ก่อการร้ายคุณแม่

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย MBNY, 23 เมษายน 2005.

  1. MBNY

    MBNY Administrator ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2003
    โพสต์:
    6,860
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +22,504
    หลายคนคงไม่ทราบว่า
    คุณแม่เป็นเป้าหมายก่อการร้ายของวัยรุ่นมากกว่าที่จะเป็นคุณพ่อ
    เคยมีคนอธิบายให้ฟังสั้นๆ ว่าเป็นเพราะคุณแม่เป็นเพศที่อารมณ์อ่อนไหวกว่า ส่วนคุณพ่อมั่นคงกว่า ตอนที่ได้ยินได้ฟังครั้งแรกผมก็เชื่อโดยไม่ทันตั้งคำถามอะไร
    เคยมีคนอธิบายให้ฟังอีกว่าเป็นเพราะคุณแม่เป็นเพศที่เหมือนเด็กเล็ก ซึ่งผมก็ฟังไม่เข้าใจ ตีความเอาเองว่าคงหมายถึงคุณแม่มีอารมณ์อ่อนไหวนั่นเอง
    อย่างไรก็ตามเป็นความจริงที่ว่าวัยรุ่นมักก่อกวนคุณแม่มากกว่าคุณพ่อ ตามหลักแล้วเวลาก่อกวนใครแล้วได้ผล คือคุณแม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ ไม่ว่าจะเล่นด้วยหรือโมโห ก็ต้องบถือว่าการก่อกวนนั้นประสบความสำเร็จ

    ทำแล้วหนุกดี ถูกด่าก็ยังดีกว่าอยู่เปล่าๆ วันหลังทำอีก

    ในทางตรงข้ามหันไปยั่วคุณพ่อมักจะยั่วไม่ขึ้น บางบ้านเป็นเพราะคุณพ่อไม่ค่อยอยู่ให้ยั่ว บางบ้านก็ยั่วไม่หนุกจริงๆ
    ยั่วแล้วไม่อะไรซักอย่าง พฤติกรรมกวนประสาทนั้นก็เลือนหายไปเอง

    ผมยังไม่ชอบใจคำอธิบายนี้เท่าไร ยังคงสงสัยว่าในตอนแรกๆ วัยรุ่นก็มักจะเลือกคุณแม่มา "เล่น" ด้วยก่อนอยู่ดี เพราะอะไรล่ะครับ วัยรุ่นจึงเลือกคุณแม่มากกว่าที่จะเลือกคุณพ่อ

    คำอธิบายน่าจะเป็นดังนี้ครับ

    วัยรุ่นหญิงมีหน้าที่พัฒนาบุคลิกภาพโดยเลียนแบบคุณแม่เป็นสำคัญ จึงต้องวอแวกับคุณแม่เป็นธรรมดาคุณแม่เช้ยเชย คุณแม่ไม่เท่ห์ คุณแม่แต่งตัววัยสะรุ่น หรือคุณแม่แก่หงำเหงือก ล้วนรบกวนจิตใจของเขา ไม่เฉพาะด้านการแต่งกาย แต่รวมถึงนิสัยใจคอและความประพฤติทั้งปวง

    จะแสดงออกหรือไม่แสดงออกเป็นคำพูดก็ตาม ลูกสาวแอบมองคุณแม่และลอกแบบคุณแม่อยู่ หากพวกเธอจะเถียงคุณแม่เวลาคุณแม่แนะนำอะไรก็เพราะพวกเธอต้องการแบบพิมพ์ที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง

    จดเอาไว้นะครับ หากลูกสาวเถียงคุณแม่ เพราะเธอต้องการแบบพิมพ์ที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง ความหมายซ่อนเร้นก็คือเธอรักคุณแม่และขาดคุณแม่ไม่ได้

    สำหรับวัยรุ่นชาย หนุ่มๆ มีหน้าที่พัฒนาบุคลิกภาพด้วยการเลียนแบบคุณพ่อ แต่ว่าก่อนที่เขาจะทำเช่นนั้นได้ เขาต้องตัดสัมพันธ์กับคุณแม่ให้ได้ก่อน

    หากเขาตัดสัมพันธ์กับคุณแม่ไม่สำเร็จเขาจะเป็นลูกแหง่ตลอดชาติ

    หนุ่มๆ หลายคนเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เพียงร่างกาย แต่ใจนั้นยังเป็นลูกของแม่ตลอดเวลา เมื่อพลัดพรากจากแม่ก็มักไปหลงรักพี่สาวที่ไหนๆ ถึงแม้แต่งงานแล้วก็ยังจะหนีกลับไปหาแม่เป็นบางเวลา โดยเฉพาะเมื่อขัดใจกับภรรยา

