การชำระโลกให้สะอาดยังคงดำเนินต่อไป พร้อมคลิปภัยพิบัติทั่วโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย supako, 4 กันยายน 2014.

  1. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    เมื่อไม่มียา ไม่มีโรงพยาบาล
    การรักษา จะต้องไม่ใช้ยา ไม่มีการผ่าตัด
    ทางเลือกอีกทาง สำหรับผู้สนใจ
    คือ การจัดกระดูก ตอกเส้น ทุกโรคที่ไม่เกิดแต่กำเนิด มีโอกาสหายได้ ครับ 1487120097454.jpg 1487120085531.jpg 1487120064797.jpg
     
  2. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท
    อาการ
    อาการอาจแสดงออกได้ทั้งบริเวณหลังและขา คนทั่วไปมักเข้าใจว่ามีเพียงอาการปวดหลังอย่างเดียว ที่จริงแล้วอาการที่ขานั้นสำคัญ และจำเพาะเจาะจงกับโรคนี้มากกว่า นั่นแสดงถึงว่า เกิดการรบกวนเส้นประสาทสันหลังที่วิ่งไปเลี้ยงที่ขา หมอนรองกระดูกที่เคลื่อนออกมามักทำให้เกิดอาการแบบฉับพลัน เพราะมีการอักเสบที่รุนแรง
    อาการที่หลัง : ปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง อาจจะมีอาการที่หลังเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง มักมีอาการในท่านั่ง หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้าซึ่งเป็นท่า ที่หมอนรองกระดูกได้รับแรงกดทับมากที่สุด
    อาการที่ขา : อาการที่ขามีได้ 3 แบบ คือ อาการ ปวด ชา รือการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ อาการปวดหรือชาขาที่เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท มีลักษณะ คือ มีอาการตามแนวที่เส้นประสาทวิ่งไป สามารถปวดได้ตั้งแต่ บริเวณเอว ต้นขา น่อง ไปจนถึงบริเวณเท้า และนิ้วเท้าได้ การอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ ก็มีลักษณะคล้ายอาการปวดชา คือจะมีอาการอ่อนแรงขอกล้ามเนื้อมัดที่เลี้ยงด้วยเส้นประสาทเส้นที่ถูกกดทับนั้น 1488247522347.jpg 1488247511827.jpg

    ลองคิดดูนะครับ แค่นวด กินยา เฉยๆ จะหายไหมครับ การรักษาโรคทุกวันนี้มีแต่รักษาปลายเหตุ จึงไม่หายขาด
     
  3. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    โลก จะต้องย้อนยุค ย้อนกลับไปดูว่า คนในอดีต เขาทำกันอย่างไรถึงมีอายุยืนยาว " การตอกเส้น" จัดกระดูกคลายกล้ามเนื้อ เป็นวิทยาศาตร์การแพทย์ ที่คนสมัยใหม่ คิดไม่ถึง "เรื่องง่ายคนโง่ทำให้ยาก เรื่องยากคนฉลาดทำให้ง่าย"
    การตอกเส้น สามารถ บำบัดอาการที่ต้นเหตุ อย่างแท้จริง นี้จะเป็นการบำบัดแบบองค์รวม ประหยัด ปลอดภัย ใช้เวลาสั้น
    วิธีการตอกเส้นบำบัด เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดเอว ปวดข้อ ปวดเข่า หมอนรองกระดูกเสื่อม กระดูกทับเส้น กระดูกคต กระดูกเคลื่อน คอบ่าไหล่ตึง ไมเกรน เข่าเสื่อม รองช้ำ เจ็บฝ่าเท้า คนเคยประสบอุบัติเหตุ มือชา เท้าชา การรักษาที่ต้นเหตุ ที่ทำให้ เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก โรคเหล่านี้ ก็จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
    การตอกเส้น ตามแนวกล้ามเนื้อที่แข็งผิดปกติ เมื่อตอกแล้วจะทำให้กล้ามเนื้อที่แข็งนั่นนิ่มขึ้น จะไปบังคับเอ็นกับกระดูกให้กลับเข้าที่ เลือดลมจะไหลเวียนสะดวก เลือดที่เสีย ก็จะไหลออกไป ผ่านกระบวนการฟอกเอาของเสีย ออกไปทางปอด ตับ ไต ร่างกายก็จะกลับมาแข็งแรง ท่านสามารถ inbox หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ไอดีไลน์ 0847739425
     
  4. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    #คำเฉลยที่ 4

    มายาสลักแผ่นศิลาจารึกไว้บนดาวโลก
    เป็นรูปเฉพาะพระพักตร์นี้
    เพื่อเพียงแสดงความมีตัวตนอยู่จริง
    เพื่อแสดงความเป็นตัวตนรูปลักษณ์ที่แท้จริง
    ของพระผู้กลับมาตามสัญญา
    พระผู้จะพาแก่นแท้ของท่านทั้งหลายให้รอด

    การที่ทรงจำหลักศิลาไว้
    เพียงแค่เฉพาะพระพักตร์นี้
    จึงนับว่าน่าจะเพียงพอต่อการบ่งบอก
    ตัวตนรูปลักษณ์นี้ได้แล้วว่าเป็นผู้ใด

    อันส่วนล่างร่างกาย
    รวมอวัยวะทั้งหลายจนจรดปลายเท้า
    แม้จะสร้างสำแดงไว้อย่างไรแค่ไหน
    ก็มิใช่สิ่งสำคัญหมาย
    ที่จะระบุได้ง่ายๆว่าใครเป็นใคร
    ถ้ามิอาจแลเห็นพระพักตร์ได้อย่างชัดเจน

    นี่จึงเป็นความจริงอย่างหนึ่ง
    ที่รูปแกะสลักหรือรูปปั้นรูปเคารพบูชา
    ของประดาชาวโลกเสรีในอดีตกาล
    ท่านจะพบว่ามักจะมีแค่ส่วนพระเศียร
    ซึ่งโชว์พระพักตร์ไว้อย่างละเอียดชัดเจนเสมอ

    ดังนั้น
    ท่านทั้งหลายจึงต้องรู้ว่า
    ผู้นำแห่งจักรวาล (The King of the Universe)
    ผู้ซึ่งเป็นพระบุตรเอกแห่งพระบิดา
    ที่ขันอาสาและรับพระบัญชา
    มาทำภารกิจยังโลกเสรีนี้

    จะมีโครงสร้างชีวิตรวม 3 ส่วน คือ
    1.จิตวิญญาณแก่นแท้
    2.จิตหยาบหรือจิตมนุษย์
    3.เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์

    เพราะมนุษย์โลกเสรีล้วนเป็นคนสองมิติ
    ผู้นำของท่านจึงต้องอยู่ใน 2 มิตินั้นด้วย
    เมื่อย้อนกลับมาแล้วจึงจะสามารถ
    ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ทั้งสองมิติได้

    ดังนั้น
    ในการย้อนกลับคืนสู่การเกิดเป็นมนุษย์
    เพื่อหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ในภพชาติสุดท้ายนี้
    จึงต้องมีการวางแผนมาล่วงหน้า
    เพื่อปฏิบัติการสืบเนื่องกันมาหลายภพชาติ

    กว่าจะมาถึงวันนี้...
    วันที่ได้ประกาศให้จักรวาลและโลกรับรู้นั้น
    พระบุตรเอกได้เสด็จกลับมา
    เพื่อวางพระเศียรเอาไว้บนโลก
    แล้วฝังพระจิตกับพระวรกายเอาไว้
    จนเป็นหนึ่งเนื้อเดียวกัน
    กับกายโลก และ "จิตโลก" มาตั้งนานแล้ว

    รวม 7 ภพชาติ ใน 7 บทบาทที่ผ่านมา
    พระผู้นำได้ผลิตสร้างพลังงานความรักให้โลก
    เพื่อสร้างสมดุลให้แก่ระบบ
    ในมิติทางพลังงานด้านของจิตวิญญาณ
    เฉพาะส่วนที่ขาดเมื่อชาวโลกบกพร่อง
    เสมือนหนึ่งเป็น "ผู้ถือคบเพลิง" ประจำโลก
    สืบเนื่องกันมานานหลายร้อยปีแล้ว

    นอกจากนั้นยังได้เข้ามา
    จัดเตรียมจัดสร้าง
    กรุงเยรูซาเล็มใหม่เอาไว้ให้พร้อมล่วงหน้า
    เพื่อรองรับพระมหาธรรมราชา
    กับพระศาสดาแห่งโลกพระองค์สุดท้าย
    หลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานใหม่
    อย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยเช่นกัน

    พระภารกิจอันหนักหนาเหล่านี้
    ถูกดำเนินการตามแผนของฟ้ามาแล้ว
    หลายบทบาทหลายภพชาติ

    ทั้งถูกขัดขวางต่อต้าน
    ถูกนินทากล่าวขานไปในทางร้าย
    เผชิญพวกมือไม่พายแต่เอาเท้าราน้ำ
    ถูกวางเฉยละเลยไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความร่วมมือ
    ถูกระแวง สงสัย ถูกใช้วาจาจาบจ้วง
    ถูกกลั่นแกล้ง คดโกง สารพัด

    ในสถานการณ์เหล่านี้
    จักต้องมากมีด้วยคุณสมบัติแห่งรัก
    ความอดทน อดกลั้น ให้อภัย
    ต่อพี่ๆน้องๆที่เหลวไหล
    แม้บ่อยครั้งบางเวลา
    จะมีน้ำไหลออกตา
    มาเป็นสิ่งชะโลมใจตนบ้างก็ยังสู้ทน

    เพราะมีสำนึกรับผิดชอบต่อภารกิจพระบิดา
    เพราะมุ่งมั่นศรัทธาในภารกิจแห่งตน
    เพราะมุ่งผลสัมฤทธิ์ในภารกิจแห่งพระบิดา
    จึงต้องมีความรักความปรารถนาดีอย่างสูงส่ง
    ต่อพี่ๆน้องๆแห่งดาวโลกเสรีนี้มิจืดจาง

    ตั้งแต่อดีตชาติยันทุกวันนี้
    ผู้มากด้วยภูมิธรรม ภูมิปัญญา
    ผู้มีสายตาอันแหลมคมเท่านั้นแหละ
    ที่จะแลเห็นความจริงที่เรากล่าวมาเหล่านี้ได้

    นี่ไง...
    ทุกวันนี้เราจึงมีเพื่อนแท้ในห้องนี้
    เพียงไม่กี่คน...

    เอเมน สาธุ 1488593937037.jpg
    ป.วิสุทธิปัญญา
    3-03-2017
     
  5. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    คำตอบสำหรับ
    คุณ Ahchawharahyh Nirahti
    เกี่ยวกับพระสัญลักษณ์
    ของ องค์จิตจักรวาลที่มี 12 เหลี่ยมมุม
    ปรากฎอยู่บนธนบัตร 20,50 และ 100 ใหม่
    ............................................................

