กินเห็ดอย่างไรให้เป็นยา (เชิญแลกเปลี่ยนเรื่องดีดี ของ "เห็ด")

กินเห็ดอย่างไรให้เป็นยา

หากท่านลองสังเกต จะเห็นว่าเห็ดที่เรากินเข้าไป ร่างกายจะนำไปย่อยได้ยากมาก

เนื่องจากโครงสร้างของเห็ดมีความแข็งแรงมาก

การจะเอาเห็ดมาเป็นยา จำเป็นต้องมีวิธีสกัดเอาสารบางอย่างออกมาจากเห็ดซะก่อน

ไม่อย่างนั้นการกินเห็ด ก็จะไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควร

ดังนั้นก่อนการกินเห็ดเป็นยา คงต้องมาเข้าใจกันว่าจะกินเห็ดอย่างไร

ด้วยวิธีการไหน ถึงจะได้ยาจากเห็ดจริงๆ

ไม่อย่างนั้นเราก็จะกินแต่เส้นใยเห็ด ไม่ได้คุณค่าของเห็ดอย่างแท้จริง

 

ประโยชน์ของการบริโภคเห็ด

ปัจจุบันเห็ดที่เรารับประทานกันมีมากมายหลายชนิด ซึ่งเราได้รู้จักเห็ดและนำมา
บริโภคเป็นอาหารมานานแล้ว

โดยนิยมรับประทานมีทั้งแบบเห็ดสด แบบบรรจุกระป๋อง หรือแม้แต่ตากแห้ง

ความนิยมในการบริโภคเห็ดมีมากขึ้นเรื่อยๆ ตามรูปแบบและรสชาติ

ของเห็ดแต่ละชนิด ซึ่งแตกต่างจากอาหารประเภทผัก และเนื้อสัตว์

รวมทั้งปัจจุบันนิยมนำเห็ดมารับประทานเป็นอาหารมังสวิรัติกันมากขึ้น

และมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่าเห็ดหลายชนิดมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

คุณประโยชน์ :

หากพูดถึงอาหารเพื่อสุขภาพแล้วหนึ่งในนั้นคงต้องมี "เห็ด" เป็นส่วนประกอบสำคัญ

รวมอยู่ด้วย เนื่องจากเห็ดมีโปรตีนสูง ใช้ทดแทนโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์

และเห็ดบางชนิดยังนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาโรคได้อีกด้วย

เห็ดส่วนใหญ่มีแคลอรีต่ำ ไขมันต่ำ ปราศจากคลอเลสเตอรอล มีธาตุโปแตสเซียมสูง

ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความดัน และยังมีสารซีลีเนียมที่เป็นสารต้านมะเร็ง

นอกจากนี้ยังอุดมด้วยวิตามินบี และในเห็ดหอมสด มีวิตามินซีสูงมาก

ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม เพื่อเสริมกระดูกและฟัน

การทานเห็ดสดหรือเห็ดที่ปรุงโดยความร้อนที่ไม่สูง โดยใช้เวลาไม่นาน

จะให้คุณค่าของสารอาหารมากกว่าเห็ดที่ปรุงสุกหรือผ่านความร้อนนานๆ

โดยเห็ดที่นิยมนำมารับประทานและรู้จักกันโดยทั่วไป ได้แก่

เห็ดฟาง เห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดแชมปิญอง เห็ดสกุลนางรมต่างๆ

เห็ดโคนและเห็ดหูหนู เป็นต้น

 

ส่ง lab ผลิตยา catt3

 

เชิญสมาชิกแลกเปลี่ยนเรื่องเห็ด อาจเป็นคำถาม หรือ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน สบายๆ นะคะ

ส่วนเจ้าของกระทู้ จะทยอยค้นหาสาระความรู้มาฝากทุกท่าน ค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

ขยันทำ ก็รวยเลยค่ะ คุณเมธาวี1

 

ก่อนอื่น เรามาทำความคุ้นเคยกับเห็ดชนิดต่างๆ กันค่ะ

เห็ดฟาง หรือ เห็ดเฟียง


เห็ดฟาง มีสารVovatoxin ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของไวรัส ที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่

ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความดันโลหิตและเร่งการสมานแผล บำรุงร่างกาย

