กำหนดปิดจองพระแก้ว 9 นิ้วเข่าหนาเป่าด้วยปอด 1 ก.พ. 2563

วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ จะไม่เร่ง เพราะเร่งอาจมีพลาดและแม่พิมพ์จะชำรุดกว่านี้

 

เครื่องมือดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ผมเลือกยี่ห้อ Dremel รุ่น 4000 ซึ่งเป็นรุ่นที่มีใกล้เคียงเพียงพอกับแม่พิมพ์ขนาดนี้ ความจริงเล็กไปนิดนึงด้วย แต่เขามีแค่นี้ ยี่ห้ออื่นไม่เล็กเลยก็ใหญ่เลย ถือว่ายี่ห้อนี้เหมาะสมครับ

ผมค่อยๆทำไป ไม่เร่งครับ

 

ระหว่างนี้วัด สำนักสงฆ์ สำนักแม่ชี ลงนามไว้ได้นะครับ ฟรีทุกอย่างหากมีเงินบริจาคเข้ามาเพียงพอ

ส่วนผู้ที่จองแบบส่วนบุคคลก็จองได้เลยเช่นกัน ใครจองก่อนได้ก่อน ราคาเฉพาะองค์พระแก้วเป่าด้วยปอดต้องรอดูท่าทีโรงงานแก้วก่อนครับ เขาต้องใช้เวลาคำนวนนานหน่อย

 

วันนี้ผมขัดผิวเหล็กของแม่พิมพ์ด้วยแปรงลวดทองเหลืองแบบ 3 ํ และ 30 ํ พบว่า วัสดุที่ผมเคลือบกันสนิมเอาไว้นั้น ติดเหนียวแน่นมาก และเมื่อขัดถึงติดผิวเหล็ก วัสดุที่เคลือบเอาไว้นั้น แปรเปลี่ยนเป็นใยเหนียวเข้ายึดพื้นที่ผิวเหล็ก ทำให้การขัดด้วยแปรงลวดทองเหลืองแทบจะไร้ผล สังเกตุว่า สนิมเล็กน้อยนั้น เกิดจากภายในเนื้อเหล็กที่มีรอยแยกเล็กๆ แต่เป็นสนิมผิว ไม่ใช่สนิมขุม สังเกตุที่เมื่อถูกแปรงลวดทองเหลืองจังๆเมื่อใด สนิมก็หายไปในทันที

พรุ่งนี้ผมอาจไม่ว่าง จึงจะปล่อยแม่พิมพ์ทิ้งไว้ก่อน ขณะนี้เท่าที่ดู ผมว่า 6 ปีที่คนที่มายืมแม่พิมพ์เหล็กไป เอาไปหงายรับน้ำฝนถึง 6 ปี แต่สนิมเกิดขึ้นน้อยมากๆถ้าเทียบกับระยะเวลา น่าจะเป็นเพราะผมให้ใช้เหล็กที่ดีมีคุณภาพสูงนั่นเอง ราคาก้อนเหล็กก้อนนี้แพงมาก

ยกเว้นแต่ส่วนที่เป็นแผ่นเหล็กที่ไม่ใช่แม่พิมพ์ สนิมกินลึกถึง 4 - 5 mm. ก็มี ยิ่งตอกลึกว่า เนื้อแม่พิมพ์เหล็กนั้นคุณภาพสูงครับ

 

วันนี้ได้กราบเรียนกับพระ อ. วิชาญ ถึงสิ่งที่ทางโรงงานต้องการ คือต้องการพระแก้วที่เคยสร้างเพื่อเป็นตัวอย่างประกอบ แต่ผมถวายวัดหมดไป ไม่มีเก็บไว้เลย พระ อ. วิชาญเมตตาบอกว่า จากครั้งที่แล้วที่ผมเคยถวายวัดท่านไปนั้น ท่านพอจะหากลับมาได้สัก 1 องค์มาเป็นตัวอย่าง ขอเวลาถามหาก่อนว่า มีใครบ้าง

ผมขอกราบขอบพระคุณพระ อ. วิชาญที่เมตตาต่อโครงการเสมอมาและตลอดไปครับ

 

ยังไม่พบท่านที่จะให้ยืมพระแก้วองค์ตัวอย่างครับ

ท่านใดที่ต้องการให้ผมยืมไปให้โรงงานแก้วเขาดูสามารถโทร 0877459995 ได้นะครับ เพื่อให้คืบหน้าต่อไปครับ

