การสวดคาถาเงินล้าน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย GoonS, 24 กรกฎาคม 2014.

  1. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    เรื่องการสวดคาถาเงินล้าน สืบเนื่องจากไปอ่าน
    http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=srt-student&month=10-07-2012&group=37&gblog=4
    ขออภัยที่ไม่เอาข้อมูลมาวางนะครับอยู่ในลิ้ง มันเยอะจัด

    คืออยากทราบว่าถ้าไม่ทำตามนี้ได้หรือไม่ เห็นว่าเป็นเคล็ดลับของ หลวงพี่เล็กวัดท่าขนุน
    ไม่ทำตามการสวดจะมีผลมั้ยครับ เเบบว่าผมลองทำตามดูมันอึดอัดอ่ะ
    จุดกึ่งกลางกายอ่ะไรเนี่ย มันทำให้ผมรู้สึกเครียดจัง ทำอยู่ดีๆมาหลายวันพอมาอ่าน
    ทำไม่ได้เครียดเลย
    เเบบคนเราหายใจสุดมันก็เเค่ปอด นี่ให้ลงไปถึงเหนือสะดือหน่อย คล้ายๆจับลม3ฐาน
    เเต่อันนี้ให้จดจ่อที่ศุนย์กลางที่ว่านี้ด้วย ฝืนยังไงไม่รู้ รู้สึกยิ่งกว่า3ฐานอีก

    เเละต้องทรงอารมณ์ไม่เคลื่อนเลยชั่วโมงนึงจริงหรอ คือเเบบบางทีจิตมันก็เผลอไปเองบ้าง
    คือถ้าผมสวดเเล้วจับลมที่จมูกฐานเดียว เผลอบ้างตามประสาคนทั่วไป
    ผมดูเเล้วก็สงบดีถึงจะเผลอไปบ้าง ถ้าสวดไปจะมีผลมั้ยครับ

    ใครมีประสบการณ์คาถานี้รบกวนหน่อยนะครับ

    ขออภัยนะครับตั้งกระทู้ครั้งเเรกเป็นไรไม่รู้ ขึ้นมาไม่กี่บรรทัด เลยเเก้ไขใหม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2014
  2. yooyut

    yooyut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,154
    ไม่ทราบว่าเจ้าของกระทู้จะสื่อว่าอย่างไร แต่ไหนๆก็ตั้งกระทู้มาแล้ว ก็ขอคุยกันคั่นเวลาล่ะกันนะครับ

    เรื่องของคาถานี้ การจะภาวนาคาถาให้ได้ผลนั้น ส่วนตัวมีความเห็นว่า ผู้กล่าวภาวนาคาถาจะต้องมีกำลังใจที่ดี คาถาต่างๆจึงจะสัมฤทธิ์ผล

    การที่ผู้ภาวนาคาถา จะมีกำลังใจที่ดีนั้น วิธีการหนึ่งที่จะเสริมสร้างกำลังใจที่ดี นั่นคือการฝึกสมาธิให้เป็นพื้นฐ่านประจำใจ เมื่อใดที่จะว่ากล่าวภาวนาคาถาใด พึงสำรวมจิตใจให้เกิดความสงบเสียก่อน เมื่อใจน้อมนำถึงความสงบได้แล้ว จึงว่ากล่าวภาวนาคาถากำกับตามไป (จำนวนรอบที่จะต้องกล่าวภาวนาคาถาหรือจะต้องกล่าวคาถาจำนวนกี่จบ ก็ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของคาถานั้นๆ ) ก็จะทำให้การใช้คาถาสัมฤทธิ์ผลได้ดีที่สุด

    สำหรับผู้ที่ความจำแย่ หรือไม่ชอบเรื่องการใช้คาถา ก็ยังมีทางปรับแก้ คือ การใช้กำลังใจดำเนินการแทน โดยไม่ต้องใช้คาถานำ วิธีการคือ สำรวมจิตให้เป็นสมาธิ ให้สงบประณีตที่สุดที่จะพึงกระทำได้ จากนั้นถอนกำลังสมาธิลงมา อธิษฐานในสิ่งที่ต้องการกำกับ จากนั้นเข้าสมาธิไปจนใจสงบที่สุดอีก 1 รอบ ก็จะได้ผลเสมอกับการปฏิบัติที่ใช้การว่ากล่าวภาวนาคาถาเป็นตัวนำ