    1.มนุษย์ผู้สร้างจินตนาการออกแบบ
    ไม่ทราบที่มาในคำตอบที่เราจะกล่าวต่อไปนี้

    2.พระสัญลักษณ์แห่งองค์จิตจักรวาล
    จะปรากฏอยู่ภายในเลขศูนย์ ที่แทนค่าด้วย
    มหาอาณาจักรแห่งพระบิดาหรือพระเจ้า
    อันเป็นสถานที่ดำรงอยู่ของทุกสรรพสิ่ง
    ซึ่งพระองค์ทรงกำหนดสร้างขึ้นไว้

    3.ทรงกำหนดให้มีพระสัญลักษณ์นี้ไว้
    บนธนบัตรไทยเท่านั้น เพราะทรงกำหนดหมายให้
    แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินที่จะมีพระศาสดาพระองค์ใหม่
    พระองค์สุดท้ายมาจุติ ในยุคพลังงานใหม่
    ที่จะเป็นพระศาสดาแห่งโลก มิใช่เฉพาะชนชาติ

    อีกทั้งยังทรงเลือกให้ประเทศไทย
    เป็นจุดศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของมนุษย์โลก
    และเป็นประตูมิติที่จะติดต่อกับองค์จิตจักรวาล
    โดยมีเราขันอาสาเข้ามาดำเนินการ
    ติดตั้งเสาอากาศตามแผนงานต่อเนื่องแห่งฟ้า
    อยู่ในภพชาตินี้นั่นเอง

    4.ทรงเปิดเผยให้รู้ว่า
    ทรงพิพากษาตามข้อ 2 และ 3
    โดยทรงตัดสินพระทัยและวางแผนดำเนินการไว้
    ตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
    ยุคสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี

    ให้ทรงคิดประดิษฐ์อักษรไทยขึ้น
    ตามพระบัญชาของพระบิดา
    เพื่อให้...
    พระอักษรไทยเป็นตัวแทน
    หรือเป็นสัญลักษณ์แห่งพระบิดา
    ที่คนโบราณเตือนลูกหลานว่า
    "อย่าเหยียบย่ำ-ก้าวข้าม" เด็ดขาด!
    และยังทรงกำหนดไว้ให้ภาษาไทย
    จะต้องเป็นภาษาเอกของโลกในยุคพลังงานใหม่ด้วย

    นอกจากนั้น
    ทรงกำหนดให้กรุงสุโขทัยว่างเว้นจากการศึก
    จักได้มีเวลาพัฒนาจิตวิญญาณผู้คน
    เพื่อสืบเชื้อสายทางจิตวิญญาณที่ดีๆ
    มายังพี่ๆน้องๆแห่งเราทั้งหลาย
    ในยุคต่อๆมาตราบจนปลายยุคนี้นั่นเอง

    จนยังผลให้บ้านเมืองสุโขทัยสงบสุข
    โดยพระบิดาทรงกำหนดให้
    กษัตริย์มีการปกครองแบบพ่อปกครองลูก

    กษัตริย์สุโขทัยจึงทรงเป็น
    ดั่งตัวแทนแห่งพระบิดา....ที่รักลูกอย่างยิ่ง

    ในรัชสมัยพญาลิไทก็เช่นกัน
    พระบิดาก็ได้ทรงสื่อถ่ายทอดองค์ความรู้สำคัญ
    ดั่งปรากฏอยู่ในพระราชนิพนธ์ "ไตรภูมิพระร่วง"
    เพื่อให้ผู้คนครองตนอยู่ในศีลธรรม
    เข้าใจกฎแห่งกรรม ละอายต่อบาป
    ให้ทราบถึงภพภูมิโลก สวรรค์มายา และนรก
    จนสืบทอดกันมาตราบกระทั่งทุกวันนี้

    มิหนำซ้ำพระบิดายังทรงกำหนดให้มีช่างฝีมือดี
    สร้างพระพุทธชินราชที่งดงามที่สุดในโลก
    ตามพระดำริของพญาลิไท
    สร้างขึ้นไว้เป็นสัญลักษณ์แห่งความดีงาม
    อันเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่สื่อแทนพระบิดา

    5.ธนบัตรใบละ 50 บาท
    ถูกกำหนดให้เป็นบันทึกแห่งยุคสมเด็จพระนเรศวร
    เพื่อสำแดงให้อนุชนรุ่นหลังได้รู้ว่า
    พระจิตวิญญาณของมหาราชพระองค์นี้
    เป็นดั่งตัวแทนแห่งองค์จิตจักรวาล
    พระผู้ทรงขันอาสาลงมาเพื่อปราบมาร
    อภิบาลเหล่าไทยให้เป็นเอกราชไว้โดยเฉพาะ

    อีกทั้งยังทรงขันอาสาลงมาอีกครั้ง
    เพื่อปลดปล่อยทาสในเรือนเบี้ย
    ให้เป็นอิสระหรือเป็นไทกันทั่วหน้า
    ในยุครัตนโกสินทร์นี้อีกด้วย
    เพื่อธำรงแผ่นดินนี้ไว้ให้เหมาะสม
    ต่อการมีพระศาสดาพระองค์ใหม่
    เหมาะสมต่อการเป็นจุดศูนย์กลางทางจิตวิญญาณ
    อันเป็นศูนย์รวมของคนดีที่เป็นปลาซึ่งถูกคัดไว้

    6.ส่วนพระสัญลักษณ์องค์จิตจักรวาล
    บนเลขศูนย์ของธนบัตรใบละ 100 ใบล่าสุดนั้น
    ที่พิเศษคือ มีสัญลักษณ์บนเลขศูนย์ ทั้ง 2 ตัว
    เพราะมีสองนัยความหมาย...

    ความหมายแรก....
    เพื่อเป็นเครื่องยืนยันการทำหน้าที่
    ในพระนามของบุตรเอกแห่งพระบิดาของเราว่า
    ล้วนเป็นภารกิจขององค์จิตจักรวาล
    ที่เราขันอาสาพระองค์มาปฏิบัติอีกครั้งหนึ่งจริงๆ
    และเป็นหน้าที่ครั้งสุดท้ายเพราะถึงกาลสิ้นยุคแล้ว

    เราจะมาพาพวกท่านกลับบ้าน(หลุดพ้น)
    กลับไปกราบพระบิดาที่ท่านทั้งหลาย
    จากพระองค์มาเสียนานนับหมื่นๆปี
    นานจนหลายคนลืมพระบิดาหรือพระเจ้า
    จนหมดสิ้นไร้เยื่อใยกันไปหมดแล้ว....

    ส่วนความหมายที่สองนั้น
    เรายังมิถึงวันเวลาจะเปิดเผยต่อท่านทั้งหลายได้

    7.ที่ทรงเปิดเผยไว้บนธนบัตร
    เพราะมนุษย์คลั่งเงินคลั่งทอง จ้องแบ้งค์อยู่ทุกวัน
    จะได้แลเห็นแล้วฉุกคิดอะไรๆได้บ้าง
    จักได้รู้เห็นกันทั่วประเทศและทั่วหล้า
    เหมาะสมกว่าจะสื่อผ่านช่องทางอื่น

    8.ที่ให้เธอผู้ถามๆเรามา
    เพราะมันถึงเวลาจะบอกกล่าวเรื่องราวเหล่านี้
    และเรื่องของเรา ภารกิจเรา ในวงกว้าง
    แก่คนทั้งโลกหล้า....ให้หันมารับฟังเรา
    ให้เฝ้าฟังพระโอวาทแห่งองค์จิตจักรวาล
    อันเปรียบดั่งดอกไม้สวย กลิ่นหอม และมีน้ำหวาน

    เพื่อบรรดาฝูงผึ้งกับผีเสื้อแสนสวย
    จักได้เร่เข้ามาดมดอมดื่มกิน
    โดยไม่ไปหลงสับสนกับกลิ่นซากศพ
    อันเป็นกลิ่นอาหารของเหล่านกแร้งกันอยู่อีกต่อไป
    เพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว....

    9.ที่ต้องรอให้เธอถาม
    ก็เพื่อจะได้พิสูจน์ว่า.......
    ตั้งแต่คำกล่าวของเราจากข้อ 1.
    มาจนถึงเรื่องราวในข้อ 8 นี้
    มิใช่เรื่อง "บังเอิญ"

    ทุกสิ่งล้วนกำหนดโดยองค์จิตจักรวาล
    พระบิดาแห่งจิตวิญญาณของพี่ๆน้องๆทั้งหลาย
    เป็นพระมหาปรีชาญาณแห่งพระองค์ทั้งสิ้น

    น้อมเกล้ากราบพระบาทพระบิดา
    ที่ทรงพระเมตตาให้ลูกเปิดเผยนัยความจริงนี้แล้ว
    เอเมน...สาธุ 1488593944238.jpg 1488593946889.jpg 1488593949265.jpg 1488593951891.jpg

    ป.วิสุทธิปัญญา
    6-04-2015
     
  6. คมสันติ์

    คมสันติ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +259
    สาธุครับ ยังติดตามเสมอครับ
     
  7. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ตอบคำถาม:
    Anothai Bunjong

    กราบเรียนถามท่าน อ.ปริญญา
    ขออาจารย์เมตตาเสริมเติมปัญญา..
    ในบทหนึ่งของคัมภีร์ศาสนาเต๋า กล่าวว่า

    Question 1:
    จากเอกธาตุแปรเปลี่ยนเป็นไตรวิสุทธิธาตุ
    Answer:
    คำกล่าวขานนั้นหมายถึง

    จาก 1 ดวงจิตธรรมญาณ
    ก็ก่อกำเนิดขึ้นเป็น 3 ภาคส่วนบริสุทธิ์

    *ภาคแรก คือ "กายหยาบ"
    ซึ่งเป็นสรรพสิ่งหนึ่งในมิติทางกายภาพ
    ที่จะเป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
    ทั้งเพศหญิงหรือเพศชายในวันข้างหน้า

    *ภาคสอง คือ "จิตวิญญาณ"
    ซึ่งเป็นรูปธรรมทางพลังงาน
    ผู้ขันอาสาพระบิดาลงมาเกิดเป็นมนุษย์
    ที่เป็นตัวตนแก่นแท้ในเครื่องยนต์แห่งกรรม

    *ภาคสาม คือ "จิตหยาบ" หรือ จิตมนุษย์
    ซึ่งเป็นรูปธรรมทางพลังงาน
    ที่จิตวิญญาณแบ่งภาคตนเองออกมา
    เพื่อให้ช่วยทำหน้าที่แทนตนเอง
    ในการควบคุมกลไกกระบวนการต่างๆ
    ของเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
    ให้ถูกต้องเหมาะสมและดีงาม
    ตามที่จิตวิญญาณผู้มาเกิดนั้นต้องการ

    Question 2:
    จากไตรวิสุทธิธาตุนี้
    ได้ก่อกำเนิดธาตุไม้ขึ้นทางทิศบูรพา
    ธาตุทองกำเนิดทางทิศประจิม
    กำเนิดตรงศูนย์กลางคือธาตุดิน
    ธาตุไฟกำเนิดขึ้นทางทิศทักษิณ
    และธาตุน้ำกำเนิดขึ้นทางทิศอุดร

    Answer:
    เมื่อดวงจิตธรรมญาณ
    ให้กำเนิดกายหยาบกับจิตหยาบ
    รวมเป็น 3 ภาคส่วนแล้ว

    ลำดับถัดมาก็คือการสั่นสะเทือนร่วมกัน
    เพื่อให้เกิดการเจริญเติบโต
    เป็นเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมนุษย์
    ที่สมบูรณ์พร้อมต่อการใช้งาน
    ทั้งในมิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้
    และมิติทางกายภาพ
    ในด้านของเครื่องยนต์แห่งกรรม

    ดังนั้น
    ทั้งสามภาคส่วนจึงได้ร่วมกันสร้าง
    ส่วนที่เป็นกายหยาบให้เป็นโครงสร้างหลัก
    เพื่อใช้ห่อหุ้มดวงจิตธรรมญาณ
    และจิตหยาบเอาไว้ภายใน
    เราเรียกว่า "การปฏิสนธิทางวิญญาณ"
    โดยกำหนดให้กายหยาบเป็น "ธาตุดิน"
    เพราะเป็นจุดศูนย์รวมของทุกสรรพสิ่ง

    จากนั้นก็ร่วมกันสร้างช่องปากและลิ้นขึ้น
    เพื่อเอาไว้ดูดซับน้ำและอาหาร
    เข้าไปหล่อเลี้ยงธาตุดินอีกทีหนึ่ง
    จึงกำหนดให้ลิ้นเป็น "ธาตุไม้"

    ร่วมกันสร้างช่องจมูกเอาไว้หายใจ
    นั่นคือการสูดซับรับเอาอากาศดีเข้าไป
    แล้วถ่ายเอาอากาศเสียออกมา
    ในลักษณะของการหายใจเข้า-ออก

    ถ้าไม่มีช่องจมูกกายหยาบก็จะต้องตาย
    จิตหยาบกับจิตวิญญาณก็อยู่ไม่ได้
    อากาศบริสุทธิ์ที่กายหยาบต้องการ
    จึงเป็นของมีค่าราคาแพงดั่งทอง
    นี่จึงเป็นเหตุแห่งการกำหนดให้
    อากาศที่ใช้หายใจให้เป็น "ธาตุทอง"
    หรือ "ธาตุลม" นั่นเอง

