่ชรา
ความเจ็บปวดทรมานและความตาย ความต้องพลัดพรากจากสิ่งอัน
เป็นที่รักความต้องประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก ความแห้งใจ
ความคร่ำครวญความทุกข์กายทุกข์ใจและความคับแค้นใจ

อุปมาเหมือนเห็ดซึ่งโผล่ขึ้นมาจากดินและนำดินติดขึ้นมาด้วย
หรืออุปมาเหมือนโคซึ่งเทียมเกวียนแล้ว จะเดินไปไหนก็มีเกวียน
ติดตามไปทุกหนทุกแห่งสัตว์โลกเมื่อเกิดมาก็นำทุกข์ประจำสังขาร
ติดมาด้วยตราบใดที่เขายังไม่สลัดความพอใจในสังขารออก ความทุกข์
ก็ย่อมติดตามไปเสมอเหมือนโคที่ยังมีแอกเกวียนครอบคออยู่ล้อ
เกวียนย่อมติดตามไปทุกฝีก้าว"​

ลานธรรมจักร :: แสดงกระทู้ - พระพุทธพจน์​

 

ตอนนี้ผมสามารถติดต่อกับคนตายได้ไม่ยากในสมาธิ (อันนี้จะต่างจากกับกรณีขยับกายเนื้อไม่ได้แล้วส่งจิตคุย นิดหน่อยด้านทางเทคนิค)โดยอาศัยความเป็นทิพย์ตอนจิตแยกกับกาย โดยไม่ต้องเจอตัวคนตายเลย เมื่อสักครู่ผมสามารถคุยกับอาที่ตาย และญาติอีกท่านหนึ่ง ด้านอาได้ถามความเป็นอยู่บนสวรรค์ การคุยจะได้ยินเสียงจากไกลๆ เหมือนมาจากท้องฟ้า แต่ไม่ต้องตะโกน พูดเบาๆ พอ (ส่วนการติดต่อแบบสภาวะกายเนื้อยขยับไม่ได้แล้วคุยกัน จะได้ยินที่หูเหมือนอยู่ใกล้ๆ แต่ไกลๆ บอกไม่ถูก) ผมบอกอาเดี๋ยวไว้จะคุยใหม่ เพราะตอนนี้ทำเป็นแล้ว เสร็จแล้วส่งจิตไปคุยกับญาติอีกท่านปรากฎคุยได้คำเดียว มีคนคุมไม่ให้เขาคุยกับผม และคุยแซกเข้ามาห้ามการติดต่อ (เศร้านิดหน่อย) และหลังจากนั้นได้พบกับพระสงฆ์สองรูป รูปนึงคือลป...ไม่เอ่ยนามดีกว่า ได้มอบดอกไม้แห้งให้กระผม เพราะต้องการอธิบายถึงความฝันอันหนึ่งของผม อีกท่านนึงบอกว่าเคยไปเข้าฝันผมเหมือนกัน ทั้งหมดสภาวะชัดเจนเท่าตาเนื้อเห็น...ผมกราบลปสามครั้งตอนท่านเดินออกมากจากที่ๆ ท่านอยู่ ทั้งสองหน้าตาท่านยิ้มแย้มมาก เมื่อคุยเสร็จแล้วหลวงปู่บอกให้นั่งสมาธิเลย ผมบอกจะดีเหรอหลวงปู่ (ผมกลัวจะทำให้กลับร่าง) หลวงปู่บอกไม่เป็นไรหรอกนะ นั่งไปเลย!

