การนั่งสมาธิอย่างไรเช่นไรถึงเกิดยานในนิมิตหรือเรียกว่าจักขุ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Username-chatreekain, 9 ธันวาคม 2018.

  1. Username-chatreekain

    Username-chatreekain ใต้สรวงสวรรค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +58
    มีใครเคยนั่งสมาธิและเพ่งไปที่จัษขุของตนเองบ้างคับว่าเป็นเช่นไร
    ผมเคยนั่งสมาธิมีอยู่ครั้งหนึ่งนั่งนานถึง 30นาที เกิดลม วูบๆที่กาย
    และไม่ทราบเหตุผลของตนเองเลยตอนนั้น ว่าจะไปนั่งทำไม
    แล้วนั่งไม่ทำมารดาด้วยนะนั่งบนเปล เล่นเอายุงเป็นร้อยๆตัวเลย
    มารุมกัดที่หลังช่วงเวลานั้นก็ประมาน สี่ทุ่ม เห็นจะได้
    นั่งไปได้สักนานเลยทีเดียวเหมื่อนกันนั้งแบบว่าไม่มีตัวตน
    เหมื่อนคนนอนหลับเลยแต่ภาพในนิมิตทางจักขุเห็นมีเงา
    มีแสง แสงแบบว่า พรหม ทั้งตัวของเค้าเต็มไปด้วยความสว่าง
    และได้เดินมาใกล้ๆผมทำให้ผมสดุ้งตื่น ถามยังเจอผีอำอีก
    มีมือยาวเยียดออกมาจากต้นมะม่วงทำให้ผมเอาสดุ้งตื่นขึ้นมา
    เลยทีเดียว จบแล้วคับช่วงนี้ก็เริ่มกลับมานั่งสมาธิเหมือนเดิม
    แล้วคับแล้ว จักขุ ก็ยังคงมองเห็นเหมือนเดิม...
     
  2. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    ของแบบนี้ถ้ามันจะมีจะเป็นจะได้มันมาเองครับ ของผมก็เห็นในจิตอยู่ ถามต่อว่าเห็นแล้วมีความรู้สึกอย่างไร รู้สึกว่าตนวิเศษขึ้นไหม หรือว่าถือเป็นเรื่องปกติไม่ต่างจากคนเห็นคนด้วยกัน ได้ประโยชน์จากการรู้เห็นเรื่องพวกนี้อะไรบ้างครับ
     
  3. Username-chatreekain

    Username-chatreekain ใต้สรวงสวรรค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +58
    อย่างไร รู้สึกว่าตนวิเศษขึ้นไหม
    ไม่นะคับผมคิดว่าเป็นเรื่องทำมะดาคับ
     
  4. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    หมายถึงความรู้ในจิตขณะเราเจอภพภูมิครับ ว่ารู้สึกยังไง แต่ก็ไม่มีผลอะไรหรอกครับเราจะรู้สึกยังไงก็ได้ถือเป็นเรื่องส่วนตัว เพียงแต่ถามสนทนากันเฉยๆครับ ผมไม่เน้นเรื่องการละเลิกปล่อยวางอะไรในชาตินี้อยู่แล้วการรู้เห็นสิ่งพวกนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องดีครับ เพราะอย่างน้อยจิตเราก็มีการพัฒนามากขึ้นกว่าที่ไม่สามารถรับรู้สัมผัสอะไรเลย ส่วนใครจะเห็นว่าเป็นเรื่องเด็กๆก็ช่างเขาครับ คนไหนรีบก็ไปก่อนผมไม่อิจฉาด้วย ผมมีทางเดินของตนเองแล้ว รู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ด้วย ทำแล้วได้ประโยชน์อะไรก็รู้ ไม่มีคำว่าเร็วเร่งรีบในแบบฉบับของผมครับ เล่าสู่กันเผื่อจะชอบทางสายเดียวกัน
     
