เรื่องเด่น การทดลองที่โลกต้องจารึก “จับมนุษย์มาอดนอน” ของรัสเซียเมื่อปี 1940 กับผลลัพธ์ สุดสยอง!!

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 28 มีนาคม 2018.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,731
    Untitled-1-78.jpg

    ถ้าพูดถึงการนอน ทุกท่านก็ต้องรุ้กันดีอยู่แล้วว่า การนอนคือการพักผ่อนที่ดีที่สุด ทำให้มีแรงที่จะใช้ชีวิตในวันต่อไป แต่วันนี้เราจะพาท่านไปดู การทดลองสุดโหดของประเทศรัสเซีย ในปี 1940 ที่จับมนุษย์มาทดลองด้วยการ อดนอน ลองไปดูผลลัพธ์ ที่น่ากลัวกันเลยดีกว่า

    2-63.jpg

    จุดเริ่มต้นการทดลอง
    ย้อนกลับในช่วงปลายของยุค 1940 รัสเซียได้ทำการทดลองที่เรียกว่า Sleep Experiment หรือ “การทดลองอดนอน” ขึ้นมา กองทัพจับมือกับกลุ่มนักวิจัยผู้ต่างกระหายใคร่รู้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์หากไม่ได้นอนเลย ไม่ใช่เพียงแค่คืนสองคืนติดต่อกัน แต่เป็นการอดนอนให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้

    เหยื่อผู้เข้าร่วมการทดลองในครั้งนี้มี 5 รายด้วยกัน ทั้งหมดเป็นนักโทษการเมืองจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกคนล้วนเต็มใจและยินดีที่จะมาเป็นหนูทดลอง ด้วยเชื่อในคำชักชวนที่ว่า หากอดนอนได้ครบ 30 วันแล้วพวกเขาก็จะได้รับอิสระ

    คนเหล่านี้ถูกนำตัวไปไว้ในห้องทดลองที่ปิดมิดชิด มีอาหารทิ้งไว้ให้จำนวนมากพอที่จะอยู่กินได้ทั้งเดือน มีหนังสือกองโต มีห้องน้ำ มีส่วนที่นั่งพักเล็ก ๆ ที่ไร้ซึ่งเตียงนอน นอกจากนี้ยังมีตัวตรวจวัดการใช้ออกซิเจนภายในห้อง และท่อปล่อยแก๊สที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้คนที่หายใจเอามันเข้าไปตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

    hqdefault-1-2.jpg

    5 วันแรก
    ทุกอย่างยังราบรื่นดี ต่างคนยังพูดคุยกันเหมือนคนปกติ แต่ช่วงวันหลังๆ พวกเขาก็เริ่มคุยกันเรื่องความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

    3-62.jpg

    วันที่ 6 เป็นต้นไป
    ทั้งหมดเริ่มออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ต่างคนต่างเลิกพูดคุยกัน แล้วหันหน้าพูดงึมงัมคนเดียวใส่ไมโครโฟน นักวิจัยคิดว่าสิ่งเหล่านี้อาจเป็นผลข้างเคียงจากแก๊สที่ผสมไปในอากาศ

    วันที่ 9
    ผู้ทดลองหนึ่งในห้าจู่ๆ ก็กรีดร้องออกมา เขาเดินเหมือนหนูติดจั่นสลับตะเบ็งเสียงกรีดร้องสุดแรงปอดอยู่กว่า 3 ชั่วโมง จนสุดท้ายแม้จะอ้าปากแล้วแต่ก็ไร้เสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา คาดว่าอาจจะคอแตกเส้นเสียงขาดไปแล้ว

    ที่น่าแปลกคืออีก 4 คนที่เหลือไม่ได้มีทีท่าแยแสกับสิ่งที่เพื่อนร่วมห้องของตนเป็นเลยแม้แต่น้อย ยังหันหลังให้แก่กันแล้วเอาแต่ทำเสียงงึมงัมใส่ไมค์ แล้วจู่ๆ ผู้ทดลองอีกรายก็หวีดร้องขึ้นมาอีก

    แล้วยังมีอีกสองคนหันไปฉีกหน้าสมุดออกจากหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตาย นำหน้ากระดาษนั้นละเลงกับอุจจาระของตัวเอง แล้วปะไปบนรูกระจกถ้ำมองในห้องจนหมด จนเมื่อปิดช่องแอบดูได้สนิท เสียงหวีดร้องก็เงียบลง เช่นเดียวกับเสียงงึมงัมใส่ไมค์ก็หายไปด้วยเช่นกัน

    4-58.jpg

    วันที่ 12
    ไร้ซึ่งเสียงหวีดร้องหรือเสียงงึมงัมใดๆ อีกตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นักวิจัยคอยเช็กไมค์ทุกๆ ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่ามันยังไม่เสีย ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะไม่ได้ยินเสียงอะไรดังมาจากในห้องเลย ทั้งๆ ที่คนข้างในน่าจะยังมีชีวิตอยู่ เพราะปริมาณออกซิเจนที่พร่องไปบ่งว่ายังมีการหายใจเอามันไปใช้ แถมมันยังพร่องลงไปในปริมาณมากเท่าๆ กับที่คนออกกำลังกายใช้หายใจเลยด้วยซ้ำ