    คาถาเงินล้าน ยังไม่เคยใช้ภาวนานะครับ เลยยังไม่ทราบผลว่าเป็นอย่างไร แต่ที่คุยในข้างต้น เป็นประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกวิชาเดินธาตุ ซึ่งเป็นอะไรที่ สำหรับคนที่ไม่ชอบท่องจำคาถาต่างๆ จะมีความลำบากมาก ทั้งในเรื่องของการตั้งธาตุ หนุนธาตุ ซ้อนธาตุ พลิกธาตุ ส่งธาตุ ต่างๆนานา วิธีแก้ปัญหาที่ชะงัด คือใช้จิต ดำเนินการแทนคาถาเสียเลย ซึ่งพบว่า ได้ผลเสมอกัน แต่ต้องใช้กำลังใจมากกว่าเดิม และการฝึกก็อาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่ก็เป็นประเภท "ช้าแต่ชัวร์" เหนือสิ่งอื่นใด ทุกอย่าง ก็ต้องอยู่ที่อิทธิบาท 4 ประจำใจนะครับ หากมีธรรมข้อนี้อยู่ กล่าวว่าการศึกษาวิชชาใดๆ ย่อมจะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ช่วยแก้ลิงค์ให้นะครับ...กดลิงค์ข้างล่างครับ..

    Bloggang.com : batman.nop : เคล็ดการสวดคาถาเงินล้าน จากหลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน ที่ท่านเมตตาแนะนำไว้มาฝากครับ
    Bloggang.com : batman.nop : ���紡���Ǵ�Ҷ���Թ��ҹ �ҡ��ǧ������� �Ѵ��Ң�ع �����ҹ�������й�����ҽҡ��Ѻ

    เด่วช่วยเสริมเล็กน้อยครับ...ผลของพระคาถาหรือว่าการใช้พระคาถา
    จะอยู่ในโหมดที่ได้ผลนั้น.ประกอบด้วยองค์ประกอบร่วมหลักๆนี้ด้วยคือ
    ๑.ความเป็นทิพย์ของจิต ๒.การเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ..
    .และอย่างน้อยควรท่องจำในใจให้ได้ครับ
    และตอนที่ท่องพระคาถาในใจนั้น..ลิ้นกับปากไม่ควรขยับเพื่อเป็นอุบาย
    โน้มให้จิตเกิดความเป็นทิพย์ตรงนี้บางคนอาจสังเกตุแสงขนาดเท่าหัว
    เข็มหมุดหรือหัวไม้ขีดแบบวงกลมที่มีความสว่างในตัวปรากฏให้เห็นแว๊ปๆ
    แบบไม่ปรากฏต่ำแหน่งที่แน่นอน
    อาจเป็น สีขาว สีม่วง สีน้ำเงิน สีทอง สีเขียว สีแดง..
    ร่วมกับการท่องพระคาถาโดยอย่าใช้ความคิด
    ที่ท่องออกจากสมองส่วนหน้าเพราะจะเหนี่ยวรั้งความเป็นทิพย์ของจิต
    ให้ท่องในลักษณะที่ออกไปที่กระโหลกศรีษะส่วนกลาง.
    เพื่อเป็นการไปเชื่อมกระแสพลังงานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์..จะท่องผิดบ้าง
    ถูกบ้าง ลืมบ้างขาดบ้าง เรื่องปกติ และมักจะเป็นธรรมดาในช่วงแรกๆ.
    .พอท่องให้ออกไปที่สมองส่วนกลางได้
    คือรู้สึกได้ว่าตอนท่องแล้วมีอะไรไปดันกลาง
    กระโหลกศรีษะจน