  5. Username-chatreekain

    Username-chatreekain ใต้สรวงสวรรค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +58
  6. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    ที่อยู่ในนี้จะมีปะปนด้วยกันทุกกลุ่มครับ หลักคือกลุ่มผู้ปรารถนาพ้นกิเลสในชาตินี้ กลุ่มมาอ่านศึกษาเอาความรู้เฉยๆชาตินี้ไม่ได้คิดอะไร และแบบผมปรารถนาเดินทางแบบโพธิ แต่ละคนที่มาตอบมาโพสอะไรในนี้ถ้าเราอ่านในใจความที่เขาพยามสื่อออกมาเราก็พอจะรู้ได้ว่าคนๆนี้มีแนวโน้มวิถีจิตไปทางใดอยู่กลุ่มไหนก็พอเข้าใจครับ ส่วนตัวผมจะไม่ค่อยจะพูดถึงเรื่องการละเลิกปล่อยวางอะไร เพราะไม่ใช่แนวทางที่ผมกำลังดำเนินอยู่และก็ไม่อยากจะให้ความเห็นเรื่องพิจารณาละเลิกอะไรสักเท่าไร ถึงใครจะว่าดียังไงต้องทำอย่างโน้นนี้นั้น ผมเหมือนบอกแบบเป่าลมผ่านหูคืออ่านได้ แต่จิตไม่รับ เพราะเราเดินแบบโพธิเราก็ยึดหลักของโพธิเป็นหลักและโพธิที่พอรู้เรื่องรู้ราวอะไรบ้างแล้วก็มักจะไม่ค่อยเดินตามใคร มักจะชอบการพิสูจน์เรียนรู้ลองผิดลองถูกด้วยตนเอง ออกจะดื้อๆหน่อย แต่ก็เคารพโพธิรุ่นพี่ที่บารมีเต็มแล้วให้เป็นครูบาอาจารย์อยู่ครับ

    โพธิบอกโพธิด้วยกันจะสื่อถึงอารมณ์การปฏิบัติแบบสะสมบารมีด้วยกันได้ดีกว่า แต่ถ้าสายละเลิกปล่อยวางมาบอก คือมันจะคนละแนวไปเลย บอกได้แต่จิตไม่รับ ไม่ใช่ว่าอวดเก่งหรอกนะครับ แต่ในความรู้สึกลึกๆจะบอกว่า เขาไม่ได้ปรารถนาเป็นโพธิแล้วเขาจะมารู้เรื่องการบำเพ็ญบารมีแบบโพธิได้ยังไงพอจะเข้าใจตรงนี้นะครับ คือถึงบอกมาผมก็ไม่เชื่ออยู่ดีว่างั้น สำหรับผมนะคนอื่นผมไม่รู้ คือเรื่องของจิตพูดแบบตรงตัวมันบอกมันสอนกันไม่ได้ครับ มันต้องหัดทำเอาเองเรียนรู้ด้วยตนเอง ถ้าบอกกันได้ทุกอย่างป่านนี้เราไปพระนิพพานตามพระพุทธเจ้ากันหมดแล้วครับใช่ป่าว ทำไมเรายังเหลือรอดกันมาได้จนถึงทุกวันนี้ ที่ผมฝึกไว้ก็เพื่อว่าเตรียมตัวไว้เวียนว่ายตายเกิดต่อไปครับ สะสมบุญบารมีไปชาติละเล็กละน้อยก็ยังดีกว่าไม่รู้และไม่ได้ทำอะไรเลยนี่คิดแบบโพธินะครับ แต่ถ้าคุณคิดจะละกิเลสให้ได้ชาตินี้ก็เร่งเอาครับ หลักมีนิดเดียวคิดแบบโพธิคือมองตนเองและผู้อื่น แต่ถ้าคิดจะละกิเลสอย่ามองคนอื่นให้มองแต่ตนเองโดยเฉพาะ(ตามหลักถ้ามัวมองแต่คนอื่นอยู่แสดงว่ายังไม่มีแววพ้นกิเลสง่ายๆถึงจะปรารถนาพ้นชาตินี้ก็ไม่แน่ว่าจะพ้น) รู้เท่านี้ครับ
     
