การหย่าร้างของพุทธภูมิ(พระโพธิสัตว์)ถือเป็นการสละเมียเป็นทาน?

หากจำเป็นต้องอย่าร้างหลังจากมีลูกแล้ว และลูกอยู่ในความปกครองของเรา
เช่นนี้ถือเป็นการสละลูกเมียหรือไม่ หรือเป็นเพียงวิบากกรรมของพระโพธิสัตว์

 

ใครเคยเป็นอย่างนี้บ้างครับ

คงไม่ใช่คู่บารมีของเรา ?

(พูดแล้วมันเข้าตัวเอง)

เฮ้อ! ท้อจริงๆ

 

หรือเป็นแนวทางในการสร้างบารมีอีกทางหนึ่ง (เลี้ยงลูกที่ยังเล็ก 2 คน โดยลำพังคนเดียว)

 

หมดวาสนาต่อกัน

 

เขาหนีไปอยู่บ้านแม่ ไม่มาดูแลลูกกว่าสัปดาห์แล้ว

เขาว่าเราพูดจาไม่ดี ทำร้ายร่างกายเขา (เราแค่โมโห จับคอเขา เพราะเขาเกี่ยงไม่เลี้ยงลูก ยังไม่ทันได้บีบ เขาก็ตะโกนลั่นห้อง จนลูกร้องไห้ระงม)

พระโพธิสัตว์อย่างเรามันโหดร้ายขนาดนั้นจริงหรือ

 

ที่จริงมันก็ถือเป็นปัญหาครอบครัวพื้น ๆ นะ ที่หลายครอบครัวต้องพบ แต่บังเอิญว่าเราปรารถนาพุทธภูมิ ก็เลยขอถามท่านผู้รู้หน่อย เพราะผมเองก็ยังเป็นปุถุชนคนธรรมดา ที่ยังมีความรัก โลภ โกรธ หลง อยู่เต็มประดา

 

สาธุ

ก็ดี จะได้หาเมียใหม่

 

หลังจากภรรยาหนีไปได้สัปดาห์ เมื่อเช้าฝันว่ามีคนมาพรมน้ำมนต์ปลุกให้ตื่น น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดีใช่ไหม

(ปรกติไม่เคยฝันว่ามีใครมาพรมน้ำมนต์ให้)

 

อาจารย์คนเมืองบัวเคยดูดวงให้ว่า ผมจะมีเมียตลอดชีวิต อย่างนั้นก็แสดงว่า ผมจะหาเมียใหม่ได้น่ะสิ ^_^

นี่ก็กะว่า ถ้าสัก 1 ปี เขาไม่กลับมา ก็จะไปหย่าแล้ว เพราะถือว่าคนเป็นแม่ทิ้งลูกได้ ก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป

 

ลูกกี่ขวบครับ

 

ผมเที่ยวพร่ำบอกตัวเองเสมอว่า .. สัตว์โลกและทุกๆ คนล้วนต้องการที่พึ่ง

มีวิธีเดียวคือ ผมต้องมีกำลังมาก ทั้งกำลังความสามารถ, กำลังทรัพย์
ไม่เช่นนั้นคงยากที่จะเป็นที่พึ่งให้คนอื่น
และกำลังปัญญา เพื่อที่ได้ชี้นำหนทางดำเนินชีวิตที่ถูกต้องได้
การสร้างคนไม่ให้เป็นคนเกียจคล้านหนึ่ง การสร้างคนให้รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำหนึ่ง
ความเมตตาปราณีรู้วิธีทำคนให้มีความสุขหนึ่ง เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ล้วนเพื่อดับทุกข์ดับร้อนให้กับสัตว์โลกและมนุษย์บนโลก ที่ยังเวียนว่ายตายเกิด
และที่ยังไม่พร้อมและไม่สามารถรับธรรมอันเป็นน้ำอมฤตของพระพุทธเจ้าได้

(ส่วนเมียคุณ ถ้าหากพึ่งตนเองได้คงไม่ไปอยู่กับแม่ คงสู้อยู่คนเดียวได้ถูกมั้ย)

 

2 ขวบครับ แฝดชาย

2 ขวบครับ แฝดชาย

 