    นอกจากนั้นยังร่วมกันสร้างดวงตา
    ให้เป็นช่องทางรับรู้ของคลื่นแสง
    ซึ่งท่านเปรียบไว้คล้ายดั่งไฟ
    แสงที่ส่องเข้าไปกระทบในดวงตา
    จึงเรียกว่า "ธาตุไฟ"

    ลำดับสุดท้ายที่จะกล่าวถึงก็คือ
    การร่วมกันสร้างช่องหู
    เพื่อให้รับรู้ "คลื่นเสียง" จากภายนอก

    เนื่องจากคลื่นเสียงที่ผ่านเข้าสู่ประสาทหู
    มันเดินทางมาแบบคลื่นที่สั่นเป็นระลอก
    ต่อๆกันมาเรื่อยๆคล้ายคลื่นน้ำ
    โดยมีตัวกลางที่คลื่นเคลื่อนผ่านคืออากาศ
    จึงกำหนดให้ช่องหูที่สร้างขึ้นมาทั้งสองข้าง
    เป็นที่กำเนิดของ "ธาตุน้ำ"

    นี่จึงเท่ากับว่า
    ทั้ง 3 ภาคส่วนก็ได้ร่วมกันสร้าง
    เครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
    ที่มีกลไกอายตนะภายนอกทั้ง 5 ขึ้นมา
    คือ ตา หู จมูก ลิ้น+ปาก และกายสัมผัส
    อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว

    Question 3:
    เมื่อธาตุทั้งห้าครบองค์
    วิถีแห่งจักรวาลจึงเริ่มเคลื่อนหมุน

    Answer:
    เมื่อเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
    ถูกสร้างขึ้นโดยสมบูรณ์แบบแล้ว
    เจ้ากุมารน้อยผู้ปฏิสนธินั้น
    ก็จะพร้อมเป็นสรรพสิ่งหนึ่งในจักรวาลนี้
    ที่จักต้องหมุนธรรมจักรในตนเองให้ได้

    แล้วร่วมกันกับเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ
    ช่วยกันขับเคลื่อนดาวโลกเสรีดวงนี้
    ให้เหวี่ยงหมุนไปด้วยกันอย่างไม่สิ้นสุด
    เพื่อปฏิบัติตามพันธะสัญญา 6 ต่อไป
    ทั้งหมดที่กล่าวนี้เป็น "วิถีแห่งจักรวาล"

    Question 4:
    ธาตุไม้ (บิดา) ธาตุทอง(มารดา)
    ได้ผสมผสานกันขึ้น
    ได้ก่อกำเนิดจิตวิญญาณเดิม 96 ดวง
    แผ่คลุมไปทั่วสากลโลก

    คำถาม เอกธาตุ คือ พระบิดา ?
    ไตรวิสุทธิคงคา และ ห้าธาตุ
    คือแดนใด ในเอกภพ
    ใช่แดนสุญญตาหรือไม่?

    ทำไมจึงกล่าวว่าก่อกำเนิด
    จิตวิญญานเดิม 96 ดวง ?

    เต๋ากล่าว 3 5 ก่อเกิด 9 6 สร้างสรรค์สรรพสิ่ง
    ขออาจารย์เมตตาเสริมเติมปัญญา..

    Answer:
    คำถามข้อนี้เราจะกล่าวความจริง
    เท่าที่เราจะกล่าวได้ดังนี้

    1.เอกธาตุ คือ พระบิดา
    2.ไตรวิสุทธิคงคา คือ แม่น้ำสามสาย
    อันหมายถึงพระบิดา พระบุตร และพระจิต
    ในมิติทางพลังงานแห่งจักรวาล

    3.ไตรวิสุทธิคงคา คือ แม่น้ำสามสาย
    อันหมายถึงจิตวิญญาณ
    จิตหยาบ และกายหยาบ
    ในมิติโลกด้านกายภาพ

    4.ที่ท่านถามมา
    ไม่มีสิ่งใดเกี่ยวกับเอกภพและแดนสุญตา
    ผู้กล่าวสอนมิได้หมายไกลอย่างที่คิด

    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    13-4-2017
     
  8. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    #พระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
    #ทรงโปรดเวไนย (ภาค 7)
    To Whom It May Concern
    *****************************
    "เสียงกัมปนาท กราดเกรี้ยว เสียวระทึก
    ดั่งยามดึก ฟ้าผ่า พาแตกตื่น
    ครูสั่งศิษย์ กีดกัน ทุกวันคืน
    ห้ามยุ่งยื่น เป็นมิตร จิตจักรวาล"
    บุตร <3 แห่งบิดาทั้งหลาย
    พี่ๆน้องๆที่ <3 แห่งเราทั้งหลาย
    เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
    ในปลายยุคพลังงานเก่านี้
    จะมีปรากฏการณ์หนึ่งเกิดขึ้น
    ในท่ามกลางภัยพิบัติโลกแบบแปลกๆ
    นั่นคือปฏิบัติการ "ล่าสาวก"
    ของเจ้าลัทธิต่างๆทั้งใหม่และเก่า
    ขายความงมงายในพิธีกรรมแปลกๆ
    ขายศักดิ์สิทธิ์พิสดารของเจ้าลัทธิ
    ขายความอุตริอวิชชาของครูอาจารย์
    ขายมายาของมารที่เลียนแบบโพธิสัตว์
    ขายธรรมะจอมปลอมโดยจอมซาตาน
    บทบาทการขายที่เรากล่าวไว้เหล่านี้
    ล้วนเป็นฝีมือของรูปธรรมทางวิญญาณ
    ซึ่งอยู่เบื้องหลังมิติโลกทางกายภาพ
    เข้ามาแอบแฝงตัวตนอยู่แทบทั้งสิ้น
    ทุกวันนี้โลกเสรีเสียสมดุลไปมาก
    โดยเฉพาะอำนาจแม่เหล็กโลกที่อ่อนแอ
    จะทำให้ประตูมิติของโลกและมนุษย์
    ที่เชื่อมต่อกับมิติแห่งจิตวิญญาณ
    เปิดแง้มอ้าออกกว้างมากขึ้นกว่าเดิม
    จิตวิญญาณที่อุตริและมีอำนาจสูง
    ก็จะเบียดแทรกตนเองเข้าทับซ้อน
    เพื่อทำการยึดอำนาจจากเจ้าสำนักเดิม
    ที่กิเลสหนา ปัญญาน้อย ด้อยพลังบารมี
    เพราะไม่มีศีลธรรมแท้จริงก็มี
    หรือมารร้ายจะเข้าแทรกแซงคนบางคน
    ที่อยากดังและฝังใจฝักใฝ่อุตริอวิชาอยู่
    ด้วยการแสดงบทบาทเป็นเจ้าสำนัก
    แลกเครื่องเซ่นสรวงคาวๆกับเหล้ายา
    โดยจะสร้างจุดขายทั้ง 5 ที่ว่ามา
    เพื่อหลอกล่อคนดีๆที่โง่ๆ
    ให้หลงทิศผิดทางไปสวรรค์นิรันดร
    จึงมิอาจหลุดพ้นได้ในชาตินี้
    มีเหตุผลหลักอยู่ 4 ประการ
    ที่พระบิดาทรงยอมให้โลกมีการล่าสาวก
    โดยเราจะขอกล่าวให้ท่านรู้ไว้ดังนี้
    1.ทรงยอมให้มีการล่าสาวกด้วยวิธีต่างๆ
    เพื่อจะสร้างเงื่อนไขทดสอบจิตตปัญญา
    ให้มนุษย์โลกส่วนใหญ่ได้เผชิญว่า
    จะฉลาดตัดสินใจหรือไม่อย่างไร
    ถ้าใครเลือกที่จะทำตัวโง่และงมงาย
    จนตกเป็นสาวกของเจ้าสำนักลัทธิมาร
    พระองค์ท่านก็จะทรงทราบทันทีว่า
    ผู้นั้นความสามารถใช้ปัญญาเป็นศูนย์
    แปลว่า #ตัดสินใจผิด นั่นเอง
    คนผู้นั้นจักมิใช่ประชากรของพระองค์
    สำหรับโลกเสรีในยุคพลังงานใหม่
    เพราะขาดอำนาจทางจิตตปัญญา
    จึงมิอาจให้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่
    ค้ำจุนโลกเสรีนี้ในยุคพลังงานใหม่ได้
    2.ทรงยอมให้มีการล่าสาวกเกิดขึ้น
    เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านทั้งหลาย
    ได้เรียนรู้ในสิ่งถูกผิดดีชั่วชัดเจนขึ้น
    จนฉลาดที่จะแยกแยะได้ง่ายขึ้นว่า
    แบบไหนเป็นเส้นทางสู่นรกโลกันตร์
    แบบไหนเป็นเส้นทางสู่สวรรค์นิรันดร
    เพื่อการตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
    บนครรลองแห่งการหลุดพ้นคือนิพพาน
    3.ทรงยอมให้มีการล่าสาวกเกิดขึ้น
    เพราะจะมีมนุษย์ด้วยกันเอง
    พากันออกมาอ้างอวดอุตริอวิชา
    ล่าสาวกแสวงหาประโยชน์ใส่ตน
    จากพี่ๆน้องๆที่เป็นคนอ่อนแอมากขึ้น
    ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมีจุดอ่อนคล้ายๆกัน
    เป็นต้นว่า....
    บางคนก็ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
    ทั้งๆที่เป็นคนฉลาดและเก่งพอตัว
    จึงต้องหันมาพึ่งเจ้าเข้าผี
    ขอให้เจ้าลัทธิพวกนี้เป็นกำลังใจให้
    บางคนก็อยากร่ำรวยเป็นเศรษฐี
    แทนที่จะฉลาดคิด ฉลาดทำ
    แต่กลับแสวงหาความร่ำรวย
    ด้วยวิธีมักง่ายคือพึ่งเครื่องลางของขลัง
    บ้างก็พึ่งผีที่เจ้าลัทธิให้นำมาเลี้ยงดู
    บางคนก็อยากโด่งดังมีชื่อเสียง
    ต้องการได้รับการยอมรับจากคนอื่นๆ
    เมื่อยกระดับตนเองขึ้นมาไม่ได้
    ก็จำต้องเที่ยวเสาะหาที่พึ่งหรือตัวช่วย
    ประเภทขอ "เจ้าสำนักดัง" ช่วยด้วยบ้าง
    ประเภทยอมถวายตัวกับเจ้าสำนักบ้าง
    ถ้ายิ่งเข้าสังกัดสำนักดังมากเท่าใด
    ตนก็จะได้รับการยอมรับมากขึ้นเท่านั้น
    ถ้ายิ่งเป็นสาวกรับใช้ใกล้ชิดเจ้าลัทธิ
    ก็จะยิ่งมีโอกาสได้รับการยกย่อง
    จากคนทั่วไปมากยิ่งขึ้น
    อีกทั้งตนก็อาจจะมีโอกาสได้รับรางวัล
    ที่เจ้าลัทธิอุตริปูนบำเหน็จให้
    เป็นตำแหน่งสำคัญๆในสำนักนั้น
    หรือยอมให้ท่านเปิดสำนักสาขา
    แล้วอุปมาตนเป็นเจ้าสำนักได้เอง
    4.ทรงยอมให้มีสำนักใหม่ๆเกิดขึ้น
    เพื่อให้มารทดสอบจิตสามนึกมนุษย์
    ว่าผ่านหรือไม่ รวม 5 ประการต่อไปนี้
    4.1 ยังติดอยากได้ใคร่มีในลาภยศหรือไม่
    4.2 ใช้ปัญญาของสมองคิดเป็นหรือเปล่า
    4.3 รู้จักแยกแยะผิดชอบดีชั่วบ้างไหม
    4.4 ระหว่างมารกับพระบิดาจะเลือกใคร
    4.5 กล้าหาญและเป็นตัวของตัวเองมั้ย