  7. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +307
    ถือว่าเล่าสู่กันนะครับ พูดตามหัวข้อของผมไม่ได้มีการฝึกอะไรเกี่ยวกับภาพหรือนิมิตอะไรมาก่อนเลยครับ มันเป็นเองสมัยตอนนั่งสมาธิในวัดแห่งหนึ่งตอนนั้นเป็นนักบวชอยู่นานมาแล้ว เข้าใจว่าตอนนั้นถึงอุปจาระสมาธิครั้งแรก ก็เห็นภาพหน้าคนคล้ายยักมาแยกเขี้ยวแยกคางใส่ คือมันมาให้เห็นผมก็ดูแต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร มาในภาพของสมาธิหรือบางคนชอบเรียกว่านิมิต ตั้งแต่นั้นมาผมก็เห็นมาเรื่อยๆครับ เห็นป่าไม้ภูเข้า บ้านช่อง ภพภูมิวิญญาณที่เขาอยากจะให้เราเห็นหรือมาขอบุญก็มาปรากฏเป็นภาพในสมาธิอยู่เรื่อยๆ ถามว่าดีป่าวส่วนตัวก็ว่าดีอยู่ครับถือเป็นจุดเริ่มต้นของทิพพจักขุญาณ ประโยชน์ก็ตามแต่ใครจะเอาไปใช้ทำอะไร จะเอาไปพูดกับคนอื่นโก้ๆก็แล้วแต่ใคร55 ส่วนตัวผมไม่ว่าใครครับถือว่าถ้าเขาทำได้จริงมันก็ดีแล้วอย่างน้อยจิตเขาก็ไม่ห่างจากอารมณ์ของสมาธิตายไปก็หวังมีสุขคติเป็นที่ไป ถ้าชาตินี้ไม่ทำอะไรชั่วเกินไปนะครับ

    ส่วนตัวถ้าจะพูดเจาะจงว่าเราเห็นได้ไง ก็ไม่แน่ว่าภพภูมิอาจจะอยากได้เรารับรู้ได้หรือไง ส่วนตัวผมไม่ค่อยอยากรู้ที่มามากนักหรอกว่าเราได้มายังไง จะได้มายังไงฟลุกหรือบังเอินก็ช่างเหอะ แต่ได้มาแล้วเอามาใช้ทำอะไรนี่น่าสนใจครับ ส่วนตัวผมก็เอาไว้แผ่บุญให้กับภพภูมิครับ คือไปแผ่บุญแบบเราไปเห็นสถานที่ที่เราแผ่ด้วยมันก็รู้สึกดีกว่าไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยครับ คิดแบบโพธิเขาไม่ถือว่าเป็นการติดนะครับ ติดไม่ติดคุณก็จะต้องทำให้ได้ทุกอย่างก่อนเข้าพระนิพพานอยู่ดี เพราะถึงจะเวียนเกิดเป็นพรหมณ์เทวดามนุษย์นับชาติไม่ถ้วนก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับสายโพธิถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะงั้นพระอรหันต์ที่มาจากสายโพธิที่ท่านลาก่อนกำหนดส่วนใหญ่ท่านจะเป็นแบบปฏิสัมภิทาญาณกันเพราะอะไร ก็เพราะสมัยที่ท่านบำเพ็ญบารมีเป็นโพธิสัตว์อยู่ท่านได้เรียนรู้ทุกอย่างของสมาธิมาแล้ว พอลาปุ๊บเป็นอริยะของเดิมจึงกลับมารวมตัวทั้งหมดทั้งอภิญญา ญาณ และลูกศิษย์คือบริวารที่ร่วมสร้างบารมีมาด้วยกันในสมัยที่ยังเป็นโพธิอยู่นั่นเอง ในสมัยนี้มี2องค์เด่นๆเลย คือ หลวงปู่มั่นและหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง ครับ
     
  8. แนน จันทบุรี

    แนน จันทบุรี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +82
    ลองๆสักอาทิตย์นึงนะครับ บริกรรมภาวนา ทำสมาธิบ้าง ให้มีกำลังขั้นอุปจารสมาธิ จะเข้าใจขึ้นครับ ว่าทำไมฝัน แบบนั้น
     
  9. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ ใช้ภาษา "ประหลาด" หรือ เกิดเหตุการณ์ "ประหลาด" หรือเปล่า ถึงได้ "ถามประหลาด"
    +++ "เคย" แต่ดูเหตุการณ์แล้ว ไม่น่าจะเหมือนกันตรงคำศัพท์ที่ระบุมาว่า "จักขุ" นั่นแหละ