 

พอตอนนี้ติดต่อวิธีนี้ได้ทำให้อยากลองติดต่อผู้ที่อยู่ทวีปอื่น (ในโลกธาตุ) และภพอื่นๆ ด้วยวิธีนี้ดู แค่ลองคิดว่าทำอะไรได้มั่งก็มีหลายอย่างที่น่าลองอยู่ แต่ตอนนี้ทำอยู่หลายอย่างอยู่แล้ว 555 คงต้องเป็นโปรเจ็คในอนาคตต่อไป

 

จะเล่าให้ฟังเรื่อภพภูมิทำสมาธินะครับ ผมเห็นมาหลายครั้งเหมือนกันเรื่องภพภูมินั่งสมาธิ บางทีอาจคิดว่าตายไปแล้วไม่ต้องนั่งสมาธิ แต่ผมเห็นเขานั่งกันหลายครั้ง ตายไปยังไปทำสมาธิต่อ ไม่นานมานี้ก็พบเทวดาแต่งชุดเทวดาสีขาว มีชฏา 4 คนเขาก็นั่งทำสมาธิ ผมจะไปคุยด้วยเลยไม่กล้าคุยเลยไม่อยากรบกวน นั่งเรียงกันเป็นแถวเลย ขนาดเขาเป็นเทวดาเขายังนั่งสมาธิ...

 

พี่ mobilelizard กลับมาแล้ว

 

สวัสดีครับผม ไม่ได้ไปไหนหรอกครับ พอดีขี้เกียจเล่า 555 ถ้าวันไหนมาเล่า อาจจะตื่นเต้นมานิดหน่อยก็เลยมาเล่า

ว่าไปเรื่องการเข้าสมาธิ ผมอยากใช้คำว่า "หลวม" อันนี้เป็นคำที่ผมคิดมาเอง เหมือนยิ่งทำยิ่งจะหลวม ยิ่งทำมันจะเข้าง่ายขึ้นๆ ยิ่งจับจุดได้ยิ่งง่ายขึ้น

เล่าไปถึงเมื่อต้นเดือน จริงๆ ก็อยากเล่าแต่ไม่อยากให้กลายเป็นเรื่องของหวย แต่ถือเป็นการทดลอง ตอนจิตแยกกับกายผมลองอธิษฐาน "ขอให้มีสัตว์น้ำ 4 เท้ามาให้โชคลาภมั่งเถอะ" ผมก็รอแป๊บนึง มีประตูเล็กๆ อยู่ที่พื้นผมเปิดออกมาปรากฎเต่าตัวใหญ่มาก เดินออกมาจากประตู เต่าบอกว่า "ชกแปก (พูดไม่ค่อยชัดแบบเต่า)" ผมว่าอะไรนะ 68 เหรอเต่า บอก "ชกแปด" พอนิมิตหายไปจิตบอกว่าจะออกข้างบน ปรากฎหวยออก บน 684 ป๊าดดดด เล่าเล่นๆ นะครับ

 

เรื่องฤทธิ์กสิณน้ำเวลาจิตแยกกับกาย

นอกจากการอธิษฐานทราบสิ่งต่างๆ ฟังเสียงภพภูมิคุยกับภพภูมิ เปลี่ยนภพ และอื่นๆ จริงๆ มันทำได้หลายอย่างมาก เพราะตรงนั้นจะเป็นทิพย์ ผมว่าผมยังรู้น้อยมาก ยกตัวอย่างกสิณน้ำ แรกๆ อาจจะคิดว่า โอเคกสิณน้ำ ก็น้ำพุ่ง น้ำท่วม เสกน้ำ ให้น้ำพุ่งจากมือ ไปมาๆ เสกอีกกายและมีน้ำล้อมรอบ ไปมาๆ เสกน้ำแข็ง ให้คุมพื้นดิน เสกให้หิมะตก และเสก ให้มีหนามน้ำแข็งลอยกลางอากาศ มันก็ไปของมันได้อีก โดยเฉพาะหลังๆ ผมชอบเรื่องน้ำแข็งมากเพราะชอบส่วนตัว มันเยอะแยะไปหมด เรียนรู้กันไป

 

ตอนนี้ผมสามารถติดต่อกับคนตายได้ไม่ยากในสมาธิ โดยอาศัยความเป็นทิพย์ตอนจิตแยกกับกาย โดยไม่ต้องเจอตัวคนตายเลย เมื่อสักครู่ผมสามารถคุยกับอาที่ตาย และญาติอีกท่านหนึ่ง