    ในท่ามกลางความผันผวนของสังคม
    ในท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโลก
    ขอท่านทั้งหลายจงรับรู้ไว้ด้วยว่า
    1.อย่าประมาทมารจนท่านถูกหลอก
    2.อย่าขลาดกลัวมารจนผลักไสครูที่ดี
    3.อย่าตกเป็นทาสมารเพราะติดโลภ
    4.อย่าทำตัวเป็นเจ้าลัทธิมารเสียเอง
    5.อย่าหลงเชื่อมาร
    เพราะท่านโง่เขลาเบาปัญญา
    โดยแยกไม่ออกว่าไหนมารไหนมิใช่

    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    29-06-2017
    หมายเหตุ:
    ยังมีภาคต่อไปให้เรียนรู้อีก
    เกียจคร้านจะยกมือหรือยังนะ
     
  9. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    1498872632960.jpg #ตอบคำถาม: ‎Mark Enlighten‎
    กราบพระบาทพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
    พระเชษฐา ป วิสุทธิปัญญา
    และท่านอาจารย์ปริญญาที่เคารพ
    เนื่องด้วยวันนี้มีปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด
    ซ้อนกันถึง2ชั้นสวยงาม มองเห็นได้ทั่วท้องฟ้า
    แต่ที่น่าแปลกใจคือมีการถ่ายรูป
    พระอาทิตย์ทรงกลดกันมากมาย
    ทั้งที่มีเมฆมาบังเป็นมายา
    ให้เห็นเป็นรูปปร่างต่างๆและที่ไม่มีเมฆบัง
    มีการพูดถึงเหตุการณ์ครั้งนี้กันมากมายในSocial Media
    โดยเฉพาะเฟสบุ๊ค จนรู้สึกแปลกใจว่า
    พระอาทิตย์ทรงกลดในครั้งนี้
    พระสุริยะเทพและพี่ๆช่างเทคนิค
    กำลังสื่อสารสิ่งสำคัญใดมายังมนุษย์โลก
    โดยเฉพาะพิกัดประเทศไทยในครั้งนี้ครับ
    ขออาจารย์โปรดเมตตา
    ไขข้อสงสัยให้ด้วยครับ สาธุ.
    #Answer:
    1.พระสุริยะทรงกลด หมายถึง
    การกางร่มบังสูรย์หรือบังคลื่นพลังงาน
    ที่แผ่ผ่านลงมาจากพระสุริยะสู่ระบบโลก
    2.ที่ต้องกางร่มบังคลื่นพลังงานครั้งนี้
    ก็เพื่อการปกป้องคุ้มครองแผ่นดินโลก
    ตรงพิกัดที่มีประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลาง
    ให้ได้รับพลังงานบวกจากดวงอาทิตย์
    ในสัดส่วนเท่าเดิมเหมือนปกติ
    ในช่วงเวลาที่ช่างเท็คนิกกำหนดให้พระสุริยะ
    ส่งผ่านคลื่นพลังงานบวกที่เข้มข้นมาก
    เข้ามาปฏิบัติการทางเท็คนิกในระบบโลก
    ในกระบวนการชำระโลกครั้งที่สี่นี้
    3.คลื่นพลังงานด้านบวกจากนอกระบบ
    ถูกส่งเข้ามาเพื่อยกระดับแรงสั่นสะเทือน
    ทางจิตสำนึกของดาวเคราะห์โลกให้สูงขึ้น
    ในระดับที่มนุษย์โลกไม่สามารถเข้าถึงได้
    เพราะจิตสำนึกมนุษย์ส่วนใหญ่ตกต่ำมาก
    เนื่องจากถูกกิเลสตัณหาราคะครอบงำ
    จนเข้าถึงอำนาจด้านบวกในตนเองไม่ได้
    4.ต่อไปนี้โลกจะสั่นสะเทือนเป็นภัยพิบัติ
    อย่างแพร่หลายกระจายทั่วทุกรูปแบบ
    โดยจะค่อยๆทวีความถี่ในการเกิด
    เพิ่มความรุนแรงในระดับการสูญเสียมากขึ้น
    ซึ่งประเทศในย่านนี้จะถูกลดทอน
    5.เหตุที่ทรงกลดสองชั้น
    เพราะต้องกักกรองไว้ให้มากกว่าปกติ
    จงทำสามเหลี่ยมกับพระบิดาไว้ทั้งวันคืน
    คลื่นพลังงานที่เล็ดลอดเข้ามาได้
    อาจทำให้เครื่องยนต์แห่งกรรมของท่าน
    เกิดอาการเสียสมดุล เช่น มึนศีรษะ
    วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ คล้ายอาการเครียด
    หัวใจสั่นแรง อ่อนเพลีย
    วิธีที่ดีที่สุดหากทนไม่ไหว คือ
    นั่งสมาธิ ทำสามเหลี่ยมกับพระบิดา
    หรือ นอนหลับไปสักงีบ

    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    1-07-2017
     
  10. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    มิน่าละวันนี้ตอนตื่นขึ้นมาผมรู้สึกปวดๆที่หัวไหล่
     
  11. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    #ข่าวสารจากจิตจักรวาล
    พี่ๆน้องๆที่รัก <3 แห่งเราทั้งหลาย
    *ในพระนามแห่งองค์จิตจักรวาล
    ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
    และพระผู้สร้างทุกสรรพสิ่งในสากลจักรวาล
    *ในนามแห่ง The King of the Universe
    เราจะขอบอกกล่าวข่าวสาร
    ต่อท่านทั้งหลายว่า
    นับตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2560
    จนตลอด 90 วัน ตามกาลเวลาแห่งโลกเสรีนี้
    ทีมช่างเท็คนิกจากนอกระบบสุริยะ
    ได้เดินทางข้ามมิติเข้ามาสู่ระบบโลก
    อีกทีมหนึ่งแล้ว
    เพื่อเข้ามาทำการซ่อมแซมจักรวาลโลก
    ตามแผนปฏิบัติการชำระโลก ครั้งที่ 4
    ในการเปลี่ยนโลกสู่ยุคพลังงานใหม่
    เป้าหมายสำคัญคือ
    #กำจัดสารพิษออกไปจากบรรยากาศโลก
    เพราะเหตุว่าดาวโลกเสรีดวงนี้
    ปัจจุบันยังแก้ปัญหาก๊าซเรือนกระจกไม่ได้
    ขณะที่มนุษย์โลกเองก็ยังก่อปัญหา
    สร้างภาวะเรือนกระจกให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วย
    ซึ่งก๊าซเรือนกระจกนี้นอกจากจะมี
    ก๊าซจำพวกไฮโดรคาร์บอน
    ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอื่นๆแล้ว
    ยังมีไอระเหยของสารพิษหลายอย่าง
    ล่องลอยขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศโลกอีกด้วย
    จนปัจจุบันขณะจักรวาลตรวจพบว่า
    ปริมาณความเข้มข้นของสารพิษ
    ในชั้นบรรยากาศโลก
    หากละทิ้งไว้ต่อไปก็จะเข้าขั้นอันตรายแล้ว
    โดยเฉพาะจะเป็นภัยต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย
    รวมทั้งมนุษย์แห่งโลกเสรีนี้ด้วย
    ดังนั้น
    ทีมปฏิบัติการทางเท็คนิกชุดใหม่ล่าสุด
    จึงได้เดินทางเข้ามายังโลกเสรี
    เพื่อปฏิบัติภารกิจซ่อมบำรุงจักรวาลโลก
    ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2560 แล้ว
    ในระหว่างปฏิบัติภารกิจพิเศษนี้
    เราขอแจ้งให้พี่ๆน้องๆชาวโลกเสรีได้รู้ว่า
    "นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    บนโลกเสรีนี้จะมีเมฆฝนสีดำสกปรก
    ปนกับก้อนน้ำแข็งสกปรก
    ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักทั่วโลก
    นอกจากจะก่อความเสียหายไปทั่ว
    จากอุทกภัย วาตภัย และฝนลูกเห็บแล้ว
    ในน้ำฝนสกปรกยังมีภัยต่อท่านทั้งหลาย
    เจือปนลงมาด้วยรวม 3 สิ่ง คือ
    1.#เชื้อไวรัสบางชนิด
    ที่เป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ
    โดยเฉพาะท่านที่มีภูมิคุ้มกันโรคอ่อนแอ
    โปรดระวังให้จงหนัก
    คนที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
    คือ คนที่เจ้าอารมณ์ ขี้โมโห
    พักผ่อนน้อยเพราะเอาแต่เสเพล
    เที่ยวเล่น เหลวไหล
    คนที่พลังทางจิตวิญญาณอ่อนแอ
    เพราะถูกใช้ไปกับความงมงายต่างๆ
    คนที่ใช้ชีวิตอย่างไร้สาระที่ไม่เกิดผลดี
    ต่อจิตวิญญาณและเครื่องยนต์แห่งกรรม
    ดังนั้น
    ขอให้ท่านรีบกลับเนื้อกลับตัวเสีย
    เพื่อสร้างสมดุลด้านภูมิต้านทานโรค
    จักช่วยให้เครื่องยนต์แห่งกรรมปลอดภัย
    จากเชื้อโรคไวรัสเหล่านี้ได้
    2.#ประจุลบอิสระ
    ที่เกิดจากพลังจิตไร้สำนึก
    เพราะกิเลสตัณหาราคะชักพาไป
    ซึ่งมนุษย์ทั้งหลายเหวี่ยงมันออกมา
    สั่งสมกันอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก
    มวลขยะพลังจิตที่เป็นประจุลบนี้
    วัดความหนาแน่นได้จากสีดำของเมฆฝน
    และน้ำหนักของมวลเมฆที่สังเกตได้
    จากระดับความสูงต่ำของเมฆสีดำสกปรก
    ที่ล่องลอยเคลื่อนไหลอยู่เหนือศีรษะท่าน
    ให้เป็นที่สังเกตได้ไม่ยากเย็น
    ถ้าท่านโดนฝนตกใส่ศีรษะและร่างกาย
    อำนาจประจุลบที่แฝงเร้นอยู่ในละอองฝน
    จะยังผลให้ขั้วต่างทางไฟฟ้าในระดับเซล
    ทำหน้าที่เหนี่ยวนำให้เกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้า
    ภายในเซลอวัยวะภายในและร่างกาย
    เกิดการเสียสมดุลจนทำงานผิดพลาด
    จะยังผลให้ภูมิคุ้มกันโรคบกพร่อง
    กลไกต่อมไร้ท่อทำงานบกพร่อง
    อวัยวะภายในบางชิ้น
    อาจจะมีระบบอัตโนมัติขัดข้องกระทันหัน
    ทางป้องกันคือระวังอย่าตากฝนโดยไม่จำเป็น
    ให้จิบน้ำอุ่นๆไว้ งดดื่มน้ำเย็นเจี้ยบทุกชนิด
    และให้หมุนรอบตัวเองด้านขวาช้าๆ บ่อยๆ
    ถ้าท่านอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร (ประเทศไทย)
    ให้หมุนรอบตัวเองด้านซ้ายช้าๆ บ่อยๆ
    ถ้าท่านอยู่ใต้เส้นศูนย์สูตรเถิด
    3.#สารพิษ!
    ซึ่งเป็นไอสารเคมีบางชนิดจากพื้นโลก
    ที่ล่องลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
    แล้วทำปฏิกริยากับก๊าซบางชนิด
    ร่วมกับความชื้นและความร้อน
    จนกลายเป็นสารพิษอันตราย
    โดยขณะนี้มันลอยขึ้นไปสั่งสมกันอยู่
    ในชั้นบรรยากาศโลก
    จนจวนเจียนจะถึงขีดอันตรายทุกทีแล้ว
    ซึ่งมนุษย์โลกเองก็ยังไม่รู้ว่าตนไม่รู้
    พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
    ช่างเท็คนิกแห่งเราชุดใหม่ล่าสุด
    จึงต้องเดินทางเข้ามาช่วยเหลือ
    ก่อนที่โลกนี้จะมีปัญหายากเกินเยียวยา
    ดังนั้น
    นับแต่นี้ไปถ้าไม่จำเป็นอย่าเดินตากฝน
    แต่ถ้าเนื้อตัวของท่านโดนฝนสกปรกเข้า
    ก็ให้รีบอาบน้ำหรือเช็ดล้างตัว
    ด้วย #ด่างทับทิม ที่ละลายน้ำแล้วทันที
    มิเช่นนั้นผิวหนังร่างกายของท่าน
    จะเกิดอาการคล้ายพุพอง เกิดผดผื่นคัน
    มีอาการคล้ายอักเสบจากการแพ้
    รักษาอย่างไรก็ไม่หาย
    ยาแก้แพ้ที่มีอยู่ก็ช่วยไม่ได้
    ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาทางผิวหนังแล้ว
    มันจะทำให้ภูมิต้านทานโรคอ่อนแอ
    จนเกิดช่องว่างให้ถูกโจมตี
    โดยเจ้ากรรมนายเวรตัวจิ๋ว
    แต่พิษสงร้ายกาจได้อีกต่างหากด้วย
    เราจึงขอประกาศเตือนมายังท่านทั้งหลาย
    ผู้มีมรรควิถีจิตจักรวาลเพื่อการหลุดพ้น
    บนเส้นทางนักสู้เพื่อการรู้แจ้งได้ทราบ
    เราหวังว่าแกะของเราทุกตัวคงได้ยิน
    เราคาดหวังว่าปลาดีที่มีอนาคตทุกตัว
    คงรับรู้ความเมตตาผ่านข่าวสารชิ้นแรกนี้
    จากพระบิดาและทีมเท็คนิกแห่งเรา
    โดยทั่วหน้ากัน
    กราบพระบาทพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
    ขอบพระทัยพี่ๆน้องๆช่างเท็คนิกทุกรูปธรรม
    ที่เมตตาต่อพี่ๆน้องๆชาวโลกเสรีในครั้งนี้
    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    6-07-2017
    หมายเหตุ:
    **********
    ระหว่างนี้เป็นต้นไป
    ท่านทั้งหลายบนโลกเสรีจะพบปรากฏการณ์
    พระสุริยะทรงกลดบ่อยมากขึ้น
    นั่นคือ อุปมาพระสุริยะกางร่มห่มโลกา
    เพื่อพิทักษ์ท่านทั้งหลายให้ปลอดภัย
    เท่าที่จะทำได้ นั่นเอง
     
