การบริจาคเลือด , ดวงตา , อวัยวะ , ร่างกาย ให้สภากาชาดไทย

ในห้อง 'ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสัตว์' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 มีนาคม 2006.

  1. cheterk

    cheterk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +1,568
    ดีมากครับ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948

    โมทนาสาธุครับ

    เรื่องบริจาคเลือด ต้องบำรุง เพิ่มน้ำหนักนะครับ สัก 60 โลกำลังดี อิอิอิ

    .
     
  3. ao.angsila

    ao.angsila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,332
    ค่าพลัง:
    +26,682
    (i) โมทนาบุญด้วยคนครับ สาธุ (verygood)
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://www.thaihealth.or.th/cms/detail.php?id=7865

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center bgColor=#990000 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>สำนักข่าว สสส. >> แผนควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ</TD></TR></TBODY></TABLE>

    สธ. ชวนคนไทย “บริจาคอวัยวะถวายในหลวง”

    ต่อลมหายใจเพื่อนมนุษย์ หนึ่งร่างกายอาจช่วยได้ถึง 7 ชีวิต<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    สภากาชาดไทย-สธ.-สปสช.-สสส. ชวนคนไทย “บริจาคอวัยวะถวายในหลวง” ต่อลมหายใจเพื่อนมนุษย์ หนึ่งร่างกายอาจช่วยได้ถึง 7 ชีวิต แต่คนไทยบริจาคอวัยวะน้อย ปี 50 ได้ปลูกถ่ายไม่ถึง 5% อีกกว่า 2 พันชีวิตรอความหวัง เหตุกลัวชาติหน้าเกิดมาไม่ครบ 32 ผู้ป่วยรอไม่ไหวตายแล้ว 380 คนที่ลานห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน สภากาชาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดโครงการ “บริจาคอวัยวะถวายในหลวง”
    <O:p</O:p
    <O:p[​IMG]
    </O:p
    โดย นพ.มรกต กรเกษม รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า มีผู้ป่วยรอรับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะเพิ่มมากขึ้น เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาผู้ป่วยที่อวัยวะสำคัญเสื่อมสภาพ แต่ปัญหาคือการขาดแคลนอวัยวะ แต่ละปีคาดมีผู้เสียชีวิตที่สามารถบริจาคอวัยวะได้เกือบ 2,000 คน ดังนั้นเพื่อช่วยชีวิตพี่น้องชาวไทยด้วยกัน ให้มีอวัยวะเพียงพอต่อการปลูกถ่าย จัดสรรอวัยวะที่ได้รับบริจาคอย่างเสมอภาค ไม่มีการซื้อขายอวัยวะ และเหนือสิ่งอื่นใดคือร่วมกันทำความดีในวโรกาสอันเป็นมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. 2550 สภากาชาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สปสช. แล สสส. จึงจัดโครงการ "บริจาคอวัยวะถวายในหลวง" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนร่วมบริจาคอวัยวะ ถวายเป็นพระราชกุศล
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    “ไตเป็นอวัยวะที่มีผู้รอรับการปลูกถ่ายมากที่สุด ส่วนหนึ่งมาจากโรคไต มีเครื่องฟอกไตที่ช่วยต่อเวลาให้รอต่อไปได้นานเท่าที่ผู้ป่วยสามารถไปฟอกได้ แต่อวัยวะอื่นๆ ไม่อาจฟอกรอได้ เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่อวัยวะนั้นๆเสื่อม ผู้ป่วยก็ต้องเสียชีวิตไป ซึ่งมีผู้เสียชีวิตระหว่างรอรับอวัยวะแล้ว 380 คน ขณะที่ผู้ได้รับการปลูกถ่ายหัวใจรายหนึ่ง มีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวจนถึงปัจจุบันก็ 20 ปีแล้ว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะร่วมรณรงค์ในโครงการนี้อย่างเต็มที่ โดยจะพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความรู้เรื่องการบริจาคอวัยวะ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน”นพ.