การปฏิบัติธรร กับ กำลังภายในแบบจีน 2

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย telwada, 24 มิถุนายน 2006.

  1. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,862
    ค่าพลัง:
    +1,818
    การปฏิบัติธรรมของคนไทย เน้นไปที่การทำสมาธิหรือเดินจงกรม รวมไปถึงการศึกษาข้อ ศีล ข้อธรรม ต่างๆด้วย แต่เหล่าบรรดาผู้สอน หรือบรรดาผู้รู้ในสาขาศาสนาพุทธที่มีอยู่ มักไม่คำนึงถึงหลักความจริง ในการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์ แต่กลับเน้นไปในทางรักสวยรักงาม รักจริยาวัตร ที่ทำให้มองดูแล้วน่านับถือ น่าศรัทธา หากใบ้หวย หรือสะเดาะเคราะห์ สืบชะตาได้ ก็จะทำให้เกิดความศรัทธาน่าเลื่อมใสมากเป็นทวีคูณ
    จากข้อปฏิบัติ อันที่มีอยู่ในแวดวงศาสนาของไทย หากมองหันกลับไปดู เหล่าพระสงฆ์ในศาสนาพุทธ ของประเทศจีน พระสงฆ์ หรือผู้นับถือศาสนาพุทธ จะมีการออกกำลังกาย ในรูปแบบต่างๆ อันเป็นหลักการทางสรีระร่างกาย เป็นหลักการในการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์ เป็นหลักธรรมชาติและเป็นหลักการรักษาสุขภาพร่างกายชนิดหนึ่ง นอกเหนือไปจาก อาหาร อาจจะกล่าวได้ว่า การออกกำลังกาย เป็นยารักษาโรคชนิดหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นปัจจัยหรือเป็นการปฏิบัติแขนงหนึ่ง จัดอยู่ในข้อ เมตตา
    แต่ทว่า ศาสนาพุทธของไทย มีค่านิยมไปในรูปแบบของผู้หญิง มากกว่าผู้ชาย คือต้องมีจริยาวัตรที่อ่อนนุ่ม ทำอะไรผิดแผกหรือทำอะไรเหมือนกับ ฆราวาส ทั่วไปไม่ได้ นี้กล่าวถึงเหล่าพระสงฆ์
    ส่วนผู้ที่ไปปฏิบัติธรรม เหล่าบรรดา อาจารย์ หรือผู้รู้(รู้ไม่จริง) ก็มิได้แนะนำหรือสอนให้รู้ให้เข้าใจ กลับ สอนส่งว่า เป็นกิเลสตัณหา โดยความรู้เท่าไม่ถึงกาล โดยไม่รู้ว่า การปฏิบัติธรรมที่แท้จริงนั้น ต้องมีปัจจัยประกอบหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ใช่ นั่งสมาธิ เป็น 5-6 ชั่วโมง แทบไม่ได้ถูกแสงตะวัน ก็มี ที่กล่าวไปแล้วนี้ มิใช่เป็นการกล่าวหา แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ในทุกสำนักปฏิบัติธรรม แล้วอย่างนั้น ศาสนามันจะเจริญได้อย่างไร อย่างมาก ก็ทำไปเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองและพรรคพวกไปวันๆเท่านั้น
    ศาสนาจะเจริญได้ ต้องรู้จักยอมรับนวัตกรรมที่เป็นหลักความจริง ต้องรู้จักยอมรับความเป็นจริง ต้องรอบรู้ในการดำรงชีวิตอยู่ของสรรพสิ่ง ไม่ใช่ให้สัมภาษณ์ แบบงูๆปลา คนกินอาหารติดรสอาหาร เป็นกิเลสตัณหา กินอาหารไม่ครบห้าหมู่ รับรองได้เลยว่า สุขภาพร่างกายต้องออดๆแอด ไม่ออกกำลังกาย อย่างน้อย 3 ถึง 4 วัน ต่ออาทิตย์ สมองสติปัญญามันจะรู้แจ้งในธรรมได้อย่างไร อย่างนี้เป็นต้น หากจะอธิบายอย่างละเอียด คงจะยาวไป ใครอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับการบำรุงรักษาสรีระร่างกาย ว่าเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ก็ไม่ปรึกษาแพทย์ จะได้รู้แจ้ง เพราะวิชาการแพทย์ ก็เป็นธรรมะแขนงหนึ่ง จบก่อนขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...