  12. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    พี่ๆน้องๆที่รัก <3 แห่งเราทั้งหลาย
    เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
    เมื่อถึงวันเวลาพิพากษาโลก
    ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์
    จะมีหมายสำคัญให้เห็นกันชัดเจน
    นั่นคือจะทรงกลดบ่อยมาก
    ดวงดาวที่พร่างพราวอยู่บนฟากฟ้า
    ก็จะพากันตกลงมามากขึ้นเรื่อยๆ
    ทั้งในรูปดาวตก อุกกาบาต
    รวมทั้งยานรูปลักษณ์แปลกๆ
    ที่จะแฝงรูปธรรมไว้กับหมู่เมฆ
    นอกจากนั้นบนฝั่งฟ้า
    จะปรากฏเมฆฝนสกปรกสีดำคล้ำ
    แล้วพากันลอยต่ำเรี่ยพื้นมากขึ้น
    ฟ้าจะร้องคนองฤทธา
    ขณะแผ่นดินสะเทือนไหวไปทั้งดวง
    ทั้งฟ้าแลบฟ้าผ่า
    ทั้งพายุฝนลมแรง
    ทั้งก้อนน้ำแข็งสกปรก
    ล้วนตกลงมาจากมวลเมฆ
    สิ่งที่มีอำนาจบนฟากฟ้าและพื้นปฐพี
    จะมีแต่พาให้ทุกท่านอกสั่นหวั่นไหว
    ทั้งฝูงแกะฝูงปลาทุกเผ่าพันธุ์
    จะพากันทุกข์ร้อนกายใจ
    ด้วยความสงสัยจากลางสังหรณ์ว่า
    โลกกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
    ทุกทิวาฟ้าจะมืดมากกว่าสว่าง
    ทั้งพระสุริยะ พระแม่จันทรา และหมู่ดารา
    ประหนึ่งว่าจะพากันไกลร้างห่างโลก
    เสียงคำรามจากท้องทะเลและคลื่นสูง
    จักถาโถมรุกล้ำเข้ากลบกลืนชายฝั่ง
    เมื่อนั้น...วันของเราจักมาถึง
    วันที่ฟ้าจะแลบจากทิศตะวันออก
    ส่งแสงวาบไปจนสุดโลกทางทิศตะวันตก
    ทุกคนจะได้แลเห็นบุตรมนุษย์พระองค์นั้น
    ทั้งฝูงแกะและหมู่ปลา
    ที่ถูกพระบิดาทรงคัดสรร
    จักถูกรวบรวมเข้ามาไว้ด้วยกัน
    ......ที่นี่
    บัดนั้น...
    มารมากมายก็จักแสดงฤทธิ์
    เพื่อล่อลวงท่านที่ถูกคัดสรรไว้
    ให้หลงใหลงมงายในสิ่งมหัศจรรย์
    ให้เพ้อฝันในความร่ำรวย
    ให้ช่วยนำความสำเร็จในชีวิตมาให้
    ให้คลั่งใคล้ในวัตถุมายา
    ให้บ้าฤทธิ์ปาฏิหาริย์
    ซึ่งเป็น #ความอ่อนแอ ของคนส่วนใหญ่
    แทนที่จะมุ่งศรัทธามั่นในพระบิดา
    แทนที่จะมุ่งแสวงหาปัญญา
    แทนที่จะมุ่งปรารถนาการหลุดพ้น
    ดังนั้น...ณ จุดนี้
    ผู้ที่ขาดมหาสติมีปณิธานนิพพานไม่เที่ยง
    มีรหัสบุรพกรรมแม่เหล็กสั่งสมอยู่มากเกิน
    ก็จักต้องระวังตนไว้ให้ดี
    อย่าได้เสียที "มาร" ทั้งปวง
    เมื่อสถานการณ์
    ก่อน 56 วัน 8 ราตรีจะมาเยือน
    ขอท่านทั้งหลายจงลุกขึ้นยืน
    เชิดหน้าขาตรงอย่างมีมหาสติ
    แล้วน้อมศีรษะลง
    ทำสามเหลี่ยมกับพระบิดาผ่านมาทางเรา
    เพราะเวลาที่ท่านรอคอยนั้น
    มันอีกไม่นานแล้ว
    <3 <3 <3

    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    13-07-2017
     
  13. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    นอกจากนั้น....บนฝั่งฟ้า
    จะปรากฏเมฆฝนสกปรกสีดำคล้ำ
    แล้วพากันลอยต่ำเรี่ยพื้นมากขึ้น
    ฟ้าจะร้องคนองฤทธา
    ขณะแผ่นดินจะสะเทือนไหวไปทั้งดวง
    ทั้งฟ้าแลบฟ้าผ่า
    ทั้งพายุฝนลมแรง
    ทั้งก้อนน้ำแข็งสกปรก
    ล้วนตกลงมาจากมวลเมฆ
    สิ่งที่มีอำนาจบนฟากฟ้าและพื้นปฐพี
    จะมีแต่พาให้ทุกท่าน
    อกสั่นสะท้านไหว
    ใครที่ไม่รู้จักเรา
    ใครที่จำเราไม่ได้
    จะใช้กฤตสติไม่เป็น
    คงเหลือเพียงลางสังหรณ์ไว้ให้ใช้
    เพื่อคิดคำนึงให้ได้ว่า
    นี่โลกกำลังเกิดอะไรขึ้น
    ถ้าเขาเป็นคนที่ถูกคัดไว้
    แม้จะมีชีวิตรอดแต่ก็จะขาดสติ
    คงต้องกลายเป็นวัตถุล่องลอยบนโลกนี้
    หลังนาทีวิกฤต 56 วัน 8 ราตรีผ่านไป
    ภายในไม่เกิน 6 ปีโลก...นะเออ
    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    13-07-2017
    หมายเหตุ:
    ***********
    สถานการณ์จริงน่ะ
    น่ากลัว น่าระทึก
    ยิ่งกว่าคลิปนี้นับร้อยเท่า
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภายในไม่เกิน 6 ปีโลก...นะเออ

    9B%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A1%2B9.jpg

    นี่ก็แสดงว่าเวลาแห่งการชำระโลก ได้ถูกเลื่อน จากปี ค.ศ.2030 ลงมาแล้วใช่ใหมครับ?

    ข้อมูลจากทีม lightworks (คนงานแสง)

    ขณะนี้โลกได้เคลื่อนที่ไปยังมิติที่ 5D เสร็จแล้ว(ภายใน) เหลือแต่มนุษย์ที่ต้องยกระดับตัวเองให้อยู่ในมิติที่ 5D ให้ได้ คือต้องเปิดตาเปิดใจรับรู้สิ่งใหม่ๆ ทิ้งสิ่งเก่าความเชื่อเก่าความคิดเก่าๆ ทิ้งวัตถุและกิเลสทั้งปวง ไม่ต้องถึงขั้นออกบวช

    แค่รักษาศีล ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่เบียดเบียนกัน มีความรักและความเมตตา ช่วยเหลือกัน สามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน จึงจะสามารถช่วยตนเองและผู้อื่นให้รอดสู่ยุคทอง


    ที่มา http://palungjit.org/threads/12345-เรากำลังใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว-ด้วยความช่วยเหลือของlightworks-คนงานแสง-และจักรวาล-พวกเขาคือใคร-เกี่ยวอะไรกับการเปลี่ยนแปลงโลก.612345/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2017
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภายใน 6 ปีนี้ โลกจะตีลังกากลับหัว?

    upside2.jpg

    จากคำพยากรณ์ของ อ.ปริญญา ตันสกุล ได้กล่าวถึงเหตุการณ์วันชำระโลกเอาไว้ว่า

    ดาวเคราะห์โลกจะค่อย ๆ ม้วนตัวก้มหัวเอาขั้วโลกเหนือ คว่ำลงแทนที่ตำแหน่งขั้วโลกใต้อย่างช้า ๆ โดยมีน้ำหนักจากขั้วโลกเหนือที่ไหลลงสู่ด้านล่าง และก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ทางด้านขั้วโลกใต้ ช่วยส่งเสริม กระบวนการทางเทคนิคนี้ให้แนบเนียนกลมกลืนยิ่งขึ้น เมื่อขั้วโลกเหนือย้ายตนเองไปสู่ขั้วโลกใต้แล้วก็จะค่อย ๆ พลิกม้วนตัวขึ้นเพื่อย้อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมของตนต่อไป โดยไม่ย้อนรอยเดิม แนวแกนหมุนรอบตัวเองตำแหน่งใหม่ในยุคพลังงานใหม่ก็คือ 22 องศากับแนวดิ่ง เพื่อสร้างฤดูกาลใหม่ที่สมดุลให้กับมนุษย์ยุคพลังงานใหม่แห่งโลกเสรี ระยะเวลาที่โลกม้วนตัวตีลังกาครบ 1 รอบ จะใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 30 วัน!