    เป็นนิสัยบวกกับสภาวะที่จิตเข้าสู่ความเป็นทิพย์ได้จากเทคนิคที่บอก
    ผลของพระคาถาจะได้ผลดี เพราะความเป็นทิพย์ตรงนี้บวกกับการท่อง
    ให้ออกจากสมองส่วนกลางกระโหลกจะเป็นตัวเหนี่ยวนำไปเชื่อมกับ
    สิ่งศักดิ์ต่างๆได้ตามแนวพระคาถาและตามจิตเราที่ต้องการหวังผลไว้
    ตั้งแต่ต้นสุด..แล้วแต่ใครจะตั้งเป้าไว้อย่างไร.
    .จะทำให้เห็นผลความสำเร็จตลอดการเข้าสู่สภาวะเป็นและ
    ผลของพระคาถาบทนี้ได้เร็วขี้นตามที่จิตเราตั้งปลายทางไว้ครับ..

    ปล.ประมาณนี้.สำหรับคนชอบใช้พระคาแทนคำภาวนาครับ.
     
  4. yooyut

    yooyut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +1,154
    ยังใส่ข้อความไม่เสร็จนี่เอง ผมเข้ามาอ่านก่อนเลยไม่ทราบวัตถุประสงค์

    คุณกูนส์ครับ เรื่องคาถาทั้งหลาย ท้ายที่สุดแล้วต้องอยู่ที่กำลังใจ หากกำลังใจถึงขั้น ทำอย่างไรก็ได้ครับ

    ที่หลวงพี่ท่านแนะนำไว้ เป็นการแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น จะเห็นได้ว่ามีทั้งส่วนของคาถาและส่วนที่ใช้ในการสร้างกำลังใจ เพื่อให้การใช้คาถามีความสัมฤทธิ์ผล

    ดังนั้น สิ่งที่คุณกูนส์ กล่าวว่าถัาทำตามที่หลวงพี่ชี้แนะแล้ว มีความเครียดอย่างนั้น ไม่สะดวกอย่างนี้ แท้จริงแล้วก็เป็นแบบฝึกในการสร้างกำลังใจอย่างหนึ่ง ที่คุณจะต้องผ่านไปให้ได้ หากรักจะภาวนาคาถานี้อย่างจริงๆจังๆนะครับ

    หลวงพี่ท่านแนะนำมาอย่างนี้ บอกวิธีเป็นขั้นตอนมาเสร็จสรรพ ไม่ต้องไปเสียเวลาเสาะหาวิธีการด้วยตัวเองแบบนี้นับว่าสะดวกมาก เปรียบเหมือนมีข้าวใส่จานมาวางตรงหน้าแล้ว คุณเพียงตักเข้าปากเท่านั้น ดังนั้น หากจะลองทำตามดูก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรนะครับ เพราะอย่างน้อยก็ได้ฝึกสติ ฝึกสมาธิไปในตัว ส่วนเรื่องจะมีเงินล้านตามมาหรือไม่ ก็คงจะตัองขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสของชีวิตเป็นสำคัญนะครับ
     
  5. ปัญญา ณ c

    ปัญญา ณ c เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2014
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +172
    ที่เคยเห็นมากับตา ผมเคยเห็นย่าของผมใช้คาถาสะเดาะกลอนประตู ปรากฎว่ากลอนประตูเปิดครับ