มรกต กล่าว<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวถึงบทบาทของสภากาชาดไทยในการรับบริจาคอวัยวะว่า เนื่องจากความก้าวหน้าทางการแพทย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปลูกถ่ายอวัยวะซึ่งเป็นการช่วยเหลือมนุษย์ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้เป็นผู้นำในการปลูกถ่ายตับและหัวใจสำเร็จเป็นรายแรกของประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2530 <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ดังนั้น เพื่อให้การรับบริจาคอวัยวะสำหรับการปลูกถ่ายเป็นไปตามระบบที่ถูกต้องและเป็นธรรมตามหลักปฏิบัติสากลในทางการแพทย์ สภากาชาดไทยจึงได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะ ซึ่งเป็นแห่งแรกในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ได้ทรงพระราชทานพระราชานุญาตให้วันที่ 2 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ เป็นวันศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นายแผน กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ ได้ทำการรณรงค์การบริจาคอวัยวะมาอย่างต่อเนื่องตราบจนถึงปัจจุบัน ได้มีผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะหลังจากเสียชีวิตแล้ว 436,365 คน แต่ถึงกระนั้นก็ดี ก็ยังประสบปัญหาการขาดแคลนอวัยวะอยู่ ซึ่งภาวะการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นทั่วทุกประเทศที่มีการปลูกถ่ายอวัยวะ ดังจะเห็นได้ว่าในขณะนี้ (30 มิถุนายน 2550) มีผู้รอรับอวัยวะถึง 2,238 คน แต่มีผู้ป่วยเพียง 107 คน หรือ 4.8% เท่านั้นที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ยังมีผู้ป่วยอีก 2,131 คน ที่รอคอยความหวังที่จะได้รับชีวิตใหม่ อวัยวะ 3 อันดับแรกที่มีผู้รอรับการบริจาคมากที่สุด คือ 1.ไต 1,848 ราย มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายไต 114 ราย หรือ 6.2% 2.ตับ 231 ราย มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายตับ 24 ราย หรือ 10.4% 3.หัวใจและปอด 49 ราย มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายเพียง 5 ราย หรือ 10.2% และมีผู้รอรับการบริจาคตับอ่อน 4 ราย แต่ยังไม่มีใครได้รับการปลูกถ่าย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการสสส. กล่าวว่า การที่มีผู้บริจาคอวัยวะจำนวนน้อย ส่วนหนึ่งเกิดจากความเชื่อที่เกรงว่า หากบริจาคแล้วเมื่อเกิดใหม่ในชาติหน้า จะมีอวัยวะไม่สมบูรณ์ ซึ่งไม่มีเหตุผลจะเป็นเช่นนั้น ตรงกันข้ามการบริจาคอวัยวะคือการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ โดย 1 ร่างกายที่สมบูรณ์อาจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ถึง 7 ชีวิต โดยนำ 1 หัวใจ 1 ตับ 1 ตับอ่อน 2 ปอด และ 2 ไต ไปปลูกถ่ายได้ การปลูกถ่ายอวัยวะเป็นแนวทางเอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพประการหนึ่ง ที่จะทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งทางกาย จิตใจ และสังคม เพราะเมื่อเชื่อว่า การบริจาคอวัยวะคือการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ผู้บริจาคย่อมดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ให้ร่างกายสมบูรณ์พร้อมสำหรับทำการบุญที่ยิ่งใหญ่ โดยสสส.ได้จัดทำคู่มือสร้างเสริมสุขภาพแจกผู้บริจาคอวัยวะ ทั้งนี้ยังมีประชาชนจำนวนมากที่ไม่ทราบขั้นตอนการบริจาค โดยนอกจากสอบถามได้ที่หมายเลข 1666 แล้ว จะมีเอกสารจัดวางที่สถานบริการสาธารณสุขทั่วประเทศ สถานีบริการน้ำมันบางจาก ปตท. ร้านสะดวกซื้อวีช้อป ไทยช้อป ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และเสรีเซ็นเตอร์

