การถอดจิต

--ยาวหน่อยนะครับ แต่อาจจะช่วยไขความกระจ่างให้สำหรับสภาวะการถอดจิตได้บ้าง จะได้ไม่หลงไปกับมันจนลืมโลกแห่งความจริงครับ

ที่มา : http://seedang.com/stories/33641 โดยคุณ HOP UP

ประสบการณ์หนึ่งซึ่งมักจะเกิดกับคนนั่งสมาธิ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคนที่ผ่าน ประสบการณ์เฉียดตาย (Near Death Experience หรือ NDE) ก็คือ ประสบการณ์ที่เราเรียกกันว่า ‘ถอดจิต’ หรือ ‘วิญญาณหลุดจากร่าง’ (Out of Body Experience หรือ OBE)

เนื้อเรื่องโดยทั่วไปของ OBE มักจะเป็นประมาณต่อไปนี้นะครับ คือเริ่มจาก คนประสบอุบัติเหตุ จมน้ำ หัวใจวาย หรืออะไรก็แล้วแต่ จากนั้นถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินในสภาพโคม่า แล้วหัวใจก็หยุดเต้นไป ในทางคลินิกคนไข้ถือว่าได้ตายไปแล้วในช่วงระยะสั้นๆ จากนั้นพอหมอช่วยกันปั๊ม ช่วยกันช็อก ในที่สุดก็กลับฟื้นคืนชีพกลับขึ้นมาใหม่ ซึ่งพอได้สติ คนไข้ก็มักจะเล่าว่า ระหว่างที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัดนั้น มีความรู้สึกเหมือนวิญญาณได้หลุดลอยออกจากร่าง ค่อยๆ ลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงเพดานห้อง แล้วพอหันกลับลงมา ก็มองเห็นร่างของตัวเองนอนแน่นิ่งอยู่ โดยมีบรรดาหมอและพยาบาลรายล้อมกำลังพยายามช่วยชีวิตกันอยู่อย่างพัลวัน บ่อยครั้งดวงจิตที่หลุดลอยออกไป มักเดินทางผ่านอุโมงค์มืดๆ ที่มีแสงสว่างจ้าอยู่ปลายทาง พอหลุดออกไปได้ ก็มักจะไปโผล่ในนรก หรือสวรรค์ เจอยมทูตหรือเทวดาพาไปทัวร์ดูนู่นดูนี่อยู่แป๊บนึง เสร็จแล้วก็จบลงด้วยการถูกดูดกลับคืนเข้ามาในร่างเดิมที่นอนหลับอยู่ จึงค่อยตื่นฟื้นคืนสติขึ้นมาในที่สุด

OBE ถือเป็นหลักฐานยืนยันเรื่องวิญญาณและโลกหลังความตายได้จริงหรือไม่? อันนี้มันก็พิสูจน์ดูได้ครับ คุณหมอคนนึงใช้วิธีง่ายๆ เอาแล็บท็อปขึ้นไปแขวนไว้บนเพดานห้องผ่าตัด หันหน้าจอขึ้นข้างบน แล้วก็เปิดฉายรูปอะไรซักอย่าง คนไข้คนไหนที่เข้ามาเฉียดตายในห้องนี้ แล้วอ้างว่าวิญญานหลุดลอยขึ้นไปจนถึงเพดาน ถ้าหากมันจริงก็น่าที่จะมองลงมาเห็นรูปภาพบนจอคอมฯนี้ได้ แล้วก็น่าจะสามารถบอกได้อย่างถูกต้องว่าเป็นรูปอะไร แต่เท่าที่ผ่านมา ทดลองมาหลายปีแล้วก็ยังไม่เคยประสบผลสำเร็จซักที

ใน ทำนองคล้ายๆ กัน พวกกลุ่มคนที่ชอบนั่งสมาธิเป็นงานอดิเรก คือนั่งเอาสนุก ให้ถึงขั้นที่ถอดจิตได้ ก็ได้ลองทดสอบแบบเดียวกันนี้บ่อยๆ โดยการสุ่มดึงไพ่ออกมาจากสำรับซักใบนึง อย่าเพิ่งให้ตัวเองเห็นว่าเป็นไพ่อะไร แล้วเอาไปวางหงายไว้บนหิ้งสูงๆ ที่ไหนซักแห่ง จากนั้นก็ไปนั่งสมาธิ พอเข้าฌาณถอดจิตได้ปุ๊บก็ทดลองบินขึ้นไปดูว่าเป็นไพ่อะไร พอออกจากสมาธิ ก็ค่อยไปหยิบไพ่ของจริงที่ตั้งไว้มาดูว่าตรงหรือเปล่า การทดลองแบบนี้ที่ผ่านมาได้ผลไม่ต่างอะไรจากการเดาเท่านั้นเอง คือถ้าเป็นสำรับไพ่ปกติ โอกาสถูกก็จะได้แค่ 1 ใน 52 เท่านั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็น่าจะสรุปได้ว่า OBE เป็นอะไรที่เกิดขึ้นจริงแค่เฉพาะในระดับจิต มากกว่าที่จะเกิดขึ้นจริงในระดับโลกภายนอก

แล้วเราจะแน่ใจได้ยังไงว่าสมองเรามีความสามารถในการสร้างภาพลวงตาได้ขนาดนั้นจริงๆ?