    นับว่าเป็นบุญมากๆครับที่เคยเห็นจริงๆ แต่จะทำได้นี่ต้องสมาธิสุดๆเหมือนกัน
     
  6. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    คือเเบบจำเป็นต้องทำเเบบที่เขาว่าจริงๆป่าวครับ
    หรือทำเเบบไหนก็ได้ ถ้าเห็นเเสงจุดๆสีขาวคือจิตมีความเป็นทิพย์ระดับหนึ่ง
    ผมนั่งเเบบปกติของผม(ภาวนาไปจับลมจมูกฐานเดียว)ก็เห็นบ่อย ช่วงนี้ก็เห็นอยู่
    เเละผมก็ท่องออกมาจากกระโหลกกลางอยู่เเล้วเเบบที่คุณnopphakanพูดมา
    เเต่บางทีก็ปนสมองส่วนหน้าบ้าง เเต่ต่อไปจะพยายามเอาไว้ส่วนกลางอย่างเดียว
    คือเเบบผมเองก็ไม่เข้าใจว่าของหลวงพี่เล็กเขาพูดจริงว่าดีสุดจริง
    หรือเป็นเเค่อุบายอะคับ เขาบอกทำเเบบนั้นเเล้วดิ่ง
    ผมว่าผมทำปกติก็ดิ่งได้เเต่คงไม่ลึกมาก(น่าจะเป้นเพราะสมาธิไม่มาก)ถ้าทำเเบบที่หลวงพี่เล็กว่า
    จะดิ่งกว่ารึเปล่า(เทียบกับการทำสมาธิจำนวนเท่ากันกับเเบบเดิมที่ผมทำ)
    หรือเป็นเเค่อุบาย วิธีหนึ่ง ที่หลวงพี่เล็กเขาเคยชินวิธีนั้น เเต่ความจริงทำวิธีอื่นก็ได้
    เเบบถ้าไม่จำเป็นจริงๆจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนไปทำ

    ปล.ขออภัยหากรบกวนทุกท่าน เเต่ผมเป็นคนขี้สงสัยจริงๆ เเบบไม่เคลียใจไม่สงบ
    เเบบผมอ่านสภาวะธรรมต่างๆ หรือการเปรียบเทียบนี่ทำให้งงมากเลยเลยทำให้คาใจ
    ยิ่งตรงพอรู้ศูนย์กลางกายเเล้วให้คำภาวนาของเราจดจ่อลงตรงนั้น กำหนดความรู้สึกเเละ
    ลมหายใจให้เข้าไปกึ่งกลาง เเละออกมาจากกึ่งกลาง เนี่ยมันจะเป็นไปอย่างไร
    มันหมายถึงเราต้องเอาจิตไปไว้กึ่งกลางจริงๆ
    หรือผมจับลมที่จมูกเเล้วพอลมเข้าก็รู้กำหนดคำภาวนาเข้าไป พอเข้าไปก็รู้ว่ามัน
    เข้าไปกระทบถึงเเถวๆเหนือสะดือด้วยก็พอเเล้ว

    เเละก็อีกคำถามคือผมทำจิตให้ได้อย่างคุณ nopphakan ว่าเเค่นั้นพอเปล่าครับหรือ
    ต้องสูงกว่านั้น คือถ้าผมใช้ลูกประคำช่วยนับมันก็พอทำให้จิตเท่าๆที่คุณ nopphakan ว่า
    มาได้ เเต่สูงกว่านี้คงไม่ได้ เพราะสักพักมือต้องเลื่อนบ้างอะไรบ้าง หรือต้องให้สมาธิสูงกว่านั้น

    รบกวนอีกนิดนะครับ ใกล้เคลียเเล้ว
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ทั่วๆไปถือว่าความเข้าใจในภาพรวมส่วนนี้ถือว่าค่อนข้างดีแล้วนะครับ..
    เพียงแต่ต้องเข้าใจว่า รูปแบบของหลวงพี่มีชื่อท่านใช้นั้น.คือท่านใช้
    บทคาถาเป็นเครื่องมือในการไต่ยกระดับฌานขึ้นระดับสูงร่วมด้วยครับ
    โดยปกติทั่วๆไปแล้วไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆด้วยครับ..
    .ซึ่งการไต่ยกระดับนั้นสามารถ
    ใช้ได้หลายวิธีจะแบบหายใจสองฐานถึงหน้าอก หรือ หรือหายใจสามฐานถึงท้อง
    แต่ว่าทำความรู้สึกรับรู้ว่ามีลมกระทบที่ปลายจมูกก็ได้
    ซึ่งตรงนี้จะไปได้ตรงเรื่องกำลังสติทางธรรม..

    หรือว่าใช้หลักของจักระเดินไปทุกจุดก่อนแล้วมาอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งบนร่างกาย
    คือจุดเหนือสดือ จุดหน้าอก หรือ ระหว่างคิ้ว..
    หรือใช้หลักการของวิชาเดินธาตุโบราณ
    คือสร้างนิมิตรภายนอกแล้วปั่นรวมกันและดึงมาไว้ ๓ จุดอย่างที่บอก
    หรือวิชาเดินธาตุในดงที่ใช้บทภาวนาเกี่ยวกับธาตุต่างๆ
    อย่างใดอย่างหนึ่งในการไต่ยกระดับฌาน.ซึ่งผลที่ได้ก็จะแตก
    ต่างกันออกไปตามแต่จุดที่เราไปตั้งต้นไว้ครับ..