    คำพยากรณ์นี้สอดคล้องกับคำทำนายของศาสนาอิสลาม ที่บอกเอาไว้ว่าในวันเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่นั้น ผู้คนจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก ซึ่งถ้าเกิดปรากฎการณ์โลกม้วนตัวตีลังกา เกิดขึ้นจริงก็จะทำให้ทิศต่างๆ เกิดการกลับด้านขึ้นเนื่องจากโลกหมุนผิดทิศทางไปจากเดิมนั่นเอง จึงทำให้ผู้คนมองเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก

    ในปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็กำลังค้นพบแล้วว่า สนามแม่เหล็กโลกกำลังพลิกกลับขั้วจากขั้วโลกเหนือเป็นขั้วโลกใต้อย่างช้าๆ ถ้าในวันข้างหน้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 30 วัน (ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดพร้อมกันหลายๆ ลูก) ก็จะเป็นวันล้างโลกตามที่ได้ระบุไว้ในคำพยากรณ์โบราณอย่างไม่ต้องสงสัย


    ที่มา https://www.dek-d.com/board/view/991114/
     
  16. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    สาธุ ครับ
     
  17. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    Pure-Meta Physics:
    **********************
    พี่น้องที่รัก <3 แห่งเราทั้งหลาย
    เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
    #องค์จิตจักรวาล
    ผู้ทรงเป็นพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
    ได้ทรงใช้มวลน้ำจำนวนมหาศาล
    เข้าปฏิบัติการชำระโลก
    มาตั้งแต่ยุคแรกจนถึงยุคที่สาม
    เพื่อทำลายโลกของคนอธรรม
    ทำลายเมืองที่รกรุงรังไปด้วยวัตถุเท็คโนโลยี
    ให้พังพินาศลงมาจนเป็นเศษซากธุลี
    เมืองที่เป็นศูนย์กลางการผลิตสร้าง
    ขยะวัตถุเท็คโนโลยีเมื่อสองหมื่นกว่าปีเศษ
    ที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่มีจิตสามนึกต่ำทราม
    เพราะได้แต่เมามัวหลงใหลในการเสพ
    จนไม่ว่างใส่ใจในการชำระจิตตนเอง
    ทั้งเมืองทั้งผู้คนจึงต้องถูกพลิก
    กลบฝังเอาไว้ใต้แผ่นเปลือกโลก
    เพื่อเก็บทรากของเมืองนั้นไว้
    เป็นตัวอย่างแก่คนอธรรมในอนาคต
    แต่ทรงไว้ชีวิตผู้ครองความชอบธรรม
    เพราะทรงเห็นว่าเขารักความชอบธรรมจริง
    แม้จะอยู่ท่ามกลางหมู่คนอธรรมก็ตาม
    เมื่อได้แลเห็นพฤติกรรมต่ำทรามแล้ว
    จิตใจที่ชอบธรรมของพวกเขาก็เป็นทุกข์
    #คนอธรรม คือ
    คนที่ชอบก้าวก่ายล่วงเกินผู้อื่น
    คนที่ชอบทำตนเป็นอุปสรรคขัดขวาง
    บนเส้นทางนิพพานของผู้อื่น
    #คนอธรรม คือ
    คนที่ชอบปล่อยตัวปล่อยใจ
    ให้เคลื่อนไหลไปตามกิเลสตัณหาราคะ
    คนที่ชอบล่วงเกินในสิ่งที่ตนไม่เข้าใจ
    คนที่ทำตนมีมลทินเป็นที่น่ารังเกียจ
    คนที่ชอบทำบาปมิรู้สิ้นสุดยุติ
    #คนอธรรม คือ
    คนที่ได้พบพระบิดาแล้ว
    แต่กลับหันหลังให้กับมรรควิถีจิตจักรวาล
    ที่พระองค์ทรงประทานผ่านเรามา
    เพราะหนีความเสื่อมของโลกไม่พ้น
    เขาก็จะประสบกับสิ่งร้ายๆ
    ยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่รู้จักพระบิดาเสียอีก
    พี่ๆน้องๆที่รัก <3 ทั้งหลาย
    พระบิดาทรงตรัสต่อเราไว้แล้วว่า
    ในปลายยุคพลังงานเก่านี้
    เราจักต้องเผชิญกับผู้ใช้วาจาเยาะเย้ย
    ผู้ใช้ถ้อยคำถากถางอยู่เนืองนิจ
    เพราะพวกเขาไม่เชื่อการกลับมาของเรา
    พวกเขาไม่เชื่อข่าวสารการชำระโลก
    พวกเขาไม่เชื่อเรื่องการสิ้นยุคของโลก
    พวกเขาไม่เชื่อเรื่องคำพิพากษา
    พวกเขาไม่เชื่อแผนที่โลกยุคพลังงานใหม่
    พวกเขาไม่เชื่อในคำเตือนใดๆของเรา
    พวกเขาไม่เชื่อว่าภัยธรรมชาติ
    ต่างจากภัยพิบัติ
    เพราะเขาเป็นแกะที่จำเสียงเจ้าของไม่ได้
    เพราะเขาเป็นปลาที่รักสนุกไปวันๆ
    เพราะเขาไม่เชื่อในสัจจะของเรา
    แม้ปากเขาจะบอกว่ารักพระองค์จนสุดใจ
    แต่เราก็มิได้หวั่นไหวไปตามลมปากนั้น
    ด้วยเหตุนี้เอง
    เราจึงขอกล่าวความจริงไว้ให้ท่านรู้ว่า
    ในสามยุคที่ผ่านมา
    พระองค์ทรงใช้น้ำสร้างความวินาศ
    เพื่อชะล้างเมืองอธรรมบนแผ่นดินโลก
    กับจิตวิญญาณมนุษย์ที่ไม่บริสุทธิ์ตลอดมา
    ณ บัดนี้
    วันเวลาแห่งการปิดยุคพลังงานเก่า
    เพื่อนำมนุษย์กับโลกสู่ยุคพลังงานใหม่
    ใกล้จะมาถึงเต็มทีแล้ว
    ท่านทั้งหลายจักต้องเตรียมตนเอง
    กับจิตวิญญาณเพื่อการผจญภัยกันได้แล้ว
    เครื่องมือผจญภัยนั้นพระบิดาทรงประทาน
    ผ่านเรามาให้ท่านตั้งนานแล้ว
    นั่นคือ #แก้วสองประการ
    หนึ่ง คือ มหาสติ
    สอง คือ ปณิธานแห่งนิพพาน
    ท่านทั้งหลายต้องเร่งฝึกฝนการใช้งาน
    ให้ชำนาญจนเป็นธรรมชาติของท่านให้ได้
    ท่านจักต้องดำเนินชีวิตของท่าน
    เพื่อสร้างความศักดิ์สิทธิ์ในตนเอง
    พร้อมปฏิบัติตนให้พระบิดาทรงพบเห็นว่า
    ท่านเป็นผู้หนึ่งที่พยายามดำเนินชีวิต
    อย่างไร้มลทินและปลอดจากคำตำหนิ
    เพื่อรับรางวัล "ความรัก" จากพระองค์
    เพราะความรักจากพระบิดาเท่านั้น
    จักเป็นความรอดของพวกท่าน
    แผ่นดินใหม่ ฟ้าใหม่
    จักเป็นที่อยู่อาศัยของคนประพฤติธรรม
    ขอท่านทั้งหลายจงอย่าปล่อยตัวและใจ
    ให้มันลื่นไหลไปตามเส้นทางอธรรม
    เหมือนกาลเวลาที่ผ่านมาเถิด
    วันพิพากษาโลกได้มาถึงแล้ว
    ปฏิบัติการชำระครั้งที่สี่นี้
    จะทรงใช้ไฟเผาบนท้องฟ้า
    แผ่นพสุธาจะใช้ไฟผลาญมลาย
    พิกัดส่วนเกินจะสูญหายไปในนที
    เพื่อสร้างฟ้าและแผ่นดินใหม่
    ให้เป็นที่อยู่ถาวรสำหรับคนชอบธรรม
    จะค่อยๆยกระดับทั้งความถี่
    จะค่อยๆทวีความรุนแรง
    พร้อมขยายพื้นที่กว้างไกลออกไปเรื่อยๆ
    เพื่อเปิดโอกาสให้ท่านทุกคน
    สร้างจิตสามนึกแห่งการเป็นคนดีศรีโลก
    ด้วยตัวของท่านเองเพื่อความรอด
    เพราะพระองค์มิประสงค์จะให้ผู้ใดพินาศ
    จนกว่าประตูแห่งโอกาสบานสุดท้าย
    จะถูกปิดลงอย่างสนิทแล้วเท่านั้น
    กราบพระบาทพระบิดา
    ที่ทรงพระเมตตา