เช่นเคย วิธีหนึ่งที่จะรู้ได้ก็คือต้องทดลองดู.. ในโรงพยาบาลมีคนไข้ส่วนหนึ่งที่ต้องเข้ารับการเปิดกะโหลกผ่าตัดสมองอยู่แล้ว หมอที่เป็นนักวิจัยเลยฉวยโอกาสนี้ในการทดลองเอาเข็มอิเล็คโทรดมากระตุ้น สมองของคนไข้พวกนี้ ดูซิว่า มีส่วนไหนบ้างมั้ยที่จะทำให้เกิด OBE ขึ้นมาได้ จิ้มไปจิ้มมา ปรากฏว่าไปเจออยู่ส่วนนึงชื่อ Angular Gyrus ซึ่งจิ้มทีไรคนไข้ก็จะรายงานบอกว่า รู้สึกเหมือนลอยสูงขึ้น แล้วมองลงมาเห็นร่างตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียง แสดงว่าสมองส่วนที่ว่านี้ ปกติน่าจะทำหน้าที่ในการรวบรวมประสาทสัมผัสแล้วสร้างออกมาเป็นความรู้สึก ที่เหมือนกับว่าเรากำลังมีตัวตนอยู่ในร่างของตัวเอง พอเกิดไฟช็อตขึ้นมานิดๆ หน่อยๆ อาจทำให้ความรู้สึกดังกล่าวได้รับการบิดเบือนไปได้ และก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเป็นประสบการณ์ OBE ขึ้นมา
จะว่าไป OBE ไม่ได้เกิดแต่กับเฉพาะคนที่ตายแล้วฟื้นเท่านั้นนะครับ สถานการณ์ที่ลี้ลับน้อยกว่า ที่มันไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องวิญญาณเลยก็สามารถทำให้เกิด OBE ได้บ่อยไม่แพ้กัน อย่างพวกนักบินที่ขับเครื่องบินเจ็ท ก็มีรายงานว่าเกิด OBE เป็นประจำ เพราะบางจังหวะที่แรงเหวี่ยงจากการเคลื่อนที่สูงมากๆ มันจะทำให้เลือดลงไปกองอยู่ที่เท้าและขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้เจ้าสมองส่วนที่กำหนดรับรู้ถึงตัวตนที่อยู่ในร่างนั้นเกิดไฟดับไปชั่ว ขณะ ซึ่งก็เลยทำให้เกิด OBE ขึ้นมาได้เหมือนกัน นอกจากนี้ ในคนที่เป็นไข้มาเลเรีย คนที่ดูดปุ๊นเสพยาเสพติดบ่อยๆ นอนหลับไม่เพียงพอ หรือได้รับยาบางตัวที่ไปมีผลต่อสมองเฉพาะส่วน (เช่นยา Ketamine) ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสภาวะที่สามารถเหนี่ยวนำให้เกิด OBE ขึ้นได้ทั้งสิ้น

ที่น่าสนใจอีกจุดนึงก็คือ OBE มักเกิดต่อเนื่องไปกับความฝันแบบที่สมจริงมากๆ หรือที่เราเรียกกันว่า Lucid Dream ซึ่งอาจเป็นที่มาของเรื่องราวการได้ไปทัวร์นรกสวรรค์ ไปเจอญาติที่ตายไปแล้ว อย่างที่คนเค้าชอบเล่าๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นในพวกที่เฉียดตายหรือพวกนั่งสมาธิถอดจิตก็ตาม

Lucid Dream เป็นการฝันที่แปลกประหลาดมากครับ คือตัวเราในฝันจะตื่นตัวมากๆ เหมือนเดินอยู่ปกติกลางวันแสกๆ ทุกอย่างชัดเจนจนแยกไม่ออกจากความเป็นจริง และที่สำคัญคือเราจะสามารถบังคับตัวเองได้ คือเดินไปสำรวจนู่นสำรวจนี่ได้ตามใจนึก เหมือนกับเล่นวิดิโอเกมที่กราฟฟิกสุดยอด รูปรสกลิ่นเสียงสมจริงสุดๆ บางคนที่ฝันแบบนี้แล้วไม่รู้ว่ามันคืออะไร พอตื่นขึ้นมาก็มักจะหลงเชื่อไปว่าได้ถอดจิตเดินทางไปท่องเที่ยวดินแดน ฉิมพลีแห่งนั้นมาจริงๆ แล้วก็อาจจะกลายเป็นปักใจเชื่อเรื่องนรกสวรรค์หรือมิติลี้ลับไปโดยปริยาย