    <O:p</O:p
    พญ.เรณู ศรีสมิต ที่ปรึกษาอาวุโส สปสช. กล่าวว่า โรคไตวาย โรคหัวใจ เป็นโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง การรักษาที่ดีที่สุดคือ การปลูกถ่ายอวัยวะ สปสช. จึงสนับสนุนงบประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบการรับบริจาคอวัยวะของรพ.ศูนย์ทั่วประเทศ จำนวน 24 แห่ง และเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการรับบริจาคอวัยวะ โดยตั้งเป้าหมายจะนำอวัยวะจากผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ป่วยสมองตายจำนวน 200 ราย ไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยที่รอคอยได้ประมาณ 500 ราย ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน เสมอภาค เท่าเทียมกัน และได้รับความสะดวกในการรับบริการสาธารณสุขที่จำเป็น


    <O:pที่มา :<O:p</O:p
    ข้อมูลจาก : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ <O:p</O:p
    ภาพประกอบ :www.thaihealth.or.th


    <O:p<TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD height=20>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</TD></TR><TR><TD bgColor=#990000 height=3></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=left>[​IMG] สธ.ชวนบริจาคโลหิต กันหญิงท้องตกเลือดตายปีละ 5 แสนราย</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ข้อหาเมาแล้วขับถูกจับบริจาคเลือดแลกบริการสังคม</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] ดวงตา...กับภาวะเสี่ยงที่คุณคาดไม่ถึง</TD></TR><TR><TD align=left>[​IMG] กว่าจะได้...ชีวิตใหม่ของผู้รอรับบริจาคอวัยวะ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></O:p</O:p
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมนำเรื่องนี้ไปลงในเว็บลานธรรมจักรและเว็บวัดถ้ำเมืองนะแล้วครับ

    ลานธรรมจักร &raquo; นานาสาระ <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=maintitle vAlign=top>การบริจาคโลหิต , ดวงตา , อวัยวะ , ร่างกาย ให้สภากาชาดไทย</TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?p=55283#55283

    และ
    วัดถ้ำเมืองนะ จังหวัดเชียงใหม่ หมวดเสวนา - ประชาสัมพันธ์ ทั่วไป

    การบริจาคโลหิต , ดวงตา , อวัยวะ , ร่างกาย ให้สภากาชาดไทย
    http://watthummuangna.com/board/showthread.php?t=2502
     
  6. mn123

    mn123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +353
    ชีวิตนี้เกิดมามีค่าเกินกว่าที่จะทิ้งไปเปล่าๆให้เสียประโยชน์ อวัยวะและเลือดเนื้อมีประโยชน์เหลือไว้ให้ผู้อื่นได้ใช้ประโยชน์ต่อไปได้

    ขอบคุณครับ คุณ sithiphong สำหรับข้อมูลครับ
     
  7. สรศักดิ์ บุญมา

    สรศักดิ์ บุญมา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +89
    ขออนุโมทนาบุญครับ
    วันนี้ผมเพิ่งไปบริจาคมาครับและได้พาเพื่อนและน้องไปบริจาคด้วยรวมกัน 4 คนครับก็ขอให้สมาชิกทุกคนและคนอื่นๆไปบริจาคด้วยกันนะครับ
     
  8. boko0121

    boko0121 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +7,736
    อนุโมทนาครับ ผมได้บริจาคเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2551
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สธ. ชวนคนไทยบริจาคอวัยวะต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์