การคุยจะได้ยินเสียงจากไกลๆ เหมือนมาจากท้องฟ้า แต่ไม่ต้องตะโกน พูดเบาๆ พอ

+++ ให้จำแนกให้ดีว่า มันไม่มีระยะทาง แต่ "เป็นสภาพเสียง" ใช่หรือไม่ (เป็นสภาพชนิดหนึ่ง)

(ส่วนการติดต่อแบบสภาวะกายเนื้อยขยับไม่ได้แล้วคุยกัน จะได้ยินที่หูเหมือนอยู่ใกล้ๆ แต่ไกลๆ บอกไม่ถูก)

+++ (เข้าไปข้างในแล้ว "อยู่" กับสภาพเสียงนั้น ก็จะชัดเจนในเรื่อง "สภาพเสียง" ได้เอง)

พอตอนนี้ติดต่อวิธีนี้ได้ทำให้อยากลองติดต่อผู้ที่อยู่ทวีปอื่น (ในโลกธาตุ) และภพอื่นๆ ด้วยวิธีนี้ดู แค่ลองคิดว่าทำอะไรได้มั่งก็มีหลายอย่างที่น่าลองอยู่ แต่ตอนนี้ทำอยู่หลายอย่างอยู่แล้ว 555 คงต้องเป็นโปรเจ็คในอนาคตต่อไป

+++ อย่าเพิ่งติดต่อจิตอื่น ให้ดูความเป็นโลกธาตุให้ชัดเจนก่อน แล้วดูอิทธิพลระหว่างโลกธาตุนี้ กับ โลกธาตุ Andromeda ให้ดูตรง "แรงบีบอัดตัวของ สนามพลังโลกธาตุ" แล้วประเมิน เหตุที่ทำให้ชีวิตมนุษย์สั้นลงจนเหลือ 10 ปี แล้วประเมินการขยายตัวของช่วงชีวิต ในอีกวงจรหนึ่งจนถึงที่สุด แล้วจึงเริ่มวงจรหดตัวของช่วงชีวิตจนถึงช่วงที่ พระศรีอาริยะเมตไตร จะบังเกิด เมื่อเห็นแล้ว ให้ดูตรง หลุมดำ ว่าแท้จริงแล้ว มันเป็นคล้าย "ตาน้ำวน ตาหนึ่ง" หรือไม่ และมีวัตถุความหนาแน่นสูง จริงหรือไม่ จากนั้นให้ถอยห่างออกไป นอกโลกธาตุ ดูการหมุนรอบตัวเองของมัน ก็จะรู้ได้ว่า 1 กัปป คืออะไร จากนั้นให้ดูรอบ ๆ ของกลุ่มโลกธาตุ ที่สัมพันธ์กันแบบเป็นกลุ่ม แล้วดูให้ชัดเจนถึงคำว่า "มหากัปป" ว่าเป็นอย่างไร หากรู้ตรงนี้ได้แล้วก็จะรู้ได้ว่า อะไรคือ "อสงไขย" ตามความเป็นจริง และ อสงไขยนี้ ยังไม่ถึง ครึ่งชีวิตของมันเลย ยังเป็นอสงไขยที่ยัง เยาว์วัย มาก ของเล่นเล็ก ๆ น้อย แบบนี้จะมีประโยชน์ตรง ๆ กับศาสนาพุทธมากกว่า และถ้าหากเล่นอยู่ในบริเวณนี้แล้ว ก็จะรู้ได้อย่างชัดเจนเองว่า "ศาสนาพุทธ" นั้นมีความลึกล้ำและกว้างใหญ่ไพศาลปานใด หากต้องการความรู้มากกว่านี้ ให้ประเมินว่า 4 อสงไขย แสน มหากัปป หรือหลาย ๆ อสงไขยก็ได้ แล้วประเมิน แสน มหากัปป จากนั้นประเมินเพียงแค่ 1 กัปป แล้วประเมินลดเวลาลงมาจนถึง ช่วง พระศรีอารย์ จากนั้นจึงกลับเข้าร่าง แล้วจึงประเมินอีกที่ว่า ผู้ที่เฝ้ารอ "พระศรีอาริยะเมตไตร" นั้น จะมีโอกาสพบได้ตามความเป็นจริง กี่เปอร์เซนต์ ตรงนี้จะเป็น "พยานธรรม" ได้ดีกว่าคุยกับจิตอื่นมาก