    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    9-08-2017
     
  18. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    #อภิปรัชญา (Meta-physics)
    พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
    จนบัดนี้...
    วันสิ้นสุดกาลเวลาโลกยุคพลังงานเก่า
    ได้ล่วงเลยจาก 6 หมื่นปีมาได้ 800 ปีเศษแล้ว
    บทสรุปของพระบิดาแห่งจิตวิญญาณ
    ในสายพระเนตรของพระองค์ต่อมนุษย์โลกเสรี
    ประเด็นที่ชัดเจนที่สุดก็คือ
    ยิ่งเนิ่นนานผ่านวันมา
    ท่านทั้งหลายก็ยิ่งพากันหลงมิติมากขึ้น
    โดยจิตหยาบของท่านจดจำกันไม่ได้แล้วว่า
    ท่านยังมีจิตวิญญาณเป็นแก่นแท้อยู่ข้างใน
    การทำอะไรตามใจตัว
    รู้สึกชอบไม่ชอบอย่างไรก็ทำไปตามนั้น
    มีอารมณ์แบบใดก็ทำไปแบบนั้น
    เชื่อว่าอย่างไรก็ทำไปตามที่เชื่อนั้น
    นึกว่าอย่างไรก็ทำไปตามที่นึกอยู่นั้น
    โดยมิได้ใช้สติสัมปชัญญะปัญญา
    ใคร่ครวญพิจารณาเสียก่อนว่า
    สิ่งที่ตนจะพูดจะทำลงไปนั้น
    1.#มันถูกต้องเหมาะสมดีงามหรือไม่
    2.#จะพูดจะทำด้วยความรักหรือเปล่า
    3.#จะพูดจะทำไปตามสำนึกแห่งการให้หรือเอา
    4.#จะเป็นบาปบุญคุณโทษหรือเปล่า
    คำถามตนเองทั้ง 4 ประการนี้
    เป็นเรื่องราวของ #จิตสามนึก เฉพาะตนล้วนๆ
    ทั้งสี่คำถามแนวนี้แหละ
    ที่จิตวิญญาณแก่นแท้ของท่าน
    ปรารถนาสูงสุดที่จะให้จิตหยาบ
    สั่นสะเทือนทุกครั้งก่อนจะพูดหรือทำสิ่งใด
    ซึ่งตรงกับภาษาคุ้นชินของท่านว่า
    คิดใคร่ครวญให้มั่นใจก่อนจะพูดหรือทำนั่นเอง
    ดังนั้น
    มนุษย์ส่วนใหญ่บนโลกเสรีนี้
    นอกจากจะบกพร่องต่อหน้าที่
    ในพันธะสัญญา 6 ประการแล้ว
    ยังเป็นตัวการทำลายสมดุลของระบบโลกด้วย
    เพราะจดจำไม่ได้ว่าตนเองนั้น
    ยังมีจิตวิญญาณเร้นอยู่ข้างใน
    ทั้งยังจำไม่ได้ด้วยว่าตนเองนั้นเป็นแค่เพียง
    ผู้รับมอบอำนาจให้ทำหน้าที่แทน
    แก่นแท้ของตนเท่านั้นเอง
    ความสมดุลของระบบโลก
    ที่ถูกมนุษย์ส่วนใหญ่ทำลายไปแล้วมีดังนี้
    1.ทรัพยากรทางธรรมชาติบนพื้นโลก
    จำพวกป่าไม้ ภูเขาหิน แม่น้ำ ลำคลอง
    หนอง บึง ทะเลสาป และทะเล
    ถูกทำลายจนเสียสมดุล
    โดยผู้ทำลายมุ่งหวังกอบโกยประโยชน์
    จากทรัพยากรโลกเพื่อตนและพวกพ้อง
    เช่น สร้างคันเขื่อนกักกั้นแม่น้ำ
    ทำให้ระบบไหลเวียนพลังงานน้ำของโลก
    สูญเสียสมดุลไปเพราะความเห็นแก่ตัว
    เช่น การระเบิดหินทำลายภูเขา
    ย้ายเอาไปสร้างตึกสร้างป่าคอนกรีตยังที่อื่น
    อันเป็นการย้ายมวลหนักๆจากที่หนึ่ง
    เอาไปวางยังอีกพิกัดหนึ่งที่ห่างไกลออกไป
    ซึ่งเดิมทีภูเขาทั้งหลายในธรรมชาตินั้น
    พระบิดาผู้ทรงกำหนดสร้างได้จัดวางไว้
    อย่างสมดุลดีอยู่แล้ว
    เพราะถ้าจัดวางตำแหน่งภูเขา ที่ราบ
    ท้องน้ำ ทะเล และมหาสมุทร ไม่ถูกที่
    ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ก็จะไม่สมดุล
    เมื่อเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองก็จะโคลงเคลง
    ที่เรียกว่าเกิดอาการแกว่งส่ายนั่นแหละ
    เมื่อแต่เดิมสมดุลดีอยู่แล้ว
    แต่มนุษย์ผู้อาสาพระบิดามาพิทักษ์โลก
    กลับไม่ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์
    เพราะลืมพันธะสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อพระบิดา
    หลงลืมว่าตนเองมีจิตวิญญาณอยู่ข้างใน
    ทั้งกลับทำตัวเป็น #ผู้ทำลายโลกเสียเอง
    ด้วยการโยกย้ายภูเขาเอาไปไว้ที่อื่น
    โดยแปรสภาพเป็นอาคารวัตถุเท็คโนโลยี
    แข่งกันสร้างความสูง ความสวย
    อวดความร่ำรวย อวดเท็คโนโลยีแทน
    จนลืมพันธะหน้าที่ของแก่นแท้ไปหมดสิ้น
    2.อำนาจแม่เหล็กโลกและสนามแม่เหล็กโลก
    ถูกทำลายลงจนเสียสมดุล
    ลักษณะการทำลายมีสองรูปแบบ คือ
    แบบแรกเกิดจากการสร้าง
    สนามแม่เหล็กไฟฟ้าเทียมขึ้นมาใหม่
    จากเครื่องมือเครื่องใช้ระบบไฮเทค
    ทั้งที่มีขนาดเล็กและขนาดใหญ่
    ที่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเทียม
    ขึ้นมาลดทอนอำนาจแม่เหล็กโลก
    ซึ่งเครื่องยนต์แห่งกรรมรูปธรรมมนุษย์
    จะขาดก็ไม่ได้ จะเพิ่มหรือลดลงก็ไม่ได้
    มันจะกระทบกับกลไกอวัยวะร่างกาย
    กระทบกับกระบวนการทางจิตตปัญญา
    กระทบกับกระบวนการทางจิตประสาท
    ในทางเสียสมดุลไปทั้งในทันทีและผ่อนส่ง
    3.ดาวเคราะห์โลกเสียสมดุลทางพลังงาน
    เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึง
    การมอบพลังความรักทางวิญญาณให้โลกได้
    โดยผู้คนส่วนใหญ่ได้แต่สั่นสะเทือนจิตใจ
    เพื่อแสดงออกหรือกระทำภารกิจใดๆ
    สนองความต้องการของตนเองกับพวกตัว
    มากกว่ากระทำเพื่อจิตวิญญาณและโลกทั้งสิ้น
    มนุษย์ส่วนใหญ่ที่ดำรงอยู่ในระบบโลก
    จึงพึ่งตนเองไม่ได้และยังเป็นที่พึ่งของโลก
    ในลักษณะเป็นเพื่อนร่วมงานของโลกก็ไม่ได้
    จึงยังผลให้มนุษย์แต่ละคนมีค่าแค่เพียง
    มวลหยาบๆมวลใหญ่ที่ทำให้หนักโลก
    เป็นภาระของโลกที่ต้องแบกน้ำหนักไว้
    มนุษย์จึงไม่ต่างจาก "ขยะ" ที่ปลิวว่อนไปมา
    โดยแทบจะหาคุณค่าสำหรับโลกมิได้
    4.สนามพลังงานในระบบโลก
    โดยเฉพาะในชั้นบรรยากาศไม่เกิน 60 กม.
    เกิดการเสียสมดุลอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้น
    ทั้งนี้เป็นเพราะเหตุว่า
    อีเล็คตรอนอิสระที่มีค่าเป็นลบ
    อันเกิดจากพลังจิตด้านลบของมนุษย์โลก
    ที่ผลิตสร้างกันขึ้นมาในทุกวินาที
    มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ
    ยิ่งจิตติดกิเลสตัณหาราคะมากเท่าใด
    ปริมาณประจุลบที่เหวี่ยงออกมาสั่งสมไว้
    ในชั้นบรรยากาศเหนือถิ่นพำนักอาศัย
    ก็จะเพิ่มปริมาณความหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ
    จนท่านทั้งหลายสามารถสังเกตดูท้องฟ้าได้
    วันใดที่พี่ๆน้องๆตรงใต้ท้องฟ้าพิกัดไหน
    สั่นสะเทือนจิตใจด้วยกิเลสตัณหาราคะมาก
    เมฆบนฟ้าตรงพิกัดนั้นก็จักเป็นสีเทา
    ดำหรือดำคล้ำและหนาทึบมากตามไปด้วย
    จนกลายเป็นเมฆฝนห่าใหญ่
    และเกิดฟ้าคะนองฟ้าร้องฟ้าผ่ารุนแรงตามมา
    เมื่อตกลงมาก็จะมีพายุลูกเห็บขนาดโตๆ
    พรั่งพรูลงมาอย่างน่ากลัวอีกต่างหากด้วย
    พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย
    เราขอกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
    ถ้าท่านเป็นมนุษย์คนหนึ่ง
    ซึ่งเป็นไปตามบริบทในแบบที่ว่านี้
    ขอท่านจงลดละเลิกพฤติกรรมเหล่านี้เถิด
    หันมาทำคุณอันประเสริฐแก่โลก
    เพื่อลดภาระของโลกและช่วยโลกทำงาน
    ด้วยการรักกันให้ได้ ให้กันให้เป็น
    แล้วละวางกิเลสตัณหาราคะกันเสียทันที
    ให้คิดทำทุกสิ่งเพื่อจิตวิญญาณและโลก
    แทนการทำทุกสิ่งเพื่อสนองกิเลสตัณหาราคะ
    จนตนเองกลายเป็นขยะรกโลกไปโดยไม่รู้ตัว
    ซึ่งรอวันให้ช่างเท็คนิกมาเก็บกวาดสาดทิ้ง
    ให้ออกไปจากระบบโลกอยู่ต่อไปอีกเลย
    ลูกแก้วสองดวงนั่นไง
    รับจากพระหัตถ์พระบิดาผ่านมาทางเราแล้ว
    ใยจึงถือครองเฉยเสมือนหลับอยู่ด้วยเล่า
    จงตื่นตัวอยู่ในมหาสติ
    จงเบิกบานอยู่ในปณิธานแห่งนิพพานเถิด
    ภัยพิบัติทั้งหลายในปฏิบัติการชำระโลก
    กำลังเยี่ยมกรายเข้ามาใกล้เรื่อยๆแล้ว
    จะทำอะไรจงเร่งรีบทำเสียเถอะนะ
    การมีวิถีแห่งจิตจักรวาลนั้นนับเป็นบุญวาสนา
    ที่พระบิดาทรงโปรดปรานท่าน
    แต่การจะใช้บุญวาสนาที่มีอยู่เป็นหรือไม่
    มันเป็นเรื่องของส่วนบุคคลแล้วล่ะท่าน