    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=16928&catid=28


    นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับศูนย์บริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย สืบสานพระปณิธานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์ประธานมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย เชิญชวนคนไทยทำบุญครั้งใหญ่ในชีวิต ร่วมบริจาคอวัยวะภายหลังเสียชีวิต เพื่อช่วยผู้ป่วยที่อวัยวะล้มเหลวให้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะทดแทน สามารถมีชีวิตอยู่ได้ โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ให้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปในสังกัด 95 แห่งทั่วประเทศ เป็นศูนย์ประสานงานรับแจ้งการบริจาคอวัยวะจากประชาชนที่อยู่ในภาวะสมองตายแล้ว เชื่อมโยงกับศูนย์บริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการจัดสรรอวัยวะบริจาคให้ผู้ป่วยที่รอการผ่าตัด
    นายแพทย์ปราชญ์ กล่าวต่อว่า การปลูกถ่ายอวัยวะเป็นการรักษาขั้นสุดท้าย ช่วยชีวิตผู้ป่วยที่อวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ ปอด ตับ ตับอ่อน ไต ล้มเหลว เพื่อให้กลับมามีชีวิตใหม่เหมือนคนปกติ ซึ่งในร่างกายคนปกติที่สมบูรณ์เพียง 1 ร่าง อวัยวะภายในทั้งหัวใจ ตับ ตับอ่อน ปอด และไต สามารถนำไปปลูกถ่ายช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้ถึง 7 คน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรค ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย นับว่าเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดที่ใช้วิธีฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและล้างไตทางช่องท้อง เพื่อรอเปลี่ยนไตทดแทน ซึ่งขณะนี้ทั่วประเทศมีถึง 91,888 ราย ไตที่นำมาปลูกถ่าย นอกจากเป็นของญาติหรือคู่สมรสแล้ว ยังได้จาก ผู้บริจาคที่เสียชีวิตจากสมองตาย
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กาชาดนำร่องตั้งธนาคารสเต็มเซลล์ เปิดรับ 1 ก.พ.นี้
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000011537
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มกราคม 2551 20:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สภากาชาดไทย นำร่องตั้งธนาคารสเต็มเซลล์ เปิดรับสมัครผู้สนใจ 1 ก.พ.นี้ ตั้งเป้า 5 ปี ได้อาสาสมัคร 1 แสนคน เดินหน้างานด้านสเต็มเซลล์อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคทางโลหิตอย่างครบวงจร

    วันนี้ (28 ม.ค.) พญ.สร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดเผยถึงการจัดตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตแห่งชาติ (Thai national Stem cell Donor Registry) ว่า ตั้งแต่ปี 2545 แพทยสภาได้มอบหมายให้สภากาชาดทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรับลงทะเบียนอาสาสมัครบริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต หรือสเต็มเซลล์ จากผู้บริจาคโลหิต และตรวจหาชนิดเนื้อเยื่อ (HLA typing) ของผู้บริจาคและผู้ป่วยโรคทางโลหิตที่รอรับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ เช่น โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว หรือ ลูคีเมีย โรคไขกระดูกฝ่อชนิดรุนแรง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีสถิติผู้ลงทะเบียนขอรับบริจาคกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2545-2550 มีจำนวนถึง 20,000 ราย โดยมีผู้ป่วยที่ขึ้นทะเบียนรอรับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์กว่า 1,000 ราย และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่มีผู้บริจาคสเต็มเซลล์ให้ผู้ป่วยน้อยมาก ไม่ถึง 50 ราย

    พญ.สร้อยสอางค์ กล่าวต่อว่า โครงการจัดตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด จึงจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเป็นอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ นี้ เป็นต้นไป ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถ.อังรีดูนังต์ โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2551-2555 ต้องได้อาสาสมัครจำนวน 1 แสนคน ซึ่งโครงการนี้เป็นการเพิ่มโอกาสการรักษาให้แก่ผู้ป่วย และพัฒนาเป็นสู่การเป็นศูนย์ดำเนินงานด้านสเต็มเซลล์อย่างเต็มรูปแบบ ตลอดจนให้บริการแก่ผู้ป่วยโรคทางโลหิตอย่างครบวงจร

    ทั้งนี้ อาสาสมัครต้องมีคุณสมบัติทั่วไป คือ มีอายุระหว่าง 18-55 ปี น้ำหนัก 48 กิโลกรัมขึ้นไป มีสุขภาพรางกายสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว หรือโรคติดต่อใดๆ ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง โดยจะมีการเก็บตัวอย่างโลหิตจากอาสาสมัครในปริมาณ 18 มิลลิลิตร (ซีซี) เพื่อนำไปตรวจหาความเข้ากันได้ของเนื้อเยื่อระหว่างผู้บริจาคของผู้ป่วย ซึ่งหากผลวิเคราะห์เนื้อเยื่อเข้ากันได้ ก็จะทำการติดต่อให้อาสาสมัครมาตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง หากผลออกมาเนื้อเยื่อเข้ากันได้ทั้งหมด ก็จะเข้าสู่กระบวนการบริจาคสเต็มเซลล์

