การฝึกอรูปฌาน ต้องเริ่มจากกสิณกองใดกองหนึ่งใน ๙ กอง ถ้าไม่มีพื้นฐานกสิณเหล่านี้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Saber, 13 พฤษภาคม 2020.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    7OlzomwjEYv2XgHoHof-Kdrk02GT9tIwrpWSSjXR4ooJ&_nc_ohc=GCJYGykVCTUAX_PHS35&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    ถาม : ปัจจุบันได้ฝึกกรรมฐานที่บ้าน โดยได้ศึกษาอาการของสมาธิตามหนังสือกรรมฐาน ๔๐ ใช้คำภาวนาว่า “พุทโธ” เมื่อมีความรู้สึกว่าคำบริกรรมหนักไป ก็เลยปลดคำบริกรรมออก และหลังตรงตั้งเอง ไม่เมื่อย เหมือนจะลอย ร่างกายเบาดี ไม่มีเหน็บชา แล้วเป็นว่าง ๆ โหวง ๆ ซึ่งตรงนี้ก็มาทราบจากหนังสือว่า คืออาการของฌาน ๒ ไปต่อเนื่อง ๓ เพราะเหตุผลว่า คำบริกรรมก็คือ ตัววิตกวิจาร และตัวพองกับความเบาสบายใจ ก็คือตัวปีติกับสุข ได้หายไปแล้ว เหลือแต่เอกัคคตารมณ์และมีอุเบกขาเข้ามาเพิ่ม แต่เป็นได้เพียงชั่วขณะไม่เกิน ๑ ลมหายใจ เพราะกลัวลมขาด พอจะนิ่งในสมาธิระดับนี้ แต่ร่างกายต้องการลมก็เลยหายใจ พอหายใจก็รู้ตัวว่าสมาธิลดลง ผมอยากทราบว่าตรงช่วงที่ลมหายในเวลาสั้น ๆ นั้นคือฌาน ๔ ใช่หรือไม่ครับ ?

    ตอบ : เป็นการ "มโนฯ" เอาล้วน ๆ การภาวนานั้น ลมหายใจจะเบาลงเอง หรือว่าหายไปเอง ไม่ใช่เราไปปลดลมหายใจทิ้ง..! ในเมื่อกลัดกระดุมเม็ดแรกไม่ถูก ที่เหลือก็ย่อมผิดทั้งหมด..!

    ถาม : สงสัยในอาการของฌาน ๔ ที่สงสัยเพราะว่าเมื่อมาถึงฌาน ๓ จะเข้าสู่ฌาน ๔ มันเบาอย่างที่กล่าวไปแล้วนั้น จิตมันเลยกลับไปหาคำภาวนาอีก และพอไปหาคำภาวนาก็ย้อนไปหาลมอีกและกลับไปที่ร่างกายอีก มันก็เท่ากับว่าย้อนคืนกลับมาหาฌาน ๓ หรือลงไปเรื่อย ๆ ในทางกลับกันพอฌาน ๓ เต็มที่เข้า ก็ดิ่งไปหาฌาน ๔ สลับกันไปมาอยู่อย่างนี้ ถ้าเราหาจุดให้จิตจับและสามารถทรงแต่เอกัคคตารมณ์อย่างเดียว ก็เป็นวิธีเลี่ยงไม่ให้จิตสนใจลมหายใจ ที่ทำอยู่ถูกไหมครับ ?

    ตอบ : ดูคำตอบข้างบนแล้วคงจะหายสงสัย

    ถาม : มีโอกาสได้ไปฝึกมโนมยิทธิ โดยเปลี่ยนไปใช้คำภาวนา "นะมะพะธะ" ที่วัดท่าซุงแบบเต็มกำลัง ซึ่งอาจารย์ผู้สอนกล่าวว่ามันคือการใช้กำลังของฌาน ๔ ผมก็สามารถฝึกตามที่อาจารย์สอนได้บ้าง จึงคิดถึงส่วนที่ยังสงสัยมาตอบคำถามตัวเองว่า อาการของฌาน ๔ ตอนใช้มโนมยิทธิ เท่ากับว่าการออกไปนี่ มันก็คืองานที่เราหาให้จิตทำ ทำให้เราไม่สนใจกับลมหายใจและเลี้ยงจิตให้อยู่ในอารมณ์ฌาน ๔ ได้ดีกว่าตอนภาวนาดูลมเฉย ๆ และได้ทดลองกลับไปทำแบบแรก ก็ยังเหมือนเดิมคือพอจิตไม่มีอะไรให้รู้หรือมีงานให้ทำ มันก็หล่นลงไปฌาน ๓ แสดงว่ามโนมยิทธิในอีกมุมมองหนึ่งก็คือการหาอะไรให้จิตทำอีกอย่างหนึ่งใช่ไหมครับ ?

    ตอบ : คำว่าฝึกตามที่อาจารย์สอนได้ ไม่ได้เป็นการรับรองว่าเราจะทำถูก เพราะว่าถ้าอยู่ในลักษณะ "คนตาบอดขี่ม้าตาบอด" ก็มีหวังตกเหวตายในเวลาอันไม่นาน..!

    ถาม : เทคนิคที่ผมประยุกต์จากการนำมโนมยิทธิมาใช้เพื่อให้ข้ามการกังวลกับลม คือหางานให้จิตทำ เป็นความเข้าใจ ที่ถูกต้องหรือไม่ครับ ?

    ตอบ : "ถูกของคุณ" ไม่ใช่ของคนอื่น

    ถาม : ถ้าผมอยากทรงอารมณ์ฌาน ๔ เฉย ๆ ให้ได้ตามที่ต้องการ เพื่อฝึกต่อไปในอรูปฌานอีก ๔ ซึ่งก็ได้ลองทำเองไปบ้างแล้ว ก็เหมือนกับการที่เราเอาจิตจับประเด็นนามธรรมต่าง ๆ อีก ๔ อย่างตามที่หนังสือสอน ก็พบว่าก็พอทำได้บ้างเล็กน้อยและไม่รู้ว่าคิดเองเออเองหรือเปล่า ก่อนจะผ่านไปแต่ละขั้นเราใช้อะไรเป็นจุดสังเกตว่าฌาน ๕,๖,๗ และ ๘ นี้เราได้แน่นอนแล้ว

    ตอบ : การฝึกอรูปฌาน ต้องเริ่มจากกสิณกองใดกองหนึ่งใน ๙ กอง ยกเว้นอากาสกสิณที่คล้ายอากาสานัญจายตนฌาน จนหลายคนแยกไม่ออก ถ้าไม่มีพื้นฐานกสิณเหล่านี้ก็ได้แต่ "มโนฯ" ต่อไป

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    (หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)
    เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๓
     
  2. ติ่งส้ม

    ติ่งส้ม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2020
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +18
    หัวข้อน่าสนใจครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...