อย่าง ไรก็ตาม lucid dream ในระดับสุดยอดจริงๆ นี่ มันจะไม่ใช่แค่สมจริง และบังคับตัวเองได้อย่างเดียว แต่เราจะรู้ตัวด้วยว่าขณะนั้นเรากำลังฝันอยู่ โลกทั้งหมดเป็นโลกจิตที่สมองสมมติขึ้น และเราในฐานะเจ้าของสมอง เรามีอำนาจที่จะบังคับให้โลกนั้นมันเป็นยังไงก็ได้ อย่างนึกจะบินก็บินได้เลย จะเดินทะลุกำแพงก็เดินได้ เสกนู่นเสกนี่ให้เป็นอะไรได้หมด ประมาณเดียวกับนีโอในหนังเรื่อง The Matrix อย่างไรอย่างนั้น ผมเองก็เคยฝันแบบนี้โดยไม่ได้ตั้งใจอยู่ครั้งนึงครับ สนุกโคตรๆ ตอนนั้นจำได้ว่า ในฝันกำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลแล้วถูกฉลามไล่ตามล่า หนีตายอยู่ซักพัก อยู่ดีๆ มันก็เกิดรู้ตัวขึ้นมาว่า เฮ้ยนี่ตูฝันอยู่นี่หว่า! จะมัวมาหนีอยู่ทำไม ก็เลยจัดการเสกเปลี่ยนทะเลให้กลายเป็นทะเลทรายแทน เท่านั้นฉลามที่ตามมาก็ลงไปนอนดิ้นแค่กๆ สำลักทรายตาย น่าสะใจเป็นที่สุด

 

ทำไมกระทู้เงียบอย่างงี้หว่า จริงๆน่าจะเป็นที่สนใจของคนในห้องนี้มากที่สุดแล้วนะ

 

ช่วยโพสต์ก็ได้ อิอิ ^^

ก็ที่กระทู้เงียบอย่างงี้อ่ะ... เพราะ...

เจ้าของกระทู้ ไม่เคยถอดจิตอ่ะดิ่ ^^

 

เราเป็นคนปกติที่สุดคนหนึ่งนะ ไม่ได้ติดยา ไม่ได้เป็นไข้มาลาเรีย ไม่ได้เลือดลงเท้า

แต่ตัวเราลอยขึ้นไปบนเพดานห้อง แล้วก็เห็นร่างตัวเอง เช่นกัน ^^

แล้วไอ้ Lucid Dream อะไรนั่นน่ะ... เราก็ทำมาหมดแล้ว... เราสามารถจับสภาวะที่ร่างกายหลับและสติเราหายไป แล้วเขาไปในฝันได้ด้วย ^^ ทำมาหมดแล้ว อิอิ ^^

 

ขอบคุณที่ช่วยดันกระทู้นะครับ เอ่อ..แล้วคุณ mamboo ได้ลองทดสอบตามวิธีที่บอกไว้ในบทความหรือยังครับ ที่ให้ดึงไพ่มา 1 ใบจากสำรับโดยไม่ต้องดูแล้ววางหงายไว้ในที่สูงๆ จากนั้นก็ถอดจิตไปดู ขอแค่ 3 ครั้งถ้าตอบถูกทั้ง 3 ครั้งผมก็พร้อมจะเชื่อแล้วหละครับ ไม่ใช่ไม่อยากเชื่อนะครับ ผมอะอยากเชื่อและอยากให้มีจริงใจจะขาดอยู่แล้ว แต่วิทยาศาสตร์มันเล่นจะหมดความน่าสนใจไปเลยอ่าครับ เศร้า T_T

 

Lucid Dream สามารถทำได้และลืมได้
ถ้าทำได้ควรทำบ่อยๆๆ ไม่งั้นจะเสียดาย
ถ้าทำได้แล้ว หลังๆๆมาทำไม่ได้ก็เปล่าประโยชร์

 

เรื่อง lucid dream ผมเคยเป็นเหมือนกัน แต่อยากให้แน่ใจว่าการถอดจิตที่พูดถึงกันใน board แห่งนี้ไม่ใช่แบบเดียวกับในบทความผมนะครับ หวังว่าใครจะมาสรุปให้ผมได้บ้างนะครับ