    พญ.สร้อยสอางค์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการบริจาคสเต็มเซลล์ มี 2 วิธี คือ 1.บริจาคผ่านทางกระแสเลือด เนื่องจากในเลือดมีสเต็มเซลล์อยู่น้อยจึงต้องฉีดยากระตุ้น จำนวน 4 เข็ม เข็มหนึ่งใช้เวลา 3 ชั่วโมง โดยเจาะเลือดต่อสายเข้าเครื่องคัดแยกสเต็มเซลล์เมื่อคัดแยกเสร็จก็นำเลือดกลับเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากใช้เวลานาน แพทย์จึงให้อาสาสมัครมาฉีดยากระตุ้นที่สภากาชาด วันละ 1 เข็ม เป็นเวลา 3-4 วัน จึงเสร็จกระบวนการ 2.บริจาคไขกระดูก เป็นวิธีที่ใช้เวลาน้อยมาก คือ 2 ชั่วโมงเท่านั้น โดยแพทย์จะวางยาสลบอาสาสมัคร เพื่อเจาะไขกระดูกผ่านทางสะโพกด้านหลัง ซึ่งวิธีนี้อาสาสมัครจะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 1 คืน ในประเทศไทยมีโรงพยาบาลเพียง 4 แห่ง ที่ให้บริการด้านนี้ คือ โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลศิริราช
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. Mr.Kim

    Mr.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    3,036
    ค่าพลัง:
    +7,028
    [​IMG]

    ธมฺมกาโม ภวํ โหติ</SPAN>
    ผู้ฝักใฝ่ในธรรมเป็นผู้เจริญ
    ธมฺมเทสฺสิ ปราภโว
    ผู้ชังธรรม เป็นผู้เสื่อม
    นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
    สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี.



    ขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตยที่เคารพบูชาเป็นสรณะสูงสุด
    จงอำนวยอวยชัยให้พรแก่ทุกๆ ท่านที่คิดดี พูดดี ทำดี
    อยู่ในศีล อยู่ในธรรม และหมั่นเจริญพระกรรมฐาน
    ขอให้ท่านเจริญ ซึ่งอายุ วรรณะ สุขะ พละ


    อนุโมทนาบุญนะครับ สาธุ ๆ ๆ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ'ครูใหญ่' จุฬาฯ 15-16 มีค.

    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=21571&catid=4

    สภากาชาดไทย จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา ประจำปี 2550

    สภากาชาดไทย โดย ฝ่ายกายวิภาคศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ)อย่างสมเกียรติ ผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2550 ในวันที่ 15
     
  13. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,504
    <TABLE class=tborder id=post1033884 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 07:33 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 <INPUT id=plist_1033884 style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px 0px 0px 5px; VERTICAL-ALIGN: middle; PADDING-TOP: 0px" type=checkbox value=0 name=plist[1033884] inlineModID="inlineMod"> </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>บ้านไม้...<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1033884", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:56 PM
    วันที่สมัคร: Sep 2007
    ข้อความ: 77 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 10 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 608 ครั้ง ใน 85 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 73 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1033884 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ขออนุญาตโพสต์ห้องนี้เพราะมีคนเข้าดูมาก...
    วันนี้..เห็นประกาศแปะที่ลิฟต์ของ รพ.ว่าต้องการเลือดกรุ๊ป O และ B ด่วนเพราะขาดแคลนมาก เนื่องจากใกล้วันเกิดและสุขภาพพร้อมเลยไปบริจาคโลหิต ได้คุยกะพี่ที่ธนาคารเลือด เขาบอกว่าตอนนี้สภากาชาดขาดแคลนเลือดมาก เวลาคนไข้อุบัติเหตุต้องการเลือดมาเขาต้องไปหาเลือดตาม รพ.ต่างๆ เพื่อเอามาให้คนไข้ แม้แต่ในกรุงเทพก้อขาดแคลน ซึ่งในช่วง ฉลอง 80 พรรษา ช่วงนั้นคนบริจาคเยอะมาก แต่ช่วงนี้ขาดแคลนอย่างหนัก ....
    ....ใครแข็งแรง สุขภาพดี และเพิ่มพูนบารมีด้วยวิธีง่ายๆ แต่ได้กุศลแรง ...ก้อแวะตาม รพ. แถวบ้านเลยนะคะ อนุโมทนาล่วงหน้าค่ะ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. อรรัชช์ฐาน์

