กาย-จิต สร้างอัจฉริยะให้ลูกน้อย

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย Inner Smile, 30 ตุลาคม 2008.

  1. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"><tbody><tr><td>กาย-จิต สร้างอัจฉริยะให้ลูกน้อย

    </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td> รายงานโดย :เรื่อง กองบรรณาธิการ:
    </td> <td> วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551
    </td> </tr> </tbody></table> นับตั้งแต่ วินาทีแรกที่รู้ว่ามีชีวิตหนึ่งกำลังเจริญเติบโตขึ้นในครรภ์ของแม่ ทุกสิ่งดีๆ ที่สามารถทำได้เพื่อลูกน้อยพ่อแม่ย่อมสรรหา ความสุขล้นใจจนมองไปถึงอยากเห็นลูกมีอนาคตสดใส
    สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งกาย ใจ และสติปัญญา ซึ่งไม่ใช่การยากเลยสำหรับพ่อแม่ที่จะปูทางสู่อนาคตที่ดีให้แก่ลูกรัก หากเริ่มตั้งแต่นาทีนี้ ก่อนที่เขาจะลืมตาออกมาดูโลก[​IMG]
    การให้ความสำคัญกับพัฒนาการของลูกน้อยถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เพราะลูกน้อยของคุณมีความสามารถในการรับรู้ เรียนรู้ และเข้าใจสิ่งต่างๆได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ สมองของคนเราถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เราสามารถพัฒนาและขัดเกลา ได้ตั้งแต่เริ่มแรก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ทุกคู่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
    นพ.วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์และสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลนครธน อรรถาธิบายว่า ปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายบ่งชี้ว่าระยะเวลาช่วงตั้งครรภ์ของคุณแม่ถือเป็น ช่วงเวลาพิเศษในการพัฒนาเซลล์สมองของเด็กทารก และยังเป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างความผูกพันกับลูกน้อยของคุณ ได้ด้วยการสื่อสารรูปแบบต่างๆ อาทิ การสัมผัส และการพูดคุย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีส่วนช่วยในการกระตุ้นประสาท สัมผัสด้านต่างๆ และยังมีผลต่ออารมณ์และความคิดของเด็ก

    ** เริ่มต้นที่การรับประทาน
    ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่สามารถมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ กับลูกน้อยได้ด้วยการรับประทานอาหารสะอาดถูกหลักโภชนาการครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอาหารสมองซึ่งมีผลต่อพัฒนาการของเจ้าตัวน้อย
    - ดีเอชเอ (DHA) มีมากในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ทูน่า แซลมอน และซาร์ดีน ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาสมองโดยเฉพาะด้านการเรียนรู้และความจำ
    - ธาตุเหล็ก มีมากในเนื้อสัตว์ที่มีสีแดงหรือฟองเต้าหู้ ใบตำลึง เป็นประโยชน์ในการสร้างเม็ดเลือดฉนวนหุ้มใยประสาท ส่งผลดีต่อการทำงานของสมองและสติปัญญา
    - โคลีน พบมากในเนื้อสัตว์ ไข่แดง ถั่ว ผักตระกูลกะหล่ำ และข้าวสาลี โคลีนมีความสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการของสมองในระยะเริ่มต้น ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทส่งสัญญาณระหว่างเซลล์สมอง และช่วยพัฒนาสมองด้านความจำและการเรียนรู้
    - โฟเลต พบมากในผักใบเขียว ถั่วเหลือง ส้ม กล้วย ช่วยพัฒนาเซลล์สมอง และระบบประสาท และป้องกันความผิดปกติของสมองและไขสันหลังได้

    [​IMG]

    - วิตามินต่างๆ เช่น บี 1 บี 2 บี 6 บี 12 และวิตามินซี มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายของคุณแม่ บำรุงประสาท และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยของคุณ
    ** สื่อ (สาร) รักถึงลูกน้อย
    เคล็ดไม่ลับอีกประการในการพัฒนาสมองลูกน้อยให้เป็นอัจฉริยะก็คือ การรู้จักสื่อสารกับเจ้าตัวน้อยของคุณ เพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสสมองและยังเป็นการสร้างสายใยรักขึ้นภายในครอบครัว
    การวิจัยทางการแพทย์ชี้ให้เห็นว่า เด็กทารกสามารถรับรู้และตอบสนองต่อสิ่งเร้ารอบตัวได้ เมื่อคุณแม่อารมณ์ดี ลูกน้อยของคุณก็จะเบิกบานตามไปด้วย การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ และมีผลเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาเซลล์สมองและการสร้างใยประสาทของทารก
    จากการศึกษาในปัจจุบันยังพบอีกว่า ทารกในครรภ์สามารถรู้สึกถึงการสัมผัสจากภายนอกได้ตั้งแต่อายุ 8 สัปดาห์ เริ่มได้ยินเสียงตอนอายุ 18 สัปดาห์ และจะเริ่มเห็นแสงได้ราวสัปดาห์ที่ 28 และเด็กในครรภ์มารดานั้นจะนอนหลับและตื่นทุก 20-40 นาที