    โดยปกติทั่วๆไปแล้วเครื่องมือที่ใช้ในการเชื่อมโยงจิตเบื้องต้น
    ก็คือคำภาวนาต่างๆซึ่งเมื่อถึงจุดที่คำภาวนาได้ผลแล้ว.
    .ก็จะมีผลแตกต่างกันยกตัวอย่างเช่น
    นะมะพะธะ หรือ สัมปะจิตฉามิ มุมมองจะกว้างกว่าพุทโธ
    ส่วนโสตัสตะฯ ทั้งมุมมองและการเห็นจะดีกว่าทุกคำที่กว่ามาเป็นต้น..
    เพียงแต่ท่านใช้เทคนิคในการนำพระคาถาทั้งบทเพื่อมาไต่ยกระดับฌาน
    ขึ้นระดับสูงร่วมด้วยมากกว่าการเชื่อมโยงจิตครับ.
    ด้วยการย้ำท่องอยู่บ่อยๆจนฐานในสภาวะเป็นทิพย์
    แน่นเพียงพอและนานพอพร้อมที่จะไต่ระดับ
    ด้วยสภาวะจิตดิ่งนั่นหละครับ(ปกติช่วงนี้มันจะไปของมันเอง)
    ..และจิตก็จะเข้าสภาวะดิ่งและไต่ระดับฌานขึ้นไปเรื่อยๆ
    ซึ่งพระคาถาจะหายไปตั้งแต่เริ่มเข้าฌาน ๑ แล้วครับ
    เพียงแต่ว่าที่เราเข้าใจกันตรงนี้ทั่วไปและก็ได้ผลเช่นกันคือ
    การสวดภาวนาในสภาวะที่จิตเป็นทิพย์ให้ได้
    .และที่ว่าได้ผลดีก็เพราะจุดตรง
    เหนือสะดือเป็นจุดที่ส่งเสริมของเรื่องเครื่องรู้พิเศษต่างๆอยู่แล้วเป็นปกติ
    บวกกับฐานสภาวะที่จิตเป็นทิพย์ได้นานจากการย้ำภาวนาไปเรื่อยๆบวกกับ
    การไต่ระดับขึ้นไประดับฌานที่สูงขึ้น.ผลของพระคาถาจึงได้ผลดีกว่า
    อย่างที่ท่านยืนยันนั่นหละครับ..

    เลยทำให้ความพิเศษครอบคลุมผลของพระคาถาได้ดีกว่า
    ตรงจุดกลางลิ้นปี่หรือ แม้กระทั่งเหนือระหว่างคิ้วครับ
    ซึ่งมีจุดเด่นเฉพาะจุดแตกต่างกัน...ซึ่งตรงจุดนี้ก็ขึ้นอยู่กับ
    ความถนัดและความชอบส่วนบุคคลครับ..
    ประเด็นนี้พอเข้าใจองค์ประกอบต่างๆนะครับ.
    สรุปคือ ๑.ระยะเวลาของสภาวะจิตเป็นทิพย์
    ๒.การย้ำเน้นฐานสภาวะจิตเป็นทิพย์ด้วยการท่องไปเรื่อยๆ
    ๓.กำลังสมาธิที่ยกไต่ระดับได้จากผลของข้อที่ ๒

