กิเลสอยู่ตรงไหน นิพพานอยู่ตรงนั้น

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 23 กุมภาพันธ์ 2017.

แท็ก: แก้ไข
  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    กิเลสอยู่ตรงไหน นิพพานอยู่ตรงนั้น

    มรรคผลนิพพานอยู่ที่ไหน ไปหากันที่ไหน อยู่ที่หัวใจ กิเลสอยู่ตรงไหนนั้นละมรรคผลนิพพานอยู่ตรงนั้น เหมือนกับสระน้ำใหญ่ที่เต็มไปด้วยน้ำ แต่เวลานี้ถูกจอกถูกแหนปกคลุมหุ้มห่อไว้หมด ไม่ให้มองเห็นน้ำเลย พวกตาบอดหูหนวกไม่ได้คลี่คลายเปิดดูน้ำ เปิดจอกเปิดแหนจากน้ำ ไม่ดูก็ไม่รู้ว่าน้ำมีอยู่ในนั้น ก็ประกาศว่ามรรคผลนิพพานไม่มี สุดท้ายกลายเป็นกระทั่งว่าบุญไม่มี บาปไม่มี นรกสวรรค์ไม่มี ไปหมดกิเลส เห็นไหมมันลากไปอย่างนั้น นี่ละกิเลสเป็นคู่แข่งของธรรมมันสวมรอยตลอดเวลานะ

    เราจะเห็นได้รู้ได้ เวลาธรรมละเอียดเข้าไปนี้จะเห็นกิเลสสวมรอยขนาดไหน ตามกันทันหมด ๆ เมื่อฆ่ากิเลสแหลกไปหมดแล้วอะไรจะมาปิด จอกแหนเปิดขึ้นหมดแล้ว น้ำใสสะอาดขนาดไหนมันก็เห็นชัด ๆ อยู่ใต้จอกใต้แหนนั้นแล จะอยู่ที่ไหน น้ำกับจอกกับแหนอยู่ติดกันนั่นแหละ นี่กิเลสกับธรรมก็อยู่ติดกันในใจดวงเดียวกันนั้น เมื่อเปิดออก ๆ ก็กระจ่างแจ้งขึ้นมา ทีนี้ไม่ต้องถามใคร จ้าขึ้นมาภายในจิตใจนี้ สิ่งไม่เคยรู้รู้ สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็เห็นไปหมด เพราะกิเลสปิดไว้เท่านั้นที่มองไม่เห็น พอเปิดกิเลสออกแล้วสิ่งมีอยู่ยังไงมันจะไม่เห็นได้ยังไง นี่ละพระพุทธเจ้าที่ว่าโลกวิทู

    โลกวิทูของพระพุทธเจ้าเป็นพุทธวิสัย โลกวิทูของสาวกก็เป็นตามวิสัยของสาวก ต้องรู้อย่างนั้นเหมือนกัน เป็นแต่เพียงว่ากว้างแคบต่างกันเท่านั้น แต่ความรู้เป็นอย่างนี้ เป็นอย่างเดียวกันนั้น เพราะฉะนั้นท่านจึงไม่ทูลถามพระพุทธเจ้า บรรดาสาวกตรัสรู้เป็นอันเดียวกันหมด คำว่าตรัสรู้นี่คือถึงแดนแห่งความพ้นทุกข์ จิตอันนี้เป็นเสมอกันหมด ไม่มีใครยิ่งหย่อนต่อใครธรรมชาตินี้ นี่ละพระพุทธเจ้ารู้ท่านรู้อย่างนั้น พระอรหันต์ท่านรู้ก็รู้อย่างนั้น

    ส่วนปลีกย่อยที่จะรู้จะเห็นตามนิสัยวาสนาของตนนั้น เป็นไปตามแง่ตามทาง ตามอุปนิสัยของแต่ละราย ๆ ที่จะรู้กว้างแคบลึกตื้นหนาบางขนาดไหน ที่จะเป็นประโยชน์ได้มากน้อยเพียงใดท่านก็พูด ไม่สมควรจะพูดก็ปล่อยไว้เสีย ๆ เพราะไม่เกิดประโยชน์เอามาพูดอะไร ธรรมะเพื่อประโยชน์เท่านั้น อยู่ในฐานะของใครที่จะรับได้มากน้อยเพียงไรก็แสดงไปตามนั้น เมื่อไม่ใช่ฐานะที่จะรับได้แล้วก็เหมือนไม่มีในหัวใจท่าน นั่นละการปฏิบัติ นี่ละผลของการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างนี้

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด
    วันที่ ๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๑
    FB_IMG_1487839003820.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...