บำรุงกำลัง บำรุงตับ แก้ช้ำใน

เห็ดฟางนำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง เช่น ยำเห็ดฟาง,เห็ดฟางผัด,ต้มยำเห็ดฟาง

และแกงเลียงใส่เห็ดฟาง เป็นต้น

 

เห็ดหอม



เห็ดหอม มีกรดอะมิโนชื่อ eritadenine ช่วยให้ไตย่อยโคเลสเตอรอลได้ดี

มีสารเลนติแนน (Lentinan) ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน

ให้มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับเซลล์เนื้องอก

ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด และเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็ง

ในเห็ดหอมมีกรดอะมิโนอยู่ถึง 21 ชนิด อุดมด้วยวิตามิน A มีวิตามินบี 1 บี 2

สูงพอๆ กับยีสต์

มีวิตามินดีสูงช่วยบำรุงกระดูก และมีปริมาณโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับผู้เป็นโรคเกี่ยวกับไต

นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก จึงช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

และช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

เห็ดหอม สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น ผัดผักสามชนิด กระเพาะปลา มะระยัดไส้ ยำวุ้นเส้น

และอีกมากมาย ค่ะ

 

เห็ดเข็มทอง



เห็ดเข็มทองมีสาร flammulin สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเยื่อบุช่องท้อง(Ehrlich)

และเซลล์มะเร็ง Sarcoma 180 ในหนูขาว ได้ผลถึง 81.1-100%

และมีคุณสมบัติในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของสิ่งมีชีวิต

เราสามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง ที่นิยมและอร่อยขึ้นชื่อ ก็ ยำเห็ดเข็มทองเพียวๆ

ผัดเห็ด 3 ชนิดรวมมิตร เป็นต้น

ส่วนเห็ดผัดต่างๆ ถึงจะอร่อยแต่ไม่เกิดประโยชน์มากนักค่ะ ต้องดูที่องค์ประกอบของน้ำมันที่ใช้ผัดด้วย ค่ะ

 

นำเสนอเห็ดมาได้ 3 ชนิดแล้ว

ต่อไป เรามารู้จัก และใช้คุณประโยชน์ จากเห็ด 3 ชนิดกัน นะคะ

อ้างอิง : ที่มา จากหนังสือ"นาฬิกาชีวิต" ของ อ.สุทธิวัสส์ คำภา ได้กล่าวไว้ว่า

กิน "เห็ดสามอย่าง" ก็จะยิ่งได้ประโยชน์ยิ่งกว่ากินเห็ดเพียงอย่างเดียว

เห็ดสามอย่างเมื่อรวมกันนั้น จะมีค่ากรดอะมิโนที่สามารถลดอัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

ทั้งยังช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ ทั้งจากอาหารและสารเคมี เช่น

พิษจากสุรา สารตกค้างในเนื้อสัตว์ สารเคมี จากเครื่องสำอาง และพิษจากสารอนุมูลอิสระ

นอกจากนั้นยังล้างไขมันในตับ ทำให้ตับเเข็งแรง สร้างเม็ดเลือดแดงได้ดี

การกินเห็ดสามอย่างที่ว่านี้ ก็คือเห็ดอะไรก็ตามที่กินได้

ไม่ว่าจะเป็นเห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู เห็ดเข็มทอง ฯลฯ

และจะนำมาทำแกงเลียง แกงส้ม ต้ม ยำ ย่าง หรือทำอาหารประเภทใดก็ได้

โดยที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน

นอกจากนั้นยังต้มเป็นน้ำซุปเห็ดดื่มก็ได้ด้วยโดยการนำเห็ดอะไรก็ได้ 3 อย่าง

มาล้าง หั่นและนำไปต้มรวมกันในน้ำสะอาด ใส่มะตูมแว่นที่ปิ้งจนหอมมาต้มรวมกัน

ดื่มแทนน้ำซุปได้

ส่วนเนื้อเห็ดนำไปทำอาหารอื่นๆ ได้อีกด้วย

 

ทั้งมีประโยชน์และได้สาระมากเลยค่ะ ขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญให้ท่านเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ

 