    ส่วนประเด็นสุดท้าย.การเห็นวงกลมมีสีได้.ถือว่าจิตเริ่มพอมี
    สมาธิและเข้าเขตความเป็นทิพย์ได้..แต่ต้องรักษาให้วงกลม
    ที่เห็นค้างอยู่ได้นานกว่าปกติเล็กน้อยถึงจะถือว่าเข้าสภาวะความเป็น
    ทิยพ์ในระดับพอใช้งานได้ครับ.พูดง่ายๆว่า.วงกลมที่พอเรามอง
    แล้วแว๊ปหาย.ให้เราตั้งใจอีกเล็กน้อย.วงกลมพวกนั้นพอเรา
    หันไปมอง แล้วจะค้างอยู่ที่เดิมนานขึ้นเล็กน้อย..การท่อง
    คาถาก็จะเริ่มได้ผลตามสภาวะของจิตที่เราสามารถรักษา
    วงกลมแสงตรงนี้ไว้ได้เรื่อยๆจนมันค้างอยู่นิ่งๆได้
    ผลของพระคาถาจะเข้าสู่โหมดได้ผลตามตัวคาถาเพราะจิต
    มันจะยกระดับขึ้นไประดับถึงระดับฌาน ๑ ได้ครับทั้งหลับตา
    และลืมตานะครับเพราะมันจะยังสามารถท่องพระคาถาได้อยู่
    แต่ต้องผ่านสมองส่วนกลางนะครับ.
    ถึงจะไม่กลายเป็นความคิด

    ที่ดึงให้จิตกลับสู่สภาวะปกติทั่วๆไป..
    โดยส่วนตัวมองว่าทำถึงระดับนี้ก็ได้ผลและ
    ใช้งานได้แล้วครับ..จากประสบการณ์ใช้พระคาถาเฉพาะส่วนตัวครับ
    ส่วนระดับสูงกว่านี้ คำภาวนาจะไม่ปรากฏแล้วครับ
    ก็จะเป็นแบบที่หลวงพี่ท่านได้กล่าวแล้วครับ..
    ซึ่งถ้าสามารถทำได้ก็ยิ่งดีครับ แต่ว่าต้องฟิต ยิ่งกว่าฟิต พอตัวครับ
    กรณีนี้ใช้ได้แบบกรณีคุณนะครับ คือใช้หลักการสังเกตุ
    จากแสงครับ.ลองอ่านดูพอจะจับประเด็นได้ไหมครับ.

    ปล.จิตทำงานเมื่อเห็นแสงหรือเส้นสายครับ..
     
  8. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    ขอบคุณมากครับ พอรู้เรื่องขึ้นเยอะเลย
    คือไม่จำเป็นก็ได้ใช่เปล่าครับ เอาเเค่เห็นจุดบ้าง+จับจมูก
    เเบบบางอันก็ยากเกินไปที่จะทำ ถ้าทำได้ก็คงดี

    ขอบคุณอีกทีนะครับ ^_^ เก่งจุง ตั้งเเต่กระทู้ที่เเล้วเรื่องกสินล่ะ ตอบได้ชัดเจนมาก
    เเต่ช่วงนี้ขอพักกสินไว้ก่อน เเลดูช่วงนี้ครอบครัวดูลำบากมากเลยอยากสวดช่วยก่อน
     
  9. goddemon83

    goddemon83 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +14
  10. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ฟรั่งไม่เห็นต้องสวด ก็มีเงินล้าน55
     
  11. ตุ้มโฮม

    ตุ้มโฮม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2012
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +497
    ผมลองทำดูตามที่คุณนพ แนะนำ ท่องคาถาพระมหาจักรพรรดิ
    จะมีแรงดันพุ่งกลางกระหม่อมอย่างที่ว่าเลย

    ขอบคุณครับ..
     
  12. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,761
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    คาถาเงินล้าน ทำไมคุณตุ้มโฮม กลายเป็นคาถาพระจักรพรรดิไป

    เลยนึกถึงวันที่จิตใจฟุ้งซ่านมาก ก็ลองท่องคาถาเงินล้านนะ
    ท่องไปๆมาๆ เป็นคาถาพระจักรพรรดิไป คือช่วงหนึ่งเคยทำพระผงจักรพรรดิ
    ต้องท่องเพื่ออธิษฐานจิต ขอหลวงปู่ดู่มาเสกให้ ก็เลยแบบว่าจำได้ชำนาญอยู่
    ท่องไปท่องมา ก็รู้สึกกระโหลกสว่างไปหมด เคยได้ฌานเพราะการสวดคาถาอยู่ แต่ไม่บ่อย เพราะไม่ชอบสวดมนต์นักจ๊ะ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2014
  13. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    คุณปุณฑ์ไม่ลองสวด กฎอิทัปปัจจยตาและปฎิจสมุปบาทบ้างล่ะ
     