 

ขอดูร่างจริงภพภูมิ

สองวันนี้ทดลองเกี่ยวกับความรู้ใหม่ และได้ความรู้ใหม่ๆ อีก วันนี้มีประสบการณ์ใหม่ๆ หลายๆ อย่างเลย ขอเล่าบางส่วน โดยเฉพาะประสบการณ์ขอดูร่างจริงภพภูมิ มีภพภูมิท่านนึงแปลงร่างมาอย่างหล่อ แต่ผมรู้ว่าไม่ใช่ร่างจริง เพราะพฤติกรรมดูแปลกๆ ผมกระสิบแบบนิ่งๆ บอกว่าขออะไรอย่างนึงได้ไหม เขามองหน้าผม แล้วรู้ว่าผมรู้อะไรบางอย่าง ผมบอกขอดูร่างจริงได้ได้ไหม เขาพยักหน้า เสร็จแล้วผมถามน่ากลัวไหม เขาพยักหน้า ผมก็ชัก จะดูดีเปล่าฟะ ผมบอกขอดูแค่หัวละกัน (ตอนนั้นอาที่ตายไปมาหาพอดีบอกว่าท่านนี้เป็น ...) เขาก็ค่อยผุดหัวค่อยๆ หายไปในตัว ผมก็ประมาณจะดีเหรอน่ากลัวมากเปล่าเนี่ย ท่านนั้นก็บอกหัวจริงกำลังจะออกมาแล้วนะ ผมก็โอเคงั้นขอดูละกัน ปรากฏหน้าตาเหมือน ศพ ผมก็เลยอุทิศบุญกุศลและแผ่เมตตาให้เขาและอาอยู่ตรงนั้นด้วยก็เลยให้อาด้วย ขอให้มีความสุขสมหวังทุกประการ คุณเชื่อไหมครับอาผมอธิษฐานว่าต้องการอะไรตอนนั้นเลย โอ้โหอธิษฐานเยอะมากกกกกกๆๆๆ คือเรียกว่าเดินไปอธิษฐานอย่างนานเลย ต้องการนั่นนี่นั้น ไม่สนใจผมเลย ขออย่างรัว อุทิศทีเดียวขอได้เยอะแยะขนาดนั่น ​

 

สวัสดีครับ

วันนี้ลองใช้โทรจิตติดต่อกับภพภูมิอีก เลยได้รู้ญาติผู้ใหญ่อีกท่านนึงไปอยู่ใหน ยังไม่ได้ทำที่คุณธรรมชาติบอกให้ไปดูโลกธาตุเลยแต่อยากเห็นเหมือนกัน เดี๋ยวว่าจะทำต่อไป และอยากไปดูหลายอย่างเลย

วันนี้มีประสบการณ์รู้ซึ้งพลังของเร่งรู้สึกไปทั้งตัว มีผีมายุ่งกับผมมาโดนเนื้อโดนตัว ผมกำหนด "เร่งความรู้สึก" ไปทั้งกาย ผีโดนช๊อตอย่างแรง ยิ่งผมเร่งผีก็ยิ่งโดนช๊อต

 

ครับ ประสพการณ์เพิ่มขึ้นทุกวัน มีโอกาสผมขอเรียนด้วยครับ

 

inception?!

ตอนช่วงจิตแยกกับกาย ผมลองเอาของมาหมุนด้วยจิต คือเป็น คอตตอนบัด แล้วเอามาหัก แล้วใช้จิตหมุนบนโต๊ะข้างเตียง ปรากฎผมหมุนได้ง่ายมาก แล้วสามารถทำให้ คอตตอนบัด (ที่ปั่นหู) ที่นำมาโค้งงอหมุนแบบลูกข่างด้วยความเร็วสูง (อย่าถามว่าเป็นไปได้ไงเพราะมัน "อีกมิติ") ปรากฎสิ่งที่พบอย่างนึงคือ เมื่อผมเลิกหมุน มันก็หมุนอยู่นั่นแหละ คล้ายๆ ในหนัง inception!! ซึ่งทำให้ประหลาดใจว่ามันสามารถหมุนของมันไปเรื่อยโดยไม่ต้องใช้จิตบังคับให้หมุนต่อ เสร็จแล้วผมหันไปมองที่ๆ แฟนนอนข้าง เมื่อเสร็จแล้วผมก็ลองไปเอาจิตยกไม้ซูง ขึ้นๆ ลงๆ และต่อมาก็ลองโทรจิต