    คุณพ่อคุณแม่ทุกคนจึงสามารถสื่อสารกับเจ้าตัวน้อยได้ง่ายๆ หลายวิธี เช่น หมั่นพูดคุยกับลูกบ่อยๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล จะทำให้ลูกของคุณจดจำเสียงของพ่อและแม่ได้ หรือใช้วิธีเล่านิทาน อ่านหนังสือ หรือเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ขับกล่อมก็ได้ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าตัวน้อยของคุณมีพัฒนาการด้านระบบประสาทและสมองเกี่ยวกับ การได้ยินมากขึ้น

    การลูบสัมผัสหน้าท้องของคุณแม่บริเวณรอบสะดือเบาๆ ก็สามารถสื่อสารกับลูกรักได้ ทุกสัมผัสที่เกิดขึ้นจะช่วยพัฒนาเส้นใยประสาทของสมองส่วนรับความรู้สึก และเพิ่มประสิทธิภาพในการรับรู้ของทารก ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างสายใยความผูกพันระหว่างคุณและลูกน้อยอีกด้วย

    นอกจากนี้ การนั่งเก้าอี้โยกยังสามารถช่วยกระตุ้นเซลล์สมองเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ช่วยให้ทารกเรียนรู้ที่จะสนองตอบต่อสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ และยังทำให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายไปในตัว** สุขภาพกาย-ใจแม่ต้องสมบูรณ์
    คุณพ่อคุณแม่ทุ่มกำลังใจกำลังกายเพื่อลูกน้อยไปแล้ว อย่าลืมเอาใจใส่ดูแลสุขภาพกายและจิตใจของคุณแม่ด้วยล่ะ ซึ่งถือว่าสำคัญมากเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าคุณแม่มีความเครียดมากในช่วงตั้งครรภ์ จะทำให้ลูกที่คลอดออกมามีน้ำหนักตัวน้อย ตกใจง่าย งอแง และเลี้ยงยาก
    เช่นนั้นคุณแม่ทุกคนจึงควรหมั่นฝึกจิตใจให้มีอารมณ์เบิกบานอยู่เสมอ เพื่อลูกน้อยของคุณจะได้มีอารมณ์แจ่มใสตามไปด้วยนพ.วิโรจน์ ได้แนะนำว่า ระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่ทุกคนอาจออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ หรือศึกษาธรรมเพื่อให้จิตใจสงบก็ได้
    ปัจจุบันทางโรงพยาบาลนครธนได้มีการผสานศาสตร์ในการช่วยให้คุณแม่ สามารถคลอดบุตรได้ง่ายขึ้น ด้วยการนำบทสวดอังคุลิมาลปริตร ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเมื่อครั้งที่องคุลิมาลภิกษุ หรือองคุลิมาล ได้สำนึกในกรรมที่ก่อขึ้นจึงออกผนวช และได้เจอกับหญิงท้องแก่นางหนึ่ง ซึ่งเมื่อเห็นองคุลิมาลภิกษุก็บังเกิดความกลัวและพยายามคลานรอดรั้วกลับเข้า บ้านเพื่อหลบหนี แต่เกิดเจ็บครรภ์กะทันหันจนดิ้นทุรนทุรายติดคารั้วบ้าน
    เมื่อองคุลิมาลภิกษุเดินผ่านมาเห็นจึงบังเกิดจิตเมตตาที่จะช่วย เหลือหญิงดังกล่าว และได้ท่องบทสวดที่มีเนื้อหาว่า “ดูก่อนน้องหญิง บัดนี้เราอยู่ในสกุลสมณะแล้ว ศากยะผู้ประเสริฐพระองค์นั้น เราไม่ได้เบียดเบียนหรือทำร้าย ทำลายสัตว์ตนใดเลย นี้เป็นคำสัตย์ ขอให้น้องหญิงโชคดี ขอความสวัสดีจงมีแก่น้องหญิงและบุตรในครรภ์ด้วยเทอญ” ซึ่งทำให้หญิงนางนั้นได้คลอดลูกออกมาโดยง่าย และกลายเป็นที่มาของบทสวดอังคุลิมาลปริตร
    ด้วยวิธีง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถมอบสิ่งดีๆ ให้แก่ชีวิตน้อยๆ ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เพียงเท่านี้เมื่อเขาลืมตามาดูโลก รอยยิ้มน้อยๆ ก็จะช่วยทำให้โลกใบนี้ของครอบครัวคุณน่าอยู่ขึ้นอีกมากมาย

    [​IMG]http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=7243
     

แชร์หน้านี้

Loading...