 

มายกกระทู้ให้วัด สำนักสงฆ์ สำนักแม่ชี และบุคคลธรรมดาได้จองเพิ่มเติมครับ ฟรีวัด บุคคลธรรมดาจองก่อน ราคาจะคำนวนภายหลังครับ

 

เรื่องราคาที่ผมจะคำนวนภายหลังนั้น จะมีเฉพาะองค์พระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วเป่าด้วยปอดจากโรงงานแก้ว + ตัวฐานโลหะที่ภายในใส่ขั้วไฟ E27 จำนวน 2 ขั้วเพื่อให้แสงส่องสวยทั้งองค์พระ + หลอดไฟ + สายไฟสวิทกลางทางและปลั๊กเสียบ ซึ่งผมคาดว่าราคาถูกมากครับ น่าจะไม่สูงเกินกว่าที่โรงงานแก้วเจษฏาเคยสร้างเท่าไร ตอนนั้นเจษฏาสร้างให้ผมจำนวน 500 องค์ ต้นทุนองค์ละรวมหมดทุกอย่างแล้วประมาณ 750 บาท

 

ผมเปิดฟรีสไตล์ให้ทุกท่านแสดงความคิดเห็นได้ครับ

ขอขอบคุณและขออนุโมทนาทุกๆท่านด้วยครับ

 

ผมขอจองให้ วัดที่ จ.ขอนแก่น และ จ.ระยอง
ในเบื้องต้น จำนวน 100 องค์
ขอโมทนาบุญทั้งปวงด้วยครับ ที่จัดโครงการดีมากๆ ซึ่งคงจะไม่มีใครสามารถทำได้
ในราคาต้นทุนด้วย

 

ขออนุโมทนาครับ ในประเทศไทยมีคนที่มีความสามารถสร้างพระแก้วโดยมีวิธีหรือเทคนิคการสร้าง 4 เทคนิค

1. การเป่าแก้วด้วยปอด Mouth Blown Glass เทคนิคนี้มีเจ้าของและอดีตเจ้าของโรงงานแก้วในไทยที่เคยทำงานนี้สามารถนำสร้างได้หลายคน น่าจะเกือบ 100 คน ( แต่ไม่มีคนนำสร้าง มีแต่ผมคนเดียว ไม่ทราบเพราะอะไร )

2. การกดปั๊มแก้ว Pressed Glass เทคนิคนี้มีเจ้าของและอดีตเจ้าของโรงงานแก้วในไทยที่เคยทำงานนี้ สามารถนำสร้างได้เกือบ 100 คนเช่นกัน ( แต่ไม่มีคนนำสร้าง มีแต่ผมคนเดียวที่อยากนำสร้างด้วยเทคนิคนี้ แต่ติดขัดที่ช่างปั๊มแก้วในปัจจุบันได้ล้มหายตายจากไปหมดแล้ว และไม่มีผู้สืบทอดเลยแม้แต่คนเดียว ครั้นจะสร้างทีมขึ้นมาใหม่ต้องใช้ทุนมากและเวลาฝึกทักษะ ทำให้ยากแก่การเกิดใหม่ของทีมช่าง )

3. การปั้นแก้วมือเปล่าฟรีฟอร์ม Free Form Hand Made เทคนิคนี้ในไทยส่วนมากสร้างได้แค่หน้าตัก 3 - 4 นิ้ว ไม่เหมือนในมูราโน่อิตาลีที่เขาต้องใช้เวลาฝึกเทคนิคนี้นานหลายสิบปี ผมเองเคยมีทีมช่างในระดับสร้างชิ้นงานได้ชิ้นใหญ่กว่า 10 นิ้วในเทคนิคนี้ แต่ปัจจุบันยากที่จะสร้างให้เกิดทีมใหม่

4. การหล่อ Lost Wax Glass เทคนิคนี้ในไทยปัจจุบันเหลือผมคนเดียวที่เคยผ่านงานนี้มาก่อน