เรื่องที่น่าแปลกอย่างนึงคือ ตอนผมหันไปมองแฟน ผมเห็นแฟนทาปากแดง ใส่ชุดไปเที่ยวเสื้อขาวกระโปรงลายดอกๆ ซึ่งในความเป็นจริงแฟนไม่ได้ใส่ชุดนั้นนอนและไม่ได้แต่งหน้านอนอย่างแน่นอน ผมไม่ได้เล่าเรื่องที่หันไปมองแฟนตอนจิตแยกให้แฟนฟัง แต่ปรากฎว่าวันนั้นเมื่อแฟนออกไปข้างนอกก็แต่งตัวแบบที่ผมเห็น!! ซึ่งทำใหัผมประหลาดใจอย่างมาก อีกการทาปากสีแดงแจ๊ด โดยปรกติแฟนจะไม่ค่อยทำ รวมทั้งเสื้อผ้าแฟนนั้นมีมากมาย ทำไมต้องแต่งชุดนั้น

 

Inception เคยดูแต่ลืมๆ แล้วครับ

เห็นเป็นชุดแดง แปลกดี มีแฟนแล้วยังปฏิบัติธรรมไปได้เร็วขนาดนี้
ผมเป็นโสด แล้วก็จะถือพรหมจรรย์ ตลอดไป ยังเดินเตาะแตะ มีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่าครับ ^_^

 

เคร็ดลับสำคัญคืออยู่กับปัจจุบัน พอใจกับงานที่ตัวเองทำ เวลาเราปฏิบัติเรามีความพอใจกับสิ่งที่เราทำ พอเราพอใจก็ยิ่งทำให้อยู่กับปัจจุบัน เพราะเราพอใจกับสิ่งที่ทำอยู่ ไม่ได้ไปมัวคิดว่าจะได้อะไร หรือกังวนว่าจะได้ไหม (อนาคต) คิดไปคิดมาทำไมทำมาตั้งชั่วโมง ไม่เห็นเกิดอะไร ไปมาๆ ก็ท้อ เพราะไม่เห็นเกิดอะไรสักที (ไม่อยู่กับปัจจุบัน) หรือคิดเรื่องอดีตก็ไม่ควร ต้องอยู่กับปัจจุบัน

เราสร้างเหตุถูก ผลก็ตามมา ตรงนี้ผมว่าหลายคนพลาด เพราะไม่อยู่กับปัจจุบันในสิ่งที่ตัวเองกำลังปฏิบัติ เราจะเดินจงกรมเราก็เดินไป เราก็พอใจกับการปฏิบัตินั่น เกิดอะไรก็รู้ไป ทำอานาปานสติ เราก็พอใจกับมัน เราก็ทำสิ่งที่เราทำไป

ลองทบทวนอิทธิบาท 4 ดูครับ ข้อไหนเรายังบกพร่อง

 

ซึ่งจะว่าไปผมก็ไม่ได้เก่งอะไร มีคนเก่งกว่าผมอยู่มาก เช่น คุณธรรมชาตินั่งสมาธิครั้งแรกถอดจิตได้เลย ที่ประทับใจคุณธรรมชาตินอกจากอธิบายได้ละเอียดคือ คุณธรรมชาติเล่าเรื่องดินสามเก้า ไป 30 ฟุต ประสบการณ์มากมาย อีกยังครูบาอาจารย์มากมายที่ทำได้หลายอย่าง แต่ผมก็ทำของผมไปเรื่อยๆ แต่ผมดันเป็นคนอยากรู้อยากเห็นพอได้เทคนิคใหม่มาก็ลองไปเรื่อย เลยยิ่งทำให้ช้าลงไป คืออยากรู้ให้ละเอียดขึ้น