  14. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    เข้าใจครับ555+ โมเม้นที่ว่าสวดเงินล้านกลายเป็นจักรพรรดิ
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายา พระพุทธไตรรัตนญาณ ......***
     
  15. ตุ้มโฮม

    ตุ้มโฮม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2012
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +497
    ใช้หลักการเดียวกันครับคุณปุณฑ์ 555
    หลวงปู่ท่านเตตามากช่วยทั้งทางโลกและทางธรรม
    เรื่องอย่างนี้ต้องเจอด้วยตนเอง ใครไม่เจอไม่ทราบหรอกนะ

    ว่างๆคุณปุณฑ์แชร์ประสบการณ์ ผลการสวดพระคาถา
    มหาจักรพรรดิ จะเป็นประโยชน์ สำหรับผู้เพิ่งปฏิบัติ
    สาธุุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2014
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ๕๕๕ อาการคล้ายๆผมเลย...ประจำครับ..พอเจอคำว่า นะโมพุทธายะ
    ต่อด้วย พระพุทธไตรรัตนญาน.ตลอด..(^_^)
    ส่วนหลักการสวดที่ว่าประยุกต์ใช้กับพระคาถาใดก็ได้ครับ.
    มีข้อแม้ว่าต้องท่องจำให้ได้ก่อนในเบื้องต้น..
    และฝากทิ้งท้ายไว้เล็กน้อยด้วยครับ สำหรับบุคคลที่เริ่มสัมผัสกะแสพลัง
    งานภายนอกได้..อย่าลืมสวดบทเจ้าแม่ธรณีด้วยครับ...
    ที่ขึ้นต้นด้วย..ตัสสาเกษีสะโต.......ลงท้ายด้วย
    วิทังเสนติอะเสสะโต...เพราะอนาคตจะต้องถ่ายพลังงาน
    ส่วนเกินลงสู่พื้นดินด้วยการเหยียบดินหรือหญ้าด้วยเท้าเปล่า

    จะทำให้การถ่ายเทพลังงานส่วนเกินที่ปกติบางครั้งมันมัก
    จะรับเข้าตัวได้แบบอัตโนมัติลงสู่พื้นดินได้ดีขึ้นครับ.
    จะได้ไม่ตึงๆร่างกาย ไม่ปวดศรีษะ และไม่มีปฏิกริยา
    ไฟฟ้าซ๊อตเวลาเราไปจับเหล็กครับ...
     
  17. ตุ้มโฮม

    ตุ้มโฮม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2012
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +497
    คาถาพระแม่ธรณี..

    ตั้งนะโม ๓ จบ
    ระลึกถึง พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ

    “อิติปิโส ภะคะวา สะวาหะ อะระหัง สุคะโต สวาหะ” (๓ จบ)

    ต่อด้วยคาถาพระแม่ธรณี..

    “ตัสสาเกษีสะโต ยะถาคงคา โสตังปะวัตตันติ
    มาระเสนา ปฏิฐาตุง อาสักโภนโต
    ปะลายิงสุ ปาริมานานุภาเวนะ มาระเสนาปะราชิตา
    ทิโสทิสัง ปะลายันติ วิทังเสนติ อะเสสะโต”


    อย่างน้อย ๓ จบ(ถ้าจะให้ดีเลิศควรสวด ๒๑ จบ
    ตามกำลังของพระแม่ธรณี จะเป็นมงคลมาก)

    (ก๊อปเขามา)
     
  18. โลโป

    โลโป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +1,714
    สวดคาถาเป็นยาทา ภาวนาเป็นยากิน
     