ที่สำคัญคือ คนที่จะรู้หมดทั้ง 4 เทคนิคและเคยผ่านงานนี้มามากๆนั้น ไม่มีเลย

ดังนั้น ผมจึงคิดว่า หากผมไม่นำสร้าง หรือ เมินเฉยเสียคนเดียว ในประเทศไทยก็คงไม่มีใครทำแน่นอน อีกทั้งผมได้แม่พิมพ์เหล็กที่ใช้ในเทคนิค 1 และ 2 กลับมาแล้ว ราคาแม่พิมพ์ขนาดหน้าตัก 9 นิ้วหากจะสร้างใหม่คงเกือบ 1 ล้านบาทแล้วขณะนี้ ก็จะเท่ากับหมดผู้นำสร้างไปนั่นเองครับ น่าเสียดาย

ผมจึงขอฮึดอีกครั้งเพื่อให้ประเทศไทยได้มีพระแก้วในเทคนิคต่างๆเท่าที่จะทำได้ อนาคตพระแก้วทุกเทคนิครอทุกๆท่านอยู่ครับ

 

ผมกำลังหาโรงงานแก้วที่มีแก้วโซดาไลม์ซิลิก้า (แก้วธรรมดาๆ) ที่มีสีเหลืองทองด้วย แต่ออกตัวก่อนนะครับว่า ยังไม่พบนะครับ

บางโรงงานหลอมแก้วมีหลายสีมาก แต่เขาไม่รับงานจำนวนน้อย เพราะการสร้างชิ้นงานแก้วที่ยากขนาดนี้ เขาต้องทุ่มฝึกช่างทั้งทีมอย่างน้อย 6 - 8 คน และต้องฝึกนานนับเดือน ค่าฝึกจึงมากและต้องรวมในราคาต้นทุน หากยิ่งน้อยเขาอาจไม่กล้าบอกเราและปฏิเสธการสร้างครับ

ผิดกับสมัยที่ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตของโรงงานหลอมแก้วของพ่อผมเอง ผมรับทำให้วัดฟรีๆแม้จำนวนน้อย เช่น วัดพระธาตุไชยา สุราษฏร์ธานี โดยพระ อ. พุทธทาสบอกให้ผมสร้างให้เมื่อปี พ.ศ. 2516

 

เมื่อปี พ.ศ. 2497 หรือ 98 เกิดองค์การแก้วในไทย สมัยนั้นหัวหน้าช่างแก้วเป็นฝรั่งมังค่า มาฝึกให้ส่วนหนึ่งหรือส่วนมากเป็นทหารเรือ นายช่างแก้วสมัยนั้นจึงมักเป็นทหารปลดประจำการที่มาจากทหารเรือไทยบ้าง อดีตนาวิกโยธินบ้าง ซึ่งลูกน้องช่างแก้วผมส่วนหนึ่งหรืออาจจะส่วนมากก็มาจากกรมอู่ทหารเรือที่เคยเป็นช่างแก้วแทบทั้งนั้น ช่างแก้วสมัยก่อนจึงมีความอดทนสูง และสามารถทำงานแก้วได้ดี ผิดกับสมัยนี้ที่ไปฝึกคนว่างงานที่ไม่มีจุดมุ่งหมายใดๆ พองานหนักหน่อยก็มักมีปัญหา

 

ภาพนี้ไม่ใช่แก้วโซดาไลม์ซิลิก้า (แก้วธรรมดาๆ) นี่คือแก้วคริส่ตัลที่หล่อด้วยเทคนิค Lost Wax Glass ที่หล่อแบบกลวงที่มีความหนาของเนื้อแก้วแค่ประมาณไม่เกิน 1 นิ้ว ซึ่งทำให้การอบลดอุณหภูมิของแก้วทำได้ไม่ยากเกินไป พระแก้วที่หล่อด้วยเทคนิคนี้สร้างใหญ่แค่ไหนก็ได้ หน้าตักเป็นเมตรเป็นวาก็ได้ เพียงแต่เราเข้าใจว่า อย่าให้แก้วคริสตัลหนาเกินไปโดยไม่จำเป็น ก็จะทำให้การอบลดอุณหภูมิเหลือแค่ไม่กี่ชั่วโมง ลดแค่ไม่เกิน 1 วัน

แต่ถ้าเราไปหล่อตันๆ อย่างพระแก้วบางองค์ที่ว่ายืนสูง 2 เมตร และหล่อตันๆ เขาอาจต้องอบลดอุณหภูมินานเป็นเดือนๆหรือหลายเดือน ซึ่งผมเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องตัน เพราะกลวงแล้วทำให้ผิวฝ้าขาวหรือฝ้าสีอื่นใดก็ตาม มองไม่ออกด้วยซ้ำไปว่า องค์นี้ตันหรือกลวง