    อรรัชช์ฐาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +437
    โมทนากับผู้ที่สละอวัยวะทุกๆส่วนในร่างกายค่ะ.....วันที่3 เมษา 51 นี้ก็ครบ 3 เดือน หน่วยกาชาดเคลื่อนที่ก็จะมารับบริจาคก็จะไปบริจาคเหมือนกันค่ะ เพิ่งได้แค่2 ครั้งเอง ครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ค่ะ ถ้ายังแข็งแรงดีจะบริจาคไปตลอดค่ะ
     
  15. แม่ลูกตาล

    แม่ลูกตาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    784
    ค่าพลัง:
    +1,206
    เรียบร้อยแล้วค่ะ บริจาคทั้งร่ายกายและดวงตา ทำเรื่องบริจาคไว้เกือบ 10 กว่าปีแล้วค่ะ และในปัจจุบันก็พยายามรักษาร่ายกายไว้ ให้แข็งแรง ไม่ดื่มกินของมึนเมาและสิ่งเสพติดเข้าไปไว้ในร่างกาย เพราะคิดว่าถ้าอวัยวะเราที่เราตั้งใจบริจาคถ้าใช้ไม่ได้ การบริจาคของเราก็เป็นศูนย์ เพราะถ้าเราแข็งแรงไม่เจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง อวัยวะก็ใช้ได้หลายชิ้น
    บริจาคเลือดก็พยายามบริจาคทุก ๆ 3 เดือน
     
  16. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนากับทุกๆท่านครับ
    ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลาย สมดังความปราถนาเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วอนบริจาคดวงตา อย่าเชื่อชาติหน้าตาบอด

    http://hilight.kapook.com/view/25520



    [​IMG]


    เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติบรมราชินีนาถ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย มีการแถลงข่าวการประกวดแผนการประชาสัมพันธ์ "ให้ตา ได้กุศล" โดย ผศ.พญ.ลลิดา ปริยกนก ผู้อำนวยการศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย กล่าวว่า ศูนย์ดวงตาฯ ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2508 หรือ 43 ปีมาแล้ว แต่ขณะนี้สามารถผ่าตัดดวงตาได้เพียง 6,281 ดวง ซึ่งยังมีผู้ป่วยที่รอคิวรับบริจาคอีก 3,205 ราย โดยในแต่ละปีมีผู้จองรับการบริจาคดวงตา 800-900 ราย หากดวงตาไม่เพียงพอกับความต้องการ จะทำให้มีผู้รอคิวสะสมเป็นหมื่นรายได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้แสดงความจำนงบริจาคดวงตา 649,000 ราย หรือ 1% ของประชากร

    "ปัญหาคือมีผู้ที่เสียชีวิตทุกๆ วันในโรงพยาบาลทั่วประเทศ ทำอย่างไรจะให้มีการบริจาคดวงตา ทำอย่างไรให้ญาติบริจาคดวงตาแทนผู้เสียชีวิต เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้แสดงความจำนงการบริจาคไว้ อีกทั้งในผู้ที่แสดงความจำนงบริจาค แต่ญาติกลับไม่อนุญาต ดังนั้นจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์การบริจาคดวงตาให้ประชาชนเข้าใจ ซึ่งในปี 2543 ศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทยได้ดวงตาบริจาคเพียง 228 ดวง ทำให้มีการวางแผนโดยจัดให้มีผู้ประสานงานในการขอดวงตาผู้เสียชีวิตจากญาติ จากโรงพยาบาลเครือข่าย 19 แห่ง ทำให้ปี 2550 สามารถหาดวงตาได้ 453 ราย ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าจัดหาดวงตาให้ได้ 500 ดวง" ผศ.พญ.ลลิดากล่าว