 

ตัวช่วยใหม่

จะมาเล่าเรื่องประสบการณ์แปลกใหม่ ที่เจอมาไม่นานนี้ ถ้าคนที่อ่านแรกๆ จะรู้ว่าจะเข้าพรหมพอถอดกายจิตมาแล้วต้องกำหนดรู้ไปทั้งร่างก่อนแล้ว จะเกิดการสั่นสะเทือนแล้วเข้าพรหมได้ ซึ่งครั้งล่าสุดที่ผมกำหนดรู้ไปทั่วกายทิพย์เพื่อเข้าพรหมเกิดเหตุการณ์แปลกใหม่

คือปรกติเมื่อจะเข้าพรหม ต้องรอให้สภาวะมันสเถียร คือมันจะปรับเข้าความละเอียดแบบพรหม ซึ่งใช้เวลาเป็นหลักไม่กี่วิ แต่ล่าสุดเมื่อผมกำหนดรู้ไปทั้งกายจิตอีกที ปรากฎเห็นนาฬิกานับถอยหลัง บอกว่าใช้เวลาอีกเท่าไหร่จะเข้าสูพรหมได้พอดี แถมบอกข้อมูลอีกเยอะแยะ ซึ่งผมไม่ได้ไปสนใจอ่าน ซึ่งเชื่อหรือไม่มันนับถอยหลัง 4-3-2-1... พอประมาณ 3 นี่ผมลุกขึ้นมายืน จากท่านอนเหลือบไปมอง เมื่อมันถึง 0 นั่นคือปรับเข้าพรหมพอดีเด๊ะ ชัดแจ๋ว เป็นตัวช่วยใหม่บอกสิงที่อยากรู้ว่าต้องกำหนดนาน เท่าไหร่

ต่อมาเมื่อเข้าสู่ที่ๆ หนึ่งขาวนวลสว่าง (ผมสังเกตุจะขาวนวลละเอียดแบบนั้น) เจอท่านๆ นึงผมถามว่าที่นี่ที่ไหน ท่านบอกว่าพรหม ถามท่านว่าอยู่ที่นี้เหรอท่านว่าใช่ พอผมถามว่าท่านชื่ออะไร พอท่านบอกชื่อปรากฎชื่อสะกดให้เห็นลอยกลางอากาศอีก ซึ่งชื่อที่บอกออกจากปากกับชื่อที่ลอยกลางอากาศตรงกันเด๊ะอีก นี่สองครั้งมีตัวช่วย ถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ อยากรู้อะไร ก็มีมาให้เห็นเลย แล้วตรงเด๊ะอีก

ต่อมาเมื่อข้าพเจ้ากลับร่าง ทดสอบออกจากร่างโดยอาศัยกำลังสมาธิ ณตอนนั้น พบว่ากำหนดอะไรก็ออกได้หมด

1. ทดลองกำหนดกสิณไฟ ไม่กี่วิเห็นไฟชัดเท่าตาเนื้อเห็นออกจากร่างอีก พอออกไปไม่รู้จะทำอะไร ยกนั่นยกนี่เล่น ทดสอบกำหนดเอาแขนทะลุพื้นอย่างหนาเข้าไปครึ่งแขนสัมผัสได้ถึงข้างในพื้น

2. พอกลับร่าง ทดลองมั่วๆ กำหนดหนังกะติ๊กสีเขียวซัก 6-7 อันไม่นานชัดเท่าตาเห็น ออกจากร่างไปอีก

3. กลับร่างมา ทดลองกำหนดเป็นคนทั้งคนยืนอยู่ ไม่นานชัดเท่าตาเห็นออกจากร่างไปอีก

 

คุณ torelax9 ปฏิบัติไปถึงไหนแล้วครับเนี่ย อย่าเพิ่งใจร้อนนะครับ เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ...