 

ภาพนี้เป็นขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ถ้าหากสร้างด้วยเทคนิค Lost Wax Glass หน้าตักประมาณ 59 นิ้ว สร้างแบบเนื้อแก้วกลวงหนาแค่ 1 นิ้ว โดยใช้ก้อนแก้วเพื่อการหลอมต่อชนิดแก้วคริสตัลจากจีน ต้นทุนเฉพาะองค์พระแค่องค์ละประมาณ 2 - 3 หมื่นบาท (ไม่รวมเตาอบและเครื่องมือ) ถูกกว่าทองเหลืองมากเลย

แต่กลับไม่มีคนรู้เลยครับเรื่องนี้ ผมนำมาเปิดเผย ตีแผ่ และหากเป็นไปได้ก็จะได้สร้างไว้ในพระพุทธศานาบนแผ่นดินไทยครับ

 

……………………………………………

ตามที่ผมเปิดฟรีสไตล์ในกระทู้นี้ คือผมเปิดให้ท่านที่ต้องการพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้วเป่าด้วยปอด สามารถจองได้ในราคาทุน เมื่อท่านได้รับองค์พระแก้วแล้ว ท่านจะนำไปถวายวัดก็ได้ ทางวัดจะนำไปให้เช่าบูชาต่อเพื่อนำเงินเข้าวัดก็ได้ หรือท่านจะนำไปเป็นโครงการของท่านเอง เช่น ให้เช่าบูชาเองเพื่อนำเงินไปทำบุญทำทานก็ได้ ผมไม่ได้ยึดติดว่า ปางนี้ รุ่นนี้ต้องเป็นของผมคนเดียว หากแต่เป็นของทุกๆท่านต่างหากครับ

 

ภาพบน คือองค์พระแก้วที่ผมใส่หลอดประหยัดไฟขั้ว E27 จำนวน 2 ขั้ววางนอนไว้ในฐานโลหะ เมื่อหลอดไฟถูกวางนอน 2 หลอด ความยาวของหลอดจะค่อนข้างเต็มพื้นที่ขององค์พระพอดิบพอดี จึงทำให้แสงเกลี่ยเฉลี่ยได้ทั่วทั้งองค์พระ

ส่วนภาพล่าง ผมคาดว่าทางวัดคงใส่หลอดไฟเพียงหลอดเดียว แสงจึงค่อนข้างถูกเน้นไปข้างใดข้างหนึ่ง

คราวนี้ถ้าหากว่าจะใช้หลอดไฟหลอดเดียว ควรใช้หลอดที่มีความยาวมากๆ เช่น หลอดประหยัดไฟรุ่นใดก็ได้ที่มีความยาวหลอดประมาณ 6 - 7 นิ้ว ( ซึ่งหายากในปัจจุบัน ในอดีตมีหลอด PLC ที่ยาวถึง 4 - 9 นิ้ว ) แล้วต้องวางหลอดให้อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลาง แสงจะเกลี่ยเฉลี่ยดีกว่าในภาพนี้ครับ

 

บนสุดเป็นแสงวอร์มไว้ท์

กลางเป็นหลอดแสงเดไล้ท์

ล่างองค์นี้มีคนน้อมถวายที่วัดแห่งหนึ่ง แสงถูกต้องดีครับ


องค์ล่างนี้ผมใช้วิธีวางขั้ว E27 ให้หันขึ้นชี้ฟ้า ใช้หลอดสปอตไล้ท์ชนิดแสงพุ่งข้างบน (มองเห็นหลอดไฟจริงๆในองค์พระแก้วได้) หลอดชนิดนี้ให้ความร้อนสูงมาก เป็นหลอดที่ให้ความร้อนแก่สัตว์เลี้ยงประเภทกิ้งก่า >90C ซึ่งพระแก้วที่โรงงานแก้วเจษฏาสร้างให้ผมนั้น ผมทดลองเปิดวันละ 10 ชั่วโมงต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 7 เดือน ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใดครับ แก้วโซดาไลม์ซิลิก้าทนได้สบายๆโดยที่ไม่ต้องมีพัดลมมาช่วยครับ

 

นานๆจะมีภาพโรงงานเป่าแก้วที่สว่างๆ เห็นชัดๆ ในภาพนี้โรงงานจากจีน เป็นโรงงานเป่าแก้วด้วยปอดที่มีชื่อแห่งหนึ่ง