    +++ คำถามของ Username-chatreekain ไม่ระบุว่า "เพ่งไปที่จัษขุของตนเอง" อย่างไร

    +++ โดยปกติจะมีอยู่ 2 อย่าง "ส่วนมาก" จะเป็นอย่างแรก คือ "ดูตาตนเองในกระจก"
    +++ อย่างที่ 2 เป็น "ส่วนน้อย" ที่พอเริ่มนั่งสมาธิแล้ว "มีตา โผล่มาดู" เห็นแต่ "ตาอันเดียว"

    +++ ถ้าเป็น "อย่างที่ 2" คงไม่มาถามว่า "นั่งสมาธิอย่างไรเช่นไรถึงเกิดยานในนิมิตหรือเรียกว่าจักขุ" แน่นอน
    +++ เพราะ "มันมาของมันเอง" และ จะ "นั่งยังงัย มันก็ไม่มาหรอก ถ้ามันไม่อยากมา" เคยเจอตรงนี้หรือยังล่ะ

    +++ ถ้า "มันมาของมันเอง" มันจะมาอย่างต่อเนื่องคือ "นั่งเมื่อไร พอจิตสงบปั๊บ มันก็โผล่มาปุ๊บ" เหมือนมันรออยู่แล้ว นั่นแหละ
    +++ ดังนั้น คำถามที่ว่า "นั่งยังงัย มันถึงจะมา" นั่นเป็นคำถาม "ผิดจุด" ในกรณีนี้ แน่นอน เพราะ "มันมาของมันเอง" นะ

    +++ ไม่ว่าจะ "ปฏิเสธ/ไม่ยอมรับ" เท่าไรก็ ไม่เป็นผล "ย้ายที่นั่ง/เปลี่ยนกรรมฐาน" พอจิตสงบ "มันก็โผล่มาทันที"
    +++ แผ่เมตตาก็ไม่ work นึกถึงพระ มันก็ "เป็นตา ทับซ้อนอยู่ในองค์พระ" ไม่ว่าจะเอายังงัย "มันก็ไม่ไปไหน"

    +++ Username-chatreekain เคยเจอแบบนี้หรือเปล่าล่ะ ถึงได้ "ตั้งคำถาม มาแบบนี้" หือ...
    +++ ลงท้ายที่สุด จะเหลืออยู่เพียงแค่ 2 กรณีเท่านั้น คือ "เลิกฝึก หรือ สวนกับมันไปเลย"

    +++ กรณีของผม คือ "มันจ้องมา ผมก็จ้องมันสวนกลับไป" เท่านั้น ยังไม่พอ ผม "เดินหน้าเข้าใส่มันตรง ๆ"
    +++ ใกล้เข้าไปเรื่อย ๆ "ตาดวงนั้น" มันก็โตขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็ "สวนมันไม่เลิก" จน "เข้าไปข้างใน ตาดวงนั้น"
    +++ พอผ่าน "ตาดำ" ของมันเข้าไป มันก็เหมือน "ไปโผล่เอาอีกมิติหนึ่ง" เป็นการ "ทำพิธี พระพุทธรูปโบราณ"

    +++ พระพุทธรูปโบราณองค์นั้น คล้ายแกะมาจาก แท่งผลึก ไพฑูรย์ มีลักษณะสีแบบ รูปตามลิ้งค์นี้ (ไพฑูรย์ มีได้หลายสี)
    https://sc01.alicdn.com/kf/HTB1qvRqFFXXXXb7aVXXq6xXFXXXK/201117927/HTB1qvRqFFXXXXb7aVXXq6xXFXXXK.jpg

