การสะกดพลัง

มีใครที่มีพลังเยอะมากๆ จนต้องห้อยพระเครื่องหรือเครื่องรางเอาไว้เพื่อสะกดพลังตัวเองบ้างครับ

 

แอ๋ มีด้วยพระเครื่องสะกดพลัง ไม่เคยได้ยินเฮะ (เห็นมันอยู่ล่างๆก็เลยตอบให้อยู่บนๆหน่อย เพราะน่าจะมีประโยชน์)

 

การสะกดพลังอย่างที่สงสัยไม่มี มีแต่สะกดกิเลสที่ฝังไว้ อย่างนี้ก็พอมีอยู่บ้าง เช่นคนเจ้าโทสะก็ควรห้อยพระเครื่องประเภทเมตตา ไม่ควรห้อยพระประเภทคงกระพันชาตรี แต่ก็ขึ้นกับตัวเราเองเป็นส่วนใหญ่ว่ามีสติเตือนตนเองได้ดีแต่ไหน

 

แหงะ...ถามแปลก
งง.............
มาเล่าต่อด้วยจิ......."ง้วนดิน" อยากรู้

 

ประมาณว่าพลังจิตจะแผ่ซ่านกระจายออกจากร่างกายอยู่ตลอดเวลาด้วยอำนาจจิตที่เป็นสมาธิ ถ้าพกวัตถุมงคลหรือพระเครื่องก็จะทำให้กระแสพลังซึมซับเข้าไปในวัตถุมงคลหรือพระเครื่องเหล่านั้นแทน ไม่ให้พลังกระจายออกไปมากเกินไปอะไรประมาณนั้นน่ะครับ (คืออยากทราบว่าเป็นไปได้รึเปล่าครับกรณีนี้.....)

 

ไม่เคยได้ยินมาก่อน ห้อยพระสะกดพลังตัวเอง มีแต่ห้อยพระแล้วสวดมนต์เพื่อเพิ่มพลังพุทธคุณให้มากขึ้น ตอนเป็นทหารผมห้อยพระแล้วสวดคาถาด้วย แคล้วคลาดมาหลายครั้ง(แต่ก็เผ่นกันป่าราบ)555

 

มีประสบการณ์น่าหวาดเสียวทั้ง 2 ท่านเลยนะครับ โชคดีๆ....คุณพระคุณเจ้าคุ้มครอง....._/\_

ปล.คือผมเคยได้ยินคนเล่าถึงพระบางรูปว่า บางทีท่านปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิแล้วพลังท่านเยอะเกินไปจนรู้สึกอึดอัด ก็เลยต้องสร้างพระเครื่องขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดพลังบางส่วนให้เข้าไปอยู่ในองค์พระแทน แบบนั้นท่านก็จะรู้สึกสบายขึ้นน่ะครับ

หรือบางคนที่นั่งสมาธิฝึกเกี่ยวกับลมปราณแล้วมีพลังแผ่กระจายออกมามากๆจนเวลาเข้าไปอยู่ใกล้ๆใคร ก็จะสร้างแรงกดดันให้กับผู้อื่นโดยอัตโนมัติทำให้คนที่อยู่รอบๆอาจจะรู้สึกอึดอัดหรือแน่นๆหายใจติดขัดไปด้วย การห้อยพระเครื่องหรือวัตถุมงคลน่าจะช่วยซึมซับพลังบางส่วนไปได้ ทำให้กระแสพลังที่แผ่ออกไปไม่ไปรบกวนคนรอบข้างมากเกินไปอะไรประมาณนั้นน่ะครับ

 

เพื่อปกปิดไม่ให้ ผู้มีพลังด้วยกัน จับได้ว่า..มีพลัง
เรียกว่า ไม่อยากโอ้ ไม่อยากอวด
เท่านั้นเอง

 

<!-- / message -->
ผมกลับคิดว่าถ้าใครบรรลุธรรมหรือฝึกฝนตนเองจนมีอะไรดีๆแล้ว ควรที่จะบอกกล่าวบอกต่อให้กับผู้อื่นได้มีโอกาสได้รับรู้และฝึกฝนบ้างน่ะครับ เหมือนอย่างคำสอนของพระพุทธเจ้า ในคำแปลบทสวดมนต์บทพระธรรมคุณที่ว่า:-

โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
พระธรรมอันใด, เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ได้ตรัสไว้ดีแล้ว
สันทิฏฐิโก
เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ, พึงเห็นได้ด้วยตนเอง
อะกาลิโก
เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ ไม่เลือกกาลเวลา
เอหิปัสสิโก
เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า, ท่านจงมาดูเถิด
โอปะนะยิโก
เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ
เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
ตะมะหัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่ง เฉพาะพระธรรมนั้น

 

สาธุ....ขออนุโมทนาครับ ถ้าจำไม่ผิดผมเคยอ่านเจอในหนังสือเห็นว่าหลวงพ่อวราห์ ท่านมีพญานาคคอยคุ้มครอง และก็ท่านมีญาณหยั่งรู้ดวงชะตาผู้อื่นได้โดยไม่จำเป็นต้องทราบวัน เดือน ปีเกิด เลย ใช่รึเปล่าครับ เห็นมีคนศรัทธาท่านมากเหมือนกันนะครับ