  19. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,761
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    อ้าว นั่นนะบทชอบล่ะ
    สมัยก่อน นั่งกรรมฐาน ก็พิจารณาปฏิจจฯ นี่บ่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2014
  20. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,761
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    คาถาเงินล้าน นี่ชอบ เพราะบทพระปัจเจกด้วยค่ะ
    วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทธิโย พุทธัสสะ มานีมานะ พุทธัสสะสวาโหม..(ใช่นะ.)
    (นอกจากพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่งแล้ว และเทพเทวาช่วยทางโลก)
    เวลาสวด แล้วเรารู้สึกว่า ในโลกอันมีตัวเราเป็นที่พึ่งนี้ เราจักพึ่งตนเอง
    สำหรับตัวเองนะ มันคล้ายๆว่า ให้เราช่วยตัวเอง .. อารมณ์ทำนองนี้กระมัง


    บทจักรพรรดิ มีประสบการณ์มากเลย ในเรื่องการปรับภพภูมิ
    คือสวดบทจักรพรรดิเป็นกำลัง แต่จะใช้บทสัพเพฯในการช่วยจิตอื่นๆ
    ปรับแม้นแต่ในความฝันด้วย..
    เอาเฉพาะ เมื่อสองสามคืนก่อนนี้เองจ๊ะ
    ฝันถึงลูกชาย(แมว) ที่เสียไป เขามาหาที่บ้านเก่า บ้านนั้นเขาเกิด
    เราก็ลูบตัวเขาด้วยความรัก(รักมากกกก) ในใจก็คิดว่าเขาตายแล้ว เขาจะลำบากไหมนะ ก็สวดคาถาปรับภพภูมิ ตั้งใจสวดมากจริงๆ ซักพักรูปแมวหายไป กลายเป็นเงาแผ่ไปบนเตียง เป็นเงารูป นาคกำลังบวช ใต้ร่มฉัตรห้าชั้น ...(เป็นภาพเงานะแต่จิตนี่รู้) เราก็หันไปข้างเตียงพบนาคชุดขาว ตัวเป็นรอยแดงๆเต็มตัว (ในใจก็รู้ว่าเขาแน่ล่ะเพราะชอบแปรงขนให้ลูกชายแมวมาก แปรงกันน้ำลายหยดติ๋ง แปรงแรงเพราะอยากให้ขนเป็นเงา จนบางทีลูกชายหันมากัด..) ฝันเสร็จก็ตื่นมาตีสาม คือถ้าฝันเหมือนจริงนี่ พอจบเรื่องมักจะตื่นทุกที

    ตอนไปกรรมฐานปี 55 นอนห้องเดี่ยว มือก็ตกไปอยู่ข้างเตียง
    สักพักเหมือนมีใครมาดึงมือไปใต้เตียง เราก็มองลงไป อ้าวนี่ผีนี่ หน้าตาน่ากลัว หันไปข้างห้อง อ้าวก็ผีอีก เราก็เลยสัพเพฯปรับภพภูมิให้ ปรากฏพวกผีกลายเป็นเด็กๆ ใส่ชุดนักเรียนน่ารักมาก เขาขอบคุณแล้วบอกว่าไปเรียนก่อนนะ เราก็ตกใจตื่นมาก็เลยรู้ว่าฝันไป ไม่รู้เรื่องจริงหรือเปล่า? แต่เป็นสภาวธรรมอย่างหนึ่งเหมือนกัน คือบอกสภาพจิตตอนนั้นว่าไม่กลัวผีแล้ว (ในกรรมฐานจิตจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ)

    แต่ก่อนจะชอบแผ่เมตตา ไปไหว้เจ้าที่ก็จะแผ่เมตตาให้ ปรากฏฝันเห็นเจ้าที่มาหา ท่านว่าไม่ได้
    คือถ้าเราทำบุญแล้วแผ่เมตตานี่ได้เลยนะ แต่ถ้าไม่ได้ไปทำความดีอะไรมา แล้วจะแผ่เมตตาไปโน่นนั่นนี่เลย มันยาก.. ..อย่างน้อยก็ควรสวดมนต์ก่อน มีบุญแล้วค่อยแผ่ได้ .. แต่เวลาเราไปไหนๆ อยากจะแผ่ทันที บางทีก็ยาก
    แต่ปรากฏว่า พอได้บทสัพเพฯแผ่บารมีของพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ไปนี่ช่วยได้นะ เราแค่เป็นตัวกลางคือคนสวดเท่านั้น บารมีของพระรัตนตรัยมีมากอยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...