    +++ เป็นปางสมาธิ รูปทรงรวมทั้ง "หน้าตารูปร่างลักษณะ" เป็นแบบ "พระแก้วมรกต" ทุกประการ แต่ใหญ่กว่ามนุษย์ 2 เท่า
    +++ ด้านหน้ามี พระสงฆ์นับเป็นพัน ๆ นั่งสวดกันอย่างเป็นระเบียบ ด้านหลังเป็น พราหม์นุ่งห่มขาวล้วน ตั้งกองกูรณ์ (camp fire)
    +++ กองละ 4 ตนไม่ขาดไม่เกิน นับเป็นร้อย ๆ กอง บ้างนั่ง บ้างยืน บ้างเดินจงกรม บางตนคล้ายทำ ฤษีดัดตนก็มี แต่กองละ 4 ตน
    +++ การไป "โผล่ในอีกมิติหนึ่งนี้" เหมือนไปแบบทั้งตัว เป็นตัวเป็น ๆ ทั้งตัว ไม่ใช่แบบเห็นเฉย ๆ เหมือนดูหนัง
    +++ เมื่อทัศนาจรจนจบ ก็ ถอนกลับมาสู่ "มิติปัจจุบัณ" ณ ขณะนั้น "เข้าใจว่า" เป็นการทำพิธีในการสร้าง "พระแก้วมรกต"

    +++ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันก็เป็นเพียงแค่ "ได้เห็น ดีกว่า ไม่ได้เห็น" เท่านั้นเอง
    +++ มันเป็นได้แค่ "เล่าสู่กันฟัง" เท่านั้น จะเอาเป็น "สรณังคัจฉามิ" อะไรไม่ได้เลย
    +++ เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อ "นานมาแล้ว" ในขณะที่เพิ่ง หัดสมาธิใหม่
    +++ และขณะที่เห็น "ยังเป็นแบบ ฌานฤษี" อยู่ จะเรียกว่า "ญาณทัศนะ" ไม่ได้
    +++ ฌานฤษี จะมีอารมณ์ครอบงำสติ ตลอดเวลา ตกอยู่ใต้ธรรมารมณ์
    +++ ญาณทัศนะ จะไม่มีปรากฏการณ์แห่งอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เป็น สติบริสุทธิ์ เท่านั้น

    +++ ที่โพสท์มานี้เป็นแค่ การตอบคำถาม "มีใครเคยนั่งสมาธิและเพ่งไปที่จักขุ" ว่าเป็นเช่นไร เท่านั้น ไม่มีอะไรมาก
    +++ ปกติ ผมจะไม่ตอบคำถามประเภทนี้ แต่นี่เห็นว่าเป็น "คำถามตรง" ในห้อง "ประสบการณ์อภิญญา" จึงเล่าให้ฟัง เท่านั้น นะครับ
     
  10. Username-chatreekain

    Username-chatreekain ใต้สรวงสวรรค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +58
    ใช่คับเวลานั่งนานๆถึงจะมา
     
  11. Username-chatreekain

    Username-chatreekain ใต้สรวงสวรรค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +58
    มันก็ได้นะคับ
     
  12. Username-chatreekain

    Username-chatreekain ใต้สรวงสวรรค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +58
    ขอบคุณคับส่วนตัวก็ชอบนะคับโพธื
    แต่นั่ง เดี่ยวๆ ก้อสบายใจดีนะคับ
    ผมผึ้งฝึกหัดนั่งอยู่คับ
     
  13. ไม่ใช่ตัวตน

    ไม่ใช่ตัวตน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2018
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +175
    นิมิตร ระวังให้ดี เดี๋ยวเป็นบ้า

    ไม่รู้เท่ารู้คิดถ้ารู้คิดเป็นเรื่องดี

    ปฏิบัติธรรมจะวัดกันตรงที่ความเจริญงอกงาม
    ในขณะนอนหลับ เราฝัน แรกๆ จะรู้สึกในฝันมันมีจริงๆ พอตื่นขึ้นมาสัมปชัญญะจึงมี ถึงรู้ว่าเมื่อกี้หลับ แม้งงงเอ้ยฝันเรื่องอารายว่ะปัดโธ่ บางทีก็ติดอกติดใจในความฝัน เรียกว่า อาการอย่างนึงทางความรู้สึก ให้รู้

    พอเราปฏิบัติธรรมไป พอตื่นมาเราจะมีสัมปชัญญะ แล้วเราจะรู้ว่าเราข้องสิ่งใด เราก็จะยิ่งพากเพียร

    คราวนี้ ความฝันก็ฝัน แต่ไร้อารมณ์
    ถ้ามันจริงในความฝัน ตื่นมามีสัมปชัญญะ ก็รู้อีก เอาละโวย ฉันต้องพากเพียรต่อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...