    หากรักภรรยาเสมือนดั่งแม่ไปเสียเลยก็มักหมดปัญหา

    วัยรุ่นชายต้องยุติสัมพันธ์ทางการทูตกับคุณแม่ แล้วจึงหันไปผูกมิตรกับคุณพ่อแล้วลอกแบบบุคลิกภาพของคุณพ่อ

    ตอนที่เด็กชายอายุสี่ห้าขวบนั้น เขาเคยหลงรักแม่หัวปักหัวปำแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นเขาจะติดแม่มากและกลัวคุณพ่อโดยธรรมชาติ แต่ทั้งที่กลัวคุณพ่อนั่นแหละเขากลับจะดูดเอาคุณธรรม จริยธรรมและอัตลักษณ์ทางเพศของคุณพ่อเข้าไปไว้ในตนเอง ถือเป็นการเลียนแบบคุณพ่อครั้งแรก พอเป็นวัยรุ่นจึงเลียนแบบครั้งที่สอง

    ส่วนความรักที่มีต่อแม่นั้นจะดูดดื่มต่อเนื่องมาโดยสม่ำเสมอ พอถึงวัยรุ่นจึงเริ่มกวนประสาทคุณแม่

    วัยรุ่นชายเถียงคุณแม่ ก็เพราะเขาต้องดิ้นออกจากอ้อมอกคุณแม่ให้ได้

    จดเอาไว้นะครับหากวัยรุ่นชายเถียงคุณแม่ เพราะเขาจำเป็นต้องทำ

    บางคนอาจสงสัยว่าแล้วทำไมวัยรุ่นผู้หญิงจึงไม่มีพัฒนาการสองขั้นตอนเช่นนี้ กล่าวคือต้องตัดสัมพันธ์กับคุณพ่อก่อนแล้วจึงหันไปเลียนแบบคุณแม่

    คำตอบคือ เพราะผู้หญิงคือทั้งคุณแม่และลูกสาวล้วนอยู่ภายใต้ปมอิเล็คตร้าของฟรอยด์ทั้งคู่ หากใครสนใจคงต้องไปหาหนังสืออ่านเพิ่มเติมเอาเองเพราะเรื่องนี้ชวนปวดหัวมาก รวมทั้งเป็นคำอธิบายที่สามารถถูกโจมตีได้ว่าเต็มไปด้วยอคติทางเพศ เป็นคำอธิบายที่รับใช้สังคมปิตาธิปไตยคือผู้ชายเป็นใหญ่โดยเฉพาะ

    คำอธิบายอาจจะเชื่อไม่ได้มาก แต่ในระดับปรากฏการณ์ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าวัยรุ่นทั้งหญิงชายรวมหัวกันถล่มคุณแม่มากกว่าคุณพ่ออยู่ดี
    แหม! น่าภูมิใจแทนคุณแม่บ้าน

    แต่อย่าภูมิใจเปล่าๆ จังหวะนี้เป็นโอกาสอันดีที่คุณพ่อจะได้ช่วยเหลือคุณแม่มากๆ ช่วยแบ่งเบาภาระของคุณแม่ทางร่างกาย เอ้อ! หมายความว่าช่วยเหลืองานบานงานเรือน ช่วยดูแลลูกๆ อย่าให้แม่บ้านเขาเหนื่อยจนเกินไป แล้วก็ช่วยแบ่งเบาภาระทางจิตใจคือช่วยรับฟังเวลาคุณแม่ใกล้สติแตกเพราะลูกๆ
    ไม่ช่วยตอนนี้แล้วจะแต่งงานกันทำไม

    หากอ่านบทความนี้หมดแล้วยังไม่เข้าใจลองคิดแบบนี้ครับ สมมติคุณแม่เป็นสหรัฐอเมริกา ใครๆ ก็รุมบอมบ์คุณแม่ สมมติว่าอังกฤษเป็นคุณพ่อ คุณพ่อจึงเข้าช่วยคุณแม่ แต่รับรองได้ว่าช่วยยังไงก็ทนพวกลูกๆ กวนประสาทไม่ไหว

    ในโลกแห่งความเป็นจริง คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องปล่อยลูกๆ เป็นอิสระจนได้



    น.พ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์



    ที่มา..life&family (kids&family) ​
     

แชร์หน้านี้

Loading...