อยู่ด้วยกันเหมือนว่า เขาพึ่งเราแทบทุกอย่าง

งานบ้านเขาก็ไม่ต้องทำ (เราทำ)
ผ้าเขาก็ไม่ต้องรีด (เราทำ)
เงินก็แทบไม่ต้องออก (เราออกเกือบทุกเรื่อง)
มีอยู่อย่างหนึ่งที่เราไม่ดีคือ ผมเป็นคนอารมณ์ร้อน (เลยต้องมาฝึกสมาธิไง)
ก็ถือว่ามันเป็นชีวิตหนึ่งที่ต้องสร้างบารมีกันไป ถือเป็นสัจธรรม และผมทำใจได้ หากว่าเขาจะไม่กลับมาอีก

 

นี่ก็ถือเป็นกระทู้สืบเนื่องจากกระทู้ที่ชื่อ "คำเตือนสำหรับพุทธภูมิที่ยังไม่มีภรรยา"

555+!

 

ถ้าคุณรู้วิธีทำให้คน ช่วยเหลือทำงานบ้านกัน คนละไม้คนละมือได้
เมื่อนั้นคุณจะถือว่าพร้อมจะดึงคนเดิมกลับมา

ส่วนคนใหม่ ถ้าเขาพร้อมช่วยเหลือคุณ พร้อมเดินไปด้วยกัน ก็ถือว่าคุณโชคดีที่ยังหาเจอ
เพราะอย่างที่บอก ลึกๆ แล้วทุกคนล้วนต้องการที่พึ่งทั้งนั้น
แม้แค่เป็นกำลังใจยึดเหนี่ยวให้กันและกัน

 

ครับผม ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจครับ

ผมถือว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ ถ้าเหนื่อยก็หยุดพัก แล้วเดินทางกันต่อ
ทางมันอาจจะไกล แต่ใจต้องไม่ท้อ

 

ผมเคยพบกับผู้ปรารถนาพุทธภูมิคนหนึ่ง (อดีตคนสนิทหลวงพ่อฤาษีฯ) ท่านเองก็มีภรรยาหลายคน คนสุดท้ายเป็นหมอ (ท่านบอกว่า ถ้าไม่ได้คุณหมอคนนั้นเป็นภรรยา ยอมลาจากพุทธภูมิ,...ส่วนคนเก่าได้ข่าวว่า ท่านหย่าเพราะเขาดูถูกท่านว่า พระโพธิสัตว์กระจอก) มีลูกตอนเกษียณแล้ว เขาก็รักกันดี ผมเคยไปเยี่ยมท่านที่บ้านด้วย เห็นท่านไปวัดทั้งที่ซอยสายลมและวัดท่าซุงกันเป็นครอบครัว น่าอนุโมทนาบุญด้วย ก็แสดงให้เห็นว่า เรื่องคู่นี่ อาจพบได้หลายคน แต่ใครล่ะจะเป็นคู่บารมีที่แท้จริง

ในส่วนลึก ผมเองก็ไม่อยากมีแล้ว จะห่วงก็ที่ว่าลูกไม่มีแม่คอยดูแล

 

ถ้าชาติหน้าอยากหาคู่ง่ายๆ นะครับ .. ชาตินี้ควรมีอาชีพครูบาอาจารย์ครับ
หรือเป็นคน พาคนทำบุญเข้าวัดครับ

เพราะคนเหล่านั้น ชาติหน้าหากเจอใครเหล่านั้นสักคนอาจจะพอใจคุณเป็นพิเศษได้ครับ

 

ขอบคุณที่เตือน ให้ระวังการมีเมีย

ผมก็มีผู้หญิงตามเป็นขบวน

แต่รอดมาได้ ตอนบวชแปดปี ผู้หญิงเพียบ

มันมาทดสอบเรา..

ถ้าไปยุ่งกับใครเข้า กรรมจะเปลี่ยนทิศทาง
ไปในทางต่ำ...

เราจะสอบตกทันที...

 

สงสารเด็ก ขาดแม่แต่ยังอายุน้อย
หวังว่า เดี๋ยวเขาคิดถึงลูกคงกลับมาล่ะครับ