    ผอ.ศูนย์ดวงตา กล่าวต่อว่า ข้อบ่งชี้ในการเปลี่ยนกระจกตาในประเทศไทย พบว่า โรคแผลเป็นที่กระจกตาเป็นข้อบ่งชี้อันดับ 1 ในการเปลี่ยนกระจกตา 21.52% ตามมาด้วยแผลหนองที่กระจกตา 17.23% กระจกตาบวม 15.02% กระจกตาเสื่อมหรือโป่งนูนผิดปกติ 11.18% และอันดับสุดท้ายคือ การเปลี่ยนกระจกตาซ้ำ 9.88% โดยในช่วง 8 ปีหลัง สัดส่วนของโรคกระจกตาบวมเมื่อเทียบกับโรคอื่นๆ ในแต่ละปีมีเปอร์เซ็นต์เพิ่มมากขึ้น

    "จากการสำรวจของทางสำนักงานสถิติแห่งชาติ เหตุผลที่ประชาชนไม่บริจาคดวงตา ส่วนใหญ่กลัวว่าชาติหน้าเกิดมาแล้วจะไม่มีตาและห่วงในเรื่องความสวยความงาม กลัวศพไม่สวย ทำให้ญาติไม่ยอมบริจาคตาให้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วจะมีการเย็บให้เรียบร้อย ให้สภาพศพดูเหมือนเดิมไม่น่าเกลียด นอกจากนี้ยังพบว่า กว่า 50% ของประชากรที่สำรวจยังไม่รู้จักศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ดังนั้นจำเป็นต้องประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักและเข้าใจมากขึ้น ทั้งนี้ การจัดเก็บดวงตาจะต้องจัดเก็บภายใน 6 ชั่วโมงหลังเสียชีวิตแล้ว แต่หากเสียชีวิตในโรงพยาบาลที่เป็นห้องเย็นจะต้องจัดเก็บภายใน 12 ชั่งโมง"

    ผศ.พญ.ลลิตากล่าวอีกว่า ญาติไม่ให้จัดเก็บดวงตาเป็นปัญหาสำคัญมาก ต่างจากสหรัฐอเมริกาที่มีกฎหมายกำหนดชัดเจนว่า เมื่อผู้เสียชีวิตบริจาคตาแล้ว แพทย์สามารถนำตาออกมาได้ เพราะถือเป็นสมบัติส่วนกลาง แต่ประเทศไทยเราไม่มีกฎหมายนี้ หากแพทย์กระทำเองจะเป็นปัญหาได้

    ด้าน รศ.อรุณีประภา หอมเศรษฐี ประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ และคณะกรรมการประกวดแผนการประชาสัมพันธ์" ให้ตา ให้กุศล" กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ประชาสัมพันธ์เชิงรุกต่างๆ และเห็นว่ากลุ่มเป้าหมายคือเยาวชนที่เป็นผู้ทำความเข้าใจในเรื่องบริจาค จึงได้จัดการประกวดแผนการประชาสัมพันธ์" ให้ตา ได้กุศล" เป็นครั้งแรก เพื่อให้นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไปเกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดจิตสำนึก เห็นคุณค่าของการแสดงความจำนงอุทิศดวงตาภายหลังเสียชีวิตแล้ว

    สำหรับหลักเกณฑ์การประกวดแผนประชาสัมพันธ์ คือ ผู้เข้าประกวดต้องสังกัดสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยให้สถาบันการศึกษาเป็นผู้จัดส่ง โดย 1 ทีมมีสมาชิก 3 คน ให้ทำแผนประชาสัมพันธ์ระยะเวลา 1 ปี งบประมาณดำเนินการ 5-8 ล้านบาท มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนเกิดจิตสำนึกร่วมกัน เห็นคุณค่าของการบริจาคดวงตาภายหลังถึงแก่กรรม โดยผู้ชนะเลิศประกวดแผนประชาสัมพันธ์ได้รางวัลเงินสด 50,000 บาท พร้อมเข้าฝึกงานด้านการประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.eyebankthai.com/