    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    21-08-2017
     
  19. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    ตอบคำถาม:เมธี บุญสิน
    ************
    #Question:
    1.อาจารย์ เฮอริเคน ฮาวี
    ใช้จำนวนกี่รูปธรรมครับที่หมุนรอบจุดศูนย์กลาง
    2.แล้วสมมุดว่า
    พระบิดาเปิดโอกาสให้แก้แค้นจริง
    แล้วฟ้าผ่าลงมาทำให้ศัตรูเสียชีวิต
    แต่มันไม่ตายจริงนะครับ
    เดี่ยวก็มาเกิดใหม่
    3.ส่วนรูปธรรมที่ผ่าตายจริง
    สูญสิ้นความเป็นรูปธรรมทางพลังงาน
    จุดนี้เขาไม่รู้เหรอครับ หรือยอม
    #Answer:
    1.ทีมช่างเท็คนิกชุด "ฮาร์วี่ย์" นี้
    มีจำนวนรูปธรรมเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ
    มากกว่าทุกชุดที่ผ่านมา
    โดยจะยกระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    ใช้จังหวะแบบพระตีกลองเพลเลยล่ะ
    2.เธอไม่ต้องสมมติหรอกว่า
    ถ้าพระบิดาทรงยอมให้แก้แค้นจริง
    เพราะเราจะกล่าวตามจริงว่า
    เมื่อถึงเวลาก่อนการชำระโลกคาบสุดท้ายนั้น
    บานประตูมิติระหว่างจิตวิญญาณกับมนุษย์
    มันจะเปิดแง้มอ้าออก
    ประดาดวงจิตวิญญาณผู้พยาบาทคาดแค้น
    บางรูปธรรมเฝ้ารอแก้แค้นมานานนับร้อยปี
    โดยหนีนรกตลอดมาและไม่ยอมผุดเกิด
    ก็จะผ่านเข้ามาอยู่ในมิติเดียวกันกับมนุษย์
    แล้วปฏิบัติการแก้แค้นของผู้คาดแค้น
    ก็จะเกิดขึ้นไปทั่วทุกถิ่นบนแผ่นดินโลก
    วิธีการหนึ่งของพวกเขาที่จะหยิบมาใช้
    นั่นคือ #สร้างฟ้าผ่า ในสายตาของมนุษย์
    โดยจะมีทั้งผ่าคนที่เป็นเป้าหมายเลย
    หรืออาจจะผ่าต้นไม้ใหญ่ให้หักโค่นลงมาทับ
    เขาสามารถสร้างฟ้าผ่าได้
    โดยใช้รูปธรรมจิตวิญญาณเพียง 2 ขึ้นไป
    อยู่ที่ว่าเขาปรารถนาจะสร้างอำนาจด้านลบ
    มากน้อยหรือว่าจะเอาเป็นเอาตายแค่ไหน
    บางรายก็แค่ตายไปจากการเป็นมนุษย์
    ต้องยุติภพชาติปัจจุบันไป
    บางรายก็ตายไปทั้งสองมิติเลย
    หมายถึง ฟ้าผ่าตายแล้ว
    จิตวิญญาณของคนๆนั้นก็แตกสลายด้วย
    การตายทางจิตวิญญาณของมนุษย์
    จากการถูกฟ้าผ่าโดยเจ้ากรรมนายเวรนั้น
    มันไม่เคยมีในประวัติศาสตร์
    ทั้งของโลกเสรีและจักรวาลมาก่อน
    เพราะครั้งนี้เป็นปฏิบัติการชำระโลก
    ทุกอย่างจึงต้อง Set Zero
    นั่นคือ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไข
    และ สร้างใหม่ ให้โลกสมดุลขึ้น
    มีพลังอำนาจมากขึ้นนั่นเอง
    3.เธอถามว่า...
    รูปธรรมที่ฟ้าผ่าตายจริง
    จนสูญสิ้นความเป็นรูปธรรมทางพลังงาน
    จุดนี้เขาไม่รู้หรือ หรือว่ายอม
    เราจะตอบตามจริงให้รู้โดยทั่วกันว่า
    ปฏิบัติการแก้แค้นของจิตวิญญาณพวกนี้
    เขาจะใช้วิธี "วิ่งเข้าชน" ด้วยความเร็วสูง
    ถ้าเป็นปฏิบัติการเดี่ยวๆ
    จิตวิญญาณที่มีความอาฆาตพวกนี้
    ตรงเปลือกนอกของกล่องพลังงานของเขา
    จะมีอนุภาคประจุบวกที่ถูกผลักดันออกมา
    โดยอนุภาคประจุลบจากด้านในที่มีมากกว่า
    ให้ออกมาออกันอยู่โดยรอบ
    จะพุ่งเข้าจู่โจมบริเวณศีรษะหรือทรวงอก
    ของบุคคลเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
    พิกัดตำแหน่งบนร่างกายที่เขาโจมตี
    จะเป็นที่ตั้งของต่อมไร้ท่อที่สำคัญมาก
    ถ้าผ่ากลางศีรษะก็จะเสียหายหลายต่อม
    เนื่องจากในกระโหลกศีรษะมนุษย์นั้น
    พระบิดาทรงติดตั้งกลไกสำคัญไว้หลายชิ้น
    เช่น ต่อมพิทูอิทารี่เป็นที่ตั้งของจิตวิญญาณ
    ต่อมไพเนียลเป็นที่ตั้งของจิตหยาบ และอื่นๆ
    ทุกต่อมไร้ท่อในเครื่องยนต์แห่งกรรมมนุษย์
    เป็นเครื่องมือสำคัญของจิตวิญญาณ
    ที่ทำงานด้วยระบบคลื่นไฟฟ้าทั้งสิ้น
    ถ้าถูกกล่องพลังงานเจ้ากรรมนายเวรพุ่งชน
    แปลว่า เขาใช้ประจุบวกที่เขาพอมีอยู่
    พุ่งเข้าชนประจุลบที่ต่อมไร้ท่อของคนๆนั้นมี
    การสปาร์คของไฟฟ้าในร่างกายจะเกิดขึ้น
    การทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆ
    เช่น หัวใจ ตับ ไต ก็จะล้มเหลวฉับพลัน
    นั่นแปลว่า...เสียชีวิตโดยพลัน
    เธอผู้ถามลองคิดเองดูสิว่า
    ปฏิบัติการแบบนี้ระหว่างคนกับผีน่ะ
    คนจะถูกฟ้าผ่าจะทันรู้ตัวยอมตายมั้ย?
    นั่งอยู่กลางบ้านหลังคาเหล็ก-สังกะสี
    พวกเขาก็สามารถสร้างฟ้าผ่าลงมา
    ทำให้เสียชีวิตได้
    นั่งอยู่ในบ้านเปิดประตูดูฝนตกอยู่แท้ๆ
    สายฟ้าก็สามารถเล็ดลอดผ่านประตู
    เข้าไปผ่าคนๆนั้นถึงข้างในได้
    เดินตากฝนบนพื้นชื้นแฉะอยู่ดีๆ
    ฟ้าก็จะผ่าลงบนพื้นแฉะโดยไม่แตะต้องตัว
    กระแสไฟฟ้าแรงสูงนับหมื่นโว้ลต์
    จะใช้น้ำเป็นตัวนำไฟฟ้ามาถึงตัว
    ก็สามารถทำให้เสียชีวิตได้แล้ว
    ก็เราย้ำเสมอมาว่า
    เรากล่าวความจริงในฐานะของ
    The King of the Universe.
    เราขอยืนยันว่า
    ปฏิบัติการชำระโลกครั้งที่สี่นี้
    มีผู้อยู่เบื้องหลังภัยพิบัติทุกรูปแบบ
    มันมิใช่ภัยธรรมชาติในแบบที่
    นักวิทยาศาสตร์โลกทางกายภาพคิดกัน
    แต่ผู้คนอีกมากมายยังไม่รับฟังเรา
    เพราะกลัวถูกหลอก
    ทั้งๆที่แต่ละท่านก็มีจิตตปัญญาของตน
    จะถูกหลอกกันได้ง่ายๆเชียวหรือ?
    4.นอกจากท่านได้รู้แล้วว่า
    คนที่จะถูกฟ้าผ่าตายเพราะถูกแก้แค้น
    จะไม่มีใครรู้ตัวล่วงหน้า
    และคำว่ายอมไม่มีแล้ว
    ทันทีที่คนๆนั้นเสียชีวิต
    จิตวิญญาณก็จะทิ้งกายสังขารออกจากร่าง
    กลุ่มรูปธรรมพลพรรคของเจ้ากรรมนายเวร
    ก็จะรวมตัวกันพุ่งเข้าชนจิตวิญญาณเป้าหมาย
    โดยใช้เพียงแค่สองสามรูปธรรม
    พุ่งเข้าชนเป้าหมายพร้อมๆกันในทันที
    เสียงฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นนั้น
    มันจะดังยิ่งกว่าเสียงระเบิด
    ดังกังวาลนานนับนาที
    ดังทีหนึ่งอาจมีคนแก้วหูแตกได้
    เพราะมันจะดังหลายสิบเดซิเบล
    เกินกว่าประสาทหูมนุษย์จะต้านไหว
    มนุษย์จะเห็นเป็นแสงวิ่งบนฟ้าแบบผิดปกติ
    เช่น ฟ้าผ่าจะวิ่งในแนวขนานพื้นโลก
    ฟ้าผ่าจะวิ่งย้อนขึ้นจากพื้นดินสู่ท้องฟ้า
    ฟ้าผ่าจะวิ่งในแนวเฉียงทำมุมกับพื้นโลก
    ปรากฏการณ์เหล่านี้คือการไล่ตีเป้าหมาย
    ของประดาผู้แก้แค้นนั่นแหละ

    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    4-09-2017
     
  20. supako

    supako เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    2,213
    ค่าพลัง:
    +3,407
    #สนทนาประสาจิตจักรวาล
    พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย
    เราจะกล่าวความจริงต่อท่านทั้งหลายว่า
    1.คำว่า #สมาธิ นั้นสำหรับพระนักบวช
    เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องหมั่นฝึกฝน
    เพราะจิตที่เป็นสมาธิเท่านั้น
    ที่มันจะช่วยให้พระหรือนักบวช
    สามารถจดจ่ออยู่กับปฏิบัติการฝึกจิต
    ในระดับต้น คือ #สมถะกรรมฐาน
    อย่างต่อเนื่องยาวนานได้
    2.นอกจากนั้นพระหรือนักบวช
    ยังต้องอาศัยจิตที่สงบเป็นสมาธิอีกเช่นกัน
    เพื่อปฏิบัติการทางเท็คนิกในระดับปลาย
    คือ #วิปัสสนากรรมฐาน
    อย่างต่อเนื่องยาวนานได้
    3.การปฏิบัติสมถะกรรมฐานของพระนักบวช
    เป็นการฝึกฝนพัฒนาจิตให้มีพลังอำนาจ
    ในระดับที่สามารถควบคุมจิตตนเองได้
    ถ้าสามารถควบคุมมันได้มากเท่าไหร่
    ก็จะมีพลังอำนาจทางจิตสูงมากเท่านั้น
    ระดับพลังอำนาจของจิตเรียกว่า #ฌาน
    พระนักบวชจะใช้อำนาจพลังจิตที่ฝึกได้นี้
    ไปใช้เป็นเครื่องมือสร้างกระบวนการทางปัญญา
    เพื่อการขบคิดด้วยกลไกสมองต่อไป
    ถ้าหากจิตไร้พลังคือไม่เป็นสมถะ
    พระก็เข้าถึงพลังอำนาจทางปัญญาไม่ได้
    ดังนั้น
    ผู้ที่สามารถเข้าถึงระดับ "ฌาน" สูงได้
    จึงจะเข้าถึงระดับพลังอำนาจทางปัญญาได้
    โดยระดับพลังอำนาจทางปัญญา
    อันเกิดจากการฝึกทักษะทางเท็คนิก
    ที่เรียกว่า "วิปัสนากรรมฐาน" นั้น
    เรียกขานกันว่า #ญาณ นั่นเอง
    4.การปฏิบัติกรรมฐานสมาธิทั้ง 2 ระดับ
    เป็นเพียงปฏิบัติการทางเท็คนิก
    เพื่อให้เข้าถึงอำนาจทางจิตตปัญญาได้เท่านั้น
    เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะเข้าถึงได้
    เนื่องจากพระนักบวชทั้งหลายปลีกวิเวก
    ครองสมถะอยู่กับตนเองแต่เพียงลำพัง
    ทำให้การยกระดับจิตกับปัญญาของพระ
    จึงต้องฝึกฝนกันด้วยตนเอง
    การฝึกฝนด้วยตนเองแต่เพียงลำพังนี่แหละ
    เป็นที่มาของคำว่า #กรรมฐาน
    แต่สำหรับฆราวาสผู้ครองเรือนนั้น
    การพัฒนาความเข้มแข็งของจิต
    กับการยกระดับความฉลาดทางปัญญานั้น
    ไม่จำเป็นต้องนั่งหลับตาผ่านกรรมฐานเลย
    เพราะมีเพื่อนมนุษย์แวดล้อมในสังคม
    จะเรียงรายกันมาหยิบยื่นเงื่อนไขหลากหลาย
    ให้แต่ละคนได้เผชิญได้ฝึกฝนกันทุกวัน
    ด้วยการสร้างปัญหาทางอารมณ์ให้
    เพื่อให้ฝึกฝนการใช้ความอดทน
    อดกลั้น และการให้อภัย
    ฝึกฝนจิตใจให้มีเมตตา กรุณา มุทิตา
    จนถึงขั้นเป็นอุเบกขาต่อสิ่งเร้าทั้งปวงเลย
    ด้วยการหยิบยื่นปัญหาน้อยใหญ่มาให้
    เพื่อให้ท่านได้สั่นสะเทือนทางปัญญา
    เพื่อการคิดพิจารณาหาทางแก้ไขปัญหานั้นๆ
    ให้สำเร็จลุล่วง
    บททดสอบจิตกับปัญญาจากปัญหารายวัน
    เป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง
    ในการพัฒนาจิตตปัญญาของพวกท่านแต่ละคน
    คนที่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหา
    คนที่ไม่เกลียดกลัวปัญหา
    คนที่ไม่ใช้อารมณ์นำปัญญา
    จะเป็นผู้ที่ประสบความก้าวหน้า
    ในการพัฒนาจิตปัญญาได้อย่างดียิ่ง
    เพียงแค่เป็นคนเอาสังคม
    เพียงแค่ไม่เป็นคนชอบโดดเดี่ยว
    ปฏิบัติการทางเท็คนิกแบบพระนักบวชใช้
    ฆราวาสก็ไม่จำเป็นต้องหยิบยืมมาใช้เลย
    เพราะท่านสามารถใช้วิธีธรรมชาติ
    ยกระดับพลังจิตฟิตพลังปัญญาของสมอง
    ด้วยการลืมตาทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
    ก็ถึงเป้าหมายกันได้แล้ว
    5.การปฏิบัติกรรมฐานสมาธิเลียนแบบพระ
    สำหรับหมู่ฆราวาสทั้งหลายนั้น
    มีประโยชน์ที่จะปฏิบัติอยู่อย่างหนึ่งก็คือ
    เป็นวิธีที่จะช่วยให้จิตมนุษย์ของท่าน
    มันได้พักผ่อนเสียบ้างเมื่ออ่อนล้ามากแล้ว
    6.ที่ท่านทั้งหลายเห็นว่า
    มีแต่พระนักบวชเท่านั้นที่เน้นกรรมฐานสมาธิ
    โดยในศาสนาอื่นไม่มีการสอนจริงจังนั้น
    เราขอกล่าวความจริงให้รู้ว่า
    ศาสนาอื่นศาสดาพระองค์อื่นๆนั้น
    ทรงแนะเน้นให้มนุษย์ทั้งหลาย
    ไม่แยกตนเองออกจากสังคม
    หรือไม่ปลีกวิเวกเพื่อถือสันโดด
    โดยให้ปฏิบัติธรรมกันในชีวิตประจำวัน
    ทุกท่านจึงสามารถฝึกทักษะด้านจิตปัญญา
    โดยอาศัยการผลัดกันยื่นบททดสอบ
    ผลัดกันมอบบทเรียนโลกให้แก่กันและกัน
    ในทุกชีวิตประจำวันตามกาลโอกาสได้
    โดยไม่จำเป็นต้องกระทำที่ตนเอง
    ด้วยการฝึกคิดเอง ถามเอง ตอบเอง
    เพื่อให้ฉลาดขึ้นในแบบ "กรรมฐาน"
    แต่อย่างใดต่างหากล่ะ

    เอเมน สาธุ
    ป.วิสุทธิปัญญา
    21-09-2017
     

แชร์หน้านี้

Loading...