เห็ดหลินจือ



เห็ดหลินจือ เป็นยาจีน (Chinese traditional medicine)

ที่ใช้กันมานานกว่า 2,000ปี เป็นของหายากมีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน

และได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณ “เซินโหลงเปิ่นฉ่าวจิง” ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ที่สุดของจีน

เห็ดหลินจือ ประกอบด้วยสารที่มีผลต่อการบำบัดโรคหลายชนิด แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ

สารประเภทที่ละลายน้ำ 30% สารละลายอินทรีย์ 65% และสารระเหย 5%

มีสารสำคัญเช่น Polysacchaarides, Triterpenoids, Germanium, Ganoderic Essence รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุ

ซึ่งช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค ต้านมะเร็ง บำรุงตับ บำรุงสมองและระบบประสาท ปรับสภาวะสมดุลให้แก่ร่างกาย

เหมาะสำหรับบำรุงร่างกายเนื่องจากมีความปลอดภัยสูง

แต่เนื่องจาก Polysaccharides มีโครงสร้างที่ซับซ้อนอาจจะทำให้ย่อยยาก

จึงควรรับประทานวิตามินซีหรืออาหารที่มีวิตามินซีสูง

เพื่อช่วยในการดูดซึมสาร Polysaccharides เข้าสู่ร่างกาย

 

เมนูเด็ด กินเห็ด กันเต๊อะ

ผัดเห็ดสามอย่าง

วัตถุดิบและสัดส่วน:เตรียมง่ายๆ ค่ะ

1.เห็ดสามอย่าง (เห็ดหอมสด เห็ดออรินจิ เห็ดเข็มทอง)
2.น้ำมันงา
3.ซีอิ๊วขาว
4.น้ำมันหอย
5.พริกไทย

ขั้นตอนการปรุง:

1.ใส่น้ำมันลงไปกระทะ ไม่ต้องเยอะนะคะ พอกระทะร้อน เอาเห็ดต่างๆที่ล้างแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีๆ ไว้แล้วลงไปผัดกับน้ำมัน

2.ใส่เครื่องปรุงต่างๆ ลงไป โรยพริกไทย ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จานได้เลย

หน้าตาแบบนี้



จานนี้เป็นผัดเห็ดเพื่อสุขภาพ อร่อยและได้สุขภาพที่ดีด้วย

เห็ดที่นำมาผัดไม่จำเป็นต้องเป็นเห็ดตามตัวอย่างนี้

ถ้าเป็นเห็ดออรินจิเวลานำมาปรุงอาหาร จะมีเสน่ห์ตรงกลิ่นหอม

เห็ดเข็มทองจะมีเสน่ห์ตรงความเหนียวหนุบ

ส่วนเห็ดหอมสดเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่นอกจากความหอมแล้ว

และประโยชน์ข้ออื่นๆคือไม่มีไขมัน และน้ำตาลและเกลือน้อยอีก

โดยหลักๆ แล้วก็จะช่วยในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ

ลดระดับคอเลสเตอรอลและในหลอดเลือด

วันหยุดว่างๆลองทำทานกันค่ะ
:z4

 

สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง แนะนำเมนู แกงเลียง ต้มยำ แกงส้ม ย่าง

หรือเมนูที่ไม่ต้องใช้น้ำมันเป็นดีที่สุดค่ะ

ถ้าหากต้องการเปลี่ยนรสชาติเป็นผัดบ้าง แนะนำใช้น้ำมันมะกอก ค่ะ

 

มีเรื่องประโยชน์ของเห็ด แล้วมีเรื่องโทษด้วยไหมคะ

 

แต่ที่แน่ๆ เรากินเห็ดแบบ มาทำหอยทอดเจ แล้วกินไม่ได้ คือ เห็ดมันตีกับน้ำมันถ้ากินเข้าไปมาก จะเกิดอาการท้องอืด ทับท้องเสีย พะอืดพะอม หน้ามืดตาลาย แทบช็อคตายเลยคราวนั้น ทรมานมากๆ..... แต่ถ้ากินเห็ดแบบใส่แกงจืด แกงเลี้ยง หรือ อย่างอื่นที่ไม่ใช่ ทอดกะไข่กะน้ำมันก็จะกินได้

 