    ข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
     
  18. AuNgCrO

    AuNgCrO Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +53
    จะบริจาคแล้วนะคะ

    ขอแม่แล้วแม่อนุญาติคะ

    แต่บริจาคแค่ดวงตา

    กับอวัยวะ ร่างกายยังไม่กล้า
     
  19. AuNgCrO

    AuNgCrO Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +53
    แฮะบริจาคดวงตาอย่างเดียวแล้วจ้า

    บริจาคอวัยวะกลัวตัวเองไม่ผ่าน
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    บริจาคเลือด ส่งผลดีมากกว่าที่คิด

    http://hilight.kapook.com/view/27717

    [​IMG]


    ในช่วงระยะหลังๆ เรามักได้ยินข่าวสภากาชาดไทยประกาศขอ "บริจาคเลือด" บ่อยครั้งขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการการบริจาคเลือดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เนื่องใน "วันบริจาคโลหิต โลก (Worlk Blood Donor Day)" เราไปดูกันดีกว่าว่า การบริจาคเลือดมีความสำคัญอย่างไร … แล้วคุณจะรู้ว่า การบริจาคเลือดนั้นส่งผลดีมากกว่าที่คุณคิด

    ปกติคนเราจะมีเลือดอยู่ในร่างกายประมาณ 70-80 มิลลิลิตรต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม หากเราเสียเลือดไม่เกิน 15% เช่น บริจาคเลือด ก็จะไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย แต่ถ้าเราเสียเลือดเกิน 50% แล้วไม่ได้น้ำเกลือ ไม่ได้พลาสมา หรือน้ำเหลือง และไม่ได้เลือดก็จะต้องเสียชีวิต..

    ในการบริจาคเลือดแต่ละครั้ง ควรทิ้งช่วง 3 เดือน ซึ่งเลือดที่บริจาคไป ไม่เพียงแต่ทำให้ได้เลือดไปช่วยชีวิตผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังสามารถแยกเป็นพลาสมา หรือน้ำเหลืองไปช่วยผู้ป่วยได้อีกทางด้วย… เลือดที่บริจาคมีทั้งเม็ดเลือดแดง และน้ำเหลือง ปกติเราก็จะนำเลือดของผู้บริจาคมาปั่น แยกเป็นเม็ดเลือดแดง และน้ำเหลือง ถ้ามีอุบัติเหตุเข้ามา แพทย์ส่วนใหญ่ก็จะต้องให้น้ำเกลือ หรือให้น้ำเหลืองไว้ก่อน จนกว่าจะทราบว่าผู้ป่วยหมู่เลือดอะไร ยูนิตไหนที่เข้ากันได้

    ผลดีอีกประการทีมีต่อร่างกายของผู้บริจาค คือ จะทราบเลยว่าตัวเองนั้นเลือดเข้มข้นปกติหรือเปล่า เพราะเราต้องตรวจก่อนว่ามีเลือดมาก และเข้มข้นเพียงพอ ซึ่งนั่นจะทำให้เราได้รับทราบถึงสภาพร่างกายทั่วไปด้วย เช่น ความดันเป็นอย่างไร ปอด หัวใจเต้นปกติหรือเปล่า นอกจากนั้นการ เสียเลือดก็จะไปกระตุ้นให้ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดออกมาใหม่

    การบริจาคเลือดเหมือนการไปกระตุ้นให้ไขกระดูกทำงาน และสร้างเม็ดเลือดใหม่ออกมาตลอดเวลา จะทำให้ไขกระดูกรู้หน้าที่ เวลาที่เราเสียเลือดขึ้นมา ไขกระดูกก็จะรีบทำงานสร้างเม็ดเลือดใหม่ๆ ออกมาอยู่ในกระแสเลือด หล่อเลี้ยงร่างกายและทำให้ร่างกายแข็งแรงตลอดเวลา ..

    ข้อดีมากมายอย่างนี้.. นอกจากจะได้สร้างบุญกุศลแล้ว ยังเกิดผลดีต่อตัวเราเองอีกด้วย




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]

    <!-- / message --><!-- sig -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...