    วันที่ 14
    ในที่สุดเหล่านักวิจัยก็ตัดสินใจว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ความกังวลว่าพวกที่อยู่ข้างในอาจตายหรือกลายเป็นสมองพิการนอนแน่นิ่งหายใจทิ้งไปเฉย ๆ มีมากขึ้น พวกเขาได้ส่งเสียงประกาศผ่านไมค์เข้าไปด้านใน

    “เราจะเปิดห้องเพื่อตรวจเช็กไมโครโฟน ถอยห่างจากประตูแล้วหมอบลงซะ ไม่งั้นเรายิงแน่ ถ้าเชื่อฟังเราจะปล่อยพวกคุณหนึ่งคนให้เป็นอิสระ”

    b6526958132353d0f1517eb767e21542.jpg

    วันที่ 15
    ในที่สุดนักวิจัยก็ตัดสินใจเปิดห้องทดลองออก หลังการทดลองอดนอนล่วงไปแล้วครึ่งเดือนเต็มๆ ตัวปล่อยแก๊สกระตุ้นถูกปิด ประตูเปิดอ้าออกพร้อมๆ กับอากาศภายนอกที่ไหลเวียนเข้าไป ทันใดนั้นเสียงจากไมโครโฟนก็กลับดังขึ้นมาใหม่ทันที เป็นเสียงผู้ถูกทดลอง 3 คน ร้องขออ้อนวอนอย่างเสียสติขอให้เปิดแก๊สกระตุ้นเดี๋ยวนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารเดินเข้าไปในห้อง เสียงกรีดร้องโหยหวนดังชัดเจนกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

    hqdefault-6.jpg

    จุดจบของผู้อดนอน
    หลังถูกนำตัวออกมาจากห้องได้อย่างทุลักทุเล ทั้ง 5 ยังคงร้องโหยหวนขอกลับไปดมแก๊สกระตุ้นดังเดิม ส่วนแพทย์ได้พยายามผ่าตัดรักษาบาดแผลที่สาหัสสากรรจ์ นำเครื่องในใส่กลับเข้าไปในร่าง ทว่าสิ่งที่ได้พบคือร่างกายแต่ละคนต้านยาสลบได้อย่างน่าประหลาด จนต้องอัดยาในปริมาณที่สูงกว่าคนทั่วไปหลายเท่าจึงพอทำให้สงบลงบ้าง แต่กระนั้นก็ยังมีรายที่อาละวาดบนเตียงผ่าตัดจนทำร้ายหมอบาดเจ็บถึงขั้นกระดูกหัก ในที่สุด 2 ใน 5 ของเหยื่อผู้ทดลองเสียชีวิตจากพิษบาดแผลของตัวเอง อีก 3 รายที่เหลือดิ้นรนอ้อนวอนที่จะไม่ถูกทำให้สลบระหว่างการผ่าตัด ยินดีให้หมอลงมีดลงเข็มได้สดๆ ไม่ต้องอาศัยยาบรรเทาความเจ็บปวดใดๆ แต่ระหว่างนี้มีรายหนึ่งเสียชีวิตไประหว่างผ่าตัด หลังอาละวาดหนักทั้งที่ถูกมัดอยู่บนเตียงจนทำตัวเองกระดูกหักไป 9 ซี่ ส่วนราย

    สุดท้ายที่รับการผ่าตัดสด ก็ไม่วายอ้อนวอนร้องขอแก๊สกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา เมื่อถูกถามว่าทำไมจึงอยากได้มันนัก คำตอบเดียวที่ได้รับกลับมาคือ เขาต้องการตื่นอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ได้บอกว่าทำไมจึงไม่อยากเข้าสู่ห้วงนิทรา

    การทดลองที่เลยเถิดมาไกลจนถึงจุดนี้สร้างความสลดหดหู่ให้แก่นักวิจัยทุกคน ต่างคนเห็นพ้องว่าควรจะหยุดการทดลองคลั่งลงได้แล้ว ทว่าความกระหายใคร่รู้อย่างไร้ขีดจำกัดของกองทัพรัสเซีย ออกคำสั่งให้เดินหน้าการทดลองต่อไป ต้องส่งตัวผู้รอดที่ยังเหลืออยู่ 2 คนนี้กลับเข้าไปในห้องทดลองอีกครั้ง ท่ามกลางความยินดีของผู้รอดทั้งคู่ที่จะได้กับไปสูดแก๊สกระตุ้นดังเดิม

    การทดลองบทใหม่..ที่ไม่ทันได้ข้อสรุป
    ในระหว่างเตรียมนำตัวส่งห้องทดลองอีกรอบก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อผู้รอดตายรายหนึ่งยังไม่ทันได้ดมแก๊สกระตุ้น เกิดหงอยหลับและเสียชีวิตไปในสภาพนั้น ทั้งๆ ที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้ายังดูตื่นตัวดีอยู่แท้ๆ

    การจากไปของเพื่อนร่วมชะตากรรมทำให้ผู้ทดลองเพียงหนึ่งเดียวที่เหลือรอดคลุ้มคลั่งขึ้นมาทันที พุ่งเข้าแย่งปืนจากเจ้าหน้าที่พร้อมยิงแสกหน้านักวิจัยตายไป 2 คน ก่อนออกคำสั่งให้เปิดแก๊สกระตุ้นและนำเขาเข้าห้องทดลองเดี๋ยวนี้ แต่ก็ไม่พ้นถูกเจ้าหน้ายิงตายในที่สุด

    เครดิตข้อมูล kapook.com


    ---------------------
    ขอบคุณที่มา

    https://www.pf-variety.com/905/
     

แชร์หน้านี้

Loading...