เห็ดฟางนี้นำมานึ่ง รับทานกับ น้ำปลา+มะนาว+พริกขี้หนูคู่กับไข่ต้มยางมะตูม อร่อยจังค่ะ



จะเป็นยา ตามที่จขกท.ตั้งใจไว้หรือไม่คะ

 

เห็ด ที่เรานำมาเสนอ เป็นเห็ดที่ผ่านการศึกษาวิจัยแล้ว

เชื่อว่ามีประโยชน์ มีคุณค่าทางอาหาร

บางกรณีที่มีการปรุงพิเศษสามารถนำไปรักษาโรคได้

เช่น ทางการแพทย์นำเห็ดหลินจือไปสกัดเพื่อต่อต้านมะเร็ง

บางท่านที่มีปัญหาการย่อย หรือแพ้เห็ด ก็จะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเห็ดได้

สำหรับโทษ หรืออันตรายจากการบริโภคเห็ด มีหลายท่านได้ศึกษา

และได้สรุปให้ระมัดระวัง ในการนำมาบริโภค ดังนี้ ค่ะ

๑. มั่นใจว่าเห็ดที่นำมาบริโภคไม่ใช่เห็ดพิษ เป็นเห็ดที่เราคุ้นเคย มีผู้รับรอง

๒. อย่ากินมากเกินไป ถึงไม่เป็นพิษก็จะทำให้ย่อยยาก

๓. อย่ากินเห็ดพร้อมสุรา แอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ฤทธิ์มึนเมามากขึ้น

๔. ปรุงให้สุกเสมอ

สรุปก็คือ มีทั้งประโยชน์และโทษในหนึ่งเดียว ค่ะ

เหมือนยาบางตัว ที่ใช้รักษาโรค บางท่านอาจแพ้ยา

ในขณะที่ผู้ป่วยส่วนมากอาการดีขึ้น เป็นต้น ค่ะ

 

ดิฉันเป็นคนชอบทานเห็ดมากค่ะ โดยเฉพาะเห็ดป่า สารพัดเห็ด

แต่ยังไม่กล้านำเสนอ เพราะแหวกแนวทางวิชาการ ไม่มีหลักฐานอ้างอิง

รู้ว่าดี อร่อย สบายท้อง แต่ก็ได้แต่เก็บภูมิไว้ ค่ะ


เมนูที่บรรพบุรุษพาทำให้กิน ส่วนมากเป็นแกงเลียง ย่างตำน้ำพริก ไม่เคยผัดเลย ค่ะ

มาช่วงหลังๆ เดินเที่ยวตามห้าง มักมีเห็ดเข็มทอง ออรินจิ ก็นำมาผัดตามตำรา

เคยรู้สึกผะอืดผะอม อยู่บ้างเหมือนกัน ตามตำราเค้าว่าเลยเนอะ ว่าไม่ควรผัดใส่น้ำมัน

 

หากจขกท.ยินดีเผยแพร่สูตรสำหรับคนชอบเห็ดเหมือนกัน

จักขอบพระคุณไว้ล่วงหน้าค่ะ

 

โห .. เมนูน่าทานจังนะคะ

มาดูกันค่ะ ว่า จะเป็นยามากน้อยแค่ไหน

เห็ดฟาง มีสารอาหารคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี1 บี2 และ ซี และที่สำคัญ มี ซีลิเนียมกับโพแทสเซียม

ซีลิเนียมเป็นสารต้านมะเร็ง ส่วนโพแทสเซียมนั้นช่วยลดความดันโลหิตได้อย่างยอดเยี่ยม

นอกจากนั้นยังมีโปรตีนและกรดอะมิโนต่างๆ ที่ร่างกายมนุษย์เราทุกคนต้องการในปริมาณที่มากพอสมควร

เห็ดฟางนึ่ง ทานร่วมกับน้ำมะนาว ซึ่งมีกรดซิตริก วิตามินซี ตัววิตามินซีจะช่วยนำพาสารประโยชน์ในเห็ด

ไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าการกินเห็ดนึ่งแต่เพียงอย่างเดียว
ไข่ยางมะตูม ... เอ คงต้องเคี้ยวพริก ตามลงไปเยอะๆ ซะละมังคะ (smile)