แนะนำเพิ่มเติม: อย่าลืมเป็นคนช่างสังเกตุ ถึงเหตุและผล ทำยังไงเวิร์คกว่ายังไง...วางจิตประมาณไหนแล้วเวิร์ค...

ขอแต่งกลอนหน่อยครับ อิๆ

เกิดเป็นคน เหนื่อยจริง จริงหนา
ต้องมา ทำสมาธิ มากเหลือ
งานมี ต้องทำ เป็นเบือ
ถ้าเบื่อ ให้พัก แป๊บนึง​

 

ชอบจังเลยครับ ตรงที่หมวดนี้สุภาพ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ผมไปหมวดอื่นเขาชอบหาว่าผมอวดรู้ หรือไม่ก็ด่าแบบเหน็บแนมบ้าง --"

ผมเคยทำวิธีถอดครั้ง 2 ครั้งแบบ จขกท. ครับเห็นตัวเองนอนอยู่แปบเดียว เป็นความรู้สึกที่ไม่ใช่ฝันแต่เลิกนานแล้ว

แต่เมื่อมาล่าสุดผมเกิดอุบัติเหตุไปที่หน่งสวยมากๆมีปราสาทละก็สวนและอีกเคสก็ไปโผล่ที่สถานที่ตัดสินรอตัดสินอยู่ มีคนตัดสินร่างกายสีทอง แต่จำลักษณะหน้าไม่ได้ตอนแรกก็กลัวมาก แต่พอเขาบอกว่าผมเนี่ยเคยทำบาป.....ไว้นะ แต่บุญยังมีอยู่ แล้วก็จำอะไรไม่ได้แล้ว คือมันเป็นฝันที่ไม่เหมือนฝันอ่ะครับ ไม่รู้จะอธิบายยังไงจริงๆ

ประสบการณ์ของผมครับ

 

ขออภัยครับ ที่ตอบช้า เพิ่งเห็นครับ. ฝึกยังไม่ถึงไหนครับ.
กายเวทนายังไม่เต็มร่างครับ. ขอบพระคุณมากครับ ที่แนะ การสังเกตุ
ส่วนใหญ่เวลาออกจากการฝึก ผมจะออกช้าๆ ก็สังเกตุว่าเข้ามาภาวะนี้ๆได้
ยังไง หากเข้ามาได้ลึกกว่าทุกครัง ก็จะอธิษฐานกำกับไว้ว่า ด้วยสัจจะ....วาจานี้
ขอให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าสภาวะนี้ได้ทุกครั้ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ ทุกโอกาส ไม่ว่าจะลืมตา หรือ หลับตา
ขอให้เข้าได้ตามความปราถนาได้สำเร็จ เป็นวิธีของท่านนึงในเว็บพลังจิตนี้ชื่อจำท่านได้คร่าวๆแต่เขียนสะกดไม่ถูก เหมือน Mark ทางเข้าไว้ แต่ผลวิธีอธิษฐานกำกับนี้ สำหรับตัวผม ยังไม่ค่อยสำฤทธิ์ผลคือ บางครั้งก็ได้ บางครั้งก็ไม่ได้ ตอนไม่ได้มันรู้สึกมีตัณหาอยากได้ภาวะนั้น แล้วก็ไม่ได้ มันมักจะได้ทีเผลอ เหมือนเราทำอย่างอื่นอยู่สบายๆ อยู่ๆภาวะสงบก็มาเอง เช่นมักจะได้เวลาพักชั่วโมง มีเวลาสั้นๆ ก็เหมือนว่าเครียดจากงานแล้วขอพักผ่อนคลายหน่อยจะดีภาวะสงบจะมา แต่หากมีเวลาแยอะๆ เช่นว่างสัก 3 วัน แล้วคิดว่ามีเวลาแยอะจะเข้าภาวะสงบให้ชุ่มปอดเลย มักจะไม่ได้ เหมือนจะได้ตอนทีเผลอ แกล้งไม่สนใจ แล้วจะภาวะนั้นจะมา แบบนี้มีหลักการหรือศัพท์ทางการเรียกไหมครับ และแก้ไขยังไง ขอบพระคุณมากครับ